Saturday, 17 May 2025
NewsFeed

“มท.1” คาด มีติดเชื้อเพิ่ม หลังแรงงานทิ้งกทม.กลับบ้าน สั่งเข้มตรวจเชิงรุก พบกลับบ้านให้กักตัว 14 วัน วอนสังคมเข้าใจ แก้โควิดไม่ง่าย ยัน รัฐบาลสื่อสารทุกเรื่องชัดแล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลแรงงานเคลื่อนย้ายออกต่างจังหวัด หลังปิดแคมป์คนงานในกทม. และปริมณฑล จำนวนมาก ว่า เรามีนโยบายให้แรงงานอยู่ในแคมป์ ไม่ให้เคลื่อนย้าย และจะเยียวยาเฉพาะคนที่อยู่ในแคมป์ ส่วนแรงงานที่เคลื่อนย้ายไปต่างจังหวัด ที่เป็นแรงงานคนไทย ต้องถูกกักตัวที่บ้าน 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ ไม่ให้ออกไปไหน ซึ่งทุกพื้นที่จะเป็นอย่างนี้หมด เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของเชื้อ โดยกระทรวงมหาดไทย จะกำชับให้พื้นที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) ต้องเข้มงวด ฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการแพร่เชื้อ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการรายงานถึงผลเสียอะไรออกมา

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ส่วนที่สื่อเผยแพร่ว่ามีแรงงานออกมาซื้อข้าวของ เนื่องจากเพิ่งจะมีคำสั่งออกมา และระบบยังไม่มีความพร้อม แต่เรื่องนี้ศบศ. ได้ให้ทำงานบูรณาการกันระหว่าง สมาคมทางด้านอาหาร และผู้ประกอบการก่อสร้าง ให้ร้านอาหารต่างๆทำอาหารไปแจกจ่ายตามแคมป์ก่อสร้างเพื่อแก้ปัญหา จึงมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมได้ดีขึ้น ทั้งนี้ยอมรับว่าที่มีปัญหาคือการควบคุมแคมป์ก่อสร้างในต่างจังหวัด และปริมณฑล ที่มีหลายร้อยแห่ง หากปล่อยให้เกิดการเคลื่อนย้ายก็จะคุมไม่อยู่และจะทำให้มีปัญหาเรื่องเตียงไม่เพียงพอ จึงต้องหยุดการเคลื่อนที่ทั้งหมด ไม่ให้เคลื่อนย้ายไปต่างจังหวัด แต่จะให้อยู่ในแคมป์ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องควบคุมแคมป์คนงานในต่างจังหวัดด้วยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เราจะคุมทั้งหมดในพื้นที่สีแดง และทุกพื้นที่จะต้องเข้มงวดไม่ให้มีแรงงานออกจากแคมป์ ถ้าพบว่าออกไปก็จะต้องถูกกักตัว ตนเชื่อมั่นว่าต่างจังหวัดจะมีความเข้มงวดไม่ให้แรงงานเหล่านี้เข้าไปอยู่พื้นที่ ยืนยันว่าจะไม่มีการไปแพร่เชื้อในต่างจังหวัด สิ่งที่อยากเน้นคือเมื่อเขาออกไปจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดอยู่ ถ้าเขามีเชื้อและถูกกักตัว เชื้อก็จะไม่ระบาด 

“สื่ออย่าไปลงว่า เมื่อแรงงานที่อาจจะมีเชื้อไปต่างจังหวัด แล้วจะทำให้แดงไปทุกจังหวัด ต้องดูให้ละเอียด เพราะเราคุ้นเคยกับโควิด มาตั้งแต่ระลอกแรก พอปิดกทม.หมด ประชาชนก็หนีออกไปต่างจังหวัด อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่เพราะเกิดจากการแพร่ระบาดในจังหวัดนั้นๆตรงนี้ทำให้เราเห็นว่าน่าจะคุมได้” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถึงการป้องกันแรงงานในบริเวณชายแดน ต้องกำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นอีกเรื่องที่ต้องป้องกัน หากลักลอบเข้ามาก็จับ ซึ่งแรงงาน เสนอว่าถ้ามีความจำเป็นต้องใช้แรงงาน จะให้เข้ามาให้อย่างถูกต้อง โดยต้องคุยกับ 3 ประเทศด้วย เมื่อเข้ามาต้องมีมาตรการกักตัว เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมายและจะช่วยในการจัดการการแพร่เชื้อได้ เมื่อถามว่าจะต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษ หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องระดมกำลังทหาร ตำรวจและมหาดไทย เพราะ 6 จังหวัด มีหลายร้อยแคมป์จึงต้องช่วยกันหมดทุกหน่วยงาน

