Tuesday, 2 July 2024
NewsFeed

‘อ.สันติ’ ยกเคส ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ กับความดังระดับโลก เป็นกรณีศึกษา นี่คือ!! Soft Power ที่มาจาก ‘ความพากเพียร-อุตสาหะ-มุมานะ-มีวินัย’

(29 มิ.ย. 67) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สันติ กีระนันทน์ เลขานุการคณะที่ปรึกษาว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ โดยได้ยกเป็นกรณีศึกษา ซึ่งได้ระบุว่า

กรณีศึกษาของ Lisa สอนอะไรผมบ้าง

ถ้าจะไม่เขียนถึง Lisa หรือคุณลลิษา มโนบาล ก็ดูจะตก trend ไป เมื่อไปเปิดดู YT เพลง ROCKSTAR ก็จะเห็นยอดพุ่งไป 32 ล้านวิวแล้ว

ผมไม่ได้ติดตามคุณลลิษามาตั้งแต่ต้น ก็คงเป็นเพราะวัยของผมและความชอบส่วนตัวของผม ไม่ได้ชอบดนตรีแนว K-Pop และแม้คุณลลิษาจะไม่ได้อยู่ค่าย YG แล้ว คงเปลี่ยนแนวดนตรีไป ก็คงจะยังไม่ใช่จริตของผมอีกเช่นกัน แต่คุณลลิษาเป็นระดับ world superstar ก็คงจะมีผลงานดีเลิศระดับ world class อย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่รสนิยมชมชอบดนตรีของแต่ละบุคคลก็ย่อมแตกต่างกันไป

ผมนิยมชมชอบคุณลลิษา ไม่ใช่เพราะความดังของเธอ แต่เป็นเพราะความน่ารัก และในหลาย ๆ ความเคลื่อนไหวของเธอ แม้จะเต็มไปด้วยพลังอำนาจดึงดูดผู้คน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน มีมารยาทที่ผมไม่อยากจะเรียกว่ามารยาทแบบไทย ๆ แต่เธอมีมารยาทที่เป็นที่ยอมรับและน่ารักในระดับสากล ... ไม่น่าแปลกใจว่าไม่เพียงชาวไทยเท่านั้น แต่ชาวโลกก็ล้วนแต่รักเธอ เพราะเธอมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม

ความเพียบพร้อมนั้น ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ไม่ได้มาเพราะชาติตระกูล ไม่ได้มาเพราะความร่ำรวยในระดับมหาเศรษฐี แต่เป็นเพราะความอุตสาหะ ความพากเพียร ความมุมานะ ความมีวินัย คุณลลิษาได้สะสมทักษะ สะสมความงาม สะสมความน่ารัก ด้วยความอุตสาหะมาตลอดชีวิตของเธอ ดังนั้น ความสำเร็จที่เธอได้รับในขณะนี้ ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามาจากความเพียรพยายามอย่างไม่ย่อท้อของเธอ

คนจำนวนมากพูดถึง soft power แต่เธอแสดงให้เห็นว่า soft power ของเธอนั้นไม่ได้เกิดจากการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแบบผิวเผิน แต่มันเต็มไปด้วยความสามารถ 'ดึงดูด' ให้คน 'สมัครใจ'

เกิดความ 'รัก' ในตัวเธอและผลงานรวมไปถึงทุกอย่างที่เป็นเธอ

ผมอยากจะเขียนอะไรมากกว่านี้ แต่ไม่อยากพาดพิงถึงคนที่มีแต่ 'เปลือก' และพยายามจะสร้าง soft power แบบไม่เข้าใจ คิดว่าการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแบบผิวเผิน ก็จะสามารถนำสิ่งดี ๆ ของประเทศไทยไปเป็น soft power ได้ ... ความคิดที่เป็นระบบ การส่งเสริมที่ทำอย่างเป็นธรรมชาติแบบคำนึงถึงองค์รวม การดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หวังให้เกิดผลแบบปัจจุบันทันด่วน ฯลฯ จึงจะทำให้ Thai attribute กลายเป็น soft power ได้ ซึ่งอันที่จริงหลายอย่างก็เป็นอยู่แล้ว เพียงแต่ความไร้สติปัญญาทำให้ไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น

หยุดอ้างทุกเรื่องเพื่อเศรษฐกิจ หยุดคิดแบบเช้าชามเย็นชาม หยุดทำแบบหาเช้ากินค่ำ แต่ต้องมี 'สติปัญญา' เป็นฐานเบื้องต้นในการพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่าง

ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี บนฐานความรู้และคุณธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานไว้ให้พลเมืองของโลกนี้ เป็นหลักในการทำงานทุกเรื่องที่จะทำให้เกิดผลที่ดีทั้งในระยะสั้น กลาง ยาว ... ย้ำว่า "ฐานความรู้และคุณธรรม" เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่ผลสำเร็จ ซึ่งหมายถึงประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ประโยชน์ของคนเพียงบางคนบางกลุ่มเท่านั้น

‘รัดเกล้า’ เผย ‘เศรษฐา’ เตรียมนำทีม ครม. สวมเสื้อผ้าไหมมัดหมี่ ประชุมที่โคราช ชี้!! นี่คือ ‘ของดีปักธงชัย’ ลวดลายเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความประณีตสวยงาม

(29 มิ.ย. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมนำทีมคณะรัฐมนตรีสวมใส่ ผ้าไหมพื้นเรียบสีทองและผ้าไหมมัดหมี่หางกระรอกประยุกต์สีทอง ร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 4/2567 หรือครม. สัญจร ที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2567 นี้

โดยจังหวัดนครราชสีมา มีนโยบายในการพัฒนาและส่งเสริมให้ใช้ผ้าลายเอกลักษณ์ ประจำจังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดประชุมระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อค้นหาภูมิปัญญาผ้าทอพื้นถิ่นของจังหวัดนครราชสีมา ที่สามารถสื่อถึงเอกลักษณ์ของจังหวัด จนมีมติให้ ‘ผ้าหางกระรอก’ เป็นผ้าเอกลักษณ์ ประจำจังหวัดนครราชสีมา

โดยผ้าไหมพื้นเรียบสีทองและผ้าไหมมัดหมี่หางกระรอกประยุกต์สีทอง ทอโดยอำเภอปักธงชัย สำหรับให้คณะรัฐมนตรีสวมใส่ ส่วนผ้าไหมมัดหมี่หางกระรอก สีชมพูกะปิ สำหรับผู้เข้าร่วมประชุม ครม. สวมใส่ ทอโดยกลุ่มทอผ้าไหมบ้านแฝกโนนสาราญ อำเภอสีดา

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ ลายหางกระรอก เป็นลวดลายเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความประณีตและงดงาม ใช้เทคนิคการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าไท คือ ‘การควบเส้น’ ที่นำเส้นพุ่งพิเศษ 2 เส้น 2 สี มาตีเกลียวควบเข้าด้วยกัน ให้เป็นเส้นเดียว ที่เรียกว่า เส้นลูกลาย หรือเส้นหางกระรอก

ทอด้วยความชำนาญของแต่ละพื้นที่ ผ้าที่ได้จะมีลักษณะลวดลายเล็ก ๆ ในตัวมีสีเหลือบมันวาวระยับดูคล้ายเส้นขนของหางกระรอก ตามคำขวัญเดิมของจังหวัดที่ว่า ‘นกเขาคารม อ้อยคันร่ม ส้มขี้ม้า ผ้าหางกระรอกดอกสายทอง แมวสีสวาท’

นอกจากนี้ในเย็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ช่วงงานเลี้ยงรับรอง นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะร่วมสวมใส่เสื้อแขนสั้นลำลองลายโคราชโมโนแกรม (KORAT Monogram) ที่ถือเป็น 1 ใน soft power ของจังหวัด

ซึ่งลวดลายโคราชโมโนแกรมนี้สื่อถึงจังหวัดนครราชสีมา โดยมีรูปแมวโคราช (Korat Cat) สัตว์ประจำจังหวัดนครราชสีมา ส่วนรูปด้านบนของแปลนผังพื้นอนุสาวรีย์ย่าโม หันทางทิศตะวันตก (On the Top) ผัดหมี่โคราช (Recommended Menu) ปราสาทหินพิมาย (Ancient) ประตูชุมพล (Twain) และดอกสาธร ดอกไม้ประจำจังหวัด

ประกอบรวมกันเป็นคำว่า โคราช ในภาษาอังกฤษ (KORAT) ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปชมลวดลาย KORAT Monogram ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก KORAT Monogram ได้ทีนี่ https://www.facebook.com/koratmonogram นางรัดเกล้า กล่าว

'วงเสวนาฯ' ชี้ 'การเมือง' มีผลต่อระบบเศรษฐกิจ นโยบายของรัฐบาล ส่งผลต่อ 'เศรษฐกิจมหภาค-การคลัง'

