Sunday, 22 June 2025
Politics

'เดชอิศม์' เละ!! ถูกโซเชียลจับโป๊ะกลางรายการ หลังบอกผู้ใหญ่ใน ปชป.ไม่หนุนโหวต 'มาดามเดียร์'

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.66 นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ในรายการคมชัดลึก ประเด็นที่มีความพยายามสกัดกั้นคุณวทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ ไม่ให้ผ่านคุณสมบัติในการลงสมัครหัวหน้าพรรค ปชป. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า...

ตนและกลุ่ม สส.ปชป. เกือบทั้งหมดยกมือสนับสนุนมาดามเดียร์ในการลงสมัคร แต่ผู้ใหญ่ในพรรค ปชป. ไม่สนับสนุนมาดามเดียร์ 

อย่างไรก็ตาม ชาวโซเชียลต่างวิจารณ์นายเดชอิศม์ เป็นอย่างมากว่า 'พูดเท็จ' กลางรายการ เนื่องจากมีภาพวิดีโอในวันเลือกหัวหน้าพรรค ปชป. อย่างชัดเจนว่า ผู้ใหญ่ในพรรค ปชป. โดยเฉพาะท่านชวน หลีกภัย เป็นผู้ลุกขึ้นยืนขอเสียงสนับสนุนให้มาดามเดียร์ แต่กลับเป็น สส.กลุ่มนายเฉลิมชัย และ นายเดชอิศม์ รวมถึง นางสาวสุภาพร กำเนิดผล (ภรรยา นายเดชอิศม์) เอง ที่กลับนั่งเฉยก้มหน้าไม่ยกมือให้มาดามเดียร์ลงสมัครหัวหน้าพรรค ทำให้ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์คำพูดที่ไม่เป็นความจริงของเลขาธิการพรรค ปชป. เป็นอย่างมาก

‘สธ.’ เด้งรับเปิดผับบาร์ตีถึง 4 ลุยประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง จัดเตรียมที่พัก-บริการรถขนส่ง-ระบบการแพทย์ดูแลคนเมา

(16 ธ.ค.66) จากกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการกรมการปกครองขับเคลื่อนกฎกระทรวง ขยายเวลาให้สถานบริการ ใน 5 จังหวัด พื้นที่เปิดให้บริการได้ถึงเวลา 04.00 น. ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเริ่มเมื่อคืนวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ยกเว้น วันที่ 31 ธันวาคม เปิดบริการได้ถึง 06.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวของรัฐบาล

นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่ ได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ในการดำเนินมาตรการต่างๆ รองรับเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุจากเมาแล้วขับ เช่น

จังหวัดเชียงใหม่ มีสถานบริการที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายรวม 27 แห่ง ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองเชียงใหม่ 24 แห่ง อ.ฝาง อ.เชียงดาว อ.สันทราย อำเภอละ 1 แห่ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับอำเภอ ตำรวจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดเตรียมที่พักคอยสำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะที่มีระดับแอลกอฮอล์สูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ 

ขณะที่ ขนส่งจังหวัดได้ประสานเครือข่ายรถสาธารณะคอยให้บริการนักท่องเที่ยว รวมทั้งส่งทีมออกตรวจตรา ควบคุมสถานประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย 

จังหวัดชลบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้นำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เมืองพัทยาเพื่อตรวจตราสถานบริการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนจังหวัดภูเก็ต เบื้องต้นมีสถานบริการ จดทะเบียนเปิดถึงตี 4 เฉพาะที่ซอยบางลา ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการผ่านหมายเลข 1669 ได้เตรียมพร้อมดูแลตลอด 24 ชม. และยังมีคณะทำงานวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อสอบสวนสาเหตุพฤติกรรมเสี่ยงและจุดเสี่ยงในพื้นที่ เป็นต้น

“หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่เฝ้าระวังสถานบริการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ส่วนระบบการแพทย์และสาธารณสุข ทั้ง 3 จังหวัด มีความพร้อมอยู่แล้วเนื่องจากเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งจากนี้จนถึงช่วงปีใหม่ จะเป็นช่วงที่มีการเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขจึงให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน ยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ไว้ด้วย เพื่อช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” นายแพทย์สุรโชค กล่าว

