Thursday, 15 May 2025
NewsFeed

‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ ท้า!! กลุ่มหนุนคณะราษฎร เผยตัวออกมา เชื่อ!! ฝ่ายอนุรักษ์ พร้อมดีเบต ‘2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’ อยู่แล้ว

(5 เม.ย. 67) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

แอนิเมชัน ทำเอาดิ้นเจียนตาย 2475 Dawn Revolution Annimation ส่งแรงสะเทือนขนานใหญ่ ยอดผู้ชมกว่าล้านครั้ง ความจริงจากอดีตที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยรู้ไม่เคยอ่าน ตามไม่ทัน ถูกล้างสมอง ถูกครอบงำ จนโงหัวไม่ขึ้น ได้ตาสว่าง ปรีดีถูกลอกคราบ ความล้มเหลวของคณะราษฎร ความแตกแยกของคณะราษฎร เอกสารสมุดปกเหลือง เค้าโครงเศรษฐกิจของหลวงประดิษฐ์ ถูกตีแผ่ปรีดีไม่ได้ถูกเนรเทศแต่หลบหนีออกจากประเทศภายหลังจากความพยายามก่อการยึดอำนาจด้วยกำลังทหารจากรัฐบาลเมื่อปี 2492 ล้มเหลว กลายเป็นกบฏวังหลวง ( เพราะยึดวังหลวงและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นฐานที่มั่นทางทหาร) จนเสียชีวิตในต่างประเทศ

ไม่เหมือนเจ้าหลายคนหรือผู้ร่วมก่อการคณะราษฎรที่ต้องถูกเนรเทศ ถูกจับขังปล่อยเกาะตะรุเตา โดยไม่มีการพิจารณาคดีความ ทำเอาคนรุ่นใหญ่อย่าง สศษ.และวิทยากร ต้องออกมาแสดง เพราะปล่อยไว้ไม่ได้ มิเช่นนั้น จิตวิญญาณ 2475 ตายสนิท ต้องออกมาปกป้อง และโจมตีแอนิเมชัน 2475 อย่างนั้นอย่างนี้ แต่กลับถูกตีโต้กลับทุกดอก เอาความจริงผิด ๆ ความจริงไม่ถึงครึ่งออกมาพูด บรรดาอาจารย์ที่อยากช่วยชี้แจงแก้ตัวแทนคณะราษฎรหรือแก้ตัวให้ปรีดีผู้วิเศษ ก็เสนอตัวออกมาเลย มีคนฝ่ายที่ถูกเรียกว่าอนุรักษ์ออกมาท้าอยู่แล้ว แต่ยังไม่เห็นตัวจริงฝ่ายชื่นชมคณะราษฎร หลบหน้ากันอยู่ไยอยากดูแอนิเมชันภาคสองสามสี่

‘เจ้านาย-เจ้าขุน’ ยื่นเอกสารผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร เหตุเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน ขอเลื่อนไปปีหน้า

(5 เม.ย.67) ที่วัดพระยาสุเรนท์ ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าประจำการ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2567 ได้มีชายไทยที่รายชื่อและอายุครบเกณฑ์ เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าประจำการเป็นจำนวนมาก และมีรายชื่อบุคคลบันเทิงคือ เจ้านาย จินเจษฎ์ อายุ 22 ปี และ เจ้าขุน จักรภัทร อายุ 20 ปี ลูกชายคนโตและคนรองของ นักร้องตัวพ่อ เจ เจตริน และนักแสดงมากมือ ปิ่น เก็จมณี โดยปีนี้ เจ้าขุน ที่ต้องเข้ารับตรวจเลือกทหารกองเกินในปีนี้เป็นปีแรก เดินทางมาถึงหน่วยคัดเลือกในเวลา 07:30 น. พร้อมยื่นเอกสารผ่อนผันต่อเจ้าหน้าที่ เป็นเอกสารทางการแพทย์ที่ระบุว่าเจ้าตัวเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนที่ต้องกายภาพบำบัดในอีก 3 เดือน

