Monday, 30 June 2025
NewsFeed

‘หญิงสหรัฐฯ’ ตั้งท้องลูก 2 คน จุดพีก!! อยู่คนละมดลูก ทำให้ทีมแพทย์ต้องทำงานหนัก 20 ชั่วโมงในวันคลอด

(24 ธ.ค.66) เคลซีย์ แฮทเชอร์ วัย 32 ปี ชาวสหรัฐอเมริกา พบว่าตัวเองตั้งครรภ์อีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา และผลการตรวจก็ทำให้แพทย์ประจำตัวของเธอต้องช็อก

เพราะคุณแม่รายนี้มีลูกมาแล้ว 3 คน ใครๆ ก็คิดว่าท้องที่ 4 ของเธอคงจะเป็นเรื่องชิลๆ ที่รับมือง่าย แต่ใครจะคิดว่าการอัลตราซาวนด์ครั้งแรกของเธอจะพบสิ่งที่หายากหนึ่งในล้าน

ย้อนกลับไปตอนที่ เคลซีย์ อายุ 17 ปี เธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีมดลูกแฝด (uterus didelphys) เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดที่เกิดขึ้นได้ยากในผู้หญิงประมาณร้อยละ 0.3

และเพราะแบบนั้น เคลซีย์ จึงใส่ใจทุกการตั้งครรภ์ เนื่องจากคนที่มดลูดแฝดเสี่ยงแท้งได้ง่ายกว่าคนปกติการตรวจทำให้แพทย์พบว่า เคลซีย์ กำลังตั้งครรภ์ลูก 2 คน โดยเด็กอยู่กันคนละมดลูก

วันกำหนดคลอดกลายเป็นงานหินที่สุดของคุณแม่รายนี้และทีมแพทย์ เพราะกรณีของเธอเกิดขึ้นไม่บ่อยนักและมีความเสี่ยงสูง ทีมแพทย์ต้องทำงานกันนานถึง 20 ชั่วโมงเลยทีเดียว

เธอให้กำเนิดลูกสาว 2 คน ห่างกันคนละ 10 ชั่วโมง คนแรก คลอดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม เวลา 19.45 น. คนที่สองคลอด วันที่ 20 ธันวาคม เวลา 06.10 น.

สำหรับ เคลซีย์ และครอบครัวของเธอ การตั้งครรภ์นี้น่าอัศจรรย์ พวกเขาต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า เธอมีลูกพร้อมกัน 2 คน และทั้งคู่เกิดกันคนละวัน

คุณแม่ลูก 5 กล่าวว่า “เราไม่เคยฝันถึงเรื่องบ้าระห่ำนี้เลย เราไม่สามารถวางแผนการตั้งครรภ์และการคลอดแบบนี้ได้ แต่การนำเด็กทารกหญิงสองคนที่มีสุขภาพแข็งแรงเข้ามาในโลกนี้อย่างปลอดภัยนั้นเป็นเป้าหมายเสมอ

มันดูเหมาะสมที่พวกเขาจะมีวันเกิดสองวันเกิด พวกเขาทั้งสองมี ‘บ้าน’ เป็นของตัวเอง และตอนนี้ทั้งคู่ก็มีเรื่องราวการเกิดที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง”

‘นายกฯ’ สรุปภาพรวมปี 66 เน้นบรรเทาความเดือดร้อน ปชช. พร้อมย้ำ!! ตั้งแต่รับตำแหน่งมา ทำงานเต็มที่ไม่รู้จักเหนื่อย

(24 ธ.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สดผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ถึงภาพรวมการทำงานของรัฐบาลในปี 2566 ว่า หากให้ประเมินแบบการให้คะแนนตนคงไม่ให้ เพราะเป็นหน้าที่คนอื่นที่ต้องให้ แต่ว่าตั้งแต่ที่เข้ามารับตำแหน่งนั้น เราก็ทำงานอย่างเต็มที่ รัฐบาลเราให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น กลาง และยาว เรื่องของการลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนที่ออกมาก่อนหน้านี้ ทั้งการลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมัน พักชำระหนี้เกษตรกร เป็นต้น อีกทั้งยังมีเรื่องของนโยบายภาพรวมในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญด้วย

