Thursday, 4 July 2024
NewsFeed

‘อัครเดช’ เผย ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ดันกม.ปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน เรียก สส. คุย-หารือ 2 ก.ค. เตรียมความพร้อมก่อนเปิดสมัยประชุม

(1 ก.ค. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2567 ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นี้นั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้นัดประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 เวลา 16.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมในการเปิดสมัยประชุมครั้งนี้ 

โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติได้เตรียมร่างกฎหมายที่จะเสนอไปเข้าสู่การพิจารณาของสภาหลายฉบับ ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในหลายเรื่อง โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการรื้อ ลด ปลด สร้าง ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งทางหัวหน้าพรรคและทีมกฎหมายของพรรคได้เร่งดำเนินการ เพื่อคืนความเป็นธรรมทางด้านพลังงานเชื้อเพลิงให้ประชาชนทั้งประเทศ

นายอัครเดช ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงของการปิดสมัยประชุมที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ได้กำชับให้ สส. ลงพื้นที่อย่างหนักเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อที่จะได้นำปัญหาเหล่านั้นเข้าสู่สภา โดยการใช้กลไกของสภา ทั้งการเสนอเป็นญัตติ การตั้งกระทู้ รวมไปถึงผ่านคณะกรรมาธิการคณะต่าง ๆ เพื่อสะท้อนไปยังรัฐบาลให้ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนต่อไป

ชัยภูมิ - รมว.อุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.)ลงพื้นที่ชัยภูมิ

เมื่อเร็วๆนี้ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการการะทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของ อว. ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ณ วัดบางอำพันธ์ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ก่อนการประชุม ครม. สัญจร กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์) พร้อมกับ พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.อว. น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัด อว.และผู้บริหารกระทรวง อว. เข้าร่วม

โดยมีนายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวต้อนรับ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สานนท์ ด่านภักดี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ กล่าวรายงานผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนงานด้าน อววน. เพื่อพัฒนาด้านเกษตรและแปรรูปผลิตภัณฑ์ พร้อมด้วยนายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชัยภูมิ เขต 3 ผู้นำชุมชน ผู้นำเกษตรกร และประชาชนให้การต้อนรับและเข้าร่วมรับฟังนโยบายการนำงานวิจัย วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมาแก้จน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีหน่วยงาน และชุมชน ออกร้านแสดงสินค้า นิทรรศการ ที่ได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ และได้รับความสนใจจากประชาชนที่เข้าร่วมมากมาย และ ยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวง อว. ได้นำหน่วยแพทย์ อว. เคลื่อนที่

โดยโรงพยาบาล ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น มาให้บริการตรวจสุขภาพประชาชนจำนวนมากกว่า 1,250 คน โดยเน้นการตรวจคัดกรองในโรคที่มีความเสี่ยง ที่พบบ่อยในภาคอีสาน เช่น ตรวจพยาธิใบไม้ในตับ ตรวจมะเร็งท่อน้ำดี และตรวจโรคไต รวมถึงหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ ตรวจฟันและขูดหินปูน โดยมุ่งหวังให้ประชาชนในพื้นที่มีโอกาสได้เข้าถึงบริการสุขภาพ และมีสุขภาพที่ดีด้วย

'อ.เจษฎ์' มอง!! ผลการเลือกตั้ง 'นายก อบจ.ปทุมธานี' สะท้อน!! การเมืองไทยไว้ใจไม่ได้ แค่คนมีอำนาจสู้กัน

(1 ก.ค.67) โรงแรมอัศวิน รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย กล่าวถึงผลการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ว่า ผลที่ออกมาสะท้อนว่า เป็นเรื่องการเมืองที่ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวร ไว้ใจกันไม่ได้เลย เมื่อดูกรณีนายทักษิณ ชินวัตรที่บอกว่า ไม่รู้จักพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง แล้วความจริงเกิดอะไรขึ้น ทีแรกสนับสนุนกันมา แต่ไป ๆ มา ๆ สนับสนุนอีกคนหนึ่ง ถือว่ามีบริบทเชื่อมโยงกันมากมาย จึงต้องบอกว่า การเมืองไว้ใจไม่ได้ 

