Thursday, 22 May 2025
NewsFeed

กองทุนน้ำมันฯ มั่นใจตรึงเสถียรภาพราคาดีเซลตลอดปี 67 ใช้เงินคืนกองทุนกว่า 1 หมื่นล้านต่อเดือน ไม่หวั่นสงครามตะวันออกกลาง

(8 ต.ค. 67) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มั่นใจยังรักษาเสถียรภาพราคาดีเซลได้ตลอดปี 2567 แม้เกิดปัญหาสงครามในตะวันออกกลางจนราคาน้ำมันโลกพุ่งสูง ระบุปัจจุบันมีเงินไหลเข้ากองทุนฯ กว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน แม้ภาพรวมยังติดลบ 9.9 หมื่นล้านบาท เผยแนวทางดูแลราคาดีเซลในภาวะสงครามขั้นแรก ต้องลดเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลที่ส่งเข้ากองทุนฯ ก่อน แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นจนราคาน้ำมันดีเซลในตลาดสิงคโปร์เกิน 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อาจต้องพิจารณาขยับราคาดีเซลขึ้นบ้างเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานสถานการณ์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่า ปัจจุบันสถานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด (ณ วันที่ 29 ก.ย. 2567) ที่รายงานโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) พบว่าเงินกองทุนฯ ยังคงติดลบรวม -99,087 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม -51,643 ล้านบาท และมาจากบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบรวม -47,444 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ก็ได้เตรียมพร้อมกรณีราคาน้ำมันโลกขยับขึ้นสูงจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน โดยเบื้องต้นวางแผนจะลดการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันดีเซลที่ส่งเข้ากองทุนฯ ลงจากปัจจุบันเรียกเก็บอยู่ 2.84 บาทต่อลิตร โดยลดได้ต่ำสุดเพียง 2.34 บาทต่อลิตร และผู้ใช้ดีเซลยังคงต้องจ่ายเข้ากองทุนฯ อย่างน้อย 50 สตางค์ต่อลิตร เพื่อให้เหลือเงินไว้สำหรับชำระหนี้เงินต้นสถาบันการเงินในเดือน พ.ย. 2567 นี้

แต่หากสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกยังพุ่งสูงต่อเนื่องจนทำให้ราคาดีเซลในตลาดสิงคโปร์เกิน 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล กบน. อาจจะต้องพิจารณาทยอยปรับขึ้นราคาดีเซลบ้างเล็กน้อย

ทั้งนี้มั่นใจว่ากองทุนน้ำมันฯ จะดูแลเสถียรภาพราคาดีเซลได้ตลอดจนถึงสิ้นปี 2567 นี้  เนื่องจากปัจจุบันกองทุนฯ ยังมีเงินไหลเข้าวันละ 337 ล้านบาท หรือ 10,447 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนปี 2568 จะต้องรอดูสถานการณ์การสู้รบในตะวันออกกลางอีกครั้ง

โดย กบน. จะเน้นดูแลราคาดีเซลและ LPG เป็นหลัก เนื่องจากมีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง โดยปัจจุบัน กบน. ได้เรียกเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลส่งเข้ากองทุนฯ 2.84 บาทต่อลิตร ส่วนผู้ใช้ดีเซลเกรดพรีเมียมส่งเข้ากองทุนฯ 4.34 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันยอดการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล อยู่ที่ 67.48 ล้านลิตรต่อวัน)

ขณะนี้ผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ ดังนี้ เบนซิน ออกเทน 95 ส่งเข้ากองทุนฯ 10.68 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ส่งเข้า 4.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 2.61 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 1.16 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันยอดการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ อยู่ที่ 31.65 ล้านลิตรต่อวัน)

ส่วนค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน ที่รายงานโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ณ วันที่ 7 ต.ค. 2567 พบว่าค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ยังคงทรงตัวระดับสูง โดยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ถูกเรียกเก็บค่าการตลาด 4.04 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดที่ 3.17 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 3.24 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.21 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 2.89 บาทต่อลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 1.31 บาทต่อลิตร และ ดีเซล B20 อยู่ที่ -0.11 บาทต่อลิตร โดยเฉลี่ยค่าการตลาดอยู่ที่ 2.29 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสมที่ 1.5-2 บาทต่อลิตร)

ด้านสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกล่าสุด ณ วันที่ 7 ต.ค. 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 76.67 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น  3.15 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 74.22 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.16 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 77.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.23 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

‘ศิษย์หลวงตาบัว’ ค้านรัฐบาลแทรกแซง ‘แบงก์ชาติ’ ยื่นคำขาด หากยังเดินหน้า ก็ไม่อาจให้บริหารบ้านเมืองต่อ

(8 ต.ค. 67) ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันใน ทำหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอคัดค้านบุคคลซึ่งเกี่ยวโยงการเมืองเข้ามาแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย โดยระบุว่า

ตามที่ปรากฏกระแสข่าวเป็นวงกว้างว่า รัฐบาลนำโดย ฯพณฯ พยายามผลักดันบุคคลซึ่งเกี่ยวโยงกับการเมืองเข้ามาแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเห็นได้จาก รมว.คลังในรัฐบาลของท่านได้แต่งตั้ง
"คณะกรรมการสรรหาประธานและกรรมการธปท. ชุดใหม่" โดยไม่ได้แต่งตั้งอดีตผู้ว่าธปท. คนใดคนหนึ่งเป็น
กรรมการสรรหาด้วย พฤติการณ์ดังนี้แตกต่างจากประเพณีปฏิบัติในหลายครั้งที่ผ่านมา ราวกับว่า รัฐบาลของ
ท่านมีเจตนาแรงกล้าในการจัดส่งบุคคลที่ยึดโยงกับการเมืองให้เข้ามาแทรกแซงและครอบงำธปท.อย่าง
เบ็ดเสร็จเด็ดขาดให้จงได้

