Friday, 29 March 2024
NewsFeed

นับถอยหลัง ‘พิฆาตโควิด-19’ วัคซีนไทยพร้อมชน...กลางปี 64

น่าจะเป็นกระแสแรงที่สยบทุกข่าวร้อนได้เลยสำหรับความคืบหน้าอีกก้าวของวัคซีนโควิด-19 ในบ้านเรา

.

เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเป็นประธานพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยการจองล่วงหน้าและสัญญาจัดซื้อวัคซีน กับ ‘บริษัทแอสตร้าเซเนก้า’ บริษัทผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน

.

โดยคณะรัฐมนตรีต่างมีมติเห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แก่ประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้าและการจัดซื้อวัคซีน ในวงเงิน 6,049,723,117 บาท โดยให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดทำสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า ภายใต้เงื่อนไขว่ามีโอกาสที่จะได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับวัคซีนดังกล่าว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการวิจัยพัฒนาหรือเหตุอื่น ๆวงเงิน 2,379,430,600 บาท

.

สำหรับการลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้าและสัญญาการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว ‘จะทำใหัคนไทยมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนมากกว่าประเทศอื่น’

.

และคาดว่าจะได้รับวัคซีน ‘กลางปี 2564’ โดยความร่วมมือดังกล่าว ยังหมายรวมถึงการผลิตวัคซีนในประเทศไทย ที่จะใช้โรงงานของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นแหล่งการผลิต ซึ่งไทยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างขีดความสามารถของประเทศ ลดความสูญเสีย สร้างโอกาสทางด้านเศรษฐกิจได้อีกมหาศาล

.

ด้าน ไตรศุลี ตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับการวิจัยวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทแอสตร้าเซเนก้า โดยผลการวิจัยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีประสิทธิผลเกินข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำหนดมาตรฐานการรับรองวัคซีนป้องกันโควิด 19 ต้องมีประสิทธิผลไม่ต่ำกว่า 50% ซึ่งการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 แบบ

.

- แบบแรก พบว่าประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด 19 สูงถึง 90%

- ส่วนแบบที่สอง พบว่ามีประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด 19 ที่ 62%

.

ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยประสิทธิผลโดยรวมของทั้ง 2 แบบ อยู่ที่ 70.4% แสดงให้เห็นว่าตัววัคซีนนั้นมีความปลอดภัยสูง

กลัวโดนแกง!! จนท. เอาชัวร์ จัด3 จีโน่ พร้อมตรึงกำลังรอบสำนักงานทรัพย์สินฯ 

ถึงแม้ว่าม็อบ 25 พ.ย. จะย้ายพิกัดกะทันหัน จากหน้าสถาบันทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามกำหนดเดิม แล้วเปลี่ยนไปที่ SCB สำนักงานใหญ่แทน
.
แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ดูจะยังไม่วางใจเท่าไรนัก โดยช่วงเช้ามานี้ได้มีการวางกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนไว้หลายกองร้อย 
.
อีกทั้งยังได้ส่งรถฉีดน้ำ ‘จีโน่’ ไปประจำในพื้นที่รอบสถาบันทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 3 คัน พร้อมวางตู้คอนเทรนเนอร์ปิดถนนโซนราชดำเนินตรงสะพานมัฆวานซ้อนกัน 2 ชั้น รวมถึงที่สะพานขาวด้วย 
.
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังมีการปิดการจราจรแยกอุรุพงษ์ เส้นทางมุ่งหน้าสนามม้านางเลิ้ง ถนนหลานหลวง-ถนนพิษณุโลก-ทำเนียบ โดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนและจราจร สน.นางเลิ้งอำนวยการจราจรบริเวณดังกล่าว 
.
พร้อมนำตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ และรั้วสังกาสี - ลวดหนามปิดการจราจรก่อนถึงทางลงทางด่วนอุรุพงษ์ 
.
จะเกิดเหตุแกงไปแกงมาหรือไม่ แต่นาทีนี้เจ้าหน้าที่คงหวังเพลย์เซฟไว้ก่อน เอาชัวร์!!

