Thursday, 29 May 2025
NewsFeed

'เอ็ดดี้' แนะ!! วิธีปกป้อง 'กรมสมเด็จพระเทพฯ' อย่างผู้มีอริยะ ด้าน 'สว.สมชาย' รวมแบนเนอร์ #เรารักกรมสมเด็จพระเทพ

(13 ก.พ. 67) เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ เราควรแสดงการปกป้องกรมสมเด็จพระเทพฯ อย่างไร? มีรายละเอียดดังนี้...

ผมได้คุยกับ อ.ป้อมเมื่อคืน ซึ่งเราเห็นตรงกันว่า พวกมันต้องการใช้ตะวันเป็นเครื่องมือ เพื่อสร้างความโกรธแค้น เราจะได้ใช้ความรุนแรงแก้แค้น เพราะการคุกคามกรมสมเด็จพระเทพฯ จะทำให้เราโกรธหนัก เพราะเรารักและบูชาพระองค์ เนื่องจากพระองค์เสียสละความสะดวกสบายส่วนพระองค์เพื่อคนไทยมาทั้งพระชนมชีพ

ซึ่งถ้าเราใช้ความรุนแรง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ในการจัดการ ก็จะเข้าทางพวกมัน แล้วมันก็อาศัยเรื่องนี้ไปหากินต่อได้อีก

เพราะฉะนั้น อย่าหลงกลพวกมัน

แต่เราควรเอาชนะมันด้วยการแสดงพลังแห่งความรักและบูชากรมสมเด็จพระเทพฯ ให้กระหึ่มทั่วประเทศ

เราจะปกป้องกรมสมเด็จพระเทพฯ และสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยพลังแห่งความรักและบูชา เป็นกระแสปราบมาร

ตัวอย่างดี ๆ เช่น การจัดกิจกรรมถวายพระกำลังใจของโรงเรียนนายร้อย จปร.

ผมและ อ.ป้อม ในฐานะที่เราเป็นเพียงประชาชนตัวเล็ก ๆ ไม่มีกำลังอะไร ก็จะเขียนจดหมายถวายพระและถวายกำลังใจ โดย อ.ป้อม จะใช้ความสามารถจากความเป็นอาจารย์ศิลปะ วาดภาพถวายด้วย

ส่วนองค์กรต่าง ๆ หน่วยงานราชการและเอกชน ที่มีกำลังมากพอ ก็ควรจัดกิจกรรมถวายพระและถวายกำลังใจ โดยพร้อมเพรียงกัน

ใครอยากร่วมกิจกรรมนี้กับเรา สามารถทำได้ด้วยตัวเองเลยคร้บ

IN LIFE, WE CANNOT CHOOSE WHAT HAPPENS TO US.

BUT THE ONLY THING THAT WE CAN CHOOSE IS HOW TO RESPOND TO WHAT HAPPENS TO US.

SO CHOOSE TO POSITIVELY TO EVERY SITUATION.

ในชีวิตของคนเรานั้น เราไม่สามารถเลือกได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับเรา สิ่งเดียวที่เราเลือกได้ คือเราจะจัดการอย่างไรกับมัน จงเลือกที่จะจัดการในทางบวกเสมอ ในทุกสถานการณ์

นะโมพุทธายะ

ในวิกฤตย่อมมีโอกาสดีๆ เสมอ

เพราะฉะนั้น นี่จะเป็นโอกาสทองของเรา

ขอเชิญชวนพี่น้องไทย จงร่วมแสดงพลังแห่งความดี ความสามัคคี และแสดงให้เห็นว่า เรารักกรมสมเด็จพระเทพฯ และสถาบันพระมหากษัตริย์มากแค่ไหน

ร่วมปกป้องกรมสมเด็จพระเทพฯ และสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางที่ดี

ขณะที่ด้าน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์แบนเนอร์ #เรารักกรมสมเด็จพระเทพ หลายภาพ โดยมีการแชร์กันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังเกิดเหตุการณ์ ตะวัน ทะลุวัง สร้างคอนเทนต์ ป่วนขบวนเสด็จฯ

รองโฆษก ตร. ชี้แจงการเสพยาเสพติด การครอบครองยาเสพติดไม่เกิน 5 เม็ด ยังคงมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ !!!

วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2567) พ.ต.อ.อุเทพ นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ถึงประเด็นเรื่อง กฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ผู้เสพ หรือผู้ครอบครองยาเสพติดไม่เกิน 5 เม็ด ไม่มีโทษอีกต่อไปนั้น เป็นการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน 

รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ได้ออกกฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ.2567 ลงวันที่ 31 มกราคม 2567 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น กฎกระทรวงดังกล่าวได้ประกาศออกมาตามความในมาตรา 24 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 และ มาตรา 107 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นข้อสันนิษฐานว่า การครอบครองยาเสพติดในปริมาณเล็กน้อยตามที่กำหนด ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ถือว่าผู้นั้นเป็นป่วย ต้องได้รับการการบำบัดรักษาเพื่อให้หายจากการติดยาเสพติดและกลับเข้าสู่สังคมต่อไป 

การเสพยาเสพติดยังคงมีโทษอยู่ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 104 , 162  มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000  บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากผู้เสพสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาและเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด และดำเนินการเข้ารับการบำบัดจนครบถ้วน ก็จะไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 113  ทั้งนี้ บทลงโทษทางกฎหมายยังคงมีอยู่ ซึ่งกฎหมายนี้มีเจตนารมย์ที่จะช่วยเหลือให้เข้ารับบำบัดโดยไม่เอาผิดทางอาญา หรือการลดการเป็นอาชญากรรมของผู้เสพ (decriminalization) “มองผู้เสพ เป็นผู้ป่วย” ใช้กระบวนการทางสาธารณสุขและสุขภาพในการแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติด 

ส่วนการครอบครองยาเสพติดในปริมาณเล็กน้อยไว้พื่อเสพ เช่น ยาบ้า ไม่เกิน 5 เม็ด หรือยาไอซ์      ไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือยาเค มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม  ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567  ยังคงเป็นความผิดฐาน "ครอบครองเพื่อเสพ" ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา  107 , 164 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ แต่หากผู้ครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพ สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา และดำเนินการเข้ารับการบำบัดจนครบถ้วน ก็จะไม่มีความผิด ตาม ม.113  เช่นกัน โดยการครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพ แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้ 

กรณีที่ 1 การครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพตามพฤติกรรมอันแท้จริง เช่น มียาบ้า 10 เม็ด แม้จะมีปริมาณเกินกว่าที่กฏกระทรวงกำหนด แต่หากข้อเท็จจริง พยานหลักฐานต่างๆ ยืนยันได้ว่า ยาบ้าจำนวน 10 เม็ดนั้น มีไว้เพื่อเสพจริง ไม่มีพฤติการณ์หรือประวัติในการจำหน่ายยาเสพติด มีผลตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะ เช่นนี้ มีความผิดฐาน ครอบครองเพื่อเสพ  

กรณีที่ 2 การครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพปริมาณเล้กน้อยไม่เกินที่กำหนด เช่น ยาบ้า ไม่เกิน 5 เม็ด หรือ ยาไอซ์ ไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือยาเค มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม  ตาม ประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 หากไม่มีพฤติการณ์หรือประวัติในการจำหน่ายยาเสพติด เช่นนี้ มีความผิดฐาน ครอบครองเพื่อเสพ  

ทั้งนี้ พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษก ตร. ขอเรียนประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชนได้รับทราบว่า การเสพยาเสพติดทุกชนิดประเภท  การครอบครองยาเสพติดทุกชนิดประเภท ไม่ว่าจำนวนเท่าใดยังคงเป็นความผิดตามกฎหมาย ถูกจับกุม ดำเนินคดีได้

‘รถไฟฟ้าสายสีเหลือง’ บอกต่อ!! จัดโปรโมชันเดินทางสุดคุ้ม ชูแพ็กเกจ 25 บาทตลอดสาย แบบรายสัปดาห์ 7 วัน 10 เที่ยว

