Sunday, 22 June 2025
NewsFeed

"รองฯต่าย ควง รรท.ผู้ช่วยฯอ้อ"ตรวจเยี่ยมมอบนโยบาย บช.ก.เร่งรัดติดตามความคืบหน้าโครงการ Big Data พร้อมสั่งกำชับ เพิ่มขีดความสามารถบูรณาการร่วมกับหน่วยปฎิบัติของพื้นที่ 

วันนี้ (7 พ.ย.66) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(ปป) และ พล.ต.ท.อัคราเดช  พิมลศรี ผบช.ภ.6 รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 5) ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม รับฟัง และมอบนโยบายการดำเนินการของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรื่อง ความคืบหน้าและแนวทางดำเนินการโครงการระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), แนวทางการจัดทำข้อมูลผู้มีอิทธิพลการควบคุมและปราบปราม, แผนมาตรการแนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการป้องกันและปราบปรามของหน่วย ตลอดจนการบูรณาการกับหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ โดยมี รอง ผบช.ก. และ ผบก. ในสังกัด และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและบรรยายสรุป

โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้กำชับให้จัดทำมาตรฐานและรูปแบบในการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับงานป้องกันปราบปรามพร้อมจัดทำแผนการทำงาน แบบบูรณาการร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยพื้นที่

ด้าน พล.ต.ท.อัคราเดช  ได้สั่งการในที่ประชุมว่า ขอให้ บช.ก.ใช้ศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และเครื่องมือพิเศษที่มี สนับสนุนการทำงานของตำรวจพื้นที่ พร้อมทุกอย่างเป็นผลงานขององค์กรเหมือนกัน

‘พี่เต้’ หิ้วส้มตำ-ไก่ย่าง บุกชั้น 14 รพ.ตำรวจ เยี่ยม ‘ทักษิณ’ แต่ ‘ราชทัณฑ์’ ไม่อนุญาต เหตุไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่แจ้งไว้

(7 พ.ย. 66) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องขังคดีทุจริตที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยได้นำส้มตำ-ไก่ย่างจากร้านของนายสิระ เจนจาคะ อดีต สส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 20 ปี และผันตัวไปเปิดร้านไก่ย่าง มาเยี่ยมไข้นายทักษิณด้วย

โดยนายมงคลกิตติ์ ระบุว่า แม้ว่าวันนี้จะไม่ได้ลงทะเบียนเยี่ยมนายทักษิณ แต่ตนเองทราบมาว่า บุคคลภายนอกสามารถเข้าเยี่ยมได้ หากตัวผู้ต้องขังอนุญาต ซึ่งตนเองก็จะใช้สิทธิ์ตรงนี้ ส่วนคาดหวังว่าจะได้เข้าเยี่ยมหรือไม่นั้น ให้เป็นดุลยพินิจของนายทักษิณ

โดยเมนูที่นำมาเยี่ยมนายทักษิณวันนี้ คือ ไก่ย่างเขาสวนกลางปิ้งเอง 1 ตัว, ส้มตำไทยปู พริก 6 เม็ด, ข้าวเหนียว 4 ห่อ, ปลาขาวกรอบ 5 ห่อ ไว้รับประทานกับข้าวสวยและพริกน้ำปลา โดยยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถนำอาหารเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ หากไม่ได้ ก็ให้เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ว่าจะนำอาหารทั้งหมดไปให้บุคคลใดแทนหรือไม่ แต่ตนเองถือว่าได้แสดงน้ำใจแล้ว โดยการเดินทางมาที่โรงพยาบาลตำรวจวันนี้ ตนเองยังคาดหวังจะได้พบนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสอบถามอาการป่วยของนายทักษิณ หลังเข้ารับการรักษาตัวมานานกว่า 70 วันด้วย

ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่านายสิระ รวมถึงนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส. พรรคพลังประชารัฐ จะมาเยี่ยมนายทักษิณพร้อมๆ กับนายมงคลกิตติ์ด้วยนั้น แต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสิระ ติดธุระด่วน ส่วนนางสาวปารีณา มีอาการป่วย ตัวรุมๆ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทั้งสองมีผู้ใหญ่ติดต่อมาเจรจา ไม่ให้มาตนเองไม่ทราบ คงต้องไปสอบถามทั้งสองเอง แต่ทั้งสอง ก็ฝากความคิดถึง มาให้ตนเองเป็นตัวแทนในการเข้าเยี่ยมเพื่อติดตามอาการเจ็บป่วยของตัวนายทักษิณ เพราะที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลไม่เคยมีการแถลงข่าวอัปเดทอาการใดๆ ผิดจากเราบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ผ่านมาที่ปรากฏว่าจะมีการแถลงข่าวในทุกอาทิตย์

สำหรับการเข้ารักษาตัวของ นายทักษิณ ตนไม่รู้ว่าสรุปแล้ว นายทักษิณ ป่วยเป็นไรกันแน่ เพราะตามปกติถ้านักโทษมีชื่อเสียง คณะแพทย์ต้องแถลงอาการทุกสัปดาห์ว่าเจ็บป่วยอะไรบ้าง ขั้นตอนรักษาเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อให้ประชาชนทราบ เชื่อว่าคนอายุ 74 ย่าง 75 ปี มีโรคภัยไข้เจ็บอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ยังมีแชตจากทางบ้านฝากตนให้มาถามอาการว่า นายทักษิณ เป็นอย่างไรบ้าง หากตนได้เจอจะได้รู้ว่าสุขภาพยังแข็งแรงดี ไม่ต้องกังวลมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับ นายทักษิณ อยากให้เข้าเยี่ยมหรือไม่ เพื่อนๆ ของตน ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล อยากมาเยี่ยมกันมาก เพราะตอนนี้เยี่ยมได้แต่คนในครอบครัว การเยี่ยมครั้งนี้ตนเหมือนเป็นตัวแทนหมู่บ้าน

โดย นายมงคลกิตต์ กล่าวอีกว่า หากนายทักษิณ ไม่ได้รับประทานอาหารวันนี้คงเสียดาย จริงๆ อยากจะนำสตรอว์เบอรีมาฝากด้วย เมื่อถามว่ามีนัยยะหรือไม่นั้น นายมงคลกิตต์ ตอบว่า ไม่มี เป็นสตรอว์เบอรีที่ตนปลูกเอง พันธุ์ใหญ่

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเข้าเยี่ยมทางกรมราชทัณฑ์ได้แจ้งว่า ทางครอบครัวชินวัตร แจ้งรายชื่อไว้ 10 รายชื่อ การเยี่ยมเป็นไปตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ต้องถามความสะดวกใจของนักโทษก่อนว่าสะดวกให้เข้าเยี่ยมหรือไม่

‘สี จิ้นผิง’ พบหารือนายกฯ ออสเตรเลีย ให้คำมั่นพร้อมทำงานร่วมกันทุกด้าน

(7 พ.ย.66) นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้พบกับนายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยผู้นำจีนกล่าวว่า ทั้งสองประเทศสามารถเป็นพันธมิตรที่ไว้ใจได้ พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับออสเตรเลียในทุกด้าน ตั้งแต่ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ขณะที่นายอัลบาเนซี ซึ่งเป็นผู้นำออสเตรเลียคนแรกที่เดินทางเยือนประเทศจีนในรอบกว่า 7 ปี ได้กล่าวชื่นชมความก้าวหน้าในความสัมพันธ์ที่เป็นบวกอย่างมาก และนับตั้งแต่ที่ผู้นำทั้งสองพบกันที่ประเทศอินโดนีเซียเมื่อปีที่แล้ว การค้ามีความไหลลื่นมากขึ้นเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ 

‘นายกฯ’ จ่อขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ป.ตรี 25,000 บาท ตามที่ ‘พท.’ หาเสียง ด้าน ‘ปานปรีย์’ เตรียมนัด 4 หน่วยงาน ถกรายละเอียด 10 พ.ย.นี้