ทั้งนี้ มีกรณีตัวอย่างไม่น้อยจากวิกฤตเศรษฐกิจการเงินในหลายประเทศ ที่ต้นเหตุแห่งความวิบัติมาจากการเมืองเข้าแทรกแซงและครอบงำการทำงาน ที่คำนึงถึงความปลอดภัยแห่งอธิปไตยทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ยิ่งกว่านโยบายทางการเมืองของรัฐบาล ซึ่งในที่สุดจะส่งผลร้ายเป็นการบั่นทอนความเข้มแข็งของธนาคารกลาง จนเบี่ยงเบนทำงไกลจากความถูกต้อง และหากธนาคารกลางไม่อาจคะคานอำนาจของรัฐบาลที่มุ่งสร้างภาพด้วยนโยบายประชานิยม หวังผลเพียงผลประโยชน์ของกลุ่มก้อนพวกพ้องและภาพลักษณ์ทางการเมืองเท่านั้น จนสุ่มเสี่ยงความหายนะแห่งอธิบโดยทางการเงินของชาติให้พังพินาศไปสิ้นได้อย่างน่าสังเวชใจ

คณะศิษยานุศิษย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ในฐานะประชาชนคนไทยที่เทิดทูนชาติศาสน์กษัตริย์เหนือศิรเกล้า ประการสำคัญ ได้ร่วมกันปกป้องทุนสำรองปราการด่านสุดท้ายของชาติอย่างหนักแน่นจริงจัง ตามคำเตือนอย่างเข้มข้นขององค์หลวงตา และได้ร่วมกันเสียสละเงินทองเข้าคลังหลวงกว่า 13 ตัน ได้เห็นพ้องต้องกันว่า หาก ธปท.ถูกการเมืองเข้าแทรกแซง ย่อมบังเกิดมหันดภัยขั้นร้ายแรงต่อระบบการเงินมั่นคงของชาติให้วินาศไปได้อย่างง่ายตาย เพื่อป้องกันมิให้เกิดพฤติการณ์เช่นนี้

คณะศิษย์ฯ จึงขอน้อมนำคำสอนขององค์หลวงตาฯ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2543 ตอนหนึ่งที่ว่า

"อำนาจอันใดก็ตามต้องให้มีประชาชนเป็นผู้ควบคุมอำนาจนั้นไว้ ไม่ใช่กฎหมายของคนสองสามคนเข้ามาตั้งเป็นเจ้าอำนาจวาสนาใหญ่โตเหยียบย่ำทำลายชาติไทยของเรา ก็เรียกรัฐบาลมหาภัยเท่านั้นเอง ไม่ใช่รัฐบาลที่ดีสมความมุ่งหมายของประชาชนที่ตั้งขึ้นมา"

จึงกราบเรียนด่วนที่สุดมาถึง ฯพณฯ เพื่อโปรดพิจารณา อย่านำการเมืองและอย่านำบุคคลที่มีหัวใจยึดโยงกับการเมืองเข้าแทรกแซงอำนาจหน้าที่แห่ง ธปท.โดยเด็ดขาด มิฉะนั้น คณะศิษย์ฯ ย่อมมิอาจยอมรับรัฐบาลประเภทที่ว่ามานี้ให้บริหารบ้านเมืองอีกต่อไปได้

สุดซึ้ง! ทหารใหม่ทำความเคารพอดีตทหารผ่านศึก คอมเมนต์เอกฉันท์แห่ขอบคุณและชื่นชมวีรบุรุษลายพราง

(8 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ข่าวดัง ออนไลน์’ ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของทหารผ่านศึกสุดประทับใจว่า 

เรื่องเล่าจากคุณลุงผู้เป็นทหารผ่านศึก ที่ได้รับการแสดงความเคารพจากทหารรุ่นน้องที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มีคนถามคุณลุงว่าแล้วทหารท่านนั้นทราบได้อย่างไรว่าคุณลุงคือทหารผ่านศึก คุณลุงตอบว่าเพราะเสื้อกั๊กที่ใส่อยู่นั้น มีสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึกติดอยู่ 

“..มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากคราวหนึ่งในชีวิตครับ วันนั้นผมปั่นจักรยานไปกระทรวงมหาดไทยเพื่อไปรับเหรียญพิทักษ์เสรีชน และ เหรียญราชการชายแดน ขากลับปั่นจักรยานผ่านสวนจิตรลดา จะมีป้อมทหารยามเป็นจุด ๆ รอบสวนจิตรลดา มีอยู่จุดหนึ่งน้องทหารเขาได้ตกปืนทำความเคารพ เสียงค่อนข้างดัง ผมหันไปมอง น้องทหารเขาก็มองตอบมา ผมจึงหันไปรอบตัว พบว่ามีผมอยู่คนเดียว จึงทราบว่าน้องเขาแสดงความเคารพให้ผม ผมก็ยกมือวันทยหัตถ์ตอบ น้องเขาลดปืนและมาอยู่ในท่าระเบียบพัก ผมปั่นจักรยานจากมาพร้อมกับน้ำตาไหลซึม ขอบใจน้องทหารที่ให้เกียรติกันอดีตทหารผ่านศึก เล่นเอาผม อดีตทหารผ่านศึกแก่ ๆ คนหนึ่ง น้ำตาร่วงได้..”