เมื่อถามผลประเมินที่บางฝ่ายออกมาให้คะแนนนายกรัฐมนตรีเข้าเกณฑ์สอบผ่าน สะท้อนถึงการทำงานหนักด้วยหรือไม่ นายเศรษฐาถึงกับร้อง “โอ๊ย!” ก่อนกล่าวว่า หากเราทำงานหนักแล้วประชาชนยังเดือดร้อน ลงไปพื้นที่ยังเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นก็เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านทำเต็มที่ ไม่ใช่แค่ตนทำงานคนเดียว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันหมด อีกทั้งปัญหาต่างๆ ก็ต้องค่อยๆ แก้กันไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักการเมืองอยู่แล้วที่อาสามา เข้ามาตรงนี้ทราบอยู่แล้วว่าต้องทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล นายเศรษฐากล่าวย้ำว่า ยังคงเป็นไทม์ไลน์เดิมคือพฤษภาคมปีหน้า

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ขอให้ใช้เวลาพักผ่อนให้เต็มที่ ระมัดระวังเรื่องของการเดินทาง ที่สำคัญคือเมาไม่ขับ ขอให้ทุกคนปลอดภัย และปีหน้าขอให้เป็นปีที่ดีขึ้น ส่วนทางรัฐบาลก็จะทำงานอย่างเต็มที่

'หมอยง' เลคเชอร์ 10 ข้อ 'วัคซีนโควิด' บทสรุป 4 ปี กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

(25 ธ.ค.66) นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสภา โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เรื่อง ‘โควิด-19 วัคซีนกาลเวลาเป็นที่พิสูจน์’ ดังนี้…

โควิด-19 วัคซีน กาลเวลาเป็นที่พิสูจน์

ในระยะแรกที่เริ่มมีการใช้วัคซีนในประเทศไทย ที่มีวัคซีนอย่างจำกัดมาก มีความต้องการสูง ประเทศไทยได้วัคซีนเชื้อตายเข้ามาเริ่มแรก ผมและคณะได้ทำการศึกษาวิจัยอย่างละเอียด มีการฉีดสูงไขว้ และเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่มีการว่ากล่าวให้ร้าย (bully) อย่างมาก ถูกดึงเข้าสู่การเมือง ขณะนี้กาลเวลาที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ข้อมูลที่กล่าวไว้ ถูกต้องทุกประการ ปีนี้เป็นปีที่ 4 ของการระบาด ขอให้เป็นสังคมอุดมปัญญา จะขอสรุปข้อมูลเกี่ยวกับโควิดวัคซีน เพื่อให้สังคมได้เข้าใจ

1.วัคซีนโควิด-19 มี 4 ชนิด คือ ก. เชื้อตาย (inactivated vaccine; sinovac, sinopharm) ข. ไวรัสเวกเตอร์ (AstraZeneca; AZ) ค. mRNA วัคซีน ได้แก่ (Pfizer, Moderna) ง. โปรตีนสับยูนิต ได้แก่ Novavax

2.วัคซีนทุกตัวมีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน จะมีประสิทธิภาพดีในเดือนแรกๆ หลังฉีด และระยะเวลาที่นานขึ้น จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการลดความรุนแรงของโรค ประสิทธิภาพจึงไม่แตกต่างกัน ไม่มีวัคซีนเทพ

3.วัคซีนเชื้อตาย กระตุ้นภูมิต้านทานได้เท่ากับการติดเชื้อในธรรมชาติ แต่ต่ำกว่า วัคซีนไวรัสเวกเตอร์และ mRNA

4.วัคซีนที่ใช้มากที่สุดในโลก คือ เชื้อตาย ใช้มากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณวัคซีนที่ฉีดในโลก  โดยเฉพาะใช้มากในเอเชียและแอฟริการวมทั้งอเมริกาใต้ ประเทศที่ใช้วัคซีนดังกล่าวอัตราการเสียชีวิต ไม่ได้สูงมากเท่าประเทศที่ใช้ mRNA วัคซีน อเมริกามีผู้ป่วยเสียชีวิตกว่า 1 ล้านคน ซึ่งห่างกับประเทศจีนมาก หรือแม้กระทั่งอินโดนีเซีย และไทย อัตราการเสียชีวิตก็ต่ำกว่าอเมริกา และยุโรปมาก

5.วัคซีนทุกตัว มีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ตามหลักการของวัคซีน ถ้าเป็นวัคซีนเชื้อตายจะใช้เทคโนโลยีเดิม เช่นเดียวกับวัคซีน ไวรัสตับอักเสบ A, Polio ที่เป็นเชื้อตาย อาการข้างเคียง เช่น มีไข้ ปวดเมื่อย น้อยกว่าวัคซีนไวรัสเวกเตอร์และ mRNA มาก รวมทั้งอาการของหลอดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิต้านทาน ก็พบได้น้อยกว่า

