Sunday, 15 June 2025
NewsFeed

ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S24 มี AI ล่ามแปลภาษาให้แบบสดๆ หวังทวงคืนเจ้าตลาดคืนจาก Apple เบื้องต้นคลุม 13 ภาษา

(18 ม.ค. 67) จากเพจ 'เดือดทะลักจุดแตก' ได้เผยเนื้อหาถึง เทคโนโลยี AI กับ ซัมซุง ที่เปิดตัว Galaxy S24 โทรคุยกับคนต่างชาติ แล้วล่ามแปลภาษาให้แบบสด ๆ ได้ ระบุว่า...

อัศจรรย์ แล้วมันก็เป็นไปได้จริง สิ่งที่เราชาวโลกจินตนาการจากในการ์ตูนหรือหนังไซไฟ

น้องหนูนักเรียนไม่ต้องนั่งท่องศัพท์ภาษาอังกฤษยากบรรลัย cat dog mountain sea bikini ...

ชีวิตจะไปยากเย็นอะไรอีก ในเมื่อโทรศัพท์มือถือสามารถแปลให้เองด้วยอิทธิเดชแห่ง AI

เพียงปลายสายพูดฟุดฟิดฟอไฟภาษาฝรั่ง เมื่อสัญญาณพุ่งมาสู่เครื่องมือถือของคุณ มันก็พลันกลายเป็นภาษาไทยแสนไพเราะเสนาะหู

คุณจะคุยกับจีน ญี่ปุ่น ก็เช่นกัน อิคึ อิคึ

ในลิสต์ตอนนี้ มี 13 ภาษา ซึ่งยังไม่ได้ไล่รายละเอียดว่ามีอะไรบ้าง แต่แน่นอน หลัก ๆ ของโลกอย่างอังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, สเปน ต้องมี-ส่วนมีไทยหรือเปล่า เดี๋ยวลุ้นกัน

(เชื่อว่ายังไง เริ่มต้น 13 ไปก่อน อีกสักพักขยายถ้วนทั่ว)

มีฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นอีกสารพัดแสนอัศจรรย์นะครับ ผมคงไม่ต้องมานั่งแจกแจงรายละเอียด สักพักซัมซุงย่อมเอาข้อมูลนี้ไปถวายถึงหน้าคุณเองอยู่แล้ว

แหม ทันใจนะครับ มันต้องยังงี้สิ เมื่อวานข่าวเปรี้ยงปร้าง ซัมซุงตกบัลลังก์จากเจ้าตลาดมือถือสมาร์ตโฟน หลุดอันดับ 1 เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี โดนแอปเปิ้ลแซง

ก็นั่นล่ะครับ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกำชัยคืนมา ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องล่อด้วย AI

‘สื่อเยอรมัน’ เผยแผนลับ!! 5 ขั้นตอนของ ‘ปูติน’ เตรียมโจมตี 'ยูเครน' ก่อนนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3

(18 ม.ค.67) หนังสือพิมพ์ BILD ของเยอรมันตีพิมพ์ข่าวใหญ่ ระบุชัดว่า 'วลาดิมีร์ ปูติน' ผู้นำรัสเซีย มีแผนที่จะยกระดับสงครามยูเครน ไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ภายในปี 2025 โดยอ้างอิงจากเอกสารลับสุดยอดของกระทรวงกลาโหมเยอรมันเป็นประกัน!!

สื่อเยอรมัน เปิดเผยว่า กระทรวงกลาโหมและกองกำลังในยุโรปเริ่มเตรียมความพร้อมรอรับการโจมตีของรัสเซียแล้ว โดยมีการประเมินสถานการณ์ว่า ปูตินมีแผนที่จะทำสงครามแบบผสม ‘Hybrid War’ โจมตีชาติพันธมิตร NATO ในหลายรูปแบบ ทั้งการโจมตีทางไซเบอร์, ใช้กำลังทหารรุกราน รวมถึงการโจมตีด้วยข้อมูลข่าวสาร ที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้น

เอกสารลับ (ที่ตอนนี้ไม่ลับแล้ว) ของกลาโหมเยอรมันระบุว่าชื่อ ‘Alliance Defense 2024’ ได้คาดการณ์แผนการยกระดับสงครามยูเครน สู่สงครามโลกครั้งที่ 3 พอสรุปคร่าวๆ ไว้ 5 ขั้น