ในโพสต์ดังกล่าวได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เช่น 

“อ่านแล้วภูมิใจมาก ขอบคุณ ท่านทหารผ่านศึก ที่ท่านเคยเสี่ยงชีวิตเพื่อพวกเราให้ได้มีแผ่นดินไทยอยู่ ขอให้สุขภาพท่านแข็งแรง และมีความสุขค่ะ ^___^
... จากครอบครัวผู้สูญเสียวีรบุรุษหินร่องกล้า”

“สวัสดีครับ ท่านสมาชิก อผศ.ในภาพที่สวมเสื้อวินมอไซค์ ท่านยังดูแข็งแรงอยู่มาก..ทำมาหากินไปครับ พวกเราต่อสู้ขับไล่ศัตรูแผ่นดินเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนกันมา บางท่านก็พลีชีพ บางท่านบาดเจ็บพิการทุพพลภาพ ขอให้ท่านผู้ผ่านศึกทุกนายที่ยังมีชีวิตอยู่จงมีแต่ความสุขกายสุขใจตลอดไปนะครับ จากผมสมาชิก อผศ.บัตรชั้นที่ 3 ครับ..”

"ชื่นชมค่ะ.. จากครอบครัวทหาร.ค่ะ.. (... หลายปีที่ผ่านมา.เคยมีโอกาสเดินทางไปจ๋าหน่ายดอกปี้ในวันทหารผ่านศึก... ตามหน่วยงาน, องค์กรต่าง ๆ เพื่อนำรายได้จากการจ๋าหน่ายไปช่วยเหลือ น้อง ๆ ทหารหาญที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดนค่ะ.. ฯ.."ภาคภูมิใจค่ะ...”

“ขอร่วมภาคภูมิใจด้วยพี่ทหารทั้งสองท่านด้วยค่ะ และน้ำตาร่วงกับพี่ด้วยความชื่นชมอิ่มใจ ใน ทหารค่ะขอบคุณ ๆ”

เปิดมุมมอง! บุคลิกประเทศไทยที่ไม่เคยสังเกต สยามเมืองยิ้ม ดินแดนแห่งความกลมเกลียว

(8 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘เพื่อนลงทุน’ ได้โพสต์วิเคราะห์บุคลิกของคนไทยและประเทศไทยได้อย่างน่าสนใจ ความว่า 

ประเทศไทยมีดีตรงไหน? มุมมองจากพี่มี่

“ผมเชื่อว่าประเทศไทยมีอนาคต แต่อนาคตมันมองยาก อนาคตไม่เหมือนคนอื่น” พี่มี่เล่าให้ฟังแบบเป็นกันเองแต่เนื้อหาแน่นมาก แอดนั่งดูวิดีโอนี้แป๊บเดียวจบ ขอหยิบมาสรุปให้ฟังเฉพาะมุมมองต่อประเทศไทยของพี่มี่นะครับ 

พี่มี่เปรียบเทียบแต่ละประเทศในโลกว่าใครเป็นใครในห้องเรียนให้ฟัง
“อเมริกา คือหัวหน้าห้อง ที่ฉลาดแต่ขี้เกียจ และใช้เงินเก่ง”
“จีน เป็นรองหัวหน้าห้อง ฉลาดน้อยกว่า แต่ขยัน”
“เวียดนาม ไม่ได้ฉลาดสุด ไม่ได้ขยันสุด แต่เข้ากันได้ดีกับหัวหน้าห้องและรองหัวหน้าห้อง คนแบบนี้ก็อาจจะพอมีอนาคตไปได้แหละ เค้าจับกับข้างนี้ที จับกับข้างนั้นที”
“ไทย ไม่ได้ฉลาด ไม่ได้ขยัน แต่สวย เซ็กซี่ ขี้เล่นและเป็นกันเอง”

“ผมว่าอนาคตของคนแบบนี้วิเคราะห์ยากนะ อยู่ ๆ .. ปุ๊บ ๆ เละ ๆ ไปเป็นเมียเสี่ยเงี้ย มาไง ชีวิตขับซูเปอร์คาร์เฉย.. เฮ้ย มาไง! มันจะต้องมีบุคลิกแบบคนชอบเค้าเยอะ ผมมองเมืองไทยเป็นแบบนั้นอะ” พี่มี่พูดติดตลก แต่แอดว่าพี่มี่เปรียบเทียบเสน่ห์ของประเทศไทยได้ดีมาก ของแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะเลียนแบบกันได้
พี่มี่เล่าต่อถึงเสน่ห์ของประเทศไทยจากที่พบเจอคนหลาย ๆ ประเทศ

คนจีนมาอยู่ไทย ส่งลูกมาเรียน “อย่างโรงเรียนนานาชาติ Harrow ถ้าที่เซี่ยงไฮ้ค่าเทอม 3,700,000 บาท ที่ไทย 900,000 บาท แบรนด์เดียวกัน”

พี่มี่ยังมีเพื่อนต่างชาติคนนึงที่ครอบครัวไม่กินอาหารบางอย่าง แต่พอมาอยู่ไทย เตะบอลกับพี่มี่แล้วพากันไปกินได้ เพื่อนคนนั้นบอกพี่มี่ว่า “ถ้าอยู่บ้านเรากินไม่ได้ แต่ถ้าออกมากับพวกนายเรากินได้”

“คนญี่ปุ่นอยู่บ้านเค้าเข้าแถวเป็นระเบียบ ขึ้นรถไฟเป็นระเบียบ มาอยู่ทองหล่อขี่มอเตอร์ไซค์ซิ่งกว่าคนไทยอีกนะ จอดหน้าวิลลามาร์เก็ต เดินไปซื้อยา” พี่มี่มองว่าไม่มีความเป็นญี่ปุ่นหลงเหลือแล้ว อยู่เมืองไทยสบาย ๆ มาอยู่แล้วก็หลอมกลืน