(7 พ.ย. 66) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เปิดเผยว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายมา ซึ่งได้แจ้ง 4 หน่วยงาน ทั้งกระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงบประมาณ ให้มาประชุมกันที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 10 พ.ย. 66 โดยตนเป็นประธานในการประชุม พร้อมขอให้ประชุมลักษณะนี้ 2 ครั้ง เพื่อ เสนอ ครม. ภายในเดือนนี้ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าจะมีการขยับขึ้นเหมือนตอนสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอนปรับขั้นเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า มีการไปดูจากฐานข้อมูลเดิมด้วย ไปดูจำนวนและกลุ่มบัญชีที่ปรับขึ้น แต่การปรับขึ้นเงินเดือนของรัฐบาลนี้จะเป็นไปตามที่พรรคหาเสียงไว้ คือเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน แต่จะต้องใช้เวลาในการขยับขึ้น ซึ่งคณะทำงานจะมีการดูรายละเอียดพวกนี้เพื่อเสนอต่อ ครม. ด้วย

นายปานปรีย์ กล่าวด้วยว่า วันที่ 22-24 พ.ย. กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญเอกอัครราชทูตทั่วโลก เพื่อประชุมกระทรวงการต่างประเทศเพื่อรับนโยบาย โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในการเปิดงาน โดยประเด็นสำคัญที่จะแจ้งให้ทูตทั่วโลกรับทราบมี 3-4 เรื่องหลักๆ ได้แก่ เรื่องบทบาทการทูตและเศรษฐกิจ ที่ต้องการให้ทูตมีบทบาทในการเปิดประเทศ เรื่องความมั่นคง และเรื่องแนวโน้มการเปลี่ยนของโลกที่ประเทศต่างๆ มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อในปีหน้ารัฐบาลจะได้รุกในตลาดต่างประเทศ การทำเอฟทีเอ และการเจรจาความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ

พม. จับมือ ศูนย์พึ่งได้ รพ.ตำรวจ และเครือข่าย ปลุกกระแสสังคม เดินรณรงค์ใจกลางกรุง ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว 

วันนี้ (7 พ.ย. 66) เวลา 13.30 น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับ เพจ Because We Care และ ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว โดย นางสุดา สุหลง รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และ พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ และที่ปรึกษาปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ด้านสื่อสารสังคม พร้อมด้วยนางสาวนดา บินร่อหีม ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ร่วมติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวให้กับ พลตำรวจโท ทวีศิลป์  เวชวิทารณ์ รักษาราชการเเทน นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ และคณะผู้บริหาร อีกทั้งมอบเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวและสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงในสังคมในทุกรูปแบบ ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ  

นางสุดา กล่าวว่า กิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว จัดขึ้นเนื่องในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็น "เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว" เพื่อมุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทั้งต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว รวมไปถึงความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ โดยให้สังคมได้ตระหนักและมีส่วนร่วมในการป้องกันและขจัดความรุนแรง ด้วยการติดริบบิ้นสีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ใช้ในการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ด้วยการไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย และไม่กระทำรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ในทุกรูปแบบ 

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กล่าวว่า วันนี้ ผู้แทนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจเอกชน และประชาสังคม ประกอบด้วย กระทรวง พม. ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. 1300  สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ทีมประชาสัมพันธ์ พม. มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) และบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จํากัด (มหาชน) (TTA) ร่วมเดินรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว เริ่มจากโรงพยาบาลตำรวจไปยังบริเวณลานน้ำพุ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยร่วมติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวให้กับ นายสุทรรศชัย พลายแก้ว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ ศูนย์การค้าสยามพารากอน และคณะผู้บริหาร พร้อมทั้งมอบเข็มกลัดริบบิ้นสีขาว เพื่อร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ มีการเยี่ยมศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจรที่ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง โดยทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างบูรณาการแบบครบวงจรในรูปแบบศูนย์บริการแบบครบวงจร (One Stop Crisis Center) หรือ OSCC

