Wednesday, 14 May 2025
Region

ปัตตานี - เลขาธิการ ศอ.บต.พร้อมผู้บริหาร ลงพื้นที่เยี่ยมวัดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายกฤษฎา เคลือบมณี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (สงป.) นายวิสันติ์ ประเสริฐศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.(รง.) นายอิสระ ละอองสกุล ผู้อำนวยการกองประสานและเร่งรัดการพัฒนาพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เยี่ยมวัดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ประกอบด้วย วัดพรหมประสิทธิ์ (เจ้าคณะอำเภอ พระครูสิริพรหมสุนทร) ตำบลบ้านนอก อำเภอปะนาเระ วัดประจันตคาม (พระครูปัจจันเขตบริรักษ์ เจ้าอาวาส) ตำบลบ้านนอก อำเภอปะนาเระ วัดปิยาราม (เจ้าคณะอำเภอ พระครูอุมธรรมาทร) ตำบลปินามุมัง  อำเภอยะหริ่ง และวัดกุสาวดี (วัดตาแกะ) (พระพันธ์ ธมมวิโส เจ้าอาวาส) ตำบลตาแกะ อำเภอยะหริ่ง โดยมี เจ้าคณะอำเภอ เจ้าอาวาส หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ บัณฑิตอาสาฯ และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจและมอบกระเช้าแก่เจ้าคณะอำเภอ เจ้าอาวาส พร้อมพบปะเจ้าหน้าที่ส่วนงานราชการในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนไทยพุทธในพื้นที่ ทั้งนี้เป็นการส่งเสริมทางศาสนาทุกศาสนาให้เป็นศูนย์กลางในการปลูกฝังจริยธรรม รวมทั้งเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา จชต. ที่เป็นนโยบายที่ ศอ.บต. กอ.รมน.ภาค 4 สน. และหน่วยงานในพื้นที่ร่วมส่งเสริมสนับสนุนตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาวัดร้าง วัดไม่มีพระสงฆ์ การซ่อมแซมบูรณะวัด การพัฒนาพื้นที่โดยรอบของวัดใน จชต. อีกด้วย

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการเยี่ยมพบปะสร้างขวัญและกำลังใจแก่พี่น้องประชาชนในยามที่วิกฤติสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่และจากสถานการณ์เหตุการณ์ในพื้นที่ จชต. ที่ผ่านมาทุกส่วนได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาซึ่งดีขึ้นตามลำดับ ด้วยการฟื้นฟูให้สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมท่ามกลางความหลากหลายทางศาสนาแต่สามารถดำรงชีวิตกันได้อย่างสันติสุข และขอให้ทุกส่วนราชการเติมเต็มการช่วยเหลือในด้านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อสาธารณประโยนช์สร้างการมีส่วนร่วมที่ดี รวมทั้งขอให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างเคร่งครัด มั่นใจได้ว่าเราจะข้ามวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ คัดกรองโรค COVID -19 ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร

พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ คัดกรองโรค COVID -19 ณ ด่านตรวจกาหลง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส  โดย พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ได้มอบแนวทางการปฏิบัติงาน พร้อมเน้นย้ำให้กำลังพลเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid 19 อย่างเคร่งครัด แนะนำประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนที่สัญจร เนื่องจาก จังหวัดนราธิวาสเป็น 1 ในจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อไวรัส COVID 19 ระลอกที่ 3 อย่างต่อเนื่อง จึงต้องมีการยกระดับเพิ่มมาตรการ เฝ้าระวังและป้องกันในพื้นที่เสี่ยงเป็นกรณีพิเศษ โดยให้กำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน

ทั้งนี้ พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวขอบคุณกำลังพลที่เสียสละตน และปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งมอบความห่วงใย ตลอดจนมอบสิ่งของบำรุงขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ต่อไป


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

อยุธยา - ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำข้าราชการทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ พิธีบวงสรวง และถวายราชสดุดี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19

