Friday, 23 May 2025
NewsFeed

'หมอธีระวัฒน์' เผย!! สารโมเลกุลมณีแดงใกล้พร้อมใช้ในมนุษย์ ความหวังใหม่ทางการแพทย์ ช่วยฟื้นเซลล์สมองที่เสียหาย

(30 ก.ย. 67) นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ข่าวดี สารโมเลกุลมณีแดง ใกล้พร้อมใช้ในมนุษย์

จากการที่ ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์ ได้ปรึกษาหารือเรื่องประสาทวิทยาอยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดอภิวัฒน์ บอกว่าการศึกษาความเป็นพิษในหนูแรทเกรด GLP ที่เป็นมาตรฐานสำคัญในการทำการศึกษาทางคลินิก ผ่านแล้ว พบว่า ในขนาดยาที่ใช้รักษา สารโมเลกุลมณีแดง ปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดความผิดปกติและพยาธิสภาพของร่างกายใด ๆ 

นอกจากผ่านการศึกษาความเป็นพิษแล้ว การศึกษาสารโมเลกุลมณีแดงสำเร็จแล้วในทุก ๆ ด้าน ได้แก่...

1. การค้นพบกลไกความชราของดีเอ็นเอ

2. การผลิตยา ร่วมกับสถานเสาวภา Pharmaceutical Grade มีระบบ QC เรียบร้อย 

3. การศึกษาในสัตว์ทดลอง เพื่อหาข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ Senile dementia rat, Alzheimer’s rat, Parkinson’s rat, Lung fibrosis rat, Liver cirrhosis mouse, Insulin resistance rat, Burn สารโมเลกุลมณีแดง รักษาได้ทุกตัว แก้ไขพยาธิสภาพให้หายไปรวมถึง มี การสร้างเซลล์สมองใหม่ (neurogenesis)

4. การศึกษาคุณสมบัติของยา Safety test หรือความปลอดภัย ทำที่ National Primate Research Center of Thailand ลิงแสม > 1 ปี ผลลิงทุกตัวปลอดภัยดี หายแก่ > 40 สัปดาห์

5. Toxicity test ทำ 2 ที่ สถานเสาวภา ทำหลายสปีชี่ mouse, rat, หนูตะเภา กระต่าย ที่ ม. นเรศวร เป็น GLP rats ผ่านแล้ว

6. Pharmacokinetic and organ distribution เสร็จแล้ว

7. Storage conditions เสร็จแล้ว

ส่วน Clinical trials กำลังเตรียมการ

✨เปลี่ยนให้ปัง 10.10 ที่ ‘มาสเตอร์พีช’

ในที่สุดการช่วยเหลือเยียวยาทั้งกายใจให้ได้รับโอกาสใหม่ในชีวิตผ่านโปรเจ็กต์ Make Your Looks กิจกรรมดี ๆ ของ รพ.มาสเตอร์พีช ที่ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น จนถึงปลายทางความสำเร็จ มีผู้โชคดีได้ลุกส์ใหม่สวยฉ่ำถึง 3 คน 

เพื่อร่วมฉลองและเดินรอยตามแผนดูแลรูปลักษณ์ ปลุกความงาม ปรับสไตล์ให้ปั๊วปัง รพ.มาสเตอร์พีช จึงจัดเต็มแพ็กเกจ ให้คุณเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม ครอบคลุมทุกหัตถการความงาม เปลี่ยนให้ปังไปกับโปรฯ ‘Make Your Looks 10.10’ คุ้มค่าสูงสุดกว่า 50% เริ่มวันที่ 10 เดือน 10 ถึง 31 ตุลาคม 2567 ทั้ง จมูก, ยกคิ้ว, หน้าอก, โครงหน้า, ตา และตัดหนังหน้าท้อง 

เลือกให้ดี เลือกมาตรฐานโรงพยาบาล รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.masterpiecehospital.com / line : @MTP.hospital / FB : Masterpiece Hospital / IG : Masterpiece_hospital

'แสนสิริ' ส่งวัสดุก่อสร้างจากโครงการ 2 คันรถเทรลเลอร์ ช่วย 'สร้าง-ซ่อมแซม' บ้านชาวเชียงราย หลังน้ำลด

เมื่อวานนี้ (29 ก.ย. 67) บริษัทแสนสิริ จำกัด โพสต์ข้อความการช่วยเหลือ ฟื้นฟูผู้ประสบภัยจากเหตุดินโคลนถล่มและน้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย ว่า…