นอกจากนั้น พี่มี่ยังมองว่าประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งสันติภาพ
“คนจีนแผ่นดินใหญ่กับคนฮ่องกงไม่ถูกกัน คนจีนแผ่นดินใหญ่กับคนไต้หวันไม่ถูกกัน แต่มาเมืองไทย เค้ากินหมาล่าที่จินดาด้วยกัน เค้าเป็นเพื่อนกันได้ที่นี่” 
“ที่พัทยาเราเห็นรัสเซียกับยูเครนนั่งกินเบียร์ด้วยกัน” 
“พอมาที่นี่ปุ๊บ เป็นดินแดนปลอดภัย เป็นดินแดนที่ช่างมันเถอะ เรื่องราวบนโลกเดี๋ยวมันก็ตายแล้ว” พี่มี่เล่าถึงความเป็นอริในเวทีโลกที่กลับมากอดคอกันได้ในประเทศไทย

พี่มี่ยังพาย้อนไปดูสถิติ “คุณไปดูช่วงปี 1920 เรา GDP ต่ำสุดในอาเซียน สลับกันกับพม่า ไม่เราก็พม่าต่ำสุด ทุกคนบอกขี่ควายต่อไปเถอะ เมืองไทยแย่แล้ว”
“แต่สุดท้ายเราก็มี GDP อันดับต้น ๆ ของอาเซียนได้ เพราะเรามีเสน่ห์บางอย่างที่ตอบไม่ได้ เรามีความเป็น United States ในโลกผมไปมา 40 กว่าประเทศ มี 2 ประเทศที่เป็น United States คือ อเมริกากับไทย"
พี่มี่อธิบายว่า United States คืออะไร ? “ในห้องประชุมนี้ ใครบ้างที่สืบเผ่าพันธุ์แล้วเป็นไทยแท้ ? ขอซักคนเดียว.. ไม่มี แต่ทุกคนบอกกูเป็นคนไทย ถูกมั้ย” 

// United แปลว่า รวมกัน, ปึกแผ่น, กลมเกลียว, พร้อมใจกัน
“เนี่ยคือบุคลิกของ United States มันไม่มีคนท้องถิ่นอะ ถ้าสืบไปเรื่อย ๆ ผมอาจจะมาจากแปะซัวเล็ก ซัวเถา อะไรอย่างเงี้ย เช็กไปทุกคนมาจากไหนก็ไม่รู้” 
“แต่พอมาอยู่ที่นี่ กลายเป็นว่ามันหลอมคนทั้งหมด ให้อยู่ที่นี่เลย กลายเป็นคนที่นี่ แล้วไม่อยากไปที่อื่นอีกแล้ว มันมีบุคลิกของความกลมเกลียวที่หาได้ยาก” พี่มี่บอก

ความน่ารัก ความเป็นกันเอง ความใจดีมีน้ำใจของสยามเมืองยิ้มนี้เองเป็นจุดแข็งของประเทศไทย และของแบบนี้อาจจะมีไม่กี่ประเทศในโลกที่จะมาทดแทนหรือมาเลียนแบบเราได้ 

พี่มี่ ทิวา ชินธาดาพงศ์ เป็นนักลงทุนที่คอยแบ่งปันความรู้ให้สังคมตลอด ดูวิดีโอที่พี่มี่เล่าแบบเต็มจาก Super Trader Republic ได้ที่ลิงก์ สนุกมาก ดูไปขำไป ความรู้แน่น พูดตรงไปตรงมา สุดยอด https://youtu.be/5wIz0i3swVs?si=f16w14CWNYLfzgew

‘ซีอีโอ SCG’ ฉายภาพธุรกิจแห่งความยั่งยืน ชี้!! ไทยต้องพัฒนา Circular Economy ไม่ให้แพ้ยุโรป

(8 ต.ค.67) ไทยเป็นประเทศแรกที่รายงานใน COP ว่าอุตสาหกรรมซีเมนต์จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ Net Zero แต่ยังสอบไม่ผ่านในเรื่องของ Circular Economy เพราะยังแพ้ยุโรป ที่สามารถสร้าง Business Model โลว์คาร์บอนได้ โดยรีไซเคิลพลาสติกมีอัตราการเติบโตต่อปีสูงกว่าพลาสติกธรรมดาทั่วไป 2-3 เท่า

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ได้เข้าร่วมเวทีเสวนา CEO Panel ภายในงาน SX2024 หรือ Sustainability Expo 2024 ซึ่งเป็นมหกรรมความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยในครั้งนี้ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ "วิสัยทัศน์ 2030: พลังความร่วมมือ สู่อนาคตยั่งยืน" เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกันในทุกภาคส่วนเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

'ธรรมศักดิ์' กล่าวว่า ประเทศไทยมีโครงการแฟล็กชิพหลายโครงการที่สามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตยั่งยืน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ผมมองควรมุ่งไปในสองเรื่อง หนึ่ง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้อย่างน้อยตามเป้าของ Paris Agreement สอง เรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือ competitiveness ไทยต้องเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันไปพร้อม ๆ กัน ถึงจะยั่งยืน

"เมื่อเร็ว ๆ นี้ เอสซีจีจัด Symposium เป็นการรายงานผล 1 ปี ของการทำสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ ซึ่งเป้าหมายคือการทำให้เป็นจังหวัดต้นแบบโลว์คาร์บอน หนึ่งปีที่ผ่านมามีความคืบหน้าอย่างมาก และผมเชื่อว่า ถ้าเราผลักดันสระบุรีเป็น Net Zero ได้ พื้นที่อื่นอย่าง เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือ กทม. ทำต้องทำได้แน่"

