Tuesday, 2 July 2024
NewsFeed

'อ.เจษฎา' เผย!! อันตรายหลังเลิกอดข้าว แล้วกลับมากินใหม่ เผื่อเป็นแนวทางในการดูแล 'ผู้ประสบเหตุ' ที่ต้องอดอาหาร

(17 พ.ค.67) จากการเสียชีวิตของ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ก่อนหน้านี้เคยอดอาหารประท้วงจนป่วย และกลับมาทานอาหารอีกครั้ง ก่อนจะเสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ล่าสุด รศ. ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์และอาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า

(note: โพสต์นี้เป็นการให้ข้อมูลเชิงวิชาการ ไม่ได้โพสต์วิพากษ์วิจารณ์สังคม แต่อย่างไรนะครับ)

ระวัง ‘รีฟีดดิ้ง ซินโดรม (Refeeding Syndrome)’ อันตรายหลังเลิกอดข้าว แล้วกลับมากินใหม่

หลังจากมีข่าว คุณบุ้ง นักกิจกรรมทางการเมือง เสียชีวิตหลังจากที่เคยอดอาหารประท้วงจนป่วย และกลับมาทานอาหารอีกครั้ง (ภายใต้การดูแลของแพทย์) เลยทำให้นึกถึงคำเตือนสมัย ‘13 ทีมหมูป่า ติดถ้ำ’ เรื่อง ‘อย่ารีบกินอาหาร หลังจากอดข้าวมานานหลายวัน อาจเกิดภาวะ Refeeding Syndrome ได้’ ครับ

เลยอยากจะยกเรื่องนี้ ขึ้นมาทบทวนกันหน่อย เผื่อเป็นแนวทางในการดูแลผู้ประท้วงอดอาหาร หรือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุใด ๆ จนต้องอดอาหารยาวนานหลายวัน

#ภาวะรีฟีดดิ้งซินโดรมคืออะไร

- จากกรณีนักฟุตบอลเยาวชน 13 ชีวิต ทีมหมูป่า อะคาเดมี่ ติดอยู่ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นานนับ 10 วัน มีแค่น้ำหยดให้กินเล็กน้อย ซึ่งทุกคนต้องอยู่ในภาวะขาดสารอาหาร จึงมีคำเตือนจากกลุ่มโภชนาการ ให้ระวังภาวะ ‘รีฟีดดิ้ง ซินโดรม’ (Refeeding Syndrome) เวลาช่วยเหลือออกมาได้ โดยต้องระมัดระวังการให้น้ำและอาหาร

- การเกิดรีฟีดดิ้ง ซินโดรม นั้น เป็นภาวะที่มีความรุนแรง และค่อนข้างรวดเร็ว เนื่องจากร่างกายขาดอาหารเป็นเวลานาน หากได้รับอาหารเข้าไปทันที ไม่ว่าจะเป็นจากน้ำเกลือ ที่มีน้ำตาลเด็กซโตส (Dextrose) , อาหารทางปาก , อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง , อาหารทางสาย หรืออาหารทางหลอดเลือดดำ  ก็เป็นอันตรายได้

- คนที่มีภาวะขาดสารอาหารมาก่อน สภาพร่างกายที่อดอาหารนาน ๆ จะมีการขาดแร่ธาตุ โพแทสเซียม ฟอสเฟต แมกนีเซียม และแคลเซียม ด้วย

- ดังนั้น เมื่อได้รับอาหารอีกครั้ง ร่างกายจะย่อยและดูดซึมอาหาร เพื่อให้มีการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน โดยร่างกายจะหลั่งสารอินซูลิน (Insulin) เพิ่มการสร้างไกลโคเจน (Glycogen) โดยมีวิตามินบี 1 เป็นตัวช่วย

-  ระหว่างการนำกลูโคสเข้าเซลล์ ก็จะมีการนำแร่ธาตุต่าง ๆ ดังกล่าว เข้าไปในเซลล์ด้วยเป็นจำนวนมาก

- เลยยิ่งส่งผลให้ร่างกาย เกิดภาวะแร่ธาตุในเลือดต่ำ ทำให้ระดับวิตามินบี 1 ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้เกิดภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ อย่างรุนแรง

- จะเกิดมีอาการเหนื่อย หอบ หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจเสียชีวิตได้ ซึ่งอาการเหล่านี้เรียกว่า ภาวะรีฟีดดิ้ง ซินโดรม

#แนวทางในการป้องกันภาวะรีฟีดดิ้งซินโดรม

- ก่อนจะให้อาหาร ควรให้วิตามินบี 1 ประมาณ 200-300 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับวิตามินและแร่ธาตุรวม

- การเริ่มให้อาหาร จำเป็นต้องเริ่มอาหารอ่อน ในปริมาณน้อย ๆ

- ถ้าสามารถทำได้ ควรตรวจระดับโพแทสเซียม ฟอสเฟต แมกนีเซียม และแคลเซียม ในเลือดก่อน และแก้ไขหากมีระดับเกลือแร่ผิดปกติ และติดตามอาการทางคลินิกและการเปลี่ยนแปลงระดับแร่ธาตุเหล่านี้ในเลือดอย่างใกล้ชิด

- การกินวิตามิน ที่มีส่วนประกอบของวิตามินบี 1 มีหลักการ ดังนี้

1. ก่อนจะให้อาหาร ควรให้วิตามินบี 1 ในปริมาณ 200-300 มิลลิกรัมต่อวัน 1-2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ร่วมกับวิตามินแร่ธาตุรวม วันละครั้ง และควรให้ต่อเนื่องกัน อย่างน้อย 2 วัน หรืออาจให้ต่อไปจนถึง 10 วัน หรือจนกว่าจะได้รับพลังงาน วิตามินรวม และแร่ธาตุอื่น ๆ อย่างครบถ้วนตามเป้าหมาย

