Monday, 24 June 2024
NewsFeed

ผบ.ทร./ รอง ผอ.ศรชล. และคณะ เดินทางตรวจเยี่ยม ศรชล.ภาค 1 พื้นที่จังหวัดชุมพร

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร./ รอง ผอ.ศรชล. และคณะ เดินทางตรวจเยี่ยม ศรชล.ภาค 1 พื้นที่จังหวัดชุมพร โดยมี น.อ.ชำนาญ สอนแพง รอง ผอ.ศรชล.จว.ชพ. พร้อมด้วย น.อ.กุลเชษฐ์ ศิริสืบหน.ศคท.จว.ชพ. ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานในปี 2567 ทีjผ่านมา โดย ผบ.ทร/รอง.ผอ.ศรชล ได้กล่าวให้กำลังใจ แนวทางการปฏิบัติงานและรับฟังปัญหา เวลา 14.30 น. ผบ.ทร./รอง ผอ.ศรชล. เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดชุมพร โดยมีนายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้การต้อนรับและหารือข้อราชการที่สำคัญ ณ ห้องรับรองหาดทรายรี หลังจากนั้นได้ตรวจเยี่ยมห้องปฏิบัติงาน ศรชล.จว.ชพ. ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชุมพร ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

ผบ.ทร./รอง ผอ.ศรชล. เยี่ยมให้กำลังใจ ศรชล.ภาค 1

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (รอง ผอ.ศรชล.) พร้อมด้วยคณะติดตาม เดินทางตรวจเยี่ยม ศรชล.ภาค 1 พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดยมี น.อ.ชลทัย รัตนเรือง รองผอ.ศรชล.จว.พบ. ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานในปี 2567 ที่ผ่านมา โดยพล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร/รอง.ผอ.ศรชล ได้กล่าวให้กำลังใจ จนท.กำลังพล ศรชล.จว.พบ.ในการปฏิบัติงาน 

จากนั้นเวลา 10.10 น. พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร/รอง​ ผอ.ศรชล. ได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี โดย นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี/ผอ.ศรชล.จว.พบ. ได้มอบหมายให้ นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีให้การต้อนรับและหารือข้อราชการที่สำคัญ ณ ห้องรับรอง​ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี​ ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย

‘ก.ยุติธรรมสหรัฐฯ’ จ่อยื่นฟ้อง ‘Live Nation’ บ.ยักษ์ใหญ่ด้านบันเทิง คดีแข่งขันทางการค้า หลังเผชิญคำวิจารณ์หลายด้านจากแฟนคลับ

เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.67) แหล่งข่าววงในหลายคนเผยกับสำนักข่าวซีบีเอส นิวส์ พันธมิตรของบีบีซีว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (ดีโอเจ) เตรียมยื่นฟ้อง ‘ไลฟ์ เนชั่น เอ็นเทอร์เทนเม้นท์’ (Live Nation Entertainment) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการบันเทิง ด้วยคดีเกี่ยวกับการแข่งขันทางการค้าในช่วงเช้าของวันนี้

โดยแหล่งข่าวคาดว่า อัยการอาจดำเนินคดีที่สร้างความท้าทายต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทแม่ของทิกเก็ตมาสเตอร์ (Ticketmaster) ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จากหลายคดีที่ผ่านมาเมื่อดีโอเจยื่นฟ้องร้องเกี่ยวกับปัญหาด้านการแข่งขัน หน่วยงานจะพยายามบังคับให้บริษัทแยกธุรกิจของตนเองออกจากกัน หรือเปลี่ยนแนวทางการบริหาร

ซีบีเอส นิวส์ รายงานว่า รัฐบาลเตรียมเข้าไปมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการดำเนินคดีทางกฎหมายที่มีความท้าทายนี้ ซึ่งจะมีอัยการสูงสุดระดับรัฐเข้าร่วมจำนวนมาก

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของดีโอเจเข้าไปตรวจสอบบริษัทอยู่เป็นเวลาหลายปี โดยในปี 2565 ซีบีเอส นิวส์ รายงานว่าดีโอเจกำลังจับตาไลฟ์ เนชั่นอยู่ รวมถึงบริษัทในเครืออย่าง ‘ทิกเก็ตมาสเตอร์’ ด้วย

ด้านดีโอเจปฏิเสธแสดงความเห็นเมื่อบีบีซีติดต่อไป ขณะที่ไลฟ์ เนชั่น ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ

อนึ่ง ไลฟ์ เนชั่น เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ก่อตั้งมาจากการรวมธุรกิจไลฟ์ เนชั่น ผู้ให้บริการโปรโมตงานต่าง ๆ ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐ กับบริษัททิกเก็ตมาสเตอร์ ผู้ให้บริการจำหน่ายตั๋ว เมื่อปี 2553

ที่ผ่านมาไลฟ์ เนชั่น เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ เผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนคลับ ผู้บัญญัติกฎหมาย ศิลปิน และคู่แข่งมากขึ้น และถูกกล่าวหาว่า มีอิทธิพลต่องานบันเทิงสดมากเกินไปในสหรัฐ และในหลายประเทศทั่วโลก

ในเดือน พ.ย.2565 แฟนคลับเทย์เลอร์ สวิฟต์ ต่างไม่พอใจทิกเก็ตมาสเตอร์อย่างมาก เนื่องจากเว็บไซต์จองตั๋วล่มในระหว่างพรีเซลล์คอนเสิร์ต Eras Tour

ทั้งนี้ หลังมีข่าวดีโอเจจ่อยื่นฟ้อง หุ้นไลฟ์ เนชั่น ร่วงมากกว่า 6% หลังช่วงเวลาซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก

'พิธา' โผล่!! เวทีประชุมความเป็นผู้นำแห่งเอเชีย ประเทศเกาหลีใต้ ย้ำ!! ‘ก้าวไกล’ เป็น ‘สะพาน’ เชื่อมช่องว่างความขัดแย้งของสังคม

เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.67) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ขึ้นเวทีเสวนาในงานประชุม Asian Leadership Conference (งานประชุมความเป็นผู้นำแห่งเอเชีย) ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

ทั้งนี้ ระหว่างเสวนา พิธาได้ตอบคำถามจากพิธีกรหลายคำถาม เริ่มด้วยการอธิบายแนวคิดและยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกลที่ทำให้ชนะการเลือกตั้ง และเหตุการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงผลกระทบต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทย เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และบทเรียนต่อนักการเมืองและผู้นำรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมฟังการเสวนาในวันนี้

โดยพิธายังได้อธิบายถึงการต่อสู้ของประชาชนต่อระบอบอำนาจของชนชั้นนำและผลพวงของระบอบรัฐประหาร พร้อมย้ำถึงความพยายามและความจริงใจของพรรคก้าวไกลในการหาฉันทามติใหม่ของสังคมไทย

พิธากล่าวถึงช่องว่างความขัดแย้งต่าง ๆ ในสังคมไทย และย้ำว่าพรรคก้าวไกลได้เสนอตัวและมองตัวเองเป็น ‘สะพาน’ ที่เชื่อมระหว่างความขัดแย้งเหล่านี้ โดยหวังให้ผู้มีอำนาจมองถึงความจริงใจ นอกจากนี้ พิธาได้กล่าวถึงความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันทางการเมืองต่าง ๆ ของการเมืองไทย ด้วยความหวังที่จะลดโอกาสของความรุนแรงและการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

เมื่อพิธีกรถามว่าเขามองความเปลี่ยนแปลงอย่างไรในเมื่อกลุ่มหนึ่งอยากให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อีกกลุ่มหนึ่งอาจไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งพิธาตอบว่าการเปลี่ยนแปลงต้องมีจังหวะทั้งช้าทั้งเร็วเหมือนทำนองดนตรี บางอย่างที่สำคัญก็อาจต้องเปลี่ยนแปลงก่อน บางอย่างที่ต้องใช้ความรอบคอบและใช้เวลาก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่า และดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมต่ออนาคตของประเทศไทยอย่างแท้จริง

จากนั้นพิธาได้เน้นย้ำถึงความฝันของคนไทย เมื่อพิธีกรถามว่าเขามองอนาคตประเทศไทยอย่างไร พิธาตอบว่าความฝันของคนไทยนั้นเรียบง่าย คืออยากเห็นครอบครัวคนไทยที่สามารถมีชีวิตที่ดี มีปากท้องที่ดี สามารถทำงานและเลี้ยงครอบครัวได้ และคนรุ่นใหม่ก็ต้องมองเห็นอนาคตของตัวเองด้วย แต่ความฝันเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากการเมืองไทยยังไม่ดี

‘สวทช.’ ผนึกกำลังหน่วยงานเกี่ยวข้อง จัดตั้ง ‘ธนาคารอาหาร’ หวังแก้วิกฤตปริมาณขยะอาหาร ด้วยการจัดการอาหารส่วนเกิน

เมื่อวานนี้ (23 พ.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘Salika’ โพสต์ข้อความระบุว่า…

ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตขยะอาหารที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางอาหารของประชาชนกลุ่มเปราะบาง

นอกเหนือจากการกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาขยะอาหารแล้ว การลดการสูญเสียอาหารตั้งแต่ต้นทางก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญในการลดวิกฤตปัญหาขยะอาหาร จากข้อมูลที่ได้มีการศึกษาพบว่า ประเทศไทยมีอาหารส่วนเกินมากถึงเกือบ 4 ล้านตันต่อปี ในขณะที่มีการรายงานตัวเลขของประชากรของประเทศที่มีรายได้น้อยและมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาการเข้าถึงอาหารอยู่ถึง 3.8 ล้านคน

และเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ มูลนิธิ SOS และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้เปิดตัว ‘โครงการจัดตั้งธนาคารอาหารของประเทศไทย (Thailand’s Food Bank) : การบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน คำตอบในการสร้างความมั่นคงทางอาหารและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม’

เพื่อสร้างต้นแบบระบบการบริหารจัดการอาหาร ส่งต่ออาหารส่วนเกินไปยังกลุ่มเปราะบางของสังคมไทย มุ่งลดปริมาณขยะอาหารด้วยการจัดการอาหารส่วนเกิน ลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดอาหารส่วนเกิน และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอาหาร ส่งเสริมเป้าหมายด้านการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน

‘นักเขียนซีไรต์’ ชี้!! สมัยนี้อาการ ‘เกลียดงาน’ แพร่ระบาดไปทั่ว สมัยรุ่นพ่อแม่ ต้อง ‘ขยัน-ไม่เกี่ยงงาน’ ไม่อย่างนั้นก็อดตาย

(24 พ.ค.67) นายวินทร์ เลียววาริณ นักเขียนรางวัลซีไรต์ และ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556 ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า…

ลูกของเพื่อนคนหนึ่งยังเรียนไม่จบ ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อหารายได้พิเศษได้สองวัน ก็เลิก อีกคนหนึ่งอยู่ได้สองเดือน ก็ลาออก เพราะมองไม่เห็นความก้าวหน้า

เด็กจบใหม่หมาด ๆ ทำงานได้สองเดือน คาดหวังว่าจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงทันที ออกจะรีบร้อนไปนิด

คนยุคนี้ดูเหมือนจะมีความอดทนต่ำ มองไปทางไหน เราได้ยินคนบ่นเรื่องงาน เจ้านายตลอดเวลา

อาจเพราะเราอยู่ในโลกที่พ้นภาวะความอดอยากมาแล้ว จนลืมไปว่าการไม่มีกินเป็นอย่างไร

ในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1929 สหรัฐอเมริกาเกิดเหตุการณ์ตลาดหุ้นล่ม เป็นผลให้เศรษฐกิจล่ม (The Great Depression) ชาวอเมริกันสิบห้าล้านคนตกงาน กระเทือนไปทั่วโลกนานสิบปี

เวลานั้นทุกเช้าที่หน้าโรงงานต่าง ๆ มีคนไปรอหางานทำ แต่โรงงานจะเรียกคนเพียงจำนวนหนึ่งไปทำงานคนที่ถูกเรียกได้ค่าแรงของวันนั้นไปต่อชีวิต คนที่ไม่ถูกเรียกก็กลับบ้าน รุ่งขึ้นก็ไปรอใหม่เผื่อถูกเรียกตัว

ผมเกิดปลายยุค ‘เสื่อผืนหมอนใบ’ นั่นคือพ่อแม่ผ่านความลำบากแบบสุดขีดมาแล้ว แต่ก็ยังต้องทำงานหนักทุกวัน วันไหนไม่ทำงานก็อด สิ่งที่ผมเรียนรู้คือคนสมัยนั้นไม่เกี่ยงงานจริง ๆ

คนจีนยุค ‘เสื่อผืนหมอนใบ’ ไม่คิดว่างานสนุกหรือไม่สนุก เพราะถือคติว่า ‘งานที่มีก็คืองานที่ดี’

