Thursday, 5 June 2025
NewsFeed

เกษตร-พาณิชย์ ผนึกกำลังกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงตรุษจีน รมช.ไชยา ให้ความมั่นใจ "ปศุสัตว์ OK" ปลอดภัย ไร้เนื้อเถื่อน

นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกิจกรรม “พาณิชย์สั่งลุย ลดราคาตรุษจีน ปีมังกรทอง 2024” โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมดังกล่าว พร้อมร่วมกันลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านจำหน่ายสินค้าในตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน กรุงเทพฯ สำหรับวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าสำหรับไหว้บรรพบุรุษหรือเป็นของฝาก แก่ญาติในช่วงตรุษจีนว่าสินค้าที่ได้รับเป็นสินค้าราคาถูก และคุณภาพดี

รัฐมนตรีช่วยฯ ไชยา กล่าวว่า รู้สึกมีความยินดีที่ได้มาร่วมกิจกรรมกับทางกระทรวงพาณิชย์ และขอให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า ร้านค้าที่ได้รับป้าย "ปศุสัตว์ OK" เป็นร้านค้าที่กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์รับรองว่า สะอาดปลอดภัย ถูกสุขอนามัย ทั้งเนื้อสุกร เนื้อไก่ ไข่ไก่ มาจากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน (GAP) ผ่านกระบวนการเชือดชำแหละในโรงฆ่าสัตว์ที่ถูกกฎหมาย สามารถสอบย้อนกลับถึงแหล่งผลิตได้ จึงมั่นใจได้ว่า ไม่มีการนำเนื้อเถื่อนมาจำหน่ายแน่นอน

สำหรับโครงการปศุสัตว์ OK มีสินค้าที่อยู่ในขอบข่ายการรับรองของโครงการทั้งหมด 7 ชนิด ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ดเนื้อโค ไข่ไก่สด ไข่เป็ดสด และไข่นกกระทาสด ปัจจุบันมีสถานที่จำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 9,239 แห่ง ทั่วประเทศแบ่งเป็นสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ 5,621 แห่ง และสถานที่จำหน่ายไข่สด 3,671 แห่ง ในส่วนกิจกรรมพาณิชย์สั่งลุยลดราคาตรุษจีน ปีมังกรทอง 2024 ดำเนินการโดยกระทรวงพาณิชย์ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งมีการเปิดจุดจำหน่ายสินค้าเพื่อให้ประชาชนแวะเวียนเข้ามาจับจ่ายใช้สอย   ยกขบวนสินค้า ราคาสุดพิเศษ 13 หมวด 7,784 รายการ จากผู้ประกอบการ 259 ราย พร้อมกัน 18,500 แห่งทั่วประเทศ

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีทั้งสองได้สักการะ และเติมน้ำมันตะเกียง ณ ศาลเจ้าพ่อสมบุญ บริเวณตลาดยิ่งเจริญ และอวยพรประชาชนผู้มาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดในโอกาสเทศกาลตรุษจีน อีกด้วย

ผู้บัญชาการตํารวจท่องเที่ยวลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนักท่องเที่ยวและประชาชน ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ขานรับนโยบายรัฐบาล สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว

ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผลักดันการท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและส่งเสริมรูปแบบการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ปราบปรามการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว รวมทั้งการอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และนโยบาย ของนางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงมีข้อสั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสะดวก และดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สินให้แก่นักท่องเที่ยว

วันนี้ (7 ก.พ.2567) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ศักย์ศิรา  เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวพร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์สยาม  มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร  วรวรรณ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1, นายบุญเสริม  ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว, นายวัสน์พล  อรรถพรธนเสฐ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และคุณขง จูเล่ย ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว, อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว, เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามและสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง ได้ลงพื้นที่กำชับการปฏิบัติหน้าที่บริเวณพระบรมมหาราชวัง โดยได้ร่วมกันบริหารจัดการเรื่องจุดรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวบริเวณท้องสนามหลวง และการติดป้ายประชาสัมพันธ์บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางและสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เพื่อให้ผู้เข้าชมสถานที่ได้รับบริการที่สะดวกและรวดเร็ว

จากนั้น เวลา 11.30 น. ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมมาตรการการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในเทศกาลตรุษจีนบริเวณย่านถนนเยาวราช เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว จากนั้นได้นำส่งความโชคดีและความรุ่งเรื่องผ่านส้มมงคลให้แก่นักท่องเที่ยวในเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2567

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวปรารถนาให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัย และเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปี 2567 นี้ด้วยความสุข ทั้งนี้ ขอฝากถึงนักท่องเที่ยวและประชาชน หากพบปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง และแอพพลิเคชั่น ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว Tourist Police i lert u ตำรวจท่องเที่ยวพร้อมดูความปลอดภัยให้ทุกท่าน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนภัยระวังคนร้ายแอบอ้างเป็นศูนย์ AOC 

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ. ศปอส.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงบนโลกออนไลน์

ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบพบว่า มีคนร้ายสร้าง Page Facebook ปลอมและ Line Official ปลอมโดยแอบอ้างศูนย์ AOC 1441 หรือ Anti Online Scam Operation Center เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคลของเหยื่อ หรือล่อลวงให้เหยื่อทำการโอนเงิน ในกรณีนี้จะมีพฤติการณ์คล้ายคลึงกับที่คนร้ายพยายามปลอมเป็นหน่วยงานราชการ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อหลอกรับแจ้งความหรือหลอกให้ติดต่อเพื่อรับเงินที่ถูกหลอกลวงคืนไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแจ้งให้ทราบว่า AOC 1441 เป็นศูนย์ One Stop Service จัดตั้งโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคง เพื่อแก้ปัญหาหลอกลวงออนไลน์สำหรับประชาชน มีการจัดตั้ง War-room เพื่อดำเนินการด้านคดีให้กับประชาชนแบบเร่งด่วน เชิงรุก ตั้งเป้าหมาย จบระงับ/อายัด บัญชีการเงินได้ ใน 1 ชม. นับจากเวลาที่รับแจ้งเรื่องจากเหยื่อของโจรออนไลน์  
โดยมีเป้าหมายในการจัดตั้งเพื่อ  
 ระงับ/อายัด บัญชีของคนร้ายให้แก่ผู้เสียหายที่ถูกหลอกได้ทันทีใน 1 ชั่วโมง 
 ติดตามสถานการณ์แก้ไขปัญหาให้ผู้เสียหายทุกขั้นตอนได้ทันที 
 เร่งการติดตามการคืนเงินให้แก่ผู้เสียหาย 
 เพิ่มประสิทธิภาพการจับกุม ดำเนินคดี และการขยายผลคดี

ปัจจุบันนี้ ศูนย์ AOC 1441 มีช่องทางติดต่อเดียวเท่านั้น คือสายด่วน 1441 โดยสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่มี Page Facebook หรือ Line Official เป็นช่องทางติดต่อแต่อย่างใด 

สำหรับช่องทางรับรู้ข่าวสารเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน AOC 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบกรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.go.th

'สุริยะ' จัดพิธีมอบตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10 พร้อมเชิญชวนหน่วยงานในสังกัดร่วมแสดงความจงรักภักดี

'กระทรวงคมนาคม' จัดพิธีมอบตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมเชิญชวนหน่วยงานในสังกัดร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ. 67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีมอบตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้แก่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม พร้อมเชิญชวนให้ทุกหน่วยงานร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมี นางมนพร เจริญศรี, นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมพิธี เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุมราชรถสโมสร กระทรวงคมนาคม  

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า เนื่องในปี 2567 เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ รัฐบาลจึงได้กำหนดจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยกำหนดชื่อพระราชพิธีว่า 'พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567' ภาษาอังกฤษว่า 'The Celebration on the Auspicious of His Majesty the King’s 6th Cycle Birthday Anniversary 28th July 2024' และชื่อการจัดงานว่า 'การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567'

