Saturday, 5 July 2025
Politics

"แรมโบ้" อัด " ทักษิณ" คิดเกมตื้น ท้า ยุบสภา ซัด หยุดคิดชั่ว หวังฟอกตัวเองพ้นผิด เชื่อ ปิดประตูกลับไทย

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ CARE Talk x CARE ClubHouse ว่า นายกฯจะยุบสภาฯหากมั่นใจ คิดว่าบริหารดี มีคนชอบ ว่า การที่นายทักษิณ ท้าทายนายกฯเพราะยังมีความหวังว่าพรรคเพื่อไทยจะได้กลับมามีอำนาจรัฐอีก และสามารถนำนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับประเทศได้ คนไทยส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 นายกฯ รัฐบาล ทีมแพทย์ ร่วมมือกับประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ ตรงกันข้ามนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย กลับนึกถึงแต่เรื่องทางการเมือง หวังผลประโยชน์ของตัวเอง เพื่อให้สมุนลิ่วล้อมีอำนาจรัฐ หวังช่วยตนเองและน้องสาว กลับประเทศให้ได้ เป้าหมายเพื่อฟอกตัวเองให้พ้นผิดคดีทุจริต จึงพยายามคิดวางแผนทุกวิถีทางทั้งใต้ดินหรือบนดิน ทำทุกช่องทาง

นายเสกสกล กล่าวว่า นายกฯ เข้ามาถูกต้อง หากจะออกไปต้องทำตาม กติกาคืออยู่จนครบเทอม หากนายทักษิณ และน้องสาวอยากกลับต้องทำตามกติกาบ้านเมืองเช่นเดียวกัน อย่าได้คิดแผนดีลล้มนายกฯ ล้มรัฐบาลเพราะใครก็รู้ทัน เกมนี้พอดีลไม่สำเร็จผิดหวัง ก็ออกอาการเที่ยวไล่ท้าให้นายกฯยุบสภา หรือลาออก แต่ไม่มีวันสำเร็จเพราะนายกฯไม่เคยคิดเช่นนั้น และหมากตื้นๆเด็กอนุบาลอ่านออก ให้หยุดพฤติกรรมวางแผนชั่วร้ายนี้ได้แล้ว นายทักษิณ อย่าคาดหวังว่าพรรคเพื่อไทย ที่อยู่ในสังกัดจะสามารถช่วยได้ หากดูการทำงานของพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้กับบ้านเมืองยามวิกฤต แทนที่จะช่วยกัน มีแต่เอาปากช่วยอัดซ้ำนายกฯและรัฐบาลตลอดเวลา ตนเองก็มองไม่ออกว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ส.ส.สักกี่คน เพราะพรรคกำลังตกต่ำสูงสุด และในพรรคเพื่อไทยเองยังมีปัญหาภายใน ส.ส.แตกคอกันเละตุ้มเป๊ะ ล่าสุดส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคก็ออกมาลากไส้แฉกันเอง มีแต่จะล่มสลายพังพินาศไปเรื่อยจะมาช่วยอะไรนายทักษิณได้

นายเสกสกล กล่าวว่า ขอให้นายทักษิณ ยอมรับความจริงว่าในเมื่อใช้เล่ห์กลทำทุกวิถีทางที่จะล้มนายกฯ ทั้งเกมในสภาฯและม็อบนอกสภาฯแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ก็ขออย่ามาท้านายกฯให้ยุบสภา หรือเรียกร้องให้ลาออกอีกเลย หากอยากกลับประเทศก็มาติดคุก รับโทษก่อนเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ไม่มีใครห้ามไม่ให้กลับมา แต่เป็นเพราะนายทักษิณและน้องสาวไม่ยอมรับการเข้าสู่กระบวนการกฎหมายเสียเอง ส่วนที่บอกว่าการเมืองเน่า เพราะไม่ปฏิรูป คิดแต่จะสืบทอดอำนาจเป็นกรรมของประเทศ ตนเองอยากให้มองย้อนกลับไปในสมัยยุคนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าการเมืองเน่าเละเฟะที่สุด ไม่เคยคิดปฏิรูปอะไรสักเรื่อง คิดแต่เรื่องโกงกิน ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากมายเต็มบ้านเมือง หากประเทศจะมีกรรมก็เกิดจากทั้งสองคนเข้ามาบริหารประเทศ มีการโกงกิน ทุจริตต่างๆมากมายมากกว่านี่คือกรรมที่แท้จริงของคนไทย