2. เริ่มให้อาหาร พลังงานไม่เกิน 5-10 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัมต่อวัน ขึ้นกับภาวะทุพโภชนาการ  ค่อยๆ เพิ่มปริมาณทีละนิดภายใน 4-7 วัน โดยใน 4 วันแรก ควรให้พลังงานประมาณ 5-10 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัมต่อวัน จากนั้นค่อย ๆ ปรับเพิ่มพลังงานอย่างช้าๆ เช่น เพิ่มครั้งละ 5-10 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัมต่อวัน จนถึงพลังงานเป้าหมายภายในเวลา 4-7 วัน

และ 3. ติดตามเป็นระยะทุกวัน โดยเฉพาะในช่วง 4-7 วันแรก ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์

ถกสนั่น!! ติ๊กต็อกเกอร์ รับแอดมินช่วยตอนไลฟ์ ค่าจ้างเดือนละ 100 บาท เผย!! ที่ให้เท่านี้ เพราะรายได้ไม่เยอะและให้ทำแค่ 'จ.-พ.-ศ.' วันละชั่วโมง

(17 พ.ค.67) ปัจจุบันอาชีพ ‘อินฟลูเอนเซอร์’ เติบโตและมีอิทธิพลอย่างมากในประเทศไทย หลาย ๆ คน สร้างชื่อเสียง เงินทอง ได้จากการอัปโหลดคลิปวิดีโอลงโซเชียล จนบางครั้งเมื่อมีชื่อเสียงมากขึ้น ก็อาจจะทำงานคนเดียวไม่ไหว ต้องมีการจ้างงานคนอื่นเพิ่มเติม

ล่าสุด ดาวติ๊กต็อกคนหนึ่ง ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4.9 หมื่นคน ได้ตกเป็นประเด็นดรามาในโลกออนไลน์ หลังเธอประกาศรับสมัครคนช่วยทำงานในตำแหน่ง ‘แอดมิน’

คอยทำหน้าที่อ่านคอมเมนต์ในไลฟ์สด เนื่องจากเธอมีปัญหาทางสายตา คุณสมบัติคือ อายุ 17 ขึ้นไป, ใจเย็น, ละเอียด, รอบคอบ, ตรงต่อเวลา, พูดจาสุภาพ, มีความอดทนสูง

ทำงานวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.00 น. ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวัน หากวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลาว่างตรงกันก็สามารถนัดเวลากันได้ จากนั้นก็ได้มีคนทักไปสอบถามรายละเอียด ก่อนจะต้องตกใจ เมื่อพบว่า งานนี้ได้รับค่าจ้าง 100 บาท ต่อเดือน

เมื่อเกิดดรามาหนักขึ้น เจ้าของช่อง ก็ได้ออกมาตอบประเด็นนี้ บอกว่าเรื่อง ค่าจ้างเดือนละ 100 บาท นั้นเป็นเรื่องจริง ที่ให้เท่านี้ เพราะรายได้ของเธอก็ไม่ได้เยอะ อีกทั้งให้ทำงานแค่ จันทร์ พุธ และศุกร์ วันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

ทั้งยังบอกว่าตอนนี้ปิดรับสมัครไปแล้ว ไม่ได้อยากออกมาพูด แต่เห็นมีคอมเมนต์ถามทุกคลิป เลยออกมาเคลียร์ดีกว่า พร้อมปิดท้ายว่า “คนทำงานไม่พูด คนพูดไม่ทำงาน”

ทำเอาชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น ว่าแบบนี้ไม่เหมาะสมอย่างแรง กรมแรงงานควรตรวจสอบเพราะหากจ้างเดือนละ 100 บาท นำมาหารเฉลี่ยก็ได้วันละไม่ถึง 10 บาท เงินจำนวนแค่นี้ ไม่สามารถนำไปดำรงชีวิตอะไรได้เลยด้วยซ้ำ

จากนั้น ดาวติ๊กต็อก เจ้าของช่อง ก็เข้ามาตอบว่าจะมีการพิจารณาขึ้นเงินเดือนจาก 100 เป็น 1,000 บาทให้ แต่ต้องขอปรึกษากับคุณแม่ก่อน

'พาณิชย์จีน' ค้าน 'สหรัฐฯ' ขึ้นภาษีนำเข้า 'อีวี-โซลาร์เซลล์' ชี้!! เป็นการขัดระเบียบการค้าโลก ควรยกเลิกทันที

(17 พ.ค.67) จากเพจเฟซบุ๊ก ‘Salika’ โพสต์ข้อความระบุว่า…

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (14 พ.ค.67) กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกมาแสดงการคัดค้านและประท้วงกรณีสหรัฐฯ ปรับขึ้นการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับสินค้าจีนบางส่วน และจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของจีน

สหรัฐฯ มีมติปรับขึ้นการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับการนำเข้าสินค้าจีน ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า ในอัตรา 102.5% จากปัจจุบันที่เก็บอยู่ในอัตรา 27.5% ส่วน แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน, โซลาร์เซลล์, แร่ธาตุสำคัญ, เซมิคอนดักเตอร์, เหล็กและอะลูมิเนียม และเครน เป็น 25% จากปัจจุบันที่อยู่ระหว่าง 0 - 7.5% ภายใต้มาตรา 301

ทั้งนี้ทางโฆษกกระทรวงฯ ระบุว่าจีนไม่พึงพอใจอย่างยิ่งกับกระบวนการทบทวนการจัดเก็บภาษีศุลกากรตามมาตรา 301 โดยมิชอบของสหรัฐฯ ซึ่งมีแรงผลักดันจากประเด็นทางการเมืองภายในประเทศและการปรับขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับสินค้าจีนบางส่วน