เชียงราย เมื่อน้ำลด การฟื้นฟูและสร้างบ้านใหม่คือสิ่งสำคัญ แสนสิริ จึงรวบรวมวัสดุก่อสร้างเหลือใช้จากโครงการต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย 2 คันรถเทรลเลอร์ บรรทุกเต็มคันด้วย สีทาบ้าน, กระเบื้องปูพื้น, กระเบื้องมุงหลังคา, บานประตู, เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

วันอาทิตย์นี้ รถบรรทุกน้ำใจจากแสนสิริจะออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงราย โดยจะถึงจุดหมายในวันจันทร์เช้า (30 ก.ย.) เพื่อส่งมอบวัสดุทั้งหมดให้ นำไปใช้สร้างบ้านให้กับพี่น้องผู้ประสบภัย

แสนสิริเชื่อมั่นว่า ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย เราจะช่วยกันสร้างรอยยิ้มและความหวังให้กลับมาอีกครั้ง เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ ร่วมเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวเชียงรายและทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

หมูเด้งฟีเวอร์!! ความโด่งดังจากเบื้องหลัง 'ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง' ปั้นโปรไฟล์ให้ชวนฝัน เด่นจนช่วยรัน 'ธุรกิจ-เศรษฐกิจ' บูม

ณ วินาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธความโด่งดังระดับโลกของ 'หมูเด้ง' ฮิปโปแคระแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่ไม่ว่าจะเป็นสื่อ เซเลป อินฟลูเอนเซอร์ ต่างต้องพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นในไทย เกาหลี ญี่ปุ่น และล่าสุดหมูเด้งก็ไปอยู่บนจอรายการ Saturday Night Live รายการทีวีชื่อดังของสหรัฐอเมริกาแล้ว

ความโด่งดังของหมูเด้งส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพิ่มมากขึ้นจากวันปกติ 800-900 คน ช่วงวันหยุดประมาณ 3,00-4,000 คน พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว โดยวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2567 ที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ตีตั๋วเข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวถึง 11,330 คน 

ทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเองก็ได้ตอบรับกระแส 'หมูเด้ง ฟีเวอร์' ด้วยการปล่อยของที่ระลึกลายหมูเด้งสุดน่ารัก เช่น เสื้อ กางเกง และตุ๊กตา สำหรับไว้ให้แฟนคลับจับจอง 

นอกจากนั้นยังเสริมด้วยการขายพ่วง 'ที่พักสวนสัตว์เปิดเขาเขียว' สำหรับคนที่ไม่ต้องการรอคิวนาน สามารถตื่นมารับความเด้งตั้งแต่เช้า นอกจากนี้ยังเป็นการพักผ่อนไปในตัว

นอกจากสินค้าจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวแล้ว หลาย ๆ แบรนด์ต่างต้องอาศัยนาทีทองออก 'หมูเด้ง คอลเล็กชัน' ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าแตะนันยางที่พร้อมจะเปลี่ยนจากช้างดาวมาเป็นฮิปโปแคระดาว หรือ Rip N Dip ก็มีการออกคอลเลกชัน Moo Deng ให้สะสม พร้อมกับเสียงแว่ว ๆ ว่าจะมีแสตมป์หมูเด้งให้สะสมด้วย 

>> แล้วเราเรียนรู้อะไรจากความโด่งดังของหมูเด้ง?

หากเจาะลึกลงไปแล้วความโด่งดังของหมูเด้งไม่ได้โด่งดังแบบชั่วข้ามคืน แต่เป็นความโด่งดังบนรากฐานที่มีการค่อย ๆ วางแบบใจเย็น ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง' ที่ถ่ายทอดอริยาบถของเหล่าฮิปโปแคระ ซึ่งเริ่มตั้งเพจมาเมื่อปี 2562 หรือจะพูดอีกอย่างเป็นเพจแฟนด้อมของฮิปโปแคระเลยก็ว่าได้ รวมทั้งกลยุทธ์ขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยที่เปิดให้มีการตั้งชื่อและโหวตชื่อ เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมที่แท้จริงไม่ใช่แค่ยอดไลก์ ยอดแชร์ กับกลุ่มเป้าหมาย