"พอแผนการล้มเหลวก็ออกมาท้าโน่นท้านี่ ผมว่าอยู่ที่ดูไบต่อไปให้สุขสบาย อย่าคิดวางแผนหรือคิดเกมชั่วอีกเลย คนไทยเขารู้ทันทุกเรื่องที่นายทักษิณคิด ยิ่งคิดแผนการชั่วตนยิ่งละอายใจแทน แก่ป่านนี้ยังไม่หยุดคิดทำความชั่วอีกหรือ ระวังตายไปจะตกนรกหมกไหม้ จะชดใช้กรรมไม่รู้จักหมดจักสิ้น ตนเตือนมาด้วยความหวังดี หยุดคิดกลับบ้านเพื่อจะมาฟอกคดีทุจริตที่ทำไว้ได้แล้ว แต่ถ้าจะกลับมารับโทษตามกฎหมาย มาได้ทุกเวลา "รายเากสกล กล่าว

“จุรินทร์” ไม่กังวล ฝ่ายค้านยื่นป.ป.ช.สอบ "เฉลิมชัย" ยัน ชี้แจงชัดเจนแล้วในสภาไม่มีประเด็นน่าสงสัย พร้อมแย้ม ส.ส.เลือดเก่า-เลือดใหม่ไหลเข้า ปชป.  อุบตอบให้รอเปิดตัว เชื่อกำลังเดินขึ้น ทั้งเห็นด้วย พท. ใช้พรรคเดียวเบอร์เดียวทั่วประเทศ ป้องกันปชช.สับสน

ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านจะยื่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เรื่องทุจริตยาง ซึ่งสืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ไม่ได้กังวล ในสภาทุกคนก็เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่านายเฉลิมชัยสามารถชี้แจงได้ชัดเจนครบถ้วนทุกประเด็น ไม่มีประเด็นอะไรที่สภาสงสัยหรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป ฉะนั้นการยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบก็สามารถทำได้จึงไม่มีอะไรน่ากังวล

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณี ส.ส.ภาคใต้ 9 คน จะย้ายกลับมาพรรคประชาธิปัตย์ ว่า คนที่เคยอยู่กับพรรคมาและออกไปก่อนหน้านั้นแล้วประสงค์จะกลับพรรคก็มีหลายคน ที่มาสมัครสมาชิกพรรคแล้วก็มี แต่สำหรับภาคใต้ ตนมอบหมายให้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ และรักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้เป็นผู้รับผิดชอบ ฉะนั้น รายละเอียดทั้งหมดขอให้ถามนายนิพนธ์ แต่ในภาพรวมเป็นไปตามแนวทางที่พรรคดำเนินการอยู่ขณะนี้ คือ แนวทางที่จะเดินหน้านำเลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ ซึ่งขณะนี้นอกจากมีคนเก่ากลับพรรคแล้ว ก็ยังมีคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรคในทุกภาค เฉพาะในภาคใต้ก็ได้ประกาศตัวคนรุ่นใหม่ที่ จ.ระนองไปแล้ว ส่วนจ.ภูเก็ตก็จะเพิ่มจำนวน ส.ส.จาก 2 คน เป็น 3 คน ทั้งนี้ จะเรียนให้ทราบต่อไปว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งยังไม่ขอตอบว่าจะมี ส.ส.ทั้งเลือดเก่าและเลือดใหม่เข้ามาพรรคทั้งหมดกี่คน เมื่อถึงเวลาจะทยอยเรียนให้ทราบและจะมีการเปิดตัวเป็นนระยะ

เมื่อถามว่าการที่คนเก่าๆ กลับมาอยู่กับพรรคอีกครั้ง บ่งบอกว่าประชาชนในพื้นที่กำลังคิดอะไรอยู่ได้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในทุกภาค ทุกคนพูดตรงกันว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังเดินขึ้น ไม่ได้เดินลง ฉะนั้น จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนมีกำลังใจ สมาชิกคนเก่ากลับพรรค คนรุ่นใหม่ก็มาเติมให้เรามีพลังมากขึ้นในการที่จะเดินหน้าพาพรรคประชาธิปัตย์ไปรับใช้ประชาชนอย่างเต็มกำลังให้มากขึ้นในอนาคตต่อไป

เมื่อถามว่าจากผลงานที่ผ่านมาคะแนนนิยมของพรรคมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องผลงานตนมั่นใจว่าประชาชนตอบรับมากขึ้น และพรรคประชาธิปัตย์มีผลงานเป็นรูปธรรมเป็นที่ประจักษ์อย่างน้อย 2 เรื่อง ที่เราได้กำหนดไว้เป็นเงื่อนไขก่อนเข้าร่วมรัฐบาล คือ 1.ประกันรายได้เกษตรกร 2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันนี้อย่างน้อย 2 เรื่องนี้ก็เป็นที่ประจักษ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการให้เห็นผลสัมฤทธิ์เป็นจริงได้ เรื่องประกันรายได้นั้นภายในแค่ 4-5 เดือนเราก็สามารถโอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรได้ จึงเป็นที่มาที่มีการพูดกันว่าพรรคประชาธิปัตย์อุดมการณ์ทันสมัย ทำได้ไว ทำได้จริง เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญแม้จะต้องใช้เวลาบ้าง แต่วันนี้ก็ปรากฏชัดว่าอย่างน้อยที่สุดก็สามารถผ่านความเห็นชอบวาระ 3 ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเล็กจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้าสามารถรวมเสียงได้ 1 ใน 10 ก็ยื่นได้ ส่วนตัวไม่มีอะไรกังวลเพราะเป็นเงื่อนไขและกระบวนการที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะเป็นผลดีก็ได้จะได้ไม่ต้องคาใจ ว่ากระบวนการในการดำเนินการหรือประเด็นอื่นๆ เป็นไปโดยชอบตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

ถามต่อว่าเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านไปแล้วไม่มีประเด็นใดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าไม่ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ เพราะทุกประเด็นผ่านขั้นตอนกระบวนการพิจารณาโดยชอบ มิเช่นนั้นจะนำไปสู่การลงมติร่วมกันในวาระ 3 ไม่ได้ และระหว่างทางก็มีการเสนอญัตติซึ่งสุดท้ายเสียงส่วนใหญ่พิจารณาแล้วก็เห็นตรงกันว่า สามารถดำเนินการได้และทุกอย่างเป็นไปโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามถึงการผลักดันพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูก มีการเตรียมการอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ประชุมส.ส.และมีมติตั้งคณะทำงานชุดหนึ่ง เพื่อดำเนินการยกร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์มองว่าจะแก้ไขกฎหมายลูกนั้น ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอพรรคเพื่อไทยที่จะแก้ไขบัตรเลือกตั้งให้เป็นแบบพรรคเดียวเบอร์เดียว จะได้ไม่สร้างความสับสน หากใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้วใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศก็จะง่ายต่อประชาชนที่จะเลือก เพราะหากใช้แบบหนึ่งเขตก็หนึ่งเบอร์ การหาเสียงหรือชี้แจงต่อประชาชนก็จะยากลำบาก การใช้เบอร์เดียวพรรคเดียวเป็นการเสริมสร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็งขึ้น พรรคจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น เนื่องจากพรรคการเมืองเป็นกลไกสำคัญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉะนั้น รูปแบบใดก็ตามที่นำไปสู่การทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งได้ก็เป็นเรื่องที่ดี

“บิ๊กตู่”นำถกคกก.ยุทธศาสตร์ชาติ “ย้ำ” ประเทศไทยต้องมีแผนหลักทั้งฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติ ไม่ให้เดินคนละทิศละทาง ทำหลายอย่างเชื่องช้า

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบ วิดิโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการหารือร่วมกันในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติของเรา ทำตามวิสัยทัศน์จะทำอย่างไรให้ประเทศชาตินั้นมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทั้งนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีแผนหลัก ในการดำเนินการ ทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เช่นนั้นเราจะเดินไปคนละทิศคนละทางไปข้างหน้า ทำให้หลายอย่างนั้นเชื่องช้า