นอกจากนั้น 'ธรรมศักดิ์' พูดถึงการปรับอุตสาหกรรมซีเมนต์ให้เป็นโลว์คาร์บอนซีเมนต์ ที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะประเทศไทยใช้ซีเมนต์จำนวนมาก ซึ่งประเทศไทยควรต้องปรับมาตรฐานการใช้โลว์คาร์บอนซีเมนต์ให้ได้

“ปีที่ผ่านมายอดขายซีเมนต์ของเอสซีจี 70% เป็นซีเมนต์โลว์คาร์บอน และปีนี้ตั้งเป้า 80-100% จะเห็นว่าคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพิ่มขึ้น ดังนั้น เราต้องรวมพลังผลักดันเรื่องนี้ให้สำเร็จ

การผลักดันครอบคลุมไปถึงเทคโนโลยีการผลิต การบริหารต้นทุนการผลิต ซัพพลายเชน การปรับกฎกติกามาตรฐานการก่อสร้างไปเป็นโลว์คาร์บอน ซึ่งผมมองว่าไทยสอบผ่าน ซึ่งเราเป็นประเทศแรกที่รายงานใน COP ว่าอุตสาหกรรมซีเมนต์จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ Net Zero แต่ไทยยังสอบไม่ผ่านในเรื่องของ Circular Economy เรายังแพ้ยุโรป ที่เขาสามารถสร้าง Business Model โลว์คาร์บอนได้ และมีการเติบโตสูง โดยการรีไซเคิลพลาสติกมีอัตราการเติบโตต่อปีสูงกว่าพลาสติกธรรมดาทั่วไป 2-3 เท่า เป็นธุรกิจที่กำลังโต

เอสซีจีได้จัดทำการระดมสมองรับฟังความคิดเห็นกว่า 3,500 คน ในเรื่อง Circular Economy พบว่า หลายคนเห็นตรงกันว่าไทยยังขาดเรื่องแผนแม่บทด้านการรีไซเคิล และยังขาดจิตสำนึกในระดับบุคคลเรื่องการแยกขยะ

ไทยควรผลักดันเรื่องเศรษฐกิจรีไซเคิลอย่างจริงจัง เพราะเรื่องนี้จะสร้างการเติบโตให้กับประเทศไทย รวมทั้งบริษัทต่าง ๆ ทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก

ส่วนเรื่องการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด เราต้องเปรียบเทียบกับจีน เพราะจีนทำเรื่องโซลาร์เยอะมาก ถ้าเราทำเรื่องนี้ได้เพิ่มขึ้น ก็จะสร้างศักยภาพการแข่งขันได้แน่นอน

เวทีเสวนา CEO Panel นี้ ยังมีผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำอีก 3 องค์กรขึ้นเวทีร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ในการนำแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนมาปรับใช้ในภาคธุรกิจ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนอย่างแท้จริง ได้แก่ ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย หรือ SCG ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ ธีรพงศ์ จัน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

‘ทนายนพ’ พร้อมลงชิงเก้าอี้ ‘นายกสภาทนายความ’ แย้มนโยบายจัดตั้งกองทุนสวัสดิการ-ทำงานเป็นทีม

( 8 ต.ค.67) ‘ทนายนพ’ แย้มนโยบาย ทำงานเป็นทีม เพื่อเพื่อนทนาย เน้นกระจายอำนาจ ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ผลักดันจัดตั้งกองทุนสวัสดิการ ทำงานอย่างมีอิสระ ปลอดจากการเมือง

ดร.ธนพล คงเจี้ยง ‘ทนายนพ’ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยถึงแนวนโยบายในการขันอาสาลงสมัครว่า จะมาร่วมกันพลิกฟื้นทวงคืนบทบาทของสภาทนายความ ให้กลับมาทำงานเพื่อทนายความ ด้วยการทำงานเป็นทีม โดยสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารด้วยการกระจายอำนาจอย่างจริงจัง ให้ กรรมการส่วนกลาง กรรมการส่วนภูมิภาคและประธานสภาทนายความจังหวัด ดูแลช่วยเหลือกันในการทำงานตามบทบาทอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของสภาทนายความ เพื่อดูแลเพื่อนพี่น้องทนายความอย่างใกล้ชิดและทั่วถึงและมีความเสมอภาคกัน

“จะปรับปรุงสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความให้มีการบริหารอย่างมืออาชีพ จะควบคุมมรรยาทด้วยการสร้างความเข้าใจในบทบาทของวิชาชีพทนายความ เน้นการป้องปรามไม่ให้ทนายความประพฤติผิดมรรยาท จะลดจำนวนคณะกรรมการมรรยาททนายความลงเหลือไม่เกิน 15 คน ตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ ที่เป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน” ดร.นพ กล่าว 

ทนายนพ กล่าวว่า ที่สำคัญ คือ จะส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิกสภาทนายความ ด้วยการกระจายอำนาจให้กรรมการบริหารสภาทนายความภาค และประธานสภาทนายความจังหวัดมีบทบาทในการบริหารงานสภาทนายความในส่วนภูมิภาคอย่างจริงจัง รวมทั้ง  จัดตั้งกองทุนสวัสดิการทนายความ ให้ครอบคลุมทุกเขตพื้นที่ประธานจังหวัดเพื่อช่วยเหลือดูแลทนายความ

รวมทั้ง จะกระจายบทบาทให้อำนาจประธานสภาทนายความจังหวัด พิจารณาช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนผู้ยากไร้และไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างจริงจัง

