Saturday, 17 May 2025
NewsFeed

“อรรถวิชช์” หนุนนายกฯ “ไม่ปิดกรุงเทพ” วอนจัดระบบแรงงานต่างด้าว ไม่เอาผิดนายจ้างลูกจ้าง ตรวจเชิงรุก-รักษาฟรี จ่ายยาทันที กักตัวที่พัก จัดระบบส่งอาหารน้ำ ย้ำถ้าดูแลดี ป้องกันเคลื่อนย้ายออกต่างจังหวัดได้ พรรคกล้าพร้อมเป็นอาสาช่วย 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี กล่าวถึงมาตรการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ปริมณฑล สกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า ต้องขอบคุณท่านนายกฯ ที่ไม่ล็อกดาวน์ ไม่ปิดกรุงเทพฯ แต่ปัญหาที่ต้องแก้ให้ตรงจุดคือ “แรงงานต่างด้าว”  กลุ่มนี้ระเบียบราชการหลายขั้นตอนกำกับอยู่ การทำผิดกติกาผิดกฎหมายยังมีอยู่มาก เมื่อเจ็บป่วย ก็เกิดการปิดบังข้อมูลที่แท้จริง จึงอยากให้ละเว้นการดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวทั้งนายจ้างและลูกจ้างไปก่อน แล้วเร่งจัดระบบลงทะเบียนออนไลน์แรงงานต่างด้าวที่เจ็บป่วย จำกัดพื้นที่ให้กักตัวเองในที่พัก ส่งอาหาร และยาต้านไวรัสทันที เชื่อว่าถ้าแรงงานมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลที่ดี จะป้องกันการเคลื่อนย้ายออกต่างจังหวัดได้ด้วย 

"สถานการณ์ตอนนี้หมอไม่พอเตียงไม่มี จำเป็นต้องใช้วิธีการกักแยกตัวเองในที่พัก (self-isolate) ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้ผลในหลายประเทศ และย้ำนะครับว่า ต้องจ่ายยาทันทีเมื่อพบเชื้อ เพราะขณะนี้กว่าจะได้ยา ต้องเสียเวลาเข้าระบบนานมาก กระทรวงแรงงาน และ กทม. ต้องร่วมมือกัน การแจกอาหารน้ำดื่ม สำนักงานเขตสามารถรวมจุด มีอาสาสมัคร อสส. และจิตอาสาพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ พรรคกล้าเราก็พร้อมเป็นอาสาช่วยท่าน พร้อมสู้ภัยโควิดนี้ด้วยกัน" นายอรรถวิชช์ กล่าว 

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวด้วยว่า ผ่านมาสองเดือนที่เราทำโครงการ “กล้าหาเตียง” และพบว่าสัปดาห์นี้บีบหัวใจที่สุด หาเตียงยากกว่าช่วงต้นเดือนมาก ยอดผู้ป่วยสะสมมาถึงจุดที่รัฐรับได้ไม่หมด ต้องเลือกเฉพาะเคสหนัก และเมื่อไม่รับผู้ป่วยมารักษา มากักตัว เขาเหล่านั้นก็ใช้ชีวิตปะปนกับคนทั่วไป เช้าเย็นยังต้องไปตลาดซื้อของมาทำกิน โรงพยาบาลเอกชนหลายที่ไม่รับตรวจ เพราะไม่มีเตียงให้ ไม่มีหมอพอ จึงอยากให้ ศบค. พิจารณาปัจจัยต่างๆ นี้ รวมถึงข้อเสนอของพรรคกล้า ก่อนออกรายละเอียดมาตรการที่จะบังคับใช้วันที่ 28 มิ.ย.นี้

พท.อัดมาตรการคัดกรองสภาฯ มีปัญหา หวั่นเกิดคลัสเตอร์ประชุมร่วมรัฐสภา ทำลายภาพลักษณ์ไทย จี้ อภ.กระชับขั้นตอนนำเข้าวัคซีนทางเลือก 