ตนไม่รู้ว่าชาวปทุมธานีจะคิดอย่างไร ส่วนตัวเห็นว่า เหตุใดจึงไม่นับคะแนนใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าท้ายที่สุดผลการนับคะแนนจะไปลงที่ใคร หรืออาจจะเป็นไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ คือว่าไม่ได้มีใครดีไปกว่ากัน ทั้งสองฝ่ายทั้งคนที่เรียกว่าลุงชาญ ทั้งคนที่เรียกว่าบิ๊กแจ๊ส ก็อาจจะพอ ๆ กัน ก็เลยกลายเป็นเรื่องเจือสม ไม่มีใครดีไปกว่าใคร สุดท้ายอาจจะสะท้อน อบจ.อื่น ๆ อีก จะเป็นบริบทของการสู้กันลักษณะนี้ ประชาชนแทบไม่ได้อะไรเลย เป็นการสู้กันของผู้มีอำนาจ แล้วท้ายที่สุดผู้มีอำนาจเหล่านั้นก็เข้าไปยึดโยงผลประโยชน์ในจังหวัด ซึ่งผลประโยชน์ในจังหวัดเหล่านั้นก็จะลงไปที่ อบต. ไปที่ระบบแล้วโยงกลับไปที่ระบบมหาดไทยคือผู้ว่าราชการจังหวัด ยึดกันกับ สส. และตอนนี้ยังมี สว. เข้ามาด้วย แบบนี้แล้วบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ซึ่งผลสะท้อนจากปทุมธานี จะเห็นได้เลยว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป

เมื่อถามว่าอำนาจเก่ากลับคืนมาเรียกคะแนนกลับอย่างนี้ จะกลายเป็นโมเดลในหลาย ๆ พื้นที่หรือจังหวัดที่เคยพลาดหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า อำนาจเก่าหมายถึงนายทักษิณหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า สังคมปล่อยให้คนอย่างนายทักษิณออกฤทธิ์ออกเดชมากเกินไป 

"สำหรับผมแล้ว สิ่งที่นายทักษิณทำ คือการขัดพระบรมราชโองการ ไม่รับผิดไม่รับโทษ และไม่ทำตนให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ถ้าเรายังปล่อยให้คุณทักษิณสามารถทำงานการเมืองแบบนี้ได้ บ้านเมืองเราลำบาก บ้านเมืองเราไปยาก เพราะฉะนั้นเราก็ต้องช่วยกัน ไม่ให้มันเกิดผล ผมไม่รู้ชาวปทุมธานีคิดอย่างไร จริง ๆ ชาวปทุมธานีได้เห็นแล้วว่า ทั้งคู่ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ราว ทำไมท่านไม่ลงคะแนนไม่ประสงค์จะเลือกใคร แล้วไล่ทั้งสองคนออกไป แล้วไปหาคนใหม่ แต่ท่านก็ไม่ได้ทำถูกไหมครับ ก็หวังว่าชาวจังหวัดอื่น ๆ จะได้ตระหนักในเรื่องนี้ ถ้าไม่มีคนดีพอ ท่านก็ไม่ประสงค์จะเลือกใคร แล้วกวาดคนเหล่านี้ออกไปทั้งหมด ก็จะเป็นหนทางที่ดีกว่า" รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าว

'ชาวกะเหรี่ยง' พลัดถิ่นประท้วงตำรวจมะกัน หลังยิงสวน 'เด็กกะเหรี่ยง' วัย 13 ดับ

ชุมชนผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงออกมาไว้อาลัยต่อการเสียชีวิต Nyah Mway เด็กวัยรุ่นชายชาวกะเหรี่ยงวัยเพียง 13 ปี ที่ถูกตำรวจสหรัฐฯ ยิงเสียชีวิต เพราะเข้าใจว่าเขาเป็นขโมย และใช้อาวุธปืนเล็งตำรวจ

