Monday, 26 May 2025
NewsFeed

‘ไก่ มีสุข’ เคลื่อนไหว!! ถวายกำลังใจ ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ขอ ‘เคารพ รัก ศรัทธาเหนือเกล้า’ ไม่เปลี่ยนแปลง

ทำเอาเหล่าดาราศิลปิน คนดังวงการบันเทิงเริ่มออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หลังทนเห็นพฤติกรรมของ ‘นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์’ หรือ ‘ตะวัน’ นักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง ป่วนขบวนเสด็จ ‘สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี’ ไม่ไหว จนต้องพร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #น้อมถวายกำลังใจ

ล่าสุดอดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ‘ไก่ มีสุข คุณดิลกชัยพัฒน์’ ได้ออกมาโพสต์ภาพวาดลายเส้น กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ของอาจารย์คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ของไทย พร้อมข้อความว่า

"ไม่เคยเปลี่ยนใจ ไม่เคยหวั่นไหว ไม่เคยลังเล ที่จะรัก ศรัทธา และเคารพเหนือเกล้า ไม่ได้เบาปัญญา ไม่ใช่หลงงมงาย ใช้การศึกษาหาข้อมูล ทำงานข่าวมาจะชั่วชีวิต เป็นนักข่าวผู้ประกาศสายราชสำนักมา 2 ปี รู้ดีมากกว่าที่เป็นข่าว >> ว่าชวงศ์ไทยทำอะไรบ้าง #เคารพธงชาติไทย #ชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ #ฉันเกิดในรัชกาลที่เก้า เข้าโรงหนังก็ยังยืนเคารพจนจบเพลง ค่ะ"

นอกจากนี้ ‘ไก่ มีสุข’ ยังออกมาโพสต์ภาพวาดกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมข้อความว่า "Save #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์" ท่ามกลางประชาชนเข้ามาถูกใจและกดอิโมจิรูปหัวใจสีม่วงให้รัว ๆ

“พิพัฒน์” รมว.แรงงาน นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เครือข่ายแรงงานทั่วประเทศกว่า 100,000 คน ใส่เสื้อม่วงแสดงพลังจงรักภักดีถวายแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เทิดทูนสถาบันอันเป็นที่รักและเคารพของชาวไทย

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในกิจกรรมขอพระราชทานน้อมแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน อธิบดีทุกกรม ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน และเครือข่ายสหภาพแรงงาน องค์กรนายจ้าง ลูกจ้างทั่วประเทศ พร้อมใจกันสวมเสื้อสีม่วงร่วมแสดงพลังจงรักภักดีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ณ ลานพระพุทธสุทธิธรรมบพิตร ด้านหน้าอาคารกระทรวงแรงงาน

โดย นายพิพัฒน์ อ่านแถลงการณ์กระทรวงแรงงาน ประกาศเจตจำนงปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ความว่า ข้าพระพุทธเจ้า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เครือข่ายอาสาสมัครแรงงาน และเครือข่ายภาคประชาชน ในสังกัดกระทรวงแรงงาน ต่างมีความปลื้มปิติที่ได้มาร่วมแสดงความจงรักภักดีในวันนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์ถือเป็นสถาบันหลักของชาติ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน การรักษาความมั่นคงสถาบันหลักของชาติ ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ให้ดำรงอยู่คู่ประเทศชาติอย่างมั่นคงตลอดไป

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้ทรงสละความสุขส่วนพระองค์ และทรงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในด้านต่าง ๆ และได้สืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยทรงพระกรุณาสงเคราะห์ให้ความช่วยเหลือแรงงาน และแรงงานผู้พิการ เพื่อให้ความรู้ พัฒนาศักยภาพ ทักษะฝีมือแก่ช่างกายอุปกรณ์ และช่างเครื่องช่วยคนพิการได้เพียงพอกับความต้องการ และทรงพระกรุณารับเป็นองค์อุปถัมภ์ในการสงเคราะห์ ช่วยเหลือลูกจ้าง คนงานที่พิการให้ได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน รวมถึงพัฒนาทักษะอาชีพให้กับผู้ว่างงาน คนงานที่ต้องการพัฒนาทักษะ จนเป็นที่ประจักษ์ 

“กระทรวงแรงงานได้น้อมนำพระจริยวัตรของพระองค์ คือ พระเมตตาและความเอาพระทัยใส่ในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือประชาชนและผู้ที่เดือดร้อนทุกคน นำมาขับเคลื่อนการทำงานของกระทรวงในโอกาสนี้ จึงขอพระราชทานน้อมแสดงความจงรักภักดีแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยปวงข้าพระพุทธเจ้า ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน จักขอเทิดทูนปกป้อง และรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดไป” นายพิพัฒน์ กล่าวแถลงการณ์