ต่อมา นพ.ศรุต พึ่งปรีดา แพทย์ประจำจุดตรวจเลือก เผยกับทีมข่าวว่า เจ้าขุนได้ยื่นเอกสารทางการแพทย์ โดยระบุว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนที่ต้องกายภาพบำบัดในอีก 3 เดือน เข้าข่ายเป็นคนจำพวกที่ 3 คนซึ่งมีร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้เพราะป่วยซึ่งจะบำบัดให้หายภายในกำหนด 30 วันไม่ได้ ดังนั้นต้องเข้ากระบวนการตรวจเลือกทหารอีกครั้งในปีถัดไป ขณะที่ เจ้าขุน เปิดใจว่า “เข้ามาเกณฑ์ทหารครั้งแรก ไม่ได้ตื่นเต้นแต่เป็นตื่นเช้า ทำใจสบาย ๆ ไม่ได้กังวลอะไร ครั้งนี้มายื่นเอกสารทางการแพทย์เพราะป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูก รักษาไม่ทันภายใน 1 เดือน จึงจำเป็นได้มาอีกทีในปีหน้า มองว่าการเกณฑ์ทหารมันคือหน้าที่ของผู้ชายทุกคน”

ต่อมาเวลา 08.15 เจ้านาย ที่ต้องเข้ารับตรวจเลือกทหารกองเกินเป็นครั้งที่ 3 หลังจากผ่อนผันเนื่องจากติดเรียนไปแล้ว 2 ครั้ง เดินทางมายื่นเอกสารผ่อนผันต่อเจ้าหน้าที่ ด้วยเอกสารทางการแพทย์ระบุว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน เช่นเดียวกันกับ ‘เจ้าขุน’ ที่ต้องกายภาพบำบัดมากกว่า 1 เดือน เช่นเดียวกับน้องชาย ซึ่งเป็นการยื่นเอกสารทางการแพทย์เป็นครั้งแรกของ เจ้านาย หลังเสร็จสิ้นการยื่นเอกสาร เจ้าตัวไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ใด ๆ บอกกับทีมข่าวเพียงสั้น ๆ ว่าเดี๋ยวปีหน้ามาใหม่

ขณะที่ นพ.ศรุต พึ่งปรีดา แพทย์ประจำจุดตรวจ เผยกับทีมข่าวว่า เจ้านายได้ยื่นเอกสารทางการแพทย์ซึ่งคาดว่าจะยื่นเป็นครั้งแรก โดยระบุว่าเป็นโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน เช่นเดียวกันกับ ‘เจ้าขุน’ ที่ต้องกายภาพบำบัดมากกว่า 1 เดือน เข้าข่ายเป็นคนจำพวกที่ 3 คนซึ่งมีร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้เพราะป่วยซึ่งจะบำบัดให้หายภายในกำหนด 30 วันไม่ได้ ดังนั้นต้องเข้ากระบวนการตรวจเลือกทหารอีกครั้งในปีถัดไป ก่อนจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหากมีอาการป่วยเช่นนี้ และผ่อนผันด้วยปัญหาสุขภาพต่อเนื่องกัน 3 ปี บุคคลนั้นจะเข้าข่าย คนจำพวกที่ 4 ผู้ซึ่งเป็นคนพิการทุพพลภาพ หรือมีโรคซึ่งไม่สามารถจะรับราชการได้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 74 (พ.ศ.2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497

‘อากาศยานไร้คนขับ' ลำใหม่ ‘ฝีมือจีน’ พร้อมขึ้นบินเที่ยวแรกแล้ว ชี้ ช่วยปฏิบัติหลากภารกิจ ‘โลจิสติกส์-ดับเพลิง-ฝนเทียม-การสื่อสาร’

(5 เม.ย. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัทอุตสาหกรรมการบินแห่งประเทศจีน (AVIC) เผยว่าต้นแบบระบบอากาศยานไร้คนขับ (UAS) อเนกประสงค์เชิงพาณิชย์ลำใหม่ พร้อมที่จะออกขึ้นบินเที่ยวแรกแล้ว หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยความเร็วสูงครั้งสุดท้ายไม่นานมานี้

ทั้งนี้ ระบบอากาศยานเอชเอช-100 (HH-100) ซึ่งพัฒนาขึ้นเองของจีน สามารถทำงานอย่างเสถียรระหว่างการทดสอบ ขณะศักยภาพควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติทำงานได้เป็นอย่างดี 