ดีเอโก้ มาราโดน่า กับ 5 เรื่องราวในความทรงจำนักเตะมหัศจรรย์ของโลก

วันนี้คงเป็นวันที่แฟนฟุตบอลมากมายต่างรู้สึกใจหาย เมื่อได้ทราบข่าวการจากไปของ  ‘ดีเอโก้ มาราโดน่า’ หนึ่งในตำนานหมายเลข 10 ของโลก The States Time Lite ขอรวบรวม 5 เรื่องราวที่ทำให้แฟนบอลต้องจดจำนักเตะมหัศจรรย์คนนี้มาบอกกัน

 

1 ช็อตเลี้ยงหลบนักเตะอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986: ใครที่เกิดทัน หรือไม่ทันลองเซิร์ชในยูทูบ ลองตามไปดูแมทซ์ที่มาราโดน่า นำทีมชาติอาร์เจนติน่า พบกับทีมชาติอังกฤษ ในฟุตบอลโลก 1986 รอบ 8 ทีมสุดท้าย มีอยู่จังหวะหนึ่งที่มาราโดน่ากระชากบอลลากเลื้อยหลบนักเตะอังกฤษ จากคนแรกไปคนที่สอง ไปคนที่สาม คนที่สี่ แล้วสุดท้ายก็ยิงประตู ถือเป็นช็อตมหัศจรรย์แห่งความทรงจำ ที่ไม่ได้ทำกันง่ายๆ แต่ผู้ชายคนนี้ทำได้!

 

2 หัตถ์พระเจ้า: ถ้าจะหาจังหวะในเกมฟุตบอลที่เป็นที่จดจำ และยังถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ ต้องเป็นเหตุการณ์ในแมทซ์อาร์เจนติน่าพบอังกฤษ ในฟุตบอลโลก 1986 เช่นกัน มันเป็นจังหวะที่มาราโดน่าตั้งใจจะกระโดดโหม่งบอล แต่มีปีเตอร์ ชิลตัน ผู้รักษาประตูของอังกฤษ กระโดดขึ้นไปบล็อกไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งความสูงของมาราโดน่าเพียงน้อยนิด ยังไงก็โหม่งไม่ถึง ไม่มีทางส่งบอลเข้าประตูแน่นอน แต่เขากลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ใช้จังหวะฉาบฉวยเอามือยื่นไปชกลูกบอลเข้าประตูไป แถมกรรมการก็ให้ลูกนั้นเป็นประตูอีกด้วย ซึ่งต่อมาภายหลัง มาราโดน่าออกมาให้ข่าวว่า เขาไม่ได้ใช้มือทำประตูนะลูกนั้น แต่นั่นมันคือ ‘หัตถ์ของพระเจ้า’ ประโยคนี้ได้กลายเป็นประโยคในตำนานมาจนถึงวันนี้

 

3 ช็อตเสียน้ำตาของมาราโดน่า: หลังจากที่พาทีมชาติอาร์เจนติน่าได้แชมป์โลกในปี 1986 หลังจากนั้นอีก 4 ปี มาราโดน่าก็ได้นำทีมฟ้าขาวกลับมาป้องกันแชมป์อีกครั้งในศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศอิตาลี แต่ว่าเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่สุดท้ายเขาก็พาอาร์เจนติน่าเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศจนได้ แถมยังได้มาล้างตากับทีมชาติเยอรมัน ที่พ่ายแพ้กันมาในรอบชิงเมื่อปี 1986 ในเกมนั้น มาราโดน่าทำทุกวิถีทางให้อาร์เจนติน่าได้เป็นแชมป์โลกอีกครั้ง แต่ผลสุดท้ายต้องพ่ายแพ้แก่เยอรมันด้วยลูกจุดโทษ 1-0 ภายหลังเกม ในจังหวะที่เยอรมันกำลังชูถ้วย ภาพตัดไปที่มาราโดน่าที่ยืนหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ ช็อตดังกล่าวกลายเป็นภาพจำที่ทำให้แฟนบอลต่างสะเทือนใจร่วมไปกับเขาด้วยเช่นกัน