6.วัคซีนเชื้อตายราคาถูกกว่า mRNA มาก และการใช้ก็เก็บได้ง่าย เชื้อตายขวดละ 1 คน ขณะที่ mRNA ขวดละ  7-10 คน ทำให้เหลือทิ้งมาก และต้องเก็บที่อุณหภูมิลบ 70 องศา แต่วัคซีนเชื้อตายเก็บที่ตู้เย็นธรรมดาคือ 4 องศา การบริหารจัดการง่ายกว่า ความสูญเสียทิ้งน้อยกว่า

7.การให้วัคซีนสูตรไขว้ เป็นทางออกที่ทำให้ผลลัพธ์สุดท้าย ของวัคซีนเชื้อตายมีระดับภูมิต้านทานสูง เช่น ฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม และกระตุ้นด้วย mRNA ผลลัพธ์ที่ได้ จะเท่ากับการให้ mRNA 3 เข็ม ข้อมูลเผยแพร่ในวารสาร PGH (doi: 10.1080/20477724.2022.2108646) และเป็นที่ยอมรับทั่วโลก องค์การอนามัยโลกก็ยอมรับสูตรไขว้

8.การให้สูตรไขว้ที่ใช้ในประเทศไทย เข็มแรกให้เชื้อตาย sinovac แล้วตามด้วย ไวรัสเวกเตอร์ AZ ภูมิต้านทานที่ได้ดีกว่าการให้ เชื้อตาย 2 เข็ม หรือไวรัสเวกเตอร์ 2 เข็ม และเป็นที่ยอมรับขององค์การอนามัยโลก

9.วัคซีนเชื้อตายอาการข้างเคียงเช่นไข้และอื่นๆ น้อยกว่าไวรัสเวกเตอร์และ mRNA  มาก วัคซีนไวรัสเวกเตอร์ AZ จะมีอาการข้างเคียงมากในเข็มแรก และจะน้อยลงในเข็มที่ 2 และ 3 ขณะเดียวกันภูมิต้านทานก็เกิดขึ้นได้น้อย เพราะ vector ถูกทำลายด้วยระบบภูมิคุ้มกันของเราที่เกิดขึ้นจากเข็มแรก ส่วน mRNA อาการข้างเคียงในเข็มที่ 2 จะมากกว่าเข็มแรก และจะมากขึ้นอีกถ้ามีการให้หลายๆ ครั้ง เช่น ต่อมน้ำเหลืองโต กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ การให้สูตรไขว้ทำให้ได้ mRNA จำนวนครั้งลดน้อยลง และระดับภูมิต้านทานไม่ได้แตกต่างกัน ประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเข็มของวัคซีนและในทางปฏิบัติการให้ครบ หมายถึงให้อย่างน้อย 3 เข็ม

10.การได้รับวัคซีนไม่ว่าจะกี่เข็ม ก็สามารถเกิดการติดเชื้อได้ เพราะวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อเพียงแต่ว่าลดความรุนแรง เพราะระยะฟักตัวของโควิด 19 สั้นมากเพียง 2 วัน ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น จึงไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ จึงไม่มีวัคซีนเทพ ประสิทธิภาพที่แจงกันมาแต่แรก ส่วนใหญ่จากการศึกษาระยะสั้น ถ้าติดตามยาวออกไปก็จะรู้ว่าไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้

เมื่อผ่านมาครบ 4 ปีแล้ว ประชากรส่วนใหญ่หรือมากกว่าร้อยละ 90  ติดเชื้อไปแล้วร่วมกับได้รับวัคซีน ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นของประชากรส่วนใหญ่ จึงเป็นภูมิคุ้มกันแบบลูกผสม เป็นภูมิคุ้มกันที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ไวรัสก็วิวัฒนาการลดความรุนแรงลง ความจำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีนกระตุ้นก็ลดลง โรคได้เปลี่ยนเป็นโรคประจำฤดูกาลคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ และมียารักษาที่ดีขึ้นและเพียงพอ ไวรัสไม่ได้หายไปไหน การปฏิบัติตัวเพื่อลดการแพร่กระจายของโรคทางเดินหายใจ เป็นการทำที่มีประโยชน์ ไม่ใช่เฉพาะโรคโควิด 19 เท่านั้นยังรวมถึงโรคหายใจอื่นๆ อีกด้วย

'มือเศรษฐกิจจุลภาค' ชี้!! ความเสี่ยงมากมายในปี 2024 รอไทยอยู่  โตช้า หนี้เสียมาก ส่งออกอืด นักท่องเที่ยวต่ำเป้า เงินดิจิทัลเสี่ยงไม่ผ่าน

(25 ธ.ค. 66) นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ มือเศรษฐกิจจุลภาค อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Ta Plus Sirikulpisut' ถึงเศรษฐกิจไทยในปี 2024 ระบุว่า...