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองยกขบวน บอกต่อแพ็กเกจสุดคุ้ม ‘นั่งไปไหนก็ 25 บาท ตลอดสาย’ 
พร้อมเดิน Troop แจกน้ำเก๊กฮวย มอบความสดชื่นให้กับประชาชนตลอดเส้นทาง

(13 ก.พ.67) บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทาน รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ยกขบวนโปรโมท โปรโมชันสุดคุ้ม ‘นั่งไปไหนก็ 25 บาท ตลอดสาย’ กับแพ็กเกจเที่ยวเดินทางรายสัปดาห์ 7 วัน 10 เที่ยว 250 บาท พร้อมจัดกิจกรรมเดิน Troop มอบความสดชื่นแจกน้ำเก๊กฮวยให้กับประชาชน ในแหล่งชุมชนใกล้สถานีรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ตลอดสาย ลาดพร้าว-สำโรง อาทิ ตลาด, ห้างสรรพสินค้าและโรงเรียน ในวันที่ 12-13, 17-18 กุมภาพันธ์ และ 1-2 มีนาคม 2567 

พิเศษ!! สุดสำหรับกิจกรรมนี้ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแรบบิท รีวอร์ดส และโชว์หน้าแอปพลิเคชันในกิจกรรมวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ และ 2 มีนาคม 2567 จะได้รับ 250 แรบบิท พอยท์ไว้แลกสิทธิพิเศษ ส่วนลดต่าง ๆ ในช่องทางแอปพลิเคชัน

สำหรับผู้โดยสารและประชาชนที่สนใจกิจกรรมดี ๆ ในการมอบความสดชื่น ตลอดแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ Facebook Page : MRTYellowLine

'โทนี่' เท่!! เย้ยฟ้าท้าดิน จ่อรับพักโทษก่อนรุ่งสาง 18 ก.พ. ปิดฉาก 'นุ่งกางเกงขาสั้น-เดินออกจากประตูเรือนจำ'

ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์...ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย จากจำนวนทั้งสิ้น 930 คน ที่ได้รับการพักโทษ ซึ่งปรากฏว่ามีชื่อนักโทษชายเด็ดขาด 'ทักษิณ ชินวัตร' รวมอยู่ด้วย

เป็นการได้รับการพักโทษโดยอัตโนมัติ (คำพูดพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม) ก่อนเข้าประชุม ครม.วันที่ 13 ก.พ.67

'อัตโนมัติ' ของ พ.ต.อ.ทวี หมายถึงทักษิณเข้ากฎกติกา...โทษ 1 ปี ได้รับการพักโทษ 180 วัน (6 เดือน) เนื่องจากอายุเกิน 70 ปี และเป็นผู้ป่วย...ซึ่งคุณสมบัติแบบนี้ นับจากปี 2546 จนถึงปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 2,240 คน ปีนี้มี 8 คน และทักษิณเป็น 1 ใน 8

ส่วนจะได้รับพักโทษวันที่ 17 ก.พ. หรือวันไหน ท่านทวี สอดไส้ (ฉายานักข่าวทำเนียบตั้ง) บอกว่าต้องไปไล่วันเอาดู...

แต่ในแวดวงสภากาแฟ...แวดวงสส./สว.เขาพูดกันมาสองสัปดาห์แล้วว่า...ทักษิณจะพักโทษหลังเที่ยงคืนวันที่ 17 ก.พ. แปลว่าพ้นโทษวันที่ 18 ก.พ.นั่นเอง บางคนบอกว่าตีห้า วันที่ 18 ก.พ.

งานนี้ 'โทนี่ วู้ดซั่ม' ไม่ต้องติดกำไลอีเอ็มให้เมื่อยข้อ...แต่ปัญหามีอยู่ว่า พักโทษปุ๊บจะออกจากชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ฝั่งธนฯ หรือย้ายไป รพ.พระราม 9 หรือขอไปนอนตีพุงที่โรงแรมคุณลูกเขย แถวสุขุมวิทหรือคอนโดหรู แถวไอคอนสยาม...หรือสุดท้ายขอนอนเอาเชิงที่ชั้น 14 ถ่ายรูปให้เห็นเป็นเชิงประจักษ์ว่านอนอยู่ชั้น 14 จริงๆ นะ...