โดยกำหนดขอบเขตการจัดงานตลอดทั้งปี 2567 และเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอเชิญชวนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พร้อมเครื่องราชสักการะ ตกแต่งสถานที่ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติไทยคู่กับธงตราสัญลักษณ์ฯ พร้อมประดับผ้าระบายสีเหลืองร่วมกับผ้าระบายสีขาว ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงาน และจัดการลงนามถวายพระพรภายในหน่วยงานหรือทางเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องและพร้อมเพียงกัน รวมทั้งขอความร่วมมือหน่วยงานให้การสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในวาระมหามงคลนี้ด้วย 

ทั้งนี้ ทางกระทรวงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานและคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางการจัดงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ในการดำเนินโครงการและกิจกรรมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ อย่างสมพระเกียรติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

'บิ๊กโจ๊ก' ลั่น!! ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด กรณีสาวเอ็นถูกบังคับเสพยาและข่มขืน

ไม่นานมานี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันจะดำเนินคดีให้อย่างเด็ดขาด กรณีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งมีอาชีพเสริมรับงานเอนเตอร์เทน ถูกลูกเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง บังคับเสพยาและข่มขืน หลังจาก 'สายไหมต้องรอด' ได้พาเข้าพบเพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้สาวเอนฯ รักษาสุขภาพตัวเองให้ดี 

ทั้งนี้ยังได้ฝากไปยังผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรท้องที่ด้วยว่า นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ผู้เสียหาย ต้องพึ่ง เพจสายไหมฯ เพื่อร้องเรียน ทั้งที่ความจริงแล้วคดีนี้ควรจะจบตั้งแต่ในพื้นที่ไม่ใช่ให้เหยื่อนั่งรถมาถึงกรุงเทพมหานคร

สำหรับกรณีนี้ ทางหญิงสาวรายดังกล่าว เล่าว่าลูกเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง จ้างงานเอนเตอร์เทน โดยให้นั่งรถมาเจอกันที่รีสอร์ท เมื่อไปถึงก็ได้รับการดูแลพาเดินเที่ยวชม ก่อนที่ลูกชายเจ้าของรีสอร์ทจะไปซื้อของมานั่งกินกันในห้อง

ระหว่างนั้นลูกชายเจ้าของรีสอร์ทก็ให้หญิงสาวรายดังกล่าวดื่มเบียร์จนเริ่มเมาก่อนจะหยิบยาเม็ดสีส้มให้กินเข้าไป จนมีอาการร้อนรุ่ม ไม่นานนักก็หักยา ให้กินโดยให้อมไว้ใต้ลิ้นอีก จนอาการร้อนรุ่มรุนแรงยิ่งขึ้น ก่อนที่ลูกชายเจ้าของรีสอร์ทจะบังคับขืนใจ โดยไม่ป้องกันตัว ส่วนหญิงสาวไม่อาจปกป้องตัวเองได้เนื่องจากไร้เรี่ยวแรง

วันรุ่งขึ้นลูกชายเจ้าของรีสอร์ทก็ยังคงบังคับให้อยู่ในรีสอร์ทและมีการข่มขืนกระทำชำเราอีกหลายครั้ง กระทั่งต้องร้องขอชีวิตเนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายและใช้เท้าเหยียบที่ใบหน้าลำคอ สุดท้ายลูกชายเจ้าของรีสอร์ทที่ก่อเรื่อง ก็เดินไปบอกแม่ และแม่ก็ให้ลูกน้องพี่รีสอร์ทขี่รถจักรยานยนต์พาสาวเอ็น ไปส่งที่ท่ารถโดยให้เงินไป 30,000 บาท ซึ่งหญิงสาวรายดังกล่าวต้องใช้เงินในการรักษาตัวไปกว่า 20,000 บาทแล้ว จึงนำเรื่องมาร้องเรียนเพื่อให้มีการดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด

'โหรลักยิ้ม' เผย คำทำนายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่อยๆ เป็นจริง ยามใดคนขาดความ 'ยำเกรง-กตัญญู' ยามนั้นก็ไม่ต่างจากสัตว์

