Thursday, 8 May 2025
NewsFeed

‘บิ๊กตู่’ สั่ง เข้มชายแดน ฟันไม่เลี้ยงนายหน้า-จนท.ลักลอบพาคนเข้าประเทศ ด้าน ตชด.เตรียม 14 รพ. สนาม รับมือต่างด้าวข้ามแดนผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายก เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ให้เข้มงวดเรื่องการป้องกันการลักลอบเข้าประเทศไทยอย่างสูงสุด เพราะขณะนี้ยังมีการลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้ลาดตระเวนอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด 

นายกฯ ยังกำชับเรื่องความพร้อมในเรื่องสถานที่กักกันตัวในระดับท้องถิ่น และโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่จ.ชายแดน เพื่อเตรียมรับการเดินทางกลับเข้าประเทศของคนไทยตามช่องทางทางบก และกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่ม 14 แห่ง เพื่อรองรับแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ข้ามแดนผิดกฎหมาย เป็นการยับยั้งไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปยังชุมชน และยังเน้นย้ำให้จับกุมนายหน้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกรายที่เกี่ยวกับกระบวนการนำคนต่างชาติเข้ามาเป็นแรงงานอย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือพลเรือน เพราะเป็นการกระทำที่เลวร้าย เพิ่มความเสี่ยงต่อการการแพร่ระบาดโควิด19ในประเทศไทย

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ทั้งนี้การแจ้งข้อมูลและเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายที่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคและกรณีเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับการการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สามารถแจ้ง ผ่านสำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 และศูนย์บริการประชาชน 1111 ในส่วนแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย มีจำนวนเรื่องสะสมตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.-20 พ.ค.แล้ว 45 เรื่อง ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 42 เรื่อง จับกุมดำเนินคดี 11 คดี มีผู้กระทำความผิด 66 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการ 3 เรื่อง

“สิระ” ข้องใจ ”อิตาเลียนไทย” ปล่อยแรงงานต่างด้าวติดโควิดสายพันธุ์อินเดีย ถาม ใช่แรงงานเถื่อนหรือไม่ จี้ “ประยุทธ์” ดูแลปชช. หยุดอุ้มนายทุน วอน ขอวัคซีนให้คนหลักสี่อย่างเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงตรวจพบคนงานติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากอยู่ที่แคมป์หลักสี่ และมีคนงาน 15 รายที่ตรวจพบ “โควิดสายพันธุ์อินเดีย” หรือ B 1.1617.2 ว่า ตนขอตั้งคำถามว่า เหตุใดแรงงานเหล่านี้ถึงติดโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาหรือไม่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ( มหาชน ) ต้องออกมาชี้แจงกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะบริษัท อิตาเลียนไทย เหมือนทำลายชาติ คิดถึงแต่เรื่องธุรกิจ ไม่คำนึงถือผลประโยชน์ส่วนรวม 

นายสิระ กล่าวต่อว่า บริเวณแคมป์คนงาน เจ้าหน้าที่ที่ไปเฝ้าระวังทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกหรือไม่ เพราะชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนมาว่า มีการตั้งกลุ่มเฮฮากินเหล้ากัน อยากได้น้ำแข็งก็ทุบประตู ยามก็เปิดให้เดินไปซื้อได้ ตนจึงขอถามว่า ที่มาตรการดูแลหย่อนยานเพราะมีการรับผลประโยชน์อะไรใช่หรือไม่ 

“ผมขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน วันนี้รัฐบาลต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชนคนไทยเป็นหลัก ไม่ใช่ดูแลแรงงานของพวกนายทุน เพราะกลุ่มนายทุนต้องการแต่ผลประโยชน์ในธุรกิจของตัวเอง ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งนี้ผมขอเสนอให้อพยพประชาชนในพื้นที่โดยรอบออกจากพื้นที่ระบาดให้เร็วที่สุด ก่อนที่โควิดสายพันธุ์อินเดียจะกระจายไปวงกว้างมากกว่านี้ และผมวิงวอนขอวัคซีนให้คนหลักสี่อย่างเร่งด่วนด้วย เพราะขณะนี้ชาวบ้านหลายคนที่เช่าห้องอยู่ติดแคมป์คนงานดังกล่าวก็ล้มป่วยกันแล้ว” นายสิระ กล่าว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน เครื่อง Oxygen High Flow แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ จำนวน 10 เครื่อง เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน เครื่อง Oxygen High Flow แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ จำนวน 10 เครื่อง เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะบกพร่องทางการหายใจ หรือผู้ป่วยหนักอื่น ๆ ที่ต้องเร่งรักษา โดยมีพลเรือโท วิชัย มนัสศิริวิทยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ และคณะผู้บริหารของกรมแพทย์ทหารเรือ ทำพิธีรับพระราชทานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ห้องประพัฒน์ศรี สโมสรโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ  แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เป็นล้นพ้นที่ทรงมีต่อโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ กองทัพเรือ ตลอดจนประชาชนทั่วไป และบุคลากรของโรงพยาบาล กราบถวายบังคมแทบเบื้องพระยุคลบาท และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเป็นสรรพสิริมงคล และจักมุ่งมั่นดำเนินภารกิจดูแลผู้ป่วย ประชาชนที่ทุกข์ร้อน โดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครื่อง Oxygen High Flow พระราชทาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการในการช่วยเหลือผู้ป่วย เพื่อพัฒนางานบริการทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ต่อไป

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่ทำให้ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันเองว่า...

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่ทำให้ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันเองว่า...

ส่วนตัวตนเห็นใจและเข้าใจพรรคภูมิใจไทยที่ถูกนายกรัฐมนตรีเบรก โดยการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ เมื่อวิเคราะห์ปัญหานี้อย่างละเอียดแล้ว ตนคิดว่าวัคซีนเพิ่งเข้ามาเพียงนิดเดียว ทำให้ประเทศจำเป็นต้องฉีดวัคซีนตามความจำเป็นและตามแผนยุทธศาสตร์ก่อน จะทำสะเปะสะปะไม่ได้ ในสงครามชีวภาพกับโควิด-19 ขณะนี้ไทยเรากำลังเป็นฝ่ายตั้งรับ วัคซีนเป็นอาวุธสำคัญที่เราจะใช้รบกับเชื้อโควิด แต่ขณะนี้เรามีวัคซีนน้อย เปรียบเสมือนเรามีกระสุนจำนวนน้อย การยิงกระสุนทุกนัดของเราตรงเข้าเป้าจึงจะชนะในสงครามชีวภาพนี้ได้

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ต้องฉีดวัคซีนให้คนไทยให้ตรงเป้าตามลำดับความสำคัญ คือ บุคลากรทางการแพทย์, กลุ่มที่มีโรคประจำตัว, ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และกลุ่มคนไทยตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะส่งผลให้เปิดประเทศและระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้เร็ว รวมถึงกลุ่มที่จะแพร่กระจายโรคได้ง่าย เช่น ภาคการท่องเที่ยว, ภาคโรงงานอุตสาหกรรม, สำนักงาน บริษัท, ห้างสรรพสินค้า, สถานบริการต่าง ๆ , ขนส่งสาธารณะ, พื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ฯลฯ รัฐบาลต้องทุ่มวัคซีนภายในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมสู่พื้นที่ กทม.อย่างน้อย 5 ล้านคน เพื่อยุติการแพร่ระบาดใน กทม. และต้องทุ่มวัคซีนสู่ภาคแรงงานในโรงงาน สำนักงาน บริษัทต่าง ๆ เพื่อป้องกันการระบาดกลุ่มใหญ่

“หลังเดือนสิงหาคม ถ้าเราฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครบตามเป้าหมายแล้ว การฉีดแบบวอล์กอินก็คงจะเป็นไปได้ ผมจึงขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลยุติการตอบโต้กันและหันมาร่วมกันสู้กับวิกฤตโควิดจะดีกว่า และขอเสนอให้พรรคภูมิใจไทยเสียสละเพื่อชาติ เพราะผมเชื่อว่าการหยุด walk in นั้นรัฐบาลมาถูกทางแล้ว” นพ.ระวีกล่าว

 

