Monday, 29 April 2024
PoliticsQUIZ

‘โจ-มณฑานี’ โพสต์!! สามกีบสายแยกแยะ ถูกลากไปให้ทัวร์ยำ หลังให้ค่าซิโนแวค

ไม่นานมานี้ คุณโจ-มณฑานี ตันติสุข นักเขียนและวิทยากรการเงิน ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ‘Jo Montanee’ ระบุว่า…

พี่โจเคยลงคลิป “สามกีบ” (เค้าเรียกตัวเองแบบนี้) ที่รักพระเจ้าอยู่หัว…

แล้วไลฟ์ตำหนิสามกีบด้วยกันที่ทำการหยามหมิ่นสถาบันฯ

วันนี้ขอลงชมเชยน้องคนรุ่นใหม่ หลังได้ทวิตฯ ขอบคุณ ‘ซิโนแวค’ แล้วโดนเพจสามนิ้วลากไปแขวนให้ทัวร์มาลงน้อง

พี่โจเลยอยากให้กำลังใจน้องว่า…

น้องเค้าจิตใจน่ารักจังเลยค่ะ

'วิโรจน์' ค้านตั้ง ศบค.ส่วนหน้า คุมโควิดชายแดนใต้ แนะใช้ความไว้วางใจคลี่คลาย ไม่ใช่ความมั่นคง

ต่อกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งจัดตั้ง ศบค.ส่วนหน้า เพื่อเข้าไปจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประกอบไปด้วยจังหวัด นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า จากการหารือกับคณะทำงานของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ ทำให้รับทราบว่าอุปสรรคสำคัญในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ขณะนี้ หลักๆ มีอยู่ 2 ปัจจัยด้วยกัน

ปัจจัยแรก คือ การที่ประชาชนในพื้นที่ไม่ยินยอมฉีดวัคซีน ซึ่งในประเด็นนี้ รัฐบาลไม่ควรมองปัญหาอย่างผิวเผิน และด่วนสรุปว่าประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือ หากรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ กล้าที่จะถามตัวเองว่า “เหตุใดประชาชนถึงไม่ให้ความร่วมมือในการฉีดวัคซีน” ก็จะหาคำตอบได้ไม่ยาก นั่นก็คือ “ประชาชนไม่มีความไว้วางใจในรัฐบาล จากกรณีข่าวการซ้อมทรมาน และการที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงกับประชาชน ที่ปรากฏตามหน้าสื่ออยู่เป็นระยะๆ” พอประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก็เป็นการยากมากๆ ที่ประชาชนจะเต็มใจปฏิบัติตามคำแนะนำจากรัฐบาลในการควบคุมการระบาดของโรค 

ยิ่งการฉีดวัคซีน เป็นการนำเอาสารชีววัตถุที่เป็นของใหม่ ที่การเข้าถึงข้อมูลยังคงอยู่ในระดับที่จำกัด ยิ่งทำให้ประชาชนที่ไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่เป็นทุนเดิม มีความระแวงที่จะฉีด ปัญหานี้จะแก้ด้วยการใช้อำนาจบังคับแบบตรงๆ ไม่ได้ ต้องอาศัยความเข้าใจผ่านผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และบุคคลที่ประชาชนในพื้นที่ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นกลไกในการรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่มาเข้ารับการฉีดวัคซีน

"การจัดตั้ง ศบค.ส่วนหน้า แล้วใช้อำนาจบังคับแบบทันทีทันใด เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น สมมติหากมีการใช้อำนาจบังคับ หรือกึ่งบังคับ ให้ประชาชนในพื้นที่ฉีดวัคซีน จริงอยู่ที่ในระยะสั้นอาจจะบังคับเกณฑ์ประชาชนมาฉีดวัคซีนได้เป็นจำนวนมากได้ แต่ต้องยอมรับว่าการฉีดวัคซีนนั้น แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่ไม่มากนัก แต่ก็ถือว่ามีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับประโยชน์ในการปกป้องชีวิตของทั้งตัวเอง และคนในครอบครัวจากโรคระบาด ก็ยังถือว่าการฉีดวัคซีนนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น และมีความคุ้มค่าที่จะฉีด ถ้าหากประชาชนที่ถูกเกณฑ์มาฉีดไม่เข้าใจในประเด็นนี้ และเมื่อมีประชาชนจำนวนหนึ่งได้รับผลข้างเคียง หรือมีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากที่ฉีดวัคซีน ความไม่เข้าใจที่ถูกรัฐบังคับ ก็จะกลายเป็นความโกรธแค้น และจะทำให้ความขัดแย้ง และความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ขยายตัวเพิ่มขึ้น"

“โฆษกรัฐบาล” เผย ยอดฉีดวัคซีนสะสม 70 ล้านโดส ลั่น พร้อมรับนทท.ต่างชาติ “บิ๊กตู่” ย้ำ ปชช.เข้มมาตรการป้องติดเชื้อ มีส่วนพลิกโฉมประเทศ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีน เพื่อเตรียมพร้อมรับเปิดประเทศ ตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ว่า ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยกว่า 70 ล้านโดส เข็มที่ 1 สะสม 39,836,306 โดส คิดเป็น 55.28 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั่วประเทศ เข็มที่ 2 สะสม 28,293,679 โดส คิดเป็น 39.26 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรไทยทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 56.59 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มเป้าหมายประมาณ 50 ล้านคน หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั่วประเทศ เข็มที่ 3 สะสม 2,072,629 โดส และเข็มที่ 4 สะสม 1,631 โดส รวม 70,204,245 โดส 

ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12 ขึ้นไป นักเรียนชั้น ป.6,ม.1นักศึกษา ปวช. 1-3,ปวส. 1-2 ฉีดสะสมแล้วจำนวน 2,032,794 คน คิดเป็น 53.78 เปอร์เซ็นต์ (จากจำนวนที่ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,779,871 คน) เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ในรูปแบบในที่ตั้ง 

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนตามแผน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงต่อเนื่อง  และเห็นผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม  โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิต ที่ต่ำกว่า 100 ราย มากว่าครึ่งเดือนแล้ว โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 9,742 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 10,182 รายยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 1,812,268 ราย และยอดหายป่วยสะสม 1,693,203 ราย  ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนลดลงต่ำกว่าหมื่นราย ติดต่อกันหลายวันแล้ว ส่วนยอดผู้ป่วยหายกลับบ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตลดลง สะท้อนความบริหารสถานการณ์โควิด -19 ของรัฐบาลและความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี

“เรืองไกร”เตรียมร้องกกต.26 ต.ค.นี้ ชี้ คลิปสนทนา ”เกรียง-ทักษิณ” เข้าข่ายฝืนพรป.พรรคการเมือง ม.28 เป็นเหตุส่อยุบพรรคหรือไม่ 

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ  เปิดเผยว่า ตนถอดคำพูดจากภาพและเสียงระหว่างนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิดีโอคอลกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบว่ามีเหตุที่ต้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคลิป ดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนพรป. พรรคการเมือง มาตรา28 "ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม" หรือไม่ โดยประกอบกับการพิจารณาเพิ่มเติมจากบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา45 คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2563 ข้อบังคับพรรคเพื่อไทย คำวินิจฉัยและหนังสือกกต. ต่างๆและมาตรฐานทางจริยธรรม

นายเรืองไกร กล่าวว่า ข้อความในคลิปที่นายเกรียง ถามนายทักษิณ เช่น เรื่องหัวหน้าพรรคคนใหม่ “นายเกรียง บอกว่าสิ้นเดือนจะไปพบเจ้านาย ส่วนอดีตนายกฯบอกว่า ผมมีหลายแนวทางอยู่ รับรองว่าแต่ละแนวทางส.ส.ที่คิดจะออก เพราะรับตังค์เขามาแล้ว ต้องเอาตังค์ไปคืน และที่บอกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราที่ยังอยู่กว่าร้อยสามสิบหกคน แข็งแรงทุกคน แล้วสามารถขยายเส้น ขยายเขต ในจังหวัดใกล้เคียงกันได้อีก” ล้วนแต่เป็นการสนทนาที่มีนัยทางการเมือง 

นายเรืองไกร กล่าวว่า นายเกรียง ยอมรับข้อเท็จจริงต่อสื่อไปแล้ว จึงอาจจะมีลักษณะในทางที่เข้าข่ายเป็นการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง ต่อมายังนำลายมือชื่อที่สื่อระบุว่าเป็นของนายทักษิณ ที่เขียนคำว่า “พรรคเพื่อไทย” หรือคำว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย” มาใช้ในเฟซบุ๊กของพรรคและเฟซบุ๊กของสมาชิกพรรค ซึ่งข้อความน่าจะเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจกรรมของพรรคการเมือง รวมทั้งน่าจะยังมีการนำลายมือดังกล่าวไปใช้ในการประชุมพรรคเพื่อไทย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ 