(8 ก.พ.67) ผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อก ‘flukepatsmile’ หรือ ‘โหรลักยิ้ม อาจารย์ภัทร’ ได้โพสต์วิดีโอถึงกรณีมีแก๊งป่วนขบวนสมเด็จพระเทพฯ และตอบคำถามผู้ติดตามที่ถามเข้ามาว่า ‘อยากรู้ดวงของตะวันกับแบมค่ะ ยิ่งออกมาบีบแตรขบวนเสด็จอีก แย่มาก’ โดยระบุว่า…

“สมเด็จพระเทพฯ ท่านเป็นบุคคลที่น่าเคารพนับถืออย่างมาก ส่วนตะวันกับแบม ก็เป็นเด็กที่อายุไม่เท่าไหร่ อายุก็ห่างกับสมเด็จพระเทพฯ เยอะมาก พฤติกรรมที่ทําก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง สำหรับคำถามที่ถามเข้ามาก็ต้องดู 3 ส่วน คือ ตามคําทํานาย ตามพิชัยสงคราม และตามหลักธรรม…

“ข้อแรกคือตามคําทํานาย บุคคลที่ทํานายไว้ก็คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งระบุไว้ว่าในกาลข้างหน้าบุคคลจะไม่เคารพศักดิ์ ไม่เคารพอาวุโส ทุกคนจะปีนเกลียวกันหมด ไม่มีความเคารพ ไม่มีความกตัญญู แม้แต่บิดามารดาก็ไม่มีความกตัญญูให้ เพราะฉะนั้นพุทธทำนายจะต้องเป็นจริงเสมอ แล้วจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อกาลพ้นกึ่งพุทธกาล ซึ่งตอนนี้ก็พ้นมาแล้ว…

“ข้อสองคือ พิชัยสงคราม การ ‘ตีบนอ้อมหลัง’ ก็คือ สส. ไปยื่นแก้ 112 แล้วก็ให้เด็ก ๆ ไปตีอ้อมข้างหลัง คอยมาแยงข้างล่าง ถือเป็นหลักที่ฉลาดตามหลักมหาพิชัยสงคราม…

“ข้อสามคือการว่าร้ายคนอื่น เช่น ด่าพระ ด่าขุน ด่าพระยา ด่าราชา เมื่อเราว่าร้ายหรือกระทําการอันไม่เป็นความเคารพต่อผู้อื่น โทษก็ย่อมมีมากตามกําลังบุญของบุคคลนั้น ๆ”

โหรลักยิ้ม กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะฉลาดตามหลักวิชัยสงคราม หรือเหตุการณ์ทั้งหมดจะต้องเกิดตามพุทธทำนาย แต่คุณเองก็เป็นคนเลือกได้ ว่าจะทําให้เรื่องราวเหล่านั้นเกิดขึ้นในยุคของคุณอย่างรวดเร็ว หรือว่าชะลอให้มันนานที่สุด เพราะเมื่อใดที่มนุษย์ขาดความยําเกรง ความกตัญญู การให้เกียรติผู้อื่น มนุษย์ย่อมไม่ต่างกับสัตว์”

‘วราวุธ’ ขอโทษประชาชน หลังข้อมูล ‘ผู้สูงอายุ’ โดนแฮ็ก เร่งหาต้นตอคนทำผิด - เพิ่มมาตรการความปลอดภัยยิ่งขึ้น

(8 ก.พ.67) นายวราวุธ​ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแฮ็กเกอร์ต่างประเทศประกาศขายข้อมูลในเว็บไซต์ อ้างเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นำใช้ในทางมิชอบ ว่า กรณีที่ผู้ไม่หวังดีมาเจาะฐานข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ และได้ข้อมูลไปจำนวนหนึ่ง แต่เท่าที่ตรวจสอบพบว่าไม่ได้จำนวนมากเท่าที่เป็นข่าว 

“ผมเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ต้องกราบขออภัยต่อผู้สูงอายุ และขอโทษประชาชนทุกคน ที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จากที่ผ่านมากระทรวงเราเข้าใจว่าระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ของกระทรวงมีเพียงพอ คือไม่ใช่ว่าไม่มี และเข้าใจว่าเพียงพอ แต่พอเกิดการพัฒนาทางเทคโนโลยีมากขึ้นๆ วันนี้ทำให้เราต้องกลับมาเพิ่มมาตรการให้มีความเข้มงวด ให้เข้มแข็งมากขึ้น ในการป้องกันฐานข้อมูลของพวกเรา“ นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางกรมกิจการผู้สูงอายุได้ดำเนินการแจ้งความกับทางกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) แล้ว และได้ประสานงานขอให้ตรวจสอบว่าข้อมูลถูกนำไปใช้ในทางใด และเร่งสืบหาให้ถึงตัวการที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

นายวราวุธ กล่าวว่า พร้อมกับได้มีการประชุมหารือ เพื่อหามาตรการรับมือป้องกันภัยไซเบอร์ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ซึ่งตนได้ใช้โอกาสนี้ขอให้ปลัดกระทรวง พม. ย้ำไปที่ทุกกรม และหน่วยงานภายใต้การดูแลของกระทรวงพม. ให้กลับไปทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของแต่ละหน่วยงานนั้นมีความปลอดภัย และแน่นหนาแค่ไหนเพียงใด โดยจะเร่งดำเนินการ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนกรณีรายชื่อที่หลุดออกไปแล้วขอความกรุณาพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ขอให้ระวังภัยทางไซเบอร์อีกส่วนหนึ่งก่อน เพราะมีผู้ไม่หวังดี มีคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพมากมาย จะมาหาประโยชน์จากผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวงจะมีโครงการต่างๆ เพื่อให้ความรู้กับผู้สูงอายุประกอบไปด้วย แต่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ขอความกรุณาโทรสายด่วน 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เราจะได้เร่งประสานงานให้ 

พี่สอนน้อง!! อย่าแค่ติด 'เขา' แล้วพุ่งเข้าชน เพราะพฤติกรรมแบบนี้ มีแต่ทำให้มวลชนหนีหาย

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ. 67) ช่องติ๊กต็อก ‘gikgok999’ โพสต์คลิปวิดีโอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และพวก ขณะนั่งอยู่ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล มีพฤติการณ์บีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนกรมสมเด็จพระเทพฯ กำลังเสด็จบนทางร่วมของต่างระดับมักกะสัน และขับรถยนต์ด้วยความเร็วเพื่อไปให้ทันขบวน แต่เมื่อมาถึงบริเวณทางลงด่วนพหลโยธิน 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่รถปิดท้ายสกัดกั้นไม่ให้รถยนต์คันดังกล่าวลงไปร่วมกับขบวนได้ โดยระบุว่า…

ตะวันเอาอีกแล้ว…คือเขาไม่ได้ปิดถนนนะบนทางด่วน ขบวนเสด็จก็วิ่งมาอีกฝั่งใช่ไหม แล้วอีกด้านหนึ่งก็ขับเคลื่อนกันตามปกติ แต่รถของตะวันขับเหมือนพยายามจะเข้าไปอยู่ในขบวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เขาก็ต้องปฏิบัติตามยุทธวิธีนั่นก็คือบล็อกไว้ จนเป็นที่มาของคลิป และเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงได้ดูแล้ว

ปิดถนนทําไม? ถนนของประชาชน แต่ไม่เข้าถึง 112 นะ เป็นเดือดร้อนรําคาญ เพียงแค่ว่าเขาไปขุดอันอื่นที่เกี่ยวกับ 112 มาเพื่อถอนประกัน ซึ่งตะวันก็เพิ่งได้ประกันตัวมา และกําลังที่จะโดนถอนประกันอีกแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าน้องเขาต้องการอะไร คือเหมือนกับอยากให้มันเร่งปฏิกิริยาเคมีการปะทะกันรึเปล่า… ซึ่งมองว่า…ไม่รู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ (ไม่ใช่ทั้งหมด) มันก็จะมีไม่กี่คน หยก ตะวันและก็คนขับที่อยู่ในขบวนการด้วย ขอใช้คําว่าขบวนการเลยนะ มันไม่สามารถเปลี่ยนให้แบบนี้น้องเอ้ย…สุดท้ายมันไม่ดีหรอก น้องจะเสียมวลชน น้องจะเสียแรงสนับสนุนไป ซึ่งตัวพี่จะวิเคราะห์อะไรไปทางไหนได้อีก ถ้าน้องมัวแต่ทําแบบนี้ บอกตรง ๆ ต่อสู้ให้มันโตขึ้นบ้างได้ไหม…ติดเขาพุ่งเข้าชนมันไม่เวิร์ก

