Tuesday, 10 June 2025
NewsFeed

‘พรรคประชาชน’ ทำคอนเทนต์ด้อยค่า ทำลายเกียรติภูมิ ‘คนระยอง’ บีบน้ำตา!! ค้านไม่สร้างสรรค์ ชาวเน็ตชี้!! เบอรี่มาก… (ก.ไก่ล้านตัว)

(24 ส.ค. 67)  จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก ‘ประชาชน ระยอง - People Party Rayong’ ภายใต้พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความว่า จริงเหรอ !! ที่เกิดระยองต้องรักระยอง ทุกคนเคยคิดจะย้ายออกจากระยองมั้ย ด้วยเหตุผลอะไร ลองพิมพ์มาคนละ 1 ข้อ

ล่าสุด เพจ ความจริงของระยอง โพสต์ข้อความว่า หาเสียงด้วยการ"ด้อยค่าบ้านเกิด"แบบนี้ หยุดสักทีเถอะครับ!!! ได้เห็นแคมเปญหาเสียง นายก อบจ.ระยอง จากพรรคประชาชน ที่set ฉาก สอบถามประชาชนว่าอยากย้ายออกจากระยองไหม แล้วพากันตอบว่า"อยาก"ด้วยเหตุผล ไม่มีความสุข มีความเหลื่อมล้ำฯลฯ

นับว่าเป็นแคมเปญที่ทำลายเกียรติภูมิคนระยองอย่างมากที่สุด!!!

คนระยองที่รักบ้านเกิด ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์และชุมชน คนที่มีความสุขกับท้องถิ่นแห่งความหวัง และความทรงจำที่ดีนี้ เขาจะรู้สึกผิดหวังกับแคมเปญของพวกคุณขนาดไหนได้คิดบ้างหรือไม่ก่อนทำ?

ยังมีสิ่งที่ต้องพัฒนาอีกเยอะครับสำหรับระยองบ้านเรา สิ่งที่ดีอยู่แล้วก็ควรส่งเสริมรักษา สิ่งที่ไม่ดีก็ควรปรับปรุงพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่หาเสียงด้วยการด้อยค่า ‘บ้านเกิด’ ตนเองครับ

หยุดนำเสนอแต่ด้านเดียว หยุดใช้ความขัดแย้งมาหาเสียงสักทีนะครับ!!!

ด้าน เพจวันนี้พรรคส้มโกหกอะไร โพสต์ข้อความว่า ทุกคนคะ เพจ ประชาชนระยอง ทำคลิปชวนด้อมเลือกตั้ง นายก อบจ. โดยสัมภาษณ์ชาวบ้านให้ด้อยค่าระยอง อยากย้ายออก เพราะ ‘ไม่มีความสุข มันเหลื่อมล้ำ’

หนูก็นึกว่าชาวบ้านจริงๆ ความจริงคือ ทีมงาน สส ระยอง พรรคส้มมาเล่นละครกันเองมีบีบน้ำตาด้วยนะคะ

เบอรี่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

‘ดร.หิมาลัย’ ถามกลับพวกด้อยค่าสถาบัน ทำอะไรเป็นประโยชน์ให้กับประเทศบ้าง

(24 ส.ค. 67) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ เดือด ฟาดใส่!! คนวิจารณ์ ‘ที่ไม่มีข้อมูล’ โดยระบุว่า …

ผมไม่รู้ว่าคุณ Kanit เป็นใคร แต่ผมอยากจะขอค้านข้อเขียนนี้ (https://www.facebook.com/share/p/kV8iEbbRWbjdqmqJ/?mibextid=oFDknk

ในฐานะที่ผมเป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบคนหนึ่ง การใช้มุมมองของสังคมปัจจุบัน ไปตัดสินสังคมในอดีต เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะในปัจจุบัน วัฒนธรรม แนวความคิด ไลฟ์สไตล์ ของการดำรงชีวิต ของคนย่อมไม่เหมือนกัน 

