Thursday, 18 April 2024
NewsFeed

มีกันยัง? แอปแปลภาษาเหมียว

เมี้ยว!! มีของเล่นมาให้บรรดาทาสแมวได้สนุกกันอีกแล้ว เมื่อล่าสุด มีการเปิดตัวแอปชื่อ ‘MeowTalk’ เป็นแอปที่เอาไว้แปลเสียงร้องของเจ้าเหมียวของเราว่า มันกำลังหมายความว่าอย่างไร

แอปฯ ตัวนี้มีระบบประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ซึ่งเบื้องต้นระบบได้ทำการประเมินค่าเสียงของเจ้าเหมียวเพื่อแปลออกมาเป็นความหมายอยู่ที่ 13 ความหมาย เช่น ให้อาหารฉัน, ฉันโกรธ หรือออกไปให้พ้น แต่เจ้าของแมวสามารถบันทึกเสียงร้องของเจ้าเหมียวได้เพิ่มเติม เพื่อให้ AI ได้ทำการบันทึกและเรียนรู้เสียงแมวของคุณ จนรู้ได้ว่าเสียงร้องในแบบเฉพาะของมันนั้น หมายความว่าอย่างไร

เคยมีการวิจัยกันว่า แมวมีวิธีสื่อความหมายที่เฉพาะตัว และที่สำคัญ พวกมันมีวิธีสื่อสารกับทาส เอ้ย! มนุษย์ได้จริง ๆ เพียงแต่เราต้องแยกแยะเสียงและพฤติกรรมขอบมันสักหน่อย

แต่เบื้องต้น แอปฯ ดังกล่าวนี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนา จึงมีฟีดแบ็คจากผู้ที่โหลดไปใช้ต่างๆ นานากันไป บางคนบอกว่า ดูเหมือนแมวฉันกำลังโวยวาย แต่เจ้าแอปฯ กลับประเมินด้วยคำว่า I’m in love ซะอย่างนั้น แต่ก็มีประเภทที่บอกว่า ถ้าเราไม่ซีเรียสจนเกินไป แอปฯ นี้ก็มาช่วยสร้างสีสันให้กับคนและแมวได้เป็นอย่างดี

เรียกว่าเป็นแอปฯ สันทนาการระหว่างคนกับแมวก็แล้วกัน สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ แอนดรอยด์ แต่โหลดมาแล้วก็อย่าลืมไปเทอาหารให้มันด้วยล่ะ ไม่งั้นพี่เขาอาจจะเดินมาเตะชามอาหารเอาได้ ให้มันรู้ซะมั่งนะเจ้าทาส!! เมี้ยว!!

.

อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-54991693?fbclid=IwAR2xQVR-ccycVN6pFV8uYhAmyLW_dmoowY1Ku4xWVxmfBUTBN_-KNKWheAs

โม้รึเปล่า อานนท์โม้รึเปล่า

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจลาออกก่อนวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563นี้ ว่า "เรื่องที่นายอานนท์ โพสต์นั้น เราก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาระบุนั้นต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดปฏิกิริยาอะไรหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ นายกฯ ได้พูดมาตลอดว่า ท่านมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา และมีภารกิจหลายอย่างที่จะต้องทำต่อเนื่อง เช่น เศรษฐกิจ และล่าสุดก็มีการประกาศต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 45 วัน ที่จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีก

อีกทั้งต้องทำให้สังคมกลับสู่ความสงบสุข เรียบร้อย ซึ่งนายกฯ ก็ได้ออกแถลงการณ์ไปแล้วเมื่อวานนี้ ว่าจากนี้ไปหากผู้ชุมนุมดำเนินการผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้กลับมาชุมนุมด้วยความสงบ ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ทั้งหมด จะเห็นว่าสิ่งที่นายกฯ ดำเนินการอยู่ทั้งหมดนั้น ก็กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง"

คนเขาดูออก แบบนี้ต้องใช้กฎหมาย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า ทุกคนทราบเจตนาของแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะถ้าจุดหมายคือประชาธิปไตยผู้ชุมนุมต้องมีความจริงใจในการทำอย่างไรให้มุ่งสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น

 

ซึ่งขณะนี้ทางด้านรัฐสภาเองก็ได้พิจารณาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทางผู้ชุมนุมก็ควรแสดงความเห็นตั้ง สสร. เพื่อจะได้ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น แต่ดูเหมือนผู้ชุมนุมไม่ได้สนใจในประเด็นสำคัญนี้ กลับมุ่งใช้ถ้อยคำหยาบคาย ก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบัน ซึ่งประชาชนมองออกว่าเป็นจุดมุ่งหมายหลักของแกนนำผู้ชุมนุม

