Saturday, 17 May 2025
NewsFeed

“เด็ก ภท.” จับมือ “พรรคชัช เตาปูน” ขู่ยื่นศาลรธน. ตีความปมแก้จำนวนส.ส. 400 ไม่สอดคล้อง ม.86 

ที่รัฐสภา นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไทย พร้อมด้วยนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหาราชการรูปแบบพิเศษ แถลงถึงร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมร่างที่ 13 ในมาตรา 83 และมาตรา 91 ที่เสนอโดยนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ กับคณะ ซึ่งรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบในขั้นรับหลักการไปแล้วนั้น โดยนายโกวิทย์ กล่าวว่า ร่างฉบับนี้มีความไม่สมบูรณ์ครบถ้วนในบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในมาตราอื่นๆ ซึ่งร่างขอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 13 นี้ ไม่ได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 86 ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ เช่น มาตรา 86 ซึ่งมีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการคิดคะแนนและการแบ่งเขต รวมถึงการได้มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะในมาตรา 86 ที่บัญญัติไว้ถึงจำนวนสมาชิกที่มาจากจังหวัดและเขต 350 เขต ที่ขัดแย้งกับตัวร่างแก้ไขในมาตรา 83 และมาตรา 91 ที่ผ่านการรับหลักการไป และมีความกังวลว่า กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม จะดำเนินการต่อไปอย่างไร และส.ส.จะแปรญัตติอย่างไร เพราะร่างรัฐธรรมนูญได้เสนอว่าให้มี ส.ส.เขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งจะทำให้มีจำนวน ส.ส.เกินจำนวน

นายโกวิทย์ กล่าวต่อว่า กมธ.หลายคนบอกว่าเมื่อรับหลักการไปแล้วก็สามารถแก้ไขได้ในขั้นแปรญัตติ ตนยืนยันว่าแก้ไม่ได้ หากยังไม่แก้มาตรา 86 ให้สอดคล้องกับจำนวน 400 คน รวมถึงมาตราอื่น ๆ ให้มีความสอดคล้องกัน โดยอาจจะพิจารณาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความ ก่อนที่ กมธ. จะเดินหน้าพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเป็นสำคัญ

ด้านนายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 13 นั้น ตนกลัวว่าจะเป็นการเสนอมาโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากการแก้มาตรา 83 และ 91 นั้นเป็นสาระสำคัญ และเป็นการทำงานแบบเร่งรีบ ตั้งเป้าขยายเขตเพื่อจะได้มาให้ครบ 400 คน ไม่ได้ดูเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 60 ทั้งยังไม่มองเป้าประสงค์ของประชาชนว่าต้องการอยู่ดีกินดี ต้องการให้มีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ต้องการให้แก้ปัญหาโควิด-19 เป็นต้น ตนเข้าใจว่าพรรคการเมืองต้องการชิงความได้เปรียบในการยกร่างรัฐธรรมนูญและต้องการทำให้พรรคเล็กไม่สามารถเดินเข้าสู่พื้นที่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน

เมื่อถามว่าข้อกังวลนี้จะทำให้พรรคเล็กหรือ ส.ส.จะไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยตีความหรือไม่ นายโกวิทย์ กล่าวว่า มีแน่นอน ฝั่ง ส.ว.หลายคนก็เกิดความสงสัย ในส่วนของพรรคพลังท้องถิ่นไทยจะหารือกันว่าหากยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นรายบุคคลได้โดยไม่ต้องให้ประธานรัฐสภาเป็นคนยื่น พรรคเราก็จะยื่นเอง ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญก็เคยวินิจฉัยแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำเป็นรายมาตรา แต่การแก้รายมาตราไม่ได้ถูกแก้มาในการร่างครั้งนี้ เราจึงฟันธงว่าเป็นการลุกลี้ลุกลนของ ส.ส. ที่อยากแก้ให้มี ส.ส.มากกว่าเดิมหรือไม่ แก้เพื่อต้องการกำจัดพรรคเล็กหรือไม่ แม้พรรคพลังท้องถิ่นไทยจะเป็นพรรคเล็กแต่ก็ไม่ได้กังวล ซึ่งก็ต้องชื่นชมนายจุรินทร์ เพราะร่างฉบับที่ 13 มีความแตกต่างกับร่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชารัฐ เพราะไม่ได้ใช้คะแนนขั้นต่ำ พรรคเล็กจึงยังมีโอกาสหากมีนโยบายที่ดีให้ประชาชนได้ขานรับ 