วันที่ 25 เมษายน 2564 เวลา 07.30 น. ที่ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะและประกอบพิธีบวงสรวง กล่าวคำถวายราชสดุดี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมี ตุลาการ ทหาร ตำรวจ อัยการ นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นางนวลจันทร์ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของไทย ภายใต้การจัดงานแบบจำกัดผู้เข้าร่วมงานเพียงหน่วยงานละ 1 คน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค

ด้วย วันที่ 25 เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่าพระนเรศ หรือ "พระองค์ดำ" เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชและพระวิสุทธิกษัตรีย์ เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สิริพระชนมพรรษา 49 พรรษา มีเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งของชาติไทย พระองค์ได้กอบกู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้ทั้งหมด สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ และทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ จนทำให้มีประเทศไทยเช่นทุกวันนี้


ภาพ/ข่าว  สุจินดา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา

แม่ฮ่องสอน - รอง ผบ.กกล.นเรศวร ลงพื้นที่บินตรวจภูมิประเทศชายแดนแม่ฮ่องสอน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด่านหน้า สั่งการคุมเข้มป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง

พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 พร้อมกำลังพลของหน่วย ร่วมให้การต้อนรับ พ.อ.ประสาน  แสงศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวรและคณะ เนื่องในโอกาสเดินทางตรวจเยี่ยมกำลังพล และติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุป ณ กองบัญชาการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นได้เดินทาง โดยเฮลิคอปเตอร์ จากค่ายเทพสิงห์ เพื่อทำการตรวจภูมิประเทศทางอากาศ จนถึง ฐานปฏิบัติการจอท่า ของ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 337 และได้ตรวจภูมิประเทศทางแม่น้ำสาละวิน จนถึง กองร้อยทหารพรานที่ 3604 ฐานปฏิบัติการแม่สะเกิบ

ในการนี้ รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวรได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจกำลังพล ฉก.ทพ.36 ,ร้อย.ตชด.337 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นด่านหน้าในการป้องกันประเทศ ทั้งจากการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ของแรงงานต่างด้าว และ จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน ที่อาจทำให้มีการอพยพของผู้หนีภัยความไม่สงบ หลบหนีข้ามมายังฝั่งไทย ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจเป็นพาหะของการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ จึงขอให้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนในภูมิประเทศ ทั้งทางบกและทางน้ำ ตลอดจนการจัดตั้งจุดตรวจ จุดคัดกรอง ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ และให้กำลังพลปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด


ภาพ/ข่าว สุกัลยา  / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

ชลบุรี - จับ 20 วัยรุ่น ฝ่าฝืนคำสั่ง ศบค. มั่วสุมดื่มแอลกอฮอล์ ชายหาด

คุมเข้มพื้นที่ชายหาดมั่วสุม ดื่มแอลกอฮอล์  ฝ่าฝืนคำสั่ง สบค. จับกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน ตั้งวงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ริมชายหาดบางแสนและเตียงผ้าใบในช่วงกลางดึก

เมื่อคืน 24 เม.ย.64 นายปกาสิต ศึกสงคราม ปลัดอำเภอเมืองชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ออกตรวจสอบบริเวณชายหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งมีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวมั่วสุมดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อมาถึงพบกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลายกลุ่ม นั่งรวมตัวลักลอบดื่มแอลกอฮอล์ จึงได้ทำการเดินประชาสัมพันธ์ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ตามคำสั่ง ของ สบค.ห้ามมั่วสุม รวมกลุ่มดื่มแอลกอฮอล์ พื้นที่ชายหาด อ่างเก็บน้ำ พบมีผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดมีทั้งชายและหญิงกว่า 20 คน จึงได้นำตัวพร้อมของกลางเป็นสุรา และเบียร์ ส่งให้กับ ตำรวจ สภ.แสนสุขดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านนายปกาสิต ศึกสงคราม ปลัดอำเภอเมืองชลบุรี ได้เปิดเผยว่า ผู้กระทำความผิดฝ่าฝืนคำสั่ง สบค.ตามข้อห้าม ชายหาด ชายทะเล  อ่างเก็บน้ำ ห้ามรวมตัว มั่วสุมดื่มแอลกอฮอล์ หากผู้ไดฝ่าฝืนต้องระวางโทษทั้งจำทั้งปรับตามกฎหมาย  พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ พ.ศ.2551 ต้องระวางโทจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับ ไม่เกิน 1หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2ปีหรือปรับไม่เกิน 4หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ อยากฝากถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดบางแสน อย่าฝ่าฝืนคำสั่งของ สบค.นั่งเล่น กินอาหารหรือเล่นน้ำ ตามปกติแต่อย่าให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตอนนี้เชื้อไวรัส โควิด-19  ยังระบาดอย่างต่อเนื่อง อยากให้ดูแลสุขภาพ และมีการป้องกันตัวเอง เว้นระยะ สวมหน้ากาก เวลาไม่ได้รับประทานอาหาร ขอย้ำ จังหวัดชลบุรี มีการจับจริง หากมีการฝ่าฝืนจับกลุ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ ร้านอาหาร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคุ้มเข้มป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด – 19