"การดำเนินการนี้ของสหรัฐฯ ใช้การค้ามาสร้างประเด็นทางการเมืองและใช้เป็นเครื่องมือ 'ชักใยทางการเมือง' ตามแบบฉบับ ทั้งที่องค์การการค้าโลก (WTO) ชี้ชัดแล้วว่าการจัดเก็บภาษีศุลกากรตามมาตรา 301 ขัดต่อระเบียบข้อบังคับขององค์การฯ แต่สหรัฐฯ ยังคงทำผิดต่อไป"

สำหรับการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ยังขัดกับฉันทามติที่ผู้นำของสองประเทศเห็นพ้องต้องกัน รวมถึงสวนทางกับคำมั่นสัญญาของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อบรรยากาศความร่วมมือทวิภาคี

ทางกระทรวงฯ ยังเน้นย้ำว่าฝ่ายสหรัฐฯ ควรแก้ไขข้อผิดพลาดโดยทันที และยกเลิกมาตรการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับจีน

‘จอยซ์ TK’ เล่าชีวิตในคุก 8 ปี ทุกข์ใจ-นั่งกาปฏิทินทุกวัน สุดท้ายตกผลึกกับตัวเอง-ปรับเปลี่ยนแนวคิดในหลายๆ เรื่อง

พ้นโทษออกมาได้เกือบ 11 ปีแล้ว สำหรับ ‘จอยซ์ TK’ (ไทรอัมพ์ส คิงดอม) หรือ ‘กรภัสสรณ์ รัตนเมธานนท์’ หลังต้องโทษคดียาเสพติด ต้องติดคุกนาน 8 ปี 10 เดือน ซึ่งในช่วงเวลาที่ต้องอยู่ในเรือนจำ ก็ทำให้เจ้าตัวได้เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างมากมาย โดย จอยซ์ ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือก ผ่านรายการ Made My Day วันนี้ดีที่สุด ทางช่อง Thai PBS ในเทปวันที่ 29 เม.ย. 67 กับพิธีกร ‘อุ๋ย บุดด้าเบลส’ ว่าในการต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เหมือนกับสถานที่ที่เปลี่ยนชีวิต และสร้างตัวตนใหม่ให้กับเธอไปตลอดกาล

“ตอนโดนจับชีวิตเปลี่ยน มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงให้เป็นในวันนี้ แต่เหตุที่จะต้องโดนก็โทษใครไม่ได้ อยู่สน.ไม่โทร.หาใครเลย เพราะเรารู้ว่ามันผิด เราไม่ควรขอความช่วยเหลือจากใคร ขอจบด้วยตัวเอง ทุกคนรู้ว่าอยู่สน.ตอนออกข่าว แม้กระทั่งป๊า ป๊านี่คือสุดยอด เขาไม่เคยทิ้งเลย เขาอยู่เคียงข้างเราในทุก ๆ มิติ เขาไม่มีคำพูดว่า เขาเดินเข้ามาตบไหล่ ไม่เป็นไรนะ ๆ ป๊าอยู่ตรงนี้ สามัญสำนึกมาเลย ว่าเราทำแบบนี้ได้ยังไง ปลดล็อกด้วยตัวเอง"

"ไม่เคยถามว่าป๊ารู้สึกยังไง หรือป๊าโทษตัวเองไหม แต่คิดว่ามันก็เป็นปัญหาแหละ การที่เราไปอยู่ในเรือนจำ หมายความว่าเรากำลังสร้างความทุกข์ให้คนในครอบครัว ทุกคนร่วมทุกข์ไปกับเรา อย่างน้อยเขาต้องโดนสังคมว่า พ่อไอ้ขี้คุก แล้วเขาก็เผชิญชีวิตอยู่อย่างนั้นมาในระยะเวลาที่เราติดคุก แต่เขาก็ไม่เคยมาพูดว่าเขาเจออะไรบ้าง แต่ป๊าเขาก็ปลีกตัวจากสังคมประมาณหนึ่งเหมือนกัน"

"วันที่เราเข้าไปข้างใน คือวันที่โดนจับ จัดการความรู้สึกตัวเองไปแล้ว เรายังรู้สึกว่าเราไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร เรารู้สึกว่าการเข้าไปอยู่ข้างใน คือการปรับตัวที่เราต้องจัดการกับความรู้สึกตัวเอง ถามว่าวันนั้นแคร์ใครข้างนอกไหม ว่าเขาทุกข์แล้ว วันนั้นยังคิดไม่ได้หรอก เอาทุกอย่างแค่ตัวเอง พอเข้าไปอยู่แล้ว แรก ๆ คิดว่าปรับตัวได้ กูเก่ง กูต้องอยู่ได้สิวะ เปลี่ยนที่นอน เหมือนไปนอนบ้านเพื่อน" 

"คิดแบบนี้ตั้งแต่วันแรกเลย จนกระทั่งผ่านไป 3-4 ปี คือมันตกผลึก มันมีช่วงเวลาที่เราเข้าไป แล้วเราคิดว่าก็เหมือนไปนอนบ้านเพื่อนเปล่าวะ ก็แค่เปลี่ยนที่นอน ทุกวันนี้พฤติกรรมถูกละลาย จากการไปอยู่ในเรือนจำมาแล้วปลดล็อกความคิด ทำความรู้จักกับตัวเองมากขึ้น รู้ว่าตัวเองชอบแบบนี้ ชอบตัวเองที่มองตัวเองมาแล้วชอบและภูมิใจ"