“ประวิตร” ถก กนช.สั่งขับเคลื่อนแผนแม่บทน้ำเพิ่มประสิทธิภาพ บริการจัดการน้ำ รับมือฤดูฝน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 2/2564 ผ่านวิดีโอ คอนเฟอร์เรนท์ โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ เข้าร่วม โดยกนช.เห็นชอบการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ผ่านระบบ "Thai Water Plan" ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการแผนงานโครงการ และฐานข้อมูล เพื่อใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น และเห็นชอบให้ทบทวน บทบาท ของหน่วยงาน บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อให้มีเอกภาพการทำงาน มากขึ้น 

นอกจากนั้นที่ประชุมรับทราบสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำ 32,344 ล้านลบ.ม. (45%) ขนาดกลางมีปริมาณน้ำ 2,732 ล้านลบ.ม.(50%) และขนาดเล็ก มีปริมาณน้ำ 1,868 ล้านลบ.ม. (37%) ซึ่งสทนช.ได้ดำเนินการขับเคลื่อน 10 มาตรการ เพื่อรับมือฤดูฝน โดยบูรณาการหน่วยงานภายใต้กอนช. และมีความคืบหน้าในภาพรวม อย่างน่าพอใจ โดยมุ่งเน้นการป้องกันน้ำหลาก น้ำท่วม และการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า ให้เพียงพอ ต่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร และการอุตสาหกรรม และรับทราบ ผลการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ที่สำคัญได้แก่ แนวทางการแก้ปัญหา ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ระบบนิเวศแม่น้ำโขง ต่อวิถีชีวิตของประชาชนในลุ่มแม่น้ำโขง 7 จังหวัด

โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้สทนช.เร่งดำเนินการตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศ แม่น้ำโขงต่อวิถีชีวิตของประชาชน ในลุ่มแม่น้ำโขง และให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำโขง อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ โดยใช้กลไกคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำระดับจังหวัด ดำเนินการ ต่อไป

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า นอกจากนั้น ให้เร่งรัดแผนงาน โครงการภายใต้แผนแม่บทน้ำ และพ.ร.บ.น้ำ ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายและกรอบเวลา ที่กำหนด เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้ อย่างเพียงพอ และลดผลกระทบ จากภาวะน้ำท่วม ภัยแล้ง และน้ำเค็มรุก อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

ผบ.ทร. ถกหน่วยขึ้นตรง กองทัพเรือ เข้มป้องกัน 'โควิด-19' พร้อมสร้างความเข้าใจจัดหา 'เรือดำน้ำ'

พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่ากองทัพเรือ ได้จัดให้มีการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ โดยมี พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานการประชุม ร่วมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Tele Conference : VTC) 

สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญคือ การเตรียมความพร้อมในการรับทหารกองประจำการผลัดที่ 1/2564 รวมถึงการฝึกภาคสาธารณะ ของนักเรียนจ่าทหารเรือ ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งจะดำเนินการ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ของ COVID-19 สำหรับเรื่องสั่งการในที่ประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงและหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือในวันนี้ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการหน่วยต่างๆในกองทัพเรือ เฝ้าระวังป้องกัน และดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19  อย่างเข้มงวด  

นอกจากนั้น ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จะมีการรับทหารกองประจำการผลัดใหม่เข้าทำการฝึกภาคสาธารณะ ซึ่งจะเป็นการรวมกำลังพลจำนวนมาก ที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้แสดงความห่วงใย พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ด้วยมาตรการที่เข้มแข็ง  พร้อมทั้งได้เตรียมความพร้อมและกำหนดแนวทางปฏิบัติตั้งแต่เริ่มขึ้นรถ เพื่อเดินทางมายังหน่วยฝึก ซึ่งเป็นไปตามกรอบและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยมี กรมแพทย์ทหารเรือเป็นหน่วยกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ โดยมุ่งหวัง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น มั่นใจในมาตรการ และเป็นการแสดงออกซึ่งความตั้งใจจริงในการดูแลบุตรหลานของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

ส่วนกำลังพลที่ต้องสูญเสียรายได้จากอาชีพเสริม ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงดูครอบครัว ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงและหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ ของกองทัพเรือทุกนาย เอาใจใส่ดูแลกำลังพลโดยใกล้ชิด รวมทั้งช่วยส่งเสริมกิจกรรมที่สามารถสร้างรายได้ให้กับกำลังพลที่ได้รับความเดือดร้อน  และขอให้กำลังพลและครอบครัว ร่วมแรงร่วมใจกันฟันฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ บนพื้นฐานการดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท และมีความพอเพียง

