Sunday, 18 May 2025
NewsFeed

'ดร.เอ้' โพสต์ซึ้ง!! "อีกไม่นาน ฝันของผม กำลังจะเป็นจริง" 'โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร' จากน้ำใจของทุกท่าน

(22 มี.ค. 67) ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ 'ดร.เอ้' รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'เอ้ สุชัชวีร์' โดยระบุว่า…

"อีกไม่นาน ฝันของผม กำลังจะเป็นจริง" ทุกเช้า ผมจะผ่าน #โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ริมมอเตอร์เวย์ ที่สร้างมาจากน้ำใจของท่าน

เพราะไม่มีบุญใด ใหญ่กว่า การช่วยชีวิตคน แม้ว่าจากวันแรก ถึงวันนี้ มันช่างยากเย็นแสนเข็ญ กว่าเราจะทำได้...

พิสูจน์ ทุกอย่างเป็นไปได้ หากมุ่งมั่น ลงมือทำ!

วันนี้การก่อสร้างก้าวหน้าไปมาก ปีนี้ได้จะเปิดให้บริการทุกคน แล้วนะครับ

ผมภูมิใจสุดๆ ทุกครั้ง ทุกวัน เล่าให้ลูกฟัง "พ่อเอ้ ขอเป็นตัวอย่าง สร้างการเปลี่ยนแปลง" ทำดี ให้ลูกดู

ขอบพระคุณทุกท่าน ท่านกำลังจะมีโรงพยาบาลที่เป็นผู้นำด้านการรักษาพยาบาล และสร้างนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ ลดการนำเข้า วันหนึ่ง เราจะพึ่งพาตนเองให้ได้ครับ

ผมเชื่อว่า คงไม่ใช่แค่ฝันของผมเพียงลำพัง แต่เป็นฝันของคนไทยทุกคน กำลังเป็นจริง

โรงพยาบาลของคนไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทยทุกคน จากน้ำใจท่าน

อนุโมทนาบุญ ขอบพระคุณจริงๆครับ

‘สรรเพชญ’ ชี้ งบ มท. ส่วนของกรมส่งเสริมฯ 2.3 แสนล้าน เป็นแค่ภาพลวงตา ท้องถิ่นไร้อิสระ

เมื่อวานนี้ (21 มี.ค. 67) ณ อาคารรัฐสภา ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว (วาระ 2) เป็นวันที่สอง นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา ได้อภิปรายในมาตรา 20 ส่วนของกระทรวงมหาดไทย โดยเริ่มต้นด้วยการตั้งข้อสังเกตว่ากระทรวงฯ มีความสับสนในพันธกิจของตนเอง เพราะเมื่อครั้งแถลงนโยบายฯ รัฐบาลตั้งใจขับเคลื่อนนโยบายผู้ว่าฯ CEO แต่ตามพันธกิจ ข้อ 4 ที่กระทรวงระบุไว้ในเอกสารงบประมาณ ว่าจะส่งเสริม และสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินในระดับพื้นที่

นายสรรเพชญ ชี้ต่อไปว่า การจัดสรรงบฯ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดูเสมือนรัฐบาลส่งเสริมการกระจายอำนาจ โดยในปี 2567 ท้องถิ่นได้รับการจัดสรรมากถึง 236,000 ล้านบาท จากงบฯ ของกระทรวงมหาดไทยกว่า 291,000 ล้านบาท หากแต่ไปดูในรายละเอียดโครงสร้างงบท้องถิ่น กลับพบว่าเป็นการอำพรางงบฯ เพื่อสร้างภาพว่ารัฐบาลส่งเสริมกระบวนการกระจายอำนาจ และความเป็นอิสระของท้องถิ่น 

ในโครงสร้างงบท้องถิ่น นายสรรเพชญ ได้ชี้ให้เห็นว่า งบฯ ที่เพิ่มขึ้นของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกว่า 236,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นเงินอุดหนุนทั่วไป 198,000 ล้านบาท งบอุดหนุนเฉพาะกิจ 38,000 ล้านบาท แต่เมื่อพิจารณากันในรายละเอียดกลับพบว่า ท้องถิ่นมีอิสระในการใช้งบประมาณจริง ๆ เพียง 42,000 ล้านบาท เพราะงบส่วนที่เหลือที่ได้รับการจัดสรรนั้นพ่วงไปด้วยเงื่อนไขบังคับที่มาจากส่วนกลาง

