Tuesday, 10 June 2025
NewsFeed

‘สมเด็จพระสังฆราช’ มอบกัปปิยภัณฑ์ 100,000 บาท สนับสนุนทำโรงทาน ช่วยเหลือน้ำท่วมในเชียงราย

เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.67) จากเพจเฟซบุ๊ก ‘สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ’ โพสต์ข้อความระบุว่า… 

โดยพระดำริ เจ้าประคุณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม มอบกัปปิยภัณฑ์ 100,000 บาท สนับสนุนการทำโรงทาน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย อ.เทิง วัดพระนาคแก้ว ตำบลเวียง อ.เวียงแก่น วัดปอกลาง ตำบลปอ อ.ขุนตาล วัดป่าตาลใต้ ตำบลป่าตาล อ.พญาเม็งราย วัดบุญวาลย์ ตำบลแม่เปา และในพื้นที่ใกล้เคียง
 

อุทาหรณ์!! เจ้าของกิจการเจอภาษีย้อนหลัง แทบล้มละลาย เตือน!! ยังไงก็ต้องจ่าย ไม่จ่ายวันนี้ ก็ต้องจ่ายสักวัน

(23 ส.ค.67) จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Mint Paka' ได้โพสต์ข้อความแชร์เตือนกรณีไม่ได้จ่ายภาษีบุคคลธรรมดา และเจอเรียกเก็บย้อนหลัง ระบุว่า...

เรื่องมีอยู่ว่า...
มีเอกสารเข้าพบสรรพากรมาบ้าน 2 รอบ  
รอบแรกเราไม่ได้ไป 
รอบสอง มาติดไว้ข้างเสาบ้านเลยค่ะ 

วันนี้เลยไป..เราคัดสเตทเม้นย้อนหลังไป 2 ปี 
แต่...สรรพากรบอก ไปคัดสเตทเม้นมาเพิ่ม 
(เอาตั้งแต่ปี 61-67 เลยค่ะ)
** ก็คือตั้งแต่เริ่มทำกิจการ **  
เราหน้าชามากกก...ไปต่อไม่ถูกเลย 

#อย่าเล่นกับระบบ #ปีนี้เขาเอาจริง 
ใครยังไม่เสียภาษี ไปจัดการด่วนเลยค่ะ 

ย้ำ!! ยังไงก็ต้องเสีย ยังไงก็ต้องจ่าย 
ไม่จ่ายวันนี้ก็ต้องจ่ายสักวัน 

#วันนี้ละจุ่มโดนฉันแล้วว ซีเครทแตกกก

‘จนท.’ เผย ‘เครื่องบินตก’ อ.บางปะกง พบชิ้นส่วนมนุษย์แล้ว 23 ชิ้น เร่งตรวจสอบอัตลักษณ์ คาด!! กระจายคาบเกี่ยวพื้นที่ชาวบ้าน

(23 ส.ค.67) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเครื่องบินตก อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

โดยมีการหารือกับ นายวสุวัสน์ เมฆอังกูรสิน หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต กู้ภัยฉะเชิงเทรา เพื่อวางแผนร่วมกันเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะในจุดที่เครื่องบินตกลงไป ซึ่งคาดว่าน่าจะลึกประมาณ 10 เมตร

สำหรับแผนในวันนี้จะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ใช้รถแบคโฮขุดตรงบริเวณจุดดังกล่าว โดยจะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย และ พฐ. ใช้มือในการค้นหาคัดแยกชิ้นส่วนของมนุษย์ และชิ้นส่วนของเครื่องบิน

โดยคาดว่าชิ้นส่วนมนุษย์จะมีการกระจายในรัศมีโดยรอบที่เกิดเหตุ ซึ่งคาบเกี่ยวพื้นที่ของชาวบ้าน จึงต้องประสานขอความร่วมมือจากชาวบ้านในการค้นหา เบื้องต้นมีการพบชิ้นส่วนมนุษย์แล้ว 23 ชิ้น อยู่ระหว่างตรวจสอบอัตลักษณ์ว่าเป็นของบุคคลใด