“เราจะเข้ามานำพาองค์กรสภาทนายความ เพื่อรับใช้ทนายความอย่างแท้จริง ด้วยการทำงานเป็นทีม สร้างความมั่นคงในการประกอบวิชาชีพทนายความกระจายอำนาจให้เป็นจริง นโยบายที่ทำได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม มั่นใจจะทำให้สภาทนายความเป็นที่พึ่งของทนายความและที่พึ่งของประชาชนให้ได้” ว่าที่ผู้สมัครนายกสภาทนายความฯ หนุ่มไฟแรง กล่าว

ทนายนพ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญ สภาทนายความซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ต้องมีความเป็นอิสระจริง ๆ ปลอดจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมือง เหมือนองค์กรวิชาชีพอื่น

นายกเทศมนตรีเม็กซิโกถูกฆ่าตัดคอ หลังรับตำแหน่ง 6 วัน เผยเพิ่มเติม มีอีก 6 ผู้สมัครถูกสังหารโหดช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

(8 ต.ค. 67) เดอะซัน รายงานวันที่ 8 ต.ค. ถึงเหตุสะเทือนขวัญใน ประเทศเม็กซิโก หลังจาก นายอเลฮานโดร อาร์คอส อายุ 43 ปี นายกเทศมนตรีเมืองชิลปันซิงโก เมืองเอกของ รัฐเกร์เรโร ทางตอนใต้ ถูกฆาตกรรมตัดศีรษะ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เพียง 6 วันภายหลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค.

ศพของนายอาร์คอสในลักษณะไร้ศีรษะนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับในรถยนต์ ส่วนศีรษะที่ถูกตัดออกวางอยู่บนหลังคารถคันเดียวกัน สื่อท้องถิ่นระบุว่าเหตุสังหารสุดสยองที่ทำให้ความหวาดผวาไปทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะรัฐเกร์เรโร เกิดขึ้นหลังจากนายอาร์คอสลงพื้นที่ฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุเฮอริเคนที่พัดถล่มก่อนหน้านี้

ภาพถ่ายที่โพสต์ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กของนายอาร์คอสเผยให้เห็นนายอาร์คอสกำลังพูดคุยกับคนในพื้นที่ แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็ถูกฆาตกรรม นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า 3 วันก่อน เลขาธิการสภาเทศบาลเมืองชิลปันซิงโกถูกสังหารเช่นกัน

เหตุฆาตกรรมทั้งสองกรณียังเกิดขึ้นหลังจากผู้สมัคร 6 คนถูกฆ่าในช่วงใกล้การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา และนายกเทศมนตรีอีกคนจากรัฐเดียวกันที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมิ.ย. ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตขณะขับรถอยู่บนมอเตอร์เวย์

รัฐกูร์เรโรเป็นหนึ่งในรัฐที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากความรุนแรงของแก๊งอาชญากรรมค้ายาเสพติดเพราะตั้งอยู่บนเส้นทางที่อาชญากรใช้ในการลักลอบขนส่งของผิดกฎหมาย และในช่วงปี 2566 รัฐกูร์เรโรมีเหตุฆาตกรรมกว่า 1,900 คดี

ด้าน นางอีฟลิน ซัลกาโด ผู้ว่าการรัฐกูร์เรโร แถลงประณามเหตุสังหารดังกล่าว ส่วน นายอเลฮานโดร โมเรโน หัวหน้าพรรคอาร์พีไอ ต้นสังกัดของนายอาร์คอส เรียกร้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐบาลกลางเม็กซิโกรับหน้าที่สืบสวนหลักเนื่องจากทางการท้องถิ่นรัฐกูร์เรโรไม่สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ในพื้นที่ได้

‘ป้าแสงเดือน’ โอด บอบช้ำหนักจากภัยพิบัติ ยังมีแต่คนคอยบิดเบือนซ้ำเติม อาจพิจารณาเดินหน้าฟ้องหากล้ำเส้น ขอทำงานต่อเพื่อสัตว์ที่ไร้เสียง

(8 ต.ค. 67) น.ส.แสงเดือน ชัยเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์บริบาลช้างและประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม และเป็นเจ้าของศูนย์บริบาลช้าง Elephant Nature Park อำเภอแม่แตง ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระบุว่า 

“ดิฉันไม่ชอบทำงานท่ามกลางดราม่า และไม่อยากเสียเวลากับเรื่องอย่างนี้ เพราะคิดอยู่เสมอว่าชีวิตคนเรามันสั้นเรามีเวลาจงใช้เวลาในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ดรามาเป็นเรื่องปกติแต่การใส่ร้ายคนอื่นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ หลายวันที่ผ่านมาถ้าสังคมจะเห็นประเด็นใส่ร้ายป้ายสีโจมตีต่าง ๆ นานาต่อตัวดิฉันจนกระทั่งนักข่าวแทบทุกสำนักต้องมาสอบถามข้อเท็จจริงจากดิฉัน เรื่องดราม่าไม่ใช่มีแค่วันนี้แต่มันมีมาเกือบยี่สิบปี หลายคนถูกฟ้องและลงข้อความขอโทษทางหนังสือพิมพ์และสื่อต่าง ๆ หลายคนถูกพิพากษาติดคุก บางคนทั้งปรับทั้งจำ บางคนอยู่ระหว่างรอลงอาญา เมื่อมีเวลาดิฉันจะทยอยเอาลงสื่อมาให้สังคมได้รับทราบแล้วท่านจะได้โยงถูกกับประเด็นดราม่าว่าต้นตอมาจากไหน

