ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ขอขอบคุณสมาชิกรัฐสภาที่ได้ผ่านร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติมที่ทราบกันอยู่แล้วคือฉบับที่ 13 ที่ได้ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาในวาระที่1 เป็นร่างของพรรค ซึ่งมีการลงชื่อร่วมกันระหว่าง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ต้องถือว่าเป็นความสำเร็จร่วมกันของทุกคนที่ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ในส่วนของพรรคก็จำเป็นที่จะต้องแสวงหาความเห็นพ้องร่วมกันจากสมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะในชั้นคณะกรรมาธิการคือวาระ2 และวาระ3ต่อไปและพรรคไม่ได้มีความกังวลใดๆทั้งสิ้นในส่วนของกระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งก็ต้องว่ากันตามกระบวนการของรัฐสภา โดยยึดหลักการระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ท้ายที่สุดแล้วร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมจะผ่านหรือไม่ก็อยู่ที่สมาชิกรัฐสภา แต่เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาหลายฝ่ายจะเห็นพ้องต้องกันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในส่วนของระบบเลือกตั้ง และยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 13 เป็นร่างที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญภายใต้หลักการและเหตุผลคือการกำหนดให้มีส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คนและมีส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน และมีหลักการที่สำคัญคือให้มีบัตรเลือกตั้งสองใบที่จะมาตอบสนองความต้องการ ตอบเจตนารมย์ของประชาชนที่มีความต้องการเลือก ส.ส.เขตคนที่ประชาชนรัก ที่อยู่ในพื้นที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนและมีความต้องการที่จะเลือกพรรคที่ตนชื่นชอบเช่นกัน ไม่ว่าจะชื่นชอบพรรคดังกล่าวเพราะเรื่องนโยบายหรือเรื่องอุดมการณ์
ส่วนกระบวนการคำนวณสัดส่วนของส.ส.แบบบัญชีรายชื่อก็ได้กำหนดในร่างแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนให้ไปกำหนดหลักเกณฑ์ โดยการระบุไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ภายใต้หลักการ และเหตุผลหากมีการแก้ไขบางข้อความในส่วนอื่นๆที่ต้องมีการปรับแก้ข้อความเพื่อให้สอดคล้องต้องกัน กับหลักการและเหตุผลดังที่ได้กล่าวมา ในชั้นคณะกรรมาธิการก็สามารถดำเนินการได้แต่สิ่งสำคัญที่สุดต้องอยู่ภายใต้หลักการและเหตุผลคือให้มี ส.ส.เขตจำนวน 400 คนและ ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวน 100 คนและมีบัตรเลือกตั้งสองใบรวมไปถึงการกำหนดวิธีการคำนวณคะแนนให้ชัดเจน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง พรรคยืนยันยืนว่าต้องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญยืนยันที่จะดำเนินการควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดีขึ้น
เมื่อถามว่าในส่วนของการเลือกประธานคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระที่สอง หากมีหลายฝ่ายต้องการให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน พรรคจะมีความเห็นว่าอย่างไร นายราเมศ กล่าวว่า หากกรรมาธิการให้เกียรติทางพรรคก็พร้อมที่จะสนับสนุนนายบัญญัติ เพราะเป็นบุคคลที่หลายฝ่ายให้การยอมรับ มีความเป็นกลาง ซื่อสัตย์สุจริต คิดถึงประโยชน์ของ ปชช และ ประเทศเป็นที่ตั้ง มีประสบการณ์ ในทางการเมืองมาอย่างยาวนาน และเคยร่วมงานในส่วนของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ที่ตั้งต้นการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญสมาชิกรัฐสภาหลายท่านทราบดีถึงความสามารถ มุมมอง แนวคิด ที่เป็นหลักให้กับสมาชิกมาโดยตลอด หากกรรมาธิการเห็นด้วยก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาในวาระที่สองเป็นอย่างมาก
เมื่อถามว่ามีนักวิชาการมองว่าการแก้ระบบบัตรเลือกตั้งให้เป็น 2 ใบ เป็นประโยชน์กับพรรคการเมืองใหญ่มากกว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน นายราเมศ กล่าวว่า รายละเอียดส่วนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อยังไม่มีการถกเถียงกัน และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประชาธิปไตย มองว่าอย่าไปคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองใดเพราะทุกพรรคการเมืองก็มีจำนวนอยู่ในส.ส. และส่วนในวาระที่ 2 ก็มีในส่วนของกมธ.แต่ละพรรคการเมือง เวทีนี้ต่างหากที่ทุกพรรคต้องมาพูดคุยว่าการแก้ไขระบบเลือกตั้งจะต้องเกิดประโยชน์กับระบบประชาธิปไตยและประชาชนนี้คือสาระสำคัญมากกว่า ส่วนร่างประชาชนก็อยู่ในกระบวนการของรัฐสภา ซึ่งได้แจ้งกลับไปในทางผู้ริเริ่มและก็ได้ไปให้ประชาชนลงลายมือชื่อ นี้เป็นส่วนของเป็นอีกร่างหนึ่งก็ต้องติดตามดูว่าจะดำเนินกระบวนการในขั้นตอนใด