"สิ่งที่ไปเผชิญมีเรื่องของการปรับตัว การตื่นเช้า สวดมนต์ ต่อแถวอาบน้ำ 3 ขัน ห้องแรกรับในสมัยที่เราเข้าไป มันเป็นห้องที่เข้าไปเพื่อเรียนรู้กฎระเบียบ และปรับตัวในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะถูกจำแนกไปที่อื่น แล้วสมมติว่าจังหวะที่เราเข้าไป มีคนโดนจับพร้อมกัน 50 คน ทุกคนก็จะไปรวมกันอยู่ห้องนี้ นั่นหมายความว่า ห้องเล็ก ๆ ห้องนี้อจะเบียดไปด้วย 50 คน เวลานอนก็จะนอนติด ๆ กัน เพื่อนตะแคงซ้าย ก็ต้องตะแคงทั้งแถว ถ้าลุกไปเข้าห้องน้ำก็ที่หาย นี่คือการปรับตัวที่ต้องปรับกับคนหลาย ๆ รูปแบบ"

"ตอนที่โดนตัดสิน เราเห็นตัวเลขเรา 8 ปี เราแม่xกาปฎิทิน ว่าอีก 3 ปีกูทนไหววะ อีก 2 ปีกูทนไหววะ อีกนิดหนึ่งวะ แต่พอวันหนึ่งไปฟังอุทธรณ์มา เป็นตลอดชีวิต เหลือ 33 ปี ช็อตเลย กลับมาไข้ขึ้นเลยจ๊ะ"

"ก็เลยเปลี่ยนชีวิตตัวเอง หาทางจัดการกับความทุกข์ เริ่มจากไปอ่านหนังสือไปยืมหนังสือจากในห้องสมุด เราสามารถอ่านหนังสือเล่มหนา ๆ ภายใน 4 วันจบ ไม่ได้เป็นคนรักการอ่าน ไม่ได้รักการเรียน ไม่เคยสนใจเรื่องการอ่านหนังสือเลย แต่พออ่านปุ๊บ เฮ้ย…ดีวะ ได้ประโยชน์จากหนังสือเยอะแยะ เหมือนพาเราออกไปประเทศโน่น ประเทศนี้ มีความคิด เลยรู้สึกว่าเราสามารถอยู่ได้ด้วยการเอ็นจอยกับต้นไม้ กับนกบนท้องฟ้า อย่างน้อยข้างนอกเขาก็เห็นก้อนเมฆก้อนเดียวกับเรานะ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ตรงนี้ทำให้เราพ้นทุกข์"

"เปลี่ยนมุมมอง จากอ่านหนังสือ เรียนหนังสือ มาวางแผนเรียนปริญญาโท สมมติต้องอยู่อีก 20 ปี กำหนดโทษ 15 ปี ถ้า 15 ปีสามารถย้ายไปคุกนี้ได้ คุกนี้สามารถเรียนปริญญาโทได้ เดี๋ยวพอถึงอีก 12 ปี เราค่อยไปเรียนปริญญาโทที่นี่แล้วกันนะ พอไปเรียนแล้วค่อยมาดูว่าชีวิตจะยังไงต่อไป เราวางแผนแบบนั้น ถามว่ารู้ว่าตัวเองติดเยอะ แล้วจะเรียนไปทำไม สำหรับเรา เรารู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์ มันมีเรื่องให้เราภูมิใจ เรารู้สึกว่ากูทำมันได้วะ รู้สึกว่ากูมีความสามารถ พอเราภูมิใจมันก็จะหลุดจากเรื่องทุกข์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรจะทุกข์ออกมา"

"เราเรียนสายอาชีพตั้งแต่ตัดผม งานศิลปะ เรียนภาษาอังกฤษ เรียนคอมพิวเตอร์ ทำทุกอย่างเลย ใบประกาศนียบัตรเป็นปึก ถ้าจะบอกว่าอย่างหนึ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจเราตอนอยู่ในนั้นคือความภูมิใจ ก็น่าจะใช่ แต่มันช่วยบำบัดจิตใจเราได้ในช่วงเวลาที่ทุกข์ ช่วยให้มีสติปัญญามากขึ้น และทำให้ได้ความรู้ ส่วนกำลังใจหลัก ๆ ก็มาจากครอบครัว อาทิตย์หนึ่งมาเยี่ยมได้ 1 ครั้ง แล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ก็คือป๊านั่นแหละ ที่จะมาหาเราทุกอาทิตย์ เราก็รู้สึกโหยหาครอบครัวนะ บางทีก็ร้องไห้งอแงใส่เขา จากที่เป็นคนร้องไห้ยาก แต่ข้างในปรับพฤติกรรมเราหมด"

"พอคำสั่งฏีกามาว่าพรุ่งนี้ต้องไปศาล เราก็แค่ไปศาลแล้วฟังคำตัดสิน เราเลิกหวังกับเรื่องข้างนอกตั้งแต่อุทธรณ์มาแล้ว ไม่คิดว่าจะได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอก ไม่คิดว่าจะได้กลับบ้านวันนั้นด้วยซ้ำ เราไม่เคยเห็นภาพตัวเองและไม่เคยจินตนาการ ว่าวันหนึ่งจะได้ออกไปใช้ชีวิตในโลกภายนอกอย่างอิสระ"