และไหนจะโดนฝั่งที่เขาต่อต้าน ไหนจะเสียที่เขากําลังช่วยต่อสู้ทางความคิดเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงของโลก อันนี้ก็ต้องยอมรับเพราะมันเป็นความจริง เรื่องวัฒนธรรมอะไรเข้าใจแหละมันเป็นวัฒนธรรม เป็นความเป็นไทย แต่มันต้องค่อย ๆ หมุนเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอย่างสมูธที่สุด ขอใช้คํานี้ ใช้คําแบบที่ก้าวไกลเขาใช้เลย เปลี่ยนไปให้สมูธที่สุด อย่าไปเข้าใจเจตนาตรงนี้ผิด และขอย้ำอีกทีว่าโมเดลที่มันจะเป็นมันคืออังกฤษ สเปน นอร์เวย์ เดนมาร์ก สวีเดน ไม่ใช่รัสเซีย ฝรั่งเศส…

'โบว์-ณัฏฐา' สะท้อน!! โลกนี้มีผู้ฟังอยู่ 2 ประเภท ฟังแล้วนำมุมดีไปใช้ต่อ กับฟังแล้วตีโพยตีพาย 

จากกรณี CK Cheong (ซีเค เจิง) CEO เว็บไซต์ Fastwork ได้แสดงความคิดเห็นเรื่อง ทุกคนมีเวลาเท่ากัน อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา แต่สามารถดูสตรีมมิ่งได้ 8 ชม. การดูสตรีมมิ่งไม่ผิด แต่อย่าลืมเอาเวลามาพัฒนาตัวเอง ซึ่งหลังจากวิดีโอถูกแชร์ออกไป ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนกลายเป็นกระแสดรามา

ล่าสุด (8 ก.พ.67) น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว และนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน ก็ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ด้วยว่า...

เห็นมีคนพูดเรื่องการบริหารเวลา แนะนำให้จัดลำดับความสำคัญ ถ้าคุณมีเวลาดูซีรีส์ อย่าบอกว่าไม่มีเวลาจะทำอะไรเพื่อพัฒนาตัวเอง…แล้วก็มีคนโวยวาย เข้าไปด่า

โลกนี้มีคนที่ฟังอะไรแล้วหยิบส่วนที่เป็นประโยชน์ไปใช้ต่อ กับคนที่ฟังอะไรแล้วตีโพยตีพาย จับผิดคนพูดแทนการจับประเด็น เพราะอยากได้การโอ๋มากกว่าความจริง อยากได้ข้ออ้างให้กับความล้มเหลวของตัวเองมากกว่าแรงผลักดันเพื่อพัฒนา 

มีพี่คนนึงเคยพูดไว้ว่าถ้าเราให้ความสำคัญกับอะไร เราจะมีเวลาให้มันเสมอ ตอนจีบใคร ยุ่งแค่ไหนก็หาเวลาไปดูหนังได้ ไปเจอกันได้ ดังนั้นในชีวิตอย่าอ้างว่าไม่มีเวลาที่จะทำสิ่งที่ควรทำ ซึ่งจริงมาก…แต่ตอนนั้นไม่มีทัวร์ลง เพราะมันยังไม่มีเทรนด์ของการโยงทุกอย่างเข้ากับคำว่าความเหลื่อมล้ำ เพื่อจะบอกว่าชีวิตฉันดีขึ้นไม่ได้หรอกถ้าคนยังไม่เท่ากัน

กระจ่าง!! Tesla ขายได้แค่ 1 คันทั้งเดือนในเกาหลีใต้ เพราะขายหมดจนไม่เหลือสต็อกรถไว้ขายในเดือนมกราคม

(8 ก.พ.67) Business Tomorrow ได้ออกบทความกรณีข่าวสะพัด Tesla ขายได้แค่ 1 คันทั้งเดือนจริงหรือไม่? โดยมีเนื้อหาดังนี้...