 

4 นักฟุตบอลเสพยา: ในความเป็นเทพเจ้าลูกหนัง เป็นไอดอลของเด็กๆ ที่ชื่นชอบฟุตบอล แต่มาราโดน่ากลับทำให้แฟนบอลต่างอึ้งอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวถูกจับได้ว่าติดโคเคน รวมไปถึงมีส่วนพัวพันกับการค้ายาเสพติด นี่อาจจะเป็นมุมดาร์กๆ ที่ทำให้วีรบุรุษคนนี้มีความด่างพร้อยในเส้นทางอาชีพลูกหนัง ซึ่งหลังจากผ่านช่วงปี 1990 เป็นต้นมา มาราโดน่าก็มักจะมีข่าวด้านลบๆ ทำนองนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ความเป็นอัจฉริยะฟุตบอลของเขา ค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อโลกก้าวสู่ปี 2000

 

5 ผู้จัดการทีมชาติสุดมันส์: แม้ชื่อเสียงของมาราโดน่าจะไม่ค่อยสวยหรูนักหลังเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ แต่ด้วยความรักในฟุตบอล เจ้าตัวก็ยังวนเวียนอยู่ในเส้นทางฟุตบอลอยู่เสมอ กระทั่งเมื่อปี 2010 ใครจะไปคาดคิดว่า มาราโดน่าจะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนติน่า พาทีมฟ้าขาวลุยฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ นี่เป็นภาพที่แฟนบอลยุค 80-90 ต่างพากันตื่นเต้น เหมือนได้เห็นไอดอลในวัยเด็กกลับมาเชิดฉายอีกครั้ง มาราโดน่าทำผลงานกับอาร์เจนติน่าได้ไม่ดีนัก พาทีมไปจบที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย พ่ายแพ้ให้กับคู่ปรับเก่าตลอดกาลอย่างทีมชาติเยอรมันไป 4-0 แต่ถึงกระนั้น ภาพแอ็คชั่นข้างสนามของเขา รวมทั้งลีลายียวนอันเป็นเอกลักษณ์ ก็ได้สร้างสีสันให้กับฟุตบอลโลกหนนั้น รวมทั้งแฟนบอลอย่างพวกเราเป็นอย่างมาก

 

 

 

 

Q&A ลุงตู่!! เคลียร์ปมประเด็นร้อน...หลังเกิดเหตุยิงสนั่นหน้า SCB

จากเหตุการณ์ยิงกันที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ หรือ SCB ภายหลังการชุมนุมเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) ทำให้นักข่าวต่างกรูกันไปสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จนลุงตู่ต้องออกมาพูดถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในหลายประเด็น

.

“ตนเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า หากเป็นการชุมนุมที่ถูกกฎหมายก็ห้ามอะไรไม่ได้ แต่ต้องเป็นการชุมนุมที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตามต้องเคารพกฎหมาย อย่าทำผิดกฎหมาย กฎหมายเขียนว่าอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น รัฐบาลก็มีหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ไม่ว่าจะกี่พวกก็ตาม แต่ไม่ว่าจะพวกไหน ก็ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน” นายกกล่าวและว่า

.

“สำหรับเหตุการณ์ยิงกันหลังการชุมนุมที่ SCB ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ตนกำลังให้เจ้าหน้าที่สอบสวนติดตามอยู่ เห็นว่ามีภาพถ่ายมีอะไรตลอด สื่อก็ได้บันทึกไว้ ก็จะได้พิสูจน์ได้ว่าใครทำกันแน่ ไม่อย่างนั้นก็โยนกันไปโยนกันมาว่าอีกพวกหนึ่งทำ ว่ารัฐบาลทำ ทั้งที่รัฐบาลมีแต่ทำหน้าที่ดูแลให้ทุกคนปลอดภัย มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เข้าใจหรือไม่ การชุมนุมจะต้องช่วยกัน อย่าให้เกิดขึ้นอีก จะต้องเป็นการชุมนุมที่ปลอดภัย ถ้าคนไปร่วมชุมนุม ไปแล้วไม่ปลอดภัยเขาก็ไม่ไป”

.

