Sunday, 6 July 2025
Politics

“เสกสกล” สวน “ทักษิณ” ถ้าไม่โกงกิน ปชช.คงไม่ไล่เต็มเมือง เย้ย นโยบายทรท. แค่ขายฝัน “คิดใหม่ทำใหม่ เพื่อใครบางคน" ป้องรัฐบาลรัฐประหาร ทำประเทศพัฒนา-ไม่ด่างพร้อยเรื่องทุจริต 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความ 15 ปีที่แล้วประเทศไทยและคนไทยเสียโอกาสในสังคมโลกยุคใหม่ เพราะการนำประเทศถอยหลังด้วยระบบเผด็จการ ว่า อยากให้นายทักษิณ ย้อนกลับไปดูสาเหตุในอดีตที่ต้องมีการทำรัฐประหาร ก็น่าจะรู้ตัวเองดีอยู่แล้วว่าทำอะไรจนทำให้ประชาชนนับแสนนับล้านคนต้องออกมาขับไล่บนถนน จนเกิดรัฐประหารเพื่อให้ประเทศชาติสงบและเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าปล่อยบริหารต่อ จะเกิดการทุจริตโกงบ้านโกงเมืองเต็มแผ่นดิน ขอให้นายทักษิณ ดูที่การกระทำและดูที่ผลงานมากกว่า ไม่ใช่นายกฯหรือรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหารจะทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนไม่ได้ แต่ตนมองว่าทำได้ดีกว่า หากประเทศได้นายกฯที่ดี มีคุณธรรม ทำงานโปร่งใสเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ประชาชนคงไม่ออกมาขับไล่และไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น ดังนั้นให้มองในข้อเท็จจริง หรือต้นตอของสาเหตุด้วยว่าเกิดจากอะไร

นายเสกสกล กล่าวว่า นายทักษิณ มองว่าประเทศไทยและประชาชนจะเสียโอกาส แต่ยืนยันว่าขณะนี้ประเทศไทยไม่ได้เสียโอกาสและมีการพัฒนาในทุกด้านอย่างมาก มีการแก้ไขปัญหาในหลายอย่าง รวมถึงปัญหาที่รัฐบาลในอดีตทำเอาไว้  และนานาประเทศให้การยอมรับ เพราะผู้นำประเทศในปัจจุบัน ไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง ไม่มีประวัติด่างพ้อยเรื่องการทุจริต เหมือนในยุคนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

‘ปารีณา’ ฉะโพลดัง สำรวจประชาชนพันกว่าคนจากทั้งประเทศ ไม่อยากให้ ‘ประยุทธ์’ เป็นหัวหน้าพรรคลงสู้ศึกเลือกตั้ง เหตุบริหารล้มเหลว - ขาดภาวะผู้นำ แนะอย่าเชื่อมาก

จากกรณีที่ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “นายกรัฐมนตรีกระชับอำนาจ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13-16 กันยายน 2564 จำนวน 1,317 ตัวอย่าง เกี่ยวกับการกระชับอำนาจของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

กรณีความเห็นของประชาชนต่อการเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประยุทธ์ แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 56.11 ระบุว่า ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับพรรคพลังประชารัฐเลย และความคิดเห็นของประชาชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์เกี่ยวกับการตั้งพรรคของตนเองเพื่อเตรียมการเลือกตั้งสมัยหน้า พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.24 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะ พล.อ.ประยุทธ์บริหารงานล้มเหลว ขาดภาวะผู้นำนั้น

ราเมศ เผย จุรินทร์ ขอบคุณ ปชช. มีส่วนร่วมเป็นสมาชิกสูงสุดในทุกพรรค ย้ำ ตัวแทน สาขา ดูแล ปชช. เต็มที่

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงรายงานข่าวที่ระบุถึงการตรวจสอบข้อมูลของพรรคการเมือง ที่ยื่นจดแจ้งจัดตั้งพรรคกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยยังดำเนินการอยู่ ข้อมูลล่าสุด พบว่า 
มีพรรคการเมืองที่ดำเนินการอยู่จำนวน 83 พรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค มีสมาชิกสูงสุด คือ 90,780 ราย สาขาพรรคการเมือง 18 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด 312 ราย ว่า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ขอขอบคุณประชาชนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นสมาชิกพรรค มีจำนวนมากที่สุดในทุกพรรคการเมือง ส่วนเหตุที่มีตัวเลขลดน้อยลงจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีสมาชิกที่อยู่ในระหว่างการต่ออายุสมาชิกอีกเป็นจำนวนมาก ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการทางทะเบียน นายจุรินทร์ ย้ำกับบุคลากรของพรรคทุกภาคส่วนรณรงค์ ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรค เพื่อร่วมในการขับเคลื่อนอุดมการณ์ ร่วมสะท้อนปัญหาเพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบาย พรรคพร้อมยินดีรับฟังในทุกเรื่อง และนายจุรินทร์มีนโยบายชัดเจนในเรื่องการรับฟังทุกความเห็น ไม่ว่าจะเป็นโครงการฟังไทย หรือจุรินทร์ออนทัวร์ ที่เคลื่อนออกไปนอกพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนเป็นประจำทุกสัปดาห์ 