ภาพรวมเศรษฐกิจโลก สหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาดแม้จะขึ้นดอกเบี้ยหลายรอบยังเติบโตแข็งแกร่ง มีความเป็นไปได้ที่จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยแล้ว 

ส่วนไทยส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยผิดพลาด ทำให้เศรษฐกิจชะลอมาก ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้น การปล่อยสินเชื่อหดตัวหนัก บ้าน รถ SME กระทบรุนแรง

จีน ชะลอตัวหนัก หนี้เสียภาคอสังหาฯ ภาคก่อสร้าง กำลังส่งผลกระทบวงกว้าง 

ยุโรป กระทบจากสงครามรัสเซีย ยูเครนยาวนาน วิกฤต คลองซูเอส และ ฮามาส ซ้ำเติมสร้างปัญหาเงินเฟ้อทั่วยุโรป

นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายสร้างปัญหาเงินเฟ้อในญี่ปุ่นมาก คนญี่ปุ่นเริ่มมีกำลังซื้อถดถอย สัญญาณการสิ้นสุดนโยบายการเงิน ดอกเบี้ยติดลบใกล้ถึงสิ้นสุด

อินเดียกำลังฉายแววเป็นผู้นำเศรษฐกิจยุคใหม่ตามด้วยอินโดเนเซีย และเวียดนามเกาะรถอย่างห่าง ๆ

ประเทศไทยมีระเบิดเวลา บริษัทใหญ่ล้ม และหนี้เสียจากบริษัทขนาดใหญ่ ขนาดกลางรออยู่ใครถือ พันธบัตร ต้องรอบคอบ ความคาดหวังที่ประชาชนให้พรรคเพื่อไทยว่าเก่งเศรษฐกิจกำลังมีคำถาม 

ท่านนายกต้องรีบแก้ปัญหา โดยต้องมี รมต.คลังตัวจริงมาทำงาน ส่วนกระทรวงเศรษฐกิจอื่นต้องพิจารณาว่าได้คนถูกฝาถูกตัวหรือไม่ หรือยังปรับงานไม่ลงตัว ยังทำงานไม่เข้าขากับฝ่ายราชการ

ท่านนายกฯ พยายามขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ แต่ยังมีจุดที่ต้องปรับอีกมาก การขึ้นค่าแรงจะช่วยดึงกำลังซื้อหรือไม่หรือ เพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการโรงงานให้ปิดตัว หรือย้ายฐานการผลิตมากขึ้น 

เอาใจช่วยรัฐบาลให้ประชาชนอยู่ดีกินดีครับ

ปาฏิหาริย์!! ชายวัย 48 ถูกคู่กรณีแทง แต่ไม่เข้า  เชื่อ!! สมเด็จสิงห์คู่ หลวงพ่อสิงห์ ช่วยแคล้วคลาด

(25 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายประยูร เพชรนอก อายุ 48 ปี พนักงานบริษัท เล่าให้ฟังว่า เมื่อไม่นานมานี้ ระหว่างที่ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ไปส่งลูกชายที่โรงเรียนตามปกติ ซึ่งต้องใช้เส้นทาง ผ่านภายในซอยแก้วอินทร์ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 

โดยวันนั้นมีรถจักรยานยนต์และผู้ใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก พอถึงจุดเกิดเหตุ มีรถจักรยานยนต์ที่ขับสวนทางมาคนเดียว บังเอิญบริเวณที่จับด้านขวาไปเกี่ยวกับ ที่จับด้านขวาของจักรยานยนต์คู่กรณี แต่ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอย่างใด จากนั้นรถคู่กรณีก็ได้ ต่อว่าด้วยคำที่หยาบคาย จนมีปากเสียงกันเล็กน้อย แต่ตนไม่ได้สนใจเพราะว่ามีลูกชายนั่งซ้อนท้ายอยู่ด้านหลัง จึงขับรถออกไปจนกระทั่งลูกชายบอกว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ขับตามหลังมา ก่อนจะขับมาขวางหน้ารถของตนในระยะประชิด แล้วชักมีดพก ปลายแหลมยาวประมาณ 5-10 ซม.ออกจากเอว แล้วแทงเข้าที่หัวไหล่ด้านซ้ายของตน ยอมรับว่ารู้สึกเจ็บมาก จึงได้หันไปดู แต่กลับพบว่าจุดที่โดนแทง ไม่มีบาดแผล แทงไม่เข้า ไม่มีเลือดไหลออกมา พอคู่กรณีเห็นจึงรีบขับรถหลบหนีไป ส่วนตนรีบขับรถไปส่งลูกชายที่โรงเรียน 

