Tuesday, 24 June 2025
Politics

"กรณ์-อรรถวิชช์" เปิด "ศูนย์สู้โควิด คลองสามวา" ช่วยประชาชนกทม.ตะวันออก สู้วิกฤตโควิด-19 ย้ำโครงการ "กล้าสู้โควิด-กล้าเติมอิ่ม-กล้าหางาน" ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค, นายสมัย เจริญช่าง ประธานคณะกรรมการจริยธรรมพรรค ร่วมงานเปิด "ศูนย์สู้โควิด คลองสามวา" ตั้งโดยนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. และนายมนูญ อินช่วย ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก. ที่ปั๊มน้ำมัน SUSCO ถนนหทัยราษฏร์ เพื่อไปศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือรวบรวมสิ่งของ อาหาร ฉีดพ่นในพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. ตะวันออก โดยการสนับสนุนสถานที่จากนายภิมุข สิมะโรจน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท SUSCO จำกัด (มหาชน) 

นายกรณ์ กล่าวว่า แม้พรรคกล้ายังไม่มี ส.ส.ในสภาฯ แต่ได้ระดมสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนจนในเขตเมือง ระดมตัวแทนทั้ง 50 เขต นำโดยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค ตั้งแต่โครงการ "กล้าสู้โควิด" ช่วยหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อได้นับร้อยคน และส่วนใหญ่รักษาจนหายกลับไปที่บ้านแล้ว, โครงการ "กล้าเติมอิ่ม" ตั้งโรงครัว แจกข้าวกล่อง ช่วยเหลือประชาชนที่ขาดรายได้ กักตัวไม่สามารถออกมาจากบ้านได้ และโครงการ "กล้าหางาน" ที่เพิ่งเปิดเมื่อต้นสัปดาห์ เพื่อบรรเทาผลกระทบการว่างงานจากวิกฤตโควิด-19 ช่วยประชาชนที่ว่างงานได้มีงานทำ 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจเขตนี้ ที่ช่วยกันสร้างค่านิยมการลงมือทำ ช่วงการเมือง 10 ปีแบ่งฝั่งซ้ายฝั่งขวา แต่พรรคกล้าต้องการเปลี่ยนสังคมและวัฒนธรรมทางการเมืองด้วยการลงมือทำ ไม่ต้องมีใครมาโหนใครข้างไหนทั้งนั้น และยิ่งโควิดครั้งนี้ อันตรายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ดีใจและขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกันวันนี้

นายสมัย เจริญช่าง ประธานคณะกรรมการจริยธรรมพรรค กล่าวว่า วันนี้คลองสามวาได้คนรุ่นใหม่อย่างนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. และนายมนูญ อินช่วย ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก. มาทำงานต่อเนื่องก็อยากฝากพี่น้องประชาชนว่า นายณัฐนันท์จะมีโอกาสได้ทำงานมากกว่านี้หากมีสถานภาพเป็นตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และนายมนูญจะได้ทำงานระดับท้องที่ท้องถิ่นได้มากขึ้น 

นายสมัย ยังกล่าวถึงปัญหาการกระจายวัคซีนในพื้นที่คลองสามวา เป็นเขตที่มีประชากรกว่า 2 แสนคน แต่มีสถานที่ฉีดวัคซีนเพียงแห่งเดียวคือโรงพยาบาลคลองสามวา และเป็นโรงพยาบาลที่เพิ่งเปิดใหม่ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรแล้ว แน่นอนว่าไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ และหลาย ๆ คนเข้าไปสมัครลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน Application หมอพร้อมไม่ได้ แม้บางรายก็ยังไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง แต่โดยภาพรวมก็ทำให้ประชาชนเกิดความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น หวังว่าพรรคกล้าจะนำบทเรียนความผิดพลาดเหล่านี้ นำไปสู่การกำหนดนโยบายแก้ไขปัญหาต่อไปในอนาคต

ศบค. ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 2 เดือน ถึง 31 ก.ค.

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ครั้งที่ 7 / 2564 ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค. เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่มีข้อสรุปให้ขยายเวลา การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 12 โดยเห็นชอบให้ขยายตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 โดยเหตุผลเพื่อการควบคุมโรคระบาด โควิด-19 เป็นหลัก
 

ทอ. ส่งเจ้าหน้าที่ฉีดพ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด ตลาดยิ่งเจริญก่อนเปิดบริการ

พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ นำคณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ นิวเคลียร์ ชีวะ เคมี กองทัพอากาศ จากศูนย์วิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการบินและอวกาศ กองทัพอากาศ ทำการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เพื่อทำความสะอาดภายในตลาดยิ่งเจริญ หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จำนวนมาก จากการตรวจหาเชิงรุก แก่ผู้ค้า ผู้ช่วยค้า แรงงานข้ามชาติ และชุมชน ครอบคลุมพื้นที่ตลาดยิ่งเจริญ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมเป็นต้นมา

โดยเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศ ได้ทำการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ตั้งแต่บริเวณโซนปลาน้ำจืดถึงโซนอาหารทะเล, โซนอาคารยาว ตลาดท้ายเพชร, เต็นท์ยักษ์ ลานจอดรถที่ 3, โซนพลาซ่า, อาคาร 60 ปี, อาคาร 800 ตารางเมตร และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงตลาดยิ่งเจริญ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการต่อไป

ทั้งนี้ กองทัพอากาศ ยังคงดำเนินการตามมาตรการบรรเทาและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง อีกทั้งยังดำรงความพร้อมของทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขในการรับมือกับสถานการณ์และแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรค เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุขโดยเร็ว

แจงแทน “แรมโบ้” ออกโรงยืนยันผลงานรัฐบาลหลังเลือกตั้ง 2 ปีมีมากมาย ขอประชาชนเชื่อมั่น “บิ๊กตู่” ทำงานเพื่อประชาชน

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ว่าตั้งแต่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีผลงานหลายอย่างและปฏิรูปประเทศไปแล้วในหลายด้าน ทั้งการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน มอเตอร์เวย์ ทางด่วน วงแหวน อุโมงค์  การขนส่งทางราง ที่มีสถานีกลางบางซื่อ การเชื่อมโยงรถ-เรือ-ราง เร่งสร้างรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ และเรือ Smart ferry เจ้าพระยา เรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ รวมถึงการปฏิรูปคุณภาพชีวิตชาวชุมชน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ แนวทางแก้ปัญหาเมืองหลวง แก้ปัญหาผู้มีรายได้น้อย ปฏิรูปสู่ยุคดิจิทัล ปฏิรูปกฎหมายปลดล็อกประเด็นสังคม และระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึงการปฏิรูประบบสวัสดิการแห่งรัฐ การศึกษา ระบบบำนาญเพื่อทุกคน ปฏิรูปภาคการเกษตร จัดสรรที่ดินทำกินเกษตรกร และปฏิรูปประเทศด้วย “นวัตกรรม” โดยผลักดัน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย สร้าง EEC ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งและโทรคมนาคม เป็นต้น

นายเสกสกล กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ปฏิรูปเยียวยายามวิกฤตในช่วงที่ประเทศเกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชน รวมถึงการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มีการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ควบคู่ไปกับการหามาตรการมาเยียวยาด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันได้เร่งจัดหาวัคซีน เพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุดและให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนทุกคนโดยประกาศ การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติด้วย ที่ผ่านมาตั้งแต่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน นายกฯ มีความตั้งใจและทำงานอย่างเต็มที่ในการที่แก้ไขปัญหาที่สะสมมานานรวมถึงการพัฒนาประเทศในทุกด้าน จึงอยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ ว่าตลอดการทำงานนั้นทำเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่และสุดความสามารถ

"ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าในช่วง 2 ปีหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา รัฐบาลนี้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และมากกว่ารัฐบาลในอดีตมากมาย ดังนั้นฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามที่พูดจาใส่ความนายกฯ และรัฐบาลว่าไม่มีผลงานใด ๆ ก็ขอให้ประชาชน อย่าได้เชื่อข้อมูล เพราะฝ่ายค้านต้องการโจมตีรัฐบาลเพื่อกลับมามีอำนาจเป็นรัฐบาลเสียเองโดยไม่เอาข้อมูลความจริงมาพูด เพราะเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องทำหน้าที่ค้าน ซึ่งบางคนก็ค้านอย่างไร้เหตุผล" นายเสกสกล กล่าว

‘บิ๊กตู่’ สั่ง เข้มชายแดน ฟันไม่เลี้ยงนายหน้า-จนท.ลักลอบพาคนเข้าประเทศ ด้าน ตชด.เตรียม 14 รพ. สนาม รับมือต่างด้าวข้ามแดนผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายก เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ให้เข้มงวดเรื่องการป้องกันการลักลอบเข้าประเทศไทยอย่างสูงสุด เพราะขณะนี้ยังมีการลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้ลาดตระเวนอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด 

นายกฯ ยังกำชับเรื่องความพร้อมในเรื่องสถานที่กักกันตัวในระดับท้องถิ่น และโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่จ.ชายแดน เพื่อเตรียมรับการเดินทางกลับเข้าประเทศของคนไทยตามช่องทางทางบก และกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่ม 14 แห่ง เพื่อรองรับแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ข้ามแดนผิดกฎหมาย เป็นการยับยั้งไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปยังชุมชน และยังเน้นย้ำให้จับกุมนายหน้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกรายที่เกี่ยวกับกระบวนการนำคนต่างชาติเข้ามาเป็นแรงงานอย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือพลเรือน เพราะเป็นการกระทำที่เลวร้าย เพิ่มความเสี่ยงต่อการการแพร่ระบาดโควิด19ในประเทศไทย

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ทั้งนี้การแจ้งข้อมูลและเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายที่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคและกรณีเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับการการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สามารถแจ้ง ผ่านสำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 และศูนย์บริการประชาชน 1111 ในส่วนแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย มีจำนวนเรื่องสะสมตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.-20 พ.ค.แล้ว 45 เรื่อง ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 42 เรื่อง จับกุมดำเนินคดี 11 คดี มีผู้กระทำความผิด 66 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการ 3 เรื่อง

“สิระ” ข้องใจ ”อิตาเลียนไทย” ปล่อยแรงงานต่างด้าวติดโควิดสายพันธุ์อินเดีย ถาม ใช่แรงงานเถื่อนหรือไม่ จี้ “ประยุทธ์” ดูแลปชช. หยุดอุ้มนายทุน วอน ขอวัคซีนให้คนหลักสี่อย่างเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงตรวจพบคนงานติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากอยู่ที่แคมป์หลักสี่ และมีคนงาน 15 รายที่ตรวจพบ “โควิดสายพันธุ์อินเดีย” หรือ B 1.1617.2 ว่า ตนขอตั้งคำถามว่า เหตุใดแรงงานเหล่านี้ถึงติดโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาหรือไม่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ( มหาชน ) ต้องออกมาชี้แจงกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะบริษัท อิตาเลียนไทย เหมือนทำลายชาติ คิดถึงแต่เรื่องธุรกิจ ไม่คำนึงถือผลประโยชน์ส่วนรวม 

นายสิระ กล่าวต่อว่า บริเวณแคมป์คนงาน เจ้าหน้าที่ที่ไปเฝ้าระวังทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกหรือไม่ เพราะชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนมาว่า มีการตั้งกลุ่มเฮฮากินเหล้ากัน อยากได้น้ำแข็งก็ทุบประตู ยามก็เปิดให้เดินไปซื้อได้ ตนจึงขอถามว่า ที่มาตรการดูแลหย่อนยานเพราะมีการรับผลประโยชน์อะไรใช่หรือไม่ 

“ผมขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน วันนี้รัฐบาลต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชนคนไทยเป็นหลัก ไม่ใช่ดูแลแรงงานของพวกนายทุน เพราะกลุ่มนายทุนต้องการแต่ผลประโยชน์ในธุรกิจของตัวเอง ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งนี้ผมขอเสนอให้อพยพประชาชนในพื้นที่โดยรอบออกจากพื้นที่ระบาดให้เร็วที่สุด ก่อนที่โควิดสายพันธุ์อินเดียจะกระจายไปวงกว้างมากกว่านี้ และผมวิงวอนขอวัคซีนให้คนหลักสี่อย่างเร่งด่วนด้วย เพราะขณะนี้ชาวบ้านหลายคนที่เช่าห้องอยู่ติดแคมป์คนงานดังกล่าวก็ล้มป่วยกันแล้ว” นายสิระ กล่าว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน เครื่อง Oxygen High Flow แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ จำนวน 10 เครื่อง เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน เครื่อง Oxygen High Flow แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ จำนวน 10 เครื่อง เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะบกพร่องทางการหายใจ หรือผู้ป่วยหนักอื่น ๆ ที่ต้องเร่งรักษา โดยมีพลเรือโท วิชัย มนัสศิริวิทยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ และคณะผู้บริหารของกรมแพทย์ทหารเรือ ทำพิธีรับพระราชทานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ห้องประพัฒน์ศรี สโมสรโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ  แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เป็นล้นพ้นที่ทรงมีต่อโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ กองทัพเรือ ตลอดจนประชาชนทั่วไป และบุคลากรของโรงพยาบาล กราบถวายบังคมแทบเบื้องพระยุคลบาท และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเป็นสรรพสิริมงคล และจักมุ่งมั่นดำเนินภารกิจดูแลผู้ป่วย ประชาชนที่ทุกข์ร้อน โดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครื่อง Oxygen High Flow พระราชทาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการในการช่วยเหลือผู้ป่วย เพื่อพัฒนางานบริการทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ต่อไป

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่ทำให้ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันเองว่า...

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่ทำให้ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันเองว่า...

ส่วนตัวตนเห็นใจและเข้าใจพรรคภูมิใจไทยที่ถูกนายกรัฐมนตรีเบรก โดยการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ เมื่อวิเคราะห์ปัญหานี้อย่างละเอียดแล้ว ตนคิดว่าวัคซีนเพิ่งเข้ามาเพียงนิดเดียว ทำให้ประเทศจำเป็นต้องฉีดวัคซีนตามความจำเป็นและตามแผนยุทธศาสตร์ก่อน จะทำสะเปะสะปะไม่ได้ ในสงครามชีวภาพกับโควิด-19 ขณะนี้ไทยเรากำลังเป็นฝ่ายตั้งรับ วัคซีนเป็นอาวุธสำคัญที่เราจะใช้รบกับเชื้อโควิด แต่ขณะนี้เรามีวัคซีนน้อย เปรียบเสมือนเรามีกระสุนจำนวนน้อย การยิงกระสุนทุกนัดของเราตรงเข้าเป้าจึงจะชนะในสงครามชีวภาพนี้ได้

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ต้องฉีดวัคซีนให้คนไทยให้ตรงเป้าตามลำดับความสำคัญ คือ บุคลากรทางการแพทย์, กลุ่มที่มีโรคประจำตัว, ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และกลุ่มคนไทยตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะส่งผลให้เปิดประเทศและระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้เร็ว รวมถึงกลุ่มที่จะแพร่กระจายโรคได้ง่าย เช่น ภาคการท่องเที่ยว, ภาคโรงงานอุตสาหกรรม, สำนักงาน บริษัท, ห้างสรรพสินค้า, สถานบริการต่าง ๆ , ขนส่งสาธารณะ, พื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ฯลฯ รัฐบาลต้องทุ่มวัคซีนภายในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมสู่พื้นที่ กทม.อย่างน้อย 5 ล้านคน เพื่อยุติการแพร่ระบาดใน กทม. และต้องทุ่มวัคซีนสู่ภาคแรงงานในโรงงาน สำนักงาน บริษัทต่าง ๆ เพื่อป้องกันการระบาดกลุ่มใหญ่