"โมเมนต์ที่รู้ว่าจะได้ออกวันนั้นคือช็อก ไม่อยากกลับบ้าน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดูเตรียมใจมาเลย ช็อก ร้องไห้ อยากวิ่งกลับเข้าไปในคุกเลย เพราะไม่ได้เตรียมใจ ไม่ได้วางแผน ไม่รู้จะจัดการกับชีวิตยังไง ไม่รู้จะทำยังไงให้คนอื่นเขาโอเคกับเรา คิดไปต่าง ๆ นานา ว่าพอเราก้าวออกไป สายตาคนอื่นที่เขามองมา เขาต้องมองเราเป็นไอ้ขี้คุกแน่เลย แล้วเราจะดำเนินชีวิตในสังคมยังไง เราไม่มีอะไรที่มันได้ตั้งตัวเลยสักเรื่องหนึ่ง จนกระทั่งวันที่ได้ออกมาจริง ๆ ก็ยังกลัวเข้าไปใหญ่ นักข่าวรอเต็มไปหมด ความที่เราปิดตัวเองมาเกือบ 9 ปี ก็ยังงงกับสื่อและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปหมด เป็นอยู่อย่างนั้นประมาณ 1-2 เดือน"

"ด้วยความที่บ้านมีฟาร์มกุ้งอยู่ที่ตราด เราก็ไปเก็บตัวอยู่ในฟาร์ม ไม่ติดต่อใคร ไม่เอาอะไรเลย โบ (สุรัตนาวี สุวิพร) ชวนไปไหนก็ไม่ไป ไม่อยากเจอใคร ไม่ได้คิดว่าคนอื่นมองเราไม่ดี แต่รู้สึกว่าชีวิตเรายังไม่ปลอดภัย ต่อให้คนนั้นเป็นโบเพื่อนเราก็ตาม ยังไม่พร้อม เราไปอยู่ในโลกนานจนเรารู้สึกว่าเราทำใจกับช่วงเวลาเหล่าน้้นมาเกือบ 9 ปีแล้ว เรามีเพื่อนที่ดีอยู่ในนั้น เราสามารถแชร์หรือร้องไห้กับเพื่อนตรงนั้นได้ เวลาเราโมโห วันนี้ไม่อยากคุยกับใคร"

"แต่มาหายได้ตอนขึ้นคอนเสิร์ตพี่บอย อยู่ ๆ ได้ยินเสียงกรี๊ด แล้วคนก็ร้องไห้ มันเป็นสิ่งที่เราเห็นและสัมผัสได้ ว่าความรักมีอยู่ หลังจากนั้นถึงกล้าขึ้นรถเมล์ ลองไปขึ้นเรือ เดินข้ามถนน หายแบบหายจริง ๆ เลย เราได้ออกมาตอนเดือนตุลาคม ขึ้นคอนเสิร์ตตอนเดือนธันวาคม ก็ใช้เวลาเป็นเดือน จริง ๆ โบชวนหลายคอนเสิร์ต แต่ปฏิเสธไป มาแค่คอนเสิร์ตนี้ เพราะเราไม่กล้า ต้องเกาะป๊าตลอด แต่คุณพ่อเสียชีวิตไป 2 ปีแล้ว ตอนนี้ก็เป็นครอบครัวเล็ก ๆ มีแม่ มีน้อง มีญาติ ๆ ซึ่งความสัมพันธ์ก็ปกติดีค่ะ"

"หลังจากออกมาเรามีความสุขง่ายขึ้น จนกลายเป็นคนติดตลกติ๊งต๊องไปหมดแล้ว แต่ทุกวันนี้ยังไม่กล้าไปสอนใคร เรามีประสบการณ์ชีวิตมาแบบนี้ แต่ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะไปสอนใคร มันจะมีคอมเมนต์ว่า ไอ้ขี้คุกอย่างมึงจะมาสอนใครได้ เราก็รู้สึกว่าเราไม่มีสิทธิ์จะไปสอนใคร แต่จะสื่อสารว่าดูชีวิตฉันนะ”

หอการค้าต่างชาติฯ ฟันธงเศรษฐกิจไทยไม่พร้อมรับค่าแรงวันละ 400 ชี้!! ต้องเพิ่มทักษะคนก่อน หากยังขาดมีแต่จะฉุดจีดีพีไทยลงถึง 20%

(17 พ.ค. 67) BTimes เผย หอการค้าต่างประเทศในไทยแสดงจุดยืนค้านขึ้นค่าแรงวันละ 400 บาท หลังมองว่าเศรษฐกิจไทยไม่พร้อมรับค่าแรง 400 ต้องเสริมทักษะ

วีเบคก้า ริสซอน ไรเวอร์ก ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) เปิดเผยว่า ได้แสดงจุดยืนเกี่ยวกับนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท โดยมีเนื้อหาในเอกสารว่า หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) มีความห่วงกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอของรัฐบาลไทยที่ต้องการให้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายวันทั่วประเทศเป็น 400 บาทในเดือนตุลาคมนี้ และมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ดังนี้...

เศรษฐกิจไทยยังไม่พร้อมสำหรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวันทั่วประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นค่าจ้างและนโยบายค่าแรงขั้นต่ำจำเป็นต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ถ้าไม่เป็นเงื่อนไขล่วงหน้า ก็จำเป็นต้องมีมาตรการสำหรับการเพิ่มผลิตภาพตามแผนงานที่กำหนดไว้ ไม่เช่นนั้น ก็จะกลายเป็นการจ่ายต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ได้งานเท่าเดิม ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาเงินเฟ้อ โดยไม่ได้ประโยชน์อื่นใดมากนัก การเพิ่มผลิตภาพในบางบริษัทที่มีขนาดเล็กอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่า 

ขณะเดียวกัน นอกจากขนาดแล้ว ภูมิภาคและประเภทของอุตสาหกรรมยังอาจมีผลต่อความสามารถขององค์กรในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอีกด้วย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ควรจะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ รวมถึงการยกระดับเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ จะเป็นปัจจัยที่สำคัญ

นอกจากนี้ การขาดทักษะในการทำงาน ก็เป็นสาเหตุสำคัญของผลิตภาพที่ต่ำ รายงานธนาคารโลกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ว่าด้วยเรื่องทักษะแรงงานในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าการขาดทักษะพื้นฐานทำให้ GDP ลดลงได้ถึง 20% รายงานของธนาคารโลกเดือนมกราคม 2563 ที่สำรวจสถานะเศรษฐกิจไทย ได้กล่าวถึงผลิตภาพและให้ข้อเสนอแนะบางประการซึ่งค่อนข้างรุนแรง 

สำหรับ JFCCT มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการเพิ่มผลิตภาพในประเทศไทยและประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้...