การที่คุณคิดของคุณ ในมุมของคุณ แล้วมาด้อยค่า พระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระปิยมหาราช ผู้มีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศนี้ ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะ กับโรงเรียนสวนกุหลาบ วิทยาลัย อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา วัฒนธรรมของโรงเรียนเรานั้น ฝังรากลึกมาช้านาน เวลาอยู่ในโรงเรียน ลูกพระยาหรือลูกชาวบ้าน ก็โดนครูตีเหมือนกัน ครูที่นี่ไม่เคยแบ่งแยกศิษย์ 

ศิษย์เก่าสวนกุหลาบ มีหลากหลายวงการ ที่เป็นนักการเมือง ก็มีทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล มีทั้งหัวก้าวหน้า และฝั่งอนุรักษ์นิยม ก็เป็นวิถีของแต่ละคน เป็นอิสระในทางความคิด และอุดมการณ์ของแต่ละคน สิ่งเหล่านี้คือความหลากหลายที่เราได้รับและอยู่รวมกันบนความเห็นต่าง ตั้งแต่สมัยอยู่ในรั้วโรงเรียน 

การเมืองจะเป็นเช่นไร ก็คงเป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ข้อเขียนแบบนี้ บางทีอยากจะถามกลับว่า คุณศึกษาดีแล้วหรือ เข้าใจบริบทสังคมในสมัยนั้นดีแล้วหรือ และที่สำคัญ ลองถามตัวเองบ้างดีไหม ว่าได้ทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศชาติบ้าง ส่วนเสด็จพ่อ ร.5 นั้น คุณไม่มีข้อมูลเลยหรือว่าท่านมีคุณูปการกับการศึกษาและประเทศนี้อย่างไร 

‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส’ ยกทัพลุย ‘BIG Motor Sale’ จัดเต็ม!! ยนตรกรรม ‘ฟูลไฮบริด’ ชู!! รุ่นเอ็กซ์แพนเดอร์ ขับปลอดภัย ลุยได้ทุกสภาพถนน ด้วยโหมดขับขี่ 7 รูปแบบ

เมื่อวานนี้ (23 ส.ค. 67) บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำทัพสุดยอดยนตรกรรม จัดแสดงในงาน BIG MOTOR SALE 2024 พร้อมมอบแคมเปญสุดพิเศษ ระหว่างวันที่ 23 ส.ค.-1 ก.ย. 67 ที่ไบเทค บางนา

นายเรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า สุดยอดยนตรกรรมที่จัดแสดงภายในงานนี้ นำโดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์ครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก พร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นแรกในไทย ที่มอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ เต็มเปี่ยมด้วยพลังและมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วย Mitsubishi e:MOTION ที่ผสานระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ให้ความปลอดภัย ลุยได้ในทุกสภาพถนน และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control : AYC) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจสูงสุดขณะเข้าโค้ง

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี มีการออกแบบภายนอกสไตล์รถอเนกประสงค์เอสยูวีที่ทันสมัย พร้อมด้วยห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย ติดตั้งเบาะหนังสังเคราะห์ พร้อมคุณสมบัติสะท้อนความร้อน ระบบเกียร์ไฟฟ้า รถยนต์ 2 รุ่นนี้ผลิตในประเทศไทยด้วยมาตรฐานคุณภาพสูงสุดที่สร้างความเชื่อมั่นได้อย่างเต็มที่ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์สองรุ่นนี้ภายในงาน จะได้รับข้อเสนออัตราดอกเบี้ย 0% และฟรีแพ็กเกจ MITSUBISHI XTRA CARE ครอบคลุมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เพื่อความอุ่นใจตลอดการใช้งาน

อีกหนึ่งไฮไลต์คือ มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน รุ่นพิเศษมีจำนวนจำกัด สะดุดตาด้วยการตกแต่งภายนอกสีดำสุดเท่ ประกอบด้วยล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ไดนามิก ชีลด์และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา กระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา บันไดข้างตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ ระบบขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ไฮเปอร์ พาวเวอร์ คลีนดีเซล เทอร์โบที่มีกำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ทำให้มีอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมันที่ 14.5 กม./ลิตร มีระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ Diamond Sense

ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1.027 ล้านบาท เป็นราคาเดียวกันกับรถไทรทัน ดับเบิลแค็บ ยกสูง เกียร์อัตโนมัติ  รุ่นอัลตร้า มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน เพียบพร้อมและครบครันในด้านความสะดวกสบายและความหรูหราระดับสูงสุด มอบประสบการณ์การขับขี่แบบรถเอสยูวี มีการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและไว้วางใจได้ในทุกเส้นทาง ผสานช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น

นอกจากนี้พิเศษกับ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 2,750 รอบต่อนาที ห้องโดยสารความสะดวกสบายสูงสุดและการตกแต่งทูโทนสีส้ม-ดำ รูปลักษณ์โดดเด่นพร้อมสะกดทุกสายตาและตอบสนองไลฟ์สไตล์การผจญภัยที่สมบูรณ์แบบ เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Diamond Sense ของมิตซูบิชิ  พร้อมระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า ช่วยให้ขับขี่คล่องตัว ควบคุมได้ดังใจ

โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ เอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แตกต่างอย่างเหนือกว่าด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศและพื้นผิวถนนทุกรูปแบบ และยังได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีมิตซูบิชิ คอนเนค รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน “My MITSUBISHI CONNECT” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการสั่งการตัวรถแบบไร้สายได้จากระยะไกล ใช้งานง่าย ลูกค้าที่ซื้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท และมิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน จะได้รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.89% พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษในรอบปี เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น!

อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองคือ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2024 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Elite Edition มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และคุณสมบัติระดับพรีเมียม เครื่องยนต์ไฮเปอร์ พาวเวอร์ ใหม่ ที่มีกำลัง 184 แรงม้า ทรงพลังและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 (Euro 5) ประหยัดน้ำมันที่ 14.3 กม./ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส สามารถเปลี่ยนโหมดระหว่างการขับเคลื่อน 2 ล้อและการขับเคลื่อน 4 ล้อได้ทันที แม้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว  มาพร้อมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.09%  ปิดท้ายด้วย มิตซูบิชิ แอททราจ สมาร์ท รถอีโคคาร์ยอดนิยมที่ได้รับการยอมรับในด้านความคุ้มค่าและไว้วางใจ โดดเด่นด้วยความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมและการขับขี่ที่สะดวกสบายคล่องตัว 

‘วราวุธ’ เร่งช่วยเหลือประชาชน จัดทีมงานลงพื้นที่ ‘ภูเก็ต’ เพื่อ ‘ช่วยเหลือ-ฟื้นฟู-เยียวยา’ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมดินถล่ม

(24 ส.ค. 67) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจากศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จังหวัดภูเก็ต ว่า เมื่อวันที่ 22 - 23 ส.ค. 67 จังหวัดภูเก็ตมีฝนตกหนักต่อเนื่องในตัวเมืองภูเก็ต ทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนหลายสาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากถึง 250 ครัวเรือน และมีดินโคลนถล่มทับบ้านเรือนประชาชน 2 หลัง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เป็นคนไทย 2 ราย ชาวต่างชาติสัญชาติเมียนมา 3 ราย นอกจากนี้ ยังมีคนสูญหายอีก 6 ราย เป็นคนไทย 1 ราย ชาวต่างชาติสัญชาติเมียนมา 4 ราย และรัสเซีย 1 ราย อีกทั้งมีครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุ อายุ 83 ปี ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากจมน้ำและสำลักโคลน ขณะนี้ได้นำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว 