นายราเมศ ยังกล่าวต่อว่า “นี่คือสิ่งที่ทุกคนรับไม่ได้  นับวันยิ่งเหิมเกริม ทำสิ่งที่ไม่สมควร คนไทยไม่สามารถรับได้ การที่นายกรัฐมนตรีได้มีหลักในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คือหลักการที่ถูกต้อง ต้องสนับสนุน เพราะการกระทำความผิดชัดเจน เข้าองค์ประกอบกฎหมาย ไม่มีทางอื่นใดเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ผู้ชุมนุมควรยุติการกระทำต่างๆ ใช้สติปัญญาในการคิด อย่าคิดว่าประเทศนี้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง หรือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ประเทศเป็นของคนไทยทุกคน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือสิ่งที่คนไทยยึดมั่นตลอดระยะเวลาที่ผ่าน หากมีใครคิดมาทำลาย เชื่อว่าคนไทยไม่มีใครยอม ความคิดและการกระทำของผู้ชุมนุมที่แสดงออกมา เคยบอกไปแล้วว่าเราอยู่คนละข้างกัน เจ้าหน้าที่จึงต้องมีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นความวุ่นวายก็จะตามมา”

 

มาตรการเข้มจัดการฝุ่น PM 2.5

ช่วงเดือนสองเดือนนี้ วาระสำคัญที่อย่าเพิกเฉย หรือห้ามละเลย คือ ‘วาระแห่งฝุ่น’ เนื่องจากฝุ่น ไม่ได้หายไปไหน ฝุ่นยังอยู่กับเรา แม้ว่าเราจะไม่อยากอยู่กับฝุ่นก็ตามทีเถอะ  

 

ปลายสัปดาห์ก่อน กรุงเทพมหานครได้ประกาศมาตรการเข้มๆ ที่มีทั้งการป้องกัน และตัดตอน ปัญหาการเกิดฝุ่น PM 2.5 ในรอบเขตเมืองหลวง และปริมณฑล มาตรการไหนน่าสนใจบ้าง สรุปออกมาได้ดังนี้

ชงเข้ม ‘คนละครึ่งเฟสใหม่’ ได้ครบ ‘ทู้กกกกคน’

ยังไง...ยังไง...จะเอามั้ยยย (เสียงลุง)

ชงเข้ม ‘คนละครึ่งเฟสใหม่’ ได้ครบ ‘ทู้กกกกคน’

.

เสียงลุงแถวทำเนียบแอบกระซิบข่าวโครงการคนละครึ่งระลอกใหม่ ใครอยากได้ เตรียมตัวไว้ให้ว่อง

.

ล่าสุด กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เผยว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาโครงการคนละครึ่ง รวมทั้งการเติมเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามข้อสั่งการของ ‘ลุงตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

.

เรื่องนี้คาดว่าจะต้องสรุปให้เสร็จในต้นเดือนธ.ค.นี้ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (ศบศ.) และครม.เห็นชอบ ตามขั้นตอนแต่ต้องด่วน

.

โดยเฉพาะไฮไลท์เด็ดอย่าง ‘โครงการคนละครึ่ง’ ที่กระทรวงการคลังพยายามจะเปิดโอกาสให้ ‘ทุกคน’ ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ทั้งหมด

.

สำหรับการพิจารณาแนวทางเบื้องต้นโครงการคนละครึ่งระลอกใหม่นั้น อาจเปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับสิทธิในรอบแรกที่กำลังใช้สิทธิอยู่ สามารถเตรียมได้สิทธิ์อีกในรอบถัดไปโดยอัตโนมัติ

.

หรือๆๆ อาจมีการเพิ่มเติมวงเงินลงไปอีก และขยายเวลาใช้จ่ายไปถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนต้นปีหน้าด้วย

.

นอกจากนี้ยังรวมถึงการเปิดให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับสิทธิระยะแรกมาลงทะเบียนได้อีก ส่วนจำนวนคนนั้น ยังต้องไปหารือกันก่อนว่าจะให้จำนวนเท่าใด เช่นเดียวกับวงเงินด้วย...

สายโสด...สนไหม!! ททท. ปิ๊งไอเดียชวนคนโสดเที่ยว ‘สลัดคาน’

สายโสด...สนไหม!!