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังให้ความสำคัญกับการตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดประจำเขตเลือกตั้ง รวมถึงสาขา เนื่องจากมีความสำคัญในการทำงานขับเคลื่อนร่วมกับพรรคส่วนกลางรวมไปถึง ส.ส.และรัฐมนตรีของพรรค เพื่อทำงานรับใช้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ จนขณะนี้สาขาพรรคมีถึง 18 สาขา ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด มีจำนวนถึง 312 ราย จำนวนมากที่สุด 

ศปก.ศบค. แนะ ผู้ประกอบการ เตรียมตัวเข้าสู่พื้นที่โควิดฟรีเซ็ตติ้ง เข้ม มาตรการสาธารณสุข-ฉีดวัคซีนครบ 80% ยกตัวอย่าง ร้านก๋วยเตี๋ยวเจี๊ยบเชิญยิ้ม ทำได้ดี ย้ำ พร้อมก่อนเปิดก่อน ทยอยกันไป

ที่ศบค.ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)แถลงข่าวประจำวันในช่วงหนึ่ง ว่า พื้นที่ที่จะพัฒนาให้เป็นโควิดฟรีเซ็ตติ้ง ตามเกณฑ์ของสาธารณสุข คือจะต้องระดมการฉีดวัคซีนของอำเภอนั้นๆ หรือตำบลนั้นๆ ให้ครบ 80% และการจะเปิดกิจการนั้นพนักงานที่จะเปิดร้านจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 100% โดยหลักเป้าหมายทั่วประเทศ เดือนตุลาคมจะเป็นการระดมการฉีดวัคซีน ซึ่งตอนนี้เราจะได้เห็นอัตราฉีดเกิน 8แสนโดสต่อวัน ในทุกจังหวัดจะมีอย่างน้อยหนึ่งอำเภอที่ประชากรจะได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่ง ครอบคลุม 70% และถ้าอำเภอใดหรือตำบลใดได้รับการคัดเลือกเป็นโควิดฟรีเซ็ตติ้งหรือเป็นพื้นที่นำร่องปลอดโควิดจะต้องมีการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 80% ดังนั้นแต่ละจังหวัดจึงมีบริบทที่ต่างกัน บางที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว บางที่เป็นนิคมอุตสาหกรรม หรือบางจังหวัดเป็นตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สามารถพิจารณาจัดสรรได้ตามเหมาะสมตามบริบทของพื้นที่

"ธนาธร" เชื่อชัยชนะอยู่ไม่ไกล ปลุกประชาชนล้มระบอบประยุทธ์ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปใน 5 ด้าน

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 64 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความผ่าน เพจเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 โดยมีข้อความดังนี้

15 ปีรัฐประหาร 19 กันยาฯ ประชาชนยังสู้ และเราจะชนะ

วันนี้เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ผมจำได้ดีว่าตอนนั้นผมกำลังเจรจาธุรกิจอยู่กับบริษัทคู่ค้าในเซาท์แอฟริกา มีสายโทรศัพท์จากประเทศไทยโทรเข้ามาหลายสาย บอกว่าเกิดการทำรัฐประหารขึ้นแล้วในประเทศไทย มีเพื่อนฝูงหลายคนออกมาต่อต้าน พลังหลักปักหลักกันอยู่ที่สนามหลวง

เมื่อผมกลับถึงไทยในสัปดาห์ต่อมา ก็ได้ไปร่วมต่อต้านการทำรัฐประหารกับกลุ่ม ‘19 กันยา’ ตามแต่เวลาและโอกาสจะอำนวย

หลังจากนั้นผมก็พยายามมีส่วนร่วมทางการเมือง เพื่อผลักดันวาระประชาธิปไตยอย่างแข็งขันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการร่วมรณรงค์ไม่รับรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ 50 และ 60 ในกระบวนการประชามติ, การแสดงจุดยืนทางการเมืองไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อเปิดทางให้เกิดการทำรัฐประหาร, การแสดงพลังในฐานะพลเมือง เข้าร่วมการเสวนาและการชุมนุมต่าง ๆ ของฝ่ายประชาธิปไตย (และได้รู้จักปิยบุตรครั้งแรกก็จากการเข้าฟังเสวนาของคณะนิติราษฎร์), แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการบอยคอตการเลือกตั้งและการปิดคูหาการเลือกตั้ง

และนำมาสู่การรวมกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์คล้ายกันก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้น