นายสรรเพชญ กล่าวทิ้งท้ายว่า การจัดสรรงบประมาณแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นเพียงการสร้างภาพของรัฐบาล แต่สุดท้ายมันคือการกดทับไม่ให้ท้องถิ่นโตตามศักยภาพของตนตามที่ควรจะเป็น 

'กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ' ยื่นฟ้อง Apple ปม 'ไอโฟน' ผูกขาดตลาดมือถือ ราคาแพง!! แถมสร้างความยุ่งยาก หากใครคิดเปลี่ยนไปใช้มือถือรายอื่น

(22 มี.ค. 67) เอเอฟพี รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกายื่นฟ้องร้อง แอปเปิล บริษัทคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ระดับโลกสัญชาติอเมริกัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มี.ค. ในข้อกล่าวหาว่าไอโฟน ผูกขาดตลาดโทรศัพท์มือถืออย่างผิดกฎหมายด้วยการยับยั้งการแข่งขันและตั้งราคาสูงเกินไป

คดีดังกล่าวเป็นการฟ้องโดย 17 รัฐและพุ่งเป้าโจมตีไอโฟนซึ่งทำรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐจากการผูกขาดตลาด และทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากเมื่อเปลี่ยนการใช้งานจากไอโฟนเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีราคาถูกกว่า

ข้อมูลจากเอกสารฟ้องร้องบางส่วนระบุว่า ผู้ใช้งานอุปกรณ์ของบริษัทแอปเปิลถูกบีบบังคับให้อยู่ในระบบนิเวศของแอปเปิลและต้องซื้ออุปกรณ์ของแอปเปิลซึ่งมีราคาแพง

นายเมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดกล่าวว่า “ผู้บริโภคไม่ควรต้องจ่ายราคาที่สูงขึ้นเนื่องจากบริษัทฝ่าฝืนกฎหมายต่อต้านการผูกขาด หากปล่อยไว้โดยไม่มีใครทักท้วงแอปเปิลจะยังคงเดินหน้าการผูกขาดตลาดสมาร์ตโฟนต่อไป”

เปิดกฎเหล็ก 3 ข้อ 'โค้ชอิชิอิ' ลูกทีมช้างศึกต้องปฏิบัติตาม ตัวแปรกระชากแต้มจาก 'โสมขาว' ภายใต้ความหมายที่ง่าย แต่เคร่งครัด

ภายหลัง 'ช้างศึก' ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่กำลังทำศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มซี นัดที่ 3-4 พบกับ 'โสมขาว' เกาหลีใต้ ที่โซล เวิลด์คัพ สเตเดียม เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งสามารถเก็บแต้มออกมาได้ (1-1) ก่อนกลับมาเล่นกับเกาหลีใต้ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 26 มี.ค.67 นั้น ก็ทำให้ผู้คนเริ่มหันมามองถึงปรัชญาในการทำทีมช้างศึกที่เริ่มปลุกความยอดเยี่ยมของ 'โค้ชอิชิอิ' หรือ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทัพช้างศึก กันมากขึ้น

ทั้งนี้เรื่องง่าย ๆ ภายใต้กฎ 3 ข้อที่ อิชิอิ เน้นย้ำก่อนแข่งเสมอ เป็นวินัยที่อาจจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้นักเตะกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็น คือ 

1. ต้องตรงต่อเวลา 
2. รักษาสภาพร่างกาย 
และ 3. รักษาความลับของทีม 

สังเกตได้จากสภาพร่างกายนักเตะก่อนหวดโสมขาวนั้น สมบูรณ์ดีกันทุกคน แม้ในลีกจะมีเกมต้องลงสนามค่อนข้างหนักก็ตาม แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

หลังเกม อิชิอิ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังทีมชาติไทยบุกไปยันเสมอทีมชาติเกาหลีใต้ ด้วยสกอร์ 1-1 ใน ฟุตบอลโลก 2026 รับคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัด 3 เก็บเพิ่มเป็น 4 แต้มจากการแข่งขัน 3 นัด

โดย อิชิอิ ได้กล่าวไว้ว่า "มันก็เปรียบเทียบเกมกับญี่ปุ่นหรือใน เอเชียน คัพ ไม่ได้ เกมที่เราเล่นกับเกาหลี เรามีพลัง และเราก็เค้นสิ่งนั้นออกมาได้ หลัง เอเชียน คัพ เกาหลี ก็มีการเปลี่ยนโค้ช ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นตัวแปรก็เป็นได้"

เปิด 3 นายทุนระดับบิ๊ก ชิงไลเซนส์ 'เวอร์ชวลแบงก์' ด้าน ธปท.อุบ!! ใครร่อนใบสมัครแล้ว เผยรอลุ้นอีก 6 เดือน

(22 มี.ค.67) ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดให้ยื่นผู้สนใจสมัครประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแบงก์) โดยเปิดให้ยื่นวันแรก (20 มี.ค.)