ททท. ปิ๊งไอเดียชวนคนโสดเที่ยว ‘สลัดคาน’

.

โอกาสทองของคนที่ Need เที่ยวไปด้วย แถมอาจฟลุ้กได้ ‘สลัดคาน’ ไปในตัวมาถึงแล้ว หลังนโยบายใหม่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 64 ได้ออกมาวางทริปเส้นทางท่องเที่ยว หรือแห่งท่องเที่ยวใหม่เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวแบบเฉพาะกลุ่ม

.

หนึ่งในแนวคิดของ ททท. เป็นการคลิกไอเดีย ‘เส้นทางท่องเที่ยวสละโสด’ ทั้งในเส้นทางเที่ยวบนเครื่องบิน หรือเส้นทางล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อไปทำกิจกรรม เช่น ไหว้พระและทำบุญ

.

โดยเป้าหมายของแนวคิดนี้ เป็นการสร้างสัมพันธ์ใหม่ให้คนโสดได้เจอ ‘เนื้อคู่’ (รอลุ้นว่าจะออกมาหน้าตายังไง) เพื่อต้อนรับเดือนแห่งความรัก (ก.พ.)

.

อย่างในส่วนเส้นทางเรือนั้น เบื้องต้นได้หารือกับทางผู้ประกอบการเรือแล้ว และน่าจะนำร่องในเส้นทางนี้ได้ก่อนในช่วงต้นปีหน้า

.

ส่วนทางอากาศ ได้มีการดึง ‘การบินไทย’ เข้ามาช่วยทริปการไหว้ขอคู่ ซึ่งจะเป็นการไหว้บนเครื่องบินทั่วประเทศไทย ในทริปชื่อ ‘บินทั่วไทยได้มงคลทั่วทิศ’ ระยะที่ 2 (เคยทำมาแล้ว)

.

แต่ครั้งนี้อาจมีเพิ่มเติมนอกจากบินวนบนฟ้า เช่น การบินลงไปไหว้พระในวัดป่า หรือวัดสำคัญๆ ที่คนต้องการลงไปไหว้ขอพร โดยใช้เครื่องบินของการบินไทย แอร์บัสเอ 380

.

...อย่างไรเสียต้องขอย้ำว่าทริปนี้เป็นการ ‘เปิดให้คนโสด’ เท่านั้นที่จะขึ้นไปเที่ยวในเส้นทางที่จะแจ้งในอนาคต

.

นอกจากนี้โปรเจ็กต์พาเที่ยวของททท. ในปีหน้า (64) น่าจะยังมีอีกเพียบ ทั้งทริปเพื่อกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความชื่นชอบทางด้านอาหารทุกประเภท กลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานด้านดิจิทัล หรือ ดิจิทัล นอแมด กลุ่มเส้นทางศรัทธาทัวร์ กลุ่มที่ต้องการไปสถานที่เพิ่มพลังฟื้นฟูสุขภาพ หรือสมดุลในร่างกาย และกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์

.

เรียกว่าแต่ละกลุ่มนั้นจะมีเส้นทางการท่องเที่ยวของตัวเอง ซึ่งถือเป็นสินค้าการท่องเที่ยวหนึ่งที่จะออกมาในปี 64 หวังดึงนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ กลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักในไทย หรือ เอ็กซ์แพท และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเปิดให้เดินทางเข้ามาในปีหน้าไปในตัว

.

แต่เอาใกล้ๆ ตอนนี้ใครอยากเที่ยวและอยากสมหวังในความรักในเวลาเดียวกัน รอตามข่าวจากทางททท. ได้เป็นระยะๆ โลด...

.

ที่มารูป: https://www.lamarieeauxpiedsnus.com/en/real-weddings-en/un-mariage-aux-forges-de-paimpont-en-bretagne/

 

รับ 'เป็ด' แบบไหนดีครับ?

เป็ดฟีเวอร์!!!

กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญในม็อบไปเรียบร้อย หลังจากเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา ผู้ร่วมชุมนุมได้ถือ ‘เป็ด’ ไปรัฐสภา หมายใจว่าจะพา ‘เป็ด’ ไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ไปๆ มาๆ ‘เป็ด’ กลายเป็นเครื่องป้องกันการฉีดน้ำสลายม็อบ หลังจากนั้น ‘เป็ด’ ก็กลายเป็นมาสคอตสำคัญ ผู้ชุมนุมหอบหิ้ว ‘เป็ด’ ไปร่วมชุมนุมด้วยทุกที่ เมื่อ ‘เป็ด’ แรงเวอร์ได้ใจขนาดนี้ งั้นรับ ‘เป็ด’ ไปไว้ที่บ้านสักตัวไหมครับ?