'ราเมศ' มั่นใจ แก้ รธน. ถูกต้องตามกระบวนการนิติบัญญัติ 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวถึงเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ได้ผ่านวาระสามไปแล้ว ว่า 

ไม่กังวลที่มี ส.ส.ในส่วนของพรรคเล็กที่กำลังรวบรวมรายชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถ้ารวบรวมรายชื่อได้ครบ หนึ่งในสิบของจำนวน ส.ส.หรือ หนึ่งในสิบของจำนวน ส.ส. หรือ ส.ว. รวมกัน ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่มั่นใจในกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ได้ดำเนินการถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ทั้งสามวาระไม่มีขั้นตอนใดที่ผิดหลักการความถูกต้อง 

ส่วนการพิจารณาในชั้นรับหลักการ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) ฉบับที่ .. พ.ศ. .… (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) ที่ว่าด้วยเรื่องระบบเลือกตั้งนั้น การที่รัฐสภารับหลักการมาในร่างดังกล่าวซึ่งมีหลักการและเหตุผลเป็นเรื่องการแก้เรื่องระบบการเลือกตั้งอย่างชัดเจน  ในวาระที่สองคือในชั้นคณะกรรมาธิการ ก็ต้องมีการพิจารณาให้มีความละเอียดรอบคอบ หากมีมาตราใดที่เกี่ยวข้องกับระบบเลือกตั้ง หากต้องการปรับแก้ในมาตราใดข้อความใดเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการและเหตุผลคือในส่วนของระบบเลือกตั้งก็สามารถทำได้ ทั้งในส่วนของกรรมาธิการและสมาชิกรัฐสภาที่ยื่นแปรญัตติไว้ 
 
ที่สำคัญข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ข้อที่ 124 ได้ระบุไว้ชัดว่า การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในชั้นคณะกรรมาธิการสมาชิกรัฐสภาสามารถที่จะแปรญัตติได้และในวรรคที่สามได้ระบุไว้ชัดอีกว่าการแปรญัตติเพิ่มมาตราขึ้นใหม่หรือตัดทอน หรือแก้ไขมาตราเดิมต้องไม่ขัดกับหลักการแห่งร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีเจตนารมณ์ชัดว่าสมาชิกสามารถดำเนินการได้ตรวจตราในมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักการได้ด้วย เพื่อให้รัฐธรรมนูญเมื่อแก้ไขแล้วสามารถบังคับใช้ได้โดยไม่ขัดหรือแย้งกัน ก็มีการปรับข้อความในมาตรา 86 ในเรื่องจำนวนตัวเลข จากจำนวน ส.ส.ในระบบเขตจำนวน 350 คน เป็น 400 คน เพื่อให้ข้อความสอดคล้องกับมาตรา 83 ที่มีการขอแก้ไขจำนวน ส.ส.ให้มี ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง 400 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน หากไม่มีการปรับข้อความในมาตรา 86 ก็จะขัดแย้งกัน 

สรุปมีการพิจารณาแก้ไข 3 มาตรา คือ มาตรา 83 มาตรา 86 และมาตรา 91 ไม่มีการเพิ่มเติมส่วนไหนที่ขัดกับหลักการของร่างแต่อย่างใด ทุกกระบวนการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด 

นายราเมศ กล่าวต่อว่า การแก้ไขระบบเลือกตั้ง เป็นแบบบัตรเลือกตั้งสองใบ ถ้าคิดว่าหลักการดี อย่าไปคิดว่าพรรคใดจะได้ประโยชน์ เพราะต้องถือว่าประเทศ ประชาชนได้ประโยชน์ ท้ายที่สุดอยู่ที่ประชาชน หากได้ส่งเสริมให้พรรคการเมืองเกิดความเข้มแข็ง ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพมากขึ้นในการใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งผู้สมัครและพรรค ก็เป็นผลดีต่อระบบประชาธิปไตยในอนาคต จึงไม่อยากให้คิดบนพื้นฐานอคติ หรือคิดเพื่อประโยชน์ส่วนตนของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะถ้าคิดเช่นนั้นยากต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในอนาคต

นายกฯเตรียมหารือพบปะผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ตามโครงการ Factory Sandbox  ป้องกันโควิด-19 ณ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) ศุกร์ 17 กันยายน นี้ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินโครงการ Factory Sandbox  พร้อมกล่าวมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ จำกัด (แหลมฉบัง) ก่อนพบปะกับผู้บริหารและนักลงทุนญี่ปุ่นเพื่อหารือแนวโน้มการลงทุนและการส่งออกในวันศุกร์ 17 กันยายน นี้  

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ มีความตั้งใจจะไปติดตามโครงการ Factory Sandbox ซึ่งเป็นหนึ่งโครงการนำร่องในการป้องการและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน ในเฟสแรก ดำเนินการไปแล้วใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร และชลบุรี ในส่วนเฟสสองขยายต่ออีก 3 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ เป็นมาตรการภาครัฐในการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานและเดินหน้าสถานประกอบการ ช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ชลบุรี ถือว่ามีโรงงานขนาดใหญ่จำนวนมากและมีผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ประมาณ 700,000 คน  และมีสถานประกอบการ 17 แห่งที่ดำเนินโครงการฯ

ทั้งนี้  โครงการ Factory Sandbox  จะนำใช้กับโรงงานขนาดใหญ่ที่มีแรงงานมากกว่า 500 คนขึ้นไป เป็นสถานประกอบกิจการที่ผลิตเพื่อการส่งออก ควบคู่กับการดำเนินการ Bubble and Seal กำหนดให้ลูกจ้างเดินทางกลับที่พักโดยตรงไม่แวะระหว่างทาง และอยู่แต่ในเคหะสถานเท่านั้น จัดให้มีการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR จำนวน 1 ครั้ง ให้ลูกจ้างทั้งหมด และตรวจแบบ Self-ATK (Antigen Test Kit) ทุก 7 วัน  พร้อมจัดสรรให้ได้รับวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ด้วย

“นายกรัฐมนตรีต้องการดูแลพี่น้องแรงงานของไทยและแรงงานต่างด้าวอย่างดีที่สุด เพราะแรงงานเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนธุรกิจอุตสาหกรรมของไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ สำคัญให้คนไทยมีงานทำ มีรายได้เพื่อดูแลตนเอง ครอบครัวและยังเพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งไปพร้อมๆกันอีกด้วย” นาย ธนกรกล่าว

"ก้าวไกล"อัด "นายกฯ " ไร้ความรับผิดชอบ เหตุไม่ให้ความสำคัญมาตอบกระทู้สภาฯ เรื่อง “แต่งตั้งตำรวจ-คดีบอส กระทิงแดง”

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม  เพื่อพิจารณากระทู้ถามทั่วไป เรื่องขอทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายตำรวจและการคัดเลือกตำรวจราบในพระองค์ของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาตอบ แต่ติดภารกิจสำคัญจึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ออกไปก่อน

ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยากทราบว่าเหตุใดนายกฯมอบหมายให้รมช.กลาโหมมาชี้แจงแทน ทั้งที่ไม่ได้มีภารกิจกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกฯได้แจ้งประธานที่ประชุมหรือไม่ และที่ติดภารกิจอยากทราบว่าติดภารกิจอะไร เพราะทำให้สมาชิกสภาฯมีคำถาม และคำถามเรื่องตำรวจนั้น ประชาชนให้ความสนใจ และเพิ่งมีเหตุเกิดขึ้นที่จ.นครสวรรค์ การที่นายกฯไม่มาตอบทั้งที่การทำหน้าที่วันสุดท้ายของสภาฯในการประชุมสภาฯสมัยนี้ ทำให้ต่อไปต้องไปตอบคำถามในราชกิจจานุเบกษาแทน และได้คำตอบไม่ลงลึก การอ้างว่าติดภารกิจนั้น นายกฯต้องมีหน้าที่สแตนบายเพื่อมาตอบคำถามสมาชิกสภาฯ ซึ่งท่านมีเหตุผลอะไร ไม่เช่นนั้นตนต้องไปถอนกระทู้นี้ เพื่อมาถามใหม่ในสมัยประชุมหน้า