จากนั้นจึงนั่งทบทวนถึงสาเหตุที่ไม่มีบาดแผลตอนถูกแทง โดยเชื่อว่าเป็นเพราะ บารมีสมเด็จสิงห์คู่ปี 37 ของหลวงพ่อสิงห์ วัดไผ่เหลือง ตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่ตนเชื่อและศรัทธา นำขึ้นคล้องคออยู่องค์เดียว มาตลอด 20 ปี ที่ปกปักรักษา คุ้มครองให้รอดปลอดภัย 

พระครูสมุห์สิทธิโชค อภินนฺโท เจ้าอาวาสวัดไผ่เหลือง ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า หลวงพ่อสิงห์ หรือ พระครูภาวนาวรานุศาสก์ อดีตเจ้าคณะตำบลบางม่วง และอดีตเจ้าอาวาส วัดไผ่เหลือง ถือว่าเป็นตำนานแห่ง 'พระหมอดูคิวทอง' ท่านได้จัดสร้าง วัตถุมงคลรุ่นแรก คือ...

'พระสมเด็จสิงห์คู่' จัดสร้าง พ.ศ. 2537 กดพระภายในวิหารเจดีย์ มวลสาร พระสมเด็จวัดระฆัง 1 องค์ พระสมเด็จบางขุนพรหม 1 องค์ นำมาบดเป็นมวลสาร ยังมีมวลสารอีกมาก ที่หลวงพ่อสิงห์นำมาจัดสร้าง 'สมเด็จสิงห์คู่' อาทิ ดินสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ผงอิธเจ ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห มาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผงเกี่ยวกับยันตร์ตรีนิสิงเห หรือยันตร์นารายณ์ถอดรูป แล้วมียันต์พระควัมบดี และยันต์ตราพระสีห์ อานุภาพด้านเมตตามหานิยม ป้องกันถอนคุณไสย และภูตผี ป้องกันสัตว์ เขี้ยวเล็บงา รักษาโรคอุบัติภัยอันตรายทั้งปวง

สำหรับผงปถมัง กระทำในพระอุโบสถ โดยต้องมีพิธีกล่าวคาถาอัญเชิญครู ประกาศอัญเชิญ เทพยดาทำประสะน้ำมนต์พรมตัว เรียกอักขระเข้าตัว และ อัญเชิญครุเข้าตัวผงปถมัง เป็นผงเริ่มต้น นำดินสอผงวิเศษ มาเขียนสูตร และลบออกเป็นผงปถมัง มีอานุภาพ หลายด้าน แต่หนักไปทาง คงกรพันชาตรีมหาอุด แคล้วคลาด กำบัง ล่องหนและป้องกันภูตผีปีศาจ และคุณไสย

ส่วนมวลสาร ผงอธิเจ นั้นหลวงพ่อท่านนำผงปถมังมาปั้นเป็นดินสอ แล้วเขียนสูตร ลบผง เป็นผงอธิเจมีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่างสูงรักษาโรค ภัยไข้เจ็บ

พระครูสมุห์สิทธิโชค กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดสร้างสมเด็จสิงห์คู่นี้ ทางหลวงพ่อสิงห์ ท่านจัดสร้าง ทั้งหมด 5 พิมพ์ สมเด็จสิงห์คู่ พระผงสุพรรณ พระนางพญา พระซุ้มกอ พระรอด พระส่วนหนึ่งบรรจุกรุหลวงพ่อสิงห์ อธิษฐานจิต โดยปัจจุบัน ผู้บริหารบริษัทบุญรอด และ นายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทยห้อยพระรุ่นนี้ เป็นพิมพ์นำฤกษ์

‘ปตท.’ ตรึงราคา NGV รถแท็กซี่-รถโดยสารสาธารณะ  ราคา 14.62 บาท/กก. ต่ออีก 6 เดือน เป็นของขวัญปีใหม่

ปตท. เตรียมความพร้อมด้านพลังงานอย่างเต็มที่ มั่นใจประเทศมีพลังงานเพียงพอใช้ตลอดช่วงเทศกาล พร้อมมอบของขวัญปีใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่ายเดินทางให้แก่ประชาชน ตามพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงาน รวมมูลค่าการช่วยเหลือ NGV ในช่วงวิกฤตราคาพลังงานผันผวน 2 ปีที่ผ่านมาแล้วกว่า 17,000 ล้านบาท (ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถึง 30 พฤศจิกายน 2566)  

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 มีมติเห็นชอบแผนช่วยเหลือราคา NGV ในระยะ 2 ปี โดยช่วงแรก (มกราคม ถึง มิถุนายน 2567) ปตท. ลดราคา NGV ให้กับกลุ่มรถแท็กซี่และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ถือบัตรสิทธิประโยชน์ฯ ที่ 14.62 บาท/กิโลกรัม มีผลตั้งแต่ มกราคม 2567 และกุมภาพันธ์ 2567 ตามลำดับ 

ทั้งนี้ สำหรับผู้สมัครใหม่เริ่มมีผลกุมภาพันธ์ 2567 พร้อมกำหนดราคาขายปลีก NGV กลุ่มผู้ใช้รถทั่วไป ไม่เกิน 19.59 บาท/กิโลกรัม เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ตั้งแต่มกราคม ถึง มิถุนายน 2567) 

ทั้งนี้ ปตท. จะเปิดรับสมัครผู้ถือบัตรสิทธิประโยชน์ฯ เพิ่มเติมในกลุ่มรถแท็กซี่ และรถโดยสารสาธารณะเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line OA : PTT NGV

สำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงปีใหม่ ปตท. ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัยในทุกเส้นทาง พร้อมเชิญเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและร่วมกิจกรรมต่าง ๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ปิดทำการวันที่ 1 มกราคม 2567) ได้แก่ ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี จ.ประจวบคีรีขันธ์  สำหรับผู้เดินทางท่องเที่ยวใน จ.ระยอง สามารถเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ สำหรับผู้ที่ฉลองเทศกาลในกรุงเทพมหานคร สามารถเข้าชมศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ได้อีกด้วย 

ติดต่อสอบถามข้อมูลการเข้าชมได้ที่
- ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี : https://www.facebook.com/mangrovepranburi
- ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ : https://www.facebook.com/Wangchanforest
- ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง : https://www.facebook.com/pttmetroforest

‘รมว.ปุ้ย’ ชม!! ‘กองพิสูจน์หลักฐานกลาง’ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานแบบมืออาชีพ-น่าเชื่อถือ จนได้รับการรับรองมาตรฐานสากล

(25 ธ.ค. 66) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ต่ออายุการรับรองระบบงานหน่วยตรวจ ตามมาตรฐาน มอก.17020 - 2556 (ISO/IEC 17020 : 2012) ให้แก่ กลุ่มงานตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมาตรฐานดังกล่าวเป็นมาตรฐานสำหรับหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยตรวจสอบ ว่ามีความเป็นกลาง มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีจรรยาบรรณ และมีความน่าเชื่อถือของขั้นตอนและวิธีการตรวจ รวมถึงความเหมาะสมของเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าการให้บริการงานตรวจ อยู่บนหลักวิชาการ มีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

โดยเฉพาะงานตรวจพิสูจน์หลักฐานในคดีต่าง ๆ ที่ต้องใช้กระบวนการด้านวิทยาศาสตร์และหลักนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งการตรวจสถานที่เกิดเหตุ การตรวจลายนิ้วมือ รวมทั้งตรวจสอบวัตถุพยาน เพื่อประกอบการพิจารณาคดีในกระบวนการยุติธรรม จะต้องมีความเป็นมืออาชีพ และได้รับการยอมรับ

“การต่ออายุการรับรองระบบงานให้แก่ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในครั้งนี้ ถือเป็นการยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีกระบวนการตรวจสอบที่ได้มาตรฐานสากลระดับโลก สามารถสร้างความเชื่อมั่น ในกระบวนการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก เพราะ สมอ. เป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองระบบงานหน่วยตรวจตามมาตรฐานสากล ที่ได้รับการยอมรับจากองค์การภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกว่าด้วยการรับรองระบบงาน (The Asia Pacific Accreditation Cooperation : APAC) และองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการรับรองห้องปฏิบัติการ (International Laboratory Accreditation Cooperation : ILAC) จึงทำให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยอมรับในระดับสากลด้วยเช่นกัน” รมต.พิมพ์ภัทรา กล่าว

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า “สมอ. ได้ต่ออายุใบรับรองระบบงานหน่วยตรวจ ตามมาตรฐาน มอก.17020 - 2556 (ISO/IEC 17020 : 2012) ให้แก่ กลุ่มงานตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีก 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2566 จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2571 โดยมีขอบข่ายในการรับรอง ดังนี้ 