โดยขั้นแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023 นี้ ที่ปูตินจะประกาศระดมพลเพิ่มอีก 2 แสนนาย โดยอ้างว่าเตรียมไว้สำหรับเปิดฉากสงครามในยูเครนอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ยังดูเป็นสงครามภายในระหว่างรัสเซีย-ยูเครนปกติ

แต่สื่อเยอรมันชี้ว่า แผนการขั้นสอง จะยกระดับขึ้นในช่วงกรกฎาคมปีนี้ ด้วยการใช้ยุทธวิธีโจมตีทางไซเบอร์ในกลุ่มประเทศบอลติค อันได้แก่ประเทศ เอสโตเนีย ลัทเวีย และ ลิทัวเนีย

ขั้นที่สามจะตามมาในเดือนกันยายน ที่มีการตั้งชื่อแล้วว่า แผน ‘Zapad 2024’ ที่จะมีการซ้อมรบใหญ่ตามแนวชายแดนรัสเซียตะวันตกและเบลารุส เพื่อกลบเกลื่อนการเคลื่อนพลใหญ่ และขีปนาวุธพิสัยกลางไปประจำในแคว้นคาลินินกราด เพื่อประชิดชายแดนโปแลนด์และลิทัวเนีย 

และนำไปสู่แผนการขั้นที่ 4 ในเดือนธันวาคม ช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐ ที่รัสเซียวางแผนที่จะโจมตีด้วยข้อมูลข่าวสาร และปั่นกระแสให้เกิดจลาจลบริเวณเขตแนวชายแดนระหว่างโปแลนด์ และ ลิทัวเนีย ที่เรียกว่า ‘Suwalki Gap’ หลังวางกองกำลังของตนไว้ในคาลินินกราดแล้ว

แผนขั้นที่ 5 จะเริ่มในเดือนมกราคม 2025 เมื่อพันธมิตร NATO จะพุ่งเป้ามาที่รัสเซียว่าเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในประเทศแถบบอลติก ที่ปูตินจะใช้เป็นข้ออ้างในการระดมพลใหญ่อีกครั้งทั้งในรัสเซียและเบลารุส ซึ่งกองกำลัง NATO คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องประกาศรวมพลเช่นกัน ซึ่งจุดแตกหักที่อาจกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ ในเอกสารของกลาโหมเยอรมันระบุว่า ตั้งแต่มีนาคม 2025 เป็นต้นไป

เป้าหมายที่ฝ่ายกลาโหมเยอรมัน จัดทำเอกสารประเมินสถานการณ์สงครามของรัสเซียฉบับนี้ ก็เพื่อกระตุ้นเตือนให้พันธมิตรในยุโรปตระหนักว่า รัสเซียเป็นภัยคุกคามที่อันตรายมากกว่าที่คิด จำเป็นต้องเร่งเตรียมความพร้อมในกองทัพของแต่ละประเทศในการป้องกันดินแดนของตน และทางเยอรมันได้เริ่มแล้วนั่นเอง

จากหัวข้อข่าวที่ BILD ได้ออกมาเผยแพร่ ก็ได้สร้างความฮือฮาและแตกตื่นพอสมควรว่า รัสเซียคิดจะเปิดศึกในยุโรปแน่หรือ? และเอกสารที่สื่อเยอรมันหยิบมาอ้างถึงนั้นเป็นเอกสารจริงหรือไม่?

และเมื่อมีการสอบถามไปยังกลาโหมเยอรมัน โฆษกประจำกระทรวงก็ออกมาปฏิเสธที่จะออกความเห็นถึงเนื้อหาที่มีอยู่ในเอกสารลับ ‘Alliance Defence 2025’ แต่กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า โดยปกติแล้ว ฝ่ายกองทัพมีการประเมินสถานการณ์เป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นส่วนหนึ่งในงานของทหาร ไม่ต่างจากการฝึกซ้อมประจำวันนั่นแหละ"

ด้าน วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่ถูกโยงให้เป็นตัวเอก และตัวร้ายในรายงานเอกสารลับของเยอรมัน ก็ออกมาปฏิเสธว่า นี่มันนิยายอะไรกัน รัสเซียไม่ต้องการขยายขอบเขตสงครามออกไปไกลเกินยูเครนแล้ว จะยุให้เราไปรบกับใครอีก?