เอชเอช-100 พัฒนาโดยบริษัทเอวิก เอ็กซ์เอซี คอมเมอร์เชียล แอร์คราฟต์ จำกัด ในนครซีอัน มณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ อากาศยานไร้คนขับ และสถานีสั่งการและควบคุมภาคพื้นดิน

ระบบดังกล่าวมีต้นทุนต่ำ น้ำหนักบรรทุกสูง รวมถึงจุดแข็งอื่น ๆ โดยได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักขึ้นบินสูงสุด 2,000 กิโลกรัม น้ำหนักบรรทุก 700 กิโลกรัม และพิสัยการบิน 520 กิโลเมตร

เอชเอช-100 สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย เช่น โลจิสติกส์ระดับภูมิภาค การดับเพลิงในพื้นที่ป่าและทุ่งหญ้า การติดตามไฟไหม้ การจัดส่งสิ่งของบรรเทาภัยพิบัติ การถ่ายทอดการสื่อสาร และส่งเสริมการทำฝนเทียม

‘ตร.ชะอำ’ ยิงสยบ ‘หนุ่มคลั่ง’ หลังพกมีด-ปืน อาละวาด ‘รพ.ชะอำ’ ด้านผู้กำกับ ยัน!! ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ-เกรงประชาชนได้รับอันตราย

(5 เม.ย.67) ภาพจากกล้องวงจรปิด จากร้านค้าแห่งหนึ่ง ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลชะอำที่เกิดเหตุ สามารถบันทึกเสียงช่วงเวลา 21.56 น. ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ ยิงนายสมชายที่คลุ้มคลั่งพกอาวุธมีดและปืนเข้าไปก่อเหตุในโรงพยาบาลชะอำ โดยภาพจากคลิปวิดีโอที่ได้ปรากฏได้ยินเสียงปืนกระหน่ำรัว จำนวน 9 นัด

ขณะที่พันตำรวจเอกสมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ. ชะอำ ยืนยันได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกิดเหตุว่า ไม่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธ และมีลักษณะจะตรงเข้ามาทำร้าย ประกอบกับช่วงกลางวันก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งใช้ก้อนหินขว้างปาตู้สายตรวจ ขับรถชนรถสายตรวจที่พยายามสกัดจับ และมีประวัติคดียาเสพติดหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อตนเอง ผู้ข้างเคียง และไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้จึงจำเป็นจะต้องยิง 

นราธิวาส - ตัวแทนเยาวชนชาวนราธิวาส แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ต่อต้านอิสราเอล ก่อนเยียบธงอิสราเอล ประท้วงก่ออาชญกรรมสงคราม

วันที่ 5 เม.ย.2567 ที่บริเวณหน้ามัสยิดประจำจังหวัดนราธิวาส หลังละหมาดวันศุกร์ ของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ได้กลุ่มตัวแทนเยาวชน กลุ่มเยาวชนนราธิวาสรักสันติฯ ได้ร่วมตัว พร้อมด้วยรถยนต์ติดธงชาติ ของประเทศปาเลสไตน์ และนำป้ายไวนิว ซึ่งมีข้อความภาพ ที่แสดงถึงอิสราเอลใช้อาวุธสงคราม ยิง บอมบ์  ต่อพลเรือน ทำให้ ประชาชนไร้ที่อยู่ บ้านพักอาคาร และประชาชน เด็กๆคนชรา และหญิง บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ในข้อความไวนิว ระบุ ความอยุติธรรม ไม่ว่าเกิดที่ใด ยอมเป็นภัยต่อความยุติธรรมทุกที่, ปลดปล่อยปาเลสไตน์ ปลดปล่อยโลก, ในส่วนกิจกรรมประมาณ  25 นาที ทางกลุ่ม ได้นำธงชาติอิสราเอล  และใช้เท้าเหยียบธงชาติอิสรามเอลบนพื้นที่ พร้อมตะโกน ผู้ก่อเหตุอาชญกรโลกที่ต้องประณาม ก่อนจะนำธงชาติอิสราเอล ฉีกเป็นชิ้น เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ และประท้วงอิสราเอล ที่กระทำรุกรานอันเหี้ยมโหด ความรุนแรง ต่อประชาชนปาเลสไตน์ ดังกล่าว