'ดร.เสรี' ซัด!! สามนิ้วจุฬาบ้าอุดมการณ์ ไม่เคารพการสืบสาน เหมือนเป็นคนไร้ราก

25 ต.ค. 64 - ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย บรรณาธิการบริหาร เพื่อวางกลยุทธ์สื่อสาร ศบค. โพสต์เฟซบุ๊กว่า ถ้าหากชาวจุฬาฯ ทั้งผู้บริหาร คณาจารย์ ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน เขาไม่คิดจะทำอะไรกับการแถลงการณ์ที่ให้ยกเลิกการอัญเชิญพระเกี้ยวเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ดำรงความทัดเทียม คนอื่นก็อย่าไปยุ่งเลยค่ะ

ในฐานะเป็นคนไทยที่กตัญญูรู้คุณ ก็รู้สึกเสียใจ เศร้าใจ ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้กับสถาบันที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระราชวงศ์จักรีที่ทรงปรารถนาให้พสกนิกรได้รับการศึกษา

‘อนุทิน’ เผย เร่งระดมฉีดวัคซีน 4 จว.ใต้-เมืองคอน หลังพบยังระบาดหนัก ยันใช้งบจ้างลิซ่า-แอนเดรีย ร่วมงานเคาท์ดาวน์ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์

วันที่ 25 ต.ค. 64 เวลา 08.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเปิดประเทศ ที่ขณะนี้ยังฉีดวัคซีนไม่ถึง 50% ว่า เกิน 50% แล้ว ซึ่งเราตั้งเป้าตามทฤษฎีของระบาดวิทยา คือ 70% ของประชากร แต่หลังจากนั้นยังมีคนต้องการฉีดวัคซีนอยู่ อาจจะมีการจัดวัคซีนฉีดให้คนเหล่านั้น

เมื่อถามถึงพื้นที่ภาคใต้ที่ยังมีการแพร่ระบาดสูงอยู่ นายอนุทิน กล่าวว่า เริ่มจะนิ่งและมีแนวโน้มในทางที่ลดลง เพราะช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคได้เร่งจัดส่งวัคซีน ลงไป 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นการส่งไปเพื่อควบคุมโรคระบาดให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด และขณะนี้มีการฉีดไปจำนวนมากแล้ว และในสัปดาห์นี้จะเร่งส่งวัคซีนไปยังจังหวัดที่เริ่มมีการระบาดมากขึ้น เช่น นครศรีธรรมราช เพื่อสามารถสร้างภูมิโดยเร็ว ซึ่งเป็นสูตรเดียวกับที่ส่งไปใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

อดีตทูต แนะ!! อยากเท่าเทียม ควรเบรก ‘บอลประเพณี’ แล้วปรับแนวคิดไปร่วมทำกิจกรรมรับใช้สังคมแทน

ไม่นานมานี้ ‘นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล’ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดราม่าเกี่ยวกับยกเลิกพิธีอัญเชิญพระเกี้ยว ว่า...

เอางี้มั้ยครับ ถ้าอยากเน้นความเท่าเทียมกันในสังคม ด้วยการยกเลิกพิธีอัญเชิญพระเกี้ยว ผมว่าเรามองไปที่ต้นตอเลยดีกว่า นั่นคือ เลิกจัดการแข่งขันฟุตบอลประเพณี จุฬา - มธ. ไปเลยละกัน นี่พยายามช่วยน้องๆ คิดนะครับ 

เพราะอะไร จะสรุปเป็นข้อๆ ละกัน 

1.) การแข่งขันฟุตบอลแต่ละปี เน้นเอาชนะ สร้างอัตตาว่า สถาบันของฉันเก่งกว่าของแก เวลาใครชนะ ใครแพ้ ก็ก่อให้เกิดอารมณ์ ทั้งสะใจ ทั้งประชดประชัน ทั้งเคือง ทั้งน้อยใจ บางทีก็เกิดปะทะกันในระหว่างเล่น บางทีอาจสร้างความแตกแยกแบ่งเขาแบ่งเราเกทับกันมากกว่าสร้างสามัคคีด้วยซ้ำ ยิ่งการแข่งขันในยุคปัจจุบันเน้นเอาชนะมากกว่าทุกสิ่ง ถึงขนาดดึงเอานักเล่นทีมชาติมาสังกัดสถาบันของตัวเอง แทนที่จะใช้ นิสิต นศ. จริงๆ เล่น 