ในช่วงท้าย โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ ขอให้ทุกหน่วยร่วมขยายผลการสร้างการรับรู้สนับสนุน ในโครงการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่กำลังดำเนินการอยู่ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้อง ว่าการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือนั้น เป็นการทำเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติ มิใช่เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้หนึ่งผู้ใด โดยเน้นย้ำว่า “อย่าให้การทำหน้าที่ของพวกเรา ต้องกลายเป็นจำเลยอีกต่อไป”

แชมป์เก่าอย่างโปรตุเกส โบกมืออำลาศึกฟุตบอลยูโร 2020 ไปเรียบร้อย หลังพ่ายให้กับเบลเยียมไป 1-0 พร้อมกับหยุดการทำลายสถิติต่าง ๆ ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเพียงเท่านี้

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

แชมป์เก่าอย่างโปรตุเกส โบกมืออำลาศึกฟุตบอลยูโร 2020 ไปเรียบร้อย หลังพ่ายให้กับเบลเยียมไป 1-0 พร้อมกับหยุดการทำลายสถิติต่าง ๆ ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเพียงเท่านี้

หากว่ากันโดยภาพรวม ทีมชาติโปรตุเกสกับยูโรหนนี้ ไม่ได้ทำผลงานน่าผิดหวังอะไรมากมาย เพราะต้องไม่ลืมว่า โปรตุเกสอยู่ร่วมสายเดียวกับเยอรมัน ฝรั่งเศส แถมยังมีฮังการี ที่เล่นดีเหลือเกิน ดังนั้น ผ่านเข้ารอบมาได้ ก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน

แต่ที่ต้องวิเคราะห์กันอย่างหนักหน่วง มันคือฟอร์มการเล่นของนักเตะตัวความหวังทั้งหลาย โดยเฉพาะนักเตะความหวังของชาติอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ฟอร์มต่ำกว่าคุณภาพอย่างน่าตกใจ!

มาดูสถิติของบรูโน่กับยูโรหนนี้กันหน่อย ลงเล่นทั้งหมด 4 นัด แต่ไม่เต็มเกมสักนัด ถ้าไม่ถูกเปลี่ยนออก ก็ถูกส่งลงสำรอง เบ็ดเสร็จรวมเวลาลงเล่นไปทั้งสิ้น 206 นาที มีการยิงประตูเป็น 0 การแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูเป็น 0 ความพยายามในการสร้างโอกาสยิงประตู 4 ครั้ง การส่งบอลที่แม่นยำคิดเป็น 75% และวิ่งรวมเป็นระยะทาง 23.9 กิโลเมตร

ดูจากสถิติตัวเลข ต้องบอกว่า น่าใจหาย นี่มันบรูโน่คนเดียวกับที่ลงเล่นในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริง ๆ หรือ? เจ้านักเตะเบอร์ 18 คนนั้นมันวิ่งพล่านไปทั่วสนาม จ่ายบอลงาม ๆ อยู่ตลอดเวลา และทำประตูได้อยู่เป็นประจำ แต่ไอ้เจ้านักเตะเบอร์ 11 ที่อยู่ในทีมโปรตุเกสชุดนี้ มัน ‘บรูโน่เสิ่นเจิ๊น’ อ๊ะเปล่าเพ่!

มีสมมติฐานที่นำมาซึ่งฟอร์มแย่ ๆ ของบรูโน่อยู่หลายประการ เป็นต้นว่า เจ้าตัวมีอาการล้าจากการลงเล่นแบบมากมายก่ายกองในฟุตบอลลีกตลอดช่วงที่ผ่านมา หรือเป็นเพราะแท็คติกในทีมโปรตุเกสชุดนี้ ที่ไม่เอื้อให้เขาได้เล่นได้ตามอิสระอย่างใจคิด หรือเพราะมีสตาร์รุ่นพี่อย่างโรนัลโด้ ที่บารมีแรงซะจนตัวเองเล่นไม่ออก หรืออาจเป็นเพราะบรูโน่คาดหวังกับตัวเองมากเกินไป จนทำให้เล่นไม่เป็นธรรมชาติ สุดท้ายจึงทำฟอร์มหลุดหายไปซะดื้อ ๆ อย่างที่เห็น

เอาล่ะ ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ที่เหลือคงเป็นเรื่องที่เจ้าตัวต้องกลับไปพิจารณาแก้ไข มันคือประสบการณ์แย่ ๆ ที่เขาต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ความจริงเรื่องฝีเท้าคงไม่น่าห่วง แต่ที่น่าห่วงคือสภาพจิตใจ ถึงตรงนี้ แฟนคลับบรูโน่ก็ได้แต่ส่งกำลังใจ และอยากอยากบอกกับเจ้าตัวว่า ‘พักบ้างเน้อะ พี่โน่เน้อะ’