ภาพ/ข่าว วิศาล / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

แม่ฮ่องสอน - เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย เจรจาทหารเมียนมาหลังมีข่าวยิงเรือชาวบ้าน ยอมทำตามข้อตกลง ให้เรือไทยวิ่งผ่านแม่น้ำสาละวินได้

ได้รับการเปิดเผย ว่าทาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ได้นำเรือเร็วไปรับทหารเมียนมา ที่ฐานตรงข้ามหมู่บ้านแม่สามแลบ หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเดินทางไปร่วมประชุม กับ หัวหน้าหน่วยทหารเมียนมา ฐานดา-กวิน ริมแม่น้ำสาละวิน ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง  โดยมี พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับการกรมทหารพราน ที่ 36 พร้อมด้วย รอง ผบ.ร้อย ตชด.337 แม่สะเรียง เดินทางร่วมเจรจา  หลังจากการประชุมเสร็จ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไทย ได้เรียกประชุมเจ้าของเรือในหมู่บ้านแม่สามแลบ โดยแจ้งว่า ตั้งแต่นี้ไป เรือของราษฎรทุกลำในหมู่บ้านแม่สามแลบ สามารถวิ่งตามแม่น้ำสาละวินได้แล้ว ซึ่งทหารเมียนมาจะไม่ยิงเรือชาวบ้านอีกต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ ชาวบ้านแจ้งว่า มีทหารเมียนมายิงเรือชาวบ้านฝั่งไทย ล่าสุดเป็นเรือของตำรวจ ตชด.ร้อย.337 ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ชายแดนฐานจอท่า ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง ถึงแม้ ทาง ตชด.337 มีการชี้แจงว่า เป็นการยิงส่งสัญญาน เพื่อขอตรวจสอบเรือที่แล่นผ่านน่านน้ำสาละวินเขตเมียนมา ตามที่มีข้อตกลงก่อนหน้านั้น ว่าให้เรือไทยทุกลำจอดรายงานตัวที่ฐานนี้ และก่อนหน้านั้น ในวันที่ 17-18 เม.ย.64 ทหารเมียนมาได้ยิงเรือชาวบ้านแม่สามแลบ ที่ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปให้ผู้อพยพในรัฐกะเหรี่ยง จนทำให้ชาวบ้านประชาชนฝั่งไทย หวาดกลัว ไม่กล้าวิ่งเรือในแม่น้ำสาละวิน

ล่าสุดทางแหล่งข่าวความมั่นคง เผยว่าผลการเจรจากับทหารเมียนมา ยอมทำตามข้อตกลง ให้เรือไทยวิ่งผ่านแม่น้ำสาละวินได้ โดยไม่ต้องรายงานตัวที่ฐานทหารเมียนมา ส่วนการส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้านกะเหรี่ยงให้ทำตามขั้นตอน ที่มีการตกลงกันก่อนหน้านี้ จะไม่ยิงเรือไทยหรือยิงขู่อีก แต่ขอเป็นการส่งเสบียงให้ทหารเมียนมาตามที่ได้ตกลงไว้ ซึ่งก่อนหน้านั้นทางหน่วยความมั่นคงไม่ได้อยู่นิ่งเฉยได้เตือนเขาไปแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรก จนมาล่าสุดจึงยอมไม่ได้ เป็นเหตุให้ ต้องไปคุย และก็ไม่ได้ไปแบบ ยอม พร้อมที่จะปะทะ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง โดยผลการเจรจาวันนี้ ก็นับว่าเป็นการคุยกันที่ดี ที่ฝั่งโน้นเขาก็ยอมรับผิดและยอมที่จะทำตามข้อตกลงไว้คือ น่านน้ำสากล ต้องไม่มีการปฏิบัติการใด ๆ จะไม่มีการยิงกันในลำน้ำสาละวิน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน ทางหน่วยงานความมั่นคงจะไม่ยอมให้มีการกระทำอีก เพื่อให้การค้าขายตามแนวชายแดนลำน้ำสาละวินกลับมา เข้าสู่สภาวะปกติต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาวร อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