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า จากที่ ธปท.ได้เปิดให้ผู้สนใจยื่นใบสมัครเข้าคัดเลือกเปิดเวอร์ชวลแบงก์นั้น แต่ ธปท.เพิ่งจัดเวทีให้ผู้สนใจสมัครขอใบอนุญาตดังกล่าว เข้ารับฟังเกณฑ์ต่าง ๆ ไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น แม้จะเริ่มเปิดให้ส่งใบสมัครวันแรก (20 มี.ค.) และตามระยะเวลาได้กำหนดปิดรับสมัครวันที่ 19 ก.ย.67 นับเป็นเวลา 6 เดือน ขณะนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ว่ามีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่ และมีรายใดที่ได้ยื่นใบสมัครแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกระทรวงการคลังออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์ฯ การขอและการออกใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารไร้สาขา (เวอร์ชวลแบงก์) ซึ่งมีกลุ่มทุนที่แสดงความสนใจจัดตั้งเวอร์ชวลแบงก์แล้ว 3 ราย ดังนี้

1.นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแบงก์) โดย กัลฟ์ จะร่วมมือกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จะยื่นใบอนุญาตภายในปี 2567 ด้วยเงินลงทุนเบื้องต้น 5,000 ล้านบาท เนื่องจากกัลฟ์มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ส่วนเอไอเอส ถือมีความพร้อมความเข้าใจในสายธุรกิจดีจากลูกค้า 45 ล้านเลขหมาย ขณะที่กรุงไทยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก

2.นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบีเอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้บริษัทจะประกาศพันธมิตรเพิ่มเติมอีก 1 ราย ซึ่งเป็นบริษัทเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีจากประเทศจีนในการยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารไร้สาขา (เวอร์ชวลแบงก์) หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลงนามความร่วมมือกับกาเกาแบงก์ (KakaoBank) ผู้นำด้านธนาคารดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้

และ 3.นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (กลุ่มซีพี) กล่าวว่า การขอจัดตั้งเวอร์ชวลแบงก์ ปัจจุบันบริษัทอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมความพร้อม ส่วนที่จะจับมือกับพันธมิตรรายอื่นเพื่อจัดตั้งเวอร์ชวลแบงก์หรือไม่ ณ วันนี้ยังไม่มี แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้น แต่บริษัทในเครือมีความพร้อมอยู่แล้ว และมีพาร์ตเนอร์ชิปที่แข็งแกร่ง คือทรูมันนี่ รวมถึงแอนท์ กรุ๊ป เป็นต้น

ทั้งนี้ หลังจากปิดรับสมัครแล้ว ธปท.ตรวจสอบเอกสารและพิจารณาคัดเลือกแล้วเสร็จจะส่งรายชื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง และกระทรวงการคลังจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกในเดือนมิถุนายน 2568 จากนั้นเวอร์ชวลแบงก์จะเปิดให้บริการได้ในปี 2569

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สนับสนุนค่าพาหนะ ชุดยาฉุกเฉิน และเสื้อสำเร็จรูป ให้แก่ผู้รับขาเทียม และช่างอาสาสมัคร ในโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 167 จังหวัดตราด

วันนี้ (วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567)  มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นายชุมพล บุญภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสาธารณภัย ร่วมกับมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นำทีมลงพื้นที่ มอบค่าพาหนะ พร้อมชุดยาฉุกเฉิน และเสื้อสำเร็จรูป ให้แก่ผู้รับขาเทียม และ ช่างทำขาเทียมอาสาสมัคร ที่เข้าร่วมโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 167 รวม 160 คน รวมงบประมาณทั้งสิ้น 110,176 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกบาทถ้วน)  โดยมี นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ร้อยเอก นายแพทย์ภูรีวรรธน์ โชคเกิด รองเลขาธิการมูลนิธิขาเทียมฯ และคณะกรรมการมูลนิธิขาเทียมฯ ร่วมในพิธี ณ ศูนย์แสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด อำเภอเมือง จังหวัดตราด

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

'อดีตทูตนริศโรจน์' แฉ!! ถูก FB สั่งลบความเห็นเพราะผิดกฎ แค่พิมพ์ "ควรไปสมัครที่ไทยซัมมิทนะ อาจได้งาน"

(22 มี.ค.67) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 'Fuangrabil Narisroj' ว่า...