ที่มา : https://mgronline.com/politics/detail/9640000048975


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เผย ศบค. เห็นชอบแผนการกระจายวัคซีนแอสตร้าเซเนกา เข็มแรกเริ่มมิถุนายน-กันยายน จัดลำดับเร่งด่วน 4 จว.สีแดงเข้ม พร้อมจังหวัดรับท่องเที่ยว ก่อนทยอยกระจายทั้วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ครั้งที่ 7/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกนรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ผ่านระบบ Video Conference จากตึกสันติไมตรี ว่า มีรายงานแจ้งว่า ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ นอกจากจะมีมติเห็นชอบ ขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2564 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ ยังคงไม่ลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดมีแนวโน้มคงตัว

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแผนการจัดสรรวัคซีนแอสตราเซเนก้า 36 ล้านโดส เข็มที่ 1 โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ค. เดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน 2564 และเข็มที่ 2 เดือนตุลาคม-ธันวาคม เพื่อให้คนไทย และ คนต่างชาติจำนวน 50 ล้านคน ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ร้อยละ70 ในเดือนกันยายนด้วยความสมัครใจ

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อม จะได้รับประกันการจัดสรรวัคซีน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว ตามแผนเปิดประเทศที่กำหนด โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดวัคซีน 8 กลุ่ม คือ

1.) บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน

2.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย

3.) บุคคลที่มีโรคเรือรังประจำตัว

4.) ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป

5.) ประชาชนที่มีความเสี่ยงสัมผัสโรค เช่น ครู พนักงานขับรถสาธารณะ ชาวไทยที่ไปศึกษาและทำงานต่างประเทศ

6.) คณะทูตานุทูต และครอบครัว รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ

7.) ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม และ

8.) ชาวต่างชาติ และแรงงานต่างด้าว

สำหรับแผนการส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซเนกา เริ่มในเดือนมิถุนายน 6.3 ล้านโดส กรกฎาคม-พฤศจิกายน เดือนละ 10 ล้านโดส และเดือนธันวาคม 5 ล้านโดส และอยู่ระหว่างกำลังจัดหาเพิ่มประมาณ 37 ล้านโดส จากบริษัทจอนสันต์ 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ชิโนแวค 7 ล้านโดส โดยขึ้นอยู่กับความสามารถในการผลิตและส่งมอบวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิต

สำหรับแผนการกระจายวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนเข็มแรกในเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน จะถูกกระจายไปยัง พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดก่อน รวม 4 จังหวัด ประกอบด้วยกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี 

ขณะที่จังหวัดที่มีแผนเปิดการท่องเที่ยวได้แก่ ภูเก็ต จะได้รับการกระจายวัคซีนภายในเดือนมิถุนายนเช่นกัน ส่วนจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านและมีความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภายหลังการระบาดก็จะได้รับภายในเดือนกรกฎาคม รวม 17 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย สงขลา สระแก้ว ตาก มุกดาหาร นราธิวาส ระนอง หนองคาย เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และสมุทรสาคร จากนั้นก็จะจัดลำดับไปอีก 55 จังหวัดที่เหลือของประเทศไทยเพื่อกระจายวัคซีนอย่างครอบคลุม

นอกจากนี้ที่ประชุม เห็นชอบช่องทางการลงทะเบียนและเข้ารับวัคซีน 3 ช่องทางคือ

1.) จองผ่านหมอพร้อม

2.) นัดหมายผ่านสถานพยาบาลหรืออสม. หรือผ่านองค์กรหรือช่องทางอื่นที่จังหวัดกรุงเทพมหานครจัดเพิ่มเติม และ

3.) ลงทะเบียน ณ จุดบริการ on site พร้อมมอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดการประชาสัมพันธ์เรื่องช่องทางการรับบริการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 และการให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายจำเพาะให้ทราบโดยทั่ว

ตม.จว.ชุมพร จับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง โดยใช้รถนำ

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ, พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ, พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.ท.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ สวญ.ตม.จว.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ต.สันติ มณีรัตน์ สว.ตม.จว.ชุมพร ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีที่น่าสนใจ ดังนี้

พ.ต.ท.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ สวญ.ตม.จว.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ต.สันติ มณีรัตน์ สว.ตม.จว.ชุมพร นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.ชุมพร สนธิกำลัง สภ.ปะทิว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันจับกุม นายสุธะ อายุ 51 ปี สัญชาติไทย ในความผิดฐาน “ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” และนายอาซะ อายุ 44 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมพวกรวม 11 คน ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” “ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ กรณีแรงงานต่างด้าวข้ามเขตจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณวัดถ้ำเขาพลู หมู่ที่ 3 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จว.ชุมพร