ทั้งนี้ ภายหลังอ่านแถลงการณ์แล้ว นายพิพัฒน์ฯ ยังได้นำผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) และเครือข่ายแรงงานทั่วประเทศ โดยร่วมกันกล่าวแสดงความจงรักภักดี “ทรงพระเจริญ” จำนวน 3 ครั้ง เสียงดังกึกก้องไปทั่วกระทรวงแรงงาน พร้อมทั้งโบกธงชาติไทยและธงสีม่วงพระนามาภิไธยย่อ “ส.ธ.” เพื่อร่วมกันแสดงพลังถวายกำลังใจแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันที่มีคุณูปการนำพาคนไทยสร้างชาติ รักษาเอกราช วัฒนธรรม ความเป็นไทยให้คงอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้  และได้เชิญชวนนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สหภาพแรงงาน และเครือข่ายแรงงานทั่วประเทศ ได้รวมพลังแสดงความจงรักภักดี ถวายแด่กรมสมเด็จพระเทพฯ ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยตลอดไป

“วันนี้เราได้มีการรวมตัวกันของผู้ใช้แรงงานโดยใน 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานครที่เราได้จัดกิจกรรมการถวายความจงรักภักดีนี้ขึ้นที่กระทรวงแรงงาน ผมมั่นใจว่ากิจกรรมการถวายความจงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของประเทศไทยมีผู้ออกมาแสดงความจงรักภักดีในนามของกระทรวงแรงงาน ในนามของผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศไทยกว่า 100,000 คน” นายพิพัฒน์ กล่าว

สืบนครบาล ทลายแหล่งปล่อยเงินกู้รับจำรถดอกเบี้ยโหดย่านตรวจยึดรถยนต์และจักรยานยนต์จำนวนมาก

สืบเนื่องจากสืบนครบาลได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ถึงผู้มีอิทธิพลทำการทวงหนี้นอกระบบ โดยมีสมาชิกในกลุ่มหลายคน มักใช้ความรุนแรง ข่มขู่ ยึดรถและทรัพย์ของลูกหนี้มาเก็บไว้ที่บ้าน จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ทราบ และวางแผนตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวตามนโยบายของรัฐ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์   รอง ผบ.ตร.(สส) และ พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. 

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วิชิต  ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1, พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์  รอง ผกก.สส.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ปฏิบัติราชการ  สว.กก.สส.1 , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 , ร.ต.อ. พลวัต  นาคถมยา  รอง สว.ฯ ,  ร.ต.ท.อัศวิน  มะลัยสิทธิ์ รอง สว.ฯเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ได้หมายค้นศาลอาญาตลิ่งชันที่ 22/2567 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ให้ทำการตรวจค้นบ้านบุคคลดังกล่าว ซ.ฉิมพลี 20 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พบนายชนะโชติ อายุ 40 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าบ้านนำตรวจค้น และจับกุม

นายชนะโชติ โรจน์เกตุ อายุ 40 ปี  บ้านเลขที่ 34 ซ.ฉิมพลี 20 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ตรวจยึดของกลางดังนี้

1.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อtoyota รุ่นcorolla สีเทา 
2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อisuzu รุ่น d-max สีเทา
3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ honda รุ่น wave s 100 สีเทาดำ 
4.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ yamaha สีน้ำเงิน 
5.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ honda รุ่น wave i  สีดำแดง
6.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ honda รุ่น wave s 100 สีเทาแดง
7.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ honda รุ่น wave i  สีน้ำเงิน 
8.ปืนสั้นลูกโม่ยี่ห้อ smith and wesson จำนวน 1 กระบอก
9.ปืนยาวลูกซองยี่ห้อ remington จำนวน 1 กระบอก
10.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ samsung สีเทาจำนวน 1 เครื่อง
11.เอกสารประกอบการกู้ยืมเงินจำนวน 1 ชุด

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา มาตรา 4 อนุมาตรา 1”

จากนั้นได้นำผู้ต้องหาไปยังที่ทำการพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พฤติการณ์คือ จากสืบสวนทราบว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเข้าตรวจค้นบ้านนายสายัณห์ เจ้าของบ้าน ส่วนกำลังอีกชุดเข้าค้นอีกบ้านพร้อมจับกุม นายชนะโชติ หรือ ตั๊ก อายุ 34 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นลูกชายของนายสายัณห์ ทั้งคู่ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพลทำการทวงหนี้นอกระบบ โดยมีสมาชิกในกลุ่มหลายคน มักใช้ความรุนแรง ข่มขู่ ยึดรถและทรัพย์ของลูกหนี้มาเก็บไว้ โดยจากการตรวจค้นบ้านทั้ง 3 หลังยึดของกลางเป็น อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังตรวจยึดรถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 สีบรอนซ์เงิน ที่มีผู้เสียหายแจ้งความกับ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่าถูกยึดมาเพราะติดหนี้