“หลังเดือนสิงหาคม ถ้าเราฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครบตามเป้าหมายแล้ว การฉีดแบบวอล์กอินก็คงจะเป็นไปได้ ผมจึงขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลยุติการตอบโต้กันและหันมาร่วมกันสู้กับวิกฤตโควิดจะดีกว่า และขอเสนอให้พรรคภูมิใจไทยเสียสละเพื่อชาติ เพราะผมเชื่อว่าการหยุด walk in นั้นรัฐบาลมาถูกทางแล้ว” นพ.ระวีกล่าว

 

ที่มา : https://mgronline.com/politics/detail/9640000048975


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เผย ศบค. เห็นชอบแผนการกระจายวัคซีนแอสตร้าเซเนกา เข็มแรกเริ่มมิถุนายน-กันยายน จัดลำดับเร่งด่วน 4 จว.สีแดงเข้ม พร้อมจังหวัดรับท่องเที่ยว ก่อนทยอยกระจายทั้วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ครั้งที่ 7/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกนรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ผ่านระบบ Video Conference จากตึกสันติไมตรี ว่า มีรายงานแจ้งว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ นอกจากจะมีมติเห็นชอบ ขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2564 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ ยังคงไม่ลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดมีแนวโน้มคงตัว

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแผนการจัดสรรวัคซีนแอสตราเซเนก้า 36 ล้านโดส เข็มที่ 1 โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ค. เดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน 2564 และเข็มที่ 2 เดือนตุลาคม-ธันวาคม เพื่อให้คนไทย และ คนต่างชาติจำนวน 50 ล้านคน ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ร้อยละ70 ในเดือนกันยายนด้วยความสมัครใจ

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อม จะได้รับประกันการจัดสรรวัคซีน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว ตามแผนเปิดประเทศที่กำหนด โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีน 8 กลุ่ม คือ

1.) บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน

2.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย

3.) บุคคลที่มีโรคเรือรังประจำตัว

4.) ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป

5.) ประชาชนที่มีความเสี่ยงสัมผัสโรค เช่น ครู พนักงานขับรถสาธารณะ ชาวไทยที่ไปศึกษาและทำงานต่างประเทศ

6.) คณะทูตานุทูต และครอบครัว รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ

7.) ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม และ

8.) ชาวต่างชาติ และแรงงานต่างด้าว

สำหรับแผนการส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซเนกา เริ่มในเดือนมิถุนายน 6.3 ล้านโดส กรกฎาคม-พฤศจิกายน เดือนละ 10 ล้านโดส และเดือนธันวาคม 5 ล้านโดส และอยู่ระหว่างกำลังจัดหาเพิ่มประมาณ 37 ล้านโดส จากบริษัทจอนสันต์ 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ชิโนแวค 7 ล้านโดส โดยขึ้นอยู่กับความสามารถในการผลิตและส่งมอบวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิต

สำหรับแผนการกระจายวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนเข็มแรกในเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน จะถูกกระจายไปยัง พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดก่อน รวม 4 จังหวัด ประกอบด้วยกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี 

ขณะที่จังหวัดที่มีแผนเปิดการท่องเที่ยวได้แก่ ภูเก็ต จะได้รับการกระจายวัคซีนภายในเดือนมิถุนายนเช่นกัน ส่วนจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านและมีความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภายหลังการระบาดก็จะได้รับภายในเดือนกรกฎาคม รวม 17 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย สงขลา สระแก้ว ตาก มุกดาหาร นราธิวาส ระนอง หนองคาย เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และสมุทรสาคร จากนั้นก็จะจัดลำดับไปอีก 55 จังหวัดที่เหลือของประเทศไทยเพื่อกระจายวัคซีนอย่างครอบคลุม