นายวราวุธ กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ขอแสดงความห่วงใยกับผู้ได้รับบาดเจ็บ และพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ตที่กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ซึ่งตนได้กำชับหน่วยงานทีม พม. หนึ่งเดียว จังหวัดภูเก็ต เฝ้าระวังดูแลผู้รับบริการในความคุ้มครองของหน่วยงาน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ขณะนี้ทางจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่วัดกะตะ และ วัดกะรน โดยมีหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ร่วมให้ความช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัย ซึ่ง ทีมศรส.จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดภูเก็ต ได้ส่งนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาเพื่อให้การฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจและช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมทั้งร่วมกับทีมสหวิชาชีพวางแผนการช่วยเหลือทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยเฉพาะการช่วยเหลือหลังน้ำลด ซึ่งจะมีการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและให้ความช่วยเหลือร่วมกับทีมสหวิชาชีพ อปท. และ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) หากประชาชนประสบปัญหาอุทกภัย สามารถขอความช่วยเหลือ ได้ที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จังหวัดภูเก็ต และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ในพื้นที่  

‘รมว.พิพัฒน์’ เอาจริง!! ตรวจเข้มแรงงานข้ามชาติ ‘ผิดกฎหมาย’ ปฏิบัติการ!! ‘เจอ-จับ-ปรับ-ผลักดัน’ 78 วัน ดำเนินคดีแล้วกว่า 1.4 พันคน

(24 ส.ค. 67) นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้เปิดเผยว่า กรมการจัดหางาน ปฏิบัติตามข้อสั่งการของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ‘เจอ จับ ปรับ ผลักดัน’  ตรวจสอบ จับกุม และดำเนินคดีนายจ้าง/สถานประกอบการ และแรงงานต่างชาติ ที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ควบคู่กับประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้นายจ้าง/สถานประกอบการ และแรงงานต่างชาติ มีความรู้ความเข้าใจสามารถปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคนต่างด้าว และมติครม.ในคราวต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง เป็นระยะเวลา 120 วัน โดยส่งชุดปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางาน ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กำลังพลจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบการทำงานของแรงงานข้ามชาติอย่างเข้มงวด มีผลการดำเนินการระหว่างวันที่ 5 – 22 สิงหาคม 2567 รวม 78 วัน ตรวจสอบสถานประกอบการที่จ้างแรงงานข้ามชาติทั่วประเทศแล้ว 15,718 แห่ง ดำเนินคดี 539 แห่ง และตรวจสอบคนต่างชาติ จำนวน 208,035 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 155,669 คน กัมพูชา 32,810 คน ลาว 12,920 คน เวียดนาม 141 คน และสัญชาติอื่น ๆ 6,495 คน มีการดำเนินคดีทั้งสิ้น 1,438 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 914 คน กัมพูชา 208 คน ลาว 188 คน เวียดนาม 26 คน และสัญชาติอื่น ๆ 102 คน

นายสมชาย กล่าวต่อว่า กรมการจัดหางาน จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อให้แรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างเหมาะสม สำหรับคนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง รวมทั้งไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี และนายจ้าง/สถานประกอบการที่รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี 

ทั้งนี้ หากพบเห็นการจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย หรือพบเห็นคนต่างชาติทำงานนอกเหนือสิทธิที่ทำได้ขอความร่วมมือทุกท่านแจ้งเบาะแสมาที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน อาคารกระทรวงแรงงาน ชั้น 4 โทร. 0 2354 1729 หรือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร 1694

‘รมว.สุชาติ’ กระตุ้น SMEs มอบรางวัลให้บุคคลต้นแบบ ผู้สร้างแรงบันดาลใจ เผย!! ‘ไทย’ มีศักยภาพพร้อมแข่งขันในตลาดใหญ่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไกลทั่วโลก