ทั้งนี้มีการสอบถามลุงคู่เพิ่มเติมถึงกรณีการลดความขัดแย้งตรงนี้ว่าจะทางยุติได้อย่างไรต่อไป

.

Q: ควรจะดำเนินการแก้ไขและธรรมนูญให้เสร็จสิ้นโดยเร็วหรือไม่?

ลุงตู่: “การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการของรัฐสภา ซึ่งประธานสภาดูแลอยู่แล้วในเรื่องนี้ รัฐบาลจะไม่ก้าวล่วง เพราะเราเป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งการแก้ไขตรงโน้น เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน อะไรก็แล้วแต่ เราไม่มีส่วนร่วมตรงนั้น อย่าเอาปัญหานี้ไปใส่ปัญหานั้น เราเป็นฝ่ายบริหาร ตรงนั้นเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเราเพียงอำนวยความสะดวกให้มีการแก้ไขเท่านั้นก็จบแล้ว สั่งใครได้ที่ไหนล่ะ”

.

Q: นายกฯได้ประเมินหรือไม่ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อจะส่งผลกระทบมากแค่ไหน?

ลุงตู่: “ผมอยากฝากคนทั้งประเทศให้กังวลด้วยแล้วกัน เพราะผมกังวลอยู่แล้ว ยิ่งชุมนุมนานไป ก็ยิ่งเสียหายมากขึ้น ยิ่งนานไปเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนไม่ได้ ยิ่งนานไปการจราจรก็ติดขัดมากขึ้น ขอถามหน่อยว่า ได้ประโยชน์กับใคร เขาอาจจะได้ประโยชน์ของเขา แต่หาวิธีการอื่นไม่ได้หรือ ที่ดีกว่า ที่มันสงบ ไม่ให้เกิดอันตราย หรือไปล่วงละเมิดใคร ผมว่ามันควรมองตรงนั้นมากกว่า สื่อช่วยกันพูดหน่อย”

 

ผิดกฎหมายชัด!! ศรีสุวรรณ ชี้ คูปองเป็ดเหลือง ผิดหนักโทษแรงถึงจำคุกตลอดชีวิต

หลังจากเมื่อวาลุ่มคณะราษฎร หรือ ม็อบ 25 พฤศจิกายน ได้นัดรวมตัวชุมนุมกันบริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ถนนรัชดาภิเษก

.

โดยมีการผลิตธนบัตรหรือแบงค์เป็ด หรือ คูปองเป็ดเหลือง 3,000 ใบ แจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมในกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งคูปองเป็ดเหลืองมีมูลค่าใบละ 10 บาท หน้าคูปองประกอบด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย – ลูกชิ้นทอด – นกพิราบขาว – หมุดราษฎร – เป็ดยาง โดยสามารถใช้ได้เฉพาะวันที่ 25 พ.ย. 63 และใช้ได้กับร้านค้าที่ร่วมรายการประมาณ 10 ร้านเท่านั้น

.

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องแล้วกับผู้ที่นำคูปองดังกล่าวไปใช้ หลังจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกมาชี้ชัดว่า การผลิต การจ่ายแจก หรือนำออกมาใช้ซึ่งธนบัตรเป็ดดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งผู้ผลิต ผู้จ่ายแจก ผู้นำไปใช้ และร้านค้าผู้รับธนบัตรดังกล่าว

.

เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายที่ควบคุมเรื่องดังกล่าวไว้ คือ พระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ.2501 ซึ่งในมาตรา 9 ได้บัญญัติไว้ว่า ห้ามผู้ใดทำ จำหน่าย ใช้หรือนำออกใช้ซึ่งวัตถุหรือเครื่องหมายใดๆ แทนเงินตรา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีการกำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนไว้ คือ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

.

นอกจากนั้นยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 อีกด้วย โดยบัญญัติไว้ว่า ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกระษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเงินตรา ‘ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต’ หรือจำคุกตั้งแต่ 10 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 400,000 บาท

.

ส่วนผู้ที่นำธนบัตรเปิดออกใช้จ่ายก็มีความผิดตาม มาตรา 244 ที่บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือของแปลงตามมาตรา 241 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 300,000 บาท

.

ดังนั้น การผลิตและนำออกมาจ่ายแจกให้ผู้ชุมนุมและร้านค้าใช้ธนบัตรเป็ด จึงเข้าข่ายความผิดทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถดำเนินการจับกุมดำเนินคดีได้ทันที

เมื่อแกรมมี่ปิด และอาร์เอสเปิด

ในรอบสัปดาห์นี้ มีข่าวของค่ายยักษ์ใหญ่วงการบันเทิงเมืองไทย ฝั่งหนึ่งค่ายอโศก ‘จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ’ ประกาศปิดบริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด มีผลให้ช่อง GMM 25 หยุดกิจการลง ในทางกลับกัน ด้านค่ายลาดพร้าว (ปัจจุบันย้ายไปเลียบด่วนฯ) ‘อาร์เอส กรุ๊ป’ ก็ประกาศหวนคืนสู่ธุรกิจเพลงแบบเต็มตัวอีกครั้ง หลังจากไปอีคอมเมิร์ชเสียนาน พร้อมคืนชีพค่ายเพลงเก่า เดินหน้าทวงบัลลังก์เจ้าแห่งยุทธจักรเพลงไทย และอย่างที่รู้กันดีว่า ทั้ง 2 อาณาจักรนี้เป็นคู่รักคู่แค้น เอ้ย! คู่แข่งทางธุรกิจกันมายาวววววนาน งานนี้เจ้าที่ปิดจะเดินหมากต่อไปอย่างไร ส่วนเจ้าที่เปิดจะลุยเวทีเดิมได้ดีแค่ไหน ปตต.โปรดติดตาม!

เรือโดยสารไฟฟ้าสายแรกในประเทศไทย

เปิดบริการล่ะจ้า!!

 

กำลังพูดถึง ‘เรือโดยสารไฟฟ้า’ สายแรกในประเทศไทย ไทย ไทย! เป็นไง เล่นใหญ่รัชดาลัยกันไปเล้ย! วันนี้เป็นวันแรก 27 พ.ย. 63 ที่เรือโดยสารไฟฟ้าจะให้บริการตลอดเส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม

 

โดยรายละเอียดของเรือโดยสารไฟฟ้านี้ เป็นเรือที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% มีขนาดความยาว 9.90 เมตร กว้าง 2.98 เมตร ใช้เครื่องยนตร์ขนาด 10 กิโลวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง เทียบเท่าเครื่องยนตร์แรงม้า 20 แรงม้า รวมทั้งมีแบตเตอรี่ทำความเร็วได้สูงสุด 17 กม./ชม. โดยชั่วโมงการทำงานต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สามารถให้บริการได้นาน 4 ชั่วโมง รองรับผู้โดยสาร 30 ที่นั่ง แถมยังจัดพื้นที่รองรับผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ได้ 1 คัน นอกจากนี้บนหลังคาเรือยังมีแผงโซลาร์เซลล์ 12 แผง เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในระบบส่องสว่างภายในเรืออีกด้วย

 

ส่วนเส้นทางเดินเรือนั้นก็น่าสนใจ เพราะมีทั้งหมด 11 ท่า ได้แก่ ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ท่าเรือหัวลำโพง ท่าเรือนพวงศ์ ท่าเรือยศเส ท่าเรือกระทรวงพลังงาน ท่าเรือแยกหลานหลวง ท่าเรือนครสวรรค์ ท่าเรือราชดำเนินนอก ท่าเรือประชาธิปไตย ท่าเรือเทเวศร์ และท่าเรือตลาดเทวราช รวมระยะทาง 5 กม.