สงขลา - สีสัน..สวนสัตว์สงขลา เปิดตัวสมาชิกใหม่ของปี 2564 ลูกนกเพนกวินน้อย วัย 5 เดือน สายพันธุ์ฮัมโบลด์

สีสัน..สวนสัตว์สงขลา  เปิดตัวสมาชิกใหม่ลูกนกเพนกวินน้อย วัย 5 เดือน สายพันธุ์ฮัมโบลด์  ซึ่งเป็นลูกนกเพนกวินตัวแรกของปี 2564 ในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง น่ารัก น่าเอ็นดูและกลายเป็นขวัญใจของพี่เลี้ยงนกเพนกวินอยู่ในขณะนี้

โดยได้เข้ารวมฝูงกับฝูงนกเพนกวินสายพันธุ์ฮัมโบลด์ที่มีอยู่ 13 ตัวของสวนสัตว์สงขลา ทำการฝึกให้เดินพาเหรด ฝึกว่ายน้ำโดยมีนกเพนกวินคอยดูแลและว่ายประกบอยู่ตลอดเวลา โดยจะทำการฝึกทุกวันและจะมีอาหารคือปลาทูแขกให้กินเป็นรางวัล เพื่อที่จะให้ลูกนกเพนกวินเดินพาเหรดบนรางได้คล่องแคล่วขึ้นและสามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณของนกเพนกวิน

นกเพนกวินฮัมโบลด์ Humboldt Penguin (Spheniscus humboldti ) มีการดัดแปลงอวัยวะที่ใช้ในการบินเพื่อการว่ายน้ำ มีหน้าอกและท้องสีขาว หลังมีสีดำ ส่วนหัวสีดำ มีลายเส้นสีขาวคาดจากฐานปาก ผ่านด้านข้างหัวลงมาถึงคอ อาศัยในเขตร้อนทางหมู่เกาะกูโน และชายฝั่งทะเลของเปรู และชิลี ทวีปอเมริกาใต้ อุณหภูมิที่ต้องการ 22-30 องศาเซลเซียส นกเพนกวินฮัมโบลด์หาอาหารกินในทะเล เช่น ปลา กุ้ง ตัวอ่อนของปู ลูกนกกินอาหารจากการคายออกจากกระเพาะของพ่อแม่ นกเพนกวินดื่มน้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม เนื่องจากที่เหนือตามีต่อมขับเกลือ เพื่อขับเกลือส่วนเกินออกได้ นกเพนกวินฮัมโบลด์เป็นสัตว์สังคม อยู่รวมกันเป็นฝูง ส่งเสียงดังเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร เวลาทักทายกันจะใช้ปากหรือคอถูกัน ในฤดูผสมพันธุ์นกชนิดนี้จะอยู่กันเป็นฝูงเล็ก ๆ อยู่ตามน้ำหรือขุดโพรงอยู่ตามพุ่มหญ้าสูงในป่าใกล้กับชายฝั่งทะเล วางไข่ ฟักไข่ ปีละ 1 ครั้งในฤดูใบไม้ผลิ สร้างรังด้วยก้อนหิน กิ่งไม้ ใบหญ้า วางไข่ครั้งละ 1 - 3 ฟอง ใช้เวลาฟักไข่ 39 วัน โดยตัวผู้เป็นผู้ฟักไข่ เป็นนกที่บินไม่ได้ เป็นนกเพนกวินขนาดกลาง ความยาวลำตัวประมาณ 65 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม

ในขณะเดียวกันสวนสัตว์สงขลา ก็ยังมีสมาชิกใหม่ลูกนกเพนกวินน้อย ที่กำลังฟักไข่อีก 2 ตัว ขณะนี้ลูกนกเพนกวินฮัมโบลด์ฟักออกจากไข่แล้ว จำนวน 1 ตัวและกำลังฟักอีก 1 ตัวคาดว่าจะออกจากไข่ในอีก 1 - 2 วันนี้ ขณะนี้ฝูงนกเพนกวินสายพันธุ์ฮัมโบลด์ของสวนสัตว์สงขลา รวมทั้งหมดเป็น 14 ตัว และที่กำลังฟักออกจากไข่อีก 2 ตัว ก็จะมีฝูงนกเพนกวิน รวม 16 ตัว ในขณะนี้

นายวันชัย ตันวัฒนะ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา  จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่าน ร่วมกันตั้งชื่อให้ลูกนกเพนกวินน้อยวัย 5 เดือน โดยชื่อที่ถูกใจคณะกรรมการจะได้รับรางวัลเป็นของที่ระลึกจากสวนสัตว์สงขลา เพื่อเป็นของขวัญในการร่วมสนุกกับกิจกรรมสวนสัตว์สงขลา  พร้อมติดตามกิจกรรมดี ๆ จากสวนสัตว์สงขลากันต่อได้ในวันที่ 27 เมษายน นี้  ซึ่งเป็นวันสมเสร็จโลก


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

 

กาฬสินธุ์ – ชาวบ้านพลิกวิกฤตโควิดระบาด ไม่ประมาทหาอาหารป่า งมหอยขาย

จากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ผลยืนยันล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงถึง 50 คน โดยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อแต่ละคน เดินทางไปหลายพื้นที่ ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่กักกันตัวเองในบ้าน เพื่อความไม่ประมาทและลดอัตราเสี่ยงได้รับเชื้อทำให้ชาวบ้านหลายรายพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ทั้งเข้าป่าหาแหย่ไข่มดแดง และลงเขื่อนหางมหอยเป็นอาหารในครัวเรือน พร้อมจำหน่ายในชุมชนสร้างรายได้เสริมเป็นอย่างดี

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยล่าสุดคณะกรรมการโรคติดต่อ ได้ประกาศยืนยันผลพบได้รับเชื้อระลอก 3 จำนวน 50 ราย ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้ออกมาตรการหลายด้านอย่างเข้มงวด ให้ประชาชนปฏิบัติตาม เพื่อความไม่ประมาทและเป็นการป้องกันการได้รับเชื้อ

ขณะเดียวกัน ในส่วนการดำเนินชีวิตของประชาชนในรูปแบบนิวนอร์มอล ก็ได้เพิ่มความระมัดตนเองมากขึ้น โดยปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด โยเฉพาะการสวมหน้ากากผ้า ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่างทางสังคม ไม่เข้าไปในสถานที่แออัด ผู้คนพลุกพล่าน รวมทั้งสถานที่ที่เป็นแหล่งชุมชุมชน เช่น ตลาด ร้านค้า โดยเฉพาะในการหาอาหาร ได้พบว่ามีการปรับตัว เพื่อความปลอดภัยจากโควิด-19 โดยมีชาวบ้านหลายรายเข้าไปหาอาหารป่า ทั้งแหย่ไข่มดแดง และหางมหอยตามแหล่งน้ำสาธารณะ รวมทั้งบริเวณท้ายเขื่อนลำปาว ที่น้ำกำลังลดลงจากภาวะภัยแล้ง

นายเฉลิมชาติ บุญใหญ่ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 97 หมู่ 5 บ้านหนองสอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ดังกล่าว เพื่อความไม่ประมาท การ์ดไม่ตก ตนและทุกคนในครอบครัว รวมทั้งเพื่อนบ้าน ต่างตื่นตัวในการระมัดระวัง ป้องกันตนเองและคนใกล้ชิดอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตประจำวัน และการอาหารเลี้ยงครอบครัว ทั้งนี้ ได้อาศัยช่วงว่างเว้นจากการทำงาน และเป็นช่วงฤดูแล้ง มาหางมหอยทราย หอยขม ที่บริเวณท้ายเขื่อนลำปาว ซึ่งระดับน้ำกำลังลดลง