ญาติผู้ใหญ่ของผมเคยสั่งสอนหลานคนหนึ่งที่ลังเลว่าจะไปทำงานเป็นบ๋อยโรงแรมดีหรือไม่ ผู้ใหญ่บอกว่า เงินเดือนของบ๋อยไม่มาก แต่มักได้รับทิป อีกทั้งแขกที่มาพักมักจะให้บ๋อยไปซื้อข้าวมาให้ และเลี้ยงบ๋อยด้วย วันละห่อสองห่อ ก็ประหยัดค่าข้าวได้มาก อย่ารังเกียจงานที่คนอื่นมองว่าต่ำต้อย เป็นบ๋อยก็สามารถมีเงินเก็บได้

ตั้งแต่เด็กผมเห็นญาติทุกคนทำงานตัวเป็นเกลียว คนนี้ทำงานเป็นลูกจ้าง คนนั้นกรีดยางในสวน ค้าขายในตลาด ฯลฯ ทำอะไรก็ได้ เป้าหมายเพื่อไม่อดตาย เพราะเชื่อว่า ถ้าทำดีพอ ก็ลืมตาอ้าปากได้ ผมไม่เคยได้ยินใครบ่นสักคำว่า “งานน่าเบื่อ” หรือ “ชั่วโมงยาว” หรือ “ทำงานวันเสาร์หรือเปล่า?”

ถึงงานจะไม่สนุกหรือทรมาน ก็อดทน ความอดทนเป็นโหมดบังคับของชีวิต

ผมเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดี เพราะสมัยผมใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ต้องทำงานที่ไม่ชอบเพื่อหาเงินมาเรียนต่อ และผมก็ผ่านชีวิตช่วงนั้นมาได้เพราะจดจำภาพญาติ ๆ ที่ทำงานหนักโดยไม่บ่น ทำให้เราบ่นไม่ออก

ตอนคนเราไม่มีกิน ไม่ค่อยเลือกงาน

แปลกที่ในสมัยนี้คนบางคนไม่มีกิน แต่ยังเลือกงาน แม้ไม่มีทางเลือกมาก ก็ยังเกี่ยงงาน

อาการเกลียดงานแพร่ระบาดไปทั่ว บ้างเป็นความเกลียดบนพื้นฐานที่มีเหตุผล เช่นงานเลวร้ายต่อสุขภาพ ทำให้ครอบครัวแย่ลง เจ้านายเอาเปรียบจริง บ้างก็เป็นแค่การมองโลกในแง่ลบ ได้งานดีแค่ไหนก็บ่น

นี่ไม่ใช่ความรู้สึกที่กระทบจากงาน แต่เป็นนิสัยขี้บ่นเท่านั้น เป็นนิสัยไม่เคยพอใจงานที่มี ครอบครัวที่มี สิ่งที่มี

ชาวโลกจำนวนมากมีภาพว่า งานที่ตนทำเลวร้ายกว่างานของคนอื่นเสมอ มันอาจเป็นความจริงหรือไม่เป็นความจริงก็ได้ การงานของบางคนเลวร้ายจริง ๆ ทว่าคนที่ประสบพบงานที่เลวร้ายจริง ๆ  ก็สามารถเปลี่ยนงานโดยไม่จำเป็นต้องก่นด่าโลก

แต่คนบางคนมองชีวิตในมุมลบ บ่นทุกอย่างที่ขวางหน้า

นิสัยขี้บ่นแบบนี้จะทำให้ไม่มีความสุขในชีวิต ไม่เฉพาะเรื่องงาน แต่ลามไปถึงเรื่องครอบครัว เพื่อน เพื่อนบ้าน หรือกระทั่งคู่ชีวิต

เมื่อสวมแว่นดำทึบ ทุกภาพที่เห็นย่อมมืดหม่น

การบ่นเป็นนิสัยมีแต่ทำให้โลกหมองเศร้า ทว่าหากไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองให้ดีขึ้นได้ ก็ลองวิธีง่าย ๆ คือ หยุดเปรียบชีวิตตนกับคนที่ดีกว่า

ลองเปรียบกับคนในยุค The Great Depression ลองจินตนาการว่าตนเองอยู่ในยุคนั้น กำลังยืนหน้าโรงงานรอลุ้นว่าเขาจะเรียกเราไปทำงานหรือไม่ ถ้าเขาไม่เรียก เรากับครอบครัวก็ไม่มีกินในวันนั้น