1) การตรวจพิสูจน์จุดลักษณะสำคัญพิเศษของลายนิ้วมือ ฝ่ามือ และฝ่าเท้าแฝง 
2) การตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือ ฝ่ามือ และฝ่าเท้าแฝง เพื่อยืนยันตัวบุคคล 
3) การตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝง และลายพิมพ์นิ้วมือกับฐานข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมืออัตโนมัติของกองทะเบียนประวัติอาชญากร 

โดยการต่ออายุครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแรกได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2556 ซึ่งรวมระยะเวลากว่า 10 ปี ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ยังคงรักษาคุณภาพและการตรวจพิสูจน์อย่างมีระบบตามมาตรฐานสากลไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับการรับรองระบบงานแล้ว จะทำให้ผลการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้รับความเชื่อถือในระดับสากล ลดความแคลงใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะคดีความที่มีชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น กรณีคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ หรือกรณีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีคนต่างชาติเกี่ยวข้องด้วย เป็นต้น” นายวันชัยฯ กล่าว

‘รมว.ปุ้ย’ กำชับคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยหยุดยาวปีใหม่ ‘กนอ.’ รับลูก!! ย้ำ '68 นิคมฯ - 1 ท่าเรือฯ’ เฝ้าระวัง 24 ชม.

(25 ธ.ค.66) นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีความห่วงใยในความปลอดภัยและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2567 ตามประกาศของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567 จึงสั่งการให้ กนอ.กำชับไปยังนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 68 แห่ง และท่าเรืออุตสาหกรรม 1 แห่ง ใน 16 จังหวัด ให้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเวลาดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กนอ.จึงขอความร่วมมือไปยังนิคมอุตสาหกรรม / ท่าเรืออุตสาหกรรม ให้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังด้านความปลอดภัยในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้สารเคมีอันตรายร้ายแรง (Highly Hazardous Chemicals) หรือมีปริมาณครอบครองของเหลวไวไฟหรือก๊าซไวไฟตามปริมาณที่กำหนด ตามระบบ ‘การจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต (Process Safety Management : PSM)’ เพื่อป้องกัน ควบคุม และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพ

“ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ผมจึงกำชับให้ทุกนิคมอุตสาหกรรม / ท่าเรืออุตสาหกรรม มอบหมายให้พนักงานปฏิบัติงานนอกเวลาทำการในช่วงวันหยุดยาวตลอด 24 ชั่วโมง กำหนดมาตรการกำกับดูแล เฝ้าระวังต่างๆ และหากเกิดกรณีฉุกเฉินให้รีบประสานงานกับศูนย์เฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ศสป.) กนอ. สำนักงานใหญ่ รวมถึงต้องปฏิบัติตามคำสั่ง กนอ.ในเรื่องของการรายงานข้อเท็จจริงกรณีเกิดเหตุ และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรายงานเหตุการณ์ให้ผู้อำนวยการสำนักนิคมฯ / ท่าเรือฯ ทราบโดยเร็วที่สุด เพื่อประเมินระดับความรุนแรงและผลกระทบได้อย่างทันท่วงที” นายวีริศ กล่าว

ทั้งนี้ กนอ. ยังขอความร่วมมือจากผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรม / ท่าเรืออุตสาหกรรม ให้จัดเตรียมบุคลากร อุปกรณ์ / เครื่องมือ ระบบสาธารณูปโภค การบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ / อุบัติภัยด้วย รวมถึงช่องทางประสานขอความช่วยเหลือจากผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม หรือผู้ดูแลระบบสาธารณูปโภคภายในนิคมอุตสาหกรรม / ท่าเรืออุตสาหกรรม และหน่วยงานภายนอก อาทิ หน่วยงานป้องกันสาธารณภัย หน่วยงานท้องถิ่น และปฏิบัติตามขั้นตอนของแผนป้องกันและบรรเทาภัยระดับนิคมอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ต้องสร้างความตระหนักกับผู้ประกอบการในการให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังอุบัติเหตุและอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการ โดยเฉพาะโรงงานที่มีความเสี่ยงสูงนั้น ให้ปฏิบัติตามกฎหมายโรงงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อมด้วย พร้อมทั้งให้คำปรึกษา แนะนำเพื่อให้มีการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพสามารถปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรม / ท่าเรืออุตสาหกรรมทุกแห่งปฏิบัติการตามคำสั่ง กนอ. ที่ 285/2565 เรื่อง การรายงานข้อเท็จจริงกรณีเกิดเหตุการณ์ภาวะฉุกเฉินในนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรม โดยสามารถประสานแจ้ง ศสป. ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรม / ท่าเรืออุตสาหกรรม ต้องเตรียมพร้อมรองรับกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุเพลิงไหม้ และต้องสามารถติดต่อสื่อสารประสานงานได้ตลอดเวลาด้วย
“ปัจจุบันอยู่ในช่วงฤดูหนาว สภาพอากาศอาจจะแห้งแล้ง และยิ่งเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน กนอ. จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอัคคีภัยและอุบัติเหตุอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกท่าน” ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวปิดท้าย