ไม่ใช่หมูเด้งที่ผ่านกระบวนการนี้เท่านั้น แต่พี่ชายแท้ ๆ ของหมูเด้งอย่าง 'หมูตุ๋น' ก็ผ่านกระบวนการเช่นนี้เช่นกัน คือ การสร้างฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นขึ้นมาก่อน แต่ของหมูตุ๋นติดนิดเดียวว่าพอดีช่วงนั้นมีดาวโควิดเข้ามาแทรกไม่เช่นนั้นอาจโด่งดังเป็นพลุแตกมากกว่านี้ 

ถ้าข้ามไปคนละสปีชี่ส์โมเดลที่โด่งดังเป็นพลุแตกคงหนีไม่พ้น 'หลินปิง' แพนด้าขวัญใจมหาชนเมื่อเกือบ 15 ปีที่แล้ว ยุคนั้นแพนด้าหลินปิงทำให้ไปรษณียบัตรโหวตชื่อเจ้าแพนด้า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าระดับ 28.5 ล้านใบ 

>> แล้วทำไม 'หมูเด้ง-หลินปิง' ลูกสัตว์เหล่านี้ถึงฮอตฮิตขนาดนี้?

สำหรับหลายแบรนด์แม้จะไม่สามารถขนสินค้าคอลเลกชันหมูเด้งออกมาได้ทัน ก็ต้องมีการขยับใช้หมูเด้งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบทางการตลาดชั้นดี ด้วยความที่หมูเด้งมีลักษณะเป็น 'มีม' โดยธรรมชาติ ด้วยท่าทางตลก ๆ และเปิ่น ๆ 

สำหรับความน่ารักของเหล่าสัตว์และคนตัวจิ๋วมีงานวิจัยของนักศึกษาศึกษาพฤติกรรมสัตว์ชาวออสเตรียที่มีชื่อว่า Konrad Lorenz ที่อธิบายความน่ารัก น่าเอ็นดูเด็กทารกด้วยคำว่า 'kindchenschema' หรือ 'baby schema'

โดยงานชิ้นนี้เปรียบเทียบลักษณะของท่ารกที่มีเหมือน ๆ กัน คือ หน้าผากใหญ่ ตาโต จมูกเล็ก ซึ่งจะทำให้ผู้พบเห็นเกิดปฏิกิริยากับมนุษย์อย่างรวดเร็วที่จะปกป้อง คุ้มครอง ดูแล ห้อยท้ายไว้นิดว่าจากทฤษฎีนี้ทำให้การ์ตูนของญี่ปุ่น หรือ มังงะ ในยุคหนึ่งจะมีตัวละครจะมี หน้าผากใหญ่ ตาโต จมูกเล็ก

>> เราได้อะไรจากปรากฏการณ์หมูเด้ง?

คำตอบสำหรับคำถามนี้ ก็คงเป็นการเกาะเก็บสถานการณ์โดยรอบแล้วแปลงมาเป็นบริบทให้เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแฟนด้อม ผลิตคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงดึงดูดให้เกิดการมีส่วนร่วมกับผู้คน แต่ไม่ได้การันตีว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะหากย้อนกลับไปดูในอดีต ซีรีส์พีเรียดของเกาหลีใต้มีจำนวนมหาศาล แต่เรื่องที่โด่งดังยิ่งกว่าพลุแตกกลับเป็น 'แด จัง กึม'

กรรมาธิการวุฒิสภา 'ยัน' พรบ.ประชามติ 2 ชั้น ค้านไม่เอาเงื่อนไขการเลือกตั้ง อบจ.เงื่อนไขรับฟังประชามติ ปชช. ทางออกตั้งกรรมาธิการร่วม 2 สภา

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยว่า จากการประชุมนัดสุดท้ายของ สว.ในการพิจารณา พรบ.ประชามติ ยังมีหลายประเด็นที่คณะกรรมาธิการพบว่าจำเป็นต้องมีการทบทวนแก้ไข  จึงไม่ควรเอาเงื่อนไขของเวลาการเลือกตั้ง อบจ.ในเดือน ก.พ.68 เป็นเงื่อนไขในการรับฟังประชามติประชาชนได้ โดยเหตุผลประหยัดงบประมาณ

นายไชยยงค์ฯ ยังเปิดเผยว่า มีถ้วนคำฟุ่มเฟื่อย และมาตรา 13 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ พรบ.ประชามติ หากปล่อยไปโดยไม่มีการทบทวนหรือแก้ไขจะเป็นปัญหาตามมา เนื่องจากต้องนำไปใช้กับโครงการใหญ่ที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนและประโยชน์ของประเทศ  ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ โครงการก่อสร้างเขื่อน  ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน บ่อนกาสิโน โรงงานกำจัดขยะ