เหตุสลดเกิดขึ้นที่เมืองยูทิกา ในรัฐนิวยอร์ก เมื่อเวลา 22.15 น. ของคืนวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุลักขโมย โดยมีผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวเอเชีย 2 คน หนึ่งในผู้ต้องสงสัยพกพาอาวุธปืน จึงได้ออกลาดตระเวนตามท้องถนนในเมือง และได้พบกับ Nyah Mway และเพื่อน ๆ ที่เพิ่งกลับจากงานเลี้ยงฉลองจบชั้นเกรด 8 พอดี 

ตำรวจจึงสั่งให้กลุ่มของ Nyah Mway หยุดเพื่อจับกุมตัว เพราะเข้าใจว่าเขาเป็นคนร้ายที่กำลังตามหา แต่ทว่า Nyah Mway ขัดขืนและวิ่งหนี ตำรวจจึงวิ่งไล่ และเห็นเขากำลังชักอาวุธคล้ายปืนออกมา ตำรวจจึงตัดสินใจยิงสวนทันทีเข้าที่ทรวงอก ทำให้ Nyah Mway บาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ส่วนอาวุธที่ Nyah Mway พกมา ทราบในภายหลังว่าเป็นเพียงปืนปลอมเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นายที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้แก่ นายแอนดรูว์ ซิทรินิติ, นาย บรูซ แพทเตอร์สัน และ นาย ฮัสเนย์ รับราชการตำรวจมาแล้วตั้งแต่ 2-6 ปี ถูกสั่งให้พักงานโดยได้รับค่าแรงเพื่อการสอบสวนเป็นการภายใน 

เมื่อถูกถามว่าตำรวจทั้ง 3 นายนี้ มีโอกาสถูกดำเนินคดีหรือไม่ กรมตำรวจยูติกายอมรับว่าข้อมูลหลักฐานมีความซับซ้อน ที่ต้องรอผลการสืบสวนจากสำนักงานสืบสวนพิเศษแห่งรัฐนิวยอร์ก ว่าเหตุการณ์นี้ละเมิดกฎหมายของรัฐหรือไม่ แต่ทางตำรวจยูติกา ก็ได้แสดงความเสียใจต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และครอบครัวของเด็กและเยาวชนที่เสียชีวิต

เมื่อสื่ออเมริกันพยายามติดต่อครอบครัว Nyah Mway แต่ทางครอบครัวให้สื่อสารผ่าน เพจ GoFundMe ที่เป็นเพจระดมทุนช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยง ที่ประสงค์ลี้ภัยมายังสหรัฐอเมริกา โดยครอบครัวของ Nyah Mway คือหนึ่งในชาวกะเหรี่ยงหลายพันคนที่ลี้ภัยสงครามออกจากพม่า มาตั้งรกรากในสหรัฐฯ เมื่อ 9 ปีที่แล้ว

สำหรับ เมืองยูติกา ในรัฐนิวยอร์ก กลายเป็นชุมชนของชาวกะเหรี่ยง และชนกลุ่มน้อยในพม่าที่ลี้ภัยมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ด้วยความหวังที่จะได้อยู่อย่างสงบสุขในดินแดนแห่งเสรีภาพ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเศร้า จากการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐต่อประชนต่อพวกเขาอีก 

เพจ GoFundMe ระบุอีกว่า Nyah Mway เป็นเพียงเด็กวัยรุ่นที่ชอบไปขี่จักรยาน เล่นกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นเด็กดีของครอบครัว ไม่เคยทำตัวสร้างปัญหา หรือทำผิดกฎหมายมาก่อน  

นั่นจึงทำให้ชุมชนผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงในเมืองยูติกาส่วนหนึ่งไปรวมตัวประท้วงกันที่ศาลาว่าการเมือง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในขณะที่กรมตำรวจยูติกากำลังแถลงข่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเด็กชายชาวกะเหรี่ยง 

โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ Nyah Mway พร้อมทั้งตะโกนว่า “No Justice, No Peace” หรือ "ไร้ความยุติธรรม ก็ไร้สันติ" ซึ่งเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า แผ่นดินใดที่ยังไร้ซึ่งความยุติธรรม ก็ยากที่จะหาสันติภาพได้ ไม่ว่าแผ่นดินนั้นจะอยู่บริเวณไหนของโลกก็ตาม

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ✨ประจำวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
✨ประจำวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

🟢รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท : 434503

🔴รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท : 434502 / 434504

🔴รางวัลเลขหน้า 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 839  / 975

🔴รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 778 /  647

🔴รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท : 89

🟢รางวัลที่ 2 รางวัลละ 200,000 บาท : 051210  120284  779915  643628  119336

🟢รางวัลที่ 3 รางวัลละ 80,000 บาท : 344989  082892  068498  489726  112814  
716400  509881  448678  067625  444531  

🟢รางวัลที่ 4 รางวัลละ 40,000 บาท: 526765  226682  615858  236905  540411  
907438  887136  596385  292040  325423  
313471  295958  950641  092610  290322  
271777  380940  160175  052671  372428  
360281  166107  321165  225892  122729  
918486  494578  206721  636886  370603  
548304  966503  464040  858600  210278  
143702  869310  672342  609789  881222  
516632  023956  875779  709328  794387  
611097  986701  945560  167869  677475  

🟢รางวัลที่ 5  รางวัลละ 20,000 บาท: 847443  133567  625761  227532  725339  
435771  904447  252646  211803  182881  
219385  400838  366206  933517  320226  
059228  644008  911483  002506  598387  
191363  438585  752876  848407  277604  
728162  101429  025099  380460  698584  
498104  066635  412016  292399  597933  
302466  184989  831497  477344  636220  
549722  520301  919369  837681  689093  
782393  459375  360627  424410  584045  
717700  901792  426746  762640  127655  
219369  270390  537736  780912  851414  
960387  787950  122718  189048  958051  
526819  307383  574931  470814  598306  
951359  179061  095930  934011  992438  
204930  051521  694430  265925  148817  
532555  237179  042336  513439  846157  
982253  118847  699727  513569  458224  
752372  487090  970030  421736  667377  
927117  794733  894572  929132  808754  
 

Navy Time แฟนมิตติ้ง EP.3 จัดเต็มความสุข ณ กรมอู่ทหารเรือ พา 100 เอฟซีรุ่นเล็ก-ใหญ่ แฮปปี้ทริปเปี่ยมสุข-ความรู้แบบจุกๆ

NTF Meeting วนมาอีกครั้ง ใน EP.3 รอบนี้จัดใหญ่ จัดเต็ม อัดแน่นด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และสาระความรู้แบบจุก ๆ โดย เสียงจากทหารเรือ ร่วมกับสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ผู้ผลิตรายการ NAVY TIME เรื่องดี ๆ ประเทศไทยยามเช้า ทาง FM 93 Mhz. จัดกิจกรรมพาเหล่า FC รายการ มากกว่า 100 คน เข้าชมกรมอู่ทหารเรือ (กรุงเทพฯ) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ภายใต้การสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี ผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งไทยฮันนี่ น้ำผึ้งแท้จากดอกไม้ป่า 100% ซึ่งได้รับรองมาตรฐานการส่งออก และ AGO ผู้นำด้านประตูรีโมต ครบวงจร ทันสมัย มั่นใจ ผลงานกว่า 15 ปี

งานนี้ เรียกได้ว่า ถูกใจ FC ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ เพราะนอกจากจะได้พบกับ 2 ผู้ดำเนินรายการสุดฮา ไอยรา อัลราวีย์ และ ดีเจศร พ.จ.อ.อดิศร จันทรวัฒน์ แล้ว ยังถือเป็นครั้งแรกที่ได้เปิดตัว 4 ผู้ดำเนินรายการร่วมช่วงขยายเวลาออนไลน์ 08.00-08.30 น. ประกอบด้วย...