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี 
อดีต รมว.กระทรวงพลังงาน 
กล่าวในงานเสวนาเรื่อง ‘การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจไทย เพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตอย่างยั่งยืน’ ชื่นชมทีมงานที่สร้าง EEC ชี้!!  ทำเป็นเมืองการบินได้อย่างเต็มที่

‘ธนกร’ หนุน ‘พีระพันธุ์’ ออกมาตรการ ลดค่าใช้จ่ายพลังงาน เพื่อลดภาระค่าครองชีพ มั่นใจ!! การเพิ่มวงเงิน ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ 3 เดือน ช่วยกลุ่มเปราะบางได้แน่

(29 มิ.ย. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาพลังงานน้ำมันและก๊าซหุงต้มที่มีการปรับขึ้นราคา ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของพี่น้องประชาชน ตนขอสนับสนุนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ครั้งที่ 2/2567 ที่เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนในสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางผู้มีรายได้น้อย สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะเพิ่มวงเงินช่วยเหลือค่าน้ำมัน (กลุ่มเบนซิน และกลุ่มดีเซล โดยให้ใช้กับยานพาหนะ)อีก 120 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567  

นอกจากนี้ ยังมีมติลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อช่วยลดภาระของประชาชน ให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซ LPG ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567

ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน เร่ง ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าว โดยการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มสถานีบริการที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อลดภาระค่าครองชีพแก่ผู้มีรายได้น้อยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

“รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เรื่องค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ทั้งน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ก๊าซ LPG หวังช่วยตรึงราคาพลังงาน ลดค่าใช้จ่าย บรรเทาความเดือดร้อนได้ในระยะ 3 เดือน” นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับหัวหน้าหน่วยงานและข้าราชการตำรวจในสังกัดที่มีผลการปฏิบัติดีเด่นในด้านต่างๆ

ผบช.ภ.5 เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับหัวหน้าหน่วยงานและข้าราชการตำรวจในสังกัดที่มีผลการปฏิบัติดีเด่นในด้านต่างๆ ในการประชุมบริหาร ภ.5 ครั้งที่ 9/2567 ณ ห้องประชุมอาคารสโมสรคุ้มแก้วขวัญดาว ตำรวจภูธรภาค 5  จ.เชียงใหม่

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับหัวหน้าหน่วยงานและข้าราชการตำรวจในสังกัดที่มีผลการปฏิบัติดีเด่นในด้านต่างๆ ในการประชุมบริหาร ภ.5 ครั้งที่ 9/2567 วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 โดยมี พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล รอง ผบช.ภ.5 ,ผบก.,รอง ผบก.,ผกก.และหน.สภ.ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 และหัวหน้าหรือผู้แทน หน่วยงานในสังกัด ตร.ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ภ.5 เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน

โดยมีพิธีมอบเกียรติบัตรจำนวน 4  รายการดังนี้ 1.หน่วยงานที่มีผลปฏิบัติดีเด่น ด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2567  2. เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่ปฏิบัติงาน ด้านยาเสพติดในห้วงเดือน ม.ค.67 - มิ.ย.67 3. ข้าราชการตำรวจปฏิบัติดีเด่นตามโครงการ Police Hero ของตำรวจภูธรภาค 5 ข้าราชการตำรวจชุดจับกุม 4. ข้าราชการตำรวจที่ได้รับเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประเภทต่างๆณ ห้องประชุมอาคารสโมสรคุ้มแก้วขวัญดาว ตำรวจภูธรภาค 5  อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ทรภ.1 ร่วมพิธีเปิด การฝึกซ้อมแผนรักษาความปลอดภัย ของเรือและท่าเรือ บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้รหัสการฝึก NASSREX’24

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ 1) โดยมี พลเรือตรี วรพาท  รัชตะสังข์ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ผู้แทนผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยของเรือและท่าเรือของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้รหัสการฝึก NASSREX’24 ระหว่างวันที่ 27 – 28 มิถุนายน 2567 ณ อาคารหอประชุมไทยออยล์ (Auditorium) บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 