ในเพจนึงเขียนเล่าเรื่องราวเด็กรุ่นใหม่ที่มั่นใจตัวเองสูงไปสมัครงานที่บริษัทหนึ่ง 

ผมก็แค่ไปเมนต์ว่า “ควรไปสมัครที่ไทยซัมมิทนะ อาจได้งาน” 

แค่นั้นแหละ FB สวนปราดมาทันทีว่าต้องลบความเห็นผมเพราะผิดกฎ ! 

ตอนนี้เพื่อนๆ เข้าใจหรือยังว่าอะไรเป็นอะไร เขียนแตะฝ่าย 'ธรรมะ' ไม่ได้เลย ! แต่ถ้าเพจ รอยัลลิสต์ เขียนด่าสถาบัน ด้อยค่าประเทศแค่ไหน ก็ไม่เคยโดน!

'รมว.ปุ้ย' จี้ ‘กรมโรงงาน’ แก้ปมใบ ‘ร.ง.4’ ค้างกว่า 200 ฉบับ ชี้!! หากล่าช้า กระทบต่อภาคการลงทุน-เศรษฐกิจไทย

(22 มี.ค. 67) แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคเอกชนหลายแห่งได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากปัญหาในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ทั้งในส่วนของประกอบกิจการใหม่ และการขออนุญาตขยายโรงงานล่าช้า

ทั้งนี้ เบื้องต้นรับทราบข้อมูลมาว่า การขอใบอนุญาตทั้ง 2 ประเภทของกรมโรงงานฯ ค้างอยู่ไม่ต่ำกว่า 200 ราย สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนอย่างมาก ทั้งที่ประเทศไทยตอนนี้ต้องการมูลค่าการลงทุน เพื่อเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กลับประสบปัญหาเรื่องการขอใบอนุญาตฯ 

อย่างไรก็ดี ต้องการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) แก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวนี้อย่างเร่งด่วน เพราะที่ผ่านมาปัญหาการขอใบอนุญาตร.ง.4 เป็นประเด็นร้อนที่นักลงทุนจากทั่วโลกที่เข้ามาลงทุนในไทยร้องเรียนอย่างหนักว่า ขั้นตอนยุ่งยาก มีความล่าช้าอย่างมาก และถูกตราหน้าว่าเป็นปัจจัยถ่วงการลงทุน

“ก่อนหน้านี้ปัญหาใบร.ง.4 เริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ปัญหานี้เริ่มกลับมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยแก้ปัญหากันไปเยอะแล้ว ตอนนี้ไม่เข้าใจว่า ทำไมปัญหากลับมาอีก ทั้งที่รัฐบาลก็ประกาศเรื่องอำนวยความสะดวกนักลงทุน แต่ใบร.ง.4 กลับเป็นตัวถ่วงอย่างหนัก ต้องการให้ กรอ. เร่งแก้ปัญหาโดยด่วน บางรายเอกสารครบถ้วน รอแค่เซ็นใบอนุญาตจากผู้บริหาร แต่ต้องรอมาเป็นปี โดยทุกอย่างดูติดขัดล่าช้าไปหมด ไม่รู้ว่า ติดปัญหาอะไร"

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ต้องการให้เร่งแก้ปัญหา เพราะไม่ต้องการให้ถูกมองเรื่องต้องจ่ายใต้โต๊ะหรือไม่ ถึงจะได้ใบอนุญาตเร็วขึ้น เพราะตอนนี้ยังมองในแง่ดีว่า ไม่น่าจะเป็นเหตุผลนั้น แต่ไม่รู้ว่า ติดอะไร ถ้าต่อไปยังล่าช้าอีก คงต้องยอมรับว่า อดไม่ได้ที่จะต้องมองแบบนั้น