1. เศรษฐกิจไทยยังไม่พร้อมสำหรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน ทั่วประเทศ

2. ในการจะทำให้การเพิ่มผลิตภาพเป็นนโยบายหลัก จำเป็นต้องให้การศึกษาแก่ภาคธุรกิจ ต้องนำมาตรการกำกับดูแลและมาตรการบังคับมาใช้ เช่น การจัดตั้งคณะกรรมการด้านผลิตภาพ หรือ Productivity Commission

3. ต้องเสริมสร้างทักษะ เพิ่มขีดความสามารถทางเทคนิค และนวัตกรรม โดยการให้การศึกษาและการฝึกอบรม ให้ทุนหรือเงินอุดหนุนระดับสูง เพื่อนำเทคโนโลยีและกระบวนการใหม่ ๆ มาใช้

4. การพัฒนาแรงงาน (workforce development) จำเป็นต้องผสมผสานกันระหว่างการฝึกอบรมและเพิ่มทักษะให้คนท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการอนุญาตให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติได้อย่างเสรี 

5. การเปิดรับแรงงานต่างชาติจะช่วยยกระดับทักษะของแรงงานในประเทศ รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทั้งนี้ แนะนำให้ไทยปฏิรูประบบการอนุญาตทำงานและการให้วีซ่าแก่คนทำงานต่างชาติด้วย รวมทั้งการปรับปรุง LTR ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น

6. ขนาดเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน เช่น เกษตรกรรม การผลิต และการท่องเที่ยว จำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันไป

'สำนักพุทธฯ' ชี้!! ‘เชื่อมจิต’ ไม่มีในพระไตรปิฎก อีกทั้งยังขัดหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

(17 พ.ค. 67) หลังจากที่ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วย ทนาย ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา หรือมหาหมี รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม, ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง, อี้ แทนคุณ ตัวแทนผู้เสียหาย, ดร.อธิเทพ ผาทา, อ.รัก คำราม และ แพรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร และ พระวิเวก นามรุ่งโรจน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.มนสิช ชุนดี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.บก.ปอท. แจ้งความเอาผิด นายพิชญะ, น.ส.นัฐพร พ่อแม่ของน้องไนซ์ อายุ 8 ปี พร้อมแอดมินเพจ หรือผู้ควบคุมเพจเฟซบุ๊ก นิรมิตเทวาจุติ, ผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อก @niramittavajuti และบุคคลอื่นผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้ชื่อของน้องไนซ์ นำเสนอบทความพร้อมคลิปวิดีโอบิดเบือน หรือเป็นเท็จนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หลายครั้งหลายหน

โดยแจ้งความในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก, การเรี่ยไร และฉ้อโกง พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ พม. เข้ามาดูแลปัญหาดังกล่าว

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีดังกล่าว ร่วมกับ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)

นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า พศ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น และมีทีมงานเฝ้าระวัง ได้รวบรวมข้อมูลรายละเอียดข่าวสารต่าง ๆ เรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคำสอนที่ผิดเพี้ยน เราได้กราบนมัสการพระมหาเถระ เพื่อขอคำแนะนำ ซึ่งพระมหาเถระได้ให้คำแนะนำ และขอให้ใช้สติ ทำให้รอบคอบ เพราะเรื่องนี้ละเอียดอ่อน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อเด็กและครอบครัว

นายอินทพร กล่าวต่อว่า ตนได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร การกระทำ ที่อาจจะเป็นภัย ผลกระทบต่อความมั่นคงต่อพุทธศาสนา แม้ พศ.จะไม่มีอำนาจห้าม ระงับ ยับยั้งกลุ่มบุคคลที่เผยแพร่พระธรรมคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก แต่เราทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด

นายอินทพร กล่าวต่อว่า หลังจากวันนี้ ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมมหาเถรสมาคม เพื่อรับทราบส่วนทางที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติให้ พศ.ดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ตนจะแจ้งความคืบหน้าอีกครั้งหนึ่ง

นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบข้อมูล ศึกษาที่รายละเอียดในพระไตรปิฎก ฟันธงกันตรงนี้ว่า ไม่ปรากฏการเชื่อมจิตแต่อย่างใด และการเชื่อมจิต ยังขัดหลักธรรมคุณ 6 ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีดำรัสไว้ให้เราให้ศึกษา และปฏิบัติ

ส่วนเชื่อมจิต เชื่อมได้หรือไม่นั้น นายบุญเชิด กล่าวว่า ในพระไตรปิฎกไม่มีครับ แต่จะมีบุคคลบอกว่าในพระไตรปิฎกมี ซึ่งพยายามเทียบเคียงว่า ในสมัยพุทธกาลเคยมีพระพุทธเจ้าตรัส หรือสนทนาธรรมกับพระอรหันต์เป็นการเทียบเคียง คำถามตามมาคือว่า คนที่กล่าวว่าเชื่อมจิตนั้นเป็นอรหันต์หรือไม่?