โดยมีวัตถุประสงค์ในการฝึก เพื่อเป็นการทดสอบการประสานงานระหว่างกองทัพเรือ   หน่วยงานราชการและภาคเอกชน ในการปฏิบัติตามแผนงาน หน้าที่และภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ พื้นที่เขตท่าเรือพาณิชย์ ในพื้นที่รับผิดชอบตลอดจนเป็นการเพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์ ให้กับผู้เข้าร่วมการฝึก เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงาน โดยในการฝึกในครั้งนี้ มีการฝึกการป้องกันเหตุจลาจล การประท้วงชุมนุมในขตท่าเรือ การตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด จึงนับได้ว่าการฝึกที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นการฝึกที่จะสามารถช่วยทำให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เกิดความเข้าใจในการปฏิบัติตามขั้นตอน มีการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอย่างเข้มแข็ง และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต

‘ฮอนด้า’ ยกระดับ ความสปอร์ตพรีเมี่ยม ให้ ‘Accord e:HEV’ ด้วยชุดแต่ง ‘MUGEN’ พร้อมตอกย้ำความแรง ที่เร้าใจด้วย ‘Civic Type R’ มาชมกันได้ที่งาน ‘Auto Salon’

เมื่อเร็วๆ นี้ ‘บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด’ จัดแสดงรถยนต์หลากหลายรุ่นในงาน Bangkok Auto Salon 2024 นำโดย New Honda Accord e:HEV (ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่) ที่มาพร้อมล้ออัลลอย MUGEN และชุดแต่งพิเศษยกระดับความสปอร์ตพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น

New Honda Accord e:HEV (ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่) รุ่น e:HEV E มาพร้อมไฮไลต์ล้ออัลลอย MUGEN รุ่น MDC ขนาด 19×8.5 +45 สี Flat Black Mirror สไตล์ทูโทน และตกแต่งรอบคันด้วยชุดแต่งพิเศษ เพื่อโชว์ไอเดียอัพลุคความสปอร์ตพรีเมี่ยมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ตัวถังภายนอกมาพร้อมสติกเกอร์หุ้มรถสีเทาเงิน เมทัลลิกแบบด้าน และสติ๊กเกอร์ตกแต่งหลังคาสีดำแบบด้าน พร้อมด้วยสเกิร์ตรอบคันสีเดียวกับตัวรถ ได้แก่ สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง ปลายท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ต ตลอดจนยาง MICHELIN Pilot Sport 5 ขนาด 235/40/R19 พร้อมเปลี่ยนชุดแดมเปอร์ (Damper) ที่ลงตัวกับลุคสปอร์ตเท่ของ พรีเมี่ยม แฟลกชิป ซีดาน (ตกแต่งเพื่อการจัดแสดง ไม่มีการจำหน่าย)

Honda HR-V e:HEV (ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี) รุ่น e:HEV EL กับชุดแต่ง MUGEN รอบคัน ยกระดับความแกร่งสไตล์สปอร์ตในแนวคิด Sporty Energize with Aggressive Styling จัดเต็มรอบคัน ทั้งภายนอก และภายใน ผสานความไดนามิก และสปอร์ตแกร่งไว้อย่างลงตัว อาทิ ล้อ MUGEN รุ่น MF10 ขนาด 17×7.5 +52 สี Bronze Anodize ยาง Yokohama ADVAN NEOVA AD09 ขนาด 234/45/R17, สเกิร์ตรอบคัน, ชุดตกแต่งกันชนหลัง, ชุดตกแต่งกระจังหน้า-ไฟหน้า, ด้านท้าย ดึงดูดสายตาด้วยสปอยเลอร์หลัง (แบบ Wing) และ สปอยเลอร์หลังแบบคาดเอว (Tailgate) พร้อมปลายท่อไอเสียทรงสปอร์ต

ส่วนภายในมาพร้อมพรมปูพื้นห้องโดยสาร และห้องบรรทุกสัมภาระ สีแดงสไตล์สปอร์ต โดยชุดหุ้มเบาะหนังเพิ่มความเท่ด้วยโทนสีดำสปอร์ตเดินด้ายสีแดง ปักลายแถบสี SHINDEN GO อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมโลโก้ MUGEN บนพนักพิงศีรษะ (ตกแต่งเพื่อการจัดแสดง ไม่มีการจำหน่าย)

Honda Civic Type R (ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์) ที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตระดับตำนาน ซึ่งนำมาจัดแสดงภายในงาน พร้อมเปิดรับจองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ ทั้งในงาน และผ่านทาง www.honda.co.th/civictyper รวมทั้งที่โชว์รูมฮอนด้า ศรีอยุธยา 

รถคันนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตเฉพาะตัวทั้งภายนอก และภายใน มอบการขับขี่ที่สนุก แรง เร้าใจสไตล์สปอร์ต กับขุมพลังเครื่องยนต์ Direct Injection DOHC VTEC TURBO ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว มอบกำลังสูงสุด 320 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อันล้ำสมัยอื่นๆ โดยมีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ คริสตัล (มุก), สีเทา โซนิค (มุก), สีแดง แรลลี่, สีขาว แชมเปียนชิป และสีน้ำเงิน เรซซิง (มุก) ด้วยราคาจำหน่าย 3,990,000 บาท

ผู้ที่สนใจสามารถมาสัมผัสยานยนต์ ‘ฮอนด้า’ ได้ที่ งาน Bangkok Auto Salon 2024 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ 

'สว.สีน้ำเงิน-บิ๊กเกรียง' ผงาด!! จับตาเกมเปลี่ยน ขั้วสีแดงดิ้นเร่า!!

เป็นไปตามที่ 'เล็ก เลียบด่วน' วิเคราะห์เอาไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนแทบทุกประการว่า สุดท้ายแล้วสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ เครือข่ายพรรคสีน้ำเงินกับสีแดงจะยึดสภาสูง...

มือกราฟิก ก็ออกแบบได้เห็นภาพ อักษร ส.สีน้ำเงิน อักษร ว.สีแดง...

อย่างไรก็ตาม ที่คาดหมายพลาดไปบ้างก็ตรงเครือข่ายพรรคสีแดงที่ไม่เป็นไปตามเป้า เดิมคาดว่าอย่างน้อยต้อง 40 คน เอาเข้าจริงตัวเลขคร่าวๆ ขณะนี้มีประมาณ 15-18 คนเท่านั้น

ภาพสรุปที่คำนวณจัดกลุ่มผลเลือก สว.ขณะนี้ประมาณว่า...

- เครือข่ายพรรคสีน้ำเงิน 120-125 คน
- เครือข่ายพรรคสีส้ม 15-20
- เครือข่ายพรรคสีแดง 15-18
- เครือข่ายพรรคบ้านในป่า 10 คน
- กลุ่มทุน+อื่นๆ 30-35 คน

ศึกใหญ่ครั้งนี้ต้องยอมรับว่า...บ้านใหญ่บุรีรัมย์เผด็จศึกได้อย่างราบคาบราบเรียบ เข้าเป้าแทบทุกอำเภอ, จังหวัด, ภาค และประเทศ...เพราะชัดเจนในการเล่นบทวางตัวโหวตเตอร์ วางตัว ว่าที่ สว.ไม่แตกแถว-ทรยศหักหลัง ศึกษากฎกติกามารยาทการลอดช่องกฎหมายและช่องทางธนาธิปไตยแบบไร้รอยต่อ...

กลุ่ม สว.สมชาย แสวงการ ที่พยายามรวบรวมหลักฐานการฮั้วการทุจริตทำผิดหน้าที่ของใครต่อใครคงจะมีเป็นสิบแฟ้มในขณะนี้ แต่ไม่แน่ว่าจะหยุดการเดินหน้าประกาศผลในวันที่ 2 ก.ค.ได้หรือไม่...

ล่าสุดท่าน สว.กล้าณรงค์ จันทิก แห่ง กมธ.องค์กรอิสระ ออกมาช่วยอีกแรงทำหนังสือถึงประธานกกต.ชี้ทางสวรรค์ให้ กกต.รอดตาย ด้วยการเสนอแนะให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.ป.ด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 มาตรา 59 ซึ่งกำหนดว่า...

"ก่อนประกาศผลการเลือก หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกและสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่ หรือนับคะแนนใหม่..."

ไม่ทราบว่าจะเข้าตา กกต.หรือไม่...แต่ว่ากันว่าถ้ากกต.ดูแคลน หรือไม่นำพางานนี้สนุกแน่...

อย่างไรก็ตาม...สมมติ ว่าทุกอย่างเดินหน้าไปได้ สว.ชุดใหม่ได้เข้าแทนที่ชุดเก่า ก็ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การเมืองจะเปลี่ยนไป ดุลยภาพของสว.ชุดใหม่จะไหลไปทางสีน้ำเงิน...ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นาทีนี้จะมีการพูดถึงชื่อว่าที่ ประธานวุฒิสภาคนใหม่ ว่าน่าจะเป็น 'บิ๊กเกรียง' พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีต ผช.ผบ.ทบ. และรองประธานสภา จะเป็น มงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง/ผู้ว่าบุรีรัมย์ กันแล้ว...