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนเรื่องการขอใบอนุญาตลงทุนมาเช่นกัน โดยตนได้เรียกประชุมในวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา และสั่งการให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอธิบดี กรอ. รวบรวมข้อมูลการขออนุญาตที่ค้างอยู่ในระบบทั้งหมดว่าอยู่ในระบบนานเท่าไร สาเหตุของการตกค้าง และเรื่องดังกล่าวอยู่ที่ใด

โดยต้องกำหนดแนวทางในการจัดการคำขออนุญาต มาแจ้งตนในการประชุมวันที่ 26 มี.ค. ที่จะถึงนี้  เนื่องจากขัดแย้งกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้กับนักลงทุนทุกรายที่ทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว  

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้เข้าไปตรวจสอบพบว่า ยังตกค้างอยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรมกว่าร้อยเรื่อง ไม่สามารถออกให้แก่ภาคเอกชนได้ ซึ่งอาจเกิดจากเอกสารประกอบการพิจารณาไม่ครบถ้วน การรอข้อมูลจากหน่วยงานภายนอก เช่น การขออนุญาตโรงไฟฟ้า หรือโรงแปรรูปไม้ หรืออาจเกิดจากการทำงานที่เป็นการตั้งรับมากกว่าเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ 

สำหรับในลำดับแรกจะต้องเร่งเร่งเคลียร์ใบอนุญาตที่ค้างในระบบของกรอ. ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากผู้ประกอบการลงทุนรายใดเอกสารไม่ครบ ก็ต้องเร่งแจ้งว่าขาดอะไร รายใดเอกสารถูกต้องครบแล้ว ก็ต้องเร่งให้ใบอนุญาตออกไป

“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ต้องผ่านหลายขั้นตอน หลายฝ่าย หลายโต๊ะ หลายคน ทำให้ขาดประสิทธิภาพ เรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ ต้องเร่งเคลียร์ เร่งอนุญาตให้แก่นักลงทุนและผู้ประกอบการโดยเร็ว ต่อไปต้องเร่งปรับปรุงกระบวนการพิจารณาออกใบอนุญาตให้เป็นวัน สต็อป เซอร์วิสอย่างแท้จริง เพื่อลดระยะเวลาการออกใบอนุญาต และให้ทุกคำขออยู่ภายในกรอบเวลาของคู่มือการให้บริการประชาชน”

‘แฟนบอลไทย’ คุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงาน หลังคบหากัน 10 ปี ขณะชมแมตช์ ‘ไทย-เกาหลีใต้’ แฟนบอลนับพันร่วมเป็นสักขีพยาน

ควันหลงหลังจบเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มซี นัดที่ 3 ที่โซล เวิลด์คัพ สเตเดียม ‘โสมขาว’ ทีมชาติเกาหลีใต้ เปิดบ้านเสมอ ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทย 1-1 โดย เกาหลีใต้ ได้ประตูออกนำท้ายครึ่งแรกจากลูกยิงของ ซน ฮึง มิน ก่อนไทยจะมาได้ประตูตามตีเสมอ จากลูกยิงของศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ทำให้ทีมชาติไทย ลงเตะไปแล้ว 3 นัดมี 7 แต้มเท่ากับ ทีมชาติจีน แล้ว

อย่างไรก็ตาม นอกจากผลการแข่งขันของทีมชาติไทย ที่สามารถบุกเก็บแต้มได้ถึงถิ่นเกาหลีใต้ได้แล้ว ยังมีเรื่องราวน่าประทับใจของแฟนบอลชาวไทยที่เดินทางตามไปเชียร์ทัพช้างศึกติดขอบสนาม เมื่อ ‘กล้า’ กล้าณรงค์ มาโชค หนึ่งในแฟนบอลชาวไทยที่เป็นพิธีกรไทยลีก และผู้อ่านข่าวกีฬา ทำเซอร์ไพรส์แฟนสาว ‘น้องแป้งล่ำ’ คุกเข่าขอแต่งงานในสนามแข่งขัน โซล เวิลด์คัพ สเตเดียม แห่งนี้

บรรยากาศดังกล่าวมีแฟนบอลชาวไทยที่เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกัน จนกลายเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่น่าประทับใจท่ามกลางแฟนบอลจำนวนมากนับพันคนที่เป็นสักขีพยานในครั้งนี้