แม้สื่อตะวันตกจะสนใจเรื่องเอกสารลับของเยอรมันกันค่อนข้างเยอะ แต่ก็ต้องพึงระลึกเสมอว่า ‘ฟังหู ไว้หู’ เพราะลำพังกองกำลังพลที่จะระดมเพิ่มแค่ 2 แสน กับขยายกองกำลังไปประจำที่คาลินินกราด กับขีปนาวุธพิสัยกลางอีกนิดหน่อย คิดจะเปิดฉากรบยุโรปทั้งทวีปได้เชียวหรือ?

แต่ทั้งนี้ แอดฯ ก็เคยเชื่อว่ารัสเซียไม่น่าจะบุกยูเครน และทำสงครามเต็มรูปแบบมาก่อน แต่สุดท้ายปูติน ก็บุกจริงๆ ดังนั้น คงยังฟันธงไม่ได้ว่า รายงานประเมินสถานการณ์ ‘Alliance Defence 2025’ ถูกเขียนขึ้นเพราะ ‘เชื่อในสิ่งที่เห็น’ หรือ ‘เห็นในสิ่งที่เชื่อ’

นักวิจัย ม.ทักษิณ และคณะ ค้นพบ 'เห็ดกรวยส้มทักษิณา' เห็ดชนิดใหม่ของโลกในพื้นที่จังหวัดพัทลุง

อาจารย์ ดร.ภูมิน นุตรทัต คณะวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยทักษิณ จับมือ ดร.นครินทร์ สุวรรณราช และ ดร.จตุรงค์ คำหล้า สำนักงานบริหารงานวิจัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัณณิดา ขุนนามวงษ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกันสำรวจและศึกษาวิจัยจนค้นพบ “เห็ดกรวยส้มทักษิณา” เห็ดชนิดใหม่ของโลก ซึ่งจัดอยู่ในสกุล Gloeocantharellus ที่ขึ้นอยู่ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง จากความหลากหลายทางชีวภาพและความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศในพื้นที่ คาดว่าจะพบเห็ดชนิดใหม่อีกหลายชนิดที่รอการยืนยันและการศึกษาเชิงลึกต่อไป

การศึกษาวิจัยในครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อมูลฐานชีวภาพภายในมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง และใช้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบระบบนิเวศป่าสาคู ซึ่งอยู่ภายใต้หัวข้อวิจัย “เห็ดป่าในป่าสาคูจังหวัดพัทลุงสู่การนำไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาต่อยอดทางอุตสาหกรรมเกษตร” เพื่อศึกษาความหลากชนิดของเห็ดในป่าสาคู ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนงานวิจัยมูลฐาน (Fundamental Fund) ประจำปีงบประมาณ 2566  จากมหาวิทยาลัยทักษิณ

ทีมวิจัยยังได้สำรวจความหลากชนิดของเห็ดเบื้องต้นในรั้วมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง และจากการสำรวจและวิจัยของทีมวิจัยได้ค้นพบเห็ดชนิดใหม่ของโลก “เห็ดกรวยส้มทักษิณา” ซึ่งจัดอยู่ในสกุล Gloeocantharellus ที่เป็นเห็ดเอกโตไมคอร์ไรซากับพืชถิ่นของมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง โดยตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “Gloeocantharellus thailandensis” ทั้งยังเป็นการรายงานครั้งแรกของเห็ดสกุลนี้ในประเทศไทยอีกด้วย

ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ได้ใช้หลักอนุกรมวิธานสมัยใหม่ในการบ่งบอกชนิดเห็ดสกุลนี้ จากข้อมูลสัณฐานวิทยาร่วมกับศึกษาข้อมูลทาง DNA ของลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีนไรโบโซม internal transcribed spacer (ITS) และ large subunit (LSU) รวมถึงการใช้ลำดับนิวคลีโอไทด์ของโปรตีนในส่วน mitochondrial ATPase subunit 6 เพื่อใช้ศึกษาแผนภูมิวิวัฒนาการของเห็ดสกุลนี้ จนสามารถยืนยันได้ว่าเห็ดที่ศึกษานี้เป็นเห็ดชนิดใหม่ของโลก

ปัจจุบันเห็ดสกุล Gloeocantharellus มีรายงานการค้นพบแล้ว 19 ชนิดทั่วโลก โดยเห็ดชนิดใหม่ที่ค้นพบในมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ถือเป็นชนิดที่ 20 ที่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสมาชิกใหม่ของโลก และงานวิจัยนี้ได้ตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ ในหัวข้อ “Gloeocantharellus thailandensis (Gomphaceae, Gomphales), a new macrofungus from southern Thailand”

จากการศึกษาความหลากชนิดของเห็ดเบื้องต้นในครั้งนี้ยังพบเห็ดที่คาดว่าเป็นเห็ดชนิดใหม่อีกหลายชนิดในรั้วมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ที่รอการยืนยันชนิดและการศึกษาเชิงลึกต่อไป

การพบเห็ดชนิดนี้อยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ถือเป็นการสะท้อนบ่งบอกว่าพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศเป็นอย่างดี และสมควรที่จะต้องดูแลรักษาไว้ โดยมหาวิทยาลัยทักษิณสนับสนุนงานวิจัยพื้นฐานเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และสนับสนุนการจัดการพื้นที่สีเขียวภายในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ของมหาวิทยาลัยยังคงเป็นพื้นที่สีเขียวมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่มหาวิทยาลัยทั้งหมด

สิทธิ์ให้ทุน ‘นักเรียนไทย’ มาเรียนต่อ ‘จีน’ อาจน้อยลง หลังพบเด็กไทยโกงข้อสอบ HSK โดยมีผู้คุมสอบช่วย

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.67) ผู้ใช้ติ๊กต็อก mikeawzmeaw หรือ อดีตนักเรียนไทยทุนจีน ได้โพสต์คลิปวิดีโอหัวข้อ ‘สิทธิ์ให้ทุนนักเรียนน้อยลง เพราะโกงข้อสอบ’ ซึ่งในคลิประบุว่า…

“สิทธิ์ให้ทุนนักเรียนไทยมาเรียนต่อที่ประเทศจีนอาจจะลดน้อยลง เพราะว่านักเรียนไทยทําสิ่งนี้…” ซึ่งอันนี้คือการสอบครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา มีเด็ก ‘โกงข้อสอบ’ โดยมีผู้คุมสอบ HSK5 ช่วยกันลากเมาส์ในพาร์ททั้งกาและเขียน ซึ่งตอนนี้กําลังอยู่ในส่วนของการตรวจสอบข้อมูลกันอยู่ว่าความเป็นไปเป็นมามันเป็นยังไงบ้าง

ดังนั้น จะบอกได้ว่าตอนนี้ทุนที่เขาให้นักเรียนไทยไปเรียนต่อที่ประเทศจีนมันลดน้อยลงไปอยู่แล้ว และมีข่าวนี้อีก ถ้าให้ภาษาบ้าน ๆ ก็เรียกได้ว่างามหน้ามาก ๆ ซึ่งเอาจริง ๆ ไม่คิดว่าเด็กไทยจะทำเรื่องแบบนี้ จึงอยากจะขอย้ำขอเตือนในฐานะที่เป็นหนึ่งคนที่เคยได้ทุนในการเรียนต่อที่ประเทศจีน ทุนนี้เขาให้เปล่าแล้วก็ให้ฟรีด้วย ทุกคนไม่ต้องใช้เงินทุนคืน แต่สิ่งที่คุณทําอยู่มันไม่ใช่แค่ส่งผลต่อตัวเอง แต่มันส่งถึงระดับประเทศระดับชาติ แล้วชื่อของคุณมันก็จะถูกแบล็คลิสต์ไป และมีโอกาสที่จะไม่ได้ใช้วีซ่าเข้าประเทศจีนอีกต่อไป ดังนั้น เพื่อน ๆ คนไหนที่คิดจะทําเรื่องนี้อยู่ ขอแนะนําว่าอย่าทําเด็ดขาด…”

หมายเหตุ : (HSK หรือ Hanyu Shuiping Kaoshi เป็นการสอบวัดระดับความสามารถภาษาจีนที่จัดขึ้นโดย Chinese Test International (CTI) ซึ่งเป็นองค์กรที่วิจัยพัฒนาข้อสอบวัดระดับภาษาจีนของชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน)