- วันอังคาร พาเรียนรู้ เรื่องราว สาระ ครบทุกมิติ ในพื้นที่กองทัพเรือ ย่านฝั่งธนบุรี กับ เต้ พัลลภ ปิยะตระกูล อินฟลูเอนเซอร์และจิตอาสาชุมชน

- วันพุธ ฟังสรุปข่าวหุ้น IP ธุรกิจ เศรษฐกิจ และเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับการเงิน โดย โอ๋ อรวดี ศิริผดุงธรรม อินฟูเลนเซอร์ สายธุรกิจ

- วันพฤหัสบดี คุยสนุกสุดมัน ในแวดวงกีฬาไทย กับ กุ้ง โสพิศ ทุยเวียง ผู้ประกาศ / ผู้สื่อข่าวกีฬา NBT2HD

- และวันศุกร์ ครบทุกข่าว สาระบันเทิง ฟังไป ยิ้มไป กับพี่น้อย ศตกมล วรกุล อดีตผู้ประกาศข่าว สีสันบันเทิง ช่อง 7HD

นอกจากนี้ เหล่า FC ยังได้ตามรอย ร่วมชม วัดวงศมูลวิหาร วัดร้างที่อยู่ภายใต้การดูแล ของกรมอู่ทหารเรือ ที่พี่เต้ พัลลภ เคยเล่าไว้ในรายการ รวมถึงได้รับเกียรติจาก นาวาโทหญิง รศนา สมพงษ์ ภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑ์อู่เรือหลวงเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา ที่มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้แบบจัดเต็ม อัดแน่นตลอดเส้นทาง ทั้งนำชมร่องรอยแนวกำแพงวังเดิม, ให้ความรู้ ประวัติความเป็นมา เรื่องราวอู่เรือหลวง แห่งแรกของประเทศไทย พร้อมพาชมอุปกรณ์ เครื่องจักรพลังงานไอน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นมรดกทางอุตสาหกรรมของไทย, และที่ขาดไม่ได้ คือ พิพิธภัณฑ์อู่เรือหลวงเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา จุดหมายหลักของเหล่า FC ตัวน้อย ที่มาร่วมงาน NTF Meeting EP.3

เรียกได้ว่างานจบ ที่ความรู้สึกไม่จบ เพราะเหล่า FC ยังคงโพสต์รูปอวดกันไม่หยุด ทั้งในไลน์กลุ่ม Open Chat ของรายการ และโซเชียลมีเดียส่วนตัว นับเป็นอีกหนึ่งความประทับจากรายการ NAVY TIME เรื่องดี ๆ ประเทศไทยยามเช้า ส่วน Meeting ครั้งต่อไป จะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่? รอติดตามกันต่อได้ในรายการ ทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 07.00-08.30 น. ทั้งทาง On air FM 93 และ Online ผ่านทางช่องทางของสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ให้กับบุตรข้าราชการตำรวจที่เรียนดี ประพฤติดี และบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือและเป็นขวัญกำลังใจ

วันนี้ (1 กรกฏาคม 2567) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2567 ณ ห้องแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ให้ความสำคัญด้านสวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ที่เป็นกำลังพลส่วนใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สมาคมแม่บ้านตำรวจได้ดำเนินนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิต สวัสดิการ ขวัญกำลังใจ และความสามัคคีให้แก่ครอบครัวตำรวจและสมาชิกแม่บ้านตำรวจ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการศึกษา สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว โดยการจัดทำโครงการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2567 สมาคมแม่บ้านตำรวจได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจที่มีผลการเรียนดีและโดดเด่น หรือเป็นบุตรที่มีความประพฤติดี จนถึงบุตรของข้าราชการตำรวจที่เสียสละชีวิตและร่างกายเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและสังคม สำหรับการมอบทุนการศึกษาในวันนี้ เป็นการมอบทุนใน 2 ประเภท คือ การมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทุพพลภาพจนต้องออกจากราชการ จากการปฏิบัติหน้าที่ และการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจที่ประพฤติดีขาดแคลนทุนทรัพย์

นายกสมามคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า สำหรับทุนการศึกษาบุตรของข้าราชการที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยผ่านการพิจารณาจากสำนักงานกำลังพล สมาคมแม่บ้านตำรวจสนับสนุนทุนการศึกษามูลค่า 50,000 บาทต่อครอบครัวจำนวน 11 ครอบครัว ส่วนทุนการศึกษาบุตรของข้าราชการตำรวจที่มีความประพฤติดี ขาดแคลนทุนทรัพย์  สมาคมแม่บ้านตำรวจสนับสนุนทุนการศึกษา มูลค่า 3,000 บาทต่อทุน จำนวนมากกว่า 2,000 ทุน โดยเฉลี่ยสัดส่วนจำนวนทุนตามกำลังพลของแต่และหน่วย ซึ่งหน่วยงานที่ได้รับทุนการศึกษาด้านความประพฤติดีมากที่สุดในปีนี้ 3 ลำดับแรก คือ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรภาค 9

นอกจากนี้ สมาคมแม่บ้านตำรวจได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม สนับสนุนทุนการศึกษาต่อเนื่องระดับปริญญาตรี เพื่อมอบให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือพิการทุพพลภาพจนให้ออกจากราชการจากการปฎิบัติหน้าที่ จำนวน 5 ทุน และสมาคมแม่บ้านตำรวจขอขอบคุณมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ที่สนับสนุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจด้วยดีตลอดมา ตลอดจนขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการในทุกด้าน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอขอบคุณสมาคมแม่บ้านตำรวจที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือ และส่งเสริมการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต และบาดเจ็บทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงบุตรข้าราชการตำรวจประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการเชิดชูเกียรติยศของตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และเป็นการส่งมอบกำลังใจให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์นั้น ถือเป็นการจัดสวัสดิการ เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจ เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน และขอแสดงความยินดีกับบุตรหลานที่ได้รับทุนการศึกษาในวันนี้ทุกคน ขอให้นำไปใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาให้มากที่สุด เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

“พิพัฒน์ ร่วมคณะรองนายก ลงพื้นที่โคราช ออกหน่วยบริการแรงงาน ส่งเสริมจ้างงาน กระตุ้นเศรษฐกิจภาคอีสาน

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมคณะ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่พบปะประชาชน ตรวจเยี่ยมพร้อมชมนิทรรศการและการออกหน่วยเคลื่อนที่ของส่วนราชการที่มาเปิดให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ และประชุมรับฟังบรรยายสรุปและมอบนโยบายแก่ผู้บริหารของจังหวัด ส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมเป็นเกียรติ นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา นักเรียน และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงเรียนจักราชวิทยา ต.จักราช อ.จักราช จ.นครราชสีมา

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ผมพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ได้ลงพื้นที่มายังจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมคณะของท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพที่โดดเด่นเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การคมนาคมของภูมิภาคที่เป็นประตูสู่ภาคตะอันออกเฉียงเหนือ อันจะส่งผลให้ประชาชนเกิดการจ้างงานโดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและบริการซึ่งโคราชมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีศักยภาพโดดเด่น มีประชากรมากถึง 2.6 ล้านคน และอยู่ในกำลังแรงงานร่วม 1.2 ล้านคน ในส่วนของกระทรวงแรงงานเองมีภารกิจที่ดูแลแรงงานอย่างครบถ้วนในทุกมิติ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในระดับจังหวัด มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมามาร่วมออกบูธให้บริการประชาชน ได้แก่ ให้บริการสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ คลินิกอาชีพ บริการรับลงทะเบียนสำหรับผู้ที่สนใจหางานทำในประเทศและต่างประเทศ บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ สาธิตการทำเครื่องดื่ม และการให้บริการนวดแผนไทย บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ให้ความรู้เทคนิควิชาการด้านความปลอดภัยในการทำงาน และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้งานประกันสังคมมพร้อมรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ด้วย