สำหรับ กล้าณรงค์ มาโชค และน้องแป้งล่ำ คบหาดูใจกันมาร่วม 10 ปี ตั้งแต่ทำงานอยู่ที่สยามกีฬา (ฟุตบอลสยาม ทีวี) จนกระทั่งล่าสุด ‘กล้า’ ได้ขอ ‘น้องแป้งล่ำ’ แต่งงานและเตรียมเข้าสู่พิธีวิวาห์

‘WHA Group’ ปลื้ม!! กระแสตอบรับยอดจองหุ้นกู้ล้นเกินเป้ากว่า 3 เท่า ตอกย้ำ!! การเป็นผู้นำในด้าน ‘โลจิสฯ-นิคมอุตฯ-สาธารณูปโภค-พลังงาน’

(22 มี.ค.67) บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA Group เสิร์ฟข่าวดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากสร้างออลไทม์ไฮสูงสุด 2 ปีติดต่อกันเป็นประวัติการณ์สำหรับผลประกอบการปี 2565 และปี 2566 และล่าสุด WHA Group ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ในการออกหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2567 มูลค่าเสนอขาย 5,000 ล้านบาท + Greenshoe 2,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท ตอกย้ำถึงความสำเร็จจากความมุ่งมั่นของการเป็นผู้นำใน 4 กลุ่มธุรกิจ ทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน ตลอดจนดิจิทัล ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม อีกทั้งยังสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ โครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง และแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจนและยั่งยืน

ด้านประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA Group ‘จรีพร จารุกรสกุล’ มั่นใจสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้ สำหรับปี 2567 และเดินหน้าพัฒนาโซลูชันทางธุรกิจและอุตสาหกรรมเพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ และร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศไทย โดยมีภารกิจสำคัญคือการบรรลุเป้าหมายที่จะเป็น Technology Company อย่างเต็มตัว ด้วยกลยุทธ์ AI Transformation มุ่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ยกระดับการดำเนินงานด้วยข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อคงความเป็นผู้นำในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต่อยอดโครงการ Digital Transformation ที่มีอยู่กว่า 38 โครงการ 

ทั้งนี้ 4 กลยุทธ์สำคัญของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในปี 2567 ประกอบด้วย Extend Leadership เร่งขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในประเทศและตลาดภูมิภาค Embrace Innovation and Technology นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น New S-curve ให้กับองค์กร Enhance the Prominence on Green and Sustainability เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ในปี 2593 (Net-Zero 2050) และ Build High-Performance Organization ด้วยการพัฒนายกระดับด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูง

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group เปิดเผยว่า นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยมด้วยยอดจองล้นเกินเป้ากว่า 3 เท่า สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2567 ของบริษัทฯ มูลค่า 5,000 ล้านบาท + Greenshoe 2,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท หลังจากที่เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2567 ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 3 ราย ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารยูโอบี โดยการเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวได้แบ่งเป็น 3 ชุด โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 จำนวน 2,500 ล้านบาท มีอายุ 3 ปี 6 เดือน หุ้นกู้ชุดที่ 2 จำนวน 2,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 (หุ้นกู้ที่ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย/Zero Coupon Bond) จำนวน 2,500 ล้านบาท อายุ 2 ปี 7 เดือน 30 วัน โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และประเทศโดยรวม สำหรับเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินไปชำระคืนหนี้เดิม และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน/เงินลงทุน/ค่าใช้จ่ายลงทุน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ

ทั้งนี้ หุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ A- แนวโน้ม ‘คงที่’ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ จากผลงานที่ได้รับการยอมรับในธุรกิจพัฒนาคลังสินค้า/โรงงานตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-suit Warehouse/ Factory) และธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานรายได้ประจำจำนวนมากที่บริษัทได้รับจากธุรกิจสินทรัพย์ให้เช่า ตลอดจนธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภค และเงินปันผลจากการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้า ตลอดจนความยืดหยุ่นทางการเงินจากการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อีกด้วย

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการดำเนินงานในปี 2566 ที่ทุบสถิติใหม่สร้างออลไทม์ไฮสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกปี ซึ่งตอกย้ำถึงความสำเร็จจากความมุ่งมั่นของการเป็นผู้นำใน 4 กลุ่มธุรกิจ ทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน ตลอดจนดิจิทัล ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม บริษัทฯ วางกลยุทธ์ปี 2567 เพื่อมุ่งต่อยอดพันธกิจ ‘We Shape the Future’ เสริมศักยภาพทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจให้แข็งแกร่งครบวงจร