นอกจากนี้ที่ประชุม เห็นชอบช่องทางการลงทะเบียนและเข้ารับวัคซีน 3 ช่องทางคือ

1.) จองผ่านหมอพร้อม

2.) นัดหมายผ่านสถานพยาบาลหรืออสม. หรือผ่านองค์กรหรือช่องทางอื่นที่จังหวัดกรุงเทพมหานครจัดเพิ่มเติม และ

3.) ลงทะเบียน ณ จุดบริการ on site พร้อมมอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดการประชาสัมพันธ์เรื่องช่องทางการรับบริการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 และการให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายจำเพาะให้ทราบโดยทั่ว

“หมอเกียรติภูมิ” ปักเข็ม 2 แอสตราเซเนกา ให้ “บิ๊กตู่” เจ้าตัวลั่น คนไทยทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอน ย้ำไม่ว่าจะเชื้ออะไรรักษาได้ ทำเนียบแจ้งข่าวดี WHO รับรองวัคซีน ซิโนแวคแล้ว

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบำราศนราดูร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนกา เข็มที่ 2 ที่สถาบันบำราศนราดูร โดยไม่อนุญาตให้สื่อเข้าบันทึกภาพและทำข่าว เพราะสถานที่จำกัด อีกทั้งมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาปกติจำนวนมาก ซึ่งการเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่นี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับการฉีดด้วยเช่นกันโดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้การต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนกา เข็มแรกไปเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ตึกสันติไมตรึ ทำเนียบรัฐบาล โดยการฉีดวัคซีนเข็มที่สองนี้นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ปักเข็มให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการพักรอดูอาการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ทุกคนจะได้ฉีดแน่นอน แต่เป็นไปตามลำดับความรุนแรง ทั้งนี้จะเร่งฉีดตามสัดส่วนของจำนวนประชากร เพิ่มลดอย่างไรค่อยว่ากัน ทั้งนี้ไม่อยากให้เสนอข่าวหลายทาง เพราะอาจจะทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดได้ ทั้งนี้ วัคซีนจะมีเข้ามาเพิ่มตามข้อตกลงเจรจา อย่างไรก็ตามวันนี้ทุกประเทศมีปัญหาทั้งหมด ปัญหาอยู่ที่คนถ้าพูดความจริงก็จบ แต่ไม่ว่าวัคซีนชื่ออะไรก็สามารถป้องกันได้ โดยการรักษาควบคู่ไปกับยาที่มีอยู่ เพียงแต่อย่าปล่อยให้เป็นหลายวันแล้วจึงมาโรงพยาบาล 

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน ว่า แม้จะมีผลข้างเคียงอยู่บ้างแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต ซึ่งก่อนฉีดได้มีการให้คำแนะนำและหลังฉีดก็สามารถปรึกษาแพทย์ได้ตลอดเวลา เป็นแนวทางที่มอบให้กับ ศบค.ประชุมชี้แจง ทั้งเรื่องการกระจายสถานที่ฉีดวัคซีน ทั้งภาครัฐเอกชนที่ร่วมมือกัน มีบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ฉีดให้ และจะจัดหาเพิ่มเติมให้เท่าที่จะทำได้ ขอบคุณประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียนหมอพร้อมมากพอสมควร ในการแพร่ระบาดระลอกใหม่จำเป็นต้องพิจารณาเพราะมีหลายพื้นที่มีการแพร่ระบาดมากและน้อยต่างกัน แต่ขอยืนยันว่าทุกคนได้รับการฉีดแน่นอน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ใดที่มีคนฉีดวัคซีนน้อยก็ให้กำชับเรื่องของมาตรการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนนั้น ต้องพิจารณาถึงเรื่องปริมาณวัคซีนที่นำเข้ามาให้สอดคล้องกันแต่จะทำให้เร็วขึ้น ด้วยขีดความสามารถของกระทรวงสาธารณสุข ตอนนี้สถานที่ฉีดวัคซีนไม่มีปัญหาอยู่ที่ตัวเจ้าหน้าที่ ที่ต้องบริหารจัดการ หลายพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สีแดงยังมีปัญหาโดยเฉพาะแรงงานก่อสร้างและแรงงานอุตสาหกรรม เพราะเป็นแหล่งสร้างงาน กลุ่มต่อไปคือครูที่ต้องเตรียมการเปิดโรงเรียน และกลุ่มที่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ย้ำว่าขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการได้เพียงแต่ต้องการความเข้าใจ ไม่ต้องการให้ใครนำไปบิดเบือน 