ขณะที่ พล.ต.ต.ฉัตรชัย นันทมงคล ผบก.สพฐ.2 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ พฐ. จะเป็นคนจำแนกชิ้นส่วนหากหาพบ ส่วนกู้ภัยจะเป็นผู้เก็บชิ้นส่วนขึ้นมาจากจุดเกิดเหตุ

‘อนุชา’ ค้าน ‘ร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางบก’ ให้อำนาจท้องถิ่นคุมการเดินรถฯ ชี้!! เดิมรับสัมปทานเดินรถอยู่แล้ว สุ่มเสี่ยงเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 67 นายอนุชา บูรพชัยศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อภิปราย ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ว่า ปัจจุบันต้องยอมรับว่ารถโดยสารสาธารณะยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่ยังเป็นปัญหาที่มีความสำคัญยิ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม การไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ไม่ใช่การไม่เห็นด้วยกับการกระจายอำนาจ และไม่ใช่การไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้ต่างจังหวัดมีระบบขนส่งมวลชนที่ดี เพราะการกล่าวเช่นนั้นเป็นการไม่ได้ศึกษาในรายละเอียดของ ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้

ประเด็นแรกในส่วนของการกระจายอำนาจนั้นมี พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งกำหนดแผนแม่บทในการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่แล้ว และกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้มีการดำเนินการตามแผนแม่บทดังกล่าวอยู่แล้ว ทั้งการถ่ายโอนภารกิจสถานีขนส่งผู้โดยสารที่มีการถ่ายโอนภารกิจแล้วทั้งสิ้น 97 สถานี และอยู่ระหว่างดำเนินการ 1 สถานี 

ประเด็นต่อมาคือ การให้สัมปทานเดินรถนั้น กระทรวงคมนาคมได้ออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 64 (พ.ศ. 2567) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 กฎกระทรวงฉบับดังกล่าวได้ให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถขอใบอนุญาตประกอบกิจการขนส่งในพื้นที่ของตนเองได้ และเมื่อได้รับการอนุญาตแล้วยังสามารถให้เอกชนเป็นผู้บริหารจัดการและดำเนินการได้ด้วย 

ทั้งหมดนี้คือจะเน้นย้ำว่า สถานะปัจจุบันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการเดินรถคือเป็นผู้ให้บริการหรือ Operator 

ประเด็นต่อมาหากมีการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ตามร่าง พ.ร.บ. ที่ได้เสนอมาย่อมจะทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะให้อำนาจนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือ นายก อบจ. ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัด ซึ่งมีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้มีการเดินรถในเขตจังหวัด 

หากมีการแก้ไขตามร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะทำให้นายก อบจ. มีอีกสถานะคือสถานะผู้ควบคุมการขนส่งในพื้นที่ หรือ Regulator ด้วย ด้วยเหตุนี้จะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นทั้ง Operator และ Regulator ขัดแย้งกับแนวทางที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ที่จะแยกสถานะทั้ง 2 นี้ออกจากกัน 

ทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวจึงเป็นเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับ ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …

‘คนงานเหมือง’ ขุดพบ ‘เพชรดิบ’ หนัก 2,492 กะรัตในบอตสวานา ขึ้นแท่นใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลก คาด!! ตีมูลค่าอยู่ที่ 1,381 ลบ.

(23 ส.ค.67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คนงานเหมืองในประเทศบอตสวานา ขุดพบ ‘โคตรเพชร’ น้ำหนัก 2,492 กะรัต (เพชรดิบ) ที่เหมืองเพชรในเมืองคาโรเว ของบริษัท ‘ลูคารา ไดมอนด์’ (Lucara Diamond) ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาโบโรเน ไปทางเหนือราว 500 กม.

สำหรับบอตสวานาเป็นประเทศผู้ผลิตเพชรอันดับ 1 ของโลก โดยผลิตมากถึง 20% ของเพชรทั้งหมด โดยเพชรก้อนนี้ถือเป็นเพชรใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก ที่เคยถูกขุดพบ รองจากเพชรคัลลินัน (Cullinan diamond) น้ำหนัก 3,106 กะรัต ซึ่งพบที่ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2448 และถูกตัดแบ่งเป็น 9 ส่วน และหลายเม็ดถูกประดับอยู่บนมงกุฎของกษัตริย์อังกฤษ

ทั้งนี้ เพชรก้อนนี้ยังเป็นเพชรขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยขุดพบในบอตสวานาด้วย โดยสถิติเดิมอยู่ที่ 1,758 กะรัต ขุดพบจากเหมืองแห่งเดียวกันนี้เมื่อปี 2562

ทางด้าน วิลเลียม แลมบ์ ประธานบริษัท ลูคารา ไดเมนด์ กล่าวว่า นี่เป็นหนึ่งในเพชรขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยถูกขุดพบ โดยเพรชก้อนนี้ถูกตรวจพบด้วยเทคโนโลยี เมก้า ไดมอนด์ รีคัฟเวอรี เอ็กซ์เรย์ ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อจำแนกเพชรมูลค่าสูง ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างการบดแร่

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับคุณภาพ หรือมูลค่าของเพชรก้อนนี้

แต่ทางด้านหนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทม์ส ของสหราชอาณาจักร อ้างคำพูดของแหล่งข่าวใกล้ชิดกับบริษัท ลูคารา ว่า เพชรก้อนนี้มีมูลค่าโดยประเมินอยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,381 ล้านบาท)

สโมสรฟุตบอลสมุทรปราการเอฟซี ต้นแบบ 'สโมสรฟุตบอลสีเขียว'

THE TOMORROW มหาชนต้องรู้ ออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES เมื่อวันที่ 24 ส.ค.67 ได้พูดคุยกับ ดร.ก้องเกียรติ สุริเย ประธานกรรมการ บริษัท จีอาร์ดี จำกัด และผู้เชี่ยวชาญด้านคาร์บอนเครดิต ถึงการรับมอบประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุต พริ้นท์ และเครื่องหมายรับรองความเป็นกลางทางคาร์บอน จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งเป็นตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในวงการกีฬาฟุตบอลไทย โดยมี 'สโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ เอฟซี' เป็นสโมสรฟุตบอลแห่งแรกของไทยที่ได้การรับรองความเป็นกลางทางคาร์บอน

ดร.ก้องเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบันวงการกีฬาให้ความสนใจในการลดโลกร้อนมากขึ้น เช่น การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นการจัดโอลิมปิกที่ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำที่สุด ประมาณ 1.75 ล้านตัน ในขณะที่การจัดโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 1.9 ล้านตัน การจัดโอลิมปิกที่รีโอเดจาเนโร ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 3.6 ล้านตัน และการจัดโอลิมปิกที่กรุงลอนดอน ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 3.4 ล้านตัน 

ส่วนการแข่งขันฟุตบอลระดับโลกในปัจจุบัน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (FIFA) ได้ออกกฎ Cooling break หมายถึง การเล่นกีฬาฟุตบอลต้องพักเพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดโอเวอร์ฮีท (Over heat) มากเกินไป เนื่องจากตลอด 20 ปีที่ผ่านมา มีนักกีฬาที่วิ่งในสนามแล้วเป็นโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด กว่า 50 คน 

ดังนั้นเมื่ออุณหภูมิในสนามสูงถึง 32 องศาเซลเซียส นักกีฬาต้องหยุดพักก่อน เมื่ออุณหภูมิลดลงถึงจะเริ่มเกมแข่งขันได้ ซึ่งอาจทำให้ความนิยมของแฟนบอลลดลงเนื่องจากการแข่งขันไม่ต่อเนื่องและมีการหยุดพักบ่อยครั้ง แสดงถึงภาวะโลกร้อนเริ่มส่งผลกระทบต่อวงการกีฬาในระดับโลกแล้ว 

ในส่วนของวงการฟุตบอลไทย คุณพีรพัฒน์ ถานิตย์ ประธานสโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ เอฟซี กล่าวถึง ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและแรงบันดาลใจในการสนับสนุนให้สโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ เอฟซี เข้าสู่โครงการลดโลกร้อน ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าสโมสรฟุตบอลกับการลดโลกร้อนห่างไกลกัน แต่จริงๆ แล้วมันใกล้กันมาก เพราะสมัยก่อนเวลาแข่งขันฟุตบอลมันไม่มีการหยุดแข่งขันระหว่างเกมเนื่องจากอากาศร้อน เลยได้ปรึกษากับ ดร.ก้องเกียรติ สุริเย ว่าทางสโมสรฯ อยากเริ่มต้นลดโลกร้อนอย่างจริงจัง เพราะความร้อนสามารถคร่าชีวิตนักกีฬาได้ เนื่องจากการซ้อมฟุตบอลของไทย นิยมซ้อมในช่วงเวลา 3-4 โมงเย็น ซึ่งอากาศยังร้อนอยู่มาก เราเลยเริ่มต้นลดโลกร้อนง่ายๆ จากเสื้อกีฬาของสโมสรที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล (Recycle) รวมถึงการติดแผงโซล่าเซลล์ (Solar cell) ในร้านอาหารบริเวณสนามซ้อมเพื่อประหยัดพลังงาน  หรือแม้แต่สนามหญ้าก็ใช้ปุ๋ยออร์แกนิก (Organic) ในการบำรุงรักษา รวมถึงรณรงค์การแยกขยะของแฟนบอลอีกด้วย 

ดร.ก้องเกียรติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสโมสรฟุตบอลโดยทั่วไปจะปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ประมาณ 100 ตันต่อปี โดยสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ เอฟซี ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ลง 30% ในปี 2568 และปีถัดไปตั้งเป้าลดลง 60% จนกระทั่งเหลือศูนย์เลย สิ่งสำคัญจะทำให้กีฬาฟุตบอลยังคงอยู่กับเราต่อไป การสร้างน้ำใจนักกีฬา และเรื่องของสุขภาพของนักกีฬา เราต้องหาจุดสมดุลใหม่ให้กีฬากับโลกร้อนเดินไปด้วยกันได้ ไม่อยากให้เล่นกีฬาแล้วมีปัญหาเรื่องสุขภาพเนื่องจากอากาศและภาวะโลกร้อน เราต้องรีบดำเนินการตั้งแต่วันนี้ก่อนที่มันจะสายไป สโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ เอฟซี จึงกลายเป็นต้นแบบ 'สโมสรฟุตบอลสีเขียว' แห่งแรกของไทย นอกจาก 'ชัยชนะ' จะเป็นสิ่งที่นักกีฬาทุกคนต้องการ แต่สิ่งสำคัญไม่ควรมองข้าม คือ น้ำใจนักกีฬาที่ควรมีให้กัน และการมีน้ำใจให้กับโลกใบนี้ด้วยครับ

‘เนเน่-รัดเกล้า’ ร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ ‘อัตลักษณ์ภูษา พัสตราชาติพันธุ์’ เผยแพร่วิถีชีวิต-ภูมิปัญญากลุ่มชาติพันธุ์ เทิดพระเกียรติพระพันปีหลวง

เมื่อวานนี้ (22 ส.ค. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่วิถีชีวิต ประเพณี ความเชื่อ อัตลักษณ์ และภูมิปัญญาของกลุ่มชาติพันธุ์ ผ่านการแสดงแฟชั่นโชว์ ‘อัตลักษณ์ภูษา พัสตราชาติพันธุ์’

ภายในงานมหกรรมแสดงผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนและสินค้าราษฎรบนพื้นที่สูง เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ‘ใต้ร่มพระบารมี พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’

งานดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘ใต้ร่มพระบารมี อัตลักษณ์วิถีชาติพันธุ์ วิสาหกิจชุมชนสร้างสรรค์ ผลักดันสวัสดิการยั่งยืน’ จัดโดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวง พม. 

ซึ่งงานดังกล่าวจะถึง 3 วัน ระหว่างวันที่ 22 - 24 สิงหาคม 2567 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร 

โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่วิถีชีวิต ประเพณี ความเชื่อ อัตลักษณ์ และภูมิปัญญาของกลุ่มชาติพันธุ์ และเป็นช่องทางในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์กลุ่มชาติพันธุ์ของราษฎรบนพื้นที่สูง เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาด ช่วยสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ที่มั่นคงแก่ชุมชนบนพื้นที่สูง

‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดันโครงการดี ๆ ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยทุกคน ทุกชาติพันธุ์ อย่างเท่าเทียมกัน

มิสแกรนด์เตรียมเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 ก.ย.นี้ ขอเอี่ยวมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 21,000 ล้านบาท

THE STATES TIMES เจาะลึก 4 กลุ่มธุรกิจของ บมจ.มิสแกรนด์ฯ สร้างรายได้ 617.04 ล้านบาท ให้บริษัท ก่อนเปิดตัว ‘มาม่านางงาม’ 3 ก.ย. นี้

เมื่อวานนี้ (22 ส.ค. 67) บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ได้แจ้งข่าวว่าจะมีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในวันที่ 3 กันยายน 2567 นี้ โดยแอบโปรยเล็ก ๆ ไว้ว่า “...บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าด้วยกลยุทธ์และรสชาติที่ไม่เหมือนใคร จะสามารถดึงส่วนแบ่งการตลาดได้ในระดับดี...”

THE STATES TIMES จะได้พาผู้อ่านสำรวจธุรกิจในมือของ MGI ที่ครั้งหนึ่งเคยทำหุ้นราคาพุ่งสูงถึง 50 บาท และมีรายงานว่าในปีงบประมาณ 2566 ทำรายได้รวมกว่า 617.04 ล้านบาท ว่าทำอะไรบ้าง

ธุรกิจของ MGI แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ 

กลุ่มแรก PAGEANT
-ธุรกิจการจัดประกวดมิสแกรนด์ ที่มีลิขสิทธิ์การประกวดนางงาม 2 เวทีในมือ ได้แก่ Miss Grand Thailand และ Miss Grand International ในกลุ่มนี้ทำรายได้ให้บริษัท 85 ล้านบาท

กลุ่มที่ 2 TALENT
-ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน ที่มี Top 10 ของเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ปี 2022-2023 นอกจากนี้ยังมีศิลปินในสังกัดคนอื่น ๆ เช่น อิงฟ้า วราหะ, ชาล็อตต์ ออสติน, อุ้ม ทวีพร, มีนา ริณา, สแน็ก อัจฉรีย์, ไผ่หลิว กมลวลัย กลุ่มนี้ทำรายได้ 134 ล้านบาทให้บริษัท

กลุ่มที่ 3 MEDIA & X_PERIENCES 
-ธุรกิจสื่อและบันเทิง ที่มีธุรกิจ GRANDTV, GRAND CONCERT, GRAND FAN MEET, GRAND SPORT DAY, บ้านแกรนด์, GRAND SERIES, MGI HALL จากการแจ้งข่าวในตลาดหลักทรัพย์ของทางบริษัทชี้ให้เห็นว่าได้มีการจัด แกรนด์ คอนเสิร์ต อิน ยูเอสเอ ที่สามารถขายตั๋วในโซน V.I.P ได้ถึง 100% ในกลุ่มนี้ทำรายได้รวม 136 ล้านบาท  

กลุ่มที่ 4 COMMERCE
-ธุรกิจพาณิชย์ ที่มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ในมือ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าและผิวกาย, ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล, ผลิตภัณฑ์น้ำหอม, ผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์อาหารและเสริมอาหาร สำหรับกลุ่มนี้ทำรายได้สูงที่สุดถึง 254 ล้านบาท 

ในกลุ่มที่ 4 นี้มีหลายผลิตภัณฑ์ที่รู้จักกันดี เช่น น้ำพริกนางงาม, น้ำปลาร้าอิงฟ้า เป็นต้น 

ทั้งนี้ในตลาดเฉพาะอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพบว่าในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 21,000 ล้านบาท มีแบรนด์มาม่าเป็นเจ้าตลาดครอบครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 49.6%