‘อนุทิน’ ลุยถนนข้าวสาร ส่องความพร้อมวันที่ 2 ผับเปิดได้ถึงตี 4 ย้ำ!! แค่ตรวจเยี่ยมตามปกติ แต่สถานบังเทิงต้องทำตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสถานบริการย่านถนนข้าวสารเพื่อดูความเรียบร้อย หลังจากที่ได้มีการขยายเวลาให้สถานบริการที่ได้รับอนุญาตเปิดถึงตี 4 เป็นวันที่ 2

นายอนุทิน เปิดเผยว่า จากการไปตรวจเยี่ยมแหล่งสถานบริการ 2 วันที่ผ่านมา ทั้งย่าน RCA และถนนข้าวสาร สถานการณ์เรียบร้อยดี ทางผู้ประกอบการก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บรรยากาศคึกคัก มีแนวโน้มไปในทางที่ดี ที่จะช่วยให้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว

ซึ่งในย่านถนนข้าวสารแห่งนี้ เป็นแหล่งที่มีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวหมุนเวียนมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง การมาของตนมาเพื่อตรวจเยี่ยม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ไม่ได้มาจับผิด แต่สถานบริการต้องปฏิบัติตามกฎหมาย

เน้นย้ำ 3 ข้อ คือ ต้องไม่มีอาวุธ, ไม่มียาเสพติด และไม่มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ สำหรับในย่านถนนข้าวสารมีสถานบริการที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง 4 แห่ง ที่สามารถเปิดได้ถึงตี 4

นอกเหนือจากนั้น หลังเที่ยงคืนห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามเปิดเพลงเสียงดัง แต่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งดื่มกินกันได้ต่อ ทั้งนี้ ในอนาคตมีแผนจะไปตรวจเยี่ยมแหล่งสถานบริการในต่างจังหวัดด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยวันเวลาและสถานที่

‘ธนกร’ ติง ‘ก้าวไกล’ อย่าดีแต่ผลิตวาทกรรมดิสเครดิตรัฐบาล มั่นใจ!! พรรคร่วมเดินหน้าสานงานฉลุย ลดความขัดแย้งการเมือง

(17 ธ.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์โดยวิเคราะห์ว่า วันนี้ทุกพรรคการเมือง ต้องพิสูจน์การทำงานให้กับประชาชนได้เห็น เหมือนรัฐบาลที่เพิ่งเข้ามาได้ 3 เดือนก็ต้องพิสูจน์ผลงาน ต้องทำนโยบายให้สำเร็จ พรรครวมไทยสร้างชาติเองก็เช่นกัน รวมถึงต้องปรับยุทธศาสตร์เพื่อจะเดินหน้าทำงานต่อไปได้ หากพรรคใดไม่ปรับตัว ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ไปยาก ยกตัวอย่างเช่น ภาคใต้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และเชื่อว่าเลือกตั้งที่ผ่านมา ทุกพรรคไม่ได้คิดว่าพรรคก้าวไกลจะมา ทุกพรรคจึงต้องมีรูปแบบการทำงาน นโยบาย ปรับวิธีคิดใหม่ เช่นการใช้โซเชียลมีเดีย แต่ตนเชื่อว่าวันนี้ทุกพรรคปรับแล้วทั้งหมด แต่วิธีคิดที่ใหม่อย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและทำสำเร็จด้วย ไม่ใช่พูดไปเรื่อย

เมื่อถามว่า ในอนาคตการเลือกตั้งรอบหน้า ไม่ได้สู้กันแบบเดิม แต่อาจจะเป็นการรวมพลังของทุกพรรคเพื่อสู้กับก้าวไกลหรือไม่ นายธนกร ยอมรับว่า ก็เป็นไปได้ ต้องยอมรับความจริงว่าในอนาคต พรรคเล็กเกิดยาก เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กติกาใหม่ต้องสู้กันทั้งระบบ