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวน้าพรรคพท. กล่าวว่า ที่รัฐบาลบอกกประชาชนว่าการ์ดอย่าตก วันนี้รัฐบาลกลับการ์ดตกเสียเอง วันนี้มีผู้ติดเชื้อจากโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น เสียชีวิตอีกจำนวนมาก เกิดคลัสเตอร์มั่วไปหมด โควิดวนไปทำเนียบก็หลายรอบ ไปสภาฯ ก็หลายหน ดังน้น ศบค.และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ต้องเร่งทำงานให้เหมือนสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องมีมาตรการที่เหมาะสม คำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน วันนี้มี ส.ว.ติดเชื้อโควิด และทราบผลหลังไปประชุมร่วมรับสภามาสองวัน คำถามคือมาตรการคัดกรองมีปัญหาหรือไม่ สภาฯ บอกให้เชื่อมั่น แต่ ส.ส.พูดกันว่าปล่อยให้คนเป็นไข้สูงสองวันมาประชุมร่วมได้อย่างไร สถานกาณ์ที่สุ่มเสี่ยงหากนำไปสู่คลัสเตอร์ประชุมร่วมรัฐสภา ไทยจะเสียภาพลักษณ์มากน้อยแค่ไน 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า หลังๆ เสียงบ่นของแพทย์ พยาบาลและบุคลากรด้านสาธารณสุข มักถูกกำราบโดย ศบค.และ รมว.สาธารณสุขว่าอย่าพูดสะเปะสะปะ แต่การที่แพทย์ออกมาเปรียบเทียบว่าสภาพการทำงานด่านหน้า เหมือนหมู่บ้านบางระจัน ขอปืนใหญ่แต่ได้ปืนแก๊ป หวังพึ่งวัคซีนยี่ห้อเดียวเปิดประเทศไม่ได้ ปัญหาเตียงรองรับผู้ป่วยหนักไม่เพียงพอวนกลับมาอีกระลอก รถแทนที่จะมารับผู้ป่วยกลายเป็นมารับศพแทน ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งหาแนวทางแก้ไข
ส่วนเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ครบ 150 ล้านโดส ยังห่างไกลความเป็นจริง วันนี้วัคซีนมาน้อย มาไม่ครบ แพทย์ก็เริ่มไม่ไหว ถามว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบอย่าไร 

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการออกมาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับวัคซีนทางเลือกยี่ห้อโมเดอร์น่า ที่จะนำเข้าประเทศไทยในเดือนต.ค.อาจล่าช้าไม่ทันการณ์ว่า  สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่วิกฤติในขณะนี้ เป็นไปได้หรือไม่ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะกระชับขั้นตอนการนำเข้าวัคซีนทางเลือกให้เร็วขึ้น ขั้นตอนการร่างสัญญาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ สัญญาซื้อขาย สัญญาบริการ เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณา คาดว่าจะมีการลงนามสัญญาซื้อขาย (Supply Agreement) ได้ในต้นเดือน ส.ค.นั้น อภ.มีบุคลากรระดับมืออาชีพ บริษัทคู่สัญญาก็มีความพร้อมเรื่องเอกสาร เพราะมีการจัดทำเอกสารเสนอขายวัคซีนเป็นปกติอยู่แล้ว น่าจะกระชับเวลาให้เร็วขึ้นได้

รวมถึงขั้นตอนการประสานงานกับโรงพยาบาลเอกชน เพื่อคาดการณ์การจองวัคซีน ความชัดเจนเรื่องราคาที่จําหน่ายให้กับโรงพยาบาล การประชุมบอร์ด การให้โรงพยาบาลแจ้งยืนยันจํานวนวัคซีนที่สั่งซื้อ การรับคำสั่งซื้อพร้อมงบประมาณจากโรงพยาบาล หากอภ.สามารถกระชับเวลาเพื่อให้การเซ็นสัญญาสั่งซื้อจากเดิม ที่คาดว่าประมาณเดือน ส.ค.สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น จะสามารถแบ่งเบาภาระของแพทย์ พยาบาล และบุลากรทางการสาธารณสุขได้

“สถานการณ์วันนี้เตียงล้น คนป่วยหนัก หากวัคซีนทางเลือกมาได้ไว จะเป็นกำลังเสริมกับวัคซีนที่มีอยู่ ด้วยศักยภาพของอภ. เชื่อมั่นว่าสามารถกระชับเวลาให้วัคซีนทางเลือกเข้ามาได้เร็วขึ้นได้ จะเป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ” นายอนุสรณ์ กล่าว