พล.ต.ต.ธีรเดช ขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงวิธีหลีกเลี่ยงการถูกทวงหนี้นอกระบบด้วยรูปแบบต่างๆ และแนวทางการป้องกัน ดังนี้ 1.หากถูกแก๊งทวงหนี้ แอบอ้าง ข่มขู่ ควรตั้งสติให้ดี อย่าตื่นตระหนก รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ หรือให้ความช่วยเหลือ 2.ทำการบันทึกข้อมูลการสนทนา ภาพถ่าย คลิปวิดีโอ เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้ เพื่อใช้ในการดำเนินคดีภายหลัง และ 3.หากมีความจำเป็นต้องกู้เงิน ควรกู้จากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด สามารถแจ้งไปยังเพจ "สืยนครบาล IDMB" ได้ตลอดเวลา  

'บิ๊กต่าย' แถลงตำรวจ ปส. ปูพรมเปิดปฏิบัติการ '999 Episode 2' ยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่าย 'โน้ต ศดายุฯ' พร้อมกัน 23 จุด ทั่วประเทศ พร้อมจับทีมนักบินยึดยาบ้า 16 ล้านเม็ด

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งเน้นให้เดินหน้าเชิงรุกปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลการทุกเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับ รวมทั้งสืบสวนขยายผลเพื่อยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้ายาเสพติด รวมทั้งผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ                          

วันนี้ 16 ก.พ.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญนวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร์  เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส. ,พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน  ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส.และพล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. และ นายธัญญาวิทย์ พราวพิจักขณากูล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักปราบปรามยาเสพติด ร่วมแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ของ บช.ปส. หลายคดี  

เริ่มที่ช่วงเช้าวันนี้ 16 ก.พ.67 กองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด (บก.ขส.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปราม ยาเสพติด 1,3,4 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการ “999 Episode 2” ขยายผลปิดล้อมตรวจค้นเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่าย “นายศดายุ หรือโน้ต” ใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ คือ กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, นนทบุรี, อยุธยา, สุพรรณบุรี, นครปฐม และ เชียงราย รวม 23 เป้าหมาย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 59 บก.ขส. ได้สืบสวนเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑล จนนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการ “999” ปิดล้อมตรวจค้นใน 27 จุดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 33 คน ตรวจยึดยาบ้า 172,000 เม็ด,ไอซ์ 6 กก., ยาอี 1,450 เม็ด, คีตามีน ชนิดน้ำ 520 ขวด, คีตามีน ชนิดผง 6.4 กก., กัญชา 1 กก., ยาปลุกเซ็กซ์ 50,000 กล่อง ตรวจยึดรถยนต์ 10 คัน, มอเตอร์ไซค์ 2 คัน, บัญชีเงินฝาก 22 เล่ม, ปืน 7 กระบอก, กระสุนปืน 2,000 นัด, โฉนดที่ดิน, พระเครื่อง, ทองรูปพรรณ, พันธบัตรไทย มูลค่า 124 ล้านบาท, พันธบัตรลาว มูลค่า 56 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมด 400 ล้านบาท จากการขยายผลพบว่า นายศดายุ หรือโน้ต เป็นหัวหน้าเครือข่ายค้ายาเสพติดระดับสั่งการ โดยติดต่อสั่งยาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ลักลอบลำเลียง เข้ามาเก็บซุกซ่อนในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ นนทบุรี, โคราช, สมุทรปราการ, นครปฐม, ชลบุรี, หนองคาย, ชุมพร และกรุงเทพมหานคร จะมีเครือข่ายแบ่งการทำงานชัดเจน จนนำมาสู่การออกหมายจับ นายศดายุ พร้อมพวก รวม 9 ราย

กระทั่งวันที่ 13 ก.ย. 59 ตำรวจ บก.ขส. สืบทราบว่า นายศดายุ ได้จัดกิจกรรมเลี้ยงขอบคุณเอเย่นต์ ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในอำเภอเขาใหญ่ จึงร่วมปิดล้อมตรวจค้นจับกุมได้ 4 ราย ส่วนนายศดายุ และพวกรวม 5 คน ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้ขับรถไล่ติดตามพร้อมสกัดจับแต่เกิดการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถูกวิสามัญเสียชีวิตภายในรถ 1 ราย ส่วนนายศดายุ  กับพวกที่เหลือหลบหนีไปได้
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 ตำรวจ ภ.1, ภ.6 และ บช.น. ร่วมกันจับกุมตัว นายศดายุ เหลืองประดับใจ ได้บริเวณลานจอดรถ รีสอร์ท ณ บ้านทุ่ง อัมพวา ต.สวนหลวง อ.อัมพวา จว.สมุทรสงคราม ตามหมายจับของศาลาอาญา ที่ 262/2559 ในข้อหา“สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว” ตำรวจ บก.ขส. จึงขยายผลพบว่าระหว่างหลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งกลับเข้ามาในประเทศไทย นายศดายุ ยังคงค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่องจนถูกจับกุมได้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ได้มาพบ นายศดายุ จะนำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สิน เช่น ที่ดินเปล่า เพื่อนำมาสร้างโกดังเก็บยาเสพติด, ซุกซ่อนทรัพย์สิน และ เก็บสะสมรถแต่ง สำหรับการเปิดปฏิบัติการ “999 Episode 2” 23 เป้าหมาย สามารถตรวจพบเป้าหมาย 9 ราย ไม่พบ 10 ราย, อายัดเงินในบัญชีธนาคารจำนวน 2,800,000 บาท อายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ 51 รายการ อาทิ บ้านพร้อมที่ดิน, โกดัง, รถยนต์ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่อายัดทั้งหมด 150,000,000 ล้านบาท  

นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมเครือข่ายรายสำคัญได้อีก 5 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้รวม 9 ราย ยึดยาบ้า 16 ล้านเม็ด ไอซ์ 4 กก. อายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท

คดีที่ 1 สืบเนื่องจาก ตำรวจ กก.1 บก.ปส.1 ทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด “เครือข่าย ดำเมืองกาญ” ในพื้นที่ จว.กาญจนบุรี จะขึ้นไปรับยาเสพติดทางภาคเหนือมาจำหน่ายในเขต กรุงเทพฯและปริมณฑล กระทั่งวันที่ 30 ม.ค.67 พบความเคลื่อนไหวของรถเป้าหมาย หมายเลขทะเบียน กต 88xx นนทบุรี ขับขี่เข้าไปในพื้นที่ ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จว.เชียงราย และขับลงมาช่วงเที่ยงของวันที่ 31 ม.ค.67 บริเวณถนนพหลโยธิน ตำบลวังมัน อำเภอสามเงา จว.ตาก ก่อนจะสกัดจับไว้ได้ บริเวณสะพานบ้านยางโองน้ำร่วมใจพัฒนา อำเภอบ้านตาก จว.ตาก ตรวจสอบพบ นายนที หรือเจต ยุวะเวส เป็นคนขับ ตรวจสอบรถพบยาบ้ากว่า 8 แสนเม็ด ซุกซ่อนบริเวณท้ายรถ 

คดีที่ 2 กลางดึกของวันที่ 28 ม.ค.67 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ตรวจยึดยาบ้า 1,140,000 เม็ด ได้บริเวณถนนทางดินริมทุ่งนา บ้านโล๊ะ ม.1 ต.สันต้นหมื้อ อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ หลังทำการสืบสวนเครือข่ายยาเสพติดชาวเขาเผ่าลาหู่ เครือข่ายของ นายจะนะ แอโหลซึ่งมีพฤติการณ์ใช้รถยนต์กระบะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน ด้าน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ นำไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายเพื่อลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ระหว่างเฝ้าติดตามพบรถต้องสงสัย ขับออกมาจากพื้นที่แนวชายแดน บ้านห้วยน้ำเย็น ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ ใช้เส้นทางถนนชนบทสลับกับถนนทางดินริมทุ่งนา มุ่งหน้าไปทาง ต.แม่อาย - ต.มะลิกา - ต.แม่นาวาง - ต.สันต้นหมื้อ ลักษณะขับเร็วสลับช้าและจอดเป็นระยะๆ กระทั่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัวนำรถเข้าสกัดจับกุม รถกระบะ หมายเลขทะเบียน ผล 16xx เชียงใหม่ ระหว่างนั้นผู้ต้องหาคือ นายจะนะ ได้อาศัยความมืดทิ้งรถก่อนเปิดประตูวิ่งลงจากรถหลบหนีไปได้ ตรวจค้นรถกระบะพบยาบ้า 1,140,000 เม็ด

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 บก.ปส.4 จับกุม นายสูดี รือมัน ขณะขับรถเข้าด่านตรวจยาเสพติด อ.จะนะ จว.สงขลา เจ้หน้าที่พบวัตถุที่มีลักษณะน่าสงสัย จึงเชิญคนขับนำรถเข้าเครื่อง X-ray เพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียด พบยาบ้า 1,620,000 เม็ด บรรทุกอยู่หลังรถในลักษณะตีคอก สอบถามผู้ต้องหา ระบุ รับยาบ้ามาจาก ต้นทาง จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำมาส่งในพื้นที่ปลายทาง จว.นราธิวาส  

คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 27 ม.ค.67 ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ บก.ปส.1 และ บก.ขส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีเครือข่ายยาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ ไปส่งลูกค้าในพื้นที่ จว.สระบุรี กระทั่งวันที่ 27 ม.ค.67 สามารถจับกุม นายจายตาล, นายวิน และ นายแลง ลุงเมือง ได้ที่ริมถนนพหลโยธิน หมายเลข 1 ต.ดาวเรือง อ.เมือง จว.สระบุรี พร้อมรถยนต์ TOYOTA รุ่น: HIACE สีขาว 1 คัน ตรวจค้นยาบ้า 12,200,000 เม็ด และ ไอซ์ 5 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ หลังจากนั้นสามารถขยายผลจับกุม นายไซ ทูน ที่หลบหนีได้บริเวณ หอพักทิพย์แมนชั่น ห้องหมายเลข 412 ซ.หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จว.นครปฐม ซึ่งทั้ง 4 ผู้ต้องหาเป็นสัญชาติเมียนมา นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินอาทิ รถยนต์ และเงินสด 

คดีที่ 5 เมื่อวันที่ ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. รับแจ้งจากสายลับว่า เครือข่ายรายสำคัญจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคกลาง นำไปส่งมอบให้กับลูกค้าทางพื้นที่ภาคใต้ กระทั่งวันที่ 29 ม.ค.67 สามารถจับกุม 3 ผู้ต้องหา คือ นายทรงวุฒิ, นายสุริยา และ นายกิตติพร ได้บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท. อ.เขาย้อย จว.เพชรบุรี ตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในรถ  264,000 เม็ด รวมคดีที่ 4 และ 5 สามารถอายัดทรัพย์สินได้มูลค่า 7,520,000 บาท

สำหรับเดือน 1 ตุลาคม 2566 – 14 กุมภาพันธ์ 2567 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญ 99 คดี ผู้ต้องหา 170 คน ของกลาง ยาบ้า 132,494,672 เม็ด, ไอซ์ 2,892.26 กก. เฮโรอีน 79.47 กก. ,โคเคน 18.97 กก. และคีตามีน 1,201.22 กก. และตรวจยึดทรัพย์ ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 606 ล้านบาท

'เดอะแบกแห่งวงการ' โพสต์สะเทือนโซเชียล "บอกเลยครับ ม่วงทั้งใจ และจะม่วงตลอดไป"

(16 ก.พ. 67) 'พี่ป๋อง' กพล ทองพลับ 'เดอะแบกแห่งวงการ' ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ นักแสดง เป็นที่รู้จักในการดำเนินรายการประเภทผี เรื่องลึกลับ เช่นรายการวิทยุชื่อรายการ The Shock ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านไอจี ว่า...

"บอกเลยครับ ม่วงทั้งใจและจะม่วงตลอดไป

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าว ได้มีคอมเมนต์ที่เข้ามาโพสต เป็นรูปหัวใจสีม่วงสมทบกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย

'เศรษฐา' เฉลย!! ทำไม ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ถึงไม่มาไทย ส่งสัญญาณถึงผู้จัดงาน ปลายปีขอระดับเอลิสต์มาเลย

(16 ก.พ. 67) ที่ห้อง Meeting Room ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาในงาน iBusiness Forum 2024 หัวข้อ RESHAPING THAILAND FOR A SUSTAINABLE FUTURE พลิกเศรษฐกิจไทย ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน แนะพลิกรายได้เกษตรกร แก้หนี้ ยกฐานรากพีระมิด

โดยช่วงตอนหนึ่ง นายเศรษฐา ได้พูดถึงคอนเสิร์ตระดับโลกอย่างของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ไม่เดินทางมาจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย โดยระบุว่า หลาย ๆ ท่านอยู่ในวัยของการดูคอนเสิร์ต สิงคโปร์ เขาจัดเทย์เลอร์ สวิฟต์ เดือนหน้า อาจจะมีบางท่านไปดู ก็สงสัยว่าทำไมไม่มาเมืองไทย ก็ไปเชิญผู้จัดมาเมื่อ 2 วันก่อนนี้ เขาพูดชัดเจน ถ้าจัดคนมาถล่มทลาย Coldplay มา Ed Sheeran มา 70% เป็นนักท่องเที่ยว ที่บินเข้ามาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเข้ามาดูคอนเสิร์ตเหล่านี้ เป็นเรื่องน่ายินดี

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า แต่ว่าทำไม เทย์เลอร์ สวิฟต์ ไม่มา บียอนเซ่ ยังไม่มา ทำไม Coldplay มาแค่ 2 วัน เขาบอกแบบนี้ ฟังแล้วอาจจะตกใจ เขาว่าเทย์เลอร์ สวิฟต์ มา จัด 5 โชว์ ไม่บอกตัวเลขที่แน่นอน เขาบอกโชว์หนึ่ง รัฐบาลให้เงินอุดหนุน 2-3 ล้านเหรียญ 5 โชว์ ประมาณ 500 ล้านบาท แต่รัฐบาลสิงคโปร์เขาฉลาด เขาบอกห้ามจัดที่อื่นเลยในเอเชีย