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะทิว ภ.จว.ชุมพร ได้รับแจ้งว่า มีรถนำบุคคลต่างด้าวมาปล่อยทิ้งไว้ที่ศาลาหลังเมรุ ภายในวัดถ้ำเขาพลู อ.ปะทิว จว.ชุมพร จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.ชุมพร ร่วมตรวจสอบ พบเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 11 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารประจำตัวบุคคลต่างด้าวที่ถูกกฎหมายมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.ชุมพร จึงได้ออกติดตามรถที่ขนแรงงานต่างด้าวมาปล่อยทิ้งไว้ จนกระทั่งสามารถสกัดจับรถขนกระเป๋าสัมภาระได้ 1 คัน บริเวณถนนสายปากคลอง-บางสะพานน้อย (รอยต่อระหว่างจว.ชุมพร - จว.ประจวบคีรีขันธ์)

โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านมาบอำมฤต ภ.จว.ชุมพร จากการตรวจสอบพบว่า เป็นรถกระบะสีน้ำตาล มีหลังคาปิดหลังกระบะทะเบียนเลย โดยมีนายสุธะ อายุ 51 ปี เป็นผู้ขับขี่ และพบกระเป๋าสัมภาระ 11 ใบ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้และนำมาตรวจสอบพบว่าเป็นกระเป๋าของคนต่างด้าวที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ทั้ง 11 คน สอบถามนายสุธะ ผู้ต้องหา ให้การรับว่ารับจ้างขนกระเป๋าสัมภาระของแรงงานต่างด้าวทั้ง 11 คน โดยรับมาจากบริเวณป่าริมถนนแถว ต.ควนมีด อ.จะนะ จว.สงขลา ได้ออกมาจาก จ.สงขลา โดยใช้เส้นทางถนนสายหลัก เอเชีย 41 และถนนเพชรเกษมมุ่งหน้า จว.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมาถึงบริเวณ อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร ได้เลี้ยวขวาเข้ามาทาง อ.ปะทิว จว.ชุมพร เพื่อจะวิ่งบนถนนสายรอง ไปยัง จว.ประจวบคีรีขันธ์ และเมื่อไปถึงบริเวณ ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จว.ชุมพร ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบและจับกุมไว้ได้

การขยายผล จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้ง 11 คน ได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย เพื่อต้องการจะกลับประเทศเมียนมาทางชายแดน อ.แม่สอด จว.ตาก โดยเสียค่าเดินทางให้กับนายหน้าจากประเทศมาเลเซีย เป็นจำนวนคนละประมาณ 3,200 - 3,500 ริงกิต จากนั้นจะมีรถรับพวกตนมาเป็นทอด ๆ โดยการลักลอบหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นบริเวณใด แต่ได้มีการนั่งเรือหางยาวข้าม ลำน้ำใช้เวลาประมาณ 1 นาที จากนั้นก็มีรถยนต์กระบะมารับพวกตนเป็นทอด ๆ โดยครั้งสุดท้ายก่อนถูกจับกุมได้ขึ้นรถกระบะชนิดตอนครึ่งและนั่งเบียดเสียดกันมาอยู่ด้านหน้ารถทั้งหมด และมีรถกระบะอีกคันทำหน้าที่ขนกระเป๋าสัมภาระ จนกระทั่งถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ ณ ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงทราบว่า รถกระบะคันที่ขนแรงงาน เป็นรถกระบะสีขาวทะเบียนนครราชสีมา นายสุธะ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ให้การรับว่ารถทั้ง 2 คัน ได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ริมถนนสายเอเชีย 41 (ขาขึ้น) อ.ละแม จว.ชุมพร ก่อนที่จะถูกตรวจค้นและจับกุม

จากการสืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางก่อนมาถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะที่นายสุธะ ผู้ต้องหา ขับนำหน้ารถกระบะที่ขนแรงงานต่างด้าวทั้ง 11 คน เพื่อดูเส้นทางตลอดระยะทางกว่า 100 กม. เมื่อเข้าเขต จว.ชุมพร นั้น เชื่อได้ว่า นายสุธะ ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ มีพฤติการณ์ร่วมกันกับผู้ต้องหาอีกคนให้การช่วยเหลือ ซ่อนเร้น แก่แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม โดยการนำพาคนต่างด้าวจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อจะนำไปส่งยังจุดหมายตามที่ได้รับการว่าจ้าง ซึ่งจากกการซักถามปากคำนายสุธะ ผู้ต้องหา ยังพบข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์และการโอนเงินทางบัญชีของนายสุธะ ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง

เคาะแล้ว! ดีเดย์ 7 มิถุนายน 64 เริ่มรับลงทะเบียน ณ จุดบริการฉีดวัคซีน (On-site ไม่ใช่ Walk-in)

เคาะแล้ว! ดีเดย์ 7 มิถุนายน 64 เริ่มรับลงทะเบียน ณ จุดบริการฉีดวัคซีน (On-site ไม่ใช่ Walk-in) แบบปูพรมทั่วประเทศ

ย้ำ จังหวัดไหนมีความพร้อม ดำเนินการได้ทันที


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ส.อ.ท. เผยโควิดระลอก 3 ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้ออย่างหนัก ล่าสุด พบคนจองรถในงานมอเตอร์โชว์ เลื่อนรับรถและยกเลิกการจองเพียบ หลังลูกค้าไม่มั่นใจเรื่องการเงิน อีกทั้งธนาคารปฏิเสธให้สินเชื่อรถยนต์มากขึ้น

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ส่งผลกระทบให้ยอดการจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งล่าสุด ที่มีจำนวนยอดจองกว่า 27,800 คัน มีผู้จองรถยนต์ในงานกว่า 30% ที่ขอชะลอการรับรถยนต์ออกไป รวมทั้งยกเลิกการจอง จากปกติที่ยอดชะลอการรับรถยนต์มีเพียง 5-6% เท่านั้น เนื่องจากลูกค้าไม่มั่นใจเรื่องการเงินในอนาคต รวมทั้งธนาคารปฏิเสธการให้สินเชื่อรถยนต์มากขึ้น ประมาณ 20-30% จากปกติที่จะปล่อยสินเชื่อให้เกือบหมด

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยังมองว่า หากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งกำลังระบาดอย่างหนักในช่วงนี้เริ่มค่อย ๆ คลี่คลายลง เชื่อว่า สถาบันการเงินต่าง ๆ จะกล้าปล่อยสินเชื่อได้ตามปกติ และตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นมา มีลูกค้าเข้ามาในโชว์รูมรถยนต์ลดลงกว่า 50% เพราะหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน ซึ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมของตลาดรถยนต์ในประเทศตอนนี้เงียบเหงา

ทั้งนี้ กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท. ได้ตั้งเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปี 64 ไว้ที่ 1.5 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและผลิตเพื่อส่งออกอย่างละ 750,000 คัน ซึ่งการผลิต จำหน่ายและส่งออกเม.ย.ปีนี้และรวม 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ปีนี้มีแนวโน้มว่าจะมีโอกาสเกินเป้าหมายดังกล่าวได้แต่ด้วยจากการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่จะกระทบต่อกำลังซื้อในประเทศ ประกอบกับการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ (ชิป) ทั่วโลกที่มีการประเมินว่าจะลากยาวไปถึงปี 65 ทำให้กลุ่มฯ จึงต้องขอเวลา 2 เดือนติดตามสถานการณ์เหล่านี้ให้ชัดเจนก่อนที่จะมีการปรับเป้าหมายเพิ่มหรือไม่


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

โลกการเงินมุ่งหน้าสู่กระแสยุคดิจิทัลไม่หยุดยั้ง มาคราวนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED เตรียมรวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับหัวกะทิ ถกจริงจังเรื่องการสร้างเงินดิจิทัล 'ดอลลาร์' ออกสู่ตลาดในสหรัฐฯ ในปีนี้

แผนการสร้างเงินดิจิทัล ดอลลาร์ ได้เริ่มมีการศึกษาข้อมูลโดยทีมงานของ FED มานานหลายปี และในที่สุดก็เริ่มเป็นโครงการจริงจังเสียที โดย FED ได้ให้ทีมวิจัยชั้นนำจากสถาบัน Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT มาวิเคราะห์ข้อมูลในการสร้างเงินดิจิทัล ดอลลาร์ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปี 2020