2.) ประหยัดไม่ต้องมาทำเสื้อเชียร์ขาย ไม่ต้องตัดชุดแพงๆ เน้นแฟชั่นทุนนิยมให้บรรดาเชียร์ลีดเดอร์ ไม่ต้องขนคนให้มานั่งตากแดดแปรอักษร 

3.) จะได้ไม่ต้องมีขบวนล้อการเมืองที่มองอะไรแบบเอียงข้าง ด้วยมิติแบนๆ ด่าอีกฝ่าย แต่ไม่แตะอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ทำระยำพอกัน หรือมากกว่า

ครม.เตรียมเคาะโครงการประกันรายได้ “ข้าว มัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์”

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ที่ประชุมเตรียมพิจารณาข้อเสนอของหน่วยงานต่าง ๆ โดยกระทรวงพาณิชย์เสนอโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งจะครอบคลุมพืชสำคัญทั้ง 3 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงมาตรการคู่ขนานเพื่อจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาพืชแต่ละชนิดเอาไว้ แยกเป็น โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 มีกรอบวงเงินที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) วงเงิน 89,402 ล้านบาท กำหนดเป้าหมายเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.689 ล้านครัวเรือน 

ทั้งนี้ได้กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้ คือ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ยกเว้นข้าวเจ้า ไม่เกิน 50 ไร่ โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าว คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน  

ส่วนการประกันรายได้ประกันรายได้มันสำปะหลัง ปีการผลิต 2564/65 มีวงเงิน 6,811 ล้านบาท โดยรัฐบาลรับประกันรายได้ มันสำปะหลังที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท แต่ไม่เกิน 100 ตันต่อครัวเรือน และไม่ซ้ำแปลง คาดว่า จะช่วยดูแลเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกว่า 520,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ และมาตรการคู่ขนาน 4 โครงการ คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสำปะหลัง และโครงการเพิ่มศักยภาพการแปรรูปมันสำปะหลัง

“รมว.ท่องเที่ยว” ยัน “ลิซ่า-แอนเดรีย” เคาท์ดาวน์ คุ้มค่าแน่นอน เผยช่วยโปรโมตประเทศด้านอื่น เตรียมชง เสนองบ ในครม.สัญจรกระบี่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงความชัดเจนการใช้งบประมาณจ้าง น.ส.ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK  และ แอนเดรีย โบเซลลี นักร้องโอเปร่าชาวอิตาลี ศิลปินเคาท์ดาวน์ ว่า จะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมครม.ในช่วงการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่จังหวัดกระบี่ ในช่วงเดือนพ.ย.นี้ โดยงานดังกล่าวจะมีภาคเอกชนมาร่วมเป็นสปอนเซอร์

ผู้สื่อข่าวถามว่าศิลปินที่จะเชิญมาร่วมงานมีการตอบรับมาแล้วหรือยัง นายพิพัฒน์ กล่าวว่าตอนนี้ยัง ต้องขอดูสัญญาในวันที่ 30 ต.ค.นี้ที่จะส่งมาก่อน โดยศิลปินที่จะมาคือลิซ่าเพียงคนเดียว ไม่ได้มาทั้งวง

เมื่อถามว่าชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ที่จะเชิญ น.ส.ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK  ศิลปินเคป๊อปชื่อดังระดับโลกชาวไทย และ แอนเดรีย โบเซลลี นักร้องโอเปร่าชื่อดังของโลกชาวอิตาลี นายพิพัฒน์ กล่าวว่าใช่ ชัดเจนแล้ว ถามว่าจะนอกจากการแสดงดนตรี จะโปรโมท ประเทศไทยในด้านอื่นด้วยหรือไม่ รมว.ท่องเที่ยว กล่าวว่า ต้องหารือกันก่อน 

'เสกสกล' อัด 'ทักษิณ' เศรษฐีขี้โกง แนะจับตา อยากกลับมามีอำนาจ ลบคดีตัวเอง

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ออกรายการในคลับเฮ้าส์ โจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับรัฐบาล หาว่าแก้ปัญหาแบบกู้มาแจก เหมือนเอาปลามาให้ เอาแต่บอกให้ประชาชนพอเพียง ว่า ช่วงนี้พี่น้องคนอีสานอาจจะต้องทนกับนักการเมืองน้ำเน่าที่สลับหน้ากันลงไปพ่นคำหวานหาเสียง อาทิ นักเรียนนอกพระเอกลิเก - คุณหญิงตกกระป๋อง - มาจนถึงเศรษฐีขี้เหนียวและขี้โกง สังเกตดูคนพวกนี้จะคิดถึงคนอีสานก็ต่อเมื่อหวังผลประโยชน์จากคนอีสาน ต่างจากนายกฯประยุทธ์ ที่ปากไม่หวาน ไม่ได้เรียนจบนอก แต่ตีนติดดิน ลูกย่าโมโคราช คลุกฝุ่นทำงานจริง ลุยแก้วิกฤตร่วมกันกับพี่น้องคนไทยจากของจริง มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่ทั่วโลกมีวิกฤตที่ไม่เคยเจอมาก่อน 