“500 ล้าน ผมว่าเป็นเงินที่เล็กน้อยมาก ถ้ารู้งี้ ผมว่า ผมดึงมาประเทศไทย ต่อโชว์ต่ำกว่า 2 ล้านเหรียญอีก เขาสามารถดึงดูด สปอนเซอร์ได้ นักท่องเที่ยวมาไทยได้เยอะกว่า แม้ต้องสนับสนุน 500 ล้านสำหรับโชว์ วงการโรงแรม หมูปิ้งข้างถนน หลาย ๆ อย่างเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราอยากจะทำ”

นายกฯ กล่าวต่อว่า แต่ให้โจทย์ไปว่า ปลายปีตนก็อยากทำแบบนี้เหมือนกัน ขอให้เอา A-list มาเลยแล้วกัน และมาคุยกัน ไม่แน่ใจทำได้ไหม เพราะต้องแพลนล่วงหน้านาน เรามีศักดิ์ศรีที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เป็นโอกาสเป็นจุดหมายทั่วโลก

แชร์ประสบการณ์!! เรียนต่อที่จีน เปิดโลกทัศน์กว้างไกล ได้เรียนรู้วัฒนธรรม-สังคม-ธุรกิจ ใช้ต่อยอดชีวิตในอนาคต

เมื่อไม่นานมานี้ เพจ ‘ตี๋น้อย’ เพจแชร์เรื่องราวและข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประเทศจีน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับประโยชน์ของการเรียนภาษาจีน โดยระบุว่า…

เล่าเรื่องหนึ่ง ช่วงนี้ที่จีนใกล้จะเปิดเทอมแล้ว น้อง ๆ หลาย ๆ คน อาจจะเริ่มเตรียมตัวกลับไปจีน หรือบางคนเพิ่งจะไปจีนครั้งแรกในเทอมนี้ ตี๋น้อยเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์กันครับว่า การไปเรียนภาษาหรือปริญญาที่จีน เป็นยังไงบ้าง ได้อะไรเพิ่มกลับมาบ้าง

เริ่มแรกเลย แน่นอนแหละว่ามันได้ภาษากลับมาแน่นอน เพราะว่าการเรียนภาษาที่จีน คุณจะได้คุยภาษาจีนกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาวจีนหรือต่างชาติ ทุกคนจะพูดภาษาจีนกับคุณทุกคน ยิ่งถ้าเราเฟรนด์ลี่ เรายิ่งได้ภาษาแน่นอน แต่บางครั้งอาจจะรู้สึกแปลก ๆ หน่อย เวลาเราคุยกับพวกยุโรป แอฟริกา เป็นภาษาจีน

สองคือได้สังคม ได้เรียนรู้วัฒนธรรมอื่น ๆ ด้วย จากข้อแรก ถ้าเราเฟรนด์ลี่ คุยกับคนอื่นง่าย ชาวต่างชาติและชาวจีนคนอื่น ๆ จะยิ่งต้อนรับเรามากขึ้น บางทีบางครั้งเราคุยและสนิทกับเพื่อนต่างชาติ เราก็จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเขาด้วย บางครั้งเราก็ได้แลกเปลี่ยนของฝากแต่ละประเทศด้วยครับ

ข้อสามเลย คือได้ลองทานอาหารหลากหลายประเทศ นักเรียนชาวต่างชาติที่นี่ปกติส่วนใหญ่มักจะทำกับข้าวกันเอง ผมเองก็ไปฝากท้องห้องคนอื่นบ่อย ๆ (เขาเชิญไปนะครับ) บางครั้งก็ได้ทานอาหารแอฟริกา บางครั้งได้ทานอาหารปากีสถาน อินเดีย บางทีก็ได้ทานกิมจิ หรือถ้าไปบ้านคนจีนก็ได้ทานอาหารจีนประจำภาคนั้น ๆ ด้วยครับ

ข้อสามได้เรียนรู้คน แน่นอนแหละว่า ร้อยพ่อพันแม่มาเจอกัน ทุกคนมีนิสัยที่แตกต่างกันไป มันก็ทำให้เราเรียนรู้ครับว่าคนแบบนี้มีนิสัยแบบนั้น คนแบบไหนที่เราไม่ควรยุ่งด้วย คนไหนที่เราสนิทด้วยได้

ข้อสี่ เรียนรู้การควบคุมตัวเอง แน่นอนแหละว่าการมาเรียนต่างประเทศ สิ่งยั่วยุมันเยอะ เราก็แค่เรียนรู้ที่จะควบคุมตัวเองให้ได้ เรียนบ้าง เที่ยวบ้าง เที่ยวได้แต่ต้องไม่เสียคนจนเสียการเรียน เพราะตี๋น้อยเคยเห็นหลายคนเสียคน เสียการเรียน เสียประวัติ ไปกับสิ่งยั่วยุ การต่อยตี โดยเฉพาะการทะเลาะต่อยตี ที่จีนโทษหนักถึงขั้นขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้าจีนนะครับ เป็นไปได้อย่าทะเลาะเลยดีสุด