“ในพรรคก้าวไกลเองก็ต้องปรับตัว หลังจากเลยช่วงพีคผ่านไปแล้ว และต้องมาปรับ มาแก้ปัญหาภายในพรรคที่มีปัญหาหลายเรื่อง วันนี้ประชาชนเห็นทั้งหมดแล้ว ไม่ใช่ไปว่าคนอื่น ว่าพูดอย่างทำอย่าง แต่ในขณะเดียวกัน ตัวเองพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โกหกไปวันๆ ประชาชนฉลาดทุกคน และโซเชียลมีเดียในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ มีการเน้นให้ประชาชนเข้าถึง แอปพลิเคชันต่างๆ เช่น แอปฯ เป๋าตัง วันนี้ประชาชนฉลาด รู้ทันนักการเมือง การพูดอย่างทำอย่าง พูดไม่ตรงข้อเท็จจริง ประชาชนรู้หมด” นายธนกร กล่าว

เมื่อถามว่า การแก้รัฐธรรมนูญในสมัยรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำนั้นจะสำเร็จหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า หากพรรคแกนนำมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ก็แก้ได้ แต่การจะแก้ไขต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ และในส่วนพรบ.นิรโทษกรรม ต้องไม่เกี่ยวข้องกับคดีทำผิดมาตรา 112 หากฝั่งที่จะแก้ยืนกรานตน เชื่อว่า ไม่ผ่าน ฟันธงว่าไม่สำเร็จแน่นอน ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ง่ายและมีการใช้งบประมาณทำประชาพิจารณ์เกือบ 7,000 ล้านบาท หาวิธีการที่จะประหยัดงบประมาณได้หรือไม่เอาเงินจำนวนนี้มาทำโครงการคนละครึ่งต่อดีกว่า ซึ่งหากพรรคก้าวไกลไม่ยอมถอยมันก็เดินต่อไม่ได้

“วันนี้สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ ได้ทำไว้ให้กับคนไทยมีความยั่งยืนอย่างแน่นอนเป็นประโยชน์กับประเทศชาติมาก วันนี้อยากให้ความขัดแย้งลดลงและทุกวันนี้ก็ถือว่าดีขึ้นมาก  การชุมนุมต่างๆก็น้อยลง คนไทยเริ่มหันหน้าเข้าหากันมากขึ้น อยากให้คนไทยรักกัน จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้และด้วยนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลชุดนี้และพรรคร่วมรัฐบาล ผมคิดว่าเราไปได้และทำให้ยั่งยืนได้ ซึ่งมีหลายอย่างที่ทำต่อ ยอดจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ก็ไม่อยากให้หวนกลับไปสู่ความขัดแย้งอีก ขอให้ถ้อยทีถ้อยอาศัยและพูดคุยกันจะดีกว่า” นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

‘บิ๊กป้อม’ ส่ง ‘สส.นราธิวาส พปชร.’ รุดช่วยผู้ประสบอุทกภัย ชายแดนใต้ หลังฝนตกหนักทำน้ำท่วมหลายพื้นที่ พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

(17 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายวานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ติดตามสถานการณ์พายุฝน เข้าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากมีความห่วงใยในสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 4 จังหวัด คือ จังหวัดยะลา, จังหวัดนราธิวาส, จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี โดยได้ประสานงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง และให้ความช่วยเหลือ ผ่านทีมงาน สส.ในพื้นที่พปชร.อย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุด นายสัมพันธ์ และนายอามินทร์ ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปีนี้ พายุฝนตกชุกเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในวันนี้ ก็เตรียมระดมทีมเจ้าหน้าที่ ส่งถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชนใน จ.นราธิวาส พร้อมสอบถามปัญหาความเดือดร้อน เพื่อนำไปสู่การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

‘อดิศร’ เหน็บ ‘พิธา’ เติมเชื้อไฟ ค้าน-สงสัยไปทุกเรื่อง วิจารณ์รัฐบาล 100 วัน ถาม ดีแค่เฉพาะ ‘ก้าวไกล’ หรือ?

(17 ธ.ค. 66) นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ระบุว่า…

“พิศวง สงสัย ไปทุกเรื่อง ค้าน แค้น เคือง เหลวไหล โลกแห่งความฝันของก้าวไกล พิธา เติมไฟในอารมณ์…

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

วิจารณ์รัฐบาล 100 วัน

ดูเหมือนจะไม่มีดีเลย… ดีเฉพาะก้าวไกล เท่านั้น!!!!????”