‘ลิซ่า’ สุดปัง!! ยอดติดตามไอจีทะลุ 100 ล้าน ขึ้นแท่นศิลปิน K-POP คนแรกที่สามารถทำได้

(25 ธ.ค.66) ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรกี่ครั้ง ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ซุปเปอร์สตาร์สาวฮอตระดับโลกก็สร้างตำนานบทใหม่ สะเทือนวงการแฟชั่นที่ขึ้นเทรนด์ทั่วโลก ล่าสุด โดยเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา อินสตาแกรมของสาวลิซ่ามีผู้ติดตามพุ่งทะลุ 100 ล้านคนแล้ว

กลายเป็นศิลปินเคป็อปคนแรกในประวัติศาสตร์และคนไทยเพียงคนเดียวที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุด ซึ่งสาวลิซ่ามีผู้ติดตามครบ 100 ล้านคน ทำสถิติ 5 ปี และ 6 เดือน เรียกได้ว่า เหล่าบลิ๊งก์และลิลลี่ได้มอบของขวัญวันคริสมาสต์อีฟให้แก่สาวลิซ่าจริง ๆ

นอกจากนี้สาวลิซ่ายังมอบของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ให้บลิ๊งก์และลิลลี่ด้วยการเซอร์ไพรส์โคฟเวอร์เพลง My Only Wish ของ Britney Spears ลงในช่องยูทูบ Lilifilm Official ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงมาแรง #5 ในยูทูบ

ทำเอาแฮซแท็ก #MyOnlyWishByLISA และ #MerryXmasWithLALISA ขึ้นเทรนด์ทั่วโลก งานนี้ เพลงก็ไพเราะ คนก็สวย เสียงก็ดี มองรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เป็นตัวแม่ตัวมัมจริง ๆ

สวนนงนุชพัทยา  นำช้างแสนรู้สร้างสีสันวันคริสต์มาส พร้อมประกาศโปรพิเศษต้อนรับเทศกาลปีใหม่ มา 5 คนจ่าย 4 คน ตลอดเดือนมกราคม

สวนนนงนุชพัทยา โดย นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา   มอบของขวัญให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย จัดโปรโมชั่นตอนรับปีใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย  ที่เข้ามาเยี่ยมชมสวน ซื้อบัตรผ่านประตูมา 5 ท่าน  จ่ายเพียง 4 ท่าน ตลอดเดือน มกราคม 2567 และในวันเดียวกันนี้นำช้างแสนรู้แต่งชุดซานตาคลอส ออกมาสสร้างสีสันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบ “ไทยเที่ยวไทย”  สวนนงนุชพัทยา จึงจัดโปรโมชั่นอื่นๆ สำหรับผู้สูงอายุเข้าชมสวนฟรีทุกวันศุกร์  เด็กที่มากับครอบครัวสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตรและผู้พิการพร้อมผู้ติดตามเข้าฟรีทุกวัน ผู้ที่ต้องการชมการแสดงนงนุชโชว์และช้างแสนรู้ มีการแสดงมีวันละ 4รอบสวนนงนุชพัทยาเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-17.30 น.

ทั้งนี้สวนนงนุชพัทยา สร้างความประทับใจแก่เหล่านักท่องเที่ยวให้มีส่วนร่วมในขบวนพาเหรดในวันนี้ ได้นำน้องช้างแสนรู้และนักแสดงชายหญิงของสวนนงนุชพัทยา มามอบความสุขเติมรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวนับพันชีวิต ที่เดินทางมาเที่ยวชม ซึ่งในปี 2024 สวนนงนุชพัทยา เป็น 1ใน 12 สวน  ของโลกที่ได้รับรางวัล“สวนที่ควรค่าแก่การเดินทางเยี่ยมชมของโลกในปี2024”จากการประชุมเครือข่ายการท่องเที่ยวสวนนานาชาติ วิตอเรีย บีซี ที่ประเทศ แคนนาดาในเดือนที่ผ่านมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top