หากพบเห็นการกระทำความรุนแรงในสังคมไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม  สามารถแจ้งเหตุได้ที่ 1) ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. 1300 2) ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ 3) เพจ FACEBOOK "Because We Care" และ 4) Line OA "ESS Help me" เพียงกดเพิ่มเพื่อน @esshelpme 

#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #กระทรวงพม #รมวพม #รับฟังทำจริง #ศรส #ศูนย์พึ่งได้ #becausewecare

(สุรินทร์) มทบ.25 ร่วมบริจาค “วันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์ ประจำปี 2566” เพื่อสนับสนุนภารกิจของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ 

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. พลตรี ชินวิช  เจริญพิบูลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 มอบหมายให้ พันเอก รัตนศักดิ์ สิงห์สนั่น เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 25  ร่วมบริจาคเงินและสิ่งของ “วันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์ ประจำปี 2566” เพื่อสนับสนุนภารกิจของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์  ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายพิจิตร  บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อม นางนุชจรินทร์  บุญทัน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์/ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทย คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ร่วมรับบริจาคเงินและสิ่งของ จาก พันเอก จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พันตำรวจเอก สุคนธ์ ศรีอรุณ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พันเอก สุดใจ แพงพรมมา สัสดีจังหวัดสุรินทร์ พันเอก จิตรกร  จันทร์สว่าง รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์(ท) นายอำเภอทุกอำเภอ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน บริษัท ห้างร้านต่างๆ ตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ที่มีจิตใจอันเป็นกุศล ร่วมบริจาคให้กับเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ร่วมบริจาค ในงาน “วันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์ ประจำปี 2566“

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้สนับสนุนภารกิจของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ อาทิ การดำเนินกิจกรรมสาธารณกุศล การดำเนินโครงการในพระราชดำริ การช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย การสังคมสงเคราะห์ราษฎรผู้ยากไร้ และด้อยโอกาสในสังคม  การสนับสนุนกิจการยุวกาชาด อาสากาชาด จิตอาสากาชาด และกิจการอื่นๆ ของสภากาชาดไทย เป็นต้น ซึ่งการปฏิบัติภารกิจไม่มีงบประมาณสนับสนุนจากสภากาชาดไทยแต่อย่างใด จึงจำเป็นต้องหารายได้สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเหล่านี้ ซึ่งงานวันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์ 2566 มีหน่วยงานเข้าร่วมและบริจาคเป็นจำนวนเงินข้างต้นในวันงาน ยอดบริจาคกาชาด จำนวน 2,080,002 บาท  (สองล้านแปดหมื่นสองบาทถ้วน)

ปุรุศักดิ์  แสนกล้า  ข่าว/ภาพ

บริษัทในสหรัฐฯ เรียกคืน ‘น้ำผลไม้’ เหตุปนเปื้อนสารตะกั่วสูง พบประชาชนป่วยแล้ว 7 รายใน 5 รัฐ หลังจากดื่มน้ำผลไม้

(7 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัว, นิวยอร์ก รายงานว่า หลายบริษัทในสหรัฐอเมริกา ประกาศเรียกคืนสินค้าผลไม้ เนื่องด้วยมีความเสี่ยงปนเปื้อนสารตะกั่วสูง ขณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางขยายการสืบสวนสอบสวนความเสี่ยงปนเปื้อนสารตะกั่ว หลังจากมีรายงานการเจ็บป่วยและการเรียกคืนสินค้าเพิ่มขึ้น

สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ ระบุว่า มีรายงานผู้ป่วย 7 รายในอย่างน้อย 5 รัฐของประเทศ ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับการรับประทานน้ำผลไม้เข้มข้นที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว

รายงานระบุว่า ‘สชนุคก์ มาร์เก็ต’ (Schnucks Markets) ในเมืองเซนต์หลุยส์ และ ‘ไวส์ มาร์เก็ต’ (Weis Markets) ในเมืองซันบิวรีของรัฐเพนซิลเวเนีย ประกาศเรียกคืนสินค้าน้ำแอปเปิลผสมอบเชยเข้มข้น เพราะอาจปนเปื้อนสารตะกั่วระดับสูง ส่วนก่อนหน้านี้ ