Tuesday, 1 July 2025
NewsFeed

โฆษก ก.ต่างประเทศจีน ชี้!! ฟรีวีซ่าให้คนไทยยังอยู่ในขั้นหารือ คาด!! ยืนยันผลเร็วสุดไม่เกินสิ้นเดือนนี้หรือก่อนตรุษจีน 10 ก.พ.

(3 ม.ค. 67) เพจลุยจีน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีจีนฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทย โดยระบุว่า…

#โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนยืนยันฟรีวีซ่าให้คนไทยยังอยู่ในขั้นหารือ😅😅😅

อ้าวววว ยังไม่คอนเฟิร์ม 100% นะครับว่าจะฟรีวีซ่าให้ นทท.ไทยที่ไปจีน 1 มี.ค. 67 นี้มั้ยตามที่ท่านนายกไทยให้ข่าวกับหลาย ๆ สำนักข่าววันนี้

หลังมีข่าวเป็นกระแสใหญ่โตช่วงเที่ยงวันนี้เรื่อง ไทย-จีนต่อไปนี้จะฟรีวีซ่าถาวรจากนายกเศรษฐา ข่าวดังกล่าวก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากทั้งชาวไทยและชาวจีน โดยเฉพาะที่จีนแฮชแทก #中泰永久相互免签 #จีนไทยต่อไปนี้จะฟรีวีซ่าถาวร ก็ขึ้นติด Top 5 ในโซเชียลจีนอย่างรวดเร็ว

ล่าสุดช่วงบ่ายทางนักข่าวจีนก็ไปยืนยันกับทางกระทรวงต่างประเทศของจีน ซึ่งทางโฆษก กต.จีน วังเหวินปิน 汪文斌 ก็ได้ให้ข่าวว่า "เบื้องต้น หัวหน้าคณะทำงานทั้งสองฝ่าย (ไทย, จีน) กำลังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยอย่างใกล้ชิด ซึ่งเราก็หวังว่านโยบายดังกล่าวจะประกาศใช้โดยเร็ว" 目前,相关主管部门正就具体事宜密切沟通,我们期待有关安排早日落地生效。

ซึ่งจากที่โฆษก กต.จีนแถลงมานี้ สรุปว่า
1. มีการหารือกันเรื่องฟรีวีซ่าไทย-จีนจริง แต่ยังไม่ฟันธงว่าจะเริ่ม 1 มี.ค. นี้มั้ย

2. ยังมีพวกรายละเอียดหลายอย่างถ้ามีการฟรีวีซ่าเกิดขึ้นต้องหารือ แน่นอนว่าเรื่องปัญหาและแนวทางแก้ไขต่าง ๆ ทางจีนคงต้องค่อนข้างระวังไว้ด้วย รวมถึงท่าทีจากมวลชนชาวจีนอันนี้ก็สำคัญ

3. นายกไทยก็ปากไวมาสปอยล์นักข่าวก่อน โดยไม่บอกว่า ‘กำลังหารือ’ กันอยู่

ซึ่งใด ๆ ยังไงคงต้องรอทางฝ่ายจีนออกมาประกาศชัดเจนเช่นกันว่าจะฟรีวีซ่าให้ นทท.ไทยจริง ๆ เมื่อไหร่ ซึ่งส่วนตัวแอดคิดว่าคงประกาศให้ฟรีวีซ่าพร้อมกับอีกหลาย ๆ ประเทศ เหมือนรอบแรก 6 ประเทศที่เค้าประกาศไปซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบยุโรป + มาเลฯ คาดว่าของไทยน่าจะเป็นกลุ่มประเทศล็อตที่ 2 ที่เค้าจะฟรีวีซ่าให้ 

คาดว่าเร็วที่สุดน่าจะคอนเฟิร์มภายในไม่เกินสิ้นเดือนนี้หรือก่อนตรุษจีน 10 กพ. นิดนึงนะ แบบดันยอด นทท. หลังตรุษจีนให้เข้าประเทศเค้าด้วย 

'เศรษฐา' คลุกวงในบิ๊กสื่อ ขอแรง 'เชียร์-หนุน' พร้อมเคลียร์ผังนอกแผน ฟาก 'รทสช.' ต้องคงไว้ช่วยค้ำศรัทธา แต่ ‘อุ๊งอิ๊ง' ดวงท่าจะไม่พาถึงนายกฯ

สวัสดีปีมังกรครับท่านผู้อ่านท่านผู้ฟังและท่านผู้ชม...

ว่ากันว่าปี 2567 จะเป็นปีมังกรร้ายมังกรเดือด...อาการของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน จะอยู่จะไปอยู่ในอัตรา 50/50...แบบว่าเป็นตายเท่ากัน

ทบทวนกันอีกที...ระเบิดลูกใหญ่ 5-6 ลูก...

- ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท
- ประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญ 
- พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท  
- การเลือกตั้ง สว.ช่วง มิ.ย.-ก.ค. 
- พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

...ล้วนแล้วแต่จะสร้างความร้อนแรงทางการเมืองในมิติต่างๆ...

นั่นยังไม่นับประเด็นสำคัญคือ...การปรับ ครม. ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นแน่ และ 'เล็ก เลียบด่วน' ค่อนข้างเชื่อตามโหรใหญ่หลายสำนักว่าจะเป็นการปรับใหญ่...หลายตำแหน่ง

แต่ยังไงๆ ว่ากันว่ายังไม่ถึงคิวที่จะเอาพรรคสีฟ้า...ประชาธิปัตย์ เข้ามาแทนที่พรรครวมไทยสร้างชาติที่เริ่มมีการปล่อยข่าวกันออกมาตามสภากาแฟบางวงซึ่งวิเคราะห์ว่า การเดินหน้าปฏิรูปราคาพลังงานของ รองตุ๋ย-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อาจไม่สบอารมณ์กลุ่มทุนใหญ่บางกลุ่ม ต้องรีบตัดไฟต้นลม...

ซึ่ง 'เล็ก เลียบด่วน' ไม่คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะคิดสั้นขนาดนั้น พวกเขาต้องรู้ดีว่า ขณะนี้พีระพันธุ์เป็นรัฐมนตรีที่ช่วยค้ำยันความศรัทธาต่อรัฐบาลได้ไม่น้อย เตะ พีระพันธุ์ ออกไปก็เหมือนเตะตัดขาตัวเอง...ปีนี้ปล่อยผ่านไปก่อน ปีหน้าค่อยว่ากันอีกที...

สำหรับอาการของ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน แม้จะยังลนลานอยู่บ้าง แต่เบื้องลึกทีมงานของนายกฯ สูงยาวถุงเท้าแดงคนนี้ได้จัดทัพปรับแถวในหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเขาคิดว่าจะเป็นผลดีในการทำงานของนายกฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวรบของสื่อมวลชน...

แหล่งข่าวระดับไม่สูงมากแต่เชื่อถือได้ยืนยันกับ 'เล็ก เลียบด่วน' เหยี่ยวชราว่า...ตอนนี้ผู้บริหาร (ข่าว) ของสื่อทีวีหลายต่อหลายช่องและสื่อนสพ.หลายฉบับได้พบกับนายกฯ ตัวเป็นๆ หมดแล้ว...ความเป็นกันเองตรงไปตรงมา และรอบรู้ประเด็นเศรษฐกิจของโลกของไทย ก็เพียงพอที่จะทำให้สื่อน้อยใหญ่ให้กำลังใจ...ให้โอกาสนายกฯ คนนี้

ส่วนการกระชับพื้นที่สื่อเอาหลายรายการออกจากผังวิทยุ / โทรทัศน์ เช่น กรณียกเลิกรายการ 'คุยถึงแก่น' ช่องหอยม่วงแบบไม่บอกกล่าวอะไรนั่น แม้เป็นอะไรที่ไม่สมควรทำ แต่ถึงที่สุดก็ยังไม่ทำให้รัฐบาลรู้สึกระคายเคืองในเสียงโจมตี-ต่อต้าน...

เอาไปเอามาถ้าไม่มีปัจจัยอื่นๆ ที่คาดไม่ถึงเข้ามาแทรกซ้อน รัฐบาลเศรษฐาก็น่าจะลอดข้ามปีมังกรไปได้ เศรษฐาก็ยังจะเป็นนายกฯ ต่อไป เหตุผลสำคัญที่สุดเพราะ 'อุ๊งอิ๊ง' แพทองธาร ชินวัตร ยังไม่พร้อมที่จะย่างสามขุมขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ในปีนี้...ส่วนปีหน้าก็ต้องตามไปดูกันอีกที...ดูว่า 'คุณแม่' คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ จะเห็นเช่นไร...

แต่พูดก็พูดเหอะ...สำหรับ 'เล็ก เลียบด่วน' คุยกับหมอดูมา 3 สำนัก ล้วนทายทักว่าดวง 'อุ๊งอิ๊ง' จะไปไม่ถึงนายกฯ ดังนั้นถ้าจะสัมผัสกับคำว่า 'รัฐมนตรี' ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า...ควรจะได้เข้าไปเป็นรองนายกฯ ควบว่าการซักกระทรวง...เพื่อพิสูจน์ฝีมือและเรคคอร์ดประวัติชีวิต...

ด้วยรักและเห็นใจ...จร้า!!

ระทึก!! ‘เจแปนแอร์ไลน์’ เครื่องบินไฟไหม้บนรันเวย์ ‘ผู้โดยสาร-ลูกเรือ’ รวม 379 ชีวิต รอดตายยกลำ!!

(3 ม.ค. 67) อุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ที่เกิดชนกับเครื่องบินของหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นในสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้ที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์

คำถามที่เกิดขึ้นตามมาคือการอพยพผู้โดยสารรวมทั้งลูกเรือ 379 ชีวิตออกมาอย่างปลอดภัย ที่ต้องบอกว่าไม่ต่างจากปาฏิหาริย์นั้นเกิดขึ้นอย่างไร จากภาพที่คนเห็นจากด้านนอกเมื่อเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว คือเปลวไฟสีส้มได้ระเบิดขึ้นบนรันเวย์ จากนั้นก็ดูเหมือนเครื่องบินของเจแปนแอร์ไลน์ก็พุ่งต่อไปบนรันเวย์ในสภาพไฟลุกท่วมลำ

บีบีซี รายงานว่า ผู้โดยสารบนเครื่องบินแอร์บัส A350 เที่ยวบินที่ JL516 จากชิโตเสะ ฮอกไกโด ระบุว่า พวกเขารู้สึกได้ว่าเครื่องบินชนกับอะไรบางอย่างขณะที่มันกำลังลงจอดที่สนามบิน จากนั้นมีความร้อนพวยพุ่งขึ้นตามด้วยควันหนาแน่น

สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของทุกชีวิตถูกปลุกขุ้น ผู้โดยสารต่างตะเกียกตะกายเพื่อหนีออกจากเครื่องบินที่เต็มไปด้วยกลุ่มควัน ด้วยตระหนักดีว่าชีวิตของพวกเขาขึ้นกับเสี้ยวเวลาไม่กี่วินาทีข้างหน้า

การที่ผู้โดยสารพร้อมด้วยลูกเรือทั้งหมดสามารถหลบหนีออกไปจากเครื่องบินได้นั้นถือเป็นเรื่องไม่ธรรมดา ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การอพยพที่เกิดขึ้นโดยปราศจากที่ติ และเทคโนโลยีใหม่ๆ มีส่วนอย่างสำคัญต่อการรอดชีวิตของพวกเขา

อันทอน เดเบ ผู้โดยสารชาวสวีเดนวัย 17 ปี กล่าวถึงความวุ่นวายหลังอุบัติเหตุดังกล่าว ขณะเครื่องบินหยุดอยู่บนรันเวย์ ให้หนังสือพิมพ์ Aftonbladet ของสวีเดนฟังว่า ห้องโดยสารทั้งหมดปกคลุมไปด้วยควันภายในไม่กี่นาที และควันพวกนั้นก็เหมือนเหมือนนรก เหมือนพวกเราอยู่ในนรกอย่างไรอย่างนั้น

เดเบบอกว่า เราทิ้งตัวลงบนพื้น จากนั้นประตูฉุกเฉินของเครื่องบินก็เปิดออกมา พวกเขาพุ่งตัวออกไปตามๆ กัน เราไม่รู้ว่าเรากำลังจะไปไหน ดังนั้นเราก็เลยวิ่งออกไปบนที่โล่ง มันวุ่นวายมาก

เดเบ พร้อมด้วยพ่อแม่และน้องสาวของเขาสามารถหลบหนีออกมาจากเครื่องบินได้โดยไม่มีใครได้รับอันตราย

ซาโตชิ ยามาเกะ วัย 59 ปี บอกว่า เขารู้สึกว่าเครื่องบินเอียงไปด้านข้าง และรู้สึกว่าเกิดแรงกกระแทกครั้งใหญ่ในการชนกันครั้งแรก ด้านผู้โดยสารอีกรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า มีอุบัติเหตุเหมือนเครื่องบินชนกันระหว่างลงจอด เขาเห็นประกายไฟนอกหน้าต่าง ขณะที่ห้องโดยสารก็เต็มไปด้วยควัน

ผู้โดยสารบางคนเก็บภาพแสงสีแดงของประกายไฟจากเครื่องยนต์ขณะที่เครื่องบินหยุดนิ่งแล้ว อีกคนหนึ่งถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ภายในตัวเครื่อง ที่แสดงให้เห็นถึงควันไฟที่พวยพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ผู้โดยสารร้องตะโกน ด้านลูกเรือพยายามที่จะบอกว่าพวกเขาจะต้องทำอะไรต่อไป

เอ็นเอชเคอ้างผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งว่า บนเครื่องมืดลงเพราะไฟลามมากขึ้นหลังเครื่องจอด บนเครื่องบินเริ่มร้อนขึ้น และเธอก็คิอว่าตัวเองคนไม่รอด ด้านผู้โดยสารอีกคนบอกว่า แผนการหลบหนีทำได้ยาก เพราะใช้ประตูฉุกเฉินได้เพียงจุดเดียวทางด้านหน้าของเครื่อง เนื่องจากประตูฉุกเฉินของเครื่องบินทางตอนกลางและท้ายเครื่องบินไม่สามารถเปิดได้

ภาพและวิดีโอแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาที่ผู้คนบนเครื่องบินกระโดดลงจากสไลเดอร์เป่าลมของสายการบิน บางส่วนก็ล้มลงขณะพยายามหนีออกจากเครื่องที่ไฟลุกไหม้ และวิ่งหนีออกไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า

ไม่มีใครถือกระเป๋าลากขึ้นเครื่องของตัวเองออกมา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบินเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น

อเล็กซ์ มาเชอรัส นักวิเคราะห์การบินบอกกับบีบีซีว่า ลูกเรือสามารถเริ่มการอพยพตามที่พวกเขาได้รับการฝึกฝนมาในช่วงไม่กี่นาทีแรกหลังเกิดอุบัติเหตุขึ้น และในช่วง 90 วินาทีแรก ไฟที่ลุกไหม้เกิดขึ้นในพื้นที่เดียว ทำให้พวกเขามีช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะพาทุกคนออกไปจากเครื่องบิน

มาเชอรัสบอกอีกว่า ลูกเรือเข้าใจชัดเจนว่าประตูไหนอยู่ห่างจากเปลวไฟ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เราได้เห็นในรูปภาพว่า ประตูฉุกเฉินทั้งหมดไม่สามารถเปิดออกเพื่อให้ผู้คนหลบหนีได้ ขณะที่ผู้โดยสารเองก็มีส่วนช่วยลดความตื่นตระหนก ด้วยตัวอย่างเช่นที่พวกเขาไม่พยายามที่จะเอากระเป๋าออกมาจากที่เก็บของเหนือศีรษะ

เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งเป็นเพราะเครื่องบินแอร์บัส A350 เป็นหนึ่งในเครื่องบินเชิงพาณิชย์รุ่นแรกๆ ที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิต ซึ่งมีความทนทานต่อการชนในครั้งแรกรวมถึงต่อเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นตามมา

ยามาเกะบอกว่า ในความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ผู้โดยสารใช้เวลาราว 5 นาทีก็สามารถออกจากเครื่องบินได้ จากนั้นในเวลาราว 10-15 นาที เขาก็เห็นเปลวไฟลามออกไปยังส่วนอื่นๆ ของเครื่องบิน

สึบาสะ ซาวาดะ วัย 28 ปี บอกว่า การที่พวกเขารอดตายมาได้ถือเป็นปาฏิหาริย์ แต่เขาก็มีคำถามเช่นกันว่า ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และเขาไม่มีแผนจะขึ้นเครื่องบินอีกครั้งจนกว่าจะได้รับคำตอบ

หลังจากใช้เวลาดับไฟที่ไหม้เครื่องบินหลายชั่วโมง ในที่สุดไฟบนเครื่องเจแปนแอร์ไลน์ก็ถูกควบคุมไว้ได้ โดยผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 14 คนเท่านั้น

ความโชคดีแบบเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นกับเครื่องบินเล็กของหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่น ที่กำลังจะออกเดินทางไปช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวทางตะวันตกของญี่ปุ่น มีรายงานว่าลูกเรือ 5 คนเสียชีวิต ขณะที่กัปตันเครื่องบินแม้จะรอดตายแต่ก็บาดเจ็บสาหัส