“ทักษิณยังหลับหูหลับตาปั่นวาทกรรมดึกดำบรรพ์ หาว่ามีคนดูถูกคนอีสานว่าจนเพราะโง่และขี้เกียจ อยากบอกว่างึดหลาย สงสัยหนีคดีไปต่างแดนนาน จนไม่รู้ว่าบ้านเกิดเมืองนอนไปถึงไหนแล้ว มีเศรษฐีคนอีสานเกิดใหม่มากมาย มีคนอีสานประสบความสำเร็จในชีวิต ได้เป็นพระเอกหนัง นักร้อง นักแสดง นักวิทยาศาสตร์ หมอ นักธุรกิจเก่งๆ ที่เป็นคนอีสานมากมาย แล้วแผ่นดินอีสานยุคใหม่ ถ้าเอาทักษิณไปปล่อย ดีไม่ดีอาจจะหลงทางเด้อ เพราะถนนหนทางตัดใหม่มากหลาย ทางรถไฟ สนามบิน รถไฟความเร็วสูงสายแรกก็ไปทางอีสาน อีสานกำลังพัฒนาเร็วขึ้นทุกวัน พัฒนาทั้งแหล่งน้ำ ชลประทาน การทำมาหากิน มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีคนละครึ่ง แต่ยังมีนักการเมืองน้ำเน่าเสือหิวพยายามหาเสียงด้วยวาทกรรมปั่นความชิงชัง น้อยเนื้อต่ำใจ โคตรโบราณ”

นายเสกสกล กล่าวว่า ทักษิณตอนเป็นนายกฯหาเสียงด้วยการหลอกให้ชาวบ้านมาลงทะเบียนคนจน จากนั้นก็ไม่ได้อะไร  เทียบกับนายกฯประยุทธ์ให้ลงทะเบียนแล้วเติมเงินตรงเข้าบัตรสวัสดิการ ที่ชาวบ้านเรียกบัตรลุงตู่ 13 ล้านคนได้เงินทุกเดือน ไม่มีนายหน้ามากินหัวคิว รวมเป็นแสนล้านบาท  

นายเสกสกล กล่าวว่า คนอีสานเคยให้โอกาสทักษิณ ส่งน้องมาเป็นนายกฯ แต่สุดท้าย โกงจำนำข้าว เสี่ยเปี๋ยงมาหากินข้าวจีทูเจี๊ยะ รัฐมนตรีข้าราชการติดคุกระนาว ตัวเองช่วยน้องสาวหนีเอาตัวรอด ทิ้งหนี้โกงจำนำข้าวไว้หลายแสนล้าน รัฐบาลลุงตู่ต้องมาตามใช้หนี้ ปัจจุบันเหลือสองแสนกว่าล้านบาท ต้องเสียเงินปีละ 2-3 หมื่นล้านทยอยใช้หนี้ไปทุกปี ยังมีหน้ามาหาเสียง หวังหลอกรับประทานอีกหรือ

นายเสกสกล กล่าวว่า ทักษิณขี้โม้ อวดโง่ แขวะเศรษฐกิจพอเพียง เพราะคำว่าพอเพียงใช้ได้ทุกสถานการณ์ ทุกอาชีพ ไม่ว่าจะมีมากหรือน้อย รวยหรือจน คือการใช้ชีวิตอย่างพอประมาณสมเหตุสมผล แน่นอนว่าคนที่มันโกงอย่างไม่เคยพอ ย่อมไม่มีวันเข้าใจ ส่วนนายกฯประยุทธ์ ทำงานทั้งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หาปลามาให้พี่น้องประชาชน และยังสนับสนุนเครื่องมือให้หาปลาเอง กำลังเดินหน้าพัฒนาประเทศไทย ทุกภูมิภาค และภาคอีสานก็เดินหน้ามาไกลแล้ว 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top