จากเหตุการณ์ที่ประเทศเกาหลีขายรถยนต์ EV อย่าง Tesla ได้เพียง 1 คันในเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลายคนอาจจะมองว่าเป็นข่าวร้ายและขาลงของอุตสาหกรรมรถยนต์ EV ในเกาหลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งนี้อาจเป็นสัญญาณที่ดีมากสำหรับวงการ EV และ Tesla ที่ Tesla ขายรถในเกาหลีใต้ทั้งเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้เพียงแค่ 1 คัน

📌 ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ?

เพราะหากเราเจาะเข้าไปดูรายละเอียดให้ดีแล้ว เราจะทราบว่า Tesla ในเกาหลี (หรือแม้แต่ในไทยก็ตาม) จะไม่ได้รับรถจากโรงงานจีนเลยในเดือนแรกของไตรมาส เพราะรถทั้งหมดกำลังถูกขนผ่านเรือจากจีนเข้ามาอยู่ กว่าจะได้รับรถก็คือต้องรอเป็นเดือนที่ 2 และ 3 ของไตรมาส ทำให้ยอดขาย Tesla ในประเทศต่าง ๆ ในเอเชียจะออกมาในรูปแบบนี้เสมอ คือยอดขายในแต่ละไตรมาสจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามเดือน และไปสูงสุดที่เดือนที่ 3 เสมอ

📌 ทำไม Tesla ถึงต้องทำแบบนี้ ?

ทั้งนี้เพื่อ Maximize ให้ยอดจดทะเบียน หรือยอดขายของรถสูงที่สุดในไตรมาสเดียว หาก Tesla ไม่กำหนดการส่งออกจากจีนให้ดี และส่งรถออกมาในเดือนสุดท้ายของไตรมาส จะทำให้รถเหล่านั้นอยู่ระหว่างการเดินทางในช่วงการปิดงบรายไตรมาส และไม่ได้รับรู้เข้าไปในบัญชี

ทำให้ในเดือนแรกของทุกไตรมาส Tesla จะส่งรถออกไปให้ประเทศที่อยู่ไกลที่สุดก่อน ที่ใช้เวลาเดินทางมากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าในไตรมาสนั้น ประเทศนั้นจะได้มีเวลาส่งมอบรถให้ได้มากที่สุด (หากส่งเรือไปถึงช้า เวลาขายในไตรมาสก็จะน้อย) ก่อนที่จะค่อย ๆ ส่งออกให้กับประเทศที่อยู่ใกล้ขึ้น ให้มีเวลาในการขายที่มากขึ้นไปตาม ๆ กัน 

จนเดือนสุดท้ายที่ไม่สามารถส่งรถออกทัน Tesla ก็จะขายรถเหล่านั้นในตลาด Domestic ของจีนให้มากที่สุด เพื่อเร่งยอดการส่งมอบในแต่ละไตรมาส

📌 สรุปแล้วดีกับ Tesla ?

ทำให้หากเราเห็นว่า Tesla ในเกาหลีขายได้เพียง 1 คันในเดือนมกราคม นั้นหมายความว่า Tesla ได้ขายรถในเกาหลีออกไปเกือบทุกคันจนหมดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว ! ทำให้ไม่เหลือสต็อกรถไว้ขายในเดือนมกราคม

ด้วยสิ่งเหล่านี้ทำให้สามารถสรุปสั้น ๆ ได้ว่า จริง ๆ แล้วนี่เป็นข่าวที่ดีมากสำหรับ Tesla และวงการรถ EV ในเกาหลีเลยทีเดียว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top