“ในการแก้การออกเสียงประชามติเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นผลกระทบต่อประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติหรือกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนดังนั้น หากกำหนดให้การออกเสียงประชามติถือเอาเพียงเสียงข้างมากของผู้ออกเสียงอาจจะไม่สามารถสะท้อนความเห็นหรือเจตจำนงที่แท้จจริงของประชาชนทั้งประเทศได้”

นายไชยยงค์ฯ นังเปิดเผยต่ออีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม การกำหนดให้การทำประชามติทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องเฉพาะกลุ่ม เฉพาะพื้นที่ต้องใช้เกณฑ์เสียงเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้นทั้งหมดกับทุกกรณี ก็อาจจะเป็นเคร่งครัดจนเกินไป อาจทำให้การออกเสียงประชามติเรื่องอื่น ๆ เกิดขึ้นได้ยาก เช่นการจัดโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน การจัดคาสิโน การทำเหมืองแร่ จึงเห็นสมควรกำหนดคะแนนเสียงที่จะถือว่าเป็นข้อยุติในการออกเสียงเป็น 2 รูปแบบ โดยเทียบเคียงการจำแนกรูปแบบการออกเสียงตามมาตรา 9 มาตรา 30 และมาตรา 31

นายไชยยงค์ฯ เปิดเผยอีกว่า รูปแบบที่ 1 การออกเสียงเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญตามมาตรา 9 (1)และ(2) ซึ่งเป็นผลกระทบต่อประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติหรือกระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชน จึงควรใช้เกณฑ์คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้นตามกฎหมายปัจจุบัน

"รูปแบบที่ 2 การออกเสียงกรณีคณะรัฐมนตรีเห็นสมควร หรือตามที่กฎหมายกำหนด หรือรัฐสภาเห็นสมควร หรือประชาชนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 9 (2 ) (3 )(4 )และ(5 )สามารถผ่อนคลายจำนวนที่จะถือว่าได้ข้อยุติจากเกณฑ์คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้น เป็นคะแนนเสียงข้างมากธรรมดาได้ จึงให้มีการตั้งกรรมาธิการร่วม 2 สภาเพื่อหาทางออก ส่วนมาตราอื่นๆนั้นแก้ไขคำที่ฟุ่มเฟือยเท่านั้น"

'บางจากฯ' โชว์ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ด้าน 'ทริส เรทติ้ง' เพิ่มอันดับเครดิตเป็น A+

(30 ก.ย. 67) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับการปรับอันดับจาก ทริส เรทติ้ง เพิ่มเครดิตองค์กรขึ้นเป็น 'A+' จาก 'A' สูงสุดตั้งแต่บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิต โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตที่ 'คงที่' ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567

การปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างธุรกิจของบางจากฯ ที่ยกระดับขึ้นจากการเติบโตของธุรกิจโรงกลั่นและค้าน้ำมันและธุรกิจการตลาด หลังจากการรวมบริษัทบางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) (BSRC) เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทบางจาก รวมถึงการขยายธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) มีส่วนช่วยสร้างการเติบโต อีกทั้งความหลากหลายของธุรกิจยังช่วยลดความผันผวนของผลการดำเนินงาน จากราคาน้ำมันหรือค่าการกลั่นได้ดีขึ้น

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จและศักยภาพในการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา หลังจากเข้าซื้อกิจการ BSRC ได้มีการรับรู้ผลประโยชน์จาก Synergy เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ ทำให้กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและค้าน้ำมันและกลุ่มธุรกิจการตลาดของบางจากฯ เติบโตและแข็งแกร่งมากขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ลงทุนผ่านบริษัท OKEA ASA ที่ประเทศนอร์เวย์ ยังมีการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามเป้าหมายการผลิตที่วางไว้ ทำให้บางจากมีความสามารถในการแข่งขันและความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรามุ่งมั่นที่จะรักษาวินัยทางการเงิน และพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนและมั่นคง”

>> เกี่ยวกับบางจากฯ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลัก คือ...