...และไม่แค่การปล่อยตัวพักโทษทักษิณ แต่ 'เล็ก เลียบด่วน' เชื่อว่าจะไม่มีการอายัดตัวกรณีถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 เพราะมีการสอบปากคำและทักษิณได้ปฏิเสธ พร้อมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมไปแล้วตั้งแต่ 17 ม.ค.67 (ตามคำแถลงทีมโฆษกอัยการ)

สรุปว่า...ท้ายสุดสุดท้าย...คงยากที่ใครอยากเห็นทักษิณนุ่งกางเกงขาสั้น เดินออกจากประตูเรือนจำ...แล้วตำรวจรวบตัวไปดำเนินคดีมาตรา 112  ให้เลิกฝัน...งานนี้ไม่มีการติดคุก (ในเรือนจำ) แม้แต่วันเดียวจริงๆ...หลายคนคงรู้สึกกระอักเลือดกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น  

ไม่เพียงแค่นั้น...ในอนาคต ใครกลุ่มไหนจะไล่ล่าเอาความผิดกับทักษิณก็คงยาก...อย่างมากอาจจะมีข้าราชการที่ถูกร้องเรียนเอาผิดโทษฐานช่วยเหลือทักษิณ...ประเด็นที่ คปท.ล่ารายชื่อเพื่อให้ศาลไต่สวนเอาผิด ป.ป.ช.ที่ทำงานล่าช้าไม่ดำเนินการก็ยังไม่แน่ว่าจะเข้าเป้าหรือไม่...

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การออกมาชุมนุมสองรอบของคปท.ที่เข้าตาเข้าเป้ามากที่สุดก็คือ การให้ข้อเท็จจริง การออกมาจี้ติดและประจานขบวนการสมคบคิด...โกงการติดคุก...ติดคุกยังโกง....อันเป็นที่มาของข้อเรียกร้องใหญ่ตามป้ายที่แลเห็นจนชินตาว่า 'save กระบวนการยุติธรรม'

ปล.ก่อนที่ ทักษิณ หรือ โทนี่ วู้ดซั่ม จะออกมาพักโทษวันที่ 16 ก.พ.นี้ ท่านผู้อ่านโปรดเงี่ยหูฟังการประชุมรัฐสภาสักเล็กน้อย เพราะพรรคเพื่อไทยนำโดยท่านชูศักดิ์ ศิรินิล กับคณะ เสนอแก้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและ พ.ร.ป.ว่าด้วยการพิจารณาคดีศาลฎีกาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง...หลักการใหญ่คือเปลี่ยนนิยามคำว่า 'ผู้เสียหาย' และเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายฟ้องได้เอง แม้จะเป็นการฟ้องย้อนหลัง...

สว.วันชัย สอนศิริ ออกมาดักคอเบาๆ ว่า อาจจะมีวาระซ่อนเร้นหรือเป็นเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวาย  แต่ก็ถูกตอบโต้มาแล้ว ส่วน 'เล็ก เลียบด่วน' ไปอ่านร่างแก้ไข 2 พ.ร.ป. คร่าวๆ แล้วสรุปได้สั้นเพียงว่า...งานนี้เพื่อไทยอาจคิดผิดก็ได้ เพราะดีไม่ดีอาจเข้าเนื้อตัวเอง มากกว่าที่จะเอาผิดคนอื่น..!!

‘สถานทูตอิหร่านประจำประเทศไทย’ จัดงาน ‘วันชาติอิหร่าน’ เฉลิมฉลองชัยชนะ 45 ปีการปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ฯพณฯ Seyed Reza Nobakhti เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ประจำประเทศไทยได้จัดงานวันชาติสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน วันฉลองชัยชนะ 45 ปีการปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน และฉลอง 400 ปี ความสัมพันธ์สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านและราชอาณาจักรไทย ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ

รัฐพิธีเริ่มต้นด้วยเพลงชาติของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน และเพลงสรรเสริญพระบารมี คำปราศรัยเนื่องในโอกาสวันชาติสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน วันฉลองชัยชนะ 45 ปีการปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน และฉลอง 400 ปี ความสัมพันธ์สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านและราชอาณาจักรไทย โดย ฯพณฯ Seyed Reza Nobakhti และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาไทยและประธานสภาผู้แทนราษฎร