พท.ซัด “ประยุทธ์” ประกาศปิดแคมป์คนงานทำผึ้งแตกรังอีกรอบ หวั่นโควิดระบาด ตจว.ซ้ำ แนะ 5 ทางออกแก้วิกฤต

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ ผอ.ศบค. ประกาศเตรียมปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและ 4 จังหวัดภาคใต้ เป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความเข้าใจการบริหารภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินบ้างหรือไม่ การออกมาประกาศในลักษณะนี้ มีแต่สร้างความเดือดร้อนให้ภาคแรงงานหาเช้ากินค่ำ กระตุ้นให้ประชาชนเร่งเดินทางกลับภูมิลำเนา หนีการโดนกักตัว ทั้งนี้ การประกาศปิดแคมป์คนงานเพื่อควบคุมการระบาด ต้องประกาศแบบบังคับใช้ทันที โดยมีแผนการรองรับที่ชัดเจน ได้แก่ 1.รัฐบาลต้องออกคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานทันที และต้องดูแลประคองชีวิตทุกด้านอย่างครบถ้วน
2.รัฐบาลต้องพิจารณาปิดบริการขนส่งมวลชนเป็นการชั่วคราวประกอบกันในช่วงสั้นๆ เพื่อป้องกันการเดินทางกลับภูมิลำเนาในทันที และเพิ่มโทษเอาผิดกับเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการที่ทำหน้าที่ ควบคุมจุดตรวจในการดูแลประตูไปสู่จังหวัดต่างๆ 

นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า 3.กรมควบคุมโรคต้องเข้าปิดพื้นที่ตามแนวทางบับเบิ้ล แอนด์ ซีล แล้วปูพรมตรวจคัดกรองทุกแคมป์ เพื่อแยกผู้ติดเชื้อไปสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนามทันที 4.ผู้ที่ตรวจแล้วมีผลไม่ติดเชื้อ และไม่มีอาการป่วย ควรได้วัคซีนโควิด-19 ทันที โดยยังต้องกักตัวในแคมป์แยกสัดส่วน และต้องตรวจผลซำ้อีก 1 ครั้งหลัง 7 วัน 5.หากพื้นที่ใดสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จะต้องเปิดการทำงานในพื้นที่กลับมาทันที ไม่ต้องรอถึง 1 เดือน เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบมากเกินกว่าเหตุ  แต่ยังคงห้ามแรงงานเดินทางออกนอกพื้นที่

“ปรากฏการณ์ผึ้งแตกรังเกิดขึ้นหลายครั้ง พล.อ.ประยุทธ์นอกจากจะควบคุมการระบาดไม่ได้ ยังทำตัวเป็นภาระ ออกคำสั่งให้เกิดการกระจายตัวของผู้มีความเสี่ยง หนำซ้ำการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังแสดงออกแบบไร้ภาวะผู้นำ ไม่สำนึกรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตจากโควิดที่เพิ่มขึ้นทุกวันเลย” นายชนินทร์ กล่าว

ปชป. ขอบคุณทุกฝ่ายผลักดันแก้ไขรธน.สำเร็จ ยืนยันร่างที่13 ชอบธรรม หนุน "บัญญัติ" นั่งประธานกมธ.เพื่อพิจารณา 

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ขอขอบคุณสมาชิกรัฐสภาที่ได้ผ่านร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติมที่ทราบกันอยู่แล้วคือฉบับที่ 13 ที่ได้ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาในวาระที่1 เป็นร่างของพรรค ซึ่งมีการลงชื่อร่วมกันระหว่าง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ต้องถือว่าเป็นความสำเร็จร่วมกันของทุกคนที่ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