ผ่านไป 15 ปี ประเทศไทยยังวนเวียนอยู่ในวงจรของการที่สถาบันที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงกับประชาชน พยายามกุมอำนาจสูงสุดเหนือประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ ทำลายกลไกที่เป็นปากเสียงให้แก่ประชาชน ทำลายความชอบธรรมของระบอบรัฐสภา ทำให้พรรคการเมืองและสภาผู้แทนราษฎรเป็นเพียงกลไกค้ำยันอำนาจของชนชั้นนำ แทนที่จะทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน

'ณัฐชา' จี้ ‘ผบ.ตร.’ แจงความคืบหน้ากรณีเหตุยิงผู้ชุมนุมหน้า ‘สน.ดินแดง’ เผย กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เปิดรายงานชี้เป้าผู้ต้องสงสัยมา 5 วันแล้ว แต่ยังไม่เห็นความกระตือรือร้นเร่งคลี่คลายคดีจากตำรวจ

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน ระบุว่า จากการแถลงข่าวเปิดหลักฐานรายงาน เหตุยิงผู้ชุมนุมหน้า สน. ดินแดง เมื่อ 16 ส.ค. ซึ่งผ่านมาเป็นเวลาถึง 5 วันแล้ว จนขณะนี้ยังไม่มีการชี้แจงความคืบหน้าหรือมีคำตอบเพิ่มเติม รวมถึงไม่มีการติดต่อจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอข้อมูลและรายงานฉบับดังกล่าวเพื่อไปทำงานต่อเลย ทั้งที่หลักฐานที่รวบรวมมานั้นค่อนข้างชัดเจน จนสามารถมีข้อสันนิษฐานเบื้องได้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุอาจมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ เพราะถึงแม้วันนั้นจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายจุด แต่ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงว่า เป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดได้ไปรวมกันในพื้นที่สุดท้ายคือหน้า สน.ดินแดง ในจุดที่ไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมหรือประชาชนทั่วไปเข้าไปได้ เราจึงยังรอคำตอบอยู่ว่า กลุ่มบุคคลก่อเหตุที่ปรากฏในหน้า สน.ดินแดง กลุ่มนั้นเป็นใคร และเมื่อมีข้อมูลปรากฏชัดเจนว่ามีกลุ่มบุคคลอยู่ในพื้นที่ควบคุมดูแลเฉพาะของเจ้าหน้าที่ แต่ทำไมเวลาผ่านมาหนึ่งเดือนเต็มแล้วยังหาตัวคนกลุ่มนี้ไม่ได้ เปรียบเทียบกับกรณีของผู้ชุมนุมอื่น ๆ แค่มีภาพปรากฏในกล้องวงจรปิดก็จะเห็นว่าสามารถหาตัวและตามไปถึงบ้านได้ทุกครั้ง ทำไมพอเป็นกรณีที่คาดว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องจึงดำเนินการอย่างล่าช้า ไม่มีความกระตือรือร้นเหมือนกรณีที่ต้องการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม

“คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ ได้ตั้งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงและมีการเปิดเผยรายงานจากการรวบรวมหลักฐานกล้องวงจรปิด 54 ตัว ในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ข้างเคียง รวมถึงได้สัมภาษณ์ผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เด็กชาย A อายุ 14 ปี ถูกยิงหน้าปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 กระสุนเข้าบริเวณหัวไหล่ด้านหลัง ทะลุออกด้านหน้า และเด็กชาย B อายุ 15 ปี ถูกยิงบนถนนฝั่งตรงข้าม สน.ดินแดงกระสุนเข้าบริเวณคอ และฝังอยู่ใกล้แกนสมอง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในอาการโคม่าและครอบครัวยังคงรอความยุติธรรมจากเจ้าหน้าที่ในการติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีจนถึงตอนนี้”

'แอมมี่' แฉเอง ‘เพื่อไทย’ ท่อน้ำเลี้ยงม็อบ 3 นิ้ว ส่วน ‘ก้าวไกล’ ขี้เหนียว – แต่ยังดีที่ส.ส.ช่วยประกันตัว

20 ก.ย.64 นายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ โพสต์เฟซบุ๊ก the bottom blues ถึงกระแสความขัดแย้งทางความคิดระหว่างแฟนคลับพรรคฝ่ายค้าน ก้าวไกล และเพื่อไทย ในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่า “ผมไม่สนหรอก ก้าวไกลหรือเพื่อไทย เรื่องการเมืองมันซับซ้อน และตลกดีนะในขณะเค้าทะเลาะกันมีนักศึกษาคนนึง ผู้ที่เชื่อในอุดมการณ์ติดคุกเพราะกล้าพูดความจริง แทนความในใจของผู้ถูกกดขี่ทั้งหลายที่ไม่เคยแม้แต่จะกล้าส่งเสียงในที่แจ้ง หนุ่มน้อยคนนี้ ชื่อ เพนกวิ้น พริษฐ์ ชิวารักษ์