ฯพณฯ Seyed Reza Nobakhti ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอิหร่านว่า “ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นและแน่นแฟ้นมากว่า 400 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีความร่วมมือหลายด้านร่วมกันทั้ง ด้านแรงงาน อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การค้า เศรษฐกิจ และ ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม และสืบเนื่องจากเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายอาลี บาเกรี คานี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านเดินทางเยือนประเทศไทย ก็ได้มีการหารือร่วมกับตัวแทนจากฝั่งไทยและเป็นที่คาดหวังว่าในอนาคตไทยและอิหร่านจะมีความร่วมมือในอีกหลากหลายมิติมากขึ้นกว่าเดิมด้วย”

ในโอกาสนี้ ฯพณฯ Seyed Reza Nobakhti ได้กรุณาให้เกียรติเชิญ ผู้บริหาร บรรณาธิการ และ ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล นักเขียน สำนักข่าว THE STATES TIMES ด้วย 

โดย ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล ได้เป็นผู้แทนของสำนักข่าว THE STATES TIMES เข้าร่วมรัฐพิธีครั้งนี้ ในวาระนี้สำนักข่าว THE STATES TIMES ขอแสดงความยินดีและขอส่งความปรารถนาดีไปยังประชาชนแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านขอองค์อัลเลาะห์ (ซบ.) ได้ทรงบันดาลความสันติสุขและความเจริญก้าวหน้าแก่สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ขอให้ความสัมพันธ์สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านและราชอาณาจักรไทยยั่งยืนตลอดไป

'สุริยะ' ห่วงภาระคุ้มทุน หลัง 'การบินไทย' เล็งซื้อเครื่องบินฝูงใหญ่ แจง!! รัฐไม่อาจก้าวล่วง ต้องปล่อยผู้บริหารแผนฟื้นฟูดำเนินการ

(13 ก.พ. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสื่อต่างชาตินำเสนอว่าบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีแผนจัดซื้อเครื่องบินฝูงใหม่จำนวน 45 ลำ ว่าถ้ายังจำได้การบินไทยอยู่ในแผนการฟื้นฟูกิจการ เพราะฉะนั้นผู้บริหารแผนฟื้นฟูเป็นผู้ดำเนินการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม เพราะมีอำนาจในเรื่องนี้ เราเองก็พยายามจะถามว่า การจัดซื้อเมื่อลงทุนไปแล้วคุ้มค่าหรือไม่ แต่อำนาจของเราไม่มีไม่สามารถไปล้วงลูกในส่วนนี้ได้ เป็นเรื่องที่เขาต้องทำตามแผนฟื้นฟู 

"จริงๆ กระทรวงคมนาคมเป็นห่วงมาก เรื่องซื้อเครื่องบินมันมีภาระคุ้มทุนหรือไม่อย่างไร" นายสุริยะ กล่าว

เมื่อถามว่า ภาระดังกล่าวเกี่ยวเนื่องกับงบประมาณของรัฐบาลหรือไม่ หากซื้อมาแล้วเกิดขาดทุน? นายสุริยะ กล่าวว่า "เรื่องนี้การบินไทยในช่วงที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหลังจากนั้นการบินไทยผลประกอบการไม่ดี เป็นช่วงที่รัฐบาลที่แล้วไปขอเงินเพื่อจะมาซื้อเครื่องบิน แต่ทางรัฐบาลสมัยนั้นไม่อนุญาตที่จะเพิ่มทุน ทางการบินไทยก็เลยล้มละลาย และเข้าสู่กระบวนการตามศาล ล้มละลาย ผู้บริหารจึงได้จัดทำแผนฟื้นฟูยื่นต่อศาลล้มละลาย เพราะฉะนั้นกระบวนการตอนนี้ก็อยู่ที่ศาลฯ โดยรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ถึงแม้เราจะมีความเห็นใดไปก็ตาม ถามว่าเราสบายใจหรือไม่ เราก็เป็นห่วง แต่เราไม่มีอำนาจตรงนั้น"