โดยเฉพาะ พล.อ.เกรียงไกร หรือ 'บิ๊กเกรียง' นั้น จัดเป็นนายทหารที่ครบเครื่อง โปรไฟล์ดี นอกจากจะเป็นอดีตประธานที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย (อนุทิน  ชาญวีรกูล) แล้ว ยังเป็นคนนักเรียน วปอ.รุ่นที่ 61 รุ่นเดียวกับอนุทิน อีกด้วย ขณะเดียวกันก็ยังเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (ตท.) รุ่นที่ 22 และ จปร.33 รุ่นเดียวกับ 'บิ๊กบี้' พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ นายทหารคอแดง อดีต ผบ.ทบ.คนก่อน อีกตะหาก...

ส่งท้าย...โดยนัยการผงาดยึดสภาสูงได้ในครั้งนี้ ทำให้ดุลอำนาจของพรรคสีน้ำเงินกดทับพรรคสีแดงอย่างมีนัยสำคัญ...วันก่อนทักษิณ ชินวัตร ออกอาการแบบเห็นๆ เมื่อนักข่าวถามถึงกรณีเลือกสว.ที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สอบตก...โดยพลิ้วไปโจมตีว่าคณะปฏิวัติออกกฎกติกาแบบไม่เคารพประชาชน ไปโน่นเลย...

ไปสภากาแฟวงไหนวันนี้ เริ่มพูดถึงตัวเลข สส.สมัยหน้า ว่าพรรคเพื่อไทย อาจเหลือตัวเลขสองหลัก (ต่ำร้อย) ส่วนภูมิใจไทยผงาดเป็นสามหลัก (ร้อยขึ้น)...บางวงก็พูดถึงขั้นว่า อาจมีการเปลี่ยนนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคสีน้ำเงิน หากเดือนสิงหา ศาลรธน.วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และชี้ว่า เศรษฐา ทวีสิน สิ้นคุณสมบัติที่จะเป็นนายกฯ เพราะผิดตามที่ 40 สว.ร้อง...

ความพยายามบ่มแก๊ส 'อุ๊งอิ๊ง' ให้สุกงอมโดยเร็ว  ดำเนินไปแบบรัวๆ ในขณะนี้ น่าจับตาเป็นยิ่งนัก!!

'พี่บัวขาว-น้องลิซ่า' สองขุนพลแห่งสยามยุคใหม่ ผู้พา 'ศิลปะ' และ 'ความเป็นไทย' สู่สายตาชาวโลก

(29 มิ.ย.67) เพจ 'Bangkok I Love You' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

วินาทีนี้บุคคล 2 คนที่คนไทยและชาวโลกรู้จักคงไม่พ้น พี่บัวขาว สุดยอดนักมวยไทยแชมป์เวทีมวยระดับโลกหลายสมัย และน้องลิซ่า ดาวค้างฟ้าที่ทำสถิติใหม่แทบจะตลอดเวลา 

แต่ สิ่งหนึ่งที่ทุกคน พูดเป็นเสียงเดียวกันก็คือ สองคนนี้ คือ ตัวแทนของประเทศไทย ที่นำศิลปะและ ความเป็นไทย ออกไปเผยแพร่ให้โลกเห็น จึงนับได้ว่า สองคนนี้เป็นแม่ทัพ ของ Soft Power ประเทศไทย ตัวจริง 

ทว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ ทั้งสองคนก็ผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนัก ซึ่งเป็นแบบอย่างให้กับ ทุกๆ คน กับคำว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น

ประโยคที่ว่า คนไทยไม่แพ้ใครในโลก เป็นจริงได้เสมอและในโลกปัจจุบัน ที่ ทุกคนสามารถเข้าถึง ศิลปะวิทยาการ ได้อย่างเต็มที่ ก็หวังว่าจะมี คนเก่งๆ มาเสริมทัพ ที่บัวขาว และน้องลิซ่า อีกมากๆ เพื่อให้ชื่อเสียงของประเทศไทยขจรกระจายไปทั่วโลก นะครับ

'วงเสวนาฯ' ชี้ 'การเมือง' มีผลต่อระบบเศรษฐกิจ นโยบายของรัฐบาล ส่งผลต่อ ' เศรษฐกิจมหภาค-การคลัง'

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ 
ประธานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 
กล่าวในงานเสวนาเรื่อง ‘การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจไทย เพื่อเพิ่มอัตราการเติบโตอย่างยั่งยืน’ ในหัวข้อ ‘ปัญหาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยใน 20 ปีที่ผ่านมา และนโยบายการเงินที่ควรพิจารณาใหม่’


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top