เมื่อถามว่าถึงความคืบหน้าของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ยอมรับว่ายังฉีดไม่ได้หมด เพราะการฉีดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวัคซีนที่มีอยู่ ต่อข้อถามว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำงานเต็มกำลังแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและแพทย์ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ในพื้นที่สีแดงจะเต็มที่แล้ว เช่นการสร้างโรงพยาบาลสนาม ไม่ใช่มีแต่การสร้างเตียง แต่มีบุคลากรสธ.เข้ามาทำงานด้วย ขณะเดียวกันบุคลากร ต้องป้องกันตัวเองด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ในส่วนอื่นเชื่อว่าระดมได้ โดยช่วงนี้ให้ทหารมาคุมหน้าแคมป์คนงาน 

เมื่อถามว่าขณะนี้ประชาชนจำนวนมาก ไม่เข้าใจการทำงานของรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องค่อยๆสื่อสาร เพราะโควิดเป็นเรื่องซับซ้อน บางทีสื่อมาถามตนยังไม่แน่ใจว่าสื่อเข้าใจหมดหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องยากยิ่งมีการตั้งคำถามว่ากลัวจะเป็นอย่างนี้กลัวจะเป็นอย่างนั้นยิ่งทำให้ยุ่งกันไปใหญ่ เมื่อรัฐบาลทำมาตรการอะไรไปก็จะมีคำถามตามมาอีก

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะจำเป็นต้องสื่อสารให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลสื่อสารชัดเจนไม่มีปัญหา เพราะที่ผ่านมาก็แก้ตามสถานการณ์ แต่ตอนนี้ปัญหาเกิดจากแคมป์ก่อสร้างติดเชื้อมาก มากเสียจนระบบสาธารณสุขจะรับไม่ได้ ยกตัวอย่างกทม.ป่วยเป็นพัน ๆ คน และคนที่ป่วยทุกคนก็อยากอยู่โรงพยาบาลทั้งนั้น ไม่ว่าจะเขียว เหลือง แดง เขาอยากอยู่ทั้งนั้น พอเราจัดไม่ทันต้องรอก็เริ่มมีปัญหาแล้ว ดังนั้นจึงต้องหาวิธีหยุดให้ได้ เพราะถ้ายังเพิ่มวันละพัน แม้จะทำโรงพยาบาลสนามได้แต่บุคลากรทางการแพทย์ก็มีจำนวนไม่เพียงพอ ดังนั้นแคมป์คนงานจำเป็นจะต้องหยุดก่อนร่วมทั้งชุมชนจะต้องเข้มงวดด้วยและต้องตรวจเชิงรุก 

เมื่อถามว่า กังวลถึงการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ ทำให้เกิดการเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรามีหน้าที่สร้างความเข้าใจและอย่านึกว่าเรื่องโควิดเป็นเรื่องที่แก้กันง่าย ๆ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่แก้ง่ายมันยากมันซับซ้อน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเข้าใจ ตนไม่คงไม่ต้องยกตัวอย่างของหลายประเทศ ซึ่งเขามีปัญหาทั้งนั้น เข่น วัคซีน การรักษาอาการก็มีปัญหา ประเทศชั้นนำก็ทราบดีว่ามีปัญหา ซึ่งเราก็ต้องแก้ไขปัญหาไป และเราก็อยากให้ทุกคนได้รับความดูแลและอยากให้ทุกคนร่วมมือการป้องกัน

ก.แรงงงาน เตรียมจ่ายเงินเยียวยาแรงงาน-นายจ้าง เดือดร้อนจากมาตรการคุมโควิด 6 จังหวัดเริ่ม 6 ก.ค.นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานในระบบประกันสังคม 6 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ มีจำนวนประมาณ 6.9 แสนคน ส่วนแรงงานนอกระบบ ยังไม่ชัดเจน ต้องรอให้นายจ้างขึ้นทะเบียนระบบถุงเงินก่อน จึงจะทราบจำนวน โดยเงินเยียวยาในส่วนของประกันสังคม สามารถจ่ายได้ทันที คนละ สองพันบาท โดยนายจ้างจะได้ต่อหัว 3,000 บาท ซึ่งจะจ่ายทุก 5 วัน เริ่มวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ เป็นวันแรก โดยแรงงานนอกระบบกับแรงงานในระบบจะแยกกัน “ประมาณการณ์แรงงานนอกระบบครั้งนี้เชื่อว่านายจ้างจะแจ้งและมีการลงทะเบียนมากขึ้น เนื่องจากจะได้รับการเยียวยา ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลต่อไป แรงงานต่างด้าว”

นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอของนายกสมาคมภัตตาคารไทย ให้รัฐบาลจัดงบประมาณสนับสนุนการจัดทำข้าวกล่องวันละ 200,000 กล่อง คิดเป็นเงินวันละ 10 ล้านบาท เป็นเวลา 30 วัน ส่งให้กับแคมป์แรงงานที่ถูกปิด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการนั้น ต้องประสานหารือกับนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยที่มีแรงงานอยู่นับแสนคน เบื้องต้นทางผู้ประกอบการพร้อมจะดูแลเรื่องนี้เอง แต่รัฐบาลก็จะช่วยจัดหาสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น ไข่ไก่ หรือ อาหารกระป๋อง โดยหลังจากดูแลเรื่องอาหารแล้ว จะเข้าไปตรวจเชื้อและฉีดวัคซีนในแคมป์แรงงานต่าง ๆ ก่อนจะส่งรายละเอียดให้ ศบค. ประเมิน เป็นรายกรณี ว่าสามารถเปิดทำงานได้ ก่อนครบกำหนด 1 เดือนหรือไม่

‘ฟอร์มไฉไลเป็นบ้า!’ เรากำลังพูดถึงฟอร์มการเล่นของ ‘เอแด็น & ธอร์กาน อาซาร์’ สองพี่น้องแห่งทีมชาติเบลเยียม ที่เมื่อคืนเพิ่งส่งโปรตุเกสของพี่โด้ กลับบ้านไปเรียบร้อย จากผลงานการทำประตูของ ธอร์กาน อารซาร์ นี่เอง

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

‘ฟอร์มไฉไลเป็นบ้า!’ เรากำลังพูดถึงฟอร์มการเล่นของ ‘เอแด็น & ธอร์กาน อาซาร์’ สองพี่น้องแห่งทีมชาติเบลเยียม ที่เมื่อคืนเพิ่งส่งโปรตุเกสของพี่โด้ กลับบ้านไปเรียบร้อย จากผลงานการทำประตูของ ธอร์กาน อารซาร์ นี่เอง

ทั้งเอแด็น และ ธอร์กาน ได้กลับมาลงเล่นพร้อมกันอีกครั้ง หลังจากเอแด็น อาซาร์ ผู้เป็นพี่ชาย เจ็บออด ๆ แอด ๆ กับต้นสังกัดเรอัล มาดริด มาตลอดทั้งฤดูกาล จนเพิ่งมาฟิต สลัดอาการเดี้ยงได้ช่วงก่อนทัวร์นาเมนท์ฟุตบอลยุโร 2020 จะเริ่มได้ไม่นานนี้เอง

เมื่อคืนที่เบลเยียมพบโปรตุเกส ทั้งเอแด็นและธอร์กาน ถูกส่งลงตัวจริงพร้อมกัน โดยให้เอแด็น-พี่ชาย ยืนในตำแหน่งกองหน้าฝั่งซ้าย และให้ธอร์กาน-น้องชาย ลงยืนในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งซ้ายเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่ก็ทำผลงานร่วมกันได้อย่างลงตัวมาก

โดยฝ่ายเอแด็นนั้น เป็นนักเตะที่สามารถเลี้ยงบอลกินตัว และเรียกฟาล์วจากคู่แข่งได้มากที่สุดในแมทซ์ของเมื่อคืน ส่วนธอร์กานก็ไม่ได้น้อยหน้า มีสถิติเด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ สามารถยิงประตู และมีส่วนร่วมกับเกมรับ ทำสถิติแย่งบอลจากคู่แข่งได้มากถึง 6 ครั้งเลยทีเดียว

ความจริง ธอร์กานนั้นเด่นมาตั้งแต่ลงเล่นให้ต้นสังกัดโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกา เยอรมัน โน่นแล้ว แต่กับยูโรครั้งนี้ เจ้าตัวต้องเปลี่ยนตำแหน่งที่คุ้นเคย จากกองหน้าด้านซ้าย มาเล่นวิงแบ็คซ้าย แต่กลับทำผลงานได้ดีเอามาก ๆ ยิงไปแล้ว 2 ประตู

ถึงตรงนี้ ถ้าเอแด็น อาซาร์ กลับมามีความฟิตมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมลงเล่นทำผลงานร่วมกับธอร์กาน-น้องชาย ได้ดีต่อไปแบบนี้ เบลเยียมจะเป็นทีมที่กาชื่อทิ้งไปจากสารบบแชมป์ครั้งนี้ไปไม่ได้เลย

แต่เอาเป็นว่า บทพิสูจน์ว่าเจ๋งจริงไม่อิงนิยายรออยู่ในรอบหน้า ถ้าผ่านอิตาลีไปได้ เตรียมลุ้นถึงแชมป์กันได้เล้ย!!