งานน่าเบื่ออาจดีกว่าไม่มีงาน

เมื่อกำลังลอยคอกลางทะเล เราจะสนใจหรือว่าขอนไม้ที่เราเกาะพยุงสวยหรือไม่สวย

เรียนรู้ที่จะพอใจในชีวิตที่ตนมี ทำให้อะไร ๆ ในชีวิตง่ายขึ้น ปลอดโปร่งขึ้นมาก

จาก เหตุผลที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า 

สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 สุดยิ่งใหญ่แห่งปี

สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทยประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 จัดอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเครือข่ายกับการลดพฤติกรรมความรุนแรงในสังคม เสริมพลังครอบครัวคนพิการ ด้านการส่งเสริมอาชีพ รวมทั้งเสริมพลังองค์กรเครือข่ายให้เข้มแข็ง และประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 22 – 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุมสิรินภา โรงแรมหรรษา เจบี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

โดยงานครั้งนี้ 'นางวิไลวรรณ สุวรรณรักษา' พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดสงขลา​ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน โครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำเครือข่ายกับการลดพฤติกรรมความรุนแรงในสังคม เสริมพลังครอบครัวคนพิการ ด้านการส่งเสริมอาชีพ รวมทั้งเสริมพลังองค์กรเครือข่ายให้เข้มแข็ง และประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 พร้อมมอบโล่รางวัล โดยมี 'นางสาวฐิติพร พริ้งเพลิด'  อุปนายกคนที่ 2 สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ให้ทราบพอสังเขปดังนี้

1. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมรวมทั้งครอบครัวคนพิการ มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแล การฟื้นฟู และการให้ความช่วยเหลือคนพิการทางจิตที่มีพฤติกรรมรุนแรงอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งส่งเสริมอาชีพ แก่คนพิการและครอบครัว และแกนนำชมรมเครือข่าย ด้วยการเปิดบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์
2. เพื่อจัดทำแผนขับเคลื่อนงานของสมาคมฯรวมทั้งเครือข่ายภาค เขต และชมรมตะวันทอแสงปี 2568
3. จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 และรายงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของสมาคมฯ
​​​​​สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย  ก่อตั้งเมื่อวันที่  27  มีนาคม  2546 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลา  21 ปี

​​การจัดโครงการฯในวันนี้ จะดำเนินการระหว่างวันที่  22 – 25 พฤษภาคม 2567 โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ มาจากแกนนำเครือข่ายเพื่อผู้บกพร่องทางจิตระดับภาค/เขต คนพิการทางจิตและผู้ดูแลจากพื้นที่ต่างๆ ผู้แทนจากสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดพิษณุโลก ผู้แทนจากสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้แทนจากสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดนครราชสีมา ผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต ผู้แทนจากหน่วยงานสาธารณสุข ผู้แทนจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา ผู้แทนจากตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ผู้แทนจาก สปสช.เขต 12 ผู้แทนจากศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 จังหวัดสงขลา กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอปต.) และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมจำนวน 871 คน  

“สำหรับงานในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้สังคมรับรู้ว่า ปัจจุบันผู้บกพร่องทางจิตสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไป และมีความสุข อยากจะให้ทุกๆคนในสังคมหันกลับมาให้ความสำคัญและช่วยทำให้ความเท่าเทียมกันเกิดขึ้นในสังคมไทย”

ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น การออกบูธจำหน่ายสินค้าจากผู้บกพร่องทางจิตทั่วทุกภูมิภาค และการออกบูธขององค์กรภาครัฐด้านสุขภาพจิต เพื่อให้คำแนะนำ ปรึกษาทางออกด้านสุขภาพจิตให้กับผู้ที่มาร่วมงานโดยมีทีมจิตเวช ที่จะคอยดูแลตลอดระยะเวลาให้คำปรึกษา (กอช.) การออมแห่งชาติแนะนำการเก็บออมเงินให้กับคนพิการ บูธนิทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สนง.พมจ.สงขลา บูธของ รพ.จิตเวชสงขลา บูธปฐมพยาบาลจาก รพ.หาดใหญ่ บูธจาก ม.สงขลานครินทร์ บูธจาก สปสช.เขต 12 และอื่น ๆ ภายในงานมีการเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็นจากนักวิชาการ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผู้บกพร่องทางจิตที่เข้ารับการรักษาฟื้นฟูจนหายกลับมาสู่การใช้ชีวิตปกติ การแสดงมากมายจากผู้บกพร่องทางจิตทั่วทุกภูมิภาค และกิจกรรมอีกมากมายภายในการจัดงานครั้งนี้