“ไม่มีสูตรใดสูตรหนึ่งที่สามารถทำได้ ต้องมีการปรับเปลี่ยนกันไปเมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ไข ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการหารือกันตลอดเวลามีการปรับแผนต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และจำนวนวัคซีนที่นำเข้ามา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะฉีดให้กับทุกคนอาจจะช้าบ้างหรือเร็วบ้าง แต่อย่าลืมและขอร้องอยากให้ฟังหมอในระบบเป็นผู้ชี้แจง และขอยืนยันหมอทุกคนหวังดี ถ้าชี้แจงและรับฟังทีเดียวก็จบ แต่ถ้าพูดหลายครั้งหลายคนไม่ตรงกันประชาชนจะเกิดความสับสนได้” นานกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถามถึงไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่คืออินเดียหรือแอฟริกาที่ระบาดเข้ามา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้วัคซีน ได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขว่าวัคซีนที่เรามีอยู่สามารถที่จะป้องกัน โควิด-19 สายพันธุ์ที่เข้ามาในประเทศไทยได้ ควบคู่ไปกับการรักษาทั้งยาฉีดและยากิน ซึ่งปรับใช้ตามลำดับความรุนแรงของโรค เพียงแต่ไม่อยากให้ทุกคนประมาทและตื่นตระหนก แต่ขอให้ตระหนักต่อตัวเอง ครอบครัวและสังคม เพราะเป้าหมายของคนทั้งประเทศเป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องดูแล แต่เราต้องบริหารจัดการปริมาณวัคซีนและปริมาณคน ก็ขอให้มั่นใจไปพบแพทย์ให้ทันเวลาไม่ว่าจะเป็นเชื้ออะไรก็ตามอย่าปกปิดหรือปิดบัง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคได้มอบวัคซีนพาสปอร์ตให้กับ นายกรัฐมนตรีที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม สามารถเดินทางได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้จะสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้แล้วเมื่อกลับมาก็ต้องกักตัว 14 วันเพราะเป็นมาตรการที่เรายังคงต้องปฏิบัติอยู่ ก่อนรับมอบหน้ากากอนามัยจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีข้อความ I got my shot ฉีดช่วยชาติ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รักกันมาก ๆ สามัคคีกันมาก ๆ ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้เราจะชนะไปด้วยกันขอบคุณทุกคน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มที่สองของนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ให้ข้อมูลว่า ได้แจ้งข่าวดีว่าวันเดียวกันนี้องค์การอนามัยโลกได้ ให้การรับรองวัคซีนซิโนแวคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนเดินทางกลับหลังการเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองแล้วพลเอกประยุทธ์ได้ยกมือชู 2 นิ้ว สัญลักษณ์สู้ ๆ ให้กับกลุ่มสื่อมวลชนและประชาชนที่เดินทางมายังสถาบันบำราศนราดูร รวมทั้งขณะที่ขบวนรถได้แล่นผ่านประชาชนและสื่อมวลชนด้านหน้าสถาบัน พลเอกประยุทธ์ก็ได้ลดกระจกลงพร้อมชู 2 นิ้ว ตลอดเส้นทาง ก่อนเดินทางกลับเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อปฏิบัติภารกิจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top