(24 ส.ค. 67) ที่ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงาน 'Thailand Trade Exponential Fest 2024' ซึ่งจัดขึ้นโดย สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD ว่า “วันนี้ผมได้รับมอบหมายจากท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้มาเป็นประธานในการเปิดงาน 'Thailand Trade Exponential Fest 2024' ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลทุกท่าน เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจ SME มีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งธุรกิจ SME คิดเป็น 99.5 เปอร์เซนต์ของจำนวนธุรกิจทั้งหมด เป็นแหล่งรองรับการจ้างงานกว่า 70 เปอร์เซนต์ ของจำนวนแรงงานทั้งประเทศ"

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์และทุกหน่วยงานในสังกัดมีหน้าที่ร่วมกันสนับสนุนและขับเคลื่อนการค้าให้เติบโต ช่วยแก้ไข ลดปัญหาและอุปสรรคให้ธุรกิจ SME โดยมีเป้าหมายหลักคือการผลักดันให้ธุรกิจ SME มีมูลค่าทางเศรษฐกิจในสัดส่วนที่ โตขึ้นจาก 35.2 เปอร์เซนต์ เป็น 40 เปอร์เซนต์ ต่อ GDP ภายในปี 2570”

“ผู้ประกอบการ SME ไทยล้วนเป็นผู้ที่มีความสามารถมีศักยภาพพร้อมที่จะแข่งขันในตลาดใหญ่ได้ โดยการจัดงาน“Thailand Trade Exponential Fest 2024” ในวันนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่  ได้เข้ามาร่วมเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมถึงการให้คำปรึกษา SME โดยเป็นการรวมพลัง ติดอาวุธและสร้างโอกาสให้ SME ไทย เพื่อขับเคลื่อนมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ  จากวิทยากรชั้นนำของประเทศ อินฟลูเอนเซอร์ และ Key Opinion Leaders ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนและสร้างสรรค์ธุรกิจไทยให้เติบโต และการจัดงานครั้งนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเป็นแรงกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้ SMEs ไทยสามารถสร้างธุรกิจให้เจริญก้าวไกลและสามารถส่งออกไกลไปทั่วโลก” นายสุชาติฯ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับงานนี้ ผู้ประกอบการ SMEs รุ่นใหม่ได้รับฟังประสบการณ์ตรงจากรุ่นพี่ที่ประสบผลสำเร็จในการทำธุรกิจกว่า 20 ชีวิต, Soft power ของไทย 6 หนุ่ม วง PROXIE, โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ จากมันนีโค้ช, ศรุต ทับลอย Game Director ผู้สร้างเกม Home Sweet Home นักแสดงซีรีส์ที่มีกระแสที่โด่งดังไกลไปทั่วเอเชีย, เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ, มิกซ์ สหภาพ วงศ์ราษฎร์ - จิรพิสิษฐ์ รุจน์เจริญ นักธุรกิจรุ่นใหม่ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ 'กางเกงแมวโคราช', ธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้ผลิตยาดมหงส์ไทย, ธี ศิวโรจณ์ คงสกุลผู้กำกับซีรีส์สืบสันดาน, แก๊ป ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล นักแสดงซีรีส์สืบสันดาน และทิป มัณฑิตา จินดา Founder & MD of Digital Tips ที่จะมาเป็น Expert ให้คำปรึกษา SME โดยเป็นการรวมพลัง ติดอาวุธและสร้างโอกาสให้ SME ไทย เพื่อขับเคลื่อนมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ITD ได้ถ่ายทอดสดภาพและเสียงผ่านระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับชมทั่วประเทศอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Hybrid Business Matching การนำเสนอสินค้าหรือแผนธุรกิจบนเวทีสดๆ และมีการจัดเตรียมผู้ซื้อที่เป็นนักธุรกิจจากต่างประเทศ เป็นหนึ่งใน Business Matching ที่ไม่ควรพลาด และ SME Virtual Clinic on Stage ที่ ITD ภูมิใจนำเสนอกับกิจกรรมที่ให้ผู้ประกอบการ SME ขอรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญผ่านแพลตฟอร์ม ITD Expert Anywhere โดยหน้าบริเวณงานยังมีตัวอย่างแบรนด์สินค้า SMEs ที่ประสบความสำเร็จของออกบูธมากกว่า 20 ร้านค้าอีกด้วย