1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศ ด้วยกำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง คือ โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขยายสู่ธุรกิจการค้าน้ำมันผ่านบริษัทบีซีพี เทรดดิ้ง (BCPT) และต่อยอดเครือข่ายธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิง ผ่านบริษัทกรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ (BFPL) รวมถึงลงทุนในธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF ผ่านบริษัทบีเอสจีเอฟ (BSGF) 

2) กลุ่มธุรกิจการตลาด ส่งมอบ Greenovative Experience ผ่านเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารหลากหลายและนำระบบดิจิทัลมาส่งมอบประสบการณ์ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย ให้กับผู้ใช้บริการ 

3) กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย บมจ. บีซีพีจี ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค 

4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศและขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง 

5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง และมีกลุ่มธุรกิจใหม่ (New Businesses) อาทิ ธุรกิจ Battery as a Service สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Winnonie และสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งช่วยสร้างระบบนิเวศสำหรับ นวัตกรรมสีเขียว

นอกจากนี้ ยังได้ก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวิกฤตสภาวะภูมิอากาศและการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio Consortium

บางจากฯ ได้รับการประเมินจาก S&P Global CSA ผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี DJSI (ผลประเมินเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566) ได้คะแนนการประเมินสูงเป็น Top 5% ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refining and Marketing และเป็นบริษัทไทยรายเดียวที่ได้รับการประเมินความยั่งยืน MSCI ESG Ratings ระดับ AA สูงสุดในกลุ่ม Oil & Gas Refining, Marketing, Transportation & Storage ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน

พร้อมกันนี้ บางจากฯ ตั้งเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2050

‘ปธ.กมธ.อุตฯ’ เยือนนครฉงชิ่ง หารือการลงทุน-นำเข้าสินค้าไทย ดันเพิ่มสัดส่วนสินค้าในอุตฯ EV สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย

(30 ก.ย. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า

ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม และคณะได้เดินทางมายังนครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อร่วมหารือกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้การสนับสนุนให้มีการใช้สินค้า หรือชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่ผลิตในประเทศไทยโดยผู้ประกอบการชาวไทยในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการชาวไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และยังเป็นการเติมเต็มห่วงโซ่อุปทาน (Suply Chain) ให้กับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่มีการผลิตในประเทศไทยด้วย 

โดยส่วนหนึ่งของการหารือในครั้งนี้ได้กล่าวถึงอุตสาหกรรมชิ้นส่วนแผงวงจรพิมพ์ (Printed Circuit Board) โดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนอยู่ในระดับสูง และในอนาคตจะมีการใช้งาน PCB ในเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท 

การร่วมหารือในครั้งนี้ได้รับผลการตอบรับที่ดีมากจากผู้ร่วมหารือทุก ๆ ฝ่าย และมีความพร้อมที่จะดำเนินการตามข้อหารือต่อไป เพื่อนำไปสู่การใช้ชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่ผลิตในประเทศไทยมากกว่าที่กฎหมาย หรือเกณฑ์ที่ BOI ได้กำหนดไว้ 

การหารือของประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมและคณะในครั้งนี้ได้มีการหารือร่วมกับกลุ่มบริษัทผู้ผลิตวัสดุสำหรับผลิตชิ้นส่วนแผงวงจรพิมพ์ (PCB) และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ‘ฉางอัน’

นอกจากนั้นประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมยังได้มีการร่วมหารือกับคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีน นครฉงชิ่ง 

นายอัครเดช กล่าวในประเด็นนี้ว่า เป็นการหารือเพื่อพัฒนาไปสู่ความร่วมมือกันในอนาคตใน 2 ด้าน ด้านแรก คือ เป็นการหารือเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยมายังนครฉงชิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุตสาหกรรม หรือสินค้าทางการเกษตร 

ด้านที่สอง เป็นการหารือเพื่อให้มีการลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และควรต้องเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมลพิษน้อยที่สุด ซึ่งทางคณะกรรมการดังกล่าวต่างแสดงความสนใจที่จะร่วมพัฒนาการลงทุนและการค้าร่วมกับไทยในอนาคต 

นายอัครเดช ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม กล่าวในตอนท้ายว่า การเจรจา และผลักดันในครั้งนี้ นอกจากเป็นสิ่งที่ตนได้ให้ความสำคัญผ่านการร่วมหารือกับผู้แทนของประเทศจีนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องแล้ว

เรื่องนี้ยังเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของกระทรวงอุตสาหกรรม ตามที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีนโยบายรวมถึงเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คือการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการชาวไทย โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) อันเป็นหนึ่งในการปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย

คุณยายวัย 80 ปี ผงาดชิงมงเวที Miss Universe Korea ตอกย้ำนิยามความสวยในยุค 'สังคมไร้วัย-ไม่จำกัดอายุ'