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งทำงานเพื่อไขคำตอบว่า เหตุใดเครื่องบินทั้ง 2 ลำจึงอยู่ในรันเวย์พร้อมกัน ซึ่งเป็นต้นเหตุของโศกนาฎกรรมรับปีใหม่ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดเช่นนี้

'สุริยะ' ปักธง ม.ค.67 ชง 7 โครงการเข้า ครม.มูลค่ากว่า 1.25 แสนล้านบาท พร้อมเปิดประมูล ‘อาคารตะวันออกสุวรรณภูมิ-ทางด่วน-มอเตอร์เวย์-รถไฟสีแดง’

(3 ม.ค. 67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม มีนโยบายเร่งรัดการพัฒนาโครงการทางด้านการขนส่งทางบก ทางราง ทางน้ำและทางอากาศ ซึ่งมีแผนงาน จำนวน 72 โครงการ ซึ่ง กระทรวงฯได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามฯ เพื่อขับเคลื่อน ติดตามเร่งรัดตรวจสอบการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานและไทม์ไลน์ โดยภายในเดือน เดือนม.ค. 2567 มีโครงการที่มีความพร้อม ในการนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขออนุมัติ จำนวน 7 โครงการ หลังจากครม.เห็นชอบจะเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการประกวดราคาก่อสร้างต่อไป ซึ่งมีทั้งโครงการที่ใช้งบประมาณ และโครงการที่ร่วมลงทุนกับเอกชน (PPP) 

โดย 7 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2. โครงการทางพิเศษกะทู้ - ป่าตอง จ.ภูเก็ต 3.โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ส่วนต่อขยาย ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต 4. สายสีแดงต่อขยาย ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา 5.สายสีแดงต่อขยาย ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช 6. โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) หรือ M9 ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง และ 7.โครงการมอเตอร์เวย์ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ (M5) สายรังสิต-บางปะอิน 

สำหรับโครงการพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปัจจุบัน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้มีการทบทวนการศึกษาออกแบบ เพื่อให้สอดรับกับบริบทการบินที่เปลี่ยนแปลงไป ใช้สำหรับรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 66,000 ตร.ม. และมูลค่าลงทุนปรับจาก 6.6 พันล้านบาท เป็น 8 พันล้านบาท รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มเป็น 15 ล้านคน/ปี ตามแผนจะเปิดประมูลผู้รับเหมาก่อสร้างในต้นปี 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2570

โครงการทางพิเศษกะทู้ - ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทางประมาณ 3.98 กม.วงเงินลงทุน 16,190 ล้านบาท (ค่างานโยธา 10,400 ล้านบาท / ค่างานเวนคืนและจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,790 ล้านบาท) มีการปรับรูปแบบการลงทุนจาก PPP- Net Cost (ภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ภาคเอกชนรับผิดชอบงานส่วนที่เหลือทั้งหมด ได้แก่ การออกแบบรายละเอียดและการก่อสร้าง และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) เป็น กทพ.รับผิดชอบงานก่อสร้างโยธาของโครงการเอง ส่วนงานบำรุงรักษา (O&M) จะศึกษารวมในโครงการระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ซึ่งจะใช้รูปแบบ PPP ร่วมลงทุนงานโยธาโครงการระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30 กม. และบริหาร O&M ทั้ง 2 ระยะ ซึ่ง คณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.เห็นชอบเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2566 กทพ.อยู่ระหว่างสรุปเสนอกระทรวงคมนาคม

รถไฟชานเมืองสายสีแดง ส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,468.69 ล้านบาท, ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม. วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท, ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.70 กม. วงเงิน 4,694.36 ล้านบาท ก่อนหน้านี้เสนอครม.ไปแล้วแต่กระทรวงคมนาคมถอนเรื่องคืนเพื่อศึกษาทบทวนขยายระยะทางเพิ่มเติม ไปยังเมืองรอบนอกเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางมากขึ้น เช่น ช่วงรังสิต-มธ.รังสิต ขยายไปถึงอยุธยา ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ขยายไปถึง นครปฐม ซึ่งคาดว่าจะการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมภายในเดือน ม.ค. นี้

ส่วนโครงการพัฒนามอเตอร์เวย์สายใหม่จำนวน 2 โครงการ คือ มอเตอร์เวย์ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ (M5) สายรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. และ มอเตอร์เวย์ M 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทองระยะทาง 35.85 กม. ผ่านกระบวนการบอร์ด PPP และเสนอ ไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว อยู่ระหว่างสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อนำบรรจุวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