'ชาวเน็ต' แห่แชร์ #Saveลุงป้อม 'บูรพาพยัคฆ์ผู้ใจดี-ส่งเสริมให้โอกาสคน' แต่พอใครได้เป็นใหญ่ ก็พร้อมใจเนรคุณ เตือน!! อย่าปลุกเสือคำราม

(24 ส.ค. 67) กลายเป็นอีกหนึ่งเนื้อหา (เพลง) ที่ถูกแชร์ออกไปอย่างมากในเวลานี้ กับ คลิปไวรัล 'บูรพาพยัคฆ์ พิทักษ์ลุงป้อม' ซึ่งมีเนื้อหา ดังนี้...

"เกียรติศักดิ์ศรี นี้ไม่ให้ใครเหยียดหยาม
คือเสียงพยัคฆ์คำราม ก้องมาจากป่ารอยต่อ
ชายชาตินักรบ ป้องพื้นดินของพ่อ
วันนี้หมู่มารลวงล่อ ต้องการล้างผลาญทำลาย...

"ตำหน้าตำตา ต้องมาต่อกรราวี
ทําร้ายผู้ชายใจดีอบอุ่น ไม่มีพิษภัย
ทั้งที่เคยช่วยส่งเสริมพวกมึงมากมาย
เพียงเพราะลาภ เพราะยศ เป็นใหญ่
ทำให้ต้องเนรคุณ...

"แล้วมึงจะรู้ ว่าบูรพาพยัคฆ์ 
คือเสือที่คอยปกปัก พิทักษ์แผ่นดินสยาม
หากเป็นคนดีกูส่ง แต่มึงมันชั่วต่ำทราม
วันไหนที่เสือคำราม มึงก็แค่หมาตัวหนึ่ง"

หรือนี่จะคือสัญญาณครั้งใหญ่จาก 'บูรพาพยัคฆ์' ที่ถูกหยามหมิ่น!!

'นายกฯ' ลงพื้นที่ จ.น่าน 'ทอดไข่เจียว-ผัดข้าว' แจกจ่ายประชาชน พร้อม 'ติดตามสถานการณ์-ให้กำลังใจ' ผู้เผชิญน้ำท่วม

(24 ส.ค. 67) ที่ ท่าอากาศยาน จ.น่าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.แพร่ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.น่าน เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

โดยมี นายทรงยศ รามสูต นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ พรรคเพื่อไทย รอให้การต้อนรับ โดยทันทีที่มาถึง จ.น่าน น.ส.แพทองธาร เดินทางไปยังสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองน่าน ที่ใช้เป็นที่สำหรับประกอบอาหารเป็นโรงครัวแจกจ่ายประชาชนโดย น.ส.แพทองธาร ได้เดินทักทายให้กำลังใจอาสาสมัครและสภากาชาด

ที่มาช่วยกันปรุงอาหารให้กับประชาชน พร้อมกันนี้น.ส.แพทองธาร ได้ช่วยปรุงอาหาร ทอดไข่เจียวและบรรจุอาหารใส่ถุง เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในจุดที่น้ำยังท่วมสูง  

'เพชรมงคล' คนรุ่นใหม่ ปชป. ชี้!! พรรคเข้าร่วมรัฐบาลหวังทำงานเพื่อปชช. ยืนยัน!! ไม่ว่ามติพรรคจะออกมาอย่างไร สมาชิกพรรคควรเคารพ