ธุรกิจโลจิสติกส์  มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และขยายธุรกิจในการพัฒนาโครงการ Built-to-Suit และคลังสินค้า/โรงงานคุณภาพสูงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นที่อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อีคอมเมอร์ซ และอุตสาหกรรมที่เป็น New S-curve นอกจากนี้ยังเสริมศักยภาพด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และการส่งเสริมแนวปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน โดยมีโครงการ Green Logistics ซึ่งจะมีการให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาแอปพลิเคชันที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้ารวมถึงแบตเตอรี่เพื่อสนับสนุนและเร่งการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในภาคขนส่งของประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการลดต้นทุนโลจิสติกส์ในระยะยาว รวมถึงการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน 

สำหรับ Office Solutions บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานที่ทันสมัย ปัจจุบันมีโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า 5 แห่ง พื้นที่รวมมากกว่า 120,000 ตารางเมตร และเริ่มขยายสู่โครงการพาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ๆ

ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มุ่งรักษาความเป็นผู้นำในประเทศไทยและขยายธุรกิจในเวียดนามให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับการย้ายฐานทุนและฐานการผลิตที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเดินหน้าพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์อัจฉริยะ (Smart ECO Industrial Estate) โดยขยายขีดความสามารถให้ครอบคลุม 6 องค์ประกอบสำคัญ คือ Smart Services, Smart Mobility, Smart Communication, Smart Power, Smart Water และ Smart Security ภายใต้การบริหารจัดการโดยศูนย์ควบคุมกลาง Unified Operation Center (UOC) และต่อยอดการเป็น Total Solutions Partner ให้กับลูกค้าด้วยการให้บริการแบบครบวงจร  

ธุรกิจสาธารณูปโภค ยังคงมุ่งเน้นธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม และขยายการให้บริการน้ำทุกประเภทในโครงการนิคมใหม่ๆ ของ WHA และนอกนิคมของ WHA ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเดินหน้าพัฒนา Smart Water Platform และมองหาโอกาสขยายธุรกิจใหม่ๆ อาทิ โซลูชันสิ่งแวดล้อม และสาธารณูปโภคสำหรับอุตสาหกรรมอื่น มุ่งพัฒนาการให้บริการใหม่ๆ ที่ครบวงจร

ธุรกิจไฟฟ้า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน พร้อมทั้งการหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจเพื่อสร้าง New S-Curve อาทิ สถานีชาร์จ EV รองรับธุรกิจ Green Logistics ระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ (BESS : Battery Energy Storage Systems) การซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage : CCUS)

ธุรกิจดิจิทัล เดินหน้ายกระดับการพัฒนาองค์กรและบุคลากรของบริษัทฯ มุ่งสู่การเป็น Technology Company ในปี 2567 โดยเดินหน้าในการนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนองค์กร ภายใต้ภารกิจ ‘Mission To The Sun’ ผ่าน 9 โครงการในการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล อาทิ โครงการ Green Logistics ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์มที่รวมบริการต่างๆ (Geen Mobility Platform) สำหรับลูกค้ายานยนต์ไฟฟ้าภาคธุรกิจ อาทิ การบริหารยานพาหนะ (Fleet Management) การวางแผนเส้นทาง (Route Optimization) และการเชื่อมโยงโครงข่ายสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า (EV Roaming) เป็นต้น และโครงการ Digital Health Tech ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน WHAbit ที่ช่วยให้สามารถจัดการสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งทางบริษัทฯ มีแผนเริ่มต้นการให้บริการแอปพลิเคชันแก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งแรกของปี

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้ตั้งเป้าดำเนินธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์ภายในปี 2593 ผ่านการดำเนินงานภายใต้ 3 หลักการ ได้แก่ Design & Resource, Green Products และ Operation Excellence เพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระบบนิเวศของบริษัทฯ

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมแผนการขายทรัพย์สินของบริษัทฯ เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล (กองทรัสต์ WHAIR) ภายในไตรมาส 4/2567 ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้

สุดท้ายนี้ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพในทุกด้านเพื่อการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สอดคล้องกับพันธกิจ ‘WHA: WE SHAPE THE FUTURE’ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้คน สังคม และประเทศไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top