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ธปท.ชี้ ! เศรษฐกิจไทยรออีกเกือบ 2 ปีถึงจะฟื้น

นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงานเสวนา “ฟ้าหลังฝน มิติใหม่ท่องเที่ยวไทย” ว่า ธปท. คาดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลา และอาจจะต้องรอถึงไตรมาส 1 ปี 2566 กว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้ในระดับก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด ในหลายระลอก ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ทั้งการจำกัดการเคลื่อนที่ การงดเดินทาง การเว้นระยะห่าง ลดการรวมตัว 

สำหรับการออกมาตรการทั้งหมดถือเป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบอย่างมากกับภาคการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้ได้รับผลกระทบอย่างมาก รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ทั้ง โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ภัตราคาร บริษัทนำเที่ยว สายการบิน และอื่น ๆ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและยาวนาน จากการออกใช้มาตรการเพื่อยับยั้งการระบาดที่รุนแรงขึ้น 

อย่างไรก็ตาม การออกนโยบายและมาตรการอย่างต่อเนื่อง มองว่า ยังมีความจำเป็น เพื่อประคับประคองธุรกิจต่างๆให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปได้และอยู่รอดจนถึงวันที่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย และนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางมากขึ้นสถานการณ์เช่นนี้ จึงเป็นโจทย์ท้าทายสำหรับภาครัฐและเอกชน นับตั้งแต่โควิดเริ่มแพร่ระบาดในช่วงต้นปี 63 ธปท. ได้เร่งออกมาตรการเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง และภาระหนี้ในหลากหลายทางเลือก ตั้งแต่ให้สถาบันการเงิน พัก หรือ ชะลอการชำระหนี้ออกไป การปรับโครงสร้างหนี้ ลดเงินต้น ลดดอกเบี้ย

สวมหน้ากาก 2 ชั้น เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หน้ากากอนามัยกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และทำให้ทุกคนจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดต่อหรือการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสตัวนี้

เเละเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 การสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อโควิด-19 ได้ถึง 95% โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้...

- หน้ากากที่สวมใส่ต้องเป็นหน้ากากที่ได้มาตรฐาน และมีแกนตรงสันจมูก

- หน้ากากด้านในควรเป็นหน้าอนามัยเเบบใช้แล้วทิ้ง

- หน้ากากด้านนอกควรเป็นหน้ากากผ้าที่มีความกระชับ

- ไม่ควรสวมหน้ากากผ้าทับหน้ากาก N95

- ไม่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งทับ 2 ชั้น

ข้อควรระวัง หน้ากากผ้าควรมีสายรัดคล้องหู เพื่อความกระชับ และควรหมั่นซักทำความสะอาดอยู่เสมอ

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/101464297954419/posts/534118778022300/

กองปราบปราม


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผย ข้อมูลจากการใช้งานจริงวัคซีนโควิด-19 SINOVAC สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 80-90%

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในการแถลงข่าว ‘การเฝ้าระวังการกลายพันธุ์เชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในประเทศไทย’ ว่า จากข้อมูลการใช้งานจริงเบื้องต้น วัคซีนโควิด-19 ‘SINOVAC’ ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้จริง 80-90%

‘มันมีคำถามว่า วัคซีนโควิด-19 SINOVAC ช่วยอะไรได้บ้าง เราก็มีการศึกษาข้อมูลการใช้งานจริงของวัคซีน SINOVAC แต่ข้อมูลเป็นข้อมูลย้อนหลังช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. ซึ่งสายพันธุ์ส่วนใหญ่ในพื้นที่ศึกษายังเป็นสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ)’

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บอกว่า นี่เป็นข้อมูลจริง (Real World Data) ไม่ใช่ข้อมูลจากการทดลองในหลอดทดลอง และวัดจากโอกาสการติดเชื้อ ไม่ได้วัดอัตราการลดอาการป่วยหรือลดอัตราการตาย

โดยจากการศึกษาซึ่งไม่เปิดเผยจำนวนกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ที่ภูเก็ต ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ผ่านไป 14 วัน มีโอกาสป้องกันโควิด-19 ได้ 90.7% ไม่ติดเชื้อ มีคนติดเชื้อเพียง 124 ราย ถ้าฉีด 1 เข็มผ่านไป 14 วัน กันการติดเชื้อได้ 61.9%

ที่สมุทรสาคร ฉีดครบ 2 เข็ม กันติดเชื้อได้ 90.5% มีผู้ป่วย 116 ราย

ที่เชียงราย ฉีด 2 เข็ม กันติดเชื้อได้ 82.8% มีผู้ติดเชื้อเยง 43 ราย

และภาพรวมของกรมควบคุมโรค ฉีดครบ 2 เข็ม กันติดเชื้อได้ 70.9% มีผู้ป่วย 276 ราย ส่วนถ้าฉีดเข็มเดียว ป้องกันการติดเชื้อได้ 39.4%

เฉลี่ยแล้ว จากข้อมูลการใช้งานจริง วัคซีนโควิด-19 ซิโนแวคสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ราว 80-90%

อธิบดีเสริมว่า ปัจจุบัน ปลัดกรมควบคุมโรคได้สั่งการให้จัดทำข้อมูลการใช้งานจริงของวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ข้อมูลการลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต รวมถึงข้อมูลการใช้งานจริงต่อสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูล

‘เรากำลังไล่ดูข้อมูลอยู่ การสรุปพวกนี้ต้องเป็นวิทยาศาสตร์ โมเมไม่ได้ ข้อมูลไม่ชัดไม่ได้ อาการไหนเรียกว่าหนัก พวกนี้ต้องชัด ขอเวลาอีกนิดหนึ่ง แต่ท่านปลัดได้สั่งการไปแล้ว ให้กรมควบคุมโรคทำเพิ่ม เพราะหลายประเทศก็บอกจริง ๆ กันติดเชื้ออาจไม่ได้มาก แต่กันตายกันหนักได้มากกว่า’ นพ.ศุภกิจกล่าว และบอกว่า เดือนก.ค. อาจทราบข้อมูลเพิ่มเติม

นพ.ศุภกิจบอกว่า หากผลการใช้งานจริงวัคซีนซิโนแวคในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาออกมาที่ 60-70% ซึ่งถือว่าสูงอยู่ ก็อาจไม่จำเป็นต้องมีวัคซีนเข็ม 3 แต่ถ้าผลการป้องกันต่ำกว่านั้น อาจต้องพิจารณา แต่เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลจึงยังสรุปไม่ได้ว่าประเทศไทยต้องมีวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 หรือไม่

ทั้งนี้ อธิบดีเน้นย้ำว่า ‘ซิโนแวค 2 เข็มเอาอยู่...แต่ถ้าใครยังฉีดวัคซีนไม่ครบ 2 เข็มก็มีความเสี่ยง (กับสายพันธุ์อัลฟา)...ดังนั้น ใครจองวัคซีนถึงคิวก็ไปฉีด อย่างน้อยเจอสายพันธุ์ไหนถ้ามีเกราะป้องกันก็ดีกว่าไม่มี’

 

ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/150391?utm_campaign=ซิโนแวค&utm_source=line&utm_medium=oa


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เป็นอีกความปลาบปลื้มของคนในครอบครัว เมื่อ ‘นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์’ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ Aoodda ว่า…

‘หลานชาย’ ลูกน้องสาว น้องแชมป์ ‘มุฑิราช ลักษณวิศิษฏ์’ มาลาไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ

หลานคนนี้เป็นอีกคนหนึ่งในครอบครัวผม ที่ขยันและเรียนเก่งมาก

หลังจบประถมสอบเข้าได้ทั้งสวนกุหลาบและสาธิตปทุมวัน

ปีนี้จบ ม.6 แล้วครับ

จากนั้น…

@สอบทุนเล่าเรียนหลวงได้

@สอบคะแนนเรียนแพทย์จุฬาได้

@สอบทุนแบงค์ชาติได้

แต่สุดท้ายตัดสินใจรับ ‘ทุนเล่าเรียนหลวง’…ไปเรียนต่อที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ สหรัฐอเมริกา

ก่อนกลับมารับใช้ประเทศและสนองพระมหากรุณาธิคุณต่อไป

ขอให้โชคดี รีบเรียน รีบจบ แล้วรีบกลับเมืองไทยครับ...

สำหรับ ทุนเล่าเรียนหลวง (King’s Scholarship) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันติดปากว่า ‘ทุนคิง’ นั้น เป็นทุนให้นักเรียนมัธยมปลายที่ศึกษาในไทยที่จะไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในต่างประเทศ ซึ่งเป็นทุนที่โด่งดังมากที่สุด เพราะเป็น ‘ทุนให้เปล่า’ ที่ทำให้ตัวเด็ก ๆ สามารถเลือกได้เลยว่าจะเรียนอะไร เรียนที่ไหน และไม่ต้องกลับมาใช้ทุนในหน่วยงานรัฐบาล

แต่ก็จะมีข้อผูกมัดเพียงข้อเดียวคือ เมื่อเรียนจบต้องกลับมาทำงานที่ไทย ถ้าหากไม่กลับมาทำงานที่ไทยจะต้องชดใช้เงินทุนคืนทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้นปีหนึ่ง ๆ จะมีแค่ 9 ทุนต่อปีเท่านั้น แบ่งเป็นสายวิทย์-คณิต 5 ทุน / ทุนศิลป์-ภาษา 2 ทุน และทุนศิลป์-คำนวณ 2 ทุน โดยมูลค่าทุน ก็ครอบคลุมค่าเทอมทั้งหมด / ค่าหนังสือและอุปกรณ์การศึกษา (เช่น ค่าคอมพิวเตอร์) / เบี้ยเลี้ยงประจำเดือน / ค่าใช้จ่ายเตรียมตัวก่อนบิน และค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (เรียกว่าเรียนฟรีกันเลยทีเดียว)