โดยมอเตอร์เวย์ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ (M5) สายรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม.วงเงินลงทุน 31,280 ล้านบาท จะดำเนินการในรูปแบบ PPP Gross Cost โดยเอกชนลงทุนในส่วนก่อสร้างงานโยธาและงาน O&M โดยรัฐเป็นผู้ได้รับรายได้ค่าผ่านทาง และจ่ายค่าตอบแทนการให้บริการให้แก่เอกชน และรัฐใช้คืนค่าก่อสร้างภายหลัง ใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ จะเริ่มจ่ายค่างานโยธาเมื่องานก่อสร้างเสร็จแล้ว การออกแบบรายละเอียด (Detail& Design) เสร็จแล้ว รายงาน EIA ได้รับอนุมัติแล้ว โดยคาดว่าจะดำเนินการคัดเลือกเอกชน ในปี 2567 ก่อสร้างในปี 2568-2570 และเปิดบริการในปี 2571

มอเตอร์เวย์ M9 ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทาง 35.85 กม. วงเงินลงทุน 56,035 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร บริเวณเกาะกลางของถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก คาดดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนและก่อสร้างปี 2567-2570 แล้วเสร็จเปิดให้บริการปี 2571

'เทสลา' ถูก BYD แซงหน้าคว้าแท่นผู้ผลิตรถอีวีรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ยังคงรักษาบัลลังก์แชมป์ยอดขายรถอีวีแบบรายปีอยู่

(3 ม.ค.67) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสหรัฐฯ สูญเสียบัลลังก์ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรายใหญ่ที่สุดของโลกให้แก่ BYD บริษัทสัญชาติจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากตัวเลขยอดขายที่เผยแพร่ในวันอังคาร (2 ม.ค.)

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติสหรัฐฯ ที่บริหารงานโดยอภิมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ส่งมอบรถยนต์ 484,507 คัน ในไตรมาส 4 ของปี 2023 อ้างอิงจากเอกสารของทางบริษัท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านั้นมากกว่า 11%

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่มากพอที่จะช่วยรักษาบัลลังก์ของเทสลา ในฐานะผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก เนื่องจากขณะเดียวกันทาง BYD คู่แข่งจากจีน ในวันจันทร์ (1 ม.ค.) รายงานว่ามียอดขาย 526,409 คัน ในช่วงเวลาเดียวกัน

ตัวเลขดังกล่าวเป็นการตอกย้ำความท้าทายต่างๆ ที่มีความเป็นไปได้ว่า ทางเทสลาจะต้องเผชิญในปีนี้ จากบรรดาคู่แข่งทั้งหลายที่กระตือรือร้นแสวงหาผลประโยชน์จากอุปสงค์กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ของตลาดรถอีวี

หุ้นของเทสลาดิ่งลงทันทีหลังข่าวนี้ถูกแจ้งออกมา ก่อนฟื้นตัวขึ้นมาปิดลบไม่มากนัก

นอกเหนือจากเอาชนะเทสลา ในยอดขายรถไฟฟ้าล้วนแล้ว ทาง BYD ยังขายรถไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริดอีกมากกว่า 400,000 คัน ในไตรมาส 4 และโดยรวมแล้ว พวกเขามียอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมากกว่า 3 ล้านคันในปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เทสลายังคงรักษาบัลลังก์แชมป์ยอดขายรถอีวีในแง่ของรายปี โดยมีการส่งมอบรถยนต์มากกว่า 1.8 ล้านคันแก่ลูกค้าในช่วงต้นปีจนถึงเดือนธันวาคม ในขณะที่ตัวเลขยอดขายของ BYD ตลอดทั้งปี มีไม่ถึง 1.6 ล้านคัน

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' เย้ยจดหมายผิดซอง หวังให้เป็นข่าวใหญ่ แต่สุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่

(3 ม.ค. 67) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ‘จดหมายผิดซอง’ ว่า กะจะให้เป็นข่าวใหญ่ แต่สุดท้ายจดหมายผิดซอง ดี้ด้าจะเอาจดหมายพระเจ้าเห่ามาแฉ หน้าแหก ไม่มีอะไรในกอไผ่ เป็นรายงานของสถานทูตฝรั่งเศส ส่งกลับกระทรวงต่างประเทศฝรั่ง