นายเฉลิมชาติกล่าวีกว่า ตนและเพื่อนบ้านหลายคน จะมาหางมหอยในช่วงเช้าถึงเที่ยงวัน ที่อากาศกำลังพอดี โดยจะได้วันละประมาณ 10-20 ก.ก. หอยที่ได้นอกจากจะนำไปประกอบอาการทานในครัวเรือนแล้ว ยังแบ่งขายในชุมชนในราคา ก.ก.ละ 25-30 บาท เป็นการหารายได้เสริมเข้าครัวเรือน และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้าน ที่ระมัดระวังตัวกลัวติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย ทั้งนี้ ถึงแม้จะเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่เป็นฤดูแล้งและน้ำลด จึงหางมหอยได้ง่าย และพอจะมีทางออกในการหาอาหารหล่อเลี้ยงคนในครัวเรือน

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามบรรยากาศการหาอาหารของชาวบ้านในช่วงนี้ พบว่ามีชาวบ้านหลายราย ไม่กล้าที่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับการได้รับเชื้อโควิด-19 จากการเข้าไปหาซื้ออาหารในท้องตลาด ดังนั้น จึงพบว่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ป่าชุมชนและป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง ก็จะพากันหาอุปกรณ์ไปแหย่ไข่มดแดง ที่ทำรังบนยอดไม้สูงๆ ซึ่งไข่มดแดงถือเป็นอาหารตามฤดูกาลที่หายาก และคนนิยมรับประทานมาก โดยจะมีเฉพาะในฤดูแล้งเท่านั้น จึงเป็นอาหารป่าที่มีราคาแพง หากหาแหย่ไข่มดแดงได้จำนวนมาก ก็จะนำไปแบ่งขาย สร้างรายได้ในช่วงนี้อย่างงาม โดยราคาซื้อขายกันสูงถึง ก.ก.ละ 500 บาททีเดียว

 

แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ร่วมปฏิบัติการบินลาดตระเวนสำรวจปริมาณเชื้อเพลิงคงเหลือในพื้นที่เสี่ยง เตรียมกำหนดมาตรการควบคุมการเผา

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ชัย จินดาพันธุ์ นายอำเภอขุนยวม และฝ่ายเลขานุการศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมปฏิบัติการบินลาดตระเวนเพื่อสำรวจปริมาณวัสดุเชื้อเพลิง(ใบไม้แห้ง) คงเหลือในพื้นที่ป่าที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า.  เพื่อนำผลการสำรวจมาประกอบการกำหนดมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่ทำกินในเขตป่าของราษฎร

การปฏิบัติการบินครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนอากาศยานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ เพื่อดำเนินการสำรวจในพื้นที่ 4 ตำบล ของอำเภอขุนยวมได้แก่ตำบลขุนยวม ตำบลแม่เงา ตำบลแม่กิ๊ และตำบลแม่อูคอ พบว่า ในเขตตำบลดังกล่าวมีสภาพพื้นที่ที่มีการแผ้วถางเพื่อเตรียมการเพาะปลูกแบะมีแนวโน้มจะมีการเผา เป็นจำนวนหลายแห่ง   และบางแห่งได้มีการเผาพื้นที่จนลุกลามเข้าเขตพื้นที่ป่า และเกิดกลุ่มหมอกควันขนาดใหญ่  

ทั้งนี้ภายหลังปฏิบัติการบินลาดตระเวน ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะจึงเรียกประชุม “ศปก ไฟป่า อำเภอขุนยวม “ เพื่อกำชับการปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยเฉพาะประเด็นการบังคับใช้มาตรการควบคุมสูงสุด ห้ามเผาเด็ดขาด ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการฯ อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวัง ลาดตระเวน ตลอดจนสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจ แก่พี่น้องประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการเผาวัสดุเชื้อเพลิงจนเกิดการลุกลามทำให้เกิดหมอกควันที่มีระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