สำหรับคำแถลงการณ์ ดังนี้..ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตาปรานี ผู้ทรงกรุณายิ่งเสมอ การเดินขบวนประท้วงเพื่อสิทธิชาวปาเลสไตน์ ในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนอันจำเริญ ที่เราจัดขึ้นมานี้ คือ การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างสันติ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการกดขี่ที่มีต่อชาวปาเลสไตน์ ที่ถูกปิดล้อม และถูกบังคับพลัดถิ่น อย่างอยุติธรรม เป็นการเรียกร้องเพื่อปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระจากการยึดครองที่เหยียดเชื้อชาติ และอาชญากรรมที่สั่งสมมา ยาวนานกว่า 75 ปี ของระบอบไซออนิสต์อิสราเอลผู้แย่งชิง โดยในช่วงประวัติศาสตร์อันมืดมน ตั้งแต่ที่มีการดำรงอยู่ของอิสราเอล ระบอบไซออนิสต์ได้ก่อเหตุสังหารหมู่ ดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติประเภทต่างๆ การดำรงอยู่ของระบอบอิสราเอล ไม่ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์อื่นใดในแผ่นดินแห่งนั้น นอกจากการต้องอพยพชนพื้นเมืองหลายล้านคนให้กลายเป็นผู้พลัดถิ่น การกักขังพวกเขาอย่างไร้มนุษยธรรม ทั้งโดยการปิดล้อมฉนวนกาซ่า กระทั่งมันได้ถูกขนานนามโดยสหประชาชาติ ในฐานะ “คุกเปิดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก” รวมถึงการคุมขังชาวปาเลสไตน์ ไม่ละเว้นผู้หญิงและเด็กๆ อีกหลายพันกรณีในเรือนจำ อย่างอยุติธรรม และโดยปราศจากข้อกล่าวหา การทรมานผู้บริสุทธิ์ ที่ได้ทิ้งไว้ซึ่งบาดแผลทางจิตใจ และกายภาพ เด็กชาวปาเลสไตน์ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า และเผชิญผลกระทบจากสงครามจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งหมดล้วนจุดชนวนไปสู่ความไม่มั่นคงในระดับภูมิภาค และเป็นภัยคุกคาม ต่อสันติภาพโลกระบอบการปกครองไซออนิสต์มีรายการอาชญากรรม และการเคลื่อนไหวต่อต้านสิทธิมนุษยชนในประวัติศาสต์ของมัน อาทิ การยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ การใช้ความพยายามอย่างเป็นระบบในการยึดครองอัลกุดส์อย่างแข็งขัน การทำลายอัตลักษณ์

ทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมของอัลกุดส์อันศักดิ์สิทธิ์ การขยายขอบเขตการตั้งถิ่นฐานของชาวยิว ในเขตเวสต์แบงก์ โดยผิดกฎหมาย, การบังคับอพยพผู้อยู่อาศัยที่ไม่ใช่ชาวยิว, การกีดกันชาวปาเลสไตน์ในการเข้าถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์, การริบ ทรัพย์สินที่ดินของพวกเขาอย่างไม่ชอบธรรม, การบังคับใช้แรงกดดันที่ไร้มนุษยธรรมอย่างรุนแรงต่อประชาชนในฉนวนกาซ่า และการปฏิเสธไม่ให้พวกเขาเข้าถึงอาหาร น้ำสะอาด ยารักษาโรค และสุขอนามัยขั้นพื้นฐานสถานการณ์ปัจจุบันในฉนวนกาซ่า ทำให้มีความจำเป็นมากขึ้นสำหรับประชาคมโลก โดยเฉพาะชาวมุสลิม ที่จะต้องคำนึงถึงการแสดงออกซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อต่อต้านระบอบไซออนิสต์ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันได้แสดงให้เห็นอย่าง

ชัดเจนแล้วว่า แผนสันติภาพ หรือความคิดริเริ่มใดๆ ที่เพิกเฉยต่อสิทธิของผู้ถูกกดขี่ในปาเลสไตน์ จะไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างสันติที่ยั่งยืน เรายังเชื่อว่า ความสงบสุขและสันติภาพจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ในโลกนี้ นอกเสียจากว่า สิทธิของประชาชาติปาเลสไตน์ผู้ถูกกดขี่ จะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ โดยทางออกเดียวที่เป็นไปได้ คือ การทำให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดกลับคืนถิ่น และการจัดให้มีการลงประชามติระดับชาติ โดยการมีส่วนร่วมของชาวปาเลสไตน์ดั้งเดิมทั้งหมด รวมถึงชาวมุสลิม ชาวคริสต์ และชาวยิว โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในหลักการที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ หลักการประชาธิปไตย และสิทธิขั้นพื้นฐานที่ละเมิดไม่ได้ ที่มีอยู่ในกฎหมายระหว่างประเทศ