ไลฟ์สดกะว่าดังแน่ ไม่น่าเชื่อระดับแถวหน้าจะมั่ว แตกไม่รับเย็บ แก้ตัวหยิบผิดแฟ้ม อยากแก้ไขประวัติศาสตร์หน้าไหน

‘อั้ม เนโกะ’ ฟาด!! เปิดจดหมายสำคัญยังผิดซอง ประชาชนคงไม่ต้องหวังฝากเรื่องสำคัญใดๆ ได้ 

(3 ม.ค.67) ศรันย์ ฉุยฉาย หรือ ‘อั้ม เนโกะ’ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่หลบหนีคดีอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆ ว่า “ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไทยไปไม่ถึงไหน เปิดจดหมายยังเปิดผิดซอง นี้ยังไม่ต้องคิดว่าเรื่องสำคัญๆ ขนาดนี้ยังทำนัด คุย และอธิบายกับเจ้าพนักงานไม่รู้เรื่องขนาดนี้ ชีวิตจริงประชาชนสามารถฝากฝังอะไรเป็นเรื่องเป็นราวได้บ้าง ?”

‘อีบีเอ็ม’ แจงเหตุล้อ รฟฟ.สายสีเหลือง ‘หลุด’ ใส่รถแท็กซี่ คาด!! ‘เบ้าลูกปืนล้อแตก’ ยืนยันวิ่งให้บริการได้ปกติ

(3 ม.ค.67) รายงานข่าวจากบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ EBM ผู้รับสัมปทาน โครงการ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 18.21 น.ได้รับแจ้งเหตุล้อประคองรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ได้หลุดร่วงลงมา ใส่รถแท็กซี่ บริเวณถนนเทพารักษ์ ซึ่งอยู่ระหว่างสถานีทิพวัล (YL22) และสถานีศรีเทพา (YL21) แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้จากการตรวจสอบหาสาเหตุเบื้องต้นพบว่า เกิดจากเบ้าลูกปืนของล้อประคอง (Guide Wheel) เสียหายทำให้ล้อหลุดร่วงลงมา โดยขบวนรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ที่ประสบเหตุเป็นขบวนใหม่ ซึ่งมีการตรวจสอบ และซ่อมบำรุงตามรอบโดยปกติ และขณะนี้กำลังตรวจสอบชุดล้อประคองที่หลุดออกมา เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุโดยละเอียด

อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง กราบขออภัยผู้ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทฯ จะดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันเหตุ และเร่งหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปหาสาเหตุ และแนวทางป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก เบื้องต้น ได้ประสานกับบริษัทประกัน เพื่อให้เข้าดูแลผู้ได้รับความเสียหายต่อไป

‘อังศณา ช้างเศวต’ เจ้าของเพลง ‘คู่กรรม’ เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 67

(3 ธ.ค. 67) ถือเป็นข่าวเศร้าในวงการบันเทิง หลังสูญเสีย ‘อังศณา ช้างเศวต’ หรือ อังศนา ศรีพัฑฒางกุระ อดีตนักร้องยุค 80 เจ้าของเพลงดังประกอบละครเรื่องคู่กรรม เสียชีวิตแล้วอย่างสงบเมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา

ขณะที่เฟซบุ๊ก Jaroensook Limbanchongkit Pone ได้โพสต์กำหนดการซึ่งมีการสวดพระอภิธรรม ณ วัดธาตุทอง พระอารามหลวง ในวันที่ 2-6 ม.ค. และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 7 ม.ค. เวลา 12.00 น.

สำหรับ ‘อังศณา ช้างเศวต’ เธอเป็นพยาบาลมาก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักร้องหลังจากการประกวด ‘คอนเสิร์ต คอนเทสต์’ ที่จัดโดย JSL โดยแข่งกันเหลือเพียง 3 คนสุดท้ายคือ อังศณา ช้างเศวต, แอนนา โรจน์รุ่งฤกษ์, พิษณุ นาคสาร (เฌอ) แต่ แอนนา เป็นผู้ที่ชนะ ที่ 1 ไป

หลังจากนั้นได้ออกผลงานกับ ค่ายคีตาเรคคอร์ด ชุดแรกชื่อ ‘หนึ่งในหลาย’ ซึ่งในอัลบั้มนี้มีเพลงละครดังเรื่อง ‘คู่กรรม’ ที่แต่งโดย ‘จำรัส เศวตาภรณ์’ ส่วนผู้ทำดนตรีคือ วงบัตเตอร์ฟลาย และเป็นเพลงที่แจ้งเกิดให้เธอมาจนถึงปัจจุบัน