นาย เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่าตอนนี้ทาง FED ก็ได้รับข้อมูลพร้อมเรียบร้อยแล้ว เตรียมเปิดประชุมหารือกันอีกครั้งภายในกลางปีนี้ ที่หลายฝ่ายต่างคาดหมายว่า ดิจิทัล ดอลลาร์ มาแน่!! ไม่นานเกินรอ

แต่ทั้งนี้ ทาง FED ย้ำว่า ดิจิทัล ดอลลาร์ ไม่ใช่เงิน Crypto อย่าง Bitcoin หรือ Dogecoin ที่เป็นการซื้อขายนอกระบบธนาคารใน Blockchain ซึ่งไม่อิงกับค่าเงินสกุลใด ๆ ในโลก แต่ดิจิทัล ดอลลาร์ ยังคงอยู่ในระบบเดียวกับเงินดอลลาร์ที่ใช้กันอยู่ในสหรัฐฯ และยังอยู่ภายใต้การดูแลของ FED

ทว่าเงินดิจิทัล ดอลลาร์ จะทลายข้อจำกัดหลายอย่างของธนบัตรดอลลาร์ ที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้การใช้เงินแพร่สะพัดได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก และเข้าถึงผู้ใช้ทุกกลุ่ม แม้แต่กลุ่มคนชั้นรากหญ้าที่ไม่สามารถเข้าแหล่งทุนในระบบธนาคารได้ แถมยังเป็นการแก้ปัญหา Pain Point ใหญ่ในระบบเงินดิจิทัล คือมีค่าเงินที่เสถียรกว่าเงิน Crypto Currency นั่นเอง

สำหรับสิ่งที่ FED คาดหวังอย่างมาก กับการสร้างเงินดิจิทัล คอลลาร์ ในระบบการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของระบบการเงินของโลก คือการสกัดอิทธิพลจากเงิน ดิจิทัล หยวน ที่รัฐบาลจีนได้เริ่มทดลองปล่อยออกมาใช้แล้วตั้งแต่ปี 2020 ใน 4 เมืองนำร่อง อย่าง เสิ่นเจิ้น ซูโจว เฉิงตู และ สงอัน และในปีนี้จีนได้ปล่อยให้ใช้ในระบบเพิ่มอีก 6 เมืองสำคัญของจีน ที่ เซี่ยงไฮ้ ไห่หนาน ฉางซา ต้าเหลียน ซีอาน และ ชิงเต่า

และเมื่อใดก็ตามที่จีนสามารถปล่อยให้มีการใช้เงินดิจิทัล หยวน ได้อย่างเต็มรูปแบบ ก็จะเพิ่มศักยภาพให้กับเงินหยวนจีน ในการเป็นสื่อกลางการค้าระหว่างประเทศ และย่อมมีผลต่อการถือครองเงินดอลลาร์ในตลาดโลกที่ลดลงได้ ที่น่าจะเป็นเหตุผลหลักในการผลักดันให้ FED เร่งแผนการใช้ดิจิทัล ดอลลาร์ ให้ได้ในเร็ววันนี้

และนอกจาก ดิจิทัล หยวน และ ดิจิทัล ดอลลาร์ ที่กำลังจะออกมาฟาดฟันกันในระบบการเงินโลกแล้ว ล่าสุดกลุ่มสหภาพยุโรปเตรียมพิจารณาออก ดิจิทัล ยูโร เช่นเดียวกัน เพื่อรักษาอำนาจของเงินยูโรในท้องตลาด และคาดว่าหลายประเทศแถวหน้าของโลก ทั้งอินเดีย ญี่ปุน เกาหลีใต้ ก็มีแผนการที่จะออกเงินดิจิทัล สกุลเงินในประเทศในปีนี้

และด้วยกระแสเงินดิจิทัลที่กำลังจะมาในเร็ววันนี้ อาจจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้เงินของมนุษย์เราไปตลอดกาลก็เป็นได้

 