ส่วนคุณสมบัติของทุนคิงก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก เพราะเปิดให้โอกาสกับคนที่มีอายุไม่เกิน 20 ปีของวันที่กำหนด ศึกษาอยู่ในชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตร ม.ปลาย ได้เกรดเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.50 ไม่เคยสอบตกตอนอยู่ ม.ปลาย และไม่มีพันธะสัญญาทุนอื่น ๆ

ทั้งนี้ จากสถิติที่ผ่านมา (เท่าที่หาข้อมูลได้ ปีล่าสุดคือ 2018) นักเรียนทุนคิงส่วนใหญ่เลือกไปเรียนต่อที่อเมริกาถึง 86% ที่เหลือไปเลือกไปเรียนต่อที่อังกฤษ ส่วนคณะที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ก็คือ แพทยศาสตร์, นิติศาสตร์, เศรษฐศาสตร์ ภาษาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งนักเรียนทุนคิงส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากโรงเรียนเตรียมอุดม

 

ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4882621771764498&id=157659344260788


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

 

ตำรวจฮ่องกง จับกุมอดีตนักหนังสือพิมพ์อาวุโสที่เคยทำงานให้กับ ‘แอปเปิลเดลี’ ในข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ขณะที่เจ้าตัวกำลังเตรียมเดินทางออกนอกประเทศที่สนามบินนานาชาติฮ่องกง เมื่อกลางดึกวันอาทิตย์ (27 มิ.ย.)

Fung Wai-kong วัย 57 ปี ถือเป็นพนักงานรายที่ 7 ของแอปเปิลเดลี สื่อโปรประชาธิปไตยฮ่องกง ที่ถูกจับฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ตำรวจแถลงว่า Fung ซึ่งเคยเป็นทั้งบรรณาธิการและคอลัมนิสต์ของแอปเปิลเดลี ถูกจับที่สนามบินฮ่องกง ‘ฐานสมคบคิดต่างชาติเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคง’ ของจีน โดยเวลานี้เขายังถูกควบคุมตัวและกำลังมีการสอบสวนอยู่

แจ็ค เฮเซลวูด อดีตนักหนังสือพิมพ์ของแอปเปิลเดลี ทวีตข้อความว่า Fung พยายามที่จะขึ้นเครื่องบินหนีไปลอนดอน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษมีมาตรการตอบโต้การปิดกั้นเสรีภาพสื่อในฮ่องกง

แอปเปิลเดลีซึ่งเป็นสื่อแทบล็อยด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในฮ่องกงถูกบีบให้ต้องปิดตัวลงอย่างกะทันหัน หลังโดนตำรวจบุกค้นสำนักงานเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. และยังถูกอายัดทรัพย์สินและบัญชีธนาคารทั้งหมด จนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปอีกได้

สื่อฉบับนี้ตีพิมพ์ฉบับสุดท้ายออกวางจำหน่ายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ทางการฮ่องกงอ้างว่า บทความหลายสิบชิ้นของแอปเปิลเดลีมีเนื้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนเริ่มบังคับใช้กับฮ่องกงตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลฮ่องกงใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือไล่บี้สื่อมวลชน

นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ชี้ว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมีวัตถุประสงค์เพื่อปิดกั้นขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนบนอดีตเกาะอาณานิคมอังกฤษที่ถูกส่งคืนให้แก่จีนในปี 1997

หลายคนยังมองว่า การปิดแอปเปิลเดลีซึ่งเป็นสื่อที่นำเสนอทั้งข่าวซุบซิบและมุมมองเชิงประชาธิปไตย รวมถึงตรวจสอบผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ถือเป็น ‘จุดจบ’ ของเสรีภาพสื่อในฮ่องกง

ทางการจีนและฮ่องกงปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่กวาดล้างผู้เห็นต่าง และยืนยันว่ารัฐนั้นให้ความเคารพต่อเสรีภาพของสื่อมวลชน แต่ไม่อาจยอมให้สื่อทำงานอย่างไร้ขอบเขตจนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติได้

อวสานของแอปเปิลเดลีนับเป็นความสูญเสียล่าสุดสำหรับ จิมมี ไล (Jimmy Lai) มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัท เน็กซ์ ดิจิทัล ซึ่งเป็นผู้ตีพิมพ์แอปเปิลเดลี โดยเวลานี้ตัวเขาเองก็ถูกอายัดทรัพย์สิน, ดำเนินคดี และจำคุกฐานฝ่าฝืนกฎหมายความมั่นคงและเข้าร่วมการชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย

ศาลฮ่องกงยังเตรียมเปิดการไต่สวน ไล ในความผิดฐานสบคบคิดต่างชาติ ซึ่งมีระวางโทษจำคุกสูงสุดตลอดชีวิต