‘แรงงานไทย’ รีวิวทำอาชีพ ‘เกษตร’ ที่เกาหลีใต้ หลังมาถูกกฎหมาย ชี้!! ‘สภาพการเป็นอยู่แย่-เงินออกช้า-วันหยุดน้อย’ ไม่เป็นอย่างที่คิด

(18 ม.ค.67) แรงงานไทยในเกาหลีใต้ เปิดใจ มาทำงานจริงไม่เป็นอย่างที่ฝันไว้ สภาพการเป็นอยู่ย่ำแย่ ใช้ส้วมหลุม นอนตู้คอนเทนเนอร์ เงินเดือนออกไม่ตรง วันหยุดน้อย แนะนำ ให้เลือกสายงานเกษตรเป็นอันดับสุดท้าย

ใครอยากไปทำงานเกาหลีใต้ ลองฟังทางนี้ นายอภิสิทธิ์ แรงงานเกษตรในประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ตนได้สอบกับกรมแรงงาน เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 เพื่อรับวีซ่า E-9 ในการประกอบอาชีพแรงงานเกษตรในต่างแดน

เมื่อได้มาทำงานจริง ตนได้ทำงานในสวนผักผสม อาทิ ผักสลัด กวางตุ้ง ผักชี โดยหลัก ๆ นั้น เถ้าแก่จะปลูกผักที่มีราคาดีตามแต่ฤดูกาล จากการทำงานมาตลอด 6-7 เดือน ทำให้ตัวเองรู้สึกเฟลมาก เนื่องจากสัญญาที่ทำไว้กับงานที่ต้องทำจริงนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สำหรับสิ่งที่ตนเองไม่โอเคมาก ๆ คือห้องน้ำ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงความสกปรก แต่เข้าขั้นโสโครก เนื่องจากเป็นส้วมหลุม ลำบากใจทุกครั้งที่ต้องเข้าห้องน้ำ หากเข้าช่วงหน้าร้อนก็จะมีแมลงวันบินตอมเยอะ ช่วงหน้าหนาวอุจจาระก็จะแข็งและกองซ้อนกัน ตนได้ขอร้องให้เถ้าแก่ปรับปรุงห้องน้ำแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

เรื่องต่อมา คือ วันหยุด ในสัญญาที่เซ็นระบุว่า จะมีวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน แต่ความจริงหากจะหยุด ต้องได้รับอนุญาตจากเถ้าแก่เท่านั้น บางเดือนก็ไม่ได้หยุด เวลางานก็ต้องนั่งย่อนานกว่า 5-6 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ต่อมาคือเรื่องเงิน ตามสัญญาเถ้าแก่จะต้องให้เงินทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน ซึ่งเงินออกตรงเวลาแค่เดือนแรก แต่ความเป็นจริงนั้นล่าช้ามาโดยตลอด ลำบากใจทุกครั้งที่ต้องทวงเงิน สำหรับเงินเดือนตามข้อกำหนดกระทรวงแรงงาน อยู่ที่ 1.8 ล้านวอน (ประมาณ 54,000 บาท) แต่หลังจากหักค่าประกันและค่าเช่าห้อง ตกแล้วจะเหลือ 1.3 ล้านวอน (ประมาณ 34,000 บาท) ซึ่งต้องแบ่งไว้ใช้เองและส่งกลับบ้าน พอคำนวณแล้ว ไม่ต่างจากทำงานที่ไทยเลย

สำหรับที่พัก ตนได้พักอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ และไม่อนุญาตให้ไปอยู่อพาร์ตเมนต์ ทั้งยังคิดค่าเช่าแพงถึง 9,000 บาทต่อเดือน น้ำไม่ค่อยไหล ฤดูหนาวต้องใช้น้ำบาดาล ด้านอาหาร มีเพียงข้าวเปล่าที่ฟรี ส่วนกับข้าวต้องซื้อมาทำเอง แม้กระทั่งน้ำเปล่าและน้ำมันก็ต้องใช้เงินส่วนตัวซื้อ

ตนเองยอมรับว่าพลาด เพราะตอนแรกตั้งใจจะสมัครเป็นแรงงานอุตสาหกรรม แต่สมัครไม่ทัน ซึ่งตั้งใจไว้แล้วว่าอยากมาทำงานที่นี่ จึงเลือกสอบแรงงานเกษตร และสอบผ่านจึงได้มาทำงานที่นี่