กรณีที่เด็กกล่าวอ้างว่ามีการเชื่อมจิต กล่าวอ้างว่าเป็นบุตรพระพทุธเจ้า หรือกล่าวอ้างใด ๆ ในเรื่องอภินิหาร เกี่ยวกับความเชื่อความศรัทธานั้น เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องไม่จริง นายบุญเชิด กล่าวว่า ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก เมื่อพระไตรปิฎกไม่มีปรากฏ คือ ไม่จริง และในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ไม่มีเรื่องแบบนี้ในพระไตรปิฎก แต่ถ้าในคติในพระพุทธศาสนาในมหายาน จะมีความเชื่อเรื่องนี้ แต่ในประเทศไทย เรายึดหลักความเชื่อในเถรวาทเท่านั้น

รู้จัก EEC AUTOMATION PARK ผ่านมุมมอง 'ไพบูลย์ ลิ้มปิติพานิชย์'

จากรายการ THE TOMORROW มหาชนต้องรู้ ได้พูดคุยกับ อาจารย์ไพบูลย์ ลิ้มปิติพานิชย์ ผู้อำนวยการ EEC AUTOMATION PARK และหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยบูรพา ถึงความก้าวหน้าในวงการออโตเมชันของประเทศไทย โดยอาจารย์ไพบูลย์ กล่าวว่า...

ออโตเมชันเป็นส่วนสำคัญที่จะเข้าไปอยู่ในภาคผลิตของประเทศ ในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อลดความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากการใช้แรงงานคน รวมถึงการนำเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาทำงานแทนคน โดยเปลี่ยนการทำงานของคนให้ไปควบคุมเครื่องจักรแทน 

ในส่วนของ EEC AUTOMATION PARK ซึ่งตั้งอยู่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลในการจัดตั้งเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเห็นว่าประเทศไทยควรมีศูนย์เทคโนโลยีที่สามารถเผยแพร่และสร้างแรงบันดาลใจ สร้างการตระหนักรู้ด้านเทคโนโลยีให้กับคนทั่วไปได้ จึงเกิดความร่วมมือขึ้นกับ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค (Mitsubishi Electric) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดตั้งศูนย์แสดงเทคโนโลยีเพื่อสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเทคโนโลยีที่จัดแสดงนั้นเป็นเรื่องใหม่ของ SME บริษัทและโรงงานขนาดกลางของคนไทย 

ปัจจุบัน EEC AUTOMATION PARK เปิดให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการ และโรงงานว่าสามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างไร และสามารถมอนิเตอร์การใช้พลังงานด้วยเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมยังแนะนำการติดตั้งพลังงานสะอาดอย่างโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) เป็นต้น

ส่วนระบบออโตเมชัน มีความสำคัญในการลดโลกร้อนอย่างไร? อาจารย์ไพบูลย์ กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมันเกี่ยวข้องกับพลังงาน เมื่อมีการใช้พลังงานก็มีการเผาไหม้ เมื่อมีการเผาไหม้ก็ต้องปล่อยคาร์บอน เราควรมาดูเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอนก่อน ซึ่งโรงงานในประเทศไทยมีการใช้เครื่องจักรมากมาย มีการใช้พลังงานจำนวนมากทำให้มีปล่อยคาร์บอนสูง 

ดังนั้นออโตเมชัน จะช่วยในส่วนแรก คือ เมื่อนำเอาระบบออโตเมชันมาติดตั้งในเครื่องจักรแล้ว สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ loss และ Waste ลดลง ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ ส่วนที่สองเครื่องจักรต่างๆ ต้องมีมอเตอร์ซึ่งการเปลี่ยนรูปแบบของพลังงานจะมี loss ถ้าใช้มอเตอร์ประหยัดพลังงานหรือมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ ซึ่งการปล่อยคาร์บอนในปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 แบบ ได้แก่...

1.การปล่อยคาร์บอนทางตรง เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิง การสันดาปของรถยนต์ 
2.การปล่อยคาร์บอนทางอ้อม หรือการซื้อพลังงานมาใช้ เช่น โรงงานมีการซื้อพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในการผลิต 
3.การปล่อยคาร์บอนทางอ้อมที่ควบคุมไม่ได้ เช่น การเช่ารถมาเราจ่ายค่าเช่า แต่ไม่สามารถควบคุมการเดินทาง เส้นทาง หรือวิธีการขับได้ เป็นต้น จึงทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนได้มากขึ้น

'อี้-แทนคุณ' ไขก๊อก ปชป. ขอมุ่งงานด้านการศึกษา-สานสัมพันธ์ไทย-จีน พร้อมทำนุบำรุงศาสนา ช่วยเหลือผู้อื่นให้มากที่สุดก่อนตายตามที่ตั้งใจ

(17 พ.ค. 67) ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Tankhun Jittitsara page' ระบุว่า...

จดหมายลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการที่ได้ส่งให้กับ กกต.เรียบร้อยแล้วครับ

จากนี้ไปขอเป็นคนทำงานด้านศาสนา ศิลปะ การศึกษาและส่งเสริมสายสัมพันธ์ไทย-จีน

ที่สำคัญช่วยเหลือคนอื่นให้มากที่สุดก่อนตายตามที่ตั้งใจไว้ครับ

ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ว่าร้ายหรือดี คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ

และขออภัยหากเคยขัดใจล่วงเกินใครไว้

ขอบคุณมากครับ

'อัษฎางค์' ตั้งคำถาม 'พิธา' ให้สัมภาษณ์ล่าสุดแก่สื่อยักษ์เมืองเบียร์ สะท้อนการเป็นแนวร่วม 'บุ้ง-พวกบ่อนทำลายสถาบันฯ' หรือไม่

(17 พ.ค.67) เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

พิธาให้สัมภาษณ์สำนักข่าว DW ของเยอรมันเรื่องการตายของบุ้งว่า...

นักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวเรียกร้อง ‘หลักนิติธรรมแทนการใช้อำนาจตามกฎหมาย’

“It’s a tragic loss for Thailand as a nation, where a group of young activists was asking for the rule of law instead of rule by law. 

มันเป็นความสูญเสียอันน่าเศร้าของประเทศไทยในฐานะชาติที่มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวซึ่งเรียกร้อง ‘หลักนิติธรรมแทนการใช้อำนาจตามกฎหมาย’

The rule of law กับ The rule by law.
คืออะไรและแตกต่างกันอย่างไร้?

Rule by Law คือ การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือของเผด็จการ เอาไว้บังคับคนอื่น ไม่บังคับกับพวกตัวเอง 

Rule of Law คือ หลักนิติธรรมที่ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

• หลักนิติธรรม (The Rule of Law) เน้นความยุติธรรม ความเสมอภาค และการคุ้มครองสิทธิของบุคคล โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและชอบธรรมต่อทุกคน

• การปกครองโดยกฎหมาย (Rule by Law) เน้นการใช้กฎหมายเพื่อควบคุมและรักษาอำนาจ โดยอาจทำให้ความยุติธรรมและสิทธิของบุคคลถูกละเลย เพื่อรับใช้ประโยชน์ของผู้มีอำนาจ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยปกครองประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ที่บัญญัติไว้ชัดเจนในเรื่องความยุติธรรม ความเสมอภาค และการคุ้มครองสิทธิของบุคคล โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและชอบธรรมต่อทุกคน

พิธาอ้าง “กลุ่มนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวซึ่งเรียกร้องหลักนิติธรรมแทนการใช้อำนาจตามกฎหมาย” 

พวกเขาเรียกร้องให้มีปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยอ้างว่าคนเห็นต่างทางการเมืองต้องไม่ถูกคุมขัง และได้รับสิทธิ์ประกันตัวนั้น 

ทั้งที่ กลุ่มนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวต่างหากที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การกระทำของคนกลุ่มนี้ ไม่ได้เป็นการแสดงความเห็นต่างทางการเมือง แต่เป็นการกระทำที่ไปดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการละเมิดสิทธิของผู้อื่น ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมาย

ในทุกประเทศทั่วโลก ไม่มีใครสามารถอ้างสิทธิส่วนบุคคล เพื่อไปดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายและละเมิดสิทธิของผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละเมิดกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ

การที่พิธาเอาเรื่องนี้ไปให้สัมภาษณ์เพื่อบอกกับชาวโลกผ่านสื่อยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี เป็นการแสดงว่าพิธาและพรรคก้าวไกล เป็นแนวร่วมกับบุ้งและพวก ในการตั้งใจละเมิดกฎหมาย “ด้วยมีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง นำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด” ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล หรือไม่?

อัษฎางค์ ยมนาค

อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ >> https://www.atsadang.com/?p=4309&fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2VNX8wssj0A6NN5Cl3WF2bKvLxnjwdpcc8uq4cYatk1RAFycpDUKAlrjE_aem_AQ2wBFNBaNGerlexEENz0B2uKh0SEL6vGFpBuZF6uEowdxe6XCSnSbyXK7Ry2CSCIbe2DzGesxMcRuNbMokXRtdl 

เคทีซีควงแขนซาฟารีเวิลด์ จัดกิจกรรม ‘KTC Fun & Friend Family Dy’ ชวน ‘อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยวและครอบครัว’ สัมผัสประสบการณ์

(17 พ.ค. 67) นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต ‘เคทีซี’ หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นางสาวอัมพรศรี คิ้วคชา กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม ‘KTC Fun & Friend Family Day @ Safari World’ ชวนอินฟลูเอนเซอร์ สายท่องเที่ยวและครอบครัวกว่า 30 คน ร่วมสัมผัสประสบการณ์ ‘คะแนนน้อยแลกได้’ กับการใช้คะแนน KTC FOREVER แลกบัตรเข้าชมซาฟารีเวิลด์ หรือแลกไอศกรีมโคน Soft Serve ยีราฟ ม้าลายและนกมาคอว์ ณ ซาฟารีเวิลด์ถนนรามอินทรา

ภายในงานเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ได้ร่วมกันป้อนอาหารยีราฟที่ Giraffe Zone และเพลิดเพลินกับ ‘Camp Kangaroo’ จุดแค้มปิ้งแห่งใหม่ในบรรยากาศธรรมชาติของทวีปออสเตรเลียหนึ่งเดียวในไทย รวมทั้งสัมผัสความน่ารักของน้องจิงโจ้อย่างใกล้ชิด พร้อมป้อนอาหาร ‘ข้าวโพดบาร์บีคิว’ และ โซน ‘Tree House Aviary & Kitchen’  สัมผัสนกเล็กสีสันสดใส Sun Conure กว่า 200 ตัว อย่างใกล้ชิด และป้อนอาหารนกแนวใหม่ในรูปแบบ ‘โคนไอศกรีม’ ซึ่งซาฟารีฯ ผลิตเองด้วยสูตรที่ผ่านการวิจัยโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านนก และสัตวแพทย์ของซาฟารีเวิลด์ ต่อด้วยการชมโชว์และความน่ารักของโลมา สิงโตทะเล นก และตื่นเต้นไปกับคาวบอยสตั๊นท์ แวะเก็บภาพน่ารักกับซุปเปอร์สตาร์แห่งซาฟารีฯ น้องลิงอุรังอุตังที่ ‘สตูดิโอธรรมชาติ’ ปิดท้ายกิจกรรมด้วย Special ‘Safari Feeding’ หนึ่งเดียวในไทย สัมผัสประสบการณ์ความตื่นเต้นเร้าใจบนรถ Feeding Truck กับการให้อาหารเสือและสิงโตสุดยอดนักล่า โดยมีเจ้าหน้าที่ซาฟารีฯ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top