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘หมอแม็พ-ทนายบอน’ ขอบคุณกรมการแพทย์ พิจารณาแนวทางให้ยา Favipiravir ก่อนได้เตียงรักษาทันที พร้อมเสนอรัฐสร้าง ‘Community-City Quarantine’ แยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัว กักตัวไว้สถานกักตัวชุมชน-จังหวัด ป้องกันระบาดแบบทวีคูณ

ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคกล้า และนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมาย พรรคกล้า กล่าวถึงแนวทางกรมการแพทย์เตรียมจ่ายยา Favipiravir ให้ผู้ติดเชื้อทันที ระหว่างรอเตียงรักษาว่า แม้จะเริ่มที่การจ่ายยาให้เฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่าง แต่การเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ให้จ่ายยาทันที จะเป็นประโยชน์และสามารถรักษาชีวิตของผู้ป่วยได้จำนวนมาก สอดคล้องกับข้อเสนอพรรคกล้าถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยขอให้จ่ายยาผู้ติดเชื้อทันที เพื่อความเสี่ยงอาการรุนแรง

“ไม่ว่าการปรับเปลี่ยนนี้จะเกิดจากข้อเสนอของพวกเราหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอให้พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์ก็พอ เพราะเราอยากเห็นการแก้ไขที่ทันท่วงที การรักษาที่ดีที่สุดคือการรักษาที่เร็วที่สุด นอกจากจะลดโอกาสการเสียชีวิตแล้ว ยังลดภาระแพทย์ พยาบาล บุคลากรด้านสาธารณสุข ถือเป็นอีกแนวทางเพื่อป้องกันระบบสาธารณสุขล่มสลายได้” ทพ.กันตพงศ์ กล่าว

ขณะที่นายณัฐนันท์ ยังย้ำถึงข้อเสนออีก 1 ข้อ ขอให้หยุดยั้งการระบาดแบบ ‘ทวีคูณ’ ด้วยการแยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัวและคนใกล้ชิดทันที ซึ่งทำได้ด้วยการสร้าง ‘ที่กักตัวชุมชน’ (Community Quarantine) หรือ ‘ที่กักตัวของจังหวัด’ (City Quarantine) ด้วยการหาสถานที่ตามชุมชนหรือสถานที่ขนาดใหญ่รองรับผู้ป่วยที่ทราบผลออกมากักตัวทันที เพื่อป้องกันการระบาดจากผู้ป่วย 1 คน ไปสู่ครอบครัวหลายคน คนไทยเป็นครอบครัวใหญ่บางครั้งจาก 1 คน กระจายสู่ 15 ถึง 20 คนก็ยังมี

“หากไม่หยุดยั้งการระบาดแบบทวีคูณ ก็ไม่มีทางควบคุมการระบาดได้ โดยสถานที่กักตัวดังกล่าว สธ. ต้องผ่อนผันหลักเกณฑ์ จะยึดกฎระเบียบเคร่งครัดไม่ได้ เพราะเป็นสถานการณ์วิกฤติ โดยต้องใช้อาสาสมัครที่ได้รับการฝึกอบรม เข้ามาดูแลแทนหมอและพยาบาล อาจมีข้อถกเถียงเรื่องต่าง ๆ แต่ต้องคิดว่าเพื่อหยุดยั้งการระบาดแบบทวีคูณ จะต้องแยกตัวผู้ป่วยออกมาด้วยวิธีการใดก็ได้ ซึ่งในสถานที่กักตัวนี้ยังสามารถเร่งจ่ายยา Favipiravir ให้ผู้ป่วยได้อีกด้วย” นายณัฐนันท์ กล่าว


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กตู่” เคาะเงินช่วยลูกจ้าง-นายจ้างเจอปิดกิจการ 1 เดือน

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากประกาศควบคุมที่ออกมา โดยจะเป็นมาตรการพิเศษที่จะทำในช่วง 1 เดือน ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 จังหวัด โดยช่วยเหลือลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม ตามมาตรา 33 ในสาขาก่อสร้าง สาขาที่พักแรมละบริการด้านอาหาร สาขาการบริการอื่น ๆ เช่น ร้านนวด สปา และสาขาศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ เช่น งานอีเว้นต์ งานกลางคืน รวม 6.9 แสนคน โดยกระทรวงแรงงานจะจ่ายค่าทดแทนกรณีเหตุสุดวิสัย 50% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท 