 

เรือโดยสารไฟฟ้านี้สามารถเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว มีจุดเชื่อมต่อการเดินทาง จำนวน 4 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 ต่อเรือด่วนเจ้าพระยา ที่ท่าเรือตลาดเทวราช จุดที่ 2 ต่อเรือแสนแสบ ที่ท่าเรือกระทรวงพลังงาน จุดที่ 3 ต่อรถไฟชานเมือง ที่ท่าเรือรถไฟหัวลำโพง และจุดที่ 4 ต่อรถไฟฟ้า MRT ที่ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง

 

เรือจะให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. วันละ 39 เที่ยว ความถี่ในการเดินเรือประมาณ 15 นาทีต่อลำ ส่วนวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. วันละ 23 เที่ยว ความถี่ในการเดินเรือประมาณ 30 นาทีต่อลำ โดยเปิดให้บริการฟรีเป็นระยะเวลา 6 เดือน จากนั้นจะเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราไม่เกิน 10 บาทตลอดสาย

 

นั่งเรือต่อรถไฟ บอกเลยว่า เธอคือคุณครู เอ้ย! เธอคือคนคูลๆ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ แถมยังเป็นพาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย คูลเข้าไปอี๊ก! แต่ก็ต้องให้ความใส่ใจเรื่องความปลอดภัยด้วยนะ ไปจ้ะพี่สุชาติ ไปขึ้นเรือกัน!!

 

คมนาคมลุยลงนาม 5 สัญญารถไฟความเร็วสูงหนองคาย

ไม่นานมานี้ ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงคุณธรรมและลงนามสัญญาการก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง

เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย (ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ - นครราชสีมา) จำนวน 5 สัญญา ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทคู่สัญญา วงเงินลงทุนรวม 40,275 ล้านบาท มีระยะทางรวม 101.15 กิโลเมตร คาดว่าเปิดให้บริการปีพ.ศ.2568

สำหรับสัญญาก่อสร้างงานโยธา 5 สัญญา ประกอบด้วย...

1.) สัญญาที่ 3 - 2 งานโยธาสำหรับงานอุโมงค์ (มวกเหล็กและลำตะคอง) ดำเนินการ โดยบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดเด่นคืองานก่อสร้างอุโมงค์ยาวรวม 8 กิโลเมตร และการก่อสร้าง ทางรถไฟระยะทางรวม 12.23 กิโลเมตร

2.) สัญญาที่ 3 - 3 งานโยธาสำหรับช่วงบันไดม้าลำตะคอง ดำเนินการโดย บริษัท ไทยเอ็นยิเนียร์และอุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งมีงานก่อสร้างสถานีปากช่อง และการก่อสร้างทางรถไฟระยะทาง รวม 26.10 กิโลเมตร

3.) สัญญาที่ 3 - 4 งานโยธาสำหรับช่วงลำตะคอง - สีคิ้ว และช่วงกุดจิก - โคกกรวด ดำเนินการโดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดเด่น คือ มีงานก่อสร้างทางรถไฟระยะทางยาวที่สุดในโครงการถึง 37.45 กิโลเมตร

4.) สัญญาที่ 3 - 5 งานโยธาสำหรับช่วงโคกกรวด - นครราชสีมา ดำเนินการโดยบริษัท กิจการร่วมค้า เอสพีทีเค จำกัด ประกอบด้วย บริษัท นภาก่อสร้าง จำกัด บริษัท ทิมเชคาร์ตาร์ เอสดีเอ็น บีเอชดีจำกัด และบริษัท บิน่า พรี่ เอสดีเอ็น บีเอชดี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นงานก่อสร้างสถานีนครราชสีมาและการก่อสร้างทางรถไฟระยะทางรวม 12.38 กิโลเมตร