ด้านศุภชัย กล่าวว่า สภาฯได้รับหนังสือแจ้งจากรมช.กลาโหมว่าติดภารกิจสำคัญที่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้า ไม่สามารถมาตอบกระทู้วันนี้ได้ จึงขอเลื่อนออกไปก่อนเหตุผลก็มีเท่านี้ นายกรัฐมนตรีก็ติดภารกิจจำเป็นได้แจ้งมาที่สภาฯแล้ว ส่วนทำไมนายกฯมอบให้รมช.กลาโหมมาชี้แจงแทนนั้น ตนก็ไม่ทราบ เพราะเป็นภารกิจที่นายกฯมอบหมาย อาจจะเป็นเรื่องความมั่นคง

จากนั้นเวลา 13.15 น.เป็นพิจารณากระทู้ถามทั่วไปเรื่องขอให้ติดตามความคืบหน้าและดำเนินการกับผู้กระทำความผิดคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ของนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แต่ประธานที่ประชุมแจ้งว่า ทางสำนักเลขาธิการนายกฯแจ้งว่านายกฯ มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบคำถามในกระทู้นี้แทน แต่เนื่องจากนายวิษณุ ติดภารกิจจึงได้ขอเลื่อนการตอบกระทู้นี้

ทำให้นายธีรัจชัย ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับประชาชนและเกี่ยวเนื่องกับผลกระทบกระบวนการยุติธรรมที่เสื่อมความน่าเชื่อถือ พบว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ตนต้องการถามนายกฯ แต่นายกฯไม่รับผิดชอบ กลับมอบหมายให้นายวิษณุมาแทน แต่ก็ติดภารกิจสำคัญอีก เราไม่มีมาตรการในการจัดอะไรกับฝ่ายบริหารเลยหรือที่หนีการตอบกระทู้ ที่เป็นสิ่งสำคัญ มันเป็นการชะลอความจริง และชะลอปัญหา อาจเอื้อให้บางฝ่ายได้แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมนี้ 

“ประเทศนี้มันอะไรกัน เรื่องนี้เป็นหลบหนีความจริง มีวาระซ่อนเร้นที่จะไม่ตอบ ไม่ตอบวันนี้หมายความว่ากระทู้นี้ต้องไปตอบในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะตอบแบบใดก็ได้ หมายความว่าคนที่ทำผิดจะไปทำอะไรก็ได้ อำนาจนิติบัญญัติไม่มีความหมายแล้วหรือ ขอให้สภาฯช่วยกระทุ้งฝ่ายบริหารรับผิดชอบฝ่ายนิติบัญญัติมากกว่านี้ และการจับกุมนายวรยุทธ มีความคืบหน้าไปถึงไปไหนอย่างไรแล้ว” นายธีรัจชัย กล่าว

ทำให้นายศุภชัย ชี้แจงว่า นายกฯสามารถเลื่อนการตอบกระทู้ได้ และทำหนังสือมาชี้แจงสภาฯ นายธีรัจชัยมีทางเลือกคือ ถ้ายังอยากถามเรื่องนี้ในที่ประชุมสภาฯ สามารถถอนเรื่องออกไปก่อนได้ แล้วเปิดสมัยประชุมหน้าก็ยื่นกระทู้ถามใหม่ เพื่อให้นายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบคำถาม 

“บิ๊กตู่” สั่งช่วยเยียวยาช่วยเหลือกลุ่มศิลปินเจอพิษโควิด 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคเอกชนในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และกลุ่มศิลปิน เพื่อหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ร่วมกับกลุ่มศิลปินพื้นบ้าน  กลุ่มศิลปินแห่งชาติ ศิลปินศิลปากร  กลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรมบันเทิง โรงงานและภาพยนต์ และภาคเอกชน กว่า 40 องค์กร โดยนายกฯ เห็นใจศิลปินพื้นบ้าน บุคลากรด้านศิลปวัฒนธรรมและผู้อยู่ในอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19  โดยรัฐบาลได้ช่วยเหลือเยียวยาผ่านมาตรการต่างๆ ทั้ง การช่วยเหลือผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 และการลดภาษี