ในวันนี้ เราในนามของ******* ขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของปาเลสไตน์ ในฐานะปัญหาสิทธิมนุษยชนที่ยิ่งใหญ่ของโลก เราขอเรียกร้องให้มวลมุสลิมทุกคน ตลอดจนเพื่อนร่วมชาติชาวไทยจากทุกสาขาอาชีพ ที่แสวงหาเสรีภาพ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการชุมนุม ในวันศุกร์ หรือ ในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนอันจำเริญนี้ ณ มัสยิดประจำจังหวัดนราธิวาส ช่วงเวลาหลังละหมาดญุมอัต หรือละหมาดวันศุกร์  และเมื่อเสร็จสิ้นคำแถลงการณ์กิจกรรม ทางกลุ่มให้เหตุผลการชุมนุม ยึดหลักอย่างสงบสันติวิธี ก่อนแยกย้ายกลับเป็นปกติ

‘ฝรั่งหนุ่ม’ โชว์ลีลาทำ 'แกงไตปลา' อย่างพิถีพิถัน พร้อมบอก!! เป็นเมนู 'ยอดเยี่ยม' ไม่ใช่ยอดแย่

(5 เม.ย. 67) หลังจากเว็บไซต์ให้ข้อมูลด้านอาหารทั่วโลกชื่อว่า ‘TasteAtlas’ ที่มักจัดอันดับอาหารยอดเยี่ยม-ยอดแย่ในประเภทต่าง ๆ ได้จัดอันดับอาหารยอดแย่ที่สุดในโลก โดยเมนู ‘แกงไตปลา’ ของประเทศไทย ถูกจัดเป็นอาหารยอดแย่อันดับที่ 1 นั้น 

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน ที่มีผู้ติดตามกว่า 3.3 ล้านคน ก็ได้พาทำเมนู ‘แกงไตปลา’ จากฝีมือฝรั่งหนุ่มอย่างพิถีพิถัน พร้อมระบุแคปชันว่า " แกงไตปลายอดเยี่ยมไม่ใช่ยอดแย่ Excellent Kaeng tai pla (Thai Fish Entrails Sour Curry) #saveแกงไตปลา #แกงไตปลา " 

ท่ามกลางเหล่าชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น

20 สถานที่ประวัติศาสตร์ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต

การได้ท่องเที่ยวรอบโลก คงเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน เชื่อว่าหาก มีกำลังทรัพย์ มีร่างกายที่แข็งแรง และมีโอกาสที่เหมาะสม ก็พร้อมพาตัวเองไปท่องโลกกว้าง หาประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งวันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวม 20 สถานที่ประวัติศาสตร์ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต บอกเลยว่า เป็นสถานที่สวยงาม คุ้มค่าแก่การไปเยี่ยมชมสักครั้ง จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน!!

CATL เปิดตัวแบตฯ ใหม่ อายุการใช้งาน 15 ปี รองรับวิ่ง 1.5 ล้านกิโลเมตร เผย!! มีบัสไฟฟ้ารายใหญ่จากจีน เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรยาว 10 ปี

เมื่อไม่นานมานี้ CATL ได้เปิดตัวแบตเตอรี่ LFP รุ่นใหม่ รองรับการใช้งาน 1.5 ล้านกิโลเมตร อยู่ได้นาน 15 ปี พร้อมการันตีชาร์จ 1,000 รอบโดยไม่เสื่อมสภาพเลย 

CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน เปิดตัวแบตเตอรี่รุ่นใหม่แบบ lithium iron phosphate (LFP) ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน รองรับการใช้งานในรถยนต์ 1.5 ล้านกิโลเมตร การันตีอายุการใช้งานนาน 15 ปี โดยการชาร์จ 1,000 รอบแรกจะไม่เสื่อมสภาพเลย (zero degradation)