‘คนรักก้าวไกล’ เจอเองกับตัว ‘สส.กทม.’ ใช้พวงหรีดวนๆ ส่งตัวแทนวางพวงหรีดเก่าๆ หมองๆ วันเผามาขอเก็บกลับ

(18 ธ.ค. 66) เฟซบุ๊ก ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ โพสต์ภาพอินโฟกราฟิกหัวข้อ ‘ชาวบ้านเอือม สส. กทม. วนหรีด ไม่ให้เกียรติกัน’ โดยมีลูกเพจส่งข้อความและภาพระบุว่า "ได้ยินเรื่องก้าวไกลใช้พวงหรีดวนมาตั้งนานจนเจอกับตัว คุณปู่เสีย สส. ส่งตัวแทนเอาพวงหรีดมาให้ เป็นพวงหรีดกระดาษหมองนิด ๆ น่าจะผ่าน การใช้งานมาแล้วบ้าง (รึเปล่า) และตัวแทน เค้าฝากบอกว่า "บอกเจ้าหน้าที่วัดด้วย เดี๋ยววันเผามาเก็บกลับนะ"

วันเผา มีตัวแทนพรรค 2 คน มาเก็บกลับไป จริง ๆ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ติดลาแขกอยู่ตลอด วันสวดศพไม่มีมางาน มีแต่ตัวแทนมา ตัวแทนจริงรึเปล่าไม่รู้ แต่เด็กมันบอกเป็นตัวแทน

ลูกหลานคุณปู่ที่เคยชอบก้าวไกลมาก ด่ายับเลย ในสายตาพวกเค้า มันเป็นการไม่ให้เกียรติกันแบบสุด ๆ ในงานมีแขกผู้ใหญ่เยอะนะ และทุกคนได้ขึ้นทอดผ้า ยกเว้น ... เพราะญาติ ๆ ไม่พอใจไปละ เผาเสร็จลูกหลานคุณปู่ยังนั่งด่าอยู่เลย เสียความรู้สึกสุด ๆ ถ้าอยากลดขยะหรืออะไร ก็ส่งพวงหรีดพัดลมหรือพวงหรีดช้อน หรือแบบอื่นที่มันเอาไปใช้ต่อได้ก็ได้ ไม่ใช่ส่งพวงหรีดวนแล้วมาขอเก็บกลับตอนเผาเสร็จ มันทุเรศมาก มันดูไม่ให้เกียรติกันสุด ๆ เลย คนอื่นคิดไงไม่รู้ล่ะ แต่ญาติ ๆ คิดงี้"

อนึ่ง สำหรับแนวคิดการใช้พวงหรีดวนกัน มาจาก นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับมติชนทีวี เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา กล่าวว่า "ผมก็จะไปเฉพาะที่เขาเชิญ คือถ้าเขาเชิญแล้วเราไม่ไปนี่ก็ไม่ได้ เขาเชิญเราก็ต้องไปถูกไหมครับ ... ผมก็ไปแทบจะทุกอาทิตย์ ตลอด 4 ปีมานี้ก็ยังไปต่อเนื่องทั้ง ๆ ที่ไม่เคยใส่ซองสักบาทเดียว แล้วก็กินอิ่มด้วยทุกครั้งที่ไป แล้วถ้าเป็นงานสวดไม่ใช่งานเผานี่ งานสวดผมก็ได้กับข้าวกลับบ้านทุกครั้ง ได้เยอะด้วย เพราะว่าแม่ครัวจะเอามาให้เยอะมาก ... เราก็เริ่มต้นแบบนี้ด้วยการไม่ใส่ (ซอง) ไม่เห็นมีใครว่า ก็ทำต่อไปได้ครับ จริง ๆ เราก็ควรจะทำด้วย”