ในส่วนของพรรคก็จำเป็นที่จะต้องแสวงหาความเห็นพ้องร่วมกันจากสมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะในชั้นคณะกรรมาธิการคือวาระ2 และวาระ3ต่อไปและพรรคไม่ได้มีความกังวลใดๆทั้งสิ้นในส่วนของกระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งก็ต้องว่ากันตามกระบวนการของรัฐสภา โดยยึดหลักการระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ท้ายที่สุดแล้วร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมจะผ่านหรือไม่ก็อยู่ที่สมาชิกรัฐสภา แต่เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาหลายฝ่ายจะเห็นพ้องต้องกันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในส่วนของระบบเลือกตั้ง และยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 13 เป็นร่างที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญภายใต้หลักการและเหตุผลคือการกำหนดให้มีส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คนและมีส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน และมีหลักการที่สำคัญคือให้มีบัตรเลือกตั้งสองใบที่จะมาตอบสนองความต้องการ ตอบเจตนารมย์ของประชาชนที่มีความต้องการเลือก ส.ส.เขตคนที่ประชาชนรัก ที่อยู่ในพื้นที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนและมีความต้องการที่จะเลือกพรรคที่ตนชื่นชอบเช่นกัน ไม่ว่าจะชื่นชอบพรรคดังกล่าวเพราะเรื่องนโยบายหรือเรื่องอุดมการณ์ 

ส่วนกระบวนการคำนวณสัดส่วนของส.ส.แบบบัญชีรายชื่อก็ได้กำหนดในร่างแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนให้ไปกำหนดหลักเกณฑ์ โดยการระบุไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ภายใต้หลักการ และเหตุผลหากมีการแก้ไขบางข้อความในส่วนอื่นๆที่ต้องมีการปรับแก้ข้อความเพื่อให้สอดคล้องต้องกัน กับหลักการและเหตุผลดังที่ได้กล่าวมา ในชั้นคณะกรรมาธิการก็สามารถดำเนินการได้แต่สิ่งสำคัญที่สุดต้องอยู่ภายใต้หลักการและเหตุผลคือให้มี ส.ส.เขตจำนวน 400 คนและ ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวน 100 คนและมีบัตรเลือกตั้งสองใบรวมไปถึงการกำหนดวิธีการคำนวณคะแนนให้ชัดเจน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง พรรคยืนยันยืนว่าต้องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญยืนยันที่จะดำเนินการควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดีขึ้น  

เมื่อถามว่าในส่วนของการเลือกประธานคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระที่สอง หากมีหลายฝ่ายต้องการให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน พรรคจะมีความเห็นว่าอย่างไร  นายราเมศ กล่าวว่า หากกรรมาธิการให้เกียรติทางพรรคก็พร้อมที่จะสนับสนุนนายบัญญัติ เพราะเป็นบุคคลที่หลายฝ่ายให้การยอมรับ มีความเป็นกลาง ซื่อสัตย์สุจริต  คิดถึงประโยชน์ของ ปชช และ ประเทศเป็นที่ตั้ง มีประสบการณ์ ในทางการเมืองมาอย่างยาวนาน และเคยร่วมงานในส่วนของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ที่ตั้งต้นการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญสมาชิกรัฐสภาหลายท่านทราบดีถึงความสามารถ มุมมอง แนวคิด ที่เป็นหลักให้กับสมาชิกมาโดยตลอด หากกรรมาธิการเห็นด้วยก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาในวาระที่สองเป็นอย่างมาก 

เมื่อถามว่ามีนักวิชาการมองว่าการแก้ระบบบัตรเลือกตั้งให้เป็น 2 ใบ เป็นประโยชน์กับพรรคการเมืองใหญ่มากกว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน นายราเมศ กล่าวว่า รายละเอียดส่วนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อยังไม่มีการถกเถียงกัน และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประชาธิปไตย มองว่าอย่าไปคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองใดเพราะทุกพรรคการเมืองก็มีจำนวนอยู่ในส.ส. และส่วนในวาระที่ 2 ก็มีในส่วนของกมธ.แต่ละพรรคการเมือง เวทีนี้ต่างหากที่ทุกพรรคต้องมาพูดคุยว่าการแก้ไขระบบเลือกตั้งจะต้องเกิดประโยชน์กับระบบประชาธิปไตยและประชาชนนี้คือสาระสำคัญมากกว่า ส่วนร่างประชาชนก็อยู่ในกระบวนการของรัฐสภา ซึ่งได้แจ้งกลับไปในทางผู้ริเริ่มและก็ได้ไปให้ประชาชนลงลายมือชื่อ นี้เป็นส่วนของเป็นอีกร่างหนึ่งก็ต้องติดตามดูว่าจะดำเนินกระบวนการในขั้นตอนใด