ต่อมา นายพิพัฒน์ และคณะ ยังได้ร่วมคณะรองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน ตรวจเยี่ยมชมนิทรรศการและการออกหน่วยเคลื่อนที่ของส่วนราชการที่มาเปิดให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปและมอบนโยบายแก่ผู้บริหารของจังหวัด ส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ โรงเรียนห้วยแกลงพิทยาคม อ.ห้วยแกลง จ.นครราชสีมา จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ ยังได้ร่วมคณะรองนายกรัฐมนตรี ประชุมบูรณาการการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงานของจังหวัดนครราชสีมา พบว่า ปัจจุบันมีผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 1,246,522 คน เป็นผู้มีงานทำ 1,226,554 คน ผู้ว่างงาน 4,216 คน รอฤดูกาล 15,752 คน มีแรงงานนอกระบบ 751,623 คน มีอาสาสมัครแรงงาน 289 คน มีแรงงานต่างชาติที่ได้รับอนุญาตทำงาน 39,875 คน นายจ้าง 5,490 แห่ง มีแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ 11,213 คน มีสถานประกอบการในระบบประกันสังคม 10,323 แห่ง ผู้ประกันตน 1,028,076 คน

‘ศูนย์ปล่อยยานอวกาศเชิงพาณิชย์แห่งแรกของจีน’ แล้วเสร็จ พร้อมปล่อยจรวดเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024

(1 ก.ค.67) สำนักงานใหญ่การก่อสร้างศูนย์ปล่อยยานอวกาศเชิงพาณิชย์ไห่หนาน ซึ่งเป็นศูนย์ปล่อยยานอวกาศเชิงพาณิชย์แห่งแรกของจีน ตั้งอยู่ที่เมืองเหวินชาง มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ เปิดเผยว่าขณะนี้ศูนย์แห่งนี้สามารถรองรับภารกิจการปล่อยจรวดได้แล้ว

รายงานระบุว่าหลังจากการประเมินอย่างครอบคลุม ศูนย์ดังกล่าวผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดทั้งหมดในการเริ่มปฏิบัติการปล่อยจรวด โดยเมื่อวันอาทิตย์ (30 มิ.ย.) ที่ผ่านมาได้มีการจำลองซ้อมปล่อยจรวดด้วย

งานก่อสร้างศูนย์ปล่อยยานอวกาศเชิงพาณิชย์ไห่หนานเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2022 ปัจจุบันเป็นพื้นที่ปล่อยยานอวกาศแห่งแรกของจีนที่อุทิศให้กับภารกิจเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ

โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของศูนย์ฯ ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว อาทิ โครงการที่เกี่ยวข้องกับระบบเชื้อเพลิงและจ่ายก๊าซ สถานีไฟฟ้าย่อย และแท่นปล่อยจรวด

หยางเทียนเหลียง ประธานบริษัท ไห่หนาน อินเตอร์เนชันแนล คอมเมอร์เชียล แอโรสเปซ ลอนช์ จำกัด เผยว่าศูนย์ฯ มีกำหนดปล่อยจรวดครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการเชิงพาณิชย์

หยางกล่าวว่าแผนการต่อไปคือการขยายพื้นที่ปล่อยจรวดด้วยการติดตั้งแท่นปล่อยจรวดเพิ่มเติม และให้บริการปล่อยจรวดและดาวเทียมสำหรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศเชิงพาณิชย์ของจีน

‘ไทยสมายล์บัส’ รุกพัฒนาขนส่งสาธารณะไทยเทียบ ‘ไต้หวัน’  หวังเชื่อมต่อการเดินทาง-ชำระเงินครอบคลุมทุกรูปแบบ

(1 ก.ค.67) นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ผู้นำในธุรกิจรถโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นยกระดับระบบขนส่งมวลชนของไทยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ สะอาด ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม 