ผมไม่ได้เชียร์ก้าวไกลนะ แต่ผมเคยถามกวิ้นว่า มึงจะลงเล่นการเมืองใช่มั้ย? กวิ้น มันตอบว่า ไม่เคยคิดเลยพี่ ผมอยากเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ล้านนา นั้นคือความฝันผม ผมถามต่อว่าแล้วนักการเมืองที่มึงชอบอะ ตอนนี้มีใคร มีไหม? มันตอบว่า พี่เจี้ยบ อมรัตน์

ราเมศ เผย คนจะไปก็ต้องไป พรรคไม่หวั่นไหวเดินหน้าทำงานต่อ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มี อดีต ส.ส.จังหวัดปทุมธานี นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ย้ายพรรคไปพรรคเพื่อไทยว่า

ถ้าอยากทราบเหตุผลคงตอบแทนไม่ได้ ต้องไปถามเจ้าตัวถึงเหตุผลของการย้ายพรรค พรรคไม่ได้กังวลใจ พร้อมทำพื้นที่ต่อ มีบุคคลที่มีศักยภาพที่ต้องการลงพื้นที่ดังกล่าว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านผมในฐานะโฆษกพรรคได้ลงช่วยพื้นที่ของ ดร เกียรติศักดิ์ ส่องแสง หลายครั้ง ได้ทำงานร่วมกับพรรคมาด้วยดีตลอด แต่ก็เข้าใจได้ เคารพในการตัดสินใจ คนจะไปอย่างไรก็ต้องไป เป็นเรื่องธรรมดา พรรคเป็นสถาบันทางการเมืองไม่ว่าจะเกิดอะไรในพื้นที่ใด เราก็ต้องเดินต่อ ไม่หวั่นไหว คนที่มีอุดมการณ์เดียวกันต้องการมาร่วมงานกับพรรคอยู่ตลอดระยะเวลา ถ้าหวั่นไหวก็ไม่ใช่สถาบันทางการเมือง

เปิดวาระครม. ดันสารพัดมาตรการช่วยโควิด ทั้งภาษี ค่าตอบแทน ลดค่าเช่า 

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 ก.ย.2564 ที่ประชุมเตรียมหารือถึงข้อเสนอของหลายหน่วยงานทางด้านเศรษฐกิจ โดยกระทรวงการคลัง เสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาษีหลายฉบับ ทั้งการขยายระยะเวลามาตรการยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าที่มีความจำเป็นเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 การยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และคาดว่าจะเสนอร่างกฎหมายการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ครั้งใหม่ รวมไปถึงการทบทวนกรอบสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 60% เป็นไม่เกิน 70% หลังจากผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐเรียบร้อยแล้ว

ส่วนเรื่องอื่น ๆ มีการเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สำหรับการปฏิบัติของศูนย์ปฏิบัติการ แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. – 31 พ.ค. 2564 รวม 120 วัน ด้านกระทรวงสาธารณสุข เสนอร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ศ. .... ส่วนกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เสนอมาตรการปรับลดค่าเช่าให้กับผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เทพไท คัดค้าน จ่ายเบี้ยยังชีพเฉพาะกลุ่ม แนะรัฐบาล จัดงบเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ดีกว่าแจกเงินโครงการประชานิยม

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ปรากฎเป็นข่าวว่า คณะอนุกรรมการนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ มีข้อหารือเรื่อง การกำหนดจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย โดยมีแนวโน้มว่า จะจ่ายเบี้ยยังชีพเฉพาะกลุ่มคนยากจน รวมทั้งมีข่าวว่า การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพเกิดการล่าช้า จนนายอนุกูล ปีดแก้ว รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ได้ออกมายืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ยังเป็นเพียงการหารือขั้นต้น ของคณะอนุกรรมการกำหนดเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งยังต้องมีอีกหลายขั้นตอนนั้น

ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขดังกล่าว เพราะโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นโครงการสำคัญที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย ที่กำหนดให้คัดเลือกผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หมู่บ้านละ5คน ได้รับเบี้ยยังชีพ เดือนละ 300 บาท เพราะข้อจำกัดด้านงบประมาณ และมาเพิ่มเป็นเดือนละ 500 บาทต่อคน ในรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์เท่านั้น นอกจากนั้นไม่มีรัฐบาลใด ให้ความสำคัญพัฒนาต่อยอดโครงการนี้เลย จนมาถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กำหนดให้เป็นนโยบายรัฐสวัสดิการ เปิดโอกาสให้ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคน มีสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพคนละ 500 บาทต่อเดือนทุกคน และได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันไดในปัจจุบันนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top