“อีกเรื่องหนึ่ง พวงหรีดตอนแรกผมก็ไม่เห็นด้วย ไม่ชอบโน่นนี่นั่น พยายามจะเปลี่ยน พยายามจะออกไอเดียใหม่ ๆ ให้มันดูเป็นคนรุ่นใหม่ รอบแรก ๆ เอาเป็นต้นไม้ไปแทน ต้นไม้มันก็ต้นเหี่ยวแห้งเล็ก ๆ ไปเทียบกับเขาที่มันพวงใหญ่ๆ มันก็ไม่มีใครสนใจนะครับ เปลี่ยนเป็นถุงขยะไปเก็บแก้วน้ำมันก็เหนื่อยไม่ไหว สุดท้ายก็ได้ไอเดียว่า พวงหรีดเวิร์กมันคือการโฆษณาที่มันเป็นการตลาดที่โคตรคุ้มเลย 300 บาท กับการที่สวด 7 วันมีคนเห็น 2-3 ร้อยคน ทุกวัน ๆ ชื่อเรา เออเขาถึงทำกันไงครับ 300 บาท ผมใช้ 3 งาน ให้มัคนายกเก็บให้ใช้ 3 รอบ ก็ประหยัดที่สุดเท่าที่ประหยัดได้" 

ประเด็นดังกล่าวทำเอาผู้คนบนโลกโซเชียลฯ วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยฝ่ายที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลมองว่าเป็นการสู้ทางการเมืองแบบฉลาด กับผู้คนทั่วไปที่มองว่า ส.ส. มีเงินเดือนนับแสนบาทแต่ไม่เคยใส่ซองช่วยงาน กินฟรีทุกงานแถมห่อกลับอีกด้วย

ถึงกระนั้น นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ ชนะการเลือกตั้งเป็น สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 บางปะกง แปลงยาว บ้านโพธิ์ อีกสมัย ด้วยคะแนน 37,381 คะแนน อันดับ 2 นายพิทักษ์ จารุสมบัติ จากพรรคพลังประชารัฐ 26,873 คะแนน และอันดับ 3 นายยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 26,415 คะแนน

อนึ่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) มีเงินเดือน 71,230 บาท เงินเพิ่ม 42,330 บาท รวม 113,560 บาท

‘ดร.เสรี’ ฟาด!! 'ไอซ์ รักชนก' หยุดสร้างวาทกรรมให้ตัวเองไม่ผิด ชี้!! ประเด็นสำคัญคือการ ‘จาบจ้วง’ สถาบันฯ ด้วย ‘ความเท็จ’

(19 ธ.ค.66) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ปากดี ไม่สำนึก สร้างวาทกรรมว่าตัวเองไม่ผิด แต่การบังคับใช้กฎหมายผิด ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยแก้ข้อกล่าวหาใด ๆ

อ้างว่าไม่ควรติดคุกเพราะการแสดงความคิดเห็น ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่โพสต์ไม่ใช่แสดงความคิดเห็นแต่เป็นการหมิ่นประมาท

นอกจากนั้นยังแสดงท่าทีข่มขู่อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ มันเป็นความผิดอาญาด้านความมั่นคง

คุณจะล้มเจ้าได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่คุณจาบจ้วงล่วงละเมิดเพื่อสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความเท็จ

อย่าคิดว่าประชาชนจนไม่รู้เจตนาของคุณเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์คืออะไร

ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนนี้ รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ถูกศาลอาญา รัชดา พิพากษาจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่ศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์ 500,000 บาท ได้เผยแพร่คลิปตัวเองในประเด็นล้มเจ้า

‘ขบวนการล้มเจ้า’ มักชอบอ้างวาทกรรมกากกลวง ‘ด่า = แสดงความคิดเห็น’ ดิ้นสุดฤทธิ์ให้ตนพ้นผิด

ผมค่อนข้างรังเกียจชุดความคิดที่ว่า “แค่แสดงความคิดเห็นธรรมดาก็ต้องถูกดำเนินคดี 112” ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ประเทศไทย ทุกประเทศที่มีกฎหมายทั่วโลกย่อมจะไม่จับใครดำเนินคดีเพียงแค่การแสดงความคิดเห็นธรรมดา

กลุ่มคนที่พยายาม ‘กระดิกหางรับลูกกัน’ พ่นชุดความคิดที่แสนบิดเบี้ยวนี้ก็มาจากพรรคการเมืองที่คิดล้มสถาบันเป็นแกนหลัก รวมหัวกับบรรดา ‘ด้อมดาวน์ซินโดรม’ ทั้งหลายที่ไร้สติปัญญาแยกแยะถูกผิด มีสมองกลั่นกรองผิดชอบชั่วดีได้อย่างเชื่องช้า หลงมอมเมากับความผิดเพี้ยนชนิดกู่ไม่กลับ ถือเป็นฉากหนึ่งในความน่าอดสูของสังคมไทยในยุคสมัยนี้จริง ๆ 