โดยหนึ่งในหลายประเทศที่มีลักษณะโครงสร้างการคมนาคมขนส่งใกล้เคียงกับประเทศไทย คือ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง ที่ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งรุดหน้าเป็นอย่างมาก หลายเมืองได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่ ทั้งกฎระเบียบข้อบังคับจนถึงการสนับสนุนจากทางภาครัฐ การร่วมมือกันของภาคเอกชน ส่งผลให้รูปแบบการขนส่งสาธารณะจากรถสันดาป ปรับเปลี่ยนมาสู่พลังงานสะอาด ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV-Bus) เหมือนกับในประเทศไทย ของไทย สมายล์ บัส ที่เป็นรูปแบบรถเมล์พลังงานสะอาด ไม่ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม

นาย วรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ กล่าวว่า การเดินทางมาศึกษาดูงานเรื่องระบบคมนาคมขนส่งที่ประเทศไต้หวันครั้งนี้ ได้เห็นถึงตัวอย่างการเชื่อมต่อระบบคมนาคมขนส่งโดยใช้บัตรใบเดียว ‘ไทย สมายล์ บัส’ จะนำแนวทางโมเดลระบบขนส่งสาธารณะของไต้หวันไปศึกษาถึงความเป็นไปได้ของเอกชนและรัฐวิสาหกิจ หรือผู้ให้บริการอื่น ๆ ซึ่ง ‘ไทย สมายล์ บัส’ ได้มีการเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างรถกับเรือไว้เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกัน จากการศึกษางานระบบขนส่งสาธารณะในครั้งนี้ มองว่า จะสามารถนำกลับมาใช้กับประเทศไทยได้อย่างแน่นอน เพราะระบบขนส่งสาธารณะของไทยและไต้หวัน โดยเฉพาะระบบเทคโนโลยี มีความใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ระบบขนส่งสาธารณะของไทยยังไม่เทียบเท่าของไต้หวัน คือ ระบบสาธารณูปโภค การจัดสรรพื้นที่ เส้นทางที่รถวิ่ง รวมถึงภาพนโยบายการสนับสนุนผู้ให้บริการ ซึ่งของไต้หวันมีทั้งเอกชนและรัฐวิสาหกิจที่ไปในทิศทางเดียวกัน

นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของระบบขนส่งสาธารณะของไทย จะต้องมีการหารือกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่เป็นการดำเนินการเพียงเจ้าเดียว แต่จะดำเนินการอย่างไร ให้การเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะทั้งรัฐและเอกชนในรูปแบบใด โดยในส่วนของรัฐวิสาหกิจ มีการสนับสนุนจากภาครัฐ และธุรกิจระบบขนส่งสาธารณะค่อนข้างมีการผูกขาด ดังนั้น จะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ผู้ให้บริการอยู่รอด และแข่งขันบนมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งถือเป็นจุดที่บริษัทจะนำกลับไปพิจารณาเพิ่มเติม

ทั้งนี้ จากการศึกษาระบบขนส่งสาธารณะของไต้หวัน มองว่า ยังมีโอกาสที่ระบบขนส่งสาธารณะไทยจะมีความใกล้เคียงกับไต้หวันมากขึ้น โดยจากที่เห็นภาพของตัวรถโดยสาร และเทคโนโลยี ไทยมีความเทียบเท่าไต้หวัน หรืออาจจะเหนือกว่า รวมถึงเรื่องคอนเซปต์ ของไทย ที่ไปไกลกว่าใต้หวันแล้ว

นายวรวิทย์ ระบุว่า ระบบขนส่งสาธารณะของที่ไทยยังเเข่งขันไม่ได้ คือ การเชื่อมต่อระหว่างขนส่งกับขนส่งด้วยกัน ในการทำให้บัตรใบเดียวสามารถใช้ บริการระบบสาธารณะได้ทุกรูปแบบ แต่ทั้งนี้ในรูปแบบของบัตรที่นำมาเชื่อมต่อนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการว่าจะใช้บัตรของผู้ให้บริการรายใด ซึ่งบริษัท พร้อมที่จะร่วมผลักดันตรงจุดนี้กับหน่วยงานต่าง ๆ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top