สุดท้ายนี้อยากฝากว่า ใครจะมาทำงานที่นี่ต้องยอมรับให้ได้กับสภาพความเป็นอยู่ รวมถึงต้องทำใจที่อาจถูกเถ้าแก่หักเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ หากไม่ทำโอทีอาจลำบากได้ ส่วนแรงงานผู้ชาย อยากให้เลือกสายงานเกษตรหรือปศุสัตว์ เป็นตัวเลือกสุดท้าย ให้เลือกสายงานอุตสาหกรรมและก่อสร้างก่อนเป็นอันดับแรก แต่หากย้อนเวลากลับไปก็จะเลือกมาทำงานอยู่ดี เพราะค่าแรงมากกว่าไทย สามารถสร้างตัวได้เร็วกว่าอยู่ในไทย

“พล.ต.อ.พัชรวาท” รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการ ”แก้มลิงทุ่งหิน” กว่า 2,000 ไร่ เร่งขับเคลื่อนโครงการเพื่อพี่น้องชาวสมุทรสงคราม

พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการโครงการแก้มลิง “ทุ่งหิน” ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยมี นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายกุศล โชติรัตน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.ท.อภิรัต นิยมการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายสุวิทย์ พันธ์เสงี่ยม อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายสราวุธ สากล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค2 

ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้ผลักดันโครงการ “แก้มลิงทุ่งหิน” นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่4 นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม นายอรรถพันธุ์ สงวนเสริมศรี ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม นางสาวประภารัตน์ นาคผจญ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสงคราม ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

โดยนาย ศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า โครงการแก้มลิงทุ่งหิน ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม บนพื้นที่โครงการ 2623 ไร่เศษ มีสภาพเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีน้ำทะเลหนุนสูงเกิดปัญหาน้ำเอ่อลันเข้าท่วมพื้นที่ประมง่ และที่อยู่อาศัยของประชาชนบ่อยครั้ง อีกทั้งจังหวัดสมุทรสงครามไม่มี
แหล่งเก็บกักน้ำจืดขนาดใหญ่ โครงการแก้มลิงทุ่งหิน จึงเป็นโครงการสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลาก 

และเป็นแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค ให้ประชาชนในจังหวัดสมุทรสงครามได้ โดยที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการประกาศเป็นที่หวงห้าม เมื่อปี พ.ศ. 2470 ต่อมาในปี พ.ศ. 2510
ได้มีการรังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงพื้นที่สาธารณประโยชน์ "ทุ่งหิน" ได้มีราษฎรและนายทุนเข้าไปบุกรุกทำกินเต็มพื้นที่ จำนวน 52 ครอบครัว ต่อมาจังหวัดสมุทรสงคราม
ได้พิจารณาเห็นว่า พื้นที่สาธารณประโยชน์ "ทุ่งหิน" ควรที่จะนำมาทำเป็นแก้มลิงขยายผลตามโครงการและเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดแก่พี่น้องประชาชนและจังหวัดสมุทรสงครามต่อไป

โดยทางด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในวันนี้รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการโครงการ “แก้มลิงทุ่งหิน” ถือว่าเป็นโครงการที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม ด้านทรัพยากรน้ำและยังเป็นประโยชน์แก่ประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสงครามอีกด้วย อีกทั้งเพื่อรับฟังความคืบหน้าโครงการสำคัญของจังหวัด รวมถึงเปิดโอกาสให้หน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ นำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานเพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนต่อไป 

อย่างไรก็ตาม โครงการแก้มลิงทุ่งหิน ถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก สืบเนื่องจากที่ผ่านมาทาง ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการพูดอภิปรายถึงโครงการดังการในที่ประชุมสภาเพื่อขอให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือและช่วยอนุมัติงบประมาณเพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อนก่อสร้างโครงการ แก้มลิงทุ่งหิน เนื่องจากโครงการดังกล่าวนั้น มีความสำคัญกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสงครามเป็นอย่างมาก และยังเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในอีกหลายๆ จังหวัด กระทั่งล่าสุดโครงการแก้มลิงทุ่งหินได้ถูกขับเคลื่อนและอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโครงการในปัจจุบันคาดว่าโครงการดังกล่าวนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2568-2569 

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

‘นายกฯ เศรษฐา’ หวังนักลงทุนเปิด Data Center ในไทย และดันไทยสู่ศูนย์กลางของภูมิภาค