‘EA’ เคลียร์หนี้ระยะสั้นได้ หลังผู้ถือหุ้นกู้รุ่น EA249A โหวตผ่าน 99% เผยรายได้ครึ่งปีแรกกว่า 1 หมื่น ลบ.พร้อมเดินหน้าหาแหล่งเงินทุนใหม่

แผนเคลียร์หนี้ชัด! ผลงานครึ่งแรกปี 67 มีรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1.43 พันล้านบาท ผู้ถือหุ้นกู้-สถาบันการเงิน เชื่อมั่นธุรกิจเดินหน้า ล่าสุดผู้ถือหุ้นกู้ EA รุ่น EA249A วงเงิน 4,000 ล้านบาท โหวตหนุนด้วยเสียง 99.20% ยืดหนี้ออกไปอีก 9 เดือน 1 วัน รับดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 5% เพิ่มหลักประกัน หลังหุ้นกู้ รุ่น EA248A ได้รับการโหวตอนุมัติเมื่อวันที่ 9 ส.ค. และมติสถาบันการเงิน 9 แห่ง ปล่อยกู้รีไฟแนนซ์ เป็นเงินกู้ระยะเวลา 3 ปี พร้อมเดินหน้าหาแหล่งเงินทุนใหม่

(23 ส.ค. 67) บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ได้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ รุ่น EA249A วงเงิน 4,000 ล้านบาทที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 29 กันยายน 2567 โดยการประชุมในวันนี้นับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ต้องเลื่อนครั้งก่อนเหตุไม่ครบองค์ประชุม โดยในครั้งนี้ผู้ถือหุ้นกู้ 99.20% ได้ลงมติอนุมัติขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ไปอีก 9 เดือน 1 วัน และมีเพียง 0.80% ไม่เห็นด้วย

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) ของ EA กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศทั้ง 9 แห่งได้ยืนยันอนุมัติปล่อยเงินกู้ให้กลุ่ม EA จำนวน 8,000 ล้านบาท รวมถึงหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในปีนี้จำนวน 2 รุ่นโดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 2 รุ่นก็ได้อนุมัติเลื่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนออกไปเช่นกัน เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่มีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง ส่งผลให้ในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้าบริษัทฯจะไม่มีปัญหาในด้านการจ่ายหนี้ ในขณะที่บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ ผู้บริหารชุดใหม่มั่นใจขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 รับรู้รายได้รวม 10,368.81 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,430.44 ล้านบาท” 

บริษัทได้เปิดเผยแหล่งที่มาของเงินทุนที่ใช้ในการชำระหนี้หุ้นกู้และดอกเบี้ยมาจากกระแสเงินสดจากรายได้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน จากเงินทุนที่ได้รับจากการเข้าร่วมทุนกับผู้ร่วมทุนรายใหม่ (Strategic Partner) ที่สนใจร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาในโครงการต่างๆ ของบริษัทซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาทั้งจากนักลงทุนภายในและต่างประเทศ  และจากการจำหน่ายสินทรัพย์ของบริษัทฯให้กับนักลงทุนที่ให้ความสนใจรวมถึงการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) 

“บริษัทยังดำเนินธุรกิจตามปกติ มีกระแสเงินสดจากธุรกิจโรงไฟฟ้า ธุรกิจไบโอดีเซล และจะเร่งเดินหน้าธุรกิจขนส่งเชิงพาณิชย์ ในการส่งมอบรถหัวลากไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้า พร้อมผลักดันธุรกิจใหม่ น้ำมันอากาศยานยั่งยืน  (Sustainable Aviation Fuel : SAF) สนับสนุนธุรกิจขนส่งไร้มลพิษตามพันธกิจของบริษัท Mission No Emission” นายวสุกล่าวทิ้งท้าย

‘อัครเดช’ ย้ำจุดยืน ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ แก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่แตะหมวด 1-2 พร้อมยึดหลักการปราบทุจริต-คอร์รัปชัน

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา ว่า 

“สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น จุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติยังเหมือนเดิม คือจะต้องไม่มีการแก้ไขในหมวด 1 และ หมวด 2 พร้อมทั้งต้องคงไว้ซึ่งหลักการการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด” นายอัครเดช กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top