นางนุชจารี คล้ายสุวรรณ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารและที่ปรึกษาสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงงานในครั้งนี้ว่า “เป็นโอกาสดีที่สังคมจะได้รู้และเข้าใจคนพิการทางจิตมากขึ้น และหันมาให้ความสนใจกับความสำคัญของการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บกพร่องทางจิตได้กลับคืนสู่สังคม บนเส้นทางที่พร้อมจะสร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้และสร้างตัวตน ยืนหยัดในสังคมด้วยความเท่าเทียม และเป็นมิตรกับทุก ๆ คน”

‘หนุ่ม’ โอนเงินผิดบัญชี 6,000 บาท ติดต่อขอคืน แต่อีกฝ่ายบอกโอนมาเอง ซ้ำ!! ขอผ่อนวันละ 1 บาท 10 บาท 20 บาท ถ้าไม่เอาก็พร้อมสู้ในศาล

(24 พ.ค.67) เป็นอีกเรื่องราวที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อ ‘เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 7’ โพสต์คลิปการสนทนาของผู้เสียหายรายหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “เล่าเรื่องจากหลังไมค์ ตอนคุณโอนผิดมา เราไม่ได้ขอร้องให้คุณโอนผิด โอนเงินผิดบัญชีจะบิดหนีและขอใช้หนี้วันละบาท”

“พอดีผมมีเรื่องการโอนเงินผิดไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่กำแพงเพชร เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท ซึ่งหลังจากวันโอน ผมได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพักคอหงส์ หาดใหญ่ และได้ไปแจ้งกับธนาคารกรุงเทพสงขลา ธนาคารก็ได้หาเบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้น แล้วโทรไป แต่สามีของเขารับสาย บอกว่าแฟนไม่อยู่ ทำงานออกกะดึกอยู่โรงงานน้ำตาลในกำแพงเพชร ธนาคารเลยแจ้งว่ารบกวนให้แฟนโอนกลับมาได้ไหม”

“ซึ่งเขาได้บอกว่าให้โทรไปคุยกับภรรยาเขาเองหลังสองทุ่ม หลังจากวางสาย ธนาคารกรุงเทพ สาขาสงขลาบอกจะติดต่อสาขากำแพงเพชร ให้แจ้งผู้หญิงคนนั้นมาเซ็นยินยอมให้ ภายในสองอาทิตย์ให้ผมติดต่อกลับไปธนาคารเช็กดูอีกครั้ง หลังจากนั้นธนาคารก็ให้เบอร์เขามา”

“ในคืนนั้นซึ่งผมกับแฟนผมโทรไป เขาก็ไม่รับ เว้นมาประมาณสองวัน ผมโทรไป เขาก็ไม่รับอีก ผมเลยให้แฟนโทรไป ปรากฏว่าสามีเขารับ พอขอสายภรรยาเขา เขาบอกว่าไปตลาดและวางสาย ผมก็เลยตัดสินใจโทรไปถามธนาคารว่า เงินยังอยู่ในบัญชีเขาอีกไหม ปรากฏว่าเขากดออกมาแล้ว หลังจากนั้นก็โทรติดต่อเขาไม่รับสายอีกเลย ก็เลยไปแจ้งความที่โรงพัก ซึ่งโรงพักบอกกับผมว่า ต้องแจ้งความกับร้อยเวรที่รับเรื่องในวันที่ 21 พ.ค. แต่ผมต้องลงมาทำงานในแท่นขุดเจาะเสียก่อน เลยทำให้แจ้งความไม่ได้”

“จากนั้นผมให้น้องที่กำแพงเพชร สืบหาที่อยู่ของเขาที่กำแพงเพชร น้องเขาไปตามให้ แต่ไม่พบตัว เจอแต่แม่ของเขา แม่ของเขาได้โทรไปหา ให้คุยกัน เขารับสาย แต่บอกว่าเขาไม่ผิด”

โดยในคลิปเป็นการพูดคุยเจรจากับหญิงรายดังกล่าวทางโทรศัพท์ ซึ่งเขาบอกว่า ตอนโอนมา ไม่ได้ขอให้โอนมา แล้วไม่ใช่ว่าจะไม่โอนคืนให้ แต่ขอโอนคืนวันละบาท สิบบาท ยี่สิบบาทก็ได้ และถ้าเจรจาตกลงกันไม่ได้ก็ไปขึ้นศาล พร้อมสู้

ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า ตอนนี้ตนอยู่ทะเล ทำให้ไปแจ้งความไม่ได้ ตอนที่อยู่บนบก ทำได้แค่ลงบันทึกประจำวัน ทางตำรวจอ้างว่า ต้องไปแจ้งกับร้อยเวรที่รับเรื่องที่แรก ทำให้ตอนนี้ตนทำอะไรไม่ได้ แถมปลายทางก็ไม่ยอมโอนคืน ตนรู้สึกว่า ทำแบบนี้มันไม่สมควร

‘มาดามแป้ง’ แต่งชุดผ้าไหมไทย สวยสะดุดตา งดงามเลอค่า แบรนด์เนมต้องหลีกทางให้

(24 พ.ค. 67) เพจ Bangkok I Love You ได้โพสต์ภาพ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ที่สวมชุดผ้าไหม ระบุว่า…

“มาดามแป้งในชุดผ้าไหม กับน้อง ๆ ทีมงานในชุดไทยบรมพิมาน งดงามเลอค่าดูแพงมาก ๆ เลยครับ แบรนด์เนม หลีกทางให้เลย 

ที่สำคัญประชุม FIFA Congress 2024 หรือ ฟีฟ่า คองเกรส ที่ประเทศไทยได้ชาติแรกในอาเซียน ในการเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งที่ 74 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นับว่าอีเวนต์นอกสนามที่ใหญ่สุดของฟีฟ่า และ ‘มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำ’ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็สามารถจัดงานออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ และประทับใจผู้เข้าร่วมประชุมจากนานาชาติกว่า 3,000 คน

‘เจอร์รี่ F4’ รักแรกสาวไทย ปรากฏตัวร่วมอีเวนต์สยามพารากอน แม้ผ่านมากว่า 20 ปี หลังบท ‘เต้าหมิงซื่อ’ แต่ความหล่อยังเป๊ะ!!

(24 พ.ค. 67) แฟนคลับกรี๊ดต้อนรับกันสนั่น ทำเอาสยามพารากอนแทบแตก เมื่อพระเอกชื่อดังจากไต้หวัน ‘เจอร์รี่ หยาน’ (Jerry Yan) หรือ ‘เจอร์รี่ F4’ ปรากฏตัวในงาน Tiffany & Co. เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ใหม่ล่าสุด ณ สยามพารากอน

ซึ่ง เจอร์รี่ ถือว่าเป็นสามีคนแรก ๆ ของสาวเอเชีย โดยแฟนคลับชาวไทยรู้จักกันดีจาก ซีรีส์ยอดฮิต F4 เวอร์ชันไต้หวัน (Metro Garden) ‘รักใสใสหัวใจสี่ดวง’ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ในบทบาท ‘เต้าหมิงซื่อ’ รักแรกของสาวไทย

โดยเจอร์รี่มาในลุกส์สุดเท่ แต่คงความขี้เล่นตามสไตล์ โดยได้มีการโพสท่าให้สื่อมวลชนได้ถ่ายรูป และมีโมเมนต์น่ารัก น่ารัก ให้ได้เก็บภาพมาชม

และนอกจากนี้ เจอร์รี่ ยังได้ประกบคู่กับ Tiffany & Co. House Ambassador ของประเทศไทยอย่าง วิน เมธวิน ด้วย ทั้งนี้ภายในงานยังมีนักแสดงดัง อาทิ ฟอส จิรัชพงศ์ , มีน นิชคุณ , เชอรี่ เข็มอัปสร , ปอนด์ ณราวิชญ์ และ แบม สราลี ซึ่งแต่ละคนก็มาในลุกส์ที่เรียบโก้ สวยหล่อดูดีกันทุกคน

สำหรับความพิเศษของแฟล็กชิพสโตร์ Tiffany & Co. แห่งใหม่ล่าสุดใจกลางกรุง ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน คือ การตกแต่งภายใต้แนวคิดการออกแบบล่าสุดของแบรนด์ เป็นการเฉลิมฉลองมรดกแห่งงานฝีมือเหนือกาลเวลาและงานออกแบบโดดเด่นที่อยู่คู่แบรนด์ Tiffany & Co. มานานนับศตวรรษ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top