(18 ม.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

“ความหวังของผม คือ การได้บริษัทใหญ่มาลงทุนเปิด Data Center ในประเทศ ให้ไทยเป็นศูนย์กลาง Data Center ของภูมิภาคครับ”

นายเศรษฐา ระบุเพิ่มเติมว่า “จังหวะได้พบ Mr. Bill Gates ผมจึงไม่พลาดโอกาสที่จะนำเสนอศักยภาพของประเทศ และความเป็นไปได้ในการเปิด Data Center ของ Microsoft ในไทย ตามที่ผมได้เคยพูดคุยกับ Mr. Satya Nadella CEO คนปัจจุบันไปแล้วที่ซานฟรานซิสโกครับ”

2 วัฒนธรรมการกินที่แตกต่างกันระหว่าง ‘คนไทย-คนยุโรป’

เป็นเรื่องธรรมดาที่วัฒนธรรมด้านต่าง ๆ ของแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน และทำให้คนที่เดินทางข้ามประเทศเกิดภาวะ ‘Culture Shock’ หรือ ‘ภาวะตื่นตระหนกทางวัฒนธรรม’ ซึ่งเป็นอาการที่จะเกิดขึ้นเมื่อสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมเปลี่ยนไปจากวัฒนธรรมเดิมที่คุ้นชิน 

วันนี้ THE STATES TIMES ชวนมาดู 2 วัฒนธรรมเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันระหว่างคนไทยและคนยุโรป จะต่างกันอย่างไร มาดูกัน!!

Startup จีนเจ๋ง พัฒนาแบตเตอรีนิวเคลียร์เล็กเท่าเหรียญ จุดเด่นอยู่ได้ 50 ปี ไม่ต้องชาร์จ ไม่ต้องซ่อม

Betavolt บริษัท Startup ด้านนวัตกรรมพลังงานของปักกิ่งเปิดตัวแบตเตอรีพลังงานนิวเคลียร์รุ่นล่าสุด ที่มีขนาดเล็กเท่าเหรียญบาท แต่สามารถให้พลังงานได้ยาวนานถึง 50 ปี โดยไม่จำเป็นต้องชาร์จ

สร้างความฮือฮาในวงการนวัตกรรมพลังงานอย่างมาก เมื่อ Startup จีน สามารถพัฒนา BV-100 แบตเตอรี่นิวเคลียร์ตัวแรกของบริษัทออกมาได้สำเร็จ และยังสามารถเคลมว่าเป็นแบตเตอรีนิวเคลียร์ตัวแรกของโลก ที่พัฒนาให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้จริง

โดยทาง Betavolt ได้ใช้ Nickel-63 ไอโซโทปรังสีนิวเคลียร์ชนิดหนึ่งบรรจุเข้าไปในอนุภาคขนาดเล็กที่มีขนาดเพียง 15×15×15 มิลลิเมตร ทำให้ได้แบตเตอรีที่มีขนาดเล็กมากพอๆ กับเหรียญบาท ที่สามารถให้กำลังไฟฟ้า 100 ไมโครวัตต์ และแรงดันไฟฟ้า 3 โวลต์ ได้ในเวลา 50 ปี

แต่ต้องยอมรับว่า แบตเตอรีรุ่นแรกของบริษัทให้กำลังไฟค่อนข้างต่ำ จึงไม่แรงพอที่จะชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างสมาร์ตโฟนได้ ทางบริษัทจึงแนะนำให้ใช้ BV100 แบบอนุกรม หรือ ควบคู่ไปกับอุปกรณ์จ่ายไฟอื่นๆ ไปก่อน

ทั้งนี้ Betavolt มีเป้าหมายในการพัฒนาแบตเตอรีรุ่นต่อๆ ไปให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จนสามารถใช้เป็นพลังงานหลักให้กับอุปกรณ์ดิจิทัลทั่วไป อย่าง สมาร์ตโฟน หรือ โดรน ได้ ขณะเดียวกันยังสามารถนำไปปรับใช้กับเครื่องมือเทคโนโลยีอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อากาศยาน, เครื่องมือแพทย์, อุปกรณ์ AI, เครื่องตรวจจับสัญญาณ หรือแม้แต่หุ่นยนต์ขนาดเล็ก ให้ได้ในอนาคตอันใกล้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลก ที่จะสามารถใช้อุปกรณ์ดิจิทัลของตนได้อย่างต่อเนื่องหลายสิบปี โดยไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟอีกต่อไป 