‘เดอ ลิกต์’ โดนแดง จากเจตนาแฮนด์บอล ‘เนเธอแลนด์’ โดน ‘เช็ก’ สอยตกรอบ 2-0

ใบแดงจากการปัดบอลโดยเจตนาของ แม็ทไธส์ เดอ ลิกต์ ส่งผล ที่ไม่เพียงแต่ทำให้ เนเธอร์แลนด์ เหลือผู้เล่น 10 คน แต่ยังเปิดช่องให้สาธารณรัฐเช็ก ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่น บุกกระหน่ำ ยิง 2-0 โดยได้ประตูนำจาก โทมัส โฮเลส ในนาทีที่ 67 และปิดท้ายจากพาทริค ชิค ในนาทีที่ 80

ทำให้ เช็ก ลิ่วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2020 แบบหักปากกาเซียน เข้าไปเจอกับ เดนมาร์ก วันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ส่วนพลพรรค ‘ดัตช์แมน’ ตกรอบกลับบ้าน


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กตู่”ปราศรัยวันต่อต้านยาเสพติด ย้ำรบ.มุ่งลงโทษทางอาญา-ยึดทรัพย์ พร้อมบำบัดผู้ป่วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวคำปราศรัยเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2564 ว่า องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 26 มิ.ย. ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกได้ตระหนักถึงภัยคุกคามของปัญหายาเสพติด ที่มีผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติ ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกได้ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับประชาคมโลกต่อต้านยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2530 ถึงปัจจุบัน รัฐบาลมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามมติที่ประชุมสหประชาติ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแนวใหม่ โดยมุ่งเน้นลงโทษทางอาญาและยึดทรัพย์สินผู้ผลิต ผู้ค้ายาเสพติด โดยในด้านการปราบปรามยาเสพติดได้นำเทคโนโลยีและเครื่องมือสมัยใหม่เข้ามาช่วยในงานสืบสวนสอบสวน ตลอดจนอบรมพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ล้ำหน้ากว่าผู้ค้ายาเสพติด ตลอดจนการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านการบำบัดรักษาผู้เสพ ให้ถือว่าผู้เสพเป็นเหยื่อเป็นผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการบำบัดรักษา ตลอดจนการฝึกอาชีพให้ผู้บำบัดรักษาที่มีความสนใจได้มีอาชีพ สามารถดูแลตนเองต่อไปได้ และมีการติดตามผู้ผ่านการบำบัดรักษาอย่างเป็นระบบ ด้านการป้องกันยาเสพติด นอกจากจะป้องกันไม่ให้คนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแล้ว ยังต้องป้องกันไม่ให้คนไปยุ่งเกี่ยวกับวงจรการค้ายาเสพติดอีกด้วย โดยดำเนินการพัฒนาหลักสูตรการให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด บรรจุลงในหลักสูตรของการศึกษาทุกระดับ รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้าน ชุมชน การจัดตั้งกองทุนแม่ของแผ่นดิน และการนำแนวทางของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในการทำโครงการพัฒนาทางเลือก เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างยั่งยืน 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบายการนำพืชเสพติดมาใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ และพัฒนาต่อยอดให้เป็นพืชเศรษฐกิจต่อไป ในนามของรัฐบาลขอขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมมือกันดูแลสังคมของเรา และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ของทุกหน่วยงาน องค์กร ที่ได้ทุ่มเทเสียสละเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดมาอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด 

‘อาซาร์’ ยิงดับ โปรตุเกส 1-0 ส่ง ‘เบลเยียม’ ลิ่วรอบ 8 ทีม รอฟัดอัซซูรี

บิ๊กแมตช์รอบ 16 ทีม ศึกยูโร 2020 แข่งกันที่สเปน เบลเยียม ลงสนามเจอ โปรตุเกส แชมป์เก่า เกมนี้ เบลเยียม ตัวเด็ดลงครบทั้ง โรเมลู ลูกากู, ธอร์แกน-เอเดน อาซาร์, เควิน เดอ บรอยน์ ส่วน ‘ฝอยทอง’ วาง 3 ประสานเป็น ดิโอโก้ โชต้า, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และคริสเตียโน่ โรนัลโด้

โดยธอร์แกน อาซาร์ ซัดประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 42 แม้ว่า โปรตุเกส จะบุกกระหน่ำช่วงครึ่งหลังแต่ยิงไม่คม จบเกมเบลเยี่ยม เบียดเอาชนะไป 1-0 พร้อมเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเจอ อิตาลี อีกหนึ่งเต็งแชมป์ของรายการ วันที่ 2 กรกฎาคม นี้ ส่วนแชมป์เก่าโปรตุเกส จอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมเท่านั้น


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

.