เมื่อถามว่า ข้อห่วงใยตรงนี้สะท้อนนอกจากที่รัฐบาลได้สะท้อนไปแล้ว ยังสามารถดำเนินการอย่างอื่นได้หรือไม่ หรือต้องให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการ? นายสุริยะ กล่าวว่า "ใช่ครับ อำนาจเราไม่มี"

‘เกษตรกรโปแลนด์’ รวมตัวเททิ้ง ‘ธัญพืชจากยูเครน’ ประท้วงนโยบายเกษตรของ EU-ต่อต้านสินค้ายูเครน

นับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน โปแลนด์นับเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดชาติหนึ่งของยูเครน ทว่าตั้งแต่กลางปีที่แล้วความขัดแย้งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน ตอนนี้ยูเครนมีความโกรธแค้นอย่างมาก เกี่ยวกับการประท้วงของเกษตรกรชาวโปแลนด์ที่พากันเททิ้งธัญพืชของยูเครนจากรถบรรทุกลงบนพื้นบริเวณจุดผ่านแดน 

อันเดร ซาดอฟวี นายกเทศมนตรีเมืองลาวีฟ ทางตะวันตกของยูเครน โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม Telegram เมื่อวันจันทร์ว่า นี่เป็นเรื่องเลวร้ายและน่าละอาย “ชาวยูเครนต้องรดน้ำไร่นาที่เมล็ดพืชเหล่านี้เติบโตมาพร้อมกับเลือดของพวกเขา การเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในท้องทุ่งที่เกิดสงครามก็เหมือนกับคนเก็บกวาดกับระเบิด” ซาดอฟวียังเรียกเกษตรชาวโปแลนด์ว่าเป็น “พวกยั่วยุที่เข้าข้างฝ่ายรัสเซีย”

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คลิปวิดีโอจากสมาคมเกษตรกรโปแลนด์ได้แสดงให้เห็นภาพผู้ประท้วงเปิดประตูท้ายรถบรรทุกของยูเครน 3 คันเพื่อเททิ้งสินค้าธัญพืชลงไปกองบนพื้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในดินแดนโปแลนด์ที่บริเวณจุดผ่านแดนโดโรฮุสค์ 

วาสซิล สวาริตช์ เอกอัครราชทูตยูเครนประจำกรุงวอร์ซอ เรียกร้องให้ทางการโปแลนด์เข้าแทรกแซงเพื่อหยุดการกระทำที่ยั่วยุดังกล่าว ตำรวจโปแลนด์ในเมืองเชล์มสั่งให้มีการสอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้ว

ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เกษตรกรชาวโปแลนด์ได้ออกมาประท้วงทั่วประเทศ ต่อต้านนโยบายการเกษตรของสหภาพยุโรป แต่ก็ต่อต้านการนำเข้าสินค้าเกษตรราคาถูกจากยูเครนด้วย และมีการปิดการจราจรที่จุดผ่านแดน 3 แห่งอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ 

อันเดร เดมเชงโก โฆษกหน่วยรักษาชายแดนยูเครนกล่าว ผู้ประท้วงชาวโปแลนด์ปล่อยให้รถบรรทุกผ่านแดนได้เพียง 1-3 คันต่อชั่วโมงเท่านั้น และอนุญาตให้ผ่านเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคล รถประจำทาง รถบรรทุกขนาดเล็ก รวมถึงรถบรรทุกสิ่งของด้านมนุษยธรรม

ทางฝั่งของโปแลนด์มีรถบรรทุกประมาณ 1,200 คันจอดรถเข้าคิวเพื่อข้ามชายแดนไปยังฝั่งยูเครน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาการประท้วงของเกษตรกรและบริษัทขนส่งของโปแลนด์ทำให้การทำงานที่จุดผ่านแดนยากขึ้น

'อุ๊งอิ๊ง' ยัน!! เสียงดังโซนวีไอพีคอนเสิร์ต 'เอ็ด ชีแรน' ไม่ใช่เสียงตน  แต่มองเป็นเรื่องปกติ เพราะคนไปดูไม่ใช่ต้องนั่งเงียบเหมือนไปวัด 