ลูกค้ารายแรกของ CATL คือ Yutong Bus ผู้ผลิตรถบัสไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนที่มีลูกค้าทั่วโลก โดยทั้งสองบริษัทเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรยาวนาน 10 ปี ตั้งแต่ปี 2022

”บิ๊กหลวง“ เปิดปฏิบัติการยึดทรัพย์แก๊งบิ๊กไบค์ ขนยาบ้ากว่า 30 ล้านเม็ด พร้อมลุยทลายนักค้าภาคตะวันออก 329 เป้าหมาย ผู้ต้องหา 278 คน

วันที่ 5 เมษายน 2567 ที่จังหวัดชลบุรี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. นางสาวพรทิพย์ แจ่มพงษ์ ผอ.ปปส.ภ.2 นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ปปส.ภ.5 นายสราวุธ ภักดี ผอ.ปปส.ภ.6 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 2 น.อ.บรรพต นิธิณัฐอาภาศิริ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ และ พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี แถลงผลปฏิบัติการยึดทรัพย์สินแก๊งบิ๊กไบค์ขนยาเสพติด ที่จับกุมได้ที่จังหวัดเชียงราย ช่วงวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมแถลงผลยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย ลุยเด็ดปีกนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออก 329 เป้าหมาย ในช่วงวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 3 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา 

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึง การขยายผลแก๊งบิ๊กไบค์ว่า สืบเนื่องจากการจับกุมแก๊งบิ๊กไบค์ขนยาเสพติด เมื่อช่วงวันที่ 4 มีนาคม 2567 ที่ จ.เชียงราย โดยเป็นผลจากการร้องเรียนของประชาชน ผ่านสายด่วน ป.ป.ส.1386 แจ้งว่า พบขบวนการบิ๊กไบค์ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.เชียงราย คาดว่าจะเกี่ยวกับการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จนนำไปสู่การสืบสวนก่อนสามารถจับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,890,000 เม็ด ซุกซ่อนในอุปกรณ์พ่วงข้างรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ เครือข่ายยาเสพติด นำโดยนายสัมฤทธิ์ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย เข้ามาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า หลังการจับกุมได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สืบสวนขยายผล ก่อนพบว่าแก๊งบิ๊กไบค์ดังกล่าว ที่มีนายสัมฤทธิ์ เป็นหัวหน้าขบวนการลำเลียงยาเสพติดมีทรัพย์สินจำนวนมากอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัด จึงเปิดปฏิบัติการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในเครือข่ายดังกล่าว โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน ป.ป.ส., นบ.ยส.35,ศขย.ฝขว.ศปก.ทบ., ศรภ., กกล.ผาเมือง, ขกท.ศปก.ทภ.3, ศอ.ปส.ทร.,ภ.จว.เชียงราย, ศอ.ปส.ภ.5, บก.ปส.3 บช.ปส. และ ศอ.ปส.นสร. ปฏิบัติการใน 13 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัด (จ.ชลบุรี 4, จ.พิษณุโลก 1, จ.นครสวรรค์ 2, จ.เชียงราย 2, จ.พิจิตร 2, จ.กำแพงเพชร 2)

ผลการปฏิบัติ ตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โฉนดที่ดิน ยานพาหนะ ทองรูปพรรณ สินค้าแบรนด์เนม สมุดบัญชีธนาคาร รวมมูลค่าทรัพย์สิน 22 ล้านบาท ทำให้ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่าย นายสัมฤทธิ์ แก๊งบิ๊กไบค์ขนยาบ้า รวม 2 ครั้งมีมูลค่า 30 ล้านบาท พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังได้เผยถึง ผล “ยุทธการเด็ดปีกนักค้ารายย่อย” ซึ่งได้ดำเนินการกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในชุมชน ตามเป้าหมายที่ได้รับร้องเรียนจากภาคประชาชน รวมถึงเป้าหมายที่ได้มาจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ โดยจะปฏิบัติการทุกเดือน เดือนละ 2 ครั้ง ในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยการเปิดยุทธการในพื้นที่ภาคตะวันออก ห้วงวันที่ 1 ธันวาคม 2566  – 3 เมษายน 2567 ในพื้นที่เป้าหมาย 329 เป้าหมาย ใน 8 จังหวัด (จ.ตราด, จ.ปราจีนบุรี, จ.นครนายก, จ.ฉะเชิงเทรา, จ.จันทบุรี, จ.ระยอง, จ.สระแก้ว, จ.ชลบุรี) 