ขณะเดียวกันลูกจ้างกลุ่มนี้รัฐยังช่วยจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมให้อีก 2,000 บาทต่อราย ซึ่งส่วนนี้จะได้รับเฉพาะลูกจ้างตาม ม.33 ที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น ซึ่งมีจำนวนประมาณ 6 แสนคน ส่วนนายจ้างเองจะได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อหัวลูกจ้าง โดยคิดรายหัวลูกจ้างที่อยู่ในบริษัทสูงสุดไม่เกิน 200 คน อีกส่วนหนึ่งผู้ที่เป็นแรงงานนอกระบบประกันสังคม โดยพิจารณาจากจำนวนลูกจ้างและนายจ้างที่มาลงทะเบียนในระบบถุงเงิน หากต้องการรับความช่วยเหลือผ่านมาตรการที่จะออกมานี้ก็ต้องไปรีบลงทะเบียนเข้าระบบประกันสังคม โดยกระทรวงแรงงานจะอำนวยความสะดวกให้

“มาตรการนี้จะใช้เงินรวม 7,500 ล้านบาท แยกเป็น เงินจากกองทุนประกันสังคม 3,500 ล้านบาท และใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน อีก 4,000 บาท ที่จะใช้ในส่วนที่รัฐช่วยเหลือรายละ 2,000 บาท โดยจะเสนอครม.วันที่ 29 มิ.ย.นี้ เห็นชอบหลักการ และจะเสนออนุมัติวงเงินในสัปดาห์ต่อไป เพื่อให้เริ่มต้นจ่ายเงินได้ในวันที่ 6 ก.ค.นี้ ส่วนระยะถัดไปจะมีมาตรการเพิ่มเติมไปช่วยเหลือเอสเอ็มอีทั่วประเทศ” 

เพจ หลง อินเดีย ได้แชร์เรื่องราวของช่างตัดผมชาวอินเดียผู้รักในการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ และเลือกเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากการอ่าน แม้ตัวเองจะไม่มีโอกาสได้เรียนสูง ๆ เหมือนผู้อื่น แถมเขาคนนี้ยังพยายามกระตุ้นให้คนรอบข้างหันมารักการอ่านและลองห่างจากสมาร์ตโฟน

เพจ หลง อินเดีย ได้แชร์เรื่องราวของช่างตัดผมชาวอินเดียผู้รักในการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ และเลือกเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากการอ่าน แม้ตัวเองจะไม่มีโอกาสได้เรียนสูง ๆ เหมือนผู้อื่น แถมเขาคนนี้ยังพยายามกระตุ้นให้คนรอบข้างหันมารักการอ่านและลองห่างจากสมาร์ตโฟนในมือดูเสียบ้างว่า...

“ผมเรียนไม่จบชั้นม.2 เพราะที่บ้านผมยากจนมาก แต่ความกระหายในการอยากเรียนรู้ของผม #มันไม่มีวันหยุด” นี่คือร้านตัดผมอินเดียที่มีหนังสือในร้านกว่า 900 เล่ม

คุณพี พรมารีอัปปัน ช่างตัดผมในเมืองตูติโคริน จากรัฐทมิฬนาฑู รัฐทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย เขามีสโลแกนประจำร้านตัดผมของเขาว่า #หากจะตัดผมร้านนี้ต้องอ่านหนังสือขณะนั่งรอคิว

“ผมเชื่อมาตลอด ว่าการศึกษาที่ดีนั้นสำคัญมาก ผมใฝ่ฝันในวัยเด็กว่า ผมอยากเข้าทำงานในสำนักงานหรือบริษัทชั้นนำ แต่ด้วยความที่บ้านของผมยากจนมาก ผมจึงมาไกลสุดได้เพียงแค่ชั้น ม.2 ที่ยังไม่สมบูรณ์เสียด้วยซ้ำ”

“แต่เพราะผมยังคงหลงใหลในความรู้ กระหายในการศึกษาอย่างมาก หลังจากที่ต้องลาออกจากโรงเรียน ผมก็รับจ้างทำงานหาเงิน พอเก็บเงินได้สักระยะ ผมจึงตัดสินใจเปิดร้านตัดผมของตัวเอง ซึ่งเป็นร้านเล็ก ๆ“

“เมื่อ 8 ปีก่อน ผมจึงได้เริ่มสะสมหนังสืออย่างจริงจัง แล้วได้เอามาตั้งไว้ที่ร้าน โดยมีตั้งแต่หนังสือ อัตชีวประวัติของคนดัง ไปถึงหนังสือนิยายขายดี มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาทมิฬเลยครับ...และแน่นอน ทั้งหมดนี้ผมอ่านมันหมดแล้ว”

“และอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมตั้งใจก็คือ #การแยกผู้คนออกจากสมาร์ตโฟนสักระยะ ปัจจุบันนี้ผู้คนติดสมาร์ตโฟนมากเกินไป ผมจึงมีกุศโลบายว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือในร้านผมขณะรอคิว ผมจะลดราคาให้เลย 30%”

“โดยที่คุณจะอ่านแค่ 2-3 หน้าก็ได้ แล้วก็ช่วยจดสรุปสั้น ๆ หรือโน้ตเล็ก ๆ โดยไม่ต้องเป็นข้อมูลเชิงวิเคราะห์จริงจังลงในสมุดของร้านให้ผม เพียงเท่านี้ทั้งคุณและผมก็ได้ประโยชน์ทั้งคู่...แต่ผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือ #ตัวพวกคุณ”

แม้จะมีลูกค้าบางท่านที่ให้ตายยังไงก็ไม่อ่าน เพราะไม่ชอบการอ่านจริง ๆ คุณพีก็มีทางเลือกให้ค่ะ นั่นก็คือ #หนังสือเสียง ซึ่งเขาจะเปิดให้ฟังในร้าน และให้คนที่รอคิวตัดผมจับใจความแล้วเขียนสรุปไว้

และในปีที่แล้ว เขาก็ได้เริ่มทำการปรับเปลี่ยนบางส่วน โดยมีการแบ่งปันให้มีการยืมหนังสือแก่ทางโรงเรียนสำหรับนักเรียนอีกด้วยนะคะ เพราะคุณพีแค่อยากให้คนทุกคนมีความรู้ติดตัวไว้

เคยได้ยินคำนี้กันมั้ยคะเพื่อน ๆ ที่ว่า #คุณไม่อ่านคุณจะรู้อะไร สำหรับบอสคำ ๆ นี้มันบาดลึก และ บาดคมมากค่ะ เพราะมันทำให้เราตระหนักขึ้นได้เสมอว่า การอ่านนอกจากจะได้รู้ แต่การได้รู้นั้นจะเปิดโลกของเรามากแค่ไหน

ชอบแนวความคิดนี้มากเลยค่ะ สมแล้วที่อินเดีย คือ Number 1 ของโลก ที่เป็นประเทศรักการอ่านที่สุดค่ะ

 

ที่มา : https://www.facebook.com/101560597967366/posts/372977294159027/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ศรีสุวรรณ” พร้อมแพทย์เวชกรรม ยื่นศาล รธน. วินิจฉัยกรณีหญิงตั้งท้องประสงค์ทำแท้งขัดรัฐธรรมนูญ หรือไม่ หวั่นกม.กระทบจิตใจหมอ 

ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมคณะแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอใช้อำนาจตามมาตรา231 ของรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา301 มาตรา305(3) มาตรา305(4) และ มาตรา305(5) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา26 ประกอบ มาตรา4 มาตรา25 มาตรา26 มาตรา27 มาตรา28 มาตรา50(6) และ มาตรา77 วรรคสอง หรือไม่ ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวเป็นการอนุญาตให้หญิงที่ตั้งครรภ์หากประสงค์จะทำแท้งก็สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองโดยไม่มีความผิด แม้อายุครรภ์จะมากกว่า 12 ถึง 20 สัปดาห์ และหากจะให้แพทย์ทำแท้งให้ก็เพียงแค่ยืนยัน ว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศเท่านั้น ก็สามารถทำแท้งได้เลย โดยไม่ต้องมีข้อบ่งชี้หรือหลักฐานยืนยันเสียก่อน อันถือได้ว่าเป็นกฎหมายที่ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เลวร้ายที่สุดของไทย 

แต่เมื่อกฎหมายดังกล่าวได้มีการบังคับใช้มาแล้ว ทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจำต้องทำแท้งให้คนท้อง เป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจแพทย์ที่ต้องทำหน้าที่ดังกล่าวเป็นอย่างมาก แม้ในทางกฎหมายจะยังไม่ถือว่าทารกในท้องยังไม่มี “สภาพบุคคล” แต่ในทางการแพทย์ตามศัพภวิทยา (Embryology) ระบุว่า “เด็กอายุครรภ์ 3 เดือนหรือ 12 สัปดาห์นั้น มีอวัยวะต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว มีอวัยวะเพศชัดเจน มีหัวใจเต้นเร็ว มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย เนื่องจากระบบประสาททำงานแล้ว มิใช่เป็นเพียงก้อนเลือดอย่างที่หลายคนอาจเข้าใจ 