(13 ก.พ.67) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์จำนวนมากเกี่ยวกับดรามาคอนเสิร์ต Ed Sheeran นักร้อง นักแต่งเพลงชาวอังกฤษ ที่มาจัดที่ประเทศไทย แต่โซนวีไอพีกลับหัวเราะเสียงดัง ทำให้มีผู้ชมบางคนถึงกับทนไม่ไหว ต้องเดินออกระหว่างคอนเสิร์ตว่า ตนเห็นคลิปเช่นกัน ทุกท่านก็ฟังเสียงตนบ่อย “ซึ่งนั่นไม่ใช่เสียงตน” เสียงตนเป็นเอกลักษณ์ หากตะโกนคงจะจำได้ทันที เพราะตะโกนหาเสียงมาแล้ว ร้องเพลงเพี้ยนมาไม่รู้กี่รอบ

“จริงๆ ไปคอนเสิร์ตก็เป็นสถานที่ที่มีความสุข หลายคนที่ไม่ใช่เฉพาะโซนวีไอพีก็ส่งเสียงหรือร้องเพลงตาม เป็นปกติของคนไปคอนเสิร์ต ไม่ใช่ไปคอนเสิร์ตแล้วต้องนั่งเงียบ ซึ่งหากเราไปวัดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไปคอนเสิร์ตก็อีกเรื่องหนึ่ง มันไม่เหมือนกัน และคิดว่าไม่มีอะไร”

เมื่อถามว่า บรรยากาศขณะนั้นมีชาวต่างชาติโวยขึ้นมาหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ไม่มี” และก่อนที่จะถึงเวลาเริ่มคอนเสิร์ต ตนก็ได้มีโอกาสเดินดูห้องวีไอพีต่างๆ เพื่อฟังแนวทางธุรกิจและแนวทางบริหารของผู้จัดงานว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งตนก็รู้สึกประทับใจในสถานที่และรู้สึกว่ามีห้องรับรองพิเศษ มีเครื่องเสียงที่ดี บรรยากาศก็ดี “ย้ำว่าได้ฟังคลิปแล้วแต่ไม่ใช่ตน”

‘พีระพันธุ์’ ปัดตอบ!! คุม ก.ยุติธรรม ใช้ภาพลักษณ์การันตี ‘คดีทักษิณ’

(13 ก.พ. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กรณีการได้รับแบ่งงานมาคุม กระทรวงยุติธรรม และรักษาการแทน รมว.ยุติธรรม โดยถูกจับตามองว่า เป็นการเอาภาพลักษณ์มาการันตีคดีของ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ ซึ่งนายพีระพันธุ์ ตอบว่า "ต้องไปถาม กระทรวงยุติธรรม ไม่เกี่ยวอะไรกับผม" ก่อนเดินขึ้นตึกบัญชาการ 2 เดินผ่านทางเชื่อมไปประชุม ครม. ที่ตึกบัญชาการ 1

'อาจารย์จุฬาฯ' ร่างแถลงการณ์ด่วน-ล่ารายชื่อ จี้!! 'ปล่อยนักข่าว-ช่างภาพ' ประชาไท

 

(13 ก.พ. 67) จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง จับกุม นายณัฐพล เมฆโสภณ ผู้สื่อข่าวประชาไท ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้มีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน กับ พ.ร.บ.ความสะอาด จากการไปรายงานข่าวพ่นกำแพงวัดพระแก้ววันที่ 28 มี.ค.2566 ตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ขณะเดียวกันยังจับกุม ‘ยา’ นักข่าวอิสระอีก 1 ราย

ล่าสุด 13 ก.พ.67 อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กเผยภาพคำแถลงการณ์ต่อการจับกุมนักข่าวประชาไทและช่างภาพอิสระ รวมถึงแนบลิงก์ให้ผู้ที่เห็นด้วยร่วมกันลงชื่อ ภายในบ่ายสามโมงวันนี้

ทั้งนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อเรียกร้องปล่อยตัวนักข่าว ติดป้ายระบุว่า Journalism is not a crime อีกด้วย ที่ศูนย์อาหารอาคารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ CMU Food Center มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top