พูดให้เข้าใจกันง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้าน สำหรับคนธรรมดาแบบผม แบบคุณ กฎหมายหมิ่นประมาทมีไว้ปกป้องคนที่ถูกรังแก ถูกดูหมิ่น ดูแคลน ถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือใส่ความฉันใด กฎหมายมาตรา 112 ก็มีไว้ปกป้องสถาบัน และพระมหากษัตริย์ฉันนั้น การไปโพสต์เฟซบุ๊กด่าใครเสีย ๆ หาย ๆ ถือเป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แม้เป็นเรื่องจริงก็ยังผิด ถ้าไม่จริงก็จะยิ่งผิดมหันต์ และต้องชดใช้ในสิ่งที่ไปทำร้ายคนอื่นมากสักแค่ไหนถึงจะสาสม 

การไปโพสต์ด่าทอพระมหากษัตริย์ ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หรือแม้แต่การแชร์ข้อความใส่ร้าย กัดเซาะ คิดร้ายต่อสถาบันต่อ ๆ กันไป ก็เข้าข่ายผิด 112 เพราะไม่ใช่ ‘การแสดงความคิดเห็น’ แบบปกติธรรมดาอย่าง ‘วิญญูชน’ เขาทำกัน แต่คือการมุ่งร้าย เห็นถึงเจตนาชั่วในตัวตน เรื่องแบบนี้คนที่มี ‘สำนึกแห่งมนุษย์’ ย่อมรับรู้และแยกแยะได้ในทันที แต่สำหรับคนที่ ‘จิตใจใฝ่เลว’ จงใจทำผิด 112 คอยหมิ่นหยามกฎหมายอย่างท้าทาย แต่พอโดนคดีเข้าก็รีบใช้วาทกรรมว่าเป็นเพียง ‘การแสดงความคิดเห็น’ พยายามดิ้นกันสุดชีวิตให้ล้ม 112 หรือพากัน ‘ซุกหาง’ เดินคอตกพร้อมตีหน้าเศร้ามาขอ ‘นิรโทษกรรม’ ในคดี 112 ที่ตนเองก่อไว้ 

คนที่ติดคุกเพราะโดน 112 ในประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่เคยมีใครถูกรังแก มีแต่ไปทำร้าย ด่าทอพระมหากษัตริย์ก่อน และคนเหล่านี้ไม่เคยเข็ดหลาบ ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวออกมาก็ควรจะสำนึก กลับตัวกลับใจ แต่ที่เห็นก็ยังเดินหน้าทำผิดซ้ำในเรื่องเดิม ๆ เหมือนคนที่มีความชั่วฝังลึกในกะโหลก 

ไปดูสิ ทำไมคนไทยอีกค่อนประเทศถึงไม่มีใครเดือดร้อนเพราะ 112 ไม่เคยไปคิดล้มล้าง ทำลาย หรือต้องไปเหนื่อยขอ ‘นิรโทษกรรม’ ในคดีเช่นนี้ ก็เพราะคนเหล่านี้คือคนที่มี ‘จิตใจปกติ’ ไอ้ที่มันจ้องแต่ ‘จะล้มจะข้ามจะขอ’ ให้ตัวเองรอด มันก็พวกที่คิดแต่จะทำเลวทรามกับแผ่นดินทั้งนั้น 

มีดีสักตัวที่ไหนกัน!!

‘นิรโทษกรรม’ ไม่ง่าย!! หาก ‘ก้าวไกล’ สอดแทรก 112 ‘พท.-รทสช.’ เดินหน้าปรองดอง แค่ไม่แตะสถาบันฯ

ว่าจะขยับเรื่อง 120 วันของนักโทษเทวดา ว่าจะเดินหน้าถอยหลังหรือออกข้างอย่างไร? แต่ขอขยักกั๊กไว้วันศุกร์สุดสัปดาห์ดีกว่า…

วันนี้ขอเคลียร์คัตชัดเจนเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ซักหน่อย!!