ทั้งนี้ นายกฯ ยังห่วงใยกลุ่มศิลปินบางส่วนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากข้อมูลตกหล่น จึงขอให้กระทรวงวัฒนธรรมเร่งประสาน รวบรวมรายชื่อและจำนวนบุคคลให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อภาครัฐจะได้จัดสรรทั้งวัคซีค รวมทั้งชุดตรวจ ATK ให้เหมาะสม ขณะเดียวกัน ก็จะได้ให้มีการขึ้นทะเบียนเพื่อให้เข้าถึงการเยียวยาของรัฐบาล และยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งในเครือข่ายของกลุ่มศิลปินทุกแขนงด้วย 

พร้อมกันนี้ยังรับข้อเสนอเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ อาทิ การเปิดโรงภาพยนตร์ มหรสพ การผ่อนปรนให้กองถ่ายสามารถทำภาพยนตร์สามารถถ่ายทำได้ โดยจะมอบหมายให้ ศบค. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขพิจารณามาตรการรองรับป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง จะต้องมีท้องถิ่นเข้าดูแลการถ่ายทำในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรวมกลุ่มของคนมากเกินไป 

ขณะเดียวกันยัง ได้สั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรมประสานเครือข่าย/กลุ่มศิลปิน เพื่อจัดทำข้อมูลให้ครอบคลุมและชัดเจน มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากมาตรการลดภาษี การช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึง Soft Loan แหล่งเงินทุน จากงบประมาณที่มีเหลืออยู่ จาก พรก. กู้เงินฯ โดยจะได้มีการนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ตัวแทนควบคุมฝูงชน ยอมรับต่อ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ หาก คฝ. คนใดใช้ความรุนแรง ต้องรับผิดชอบเอง

วันที่ 15 ก.ย. 64 ในที่ประชุมกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ วาระพิจารณาข้อเรียกร้องขอให้ปกป้องสิทธิและคุ้มครองประชาชนจากการกระทำความรุนแรงของเจ้าหน้าที่และขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่อันเข้าข่ายเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมี พ.ต.ท. วชิรพงศ์ แก้วดวง รองผู้บังคับการหน่วยอารักขาและควบคุมฝูงชน หรือรองผบก.อคฝ.ชี้แจงต่อกรรมาธิการว่าเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดงตลอด 32 วันที่ผ่านมา มีปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ คฝ.ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น 

พ.ต.ท.วชิรพงศ์ เปิดเผยว่าทางต้นสังกัดไม่มีคำสั่งและแนวทางให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งหากพบเจ้าหน้าที่คนใดใช้ความรุนแรง เจ้าหน้าที่คนนั้นต้องรับผิดชอบเองไม่เกี่ยวกับต้นสังกัด 

ด้าน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการ เปิดเผยว่า คำชี้แจงของพ.ต.ท.วชิรพงศ์เป็นการปัดความรับผิดชอบอีกทั้งยังผลักให้ผู้ใต้บังคับบัญชากลายเป็นผู้ร้าย ทั้งที่เจ้าหน้าที่ คฝ. ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของต้นสังกัด ซึ่งหากการชี้แจงเป็นเช่นนี้ทางกรรมาธิการต้องเชิญให้เจ้าหน้าที่ คฝ. ที่ปรากฏในคลิปที่มีการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนทั้ง 14 คลิป เพื่อเรียกตัวเข้ามาสอบถามเพิ่มเติมว่าการตัดสินใจต่อสถานการณ์ตรงหน้าเป็นการใช้ดุลพินิจส่วนตัวหรือมีคำสั่งให้ใช้ความรุนแรง 

ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนจำเป็นต้องปฏิบัติงานในพื้นที่การชุมนุม อาจส่งผลให้อยู่ในช่วงเคอร์ฟิวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า สื่อมวลชนที่มีบัตรอนุญาตทุกคนจะได้รับผ่อนปรน แม้จะเป็นเคอร์ฟิวก็ตาม ด้านประธานกรรมาธิการจึงเสนอให้มีการผ่อนปรนต่อเจ้าที่พยาบาลอาสาทุกคนโดยใช้มาตรฐานเดียวกันกับสื่อมวลชนด้วย

‘แสนยากรณ์’ ซัดเพจ ‘ประเทศกูมี’ แพร่ภาพตัดต่อ-ข้อความเท็จ แต่อ้างสู้เพื่อประชาธิปไตย