ข้อห้า นอกจากเราจะได้ภาษาจีนแล้ว เรายังได้ภาษาอังกฤษด้วย เพราะชาวต่างชาติบางคนพูดจีนไม่ได้ เราต้องพูดภาษาอังกฤษกับเขา ทำให้พัฒนาภาษาอังกฤษของเราเองด้วย

ข้อหก นอกจากได้ภาษาแล้ว เรายังได้โอกาสทางธุรกิจด้วย คือที่จีนเนี่ยหลายเมืองเป็นเมืองค้าส่ง หรือว่าเราสามารถเอาสิ่งที่จีนมี แต่ไทยไม่มี เอามาปรับใช้ได้ เช่น อี้อู กวางโจว เราสามารถไปดูลู่ทางธุรกิจ หรือโอกาสทางธุรกิจได้

ข้อเจ็ด นักเรียนหญิงไทยที่จีนมักมีแฟนเป็นแถบประเทศ เอเชียกลาง สถาน ๆ ทั้งหลาย เช่น คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน พวกหล่อ ๆ ทั้งหลายครับ อิจฉาคนหล่อครับฮ่า ๆ 

ข้อแปด นักเรียนชายต่างชาติ ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มักเจ้าชู้ แต่คนดี ๆ ก็มีเช่นกัน

สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะไปเรียนจีนผ่านเอเจนซี่ หรือสมัครเองตามมหาวิทยาลัย ขอบอกว่า ไปเถอะครับ เราได้อะไรกลับมาเยอะกว่าแค่ภาษาแน่นอน

ปล.รูปนี้ผมถ่ายตอน 2013 ตอนที่ผมไปแลกเปลี่ยนที่กวางโจวครับ #ตี๋น้อย #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #จีน #ชีวิตในซินเจียง #ซินเจียง

‘ผู้โดยสาร’ ช็อก!! เจอ ‘ฝูงหนอน’ ตกใส่ ขณะนั่งอยู่บนเครื่อง สืบต้นตอพบ ‘ปลาเน่าเป็นเหตุ’ วุ่น!! จนต้องบินกลับไปจอดต้นทาง

เที่ยวบินลำหนึ่งของสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ มุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ ต้องวกกลับไปลงจอด ณ ท่าอากาศยานต้นทางในเนเธอร์แลนด์ หลังหนอนยั้วเยี้ยจากช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะร่วงใส่ผู้โดยสาร ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ 2 ในดีทรอยต์

เมื่อวันที่ 13 ก.พ.67 เที่ยวบิน 133 ของสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ ได้ขึ้นบินออกจากอัมสเตอร์ดัม สู่เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน แต่หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง เครื่องบินโบอิ้ง A330-300 ต้องเลี้ยวกลับไปยังท่าอากาศยานสคิปโพล หลังจากได้รับแจ้งว่ามีหนอนจากช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะร่วงลงมาใส่ผู้โดยสารรายหนึ่ง

ฟิลิป ชอตต์ ผู้โดยสารชายเนเธอร์แลนด์ ซึ่งปัจจุบันพำนักอยู่ในรัฐไอโอวา เล่าว่าเขาเห็นหนอนหลายสิบตัวหล่นใส่ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งถัดไปจากเขา "เธอแตกตื่นอย่างที่สุด พยายามทำทุกอย่างเพื่อปัดหนอนพวกนี้ออกไป แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนมาก ผมทำอะไรไม่ถูก เรารอจนกว่าจะมีคนเข้ามาช่วยเหลือ"

ชอตต์ เล่าต่อว่า สุดท้ายแล้วพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินสามารถแกะรอยหาต้นทางพวกหนอนเหล่านี้จนเจอ โดยมันมาจากกระเป๋าใบหนึ่งของผู้โดยสาร ซึ่งภายในบรรจุปลาเน่าห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ และกระเป๋าถูกเคลื่อนย้ายไปบริเวณท้ายเครื่อง และกัปตันประกาศแจ้งว่าเครื่องบินกำลังเลี้ยวกลับไปยังอัมสเตอร์ดัม

ผู้โดยสารรายนี้บอกกับฟ็อกซ์ 2 ว่าเขาจำเป็นต้องขึ้นเครื่องบินอีกลำ สำหรับมุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ ในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม ซีเอ็นเอ็นไม่ขอยืนยันรายละเอียดคำกล่าวอ้างของชอตต์

