‘อ.สันติ’ ยกเคส ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ กับความดังระดับโลก เป็นกรณีศึกษา นี่คือ!! Soft Power ที่มาจาก ‘ความพากเพียร-อุตสาหะ-มุมานะ-มีวินัย’

(29 มิ.ย. 67) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สันติ กีระนันทน์ เลขานุการคณะที่ปรึกษาว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ โดยได้ยกเป็นกรณีศึกษา ซึ่งได้ระบุว่า

กรณีศึกษาของ Lisa สอนอะไรผมบ้าง

ถ้าจะไม่เขียนถึง Lisa หรือคุณลลิษา มโนบาล ก็ดูจะตก trend ไป เมื่อไปเปิดดู YT เพลง ROCKSTAR ก็จะเห็นยอดพุ่งไป 32 ล้านวิวแล้ว

ผมไม่ได้ติดตามคุณลลิษามาตั้งแต่ต้น ก็คงเป็นเพราะวัยของผมและความชอบส่วนตัวของผม ไม่ได้ชอบดนตรีแนว K-Pop และแม้คุณลลิษาจะไม่ได้อยู่ค่าย YG แล้ว คงเปลี่ยนแนวดนตรีไป ก็คงจะยังไม่ใช่จริตของผมอีกเช่นกัน แต่คุณลลิษาเป็นระดับ world superstar ก็คงจะมีผลงานดีเลิศระดับ world class อย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่รสนิยมชมชอบดนตรีของแต่ละบุคคลก็ย่อมแตกต่างกันไป

ผมนิยมชมชอบคุณลลิษา ไม่ใช่เพราะความดังของเธอ แต่เป็นเพราะความน่ารัก และในหลาย ๆ ความเคลื่อนไหวของเธอ แม้จะเต็มไปด้วยพลังอำนาจดึงดูดผู้คน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน มีมารยาทที่ผมไม่อยากจะเรียกว่ามารยาทแบบไทย ๆ แต่เธอมีมารยาทที่เป็นที่ยอมรับและน่ารักในระดับสากล ... ไม่น่าแปลกใจว่าไม่เพียงชาวไทยเท่านั้น แต่ชาวโลกก็ล้วนแต่รักเธอ เพราะเธอมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม

ความเพียบพร้อมนั้น ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ไม่ได้มาเพราะชาติตระกูล ไม่ได้มาเพราะความร่ำรวยในระดับมหาเศรษฐี แต่เป็นเพราะความอุตสาหะ ความพากเพียร ความมุมานะ ความมีวินัย คุณลลิษาได้สะสมทักษะ สะสมความงาม สะสมความน่ารัก ด้วยความอุตสาหะมาตลอดชีวิตของเธอ ดังนั้น ความสำเร็จที่เธอได้รับในขณะนี้ ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามาจากความเพียรพยายามอย่างไม่ย่อท้อของเธอ

คนจำนวนมากพูดถึง soft power แต่เธอแสดงให้เห็นว่า soft power ของเธอนั้นไม่ได้เกิดจากการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแบบผิวเผิน แต่มันเต็มไปด้วยความสามารถ 'ดึงดูด' ให้คน 'สมัครใจ'

เกิดความ 'รัก' ในตัวเธอและผลงานรวมไปถึงทุกอย่างที่เป็นเธอ

ผมอยากจะเขียนอะไรมากกว่านี้ แต่ไม่อยากพาดพิงถึงคนที่มีแต่ 'เปลือก' และพยายามจะสร้าง soft power แบบไม่เข้าใจ คิดว่าการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแบบผิวเผิน ก็จะสามารถนำสิ่งดี ๆ ของประเทศไทยไปเป็น soft power ได้ ... ความคิดที่เป็นระบบ การส่งเสริมที่ทำอย่างเป็นธรรมชาติแบบคำนึงถึงองค์รวม การดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หวังให้เกิดผลแบบปัจจุบันทันด่วน ฯลฯ จึงจะทำให้ Thai attribute กลายเป็น soft power ได้ ซึ่งอันที่จริงหลายอย่างก็เป็นอยู่แล้ว เพียงแต่ความไร้สติปัญญาทำให้ไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น

หยุดอ้างทุกเรื่องเพื่อเศรษฐกิจ หยุดคิดแบบเช้าชามเย็นชาม หยุดทำแบบหาเช้ากินค่ำ แต่ต้องมี 'สติปัญญา' เป็นฐานเบื้องต้นในการพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่าง

ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี บนฐานความรู้และคุณธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานไว้ให้พลเมืองของโลกนี้ เป็นหลักในการทำงานทุกเรื่องที่จะทำให้เกิดผลที่ดีทั้งในระยะสั้น กลาง ยาว ... ย้ำว่า "ฐานความรู้และคุณธรรม" เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่ผลสำเร็จ ซึ่งหมายถึงประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ประโยชน์ของคนเพียงบางคนบางกลุ่มเท่านั้น