การที่กฎหมายอนุญาตให้ทำแท้งทารถที่มีอายุครรภ์ดังกล่าว จึงชัดเจนว่าเป็นการทำลายมนุษย์ ซึ่งอาจเป็นบาดแผลในจิตใจของแพทย์ผู้กระทำและมารดาไปตลอดชีวิต ซึ่งแพทย์ทุกคนมีหน้าที่สำคัญในการธำรงไว้ซึ่งจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรมซึ่งเป็นมโนธรรมชั้นสูง” อีกทั้ง ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ยึดมั่นในศีล 5 ข้อเป็นหลักนำทางชีวิต และข้อที่หนักและสำคัญที่สุดคือ ศีล ข้อที่หนึ่ง เรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หากละเมิด ย่อมมีรู้สึกขัดแย้งภายใน ความเชื่อทางศาสนา ศีลธรรม บาปบุญ ต่อตัวเองและครอบครัว เป็นปัจเจกบุคคล จะล้มล้างไม่ได้ 

กฎหมายดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าเป็นการกระทบต่อมโนธรรมชั้นสูงของความเป็นแพทย์ และจะสร้างบาดแผลในจิตใจของแพทย์ผู้กระทำและมารดาของทารกไปตลอดชีวิต ซึ่งชัดเจนว่าจะเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะสูตินรีแพทย์ จึงเป็นกฎหมายที่ขัดหรือแย้งต่อ มาตรา26 ประกอบ มาตรา4 ของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยตรง เหตุนี้แพทย์ทางเวชกรรม สูตินรีแพทย์จึงมอบฉันทะให้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยนำความนี้ยื่นเป็นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลวินิจฉัยว่า การตรากฎหมายดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 หลายมาตราหรือไม่  

หมอเฉลิมชัย เผยข้อมูลคนสิงคโปร์มั่นใจวัคซีน Sinovac แห่จองฉีดแบบเสียเงิน ทั้งที่รัฐบาลมี Pfizer และ Moderna ให้ฉีดฟรี

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว Chalermchai Boonyaleepun โดยมีข้อความว่า ต่างจิตต่างใจ ลางเนื้อชอบลางยา ชาวสิงคโปร์แห่ต่อคิวฉีดวัคซีน Sinovac แบบเสียเงิน ทั้งที่มีวัคซีน Pfizer และ Moderna ให้ฉีดฟรี ปัญหาเรื่องการเลือกวัคซีนว่า บริษัทไหน เทคโนโลยีอะไร จะดีกว่ากัน ยังคงเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันไม่จบสิ้นในหมู่ประชาชนทุกประเทศทั่วโลก

สำหรับประเทศไทยเราเอง มีประชาชนส่วนหนึ่ง ที่มีความมั่นใจในวัคซีนของสหรัฐอเมริกาที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ของบริษัท Pfizer และ Moderna และไม่มั่นใจในวัคซีนของจีน ที่ใช้เทคโนโลยีเชื้อตาย ของบริษัท Sinovac หรือ Sinopharm จนเกิดเหตุการณ์ ชะลอการฉีดวัคซีนของจีนไว้ก่อน และจะรอฉีดวัคซีนของสหรัฐฯ แม้จะต้องเสียเงินก็ตาม

ขณะเดียวกันในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มอาเซียนเหมือนประเทศไทย และมีระดับการศึกษาตลอดจนระดับเศรษฐกิจไม่ได้ด้อยกว่าประเทศไทย (อาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ) กลับมีความเชื่อเรื่องวัคซีนของประชาชนส่วนหนึ่ง ไปในทางตรงกันข้าม

โดยมีปรากฏการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีชาวสิงคโปร์จำนวนมาก ได้แห่กันไปจองคิว บางคนถึงกับไปนอนจองที่ตั้งแต่ตีสอง เพื่อจะฉีดวัคซีน Sinovac ของจีน โดยจะต้องเสียเงินเพิ่ม 7.50 -18.60 เหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่รัฐบาลสิงคโปร์ ได้จัดฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna ให้ฟรีอยู่แล้ว

ขณะนี้รัฐบาลสิงคโปร์ ได้อนุญาตให้ 24 สถานพยาบาลเอกชน นำเข้าวัคซีน Sinovac ของจีนจำนวน 200,000 โดส มาฉีดเป็นวัคซีนทางเลือก และสามารถเก็บเงินกับประชาชนได้ เป็นกรณีตรงกันข้ามกับประเทศไทยเลยทีเดียว