อย่างไรก็ตาม สมาคมนักหนังสือพิมพ์ฮ่องกงได้ออกคำแถลงประณามการจับกุม Fung พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุด เว็บไซต์ข่าว Stand News ซึ่งเป็นสื่อโปรประชาธิปไตยในฮ่องกงได้ประกาศเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (27 มิ.ย.) ว่าจะงดรับสปอนเซอร์รายเดือน และเตรียมถอดบทความแสดงข้อคิดเห็นเก่า ๆ บางชิ้นออก

 

 

ที่มา: รอยเตอร์

https://mgronline.com/around/detail/9640000062315


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทร. แจง ผบ.ทร. เสี่ยงต่ำ ใกล้ชิด “แพนเค้ก” ร่วมงาน ทร.  ไม่ต้องกักตัว รอสังเกตุอาหาร ยัน มีมาตรการเข้ม 

พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่ นางสาว เขมนิจ จามิกรณ์ แพนเค้กโฆษกพิเศษกองทัพเรือ แจ้งผลการตรวจเชื้อไวรัส  COVID-19 มีผลเป็นบวก โดย ระบุ TIMELINE ว่า ได้ไปร่วมงานที่กองทัพเรือ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน นั้น ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ดำเนินการตามมาตรการ  DMHT  ในการ ป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด  ประกอบด้วย  D : Distancing เว้นระยะห่างระหว่างกัน  M : Mask Wearing สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยตลอดเวลา H : Hand washing ล้างมือบ่อย ๆ T : Testing ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้างาน จากข้อมูล โดยกรมแพทย์ทหารเรือ 

สำหรับการจัดกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดตามระดับความเสี่ยงการรับเชื้อ มีดังนี้

ผู้สัมผัสที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อสูง ได้แก่ 

1.) ผู้สัมผัสใกล้ชิดในที่ทำงาน / ในชุมชน ได้แก่ผู้ที่พบปะกับผู้ป่วยในขณะมีอาการและมีประวัติอาจจะสัมผัสสารคัดหลั่งจากทางเดินเดินหายใจ หรือไอจามจากผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า 2019 

2.) ผู้ที่อยู่ในชุมชนเดียวกับผู้ป่วยและสัมผัสสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ หรือไอจามจากผู้ป่วยไวรัสโคโรน่า 2019 

3.) บุคคลนอกเหนือจากข้อ1และข้อ2 ที่อยู่ในระยะห่างไม่เกิน1เมตรจากผู้ป่วย ซึ่งรวมระยะเวลาที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้านานกว่า5นาที

นอกเหนือจากนั้น จะจัดอยู่ในกลุ่มเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ รวมถึงกรณี การใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทั้งผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัส ก็ถือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ

สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จะทำการกักตัว 14วัน และ SWAB ในครั้งแรก และในวันที่ 12 สำหรับผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำ ให้เฝ้าระวังตนเองโดยไม่ต้องกักตัว หากมีอาการป่วยให้มาพบแพทย์

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวยืนยันว่าในกรณีของผู้บัญชาการทหารเรือ ถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากมีการใส่หน้ากากอนามัยทั้งสองฝ่าย  ไม่ต้องกักตัว แต่อย่างไรก็ตามต้องเฝ้าสังเกตอาการตนเองเป็นระยะเวลา 14 วัน 
 
 โฆษกกองทัพเรือ กล่าวอีกว่า  การเดินทางเข้ามาร่วมงานที่กองทัพเรือ ของ แพนเค้ก เนื่องจาก ในวันที่ 3 ส.ค.64 กองทัพเรือ และ สภากาชาดไทยจะจัดให้มีการแสดงกาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่ 47 เพื่อหารายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย โดยได้เชิญ เขมนิจ จามิกรณ์ (แพนเค้ก) โฆษกพิเศษกองทัพเรือ  มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงิน ร่วมกับ กองทัพเรือ และสภากาชาดไทยช่วยคนไทยรับมือ COVID-19  

ทบ. ระดมศักยภาพช่วยประชาฟันฝ่าโควิด พร้อมสนับสนุน สธ. เตรียม รพ.สนาม รับผู้ป่วย เดินหน้าฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันให้กำลังพลและประชาชน ขณะที่ฌาปนสถาน ทบ. ประกอบพิธีศพผู้ติดเชื้อแล้ว 231 ราย

ร้อยเอกหญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล ผู้ช่วยโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า กองทัพบกดำรงการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหน่วยทหารทั่วประเทศได้จัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน (ชป.กร.) และอาสาสมัครกิจการพลเรือน (อส.กร.) ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลและบริการด้านสาธารณสุขของรัฐบาล อาทิ ร่วมรณรงค์การฉีดวัคซีนโควิด-19 และบริการลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านช่องทางที่ สธ. กำหนด พร้อมแจกอุปกรณ์หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ให้กับประชาชน นอกจากนี้ในพื้นที่ที่พบการระบาดเฉพาะกลุ่ม (Cluster) หรือพื้นที่ที่ประชาชนประสบปัญหาการดำเนินชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพนั้น กำลังพลจิตอาสาและรถครัวสนามได้ลงพื้นที่ประกอบอาหารปรุงสุกแจกจ่ายให้กับประชาชน ดำเนินการตั้งแต่ 1 พ.ค.64 รวม 315,376 กล่อง พร้อมนำผลผลิตจากโครงการทหารพันธุ์ดีและพืชผลที่กองทัพบกได้อุดหนุนเกษตรกรรับซื้อจากไร่สวน มามอบให้กับประชาชนพื้นที่ดังกล่าว ช่วยเหลือเกษตรกรรวม 50,647 ราย

สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านระบบสาธารณสุข กองทัพบกได้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิดกองทัพบก” เพื่อเป็นสื่อกลางให้ความรู้คำแนะนำ และประสานข้อมูลระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 02-270-5685 ตลอด 24 ชม. ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 3 พ.ค.64 ถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการแล้ว 748 คู่สาย ส่วนผู้ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อและพบผลบวกหรือเป็นผู้ติดเชื้อนั้น กองทัพบกโดยศูนย์เคลื่อนย้ายฯ ได้สนับสนุนรถพยาบาลรวมทั้งปรับยานพาหนะทางทหารที่มีอยู่และมีความเหมาะสม ในการรับ-ส่ง ผู้ติดเชื้อจากที่บ้านไปเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล/โรงพยาบาลสนาม และส่งกลับบ้านหลังครบกำหนดระยะเวลารักษาตามกระบวนการ สธ. รวมดำเนินการทั้งสิ้น 1,028 ครั้ง ขณะที่การสนับสนุนด้านสถานพยาบาลเพื่อดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยปัจจุบันยังคงพบยอดผู้ติดเชื้อกระจายตามพื้นที่ต่างๆ กองทัพบกจึงได้ปรับพื้นที่ในหน่วยทหารเป็นโรงพยาบาลสนามจำนวน 14 แห่งทั่วประเทศ สามารถรองรับได้ 2,317 เตียง ปัจจุบันมีผู้ครองเตียง 530 ราย ซึ่งยังคงมีปริมาณเตียงว่างเพียงพอต่อการสนับสนุน สธ.จังหวัด รับผู้ติดเชื้อในพื้นที่นั้นๆ ได้ 

ส่วนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 กองทัพบกยังคงสนับสนุนฌาปนสถาน ทบ. ทั้งในพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่ วัดโสมมนัสวรวิหาร, วัดอาวุธวิกสิตาราม และวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต และส่วนภูมิภาค วัดสุทธจินดาวรวิหาร จ.นครราชสีมา สำหรับประกอบพิธีและฌาปนกิจศพอย่างต่อเนื่องให้กับครอบครัวที่มีความประสงค์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ภายใต้การบริหารจัดการตามมาตรการป้องกันโรคของ สธ. ซึ่งปัจจุบันสามารถดำเนินการฌาปนกิจศพ ช่วยเหลือคลายความกังวลให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตไปแล้ว 231 ราย 

ในส่วนของมาตรการป้องกันสำหรับกำลังพลและครอบครัว กองทัพบกได้กำหนดมาตรการระดับบุคคล หน่วยทหารและประชาชนทั่วไป ควบคู่ไปกับมาตรการพิทักษ์พลและแนวทางของ ศบค. พร้อมมอบโรงพยาบาลในสังกัด 37 แห่ง ดำเนินการฉีดวัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับกำลังพลโดยเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติงานพื้นที่เสี่ยงตามแนวทางจัดสรรของ สธ. ประกอบด้วย บุคลากรทางการแพทย์, กกล.ป้องกันชายแดน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทหารใหม่ รวมได้รับวัคซีนแล้ว 56,234 นาย และจะดำเนินการต่อเนื่องตามที่ได้รับการจัดสรร ตลอดจนการเตรียมการฉีดวัคซีน-19 ให้กับทหารใหม่ผลัดที่ 1/64 ที่จะเข้ากองประจำการในวันที่ 1 และ 3 ก.ค.64 นี้ เพื่อสร้างความปลอดภัย เสริมความมั่นใจให้กับทหารใหม่และครอบครัว นอกจากนี้โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบกทั่วประเทศได้สนับสนุน สธ. จังหวัด ร่วมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมและโครงการที่รัฐบาลกำหนด ตั้งแต่ 7 มิ.ย.64 มีประชาชนผู้เข้ารับบริการรวม 36,350 ราย 

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่กำชับให้หน่วยทหารระดมศักยภาพในทุกมิติ สนับสนุนรัฐบาล ลดภาระสาธารณสุข พร้อมช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ดูแลให้ปลอดภัยและสามารถดำเนินชีวิตปกติได้อย่างดีที่สุดภายใต้สถานการณ์วิกฤตนี้


 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top