S&P การันตี...ไทยเข้มแข็ง!! หลังศก.ไทยแรงบวกหนุนเพียบ

S&P Global Ratings สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)
.
โดยนางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยมีรายละเอียดดังนี้
.
1. คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) เนื่องจากประเทศไทยมีความเข้มแข็งภาคการคลังและภาคการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ หนี้รัฐบาลอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล และสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
.
2. ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) มีความแข็งแกร่งเป็นผลจากการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบและเป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 เพื่อรักษาวินัยทางการคลัง แม้ว่าการดำเนินนโยบายการคลังผ่านมาตรการต่างๆ ของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะทำให้การขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563-2564 และหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น แต่ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อสถานภาพทางการคลัง
.
3. S&P เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวและเติบโตในระยะปานกลางได้ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นร้อยละ 6.2 เป็นผลจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากสามารถควบคุมการระบาดของ COVID-19 ได้ อีกทั้งรัฐบาลยังสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ เช่น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) และโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง และยังส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Public Private Partnership) เพื่อลดความเสี่ยงทางการคลังของรัฐบาลให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังของภาครัฐ
.
4. ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง สภาพคล่องและทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง โดย S&P คาดว่าสภาพคล่องต่างประเทศ (External liquidity) ของประเทศไทยยังอยู่ในระดับคงที่และไม่น่ากังวล นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายทางการเงินและการรักษาเสถียรภาพด้านราคา เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
.
ประเด็นที่ S&P ให้ความสนใจและจะติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่องและเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งอาจมีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะปานกลาง

ออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยต้านโควิด-19

โควิด-19 ยังรุกรานคนทั้งโลกอย่างหนักหน่วง แม้จะเริ่มมีข่าวการคิดค้นวัคซีน หรือเริ่มทำการทดลองใช้กันบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนี้สำหรับตัวเราก็คือ ต้องดูแลตัวเองให้ดี

 

ล่าสุดที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล มีผลการศึกษาเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ที่น่าสนใจ โดยเป็นการศึกษาจากมูลนิธิสนับสนุนการวิจัยแห่งรัฐเซาเปาโล ระบุว่า อัตราของคนที่ป่วยโควิด-19 ในกลุ่มของคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ กว่าร้อยละ 34

 

การศึกษาชิ้นนี้อ้างอิงจากแบบสำรวจของผู้คนกว่า 938 คน ซึ่งผู้ที่ออกกำลังกายระดับปานกลางอย่างน้อย 15 นาทีขึ้นไป หรือออกกำลังกายหนักหน่วงอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ จะเป็นกลุ่มที่พบการป่วยด้วยโควิด-19 ต่ำที่สุด ในทางกลับกัน ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ที่มีอัตราการรักษาตัวด้วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลสูงที่สุด คือกลุ่มผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวเกิน หรือเป็นโรคอ้วนนั่นเอง

 

ถึงจะเป็นผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่ไม่ใช่ขนาดใหญ่นัก แต่หากข้ามจากผลศึกษานี้ไป การดูแลรักษาให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ย่อมเป็นการป้องกันตัวที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้น หยิบรองเท้ากีฬาแล้วไปออกกำลังกายกันเถอะพวกเรา!!

 

อ้างอิง: https://www.xinhuathai.com/high/155671_20201124

พระราชทานบัตรอวยพรปีใหม่ ๒๕๖๔

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบัตรอวยพรปีใหม่ ๒๕๖๔ แก่ปวงชนชาวไทย เป็นภาพฝีพระหัตถ์ "สวัสดีปีฉลูวัว" รูปวัว หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส และพระราชทานพรปีใหม่ ความว่า

 

"ปีที่แล้วโรคร้ายหมายชีวิต                 มีคนติดทั่วโลกอยู่มากหลาย
คนยังอยู่จนยากลำบากกาย                ที่ทุกข์คลายเพราะความรักสามัคคี

ปีฉลูวัวใจดีเข้ามาหา                     มีนมมาให้ดื่มเป็นสุขี
สุขภาพของเด็กเติบโตดี                  ผู้ใหญ่ที่ดื่มนมก็แข็งแรง"

สวัสดีปีฉลูวัว พ.ศ.๒๕๖๔


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top