สตม.แถลงผลจับกุมบังกลาเทศ 7 คนหลบหนีเข้าเมืองเพื่อทำงานประเทศมาเลเซีย

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงศ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม., พ.ต.ท.กฤตกรอิชณน์ คงขำ สว.ตม.จว.ปัตตานี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้ 

ขยายผลจับกุมขบวนการขนแรงงาน ตม.จว.ปัตตานี สนธิกำลัง กก.สส.บก.ตม.6, สภ.สายบุรี จว.ปัตตานี, กก.6 บก.ปคม., กก.3 บก.ปส.1 จับกุมนายเลาะ (นามสมมติ) อายุ 56 ปี บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ในฐานความผิด “รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร, ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่” สถานที่จับกุมในพื้นที่ อ.หนองจิก จว.ปัตตานี  นำตัวส่ง พงส.สภ.สายบุรี จว.ปัตตานี ดำเนินการตามกฎหมาย  

สืบเนื่องจากการขยายผลจากการจับกุม เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ตม.จว.ปัตตานี สนธิกำลังร่วมกับ สภ.สายบุรี จว.ปัตตานี ทหารพราน 44 และฝ่ายปกครอง ขณะตั้งจุดตรวจความมั่นคง ด่านตรวจตอกอ อ.สายบุรี จว.ปัตตานี ได้จับกุมนายเจ๊ะอารง (นามสมมติ) อายุ 64 ปี พร้อมด้วยของกลางรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ และโทรศัพท์ จำนวน 2 เครื่อง ในฐานความผิด “รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่” และจับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สัญชาติบังกลาเทศ จำนวน 7 ราย ในฐานความผิด “เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยคนต่างด้าวทั้งหมดนั้นเดินทางมาจากประเทศบังกลาเทศมายังประเทศกัมพูชาด้วยสายการบิน และใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อจะไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยจะมีนายหน้าที่ประเทศกัมพูชา ให้ความช่วยเหลือนำคนต่างด้าวฯ ลักลอบเข้าประเทศไทย มายังจุดพักคอย ซึ่งเป็นบ้านพักที่อยู่ตามแนวชายแดนฝั่ง อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว โดยเสียค่าใช้จ่ายต่อหัวรายละ 100,000 ถึง 140,000 บาท จากการสืบสวนขยายผลพบว่านายเลาะ เป็นหนึ่งในขบวนการขนแรงงานข้ามชาติที่จะเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย 

โดยทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถยนต์ตู้ลักลอบขนชาวบังกลาเทศจากบ้านพักคอย อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ไปส่งต่อให้นายเจ๊ะอารง(นามสมมติ) ในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จว.ปัตตานี เพื่อนำชาวบังกลาเทศลักลอบออกทางช่องทางธรรมชาติไปประเทศมาเลเซีย พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และศาลจังหวัดปัตตานีได้อนุมัติหมายจับนายเลาะ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่านายเลาะ ได้เดินทางไปในพื้นที่ อ.หนองจิก จว.ปัตตานี จึงได้ไปสืบสวนติดตามตรวจสอบพบนายเลาะ จึงได้แสดงหมายจับและจับกุมตัวนำส่ง พงส.สภ.สายบุรี จว.ปัตตานี ดำเนินการตามกฎหมาย ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้นายเลาะ บุคคลเฝ้าระวังที่เป็นตัวการสำคัญในฐานข้อมูลขบวนการลักลอบนำพาฯ พื้นที่ บก.ตม.6 ที่พบความเคลื่อนไหวในช่วงปี 2564 จากการจับกุมเครือข่ายลักลอบนำพาฯ แรงงานชาวเมียนมา ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยทำหน้าที่ประสานงานและเคลื่อนย้ายคนต่างด้าวฯ จากพื้นที่ จว.ปัตตานี ไปยังชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน จว.นราธิวาส ก่อนที่ในปัจจุบันจะผันตัวมาลักลอบนำพาฯ ชาวบังกลาเทศ จาก จว.สระแก้ว ไปประเทศมาเลเซีย และพบว่าผู้ครอบครองรถตู้ที่ใช้กระทำความผิด มีความเกี่ยวข้องกับอดีตผู้ต้องหาในเครือข่ายลักลอบขนคนต่างด้าวฯ ของเครือข่ายนายละมอร์(นามสมมติ) ที่ลักลอบขนแรงงานชาวเมียนมาในปี 2564

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จะกขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top