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีเพจเฟซบุ๊ก "ประเทศกูมี" เผยแพร่ภาพตัดต่อประกาศรับสมัครผู้สมัครเป็น ส.ส. พรรคกล้า โดยเอาภาพบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาใส่ในประกาศ เข้าข่ายเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ จงใจให้ผู้อื่นเข้าใจผิด ใส่ร้ายกล่าวหาให้คนเข้าใจผิดว่าพรรคกล้าเชิญทหารมารัฐประหาร กล่าวหาว่ากล้าที่จะทุจริต เป็นการกล่าวเท็จจงใจให้พรรคกล้าเกิดความเสียหาย 

"ถึงจะอ้างว่าสู้เพื่อประชาธิปไตย หรือมองว่าพรรคกล้าเป็นฝ่ายตรงข้าม เราไม่ก้าวล่วง แต่เล่นการเมืองสกปรก ชกใต้เข็มขัด ใช้วิธีตัดต่อภาพ เขียนข้อมูลเท็จ แบบนี้ไม่เอานะน้อง ๆ จะโจมตีคนอื่น ก็ขอให้ใช้วิธีที่มีศักดิ์ศรีหน่อย ทำแบบนี้มันน่ารังเกียจ และขอให้แนวร่วมเลิกติดตามเพจประเทศกูมี เพราะอาจเอาข้อมูลเท็จมาขยายอีกก็ได้" นายแสนยากรณ์ กล่าว 

นายแสนยากรณ์ กล่าวว่า เราหวังให้บ้านเมืองปฏิรูป สังคมมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ยึดมั่นถือมั่นในประชาธิปไตย แต่การใช้วิธีบิดเบือนข้อมูล ถือว่าคนกระทำผิดไม่เคารพหลักประชาธิปไตย ละเมิดสิทธิ์ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด และเป็นเรื่องน่าเศร้าหากฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายปกป้องประชาธิปไตย บอกตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ แต่พฤติกรรมเก่าใช้วิธีสกปรกแบบนี้ ถ้าไม่อายคนอื่น ก็ขอให้อายพวกเดียวกันบ้าง และอยากจะให้แนวร่วมที่เห็นช่วยเตือนพวกเดียวกันเอง อย่าใช้วิธีทางการเมืองแบบนี้อีก หรือขอให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้

"ชินวรณ์" ยันสูตรคำนวณบัญชีรายชื่อ ไม่มีใครใช้กลเกมเพื่อประโยชน์พรรคใดพรรคหนึ่ง ชี้ เป็นสิทธิแต่ละพรรคยื่นศาลรธน.ตีความแก้กฎหมาย

ที่รัฐสภา นายชินวรณ์  บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องระบบเลือกตั้ง มาตรา 91 ว่า จะเป็นการคำนวณตามสัดส่วนสัมพันธ์โดยตรงจากคะแนนบัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของแต่ละพรรค พร้อมยืนยันไม่มีใครจะใช้กลเกมเพื่อประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่งได้ แต่เพื่อการพัฒนาระบบพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้ยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กับร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนส่งให้รัฐสภาพิจารณา ขณะเดียวกันพรรคการเมืองก็สามารถเสนอร่างกฎหมายคู่ขนานในการพิจารณาได้

นายชินวรณ์ กล่าวถึงการยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมระบบเลือกตั้งของพรรคการเมืองพรรคเล็ก ว่าเป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่จะทำได้ ตามช่องทางรัฐธรรมนูญปี 256 (9)  โดยพรรคการเมืองจะต้องรวบรวมเสียงในการยื่นให้ได้ 1 ใน 10 ของจำนวนรัฐสภา หรือ 73 คนขึ้นไป แต่เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะยื่นศาลตีความตามข้อเรียกร้องของฝ่ายการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ 148 (2) และย้ำว่าในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ทุกคนเข้าใจกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้แล้ว เว้นแต่คนที่เห็นว่าร่างฉบับดังกล่าวไม่ได้สมประโยชน์ของตัวเอง จึงใช้วิธีการแบบอื่น อาจทำให้คนมองได้ว่าไม่ได้เป็นการยื่นตีความ แต่เป็นการตีรวนไป  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top