สรุปความตามท้องเรื่อง…เรื่องการนิรโทษกรรมมีการพูดถึงและเคลื่อนไหวกันอย่างกว้างขวางพอประมาณ แต่ในส่วนของการขับเคลื่อนที่จะให้เป็นจริงนั้นยังต้องรอดูของจริงกันต่อไป ในชั้นนี้พอจะสรุปได้ดังนี้…

1) พรรคก้าวไกล ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาตั้งแต่สมัยประชุมที่แล้ว ชื่อ “ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองพ.ศ....” โดยร่างนี้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นหรือทำประชาพิจารณ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 เรียบร้อยแล้ว มีผู้เห็นด้วยเพียงร้อยละ 28.37 แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อห้ามที่จะนำไปบรรจุเป็นวาระการประชุม

ประเด็นที่มีเสียงคัดค้านร่างของพรรคก้าวไกลก็คือ การเปิดทางให้มีการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์-สถาบันฯ

2) พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ยกร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ...เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับ 20 สส.ได้ลงชื่อแล้วด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแก้ข้อความให้กระชับสมบูรณ์กว่าเดิม ทั้งนี้ร่างของพรรครทสช.มี 12 มาตรา นอกเหนือการนิรโทษกรรมให้กับความผิดอันเกี่ยวเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองแล้ว...จุดเน้นหนักคือ จะไม่นิรโทษกรรมกับ3 ความผิดคือ 1.คดีทุจริต 2.คดีความผิดตามมาตรา 112 และ 3.ความผิดอาญาร้ายแรงทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

กล่าวได้ว่าในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลพรรค รทสช.กล้าหาญชาญชัยกว่าพรรคอื่นๆ ในการแสดงจุดยืนให้บ้านเดินหน้าปรองดองสมานฉันท์ โดยไม่ออกอาการ ‘แหยง’ จนออกอาการ ‘กั๊ก’ กับคำว่านิรโทษกรรม...แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพรรค รทสช.จะยื่นร่างในสมัยประชุมนี้เลยหรือชะลอเอาไว้ก่อน รอไปพร้อมกับขบวนใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาล

3) ในส่วนของพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย เลือกหนทางให้เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรม ในสมัยประชุมนี้นัยว่าเพื่อจะได้หาข้อสรุปเพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ในสมัยประชุมหน้า (เดือน ก.ค.-ต.ค.2567) ซึ่งหากไม่มีข้อถกเถียงกันมากรัฐบาลอาจเสนอร่างกฎหมายในนาม ครม.หรือรัฐบาลเลยก็เป็นได้…

4) อย่างไรก็ตาม...เนื่องจากรัฐบาลแทบจะไม่มีกฎหมายเสนอต่อสภาฯ นอกจากกฎหมายใหญ่อย่างร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีฯ 2567 ดังนั้นร่างกฎหมายที่รอคิวการพิจารณาส่วนใหญ่จะเป็นร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกล เช่น ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เป็นต้น...ทำให้ขณะนี้วิปฝ่ายรัฐบาลบางส่วนรู้สึกเป็นฝ่ายตั้งรับฝ่ายค้าน หากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับก้าวไกลถึงคิวการประชุมสมัยนี้ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลไม่มีร่างกฎหมายประกบ ซึ่งหนทางเดียวก็คือ ต้องคว่ำร่าง พ.ร.บ.ของพรรคก้าวไกล...อันจะมีทั้งผลดีและผลเสีย…

กรณีดังกล่าว เสียงข้างน้อยในวิปรัฐบาล จึงอยากให้มีการเสนอร่างนิรโทษประกบเอาไว้แบบเผื่อเหลือเผื่อขาด ถ้าไม่ทันสมัยประชุมนี้ ก็ไม่มีอะไรเสียหายประมาณนั้น...

ดังที่ได้วิสัชนามา...ก็พอจะสรุปได้ว่า...การนิรโทษกรรมเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ก็พอจะเห็นแสงสว่างอยู่ วิบๆ วับๆ...ไม่เจิดจ้าแจ่มชัดเหมือนเส้นทางสู่คุกนอกเรือนจำอันหรูหราก่อนที่จะถึงวันเวลาพักโทษปลายเดือน ก.พ.ของชายไทยวัย 74 ที่อยู่ชั้น 14 มาจะครบ 4 เดือนในอีกวันสองวันนี้

สวัสดีประเทศไทย

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top