ผลการดำเนินงาน สามารถจับกุมผู้ต้องหา 278 คน ไม่พบตัว 25 คน พบตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย 18 คน เข้ารับการบำบัดรักษา 8 คน ของกลาง ยาบ้า 4,925 เม็ด ไอซ์ 556.71 กรัม คีตามีน 1.74 กรัม เอ็กซ์ตาซี 1.12 กรัม อาวุธปืน 20 กระบอก เครื่องกระสุน 92 นัด ยึดอายัดทรัพย์สิน 2,360,380 บาท เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ยกให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งแก้ไข เพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชน โดยในช่วงเริ่มต้นได้กำหนดปฏิบัติการเร่งด่วน Quick Win ในการนำผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตในกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุดที่กระจุกตัวอยู่ใน 85 อำเภอ 30 จังหวัด จำนวน 4,414 ราย เข้าสู่กระบวนการบำบัด และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการนำผู้ป่วยจากยาเสพติดเข้ารับการรักษา ทั้งนี้การดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล เน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและชุมชน จึงต้องสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินการต่อข้อร้องเรียน และลงพื้นที่เพื่อบรรเทาปัญหาให้ประชาชน ภายใต้ปฏิบัติการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อยที่ดำเนินการในทุกภูมิภาคของประเทศ โดยดำเนินการทั้งการปราบปรามผู้ค้าที่สร้างปัญหาในชุมชน ป้องกันผู้เสพรายใหม่ และบำบัดตามหลักเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ไม่ผลักไส ให้เขาถูกทอดทิ้งจนเกิดวงจรการเสพซ้ำ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 – ปัจจุบัน สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับเรื่องร้องเรียนทั้งหมด (ทุกช่องทาง) เป็นจำนวน 8,751 เรื่อง และดำเนินการแล้ว 5,519 เรื่อง ซึ่งจะดำเนินการให้ครบทุกเรื่อง ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากประชาชน นอกจากนี้ในด้านการจับกุมต้องไม่จบแค่การจับตัวยา ต้องมีการขยายผลผู้อยู่เบื้องหลังการส่งยาเสพติดเหล่านั้นและยึดทรัพย์สิน เช่นในกรณีแก๊งบิ๊กไบค์ รายนี้

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0908535645

ทบ.เปิดขั้นตอนดำเนินคดี 'เนติวิทย์' ต่อต้านไม่จับใบดำใบแดงในการเกณฑ์ทหาร

(5 เม.ย.67) รายงานข่าวจากกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณี นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล พร้อมเพื่อน 2 คน เดินทางมาประกาศอารยะขัดขืนต่อต้านไม่จับใบดำใบแดงในการเกณฑ์ทหาร ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นขั้นตอนตามกฎหมายปกติ คือบุคคลการไม่รับการตรวจเลือก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยเรื่องดังกล่าวจะมีขั้นตอนกระบวนการ ในการพิจารณา ผู้ที่ไม่มาตรวจเลือกทหารฯ ทางกรรมการตรวจเลือก จะต้องมีการประชุมหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจเลือกแล้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคม ว่ามีคนที่ไม่มาตรวจเลือกจำนวนเท่าใด ที่ไม่ได้เข้ารับตรวจเลือกว่าแต่ละเคสใครมีเหตุมีผลอย่างไร ที่ไม่มาเข้ารับตรวจเลือก

“ส่วนของนายเนติวิทย์ คงไม่มีเหตุผลในการที่จะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะไม่สามารถบอกเหตุผลที่ไม่เข้ารับการตรวจเลือกได้ เนื่องจากภาพข่าวที่ออกมาเห็นชัดแล้วว่า ที่ไม่เข้ารับการตรวจเลือกด้วยเหตุผลในการอารยะขัดขืน ซึ่งไม่สามารถทำได้ โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว เรื่องดังกล่าวก็จะไปอยู่ในขบวนการชั้นศาล ศาลท่านก็จะตัดสินลงมาว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น“ รายงานข่าวกองทัพบก ระบุ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top