5.) สัญญาที่ 4 - 7 งานโยธาสำหรับช่วงสระบุรี - แก่งคอย ดำเนินการโดย บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดเด่นคืองานก่อสร้างสถานีสระบุรี และการก่อสร้างทาง รถไฟระยะทางรวม 12.99 กิโลเมตร

ปีหน้า ฟ้าเปิด!! รัฐมั่นใจ ศก.ฟื้น ดันศก.ภายใน - ดึงลงทุนต่างชาติ เต็มสูบ

ส่งสัญญาณในการเดินเครื่องเศรษฐกิจแบบเต็มอัตรา หลัง สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เผย ปีหน้ารัฐบาลจะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยอย่างจริงจัง

โดยปีหน้าทางภาครัฐจะมีปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้พึ่งพารายได้จากในประเทศมากขึ้น นอกจากนี้จะสร้างความแข็งแรงของเศรษฐกิจภายในแล้ว จะเพิ่มการลงทุนจากต่างประเทศใน 7 อุตสาหกรรมเป้าหมายให้แล้วเสร็จ

เพื่อให้ทันกับกระแสการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนมายังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยแก้ไขและปรับปรุงเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุน

"ตอนนี้ได้มีการหารือกับกระทรวงการคลัง คือ แต่เดิมสิทธิประโยชน์ที่ให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะได้สิทธิเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่เกิน 17%

ซึ่งในส่วนนี้กำลังจะขอให้กระทรวงการคลังปรับเป็นให้สิทธิไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศไม่จำกัดแค่พื้นที่ EEC เพราะนักลงทุน และชาวต่างชาติที่ได้วีซ่าและใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยอาจต้องการทำงานและอยู่อาศัยในพื้นที่อื่น ๆ"

ทั้งนี้หากการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและดึงการลงทุนจากต่างชาติได้ตามแผน เศรษฐกิจไทยในปีหน้า จะฟื้นตัวกลับมาได้ราว 3 - 4% อย่างแน่นอน

ธนาคารแห่งประเทศไทยออกธนบัตรที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในหลวง ร.10

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และยังเป็นการบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สำคัญตลอดจนพระราชพิธีที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นชาติไทย


ทั้งนี้จะนำออกใช้ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นวันครบ 1 ปี ของการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562


สำหรับธนบัตรที่ระลึกชุดนี้มี 2 ชนิดราคา คือ 1,000 บาท จัดพิมพ์จำนวน 10 ล้านฉบับ และ 100 บาท จัดพิมพ์จำนวน 20 ล้านฉบับ โดยธนบัตรที่ระลึกชนิดราคา 1,000 บาท มีรูปทรงแนวตั้ง โดยใช้หมึกพิมพ์แม่เหล็กสามมิติเปลี่ยนสีได้เป็นลักษณะต่อต้านการปลอมแปลง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ใช้อยู่ในธนบัตรแบบปัจจุบัน


สำหรับชนิดราคา 100 บาท มีลักษณะโดยรวมและลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงเช่นเดียวกับธนบัตรชนิดราคา 100 บาท แบบ 17 ที่ใช้หมุนเวียนในปัจจุบัน โดยปรับโทนสีธนบัตรให้เป็นสีเหลือง สำหรับภาพด้านหลังธนบัตรทั้ง 2 ชนิดราคา เป็นภาพจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562


ธนบัตรที่ระลึกทั้ง 2 ชนิดราคา สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ประชาชนสามารถแลกตามมูลค่าที่ตราไว้หน้าธนบัตรได้ที่ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และสำหรับชนิดราคา 100 บาท สามารถกดจากตู้กดเงินสดอัตโนมัติที่มีป้ายสัญลักษณ์ได้อีก 1 ช่องทางด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top