วันที่พวกเราบอบช้ำอย่างหนักจากการสูญเสียแต่มีการโยงพวกเราจากเรื่องหนึ่งไปอีกเรื่องหนึ่งแม้กระทั่งบิดเบือนข้อมูลควาญช้างเพื่อสร้างประเด็นให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสังคม ดิฉันพยายามอดกลั้นอดทนเนื่องจากพวกเรากำลังผ่านเรื่องเลวร้ายมาควาญหลายครอบครัวที่ไร้ที่อยู่ต้องไปขออาศัยตามที่ต่าง ๆ เพราะบ้านพังไหลไปกับน้ำ เราต้องเร่งฟื้นฟูช่วยเหลือเพราะบางครอบครัวมีลูกเล็ก ๆ นอกจากนั้นเรายังมีสัตว์เจ็บป่วยระงม สัตว์จำนวนมากที่ยังต้องไปฝากไว้ที่อื่นเพราะสภาพพื้นที่เข้าไม่ได้เพราะพื้นที่ยังไม่พร้อมเต็มไปด้วยดินโคลน ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า พวกเราต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อฝ่าวิกฤตนี้ไปให้ได้ ดิฉันเป็นหัวหน้าครอบครัวที่นี่ชีวิตเหล่านี้คือความรับผิดชอบ

แต่ประเด็นดราม่าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ดิฉันอยากจะให้สังคมวิเคราะห์และตั้งคำถามว่า คนที่เลือกออกมาโจมตีคนอื่นในช่วงระหว่างการสูญเสียนี่มันมีเบื้องหลังหรือไม่อย่างไร คนที่มีศีลธรรมเขาเลือกที่จะทำอย่างนี้หรือ

ในวันที่พวกเรามีสัตว์ที่รับผิดชอบอยู่หลายพันชีวิตดิฉันไม่สามารถใช้เวลามาต่อสู้กับคนที่มีแต่ความเกลียดและจิตใจเต็มไปด้วยอคติ

การวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเหตุผลที่ดีเป็นเรื่องที่รับฟังได้และดิฉันพร้อมที่จะรับฟังและนำไปแก้ไขแต่เรื่องมีการวิจารณ์ที่เต็มไปด้วยอคติและไม่เป็นความจริง ดิฉันจำเป็นต้องมาแจ้งความจริงให้สังคมได้รับทราบ ผู้คนที่มาเยี่ยมโครงการของเราคนไทยจำนวนมากที่มาเยี่ยมน้องช้างในศูนย์ของเรา บางคนมานอนเป็นอาทิตย์คนเหล่านี้ต่างหากที่เห็นความจริงในพื้นที่แห่งนี้

การกล่าวหาว่าที่ศูนย์ช้างเราไม่มีควาญประจำ ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าพูดออกมาโดยที่ไม่รู้จริง โครงการของเรามีควาญช้างมากกว่าจำนวนช้างเสียด้วยซ้ำ คนพูดเคยมาเห็นวันที่พวกเราประชุมควาญช้างทุก ๆ สองอาทิตย์หรือไม่

เรื่องการขายทัวร์ในวันน้ำท่วมนี่ก็ยิ่งไปใหญ่โปรแกรม Volunteer ของเรามีการจองล่วงกันมาข้ามปีเราจะมีปฏิทินในเว็บไซต์อย่างชัดเจน และวันที่เราเกิดอุทกภัยเราประกาศแจ้งปิดให้อาสาสมัครและนักท่องเที่ยวได้ทราบในจดหมายข่าวอย่างชัดเจน

ดิฉันขอแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบในตรงนี้ว่าดิฉันจะไม่เสียเวลามานั่งตอบคำถามดราม่าเหล่านี้อีกต่อไปเพราะดิฉันมีชีวิตของสัตว์นานาชนิดที่รอการช่วยเหลือและต้องรับผิดชอบ อยากถามกลับคนที่ออกมาวิพากษ์ด่าเทสาดเทเสียดิฉันว่าบ้านคุณมีหมาแก่มาพิการเลี้ยงเต็มบ้านเกือบร้อยตัวเหมือนดิฉันไหม ถ้าคุณมีคุณจะเข้าใจว่าทำไมดิฉันถึงไม่ให้ค่าความเป็นดราม่าของคุณ บอกตรง ๆ ดิฉันไม่อยากเขียนอะไรอย่างนี้ออกมาด้วยซ้ำเพราะกัลยาณมิตรที่ดีที่อยู่รอบข้างดิฉันต่างบอกว่าใส่ใจ การได้รับความเมตตาจากทุกท่านในวันที่พวกเรามีวิกฤตทำให้ดิฉันมองเห็นสองด้านของความเป็นคนได้อย่างชัดเจน

ทุก ๆ วันเราต่างมีบทเรียนจากการดำรงชีวิต ความสูญเสียที่เกิดขึ้นพวกเราใจแหลกสลาย และพวกเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องชีวิตสัตว์ที่เหลืออยู่ในความดูแลของพวกเราให้ดีที่สุด

ดิฉันขอบคุณคนรักสัตว์ทุกท่านที่เข้าไปตอบช่วยตอบแทนในหลายคอมเมนต์ ดิฉันเข้าใจดีถึงการที่พวกท่านทนไม่ได้ต่อสิ่งที่บิดเบือนเหล่านั้น แต่ดิฉันอยากขอร้องทุกท่านว่าอย่าไปตอบโต้ ถ้าท่านรักดิฉันเราเอาเวลาไปช่วยกันไปช่วยกันหาทางช่วยเหลือหมาแมวสัตว์ต่าง ๆ และชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนจากน้ำท่วมกันเถอะค่ะ จะได้ประโยชน์มากกว่า