(ทางบริษัทยังรับรองความปลอดภัยของตัวแบตเตอรีนิวเคลียร์ ที่จะไม่ติดไฟ หรือระเบิดออกเมื่อถูกกระทบกระเทือน และยังสามารถใช้งานได้ดีภายใต้อุณหภูมิ -60 จนถึงระดับ 120 องศาเซลเซียส)

สำหรับการคิดค้นเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์  นักวิทยาศาสตร์ชาวโซเวียต และ ชาวอเมริกัน เคยนำมาใช้แล้วตั้งแต่ยุคสำรวจอวกาศ ที่มักใช้ในยานสำรวจใต้ทะเล หรือสถานีอวกาศ แต่ทั้งนี้ ตัวแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่เทอะทะ และราคาสูงมาก จึงจำกัดการใช้งานแต่เพียงโครงการของรัฐบาลเท่านั้น

ซึ่งรัฐบาลจีนต้องการท้าทายขีดจำกัดดังกล่าว ด้วยการบรรจุแผนการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์เชิงพาณิชย์ไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 5 ปี ฉบับที่ 14 (2021-2025) จนสามารถเปิดตัวแบตเตอรีนิวเคลียร์จิ๋วรุ่นแรกออกมาได้ก่อนชาติตะวันตกอย่าง สหรัฐอเมริกา และ ยุโรป

และยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการแข่งขันด้านนวัตกรรมของจีน ที่พร้อมก้าวขึ้นมายืนในตำแหน่งแถวหน้าของโลกได้อย่างไม่น้อยหน้าใครอีกด้วย

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบขบวนการปล่อยกู้ดอกโหด ยึดรถโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก

ตำรวจไซเบอร์ แถลงจับกุมเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ปล่อยกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ในอัตราร้อยละ 60 ต่อปี และบังคับลูกหนี้ทำสัญญาอำพรางซื้อขายรถไว้เป็นหลักประกันเงินกู้ หากผิดนัดชำระหนี้ ยึดรถโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก

ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขหนี้นอกระบบ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เร่งระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ และการรับจำนำรถยนต์รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย 

ต่อมาวันนี้ 18 มกราคม 2567 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาปล่อยเงินกู้นอกระบบ ในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยชุดสืบสวน กก.1 บก.สอท.5 จ.กระบี่ ได้สืบสวนทราบว่า นายประภาส (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์เป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ ลูกหนี้ที่จะกู้ต้องนำรถยนต์รถจักรยานยนต์มาเป็นหลักประกัน พร้อมทั้งทำสัญญาซื้อขายทิ้งไว้ในลักษณะเป็นการอำพราง เมื่อลูกหนี้ผิดนัดก็จะนำรถออกประกาศขายผ่านทางเฟซบุ๊ก ต่อมาวันที่ 16 มกราคม 2567 พ.ต.ท.อุดม อิสโร และ พ.ต.ท.อสวรรธน์ ศิระเวรินทร์ สว.กก.1 บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวนได้เข้าตรวจค้นบ้านของนายประภาส ใน ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พบรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดเรียงรายอยู่ โดยเป็นรถยนต์กระบะ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน พบสัญญาซื้อขายรถที่ลูกหนี้โอนลอยไว้ สอบถามนายประภาส ให้การรับสารภาพว่าได้ปล่อยเงินกู้มาแล้วเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะปล่อยกู้ให้กับคนในพื้นที่ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน หรือร้อยละ 60 ต่อปี ซึ่งลูกหนี้จะต้องนำรถมาเป็นหลักประกันเงินกู้ พร้อมทั้งเซ็นโอนลอยไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญเจ้าของรถมาพบ ให้การสอดคล้องกันว่าได้กู้เงินกับนายประภาสจริง และได้นำรถมาเป็นหลักประกันเงินกู้ไว้ แต่นายประภาสได้ให้โอนลอยไว้โดยไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ฯ ยังได้ประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถลงทะเบียนขอความช่วยเหลือหนี้นอกระบบ ได้ทางเว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th/ หรือที่ว่าการอำเภอและสถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top