โดยเหตุผลที่ชาวสิงคโปร์ส่วนหนึ่งแย่งกันมาจองคิววัคซีน ซึ่งศูนย์บางแห่ง มีวัคซีนเพียง 200 โดส แต่คนมาจองถึง 1000 คน และเกิดการแห่เข้าคิวแบบล้นหลาม จนมีชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง ยอมจ่ายเงินถึง 1000 เหรียญ เพื่อที่จะได้คิวการฉีดวัคซีนจีนของ Sinovac

ที่คนสิงคโปร์ แห่มาสนใจวัคซีน Sinovac นั้น มาจากเหตุผลดังนี้

1.) เชื่อในเทคโนโลยีเชื้อตายของวัคซีน Sinovac ว่าจะสร้างความสบายใจปลอดภัยในระยะยาว ดีกว่าเทคโนโลยีใหม่เอี่ยมแบบ mRNA ของ Pfizer และ Moderna

2.) คนที่ฉีดวัคซีนฟรีของสิงคโปร์ทั้ง Pfizer และ Moderna มีจำนวนหนึ่งที่เกิดแพ้หรือมีผลข้างเคียงมาก ก็หลบมาฉีดวัคซีนของจีน ซึ่งมีผลข้างเคียงน้อยกว่า

3.) มีรายงานประสิทธิผล (Effectiveness) การป้องกันโรคในโลกแห่งความเป็นจริง (Real world) ของวัคซีนเทคโนโลยีเชื้อตายที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ในขณะที่ประสิทธิผลในโลกแห่งความเป็นจริงของวัคซีนเทคโนโลยี mRNA ดูจะน้อยลงเป็นลำดับ

4.) คนที่จะเดินทางไปจีน ถ้าฉีดวัคซีนของจีนครบ 2 เข็ม จะไม่ต้องกักตัว มีชาวสิงคโปร์เป็นจำนวนมากที่เป็นเชื้อสายจีน จึงตัดสินใจฉีดวัคซีนของ Sinovac เป็นกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจ ระหว่างสิงคโปร์กับไทย ซึ่งมีความสนใจและต้องการที่จะฉีดวัคซีนแบบตรงกันข้าม จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

ทำให้พบความจริงที่ว่า แต่ละคน ต่างมีเหตุมีผล และความคิด ตลอดจนความเชื่อของตนเอง ในการเลือกวัคซีนที่แตกต่างกัน คือ ต่างจิตต่างใจ หรือลางเนื้อชอบลางยา นั่นเอง

 

ที่มา : https://www.facebook.com/237959479586026/posts/3970092423039361/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"วันชัย" เหน็บ "ฝ่ายค้าน" หยุดมโน ใส่ร้าย ส.ว. เผยไม่มีใครคิดยื่นตีความแก้รธน. รื้อระบบเลือกตั้ง

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวถึงกรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่ามี ส.ว. เตรียมยื่นตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 83 และมาตรา 91 ถึงความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ว่า ตนไม่ได้ข่าวว่าจะมี ส.ว. เตรียมยื่นและไม่มี ส.ว. คนใดที่คิดจะดำเนินการดังกล่าว เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยระบบเลือกตั้งที่เป็นความต้องการของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ดังนั้น ส.ว. ไม่คิดจะขวางหรือขัดแข้งขัดขาของ ส.ส. ทั้งในการพิจารณาเนื้อหาวาระ 2 รวมถึงวาระ 3 ด้วยเช่นกัน

“ฝ่ายค้านอย่าคิดมาก อย่ามโน และอย่าคอยใส่ร้ายทิ่มตำกัน ทุกฝ่ายควรร่วมมือกัน เมื่อเจตจำนงต้องการแก้บัตร 2 ใบ ให้มี ส.ส.เขต 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน ก็ควรร่วมมือแก้ให้สำเร็จ ขณะที่บรรยากาศของทั้ง 2 ฝ่ายหลังจากลงมติรับหลักการวาระแรกแล้วยังเป็นไปด้วยดี บรรยากาศเข้าที่เข้าทาง เพราะเห็นว่าส่วนใหญ่ต้องการ และไม่ถึงขนาดที่จะทำให้เกิดเป็นผลเสีย แม้ช่วงแรกจะมีความรู้สึกหงุดหงิดกันบ้าง” นายวันชัย กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2 มาตรา ซึ่งมีผู้ระบุว่าไม่เพียงพอต้องแก้ไขมาตราอื่นๆ ร่วมด้วย นายวันชัย กล่าวว่า หลักการใหญ่ที่เสนอ คือ แก้ไขระบบเลือกตั้ง ดังนั้นในแนวปฏิบัติสามารถแก้ไขมาตราที่เกี่ยวข้องได้อย่างเรียบร้อย แต่ทั้งนี้เป็นเรื่องที่กรรมาธิการฯ ต้องพิจารณา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top