อายุเป็นเพียงตัวเลข ไม่ใช่วลีที่มีไว้ปลอบใจคนวัยเกษียณอีกต่อไปแล้ว เมื่อ 'เช ซุน-ฮวา' คุณยายวัย 80 ปี ได้สร้างประวัติศาสตร์ ทะลุเข้าถึงรอบไฟนอล กลายเป็นหนึ่งในจำนวนสาวงาม 32 คน ผู้มีสิทธิ์ชิงมงกุฎ Miss Universe Korea ประจำปีนี้ และเป็นผู้เข้าประกวดที่มีอายุมากที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการจัดเวทีประกวดนางงามจักรวาลของเกาหลีใต้ในปี 1952 เป็นต้นมา

เช ซุน-ฮวา เกิดปี 1943 เรียกได้ว่าเป็นผู้เข้าประกวดในวัยยุคสงครามโลกคนเดียวในปีนี้ ที่ต้องมาแข่งขันกับสาวงามรุ่นหลานที่ตรงตามมาตรฐานความงามที่สังคมคุ้นชิน แต่สำหรับการประกวดในปีนี้ 2024 พิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมาเนื่องจากกองประกวดได้ปรับเกณฑ์การรับสมัครใหม่ จากเดิมที่รับผู้สมัครที่มีอายุ 18-28 ปี กลายเป็น 18 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดอายุขั้นสูง และไม่จำเป็นต้องเป็น 'สาวโสด'

กองประกวดนางงามจักรวาลของเกาหลีใต้ มีความตั้งใจที่จะปฏิวัติขนบธรรมเนียมเก่า ๆ ของเวทีประกวดนางงาม โดยต้องการชูประเด็นเรื่องความงามไม่จำกัดอายุ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝันได้ และในปีนี้ ได้ยกเลิกการสวมชุดว่ายน้ำบนเวทีประกวด แต่จะเพิ่มการแข่งขันในส่วนของการแสดงความสามารถพิเศษ อาทิ การร้องเพลง เต้นรำเพลงพื้นบ้าน เดินแบบชุดประจำชาติ ฯลฯ โดยจะตัดสินผู้ชนะจากการประเมินของคณะกรรมการ ร่วมกับผลคะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้านด้วย

ด้าน คุณยาย เช ซุน-ฮวา ก็มีดีกรีไม่ธรรมดา เธอเคยทำอาชีพมาแล้วหลายอย่าง ตั้งแต่ เป็นสาวโรงงานทอผ้า ไปจนถึงผู้ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุตามสถานพยาบาลต่าง ๆ แต่ด้วยเสน่ห์ที่สวยสมวัย ทำให้มีคนไข้ที่เธอเคยดูแลยุให้เธอไปลองเป็นนางแบบดู 

คำแนะนำของคนไข้ทำให้เธอติดต่อเข้าไปหาโมเดลลิ่ง และสามารถเดบิวท์เป็นนางแบบสูงวัยได้สำเร็จจริง ๆ ตอนเธออายุ 75 ปี แถมยังได้ขึ้นเวทีเดินแบบในงาน Seoul Fashion Week ถ่ายโฆษณาเบียร์ยี่ห้อดัง และรับงานถ่ายแบบในนิตยสารแฟชันชั้นนำอย่าง Harper’s Bazaar และ Elle มาแล้ว 

เมื่อกองประกวด Miss Universe Korea ได้ประกาศยกเลิกข้อจำกัดเรื่องอายุ เช ซุน-ฮวา ตัดสินใจส่งใบสมัครทันที และสามารถผ่านเข้ามาถึงรอบ 32 คนสุดท้ายในการชิงมงกุฎนางงามเกาหลีใต้ ซึ่งเธอต้องการที่จะฉีกกฎเกณฑ์ของค่านิยมเรื่องความงามในสังคม และบอกกับชาวโลกดัง ๆ ว่า สาววัย 80 ก็สวย ฟิต สุขภาพดีได้

การเปลี่ยนแปลงบนเวทีประกวดนางงามนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่เกาหลีใต้ ล่าสุด บนเวทีประกวดนางงามจักรวาลของสิงคโปร์ ก็มีผู้เข้าประกวดที่อายุ 62 ปีร่วมเวทีด้วย และในปีนั้น ผู้ที่ได้รับตำแหน่งรองนางงามก็มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว

และยังสะท้อนถึงการมาของยุคสังคมไร้วัย หรือ Perennial ที่คนทุกเพศ ทุกวัย มีอิสระในการใช้ชีวิต และ เลือกทำในกิจกรรมร่วมกันได้ เพราะวิวัฒนาการด้านการแพทย์ และ สังคมดิจิทัล ที่ทำให้ข้อจำกัดของอายุก็จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป

‘IRPC’ ตั้ง ‘เทอดเกียรติ พร้อมมูล’ นั่ง CEO คนใหม่ สานภารกิจขับเคลื่อนองค์กรเติบโตยั่งยืน

(30 ก.ย. 67) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) แต่งตั้ง นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป 

สำหรับ นายเทอดเกียรติ มีประสบการณ์ในตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และมีความเชี่ยวชาญทั้งงานแผนกลยุทธ์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผ่านภารกิจในการกำกับดูแล และกำหนดทิศทางให้กับกลุ่มธุรกิจที่สำคัญของ ปตท. และบริษัทในกลุ่ม ปตท. รวมทั้งดำรงตำแหน่งสำคัญในหลายองค์กร ได้แก่ กรรมการบริหาร สถาบันวิทยสิริเมธี ประธานคณะกรรมการจัดการสถาบันวิทยาการพลังงาน อุปนายก สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย กรรมการ สมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย

นายเทอดเกียรติ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท Master of Engineering (Industrial & Manufacturing Systems Engineering) จาก University of Missouri, Columbia, USA และปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมเคมี) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นายเทอดเกียรติ CEO ลำดับที่ 8 ของ IRPC จะมาขับเคลื่อนองค์กร สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ ผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด สร้างสมดุลในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล ที่คำนึงถึงสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืนต่อไป 

'ท่องเที่ยว' เล็งโมเดล ‘VAT Refund ญี่ปุ่น’ ดันไทย ‘ฮับชอปปิง’ ยื่นขอคืนภาษี ณ ร้านค้าหรือจุดขายได้ทันที

(30 ก.ย. 67) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงแผนการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น 'ชอปปิง เดสติเนชัน' (Shopping Destination) ขณะนี้มองถึงแนวทางการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเรื่องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat Refund) เบื้องต้นอาจใช้โมเดลญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวสามารถยื่นขอคืนภาษี ณ ร้านค้าหรือจุดขายได้ทันที ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งกระทรวงการคลังและภาคเอกชน หลังได้รับรายงานว่าขั้นตอนขอคืนภาษีที่เคาน์เตอร์เป็นไปอย่างล่าช้า ต่อแถวยาว ไม่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“วาระเร่งด่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ นอกเหนือจากการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยให้ได้มากที่สุดแล้ว จะต้องรุกเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อผลักดันรายได้ไปให้ถึงเป้าหมาย ด้วยการดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม”

นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรื้อแผนกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวปี 2568 โดยเฉพาะในช่วงโลว์ซีซัน ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะฟื้นโครงการเราเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เนื่องจากแพลตฟอร์มของโครงการฯ ยังมีอยู่ ขณะเดียวกันปริมาณที่นั่งสายการบินเส้นทางบินในประเทศก็มีจำนวนมาก

ทั้งนี้ จากสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-22 ก.ย. มีจำนวน 25,413,226 คน โดยตลาดนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 

-จีน 5,107,697 คน 
-มาเลเซีย 3,643,753 คน 
-อินเดีย 1,485,017 คน 
-เกาหลีใต้ 1,347,069 คน 
-และรัสเซีย 1,137,867 คน 

สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 1,188,099 ล้านบาท ทำให้ช่วง 3 เดือน

สุดท้ายนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะพยายามผลักดันให้ได้ทั้งจำนวนและรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 35 ล้านคน สร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท ถือเป็นเป้าที่เหนื่อย เพราะยังขาดอีกกว่า 8 แสนล้านบาทที่ต้องทำเพิ่มในช่วงที่เหลือ โดยต้องเร่งอัดอีเวนต์และโปรโมชันต่าง ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ

“แผนกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ จะมีการทยอยประกาศออกมา ระหว่างนี้ต้องรอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจภาพใหญ่ที่นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จะประกาศออกมาในเร็ว ๆ นี้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ พร้อมดำเนินการตามนโยบายของนายกฯ ซึ่งเราจะคุยกันที่ตัวเลขจริง ๆ ไม่มโน”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top