โดยกำหนดให้อำเภอขุนยวม รายงานผลการดำเนินการให้จังหวัดโดยเร็วและนำข้อมูลเสนอศูนย์อำนวยการป้องกันไฟป่าฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอนในการประชุมประจำเดือนเมษายนนี้ เพื่อวางมาตรการในภาพรวมของจังหวัดต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / รุจิรา อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

สระแก้ว – กองกำลังบูรพา ประกอบพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นสิริมงคล

วันนี้ พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายวินัย โตเจริญนายอำเภออรัญประเทศ นายสุรศักดิ์ ชินนวรรณ์ สส.สระแก้วเขต3 นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว นำคณะผู้บริหารหน่วยงานทหาร องค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวสระแก้ว ทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีถวายเครื่องสังเวยบวงสรวงตามพิธีพราหมณ์ เนื่องในวันรัฐพิธียุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ได้กระทำยุทธหัตถี ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

จากพระราชดำรัสที่ทรงกล่าวโดยไม่สะทกสะท้านและมั่นพระทัยในไก่เหลืองหางขาวของพระองค์ ทำให้พระมหาอุปราชาทรงเกรงกลัว หาหนทางกลั่นแกล้งและกำจัด เป็นผลทำให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกอบกู้เอกราชจากพม่าได้ ไก่เหลืองหางขาวจึง มีชื่อเสียงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ไก่เจ้าเลี้ยง” และ “ไก่พระนเรศวร”ซึ่งปัจจุบันชาวพิษณุโลกมีความภาคภูมิใจและหวงแหนในสมบัติล้ำค่าทางประวัติศาสตร์นี้มาก จึงมีการอนุรักษ์และพัฒนาไก่สายพันธุ์นี้มาโดยตลอด ในประเทศที่มีกีฬาชนไก่จะรู้จักไก่ไทยเหลืองหางขาวเป็นอย่างดี

พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา กล่าวว่า ในขณะที่ตนเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ พร้อมด้วยกำลังพล และครอบครัวตั้งพงษ์ทอง รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธา ในพื้นที่จังหวัดสระแก้วและประชาชนโดยทั่วไป ได้ร่วมกันจัดสร้างพระบรมราชนุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปางหลังทักษิโณทก ประทับนั่งบนอาคาร 2 ชั้น สูง 25 เมตร ชั้นบนออกแบบอาคาร 6 เหลี่ยม หลังคามุงรูปมาลาออกรบ ประดิษฐาน ณ บริเวณหน้าค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อเชิดชูพระเกียรติยศพระมหากษัตริย์ทรงมีพระปรีชาสามารถทางด้านการรบ การปกครอง และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อปวงชนาวไทย เพื่อน้อมระลึกเหตุการณ์ครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทยและร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและทรงทำสงครามกอบกู้เอกราช ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทยและขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งได้ตกทอดมาจนถึงพวกเราชาวไทยจวบจนปัจจุบัน

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และพระวิสุทธิกษัตริย์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ.2098 ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ชำนาญการรบอย่างยิ่ง ทรงฉลาดในการวางแผนยุทธวิธีและอุบายกระบวนศึกที่ไม่เหมือนผู้ใด ทรงเป็นวีรกษัตริย์นักรบที่มีพระปรีชาสามารถ เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 สิริรวมการครองราชย์สมบัติ 15 ปี

พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ประธานประกอบพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประกองพิธี ณ บริเวณหน้าค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับผู้มาร่วมพิธีของการแต่งกาย ข้าราชการทหารแต่งชุดพระราชฐาน ข้าราชทั่วไปแต่งเครื่องแบบปกติขาว หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้าประชาชนใส่เสื้อเหลืองคอปกผู้ร่วมพิธีสวมหน้ากากอนามัยสีขาว หรือหน้ากากผ้าขาวตลอดการเข้าร่วมพิธีดังกล่าว


ภาพ/ข่าว  วีระยุทธ สารการ / สมศักดิ์ สารการ / บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top