แต่ข้อมูลไหนที่คิดมันล้ำเส้นเกินไปขอส่งมาทางอินบ็อกซ์ดิฉันจะส่งต่อให้กับทีมทนายพิจารณาค่ะ เพราะการใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นมีมูลค่าที่ต้องจ่ายเสมอ
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้นะคะ

ขอจบดรามาในหน้าเพจนี้นะคะเพราะชีวิตที่เหลือของดิฉันจะทำงานเพื่อสัตว์ที่ไร้เสียงเท่านั้นค่ะ“

องค์การสวนสัตว์ฯ เปิดตัวบัตรสมาชิก ‘สโมสรผู้รักสวนสัตว์’ ลายใหม่ หมูเด้งสุดน่ารัก ราคา 2,999 บาท สิทธิประโยชน์ติดบัตรเพียบ

(8 ต.ค. 67) องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ZPOT) เผยแพร่บัตรสมาชิก "สโมสรผู้รักสวนสัตว์แห่งประเทศไทย" ลายใหม่ "หมูเด้ง" รายได้นำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์ในสวนสัตว์ทุกแห่ง ราคาใบละ 2,999 บาท อายุบัตร 2 ปี เข้าชมสวนสัตว์ฟรีพร้อมกัน 5 คน และที่จอดรถฟรี 1 คัน

จากกระแสความนิยมของ "หมูเด้ง" ฮิปโปแคระที่กลายเป็นขวัญใจชาวเน็ตทั้งไทยและต่างประเทศ ล่าสุดวันนี้ (8 ต.ค.) เฟซบุ๊ก "องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ - ZPOT"

ได้เผยแพร่บัตรสมาชิก "สโมสรผู้รักสวนสัตว์แห่งประเทศไทย" หรือ Zoo Lovers Society ลายใหม่ "Moo Deng" เพื่อนำรายได้ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตสัตว์ในสวนสัตว์ทุกแห่งในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ฯ ได้แก่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา สวนสัตว์อุบลราชธานี สวนสัตว์ขอนแก่น โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ และสวนสัตว์ที่จะเปิดให้บริการในอนาคตโดยบัตรสมาชิกสโมสรผู้รักสวนสัตว์ ราคาใบละ 2,999 บาท บัตรมีอายุ 2 ปี 

สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกสโมสร ได้แก่ มีสิทธิ์ผ่านประตูสวนสัตว์ภายใต้สังกัด ฟรี ทั้ง 6 แห่ง (สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา สวนสัตว์อุบลราชธานี สวนสัตว์ขอนแก่น) ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ระยะเวลา 2 ปี 

เข้าชมสวนสัตว์ได้พร้อมกัน 5 ท่าน รวมเจ้าของบัตร เปลี่ยนผู้ติดตามได้ และฟรีค่าธรรมเนียมจอดรถ 1 คัน โดยเงื่อนไข เจ้าของบัตรสมาชิกสโมสรฯ ต้องมาด้วยทุกครั้ง พร้อมแสดงบัตรประชาชนควบคู่ทุกครั้ง บัตรนี้ไม่สามารถเปลี่ยนมือเจ้าของบัตรได้

สำหรับผู้สนใจสมัครสมาชิกได้ด้วยตัวเอง ณ สำนักงานสโมสรฯ ขององค์การสวนสัตว์ ตามวันและเวลาราชการ วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. หรืออินบ็อกซ์ข้อความให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ โดยแจ้งชื่อ นามสกุล (ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่สำหรับจัดส่งบัตรสมาชิก ที่เฟซบุ๊กเพจ "องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ - ZPOT" และสามารถซื้อมอบเป็นของขวัญได้ โดยแจ้งระบุชื่อผู้ถือบัตรอีกด้วย

‘แอนนี่ บรู๊ค’ เผยจังหวะประทับใจระหว่างแม่กับลูก หลัง ‘น้องฑีฆายุ’ ขอบคุณที่ให้ถามทุกครั้งที่ลงรูป

(8 ต.ค. 67) ‘แอนนี่ บรู๊ค’ หรือ ‘รุ่งนภา แก้วไทรหาญ’ นักแสดง นักร้อง นางแบบลูกครึ่งไทย-สวิสเซอร์แลนด์ ได้เผยแพร่ความประทับใจที่มีต่อ ‘น้องฑีฆายุ’ ลูกชายผ่านทางเฟซบุ๊กว่า 

ผมขอบคุณแม่ที่ให้เกียรติผมถามผมทุกครั้งในการลงรูปของผม แม่เลิกถ่ายรูปเลิกถ่ายวิดีโอที่ผมไม่สะดวกใจเพื่อเอาไปลงสาธารณะหรือทำ content ผมรู้สึกตัวเองมีค่ามาก ขอบคุณอิสระที่แม่มอบให้ผม

ผมดู YouTube ช่องนึงตั้งแต่ผมเล็กๆอายุเท่าเขาจนวันนี้เด็กคนนั้นก็โตแล้วอายุเท่าผม ผมเห็นสายตาเขาแล้วผมเชื่อว่าเขาอยากออกจาก content ของพ่อแม่มากแต่ทำไม่ได้  
ขอบคุณนะครับแม่ .....

เมื่อคืนเขาน่าจะคิดอะไรของเขาเขาก็เลยมาพูดกับเราแบบนี้เราก็ตอบยินดีเพราะเราเข้าใจ เมื่อถึงเวลาที่ลูกโตแล้วเราก็ต้องคุยกัน ไม่ใช้อำนาจความเป็นพ่อแม่ทำอะไรตามใจเรา 

เพราะเชื่อเสมอทุกอย่างเราคุยกับลูกได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top