#THESTATESTIMES

#NewsFeed

#ยูโร2020

#รองเท้าAeroSoft

“บิ๊กแก้ว” สั่ง เพิ่มมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายของปชช. และแรงงาน ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูง รวมทั้งการควบคุมแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่กทม. - ปริมณฑล และ พื้นที่ 4 จชต.

พล.ต.ธีรพงศ์  ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการเร่งด่วนผ่านระบบ VTC โดยสั่งการให้หน่วยขึ้นตรงศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) บูรณาการการจัดกำลังสนับสนุนและประสานการปฏิบัติกับจังหวัด และกรุงเทพมหานคร ในการสนธิกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ให้มีความเข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติภารกิจควบคุมแคมป์คนงาน และไซต์งานก่อสร้างในพื้นที่ รวมทั้งการควบคุมการเคลื่อนย้ายของประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จ.สงขลา จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส) โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ (26 มิถุนายน 2564) เป็นต้นไป 
 
สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองบัญชาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงเหล่าทัพ รับผิดชอบ โดยมี ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร เป็นผู้วางแผนการปฏิบัติ  
 
ในส่วนของจังหวัดในเขตปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร,  และนครปฐม  มีกระทรวงมหาดไทย (จังหวัด), ตำรวจภูธรจังหวัด และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงกองทัพบก รับผิดชอบ  
 
ในด้านการควบคุมการเคลื่อนย้ายในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ โดยมีกระทรวงมหาดไทย (จังหวัด), ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตำรวจภูธร จังหวัด), ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงกองทัพบก และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงกองทัพเรือ รับผิดชอบ 
 
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะสามารถจำกัดกลุ่มแรงงานซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยไม่อนุญาตให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานในทุกกรณี อันจะส่งผลให้การควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป็นไปตามกรอบแนวทางของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่มีความสำคัญเร่งด่วน และเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงภาวะปกติ โดยเร็วที่สุด ต่อไป

“เสกสกล ”สวน “หญิงหน่อย” ใจมืดบอด ไม่เห็นความตั้งใจ นายกฯ 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย วิจารณ์มาตรการล็อกดาวน์ โดยรัฐบาลบริหารงานตามยถากรรม โยนภาระให้ประชาชน ว่า ประกาศข้อกำหนด ฉบับที่ 25 เป็นการใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อควบคุมการระบาดไวรัสโควิด-19ในพื้นที่เป้าหมายเฉพาะ 10 จังหวัด  ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เป็นการสกัดกั้นไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างโดยเฉพาะกลุ่มแรงงาน สถานประกอบการ ที่พบว่ามีการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อน รวมถึงการขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงนี้ เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเป็นการยับยั้งการระบาดของเชื้อโควิด ไม่ใช่การล็อกดาวน์ และมาตรการดังกล่าวเลือกที่จะคุมเข้มในบางจุดที่จะเป็นสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ห่วงใยทุกคนและมาตรการที่ออกไปคิดดีแล้ว

ส่วนที่คุณหญิงสุดารัตน์และลูกทีม บอกว่านายกฯ บริหารตามยถากรรม จนทำให้สถานการณ์วิกฤตเตียงไม่พอ ทำให้รับผู้ป่วยมารักษาไม่ทันท่วงทีนั้น ยิ่งส่งผลให้มีผู้ป่วยหนัก และตายมากขึ้นนั้น นายกฯและทีมแพทย์ทราบดีถึงเหตุการณ์เตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ ซึ่งสาเหตุก็มาจากการระบาดที่มีจำนวนมากขึ้นนั่นเอง จึงได้ตัดสินใจควบคุมจุดที่มีการระบาดมากอย่างแคมป์คนงาน และที่ผ่านมาก็พยายามเสริมเตียงในโรงพยาบาลสนามหลายแห่ง เจรจาขอเตียงจากโรงพยาบาลเอกชนมาเสริมหรือการใช้พื้นที่ของทหารมาทำเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว สิ่งเหล่านี้มีการดำเนินการมาแล้ว