อ้างอิง : https://www.cnbc.com/2021/04/19/central-bank-digital-currency-is-the-next-major-financial-disruptor.html

https://www.marketwatch.com/story/fed-will-launch-a-broad-discussion-of-a-digital-dollar-this-summer-powell-says-11621534045?mod=home-page

https://en.wikipedia.org/wiki/Digital_renminbi


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

‘อลงกรณ์’ ร่วมปกป้องเพชรบุรี ระดมพลคนเพชรฯ ผนึก 3 กระทรวง ‘เกษตร-สาธารณสุข-พาณิชย์’ สนับสนุนทีมจังหวัดเดินหน้ายุทธศาสตร์ ‘1ปิด1เปิด’ เร่งขจัดโควิด ‘สาธิต’ ยืนยันเตรียมส่งวัคซีนระดมฉีดโดยเร็ว ‘กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย’ พร้อมมอบเงินสนับสนุนโรงพยาบาลพระจอมเกล้า

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะอดีตส.ส.เพชรบุรี เปิดเผยวันนี้ว่า (21 พ.ค.) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากคลัสเตอร์โรงงานแคลคอมพ์ ในอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรีที่รุนแรงมากขึ้น ตนจึงได้ประสานกับ 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ พร้อมกับระดมพลคนเพชรบุรีและภาคเอกชนร่วมมือกันเดินหน้ายุทธศาสตร์ ‘1ปิด1เปิด’ สนับสนุนจังหวัดเพชรบุรีในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทันทีตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เป็นต้นไป

จากการประสานงานกับทีมจังหวัดเพชรบุรีและดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในวันที่ 22 พ.ค. 64 (กรมปศุสัตว์โดยด่านเพชรบุรีจะส่งทีมฉีดพ่นฆ่าเชื้อปฏิบัติการในเขตอำเภอเขาย้อยตามพื้นที่ที่ทางศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าอำเภอเขาย้อยที่มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการและนายอำเภอเขาย้อยกำหนด ทั้งนี้อธิบดีกรมปศุสัตว์พร้อมสนับสนุนทีมและน้ำยาฆ่าเชื้อมาเสริมเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในพื้นที่เสี่ยงในเขตอำเภอเขาย้อยและพื้นที่เฝ้าระวังในอำเภออื่น ๆ

นอกจากนี้ได้ประสานกับดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งส่งฉีดวัคซีนมาให้โดยเร็วที่สุด เช่นเดียวกับกรณีการระบาดของคลัสเตอร์ตลาดกุ้งและโรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร

ส่วนการเปิดเศรษฐกิจนั้น ในวันอาทิตย์ 23 พ.ค.64 จะจัดทีมอีคอมเมิร์ซของกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ บริษัทไปรษณีย์ไทย หอการค้า สภาอุตสาหกรรม AIC และทีมจังหวัดเพชรบุรีลงพื้นที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรที่อำเภอท่ายางและอำเภอบ้านลาดเพื่อส่งเสริมการค้าการขายด้วยระบบอีคอมเมิร์ซตลาดกลางสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ ‘1ปิด1เปิด’ คือการเร่งปิดเกมโควิด-19 พร้อมกับเปิดเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน

ถ้าล็อคดาวน์อย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องดูแลปัญหาเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน เพราะชาวบ้านต้องกินต้องใช้ ธุรกิจการค้าต้องประกอบการและเกษตรกรต้องขายผลผลิตทุกวัน อย่าง 2 วันที่ผ่านมาได้เร่งแก้ปัญหาโรคระบาดลัมปีสกินในวัวที่จังหวัดเพชรบุรีก็ใช้ยุทธศาสตร์ ‘ปิด1เปิด’ เช่นกันคือ ขจัดการแพร่ระบาดพร้อมกับผ่อนปรนให้ส่งโคจำหน่ายขายข้ามเขตไปโรงชำแหละได้สำเร็จเป็นครั้งแรกภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของกรมปศุสัตว์ด้วยความร่วมมือระหว่างกลุ่มเกษตรกร ฟาร์มวัว กรมปศุสัตว์และทีมจังหวัดเพชรบุรี

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้มีโรงพยาบาลสนามโดยโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเป็นผู้ดูแลได้เปิดรองรับผู้ติดเชื้อในจังหวัดเพชรบุรีหลายแห่งยังต้องการการสนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ แจ้งว่ากลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยพร้อมบริจาคเงินจำนวน 2 แสนบาทเพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลพระจอมเกล้าโดยมอบนายอภิชาติ สุภาแพ่ง นายอรรถพร พลบุตรและ ดร.กัมพล สุภาแพ่ง เป็นตัวแทนมอบในวันจันทร์ที่ 24 พ.ค.นี้


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top