(24 ส.ค. 67) นายเพชรมงคล วัสสุวรรณ เลขานุการ สส.สมบัติ ยะสินธุ์ และตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ นั้น ส่วนตัว ผมเคารพในมติพรรค สำหรับผมแล้ว การเคารพมติพรรคเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกันภายใต้พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย  

พรรคประชาธิปัตย์ เรายึดมั่นในหลักการนี้ การเคารพมติพรรค เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะเป็นหัวใจสำคัญที่แสดงถึงการทำงานร่วมกันอย่างมีระบบและความเป็นหนึ่งเดียวกันในองค์กร การที่สมาชิกพรรคทุกคนเคารพมติพรรค หมายถึงการยอมรับผลการตัดสินใจที่เกิดจากการปรึกษาหารือร่วมกัน ซึ่งเป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง

เพราะประชาธิปไตยไม่ได้หมายถึงการมีอิสระที่จะทำตามใจตัวเอง แต่หมายถึงการทำงานร่วมกันภายใต้กฎเกณฑ์และมติเสียงส่วนใหญ่ การเคารพในเสียงส่วนใหญ่และการปฏิบัติตามมติพรรคเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบและความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองทำงานภายใต้อุดมการณ์ 10 ข้อที่เป็นหลักการที่สำคัญในการทำงานทางการเมืองของพรรค ดังนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ก็มิได้ขัดอุดมการณ์ของพรรคแต่อย่างไร การเข้าร่วมรัฐบาลก็คือส่วนหนึ่งในการดำเนินการเมืองโดยวิถีอันบริสุทธิ์ เพื่อทำงานให้พี่น้องประชาชน

สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจหรือไม่สามารถเคารพมติพรรคได้ ต้องลดทิฐิ และควรพิจารณาตัวเองว่ามีความเหมาะสมที่จะเรียกตนเองว่าเป็นนักประชาธิปไตยหรือไม่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว การเคารพในกระบวนการและการตัดสินใจที่เกิดขึ้นร่วมกันในพรรค คือสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นและความสามัคคีในองค์กร ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญในการรื้อฟื้นความน่าเชื่อถือของพรรคในอนาคตได้ 

‘รัชกาลที่ 9’ ทรงเรียกประชุม เพื่อทรงสอบถามถึง ‘สถานการณ์น้ำ’ รับสั่งย้ำ!! ‘ไม่มีวันหยุดหรอก เขาทุกข์เดี๋ยวนี้ ต้องไปเดี๋ยวนี้เลย’

(24 ส.ค. 67) หลายปีก่อนกรุงเทพฯ กำลังจะเกิดน้ำท่วมใหญ่จากน้ำที่ไหลบ่ามาจากทางภาคเหนือ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงทรงเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อทรงสอบถามถึงสถานการณ์น้ำ หน่วยราชการได้กราบบังคมทูลว่าพรุ่งนี้จะไปดำเนินงาน
พระองค์จึงตรัสถามว่า...

"...น้ำหยุดแล้วหรือ ไปเดี๋ยวนี้แหละ คืนนี้เลย น้ำไม่ใช่ว่าเริ่มไหลเวลาแปดโมงครึ่ง แล้วก็สี่โมงครึ่งหยุดพักตามริมตลิ่ง..."
แม้ในวันนั้น ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล จะไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ทว่าก็เคยได้รับการสั่งสอนในแบบเดียวกัน

"...เคยรับสั่งให้ผมเข้าเฝ้าฯ ในวันศุกร์ มีรับสั่งว่า ที่ตรงนี้ที่ตรงนั้นเขาอดอยากอยู่ ผมกราบทูลว่า เดี๋ยววันจันทร์ข้าพระพุทธเจ้าจะรีบไปพระพุทธเจ้าข้า พระองค์รับสั่งทันทีว่า...

"...ความทุกข์ ความทรมานไม่มีวันหยุดหรอก เขาทุกข์เดี๋ยวนี้ ต้องไปเดี๋ยวนี้เลย..."


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top