นายเสกสกล กล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ บอกนายกฯบริหารแบบตามยถากรรม การล็อกดาวน์ โดยล็อกคนปิดการทำมาหากินเพียงอย่างเดียวโดยไม่ล็อกโรค จะไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ในเร็ววัน แต่คนจะตายเพราะโรคและพิษเศรษฐกิจ ถามว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ และขณะนี้ ประเทศไทยกำลังจะเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แสดงให้เห็นแล้วว่า นายกฯคิดรอบด้าน ทั้งการควบคุมเชื้อโควิดและด้านเศรษฐกิจ แต่ไม่ว่านายกฯและรัฐบาลจะทำอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ และฝ่ายค้านคงไม่เห็นด้วย แต่อย่าทำใจมืดบอดมองอะไรไม่ดีไปหมด เพราะประชาชนมองอยู่ อย่าให้เขาต้องเอือมระอากับนักการเมืองที่จ้องจะสร้างภาพ เอาแต่หาเสียงกับประชาชนอย่างเดียว ไม่นึกถึงประเทศชาติ ส่วนรวมเลย

“สงคราม”ชี้มาตรการรัฐคือคำสั่งประหารผู้ประกอบการ อัดสั่งปิดแคมป์คนงานไร้แผนรองรับทำไวรัสกระจายทั่วไทย

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ามาตรการล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร ปริมณฑลและจังหวัดชายแดนใต้สี่จังหวัด หลังจากที่เกิดโควิดระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีคลัสเตอร์ต่างๆ การประกาศปิดแค้มคนงานก่อสร้าง ห้ามทานอาหารในร้านเป็นเวลา 30 วัน รัฐบาลหยุดการะบาดของไวรัสโควิด-19 แต่มาตการที่ออกมากลับไม่พบว่ามีแผนงานรองรับ และสร้างผลกระทบที่หนักขึ้น เพราะล่าสุดพบว่าคนงานในแคมป์จำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา ดังนั้นมาตรการดังกล่าวไม่ต่างจากรัฐบาลกำลังส่งออกเชื้อไวรัสร้ายไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ มาตรการนี้จะส่งผลให้เชื้อไวรัสกระจายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาตรการบนฐานของความไม่รู้ ส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น หากการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ รัฐบาลจะทำอย่างไร การแก้ปัญหาไวรัสโควิดของรัฐบาลที่ผ่านมา 2 ปี ไม่ต่างจากการเลี้ยงไข้ เลี้ยงสถานการณ์ไวรัสเพื่อผลประโยชน์ ทางการเมืองมากกว่า เพราะสามารถใช้ทั้งอำนาจและงบประมาณได้อย่างเต็มที่

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการออกคำสั่งห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านรอบล่าสุดของภาครัฐ เหมือนคำสั่งประหารชีวิตผู้ประกอบการ มาตรการที่ออกมาเป็นมาตการที่ไร้ความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น รัฐบาลหวังแต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยไม่มองระยะยาวและผลกระทบที่จะเกิดตามมา เช่น การที่ร้านอาหารสามารถขายได้แค่เฉพาะการสั่งกลับบ้าน นั่นหมายถึงรายได้เขาจะลดลงเหลือแค่ 10% ของรายได้ปกติ ขณะที่ต้นทุนอื่นๆ ยังเท่าเดิม ในภาวะแบบนี้คงไม่มีใครอยู่ได้ ซึ่งท้ายที่สุดจะเกิดการเลิกจ้างครั้งใหญ่

“ปัญหาวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงระลอกแรก ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียด้านรายได้อย่างมาก โดยปัจจุบัน ผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนไม่น้อยต้องประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักจนหลายรายต้องปิดกิจการ เพราะผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดกลางและเล็กที่เข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินของรัฐบาล แล้วผู้ประกอบการเหล่านี้จะฝ่าวิกฤตได้อย่างไร การออกมาตรการของรัฐบาลเป็นไปอย่างไร้ความยั้งคิด จึงเป็นการทำลายมากกว่าสร้างสรรค์” นายสงคราม กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top