อ้างอิงข้อมูลจาก FlightAware เว็บไซต์ติดตามการบิน พบว่าเที่ยวบิน 133 บินอยู่บนท้องฟ้าแค่ราว 1 ชั่วโมง 49 นาที ส่วนสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ ยืนยันกับซีเอ็นเอ็น ว่าเที่ยวบินจำเป็นต้องเลี้ยวกลับ แต่ไม่ตอบคำถามตรงๆ เกี่ยวกับปัญหาหนอนบนเครื่อง

"เราขออภัยคุณลูกค้าของเที่ยวบิน 133 AMS-DTW ซึ่งการเดินทางของท่านต้องติดขัดสืบเนื่องจากกระเป๋าถือที่บรรจุหีบห่อที่ไม่เหมาะสม" เดลตา แอร์ไลน์ ระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึงซีเอ็นเอ็น "เครื่องบินกลับสู่ประตูเทียบท่า และผู้โดยสารถูกพาขึ้นเที่ยวบินถัดไป และเครื่องบินถูกถอดจากการให้บริการเพื่อทำความสะอาด"

ทั้งนี้ เดลตา แอร์ไลน์ ไม่มีกฎระเบียบห้ามนำวัตถุดิบอาหารเน่าเปื่อย ในนั้นรวมถึงปลาขึ้นเครื่อง ตราบใดที่มันไม่ละเมิดข้อจำกัดด้านการเกษตรของประเทศจุดหมายปลายทาง

‘อัครเดช’ จี้!! ‘ปดิพัทธ์’ รับผิดชอบ ต้นตอ ‘ชาดา-พิเชษฐ์’ โต้เดือด เหตุใช้ดุลพินิจวินิจฉัยให้อภิปรายต่อ จนทำสภาฯ เกิดความวุ่นวาย

(16 ก.พ.67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีเหตุโต้แย้งกันระหว่าง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กับ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในการประชุมสภาฯ เรื่องการเสนอญัตติด่วนมาตรการการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ ว่า การปะทะกันดังกล่าว ทำให้การประชุมไม่ราบรื่น แต่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น ใช้ดุลพินิจวินิจฉัยให้อภิปรายต่อ ทั้งที่โดยหลักการแล้ว ประธานควรต้องฟังเจตนารมณ์เจ้าของญัตติ จนทำให้เกิดความวุ่นวายเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสภาฯ และยังทำให้นายชาดา และนายพิเชษฐ์ ต้องออกมาโต้แย้งกันจนทั้งสองฝ่ายโดนสื่อโซเชียลถล่ม ดังนั้น นายปดิพัทธ์ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

📌รางวัลที่ 1: 941395

📌รางวัลเลขหน้า 3 ตัว: 056 , 330

📌รางวัลเลขท้าย 3 ตัว: 587 , 375

📌รางวัลเลขท้าย 2 ตัว: 43

📌รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1: 941394 , 941396

📌รางวัลที่ 2 : 211823 , 373681 , 796338 ,113367 , 496441

📌รางวัลที่ 3 : 936126 , 460139 , 134889 , 552114 , 042623 , 843088 , 278597 , 443451

487983 , 381382

📌รางวัลที่ 4: 385067 , 752257 , 500392 , 374357 , 914215 , 539332 , 612090 , 756050 290149 , 763978 , 301175 , 727557 , 644916 , 075236 , 310055 , 363420 , 981752 301276 , 836608 , 044458 , 832234 , 637827 , 889886 , 633434 , 125127 , 119756 500829 , 438338 , 366476 , 038359 , 777366 , 563369 , 084081 , 389775 , 188306 039220 , 660302 , 426909 , 181834 , 815554 , 549309 , 808757 , 555748 , 947702 911101 , 802581 , 456575 , 656500 , 226954 , 889033

📌รางวัลที่ 5: 035736 , 019328 , 818287 , 193192 , 014671 , 095947 , 233423 , 711151 446339 , 181917 , 306001 , 657274 , 996047 , 277050 , 795971 , 143793 , 611073 520537 , 374810 , 574692 , 189393 , 584252 , 922417 , 543667 , 152190 , 584863 700313 , 005617 , 146868 , 387206 , 188188 , 255988 , 175113 ,  361557 , 850980 133453 , 041950 , 241143 , 406936 , 517656 , 736154 , 510381 , 594938 , 243949 663612 , 456150 , 412996 , 300048 , 113391 , 770452 , 278567 , 471303 , 625515 612374 , 164740 , 960902 , 904426 , 461672 , 479387 , 703034 , 503711 , 995054 937938 , 033577 , 302352 , 533774 , 254855 , 647570 , 002860 , 162860 , 179639 965175 , 332488 , 884007 , 219226 , 748606 , 248303 , 604482 , 008370 , 245048 770386 , 121121 , 986008 , 983366 , 571133 , 425681 , 913543 , 753804 , 416655 879546 , 405171 , 866426 , 758573 , 925375 , 655079 , 332689 , 593124 , 961609 216166 , 095789


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top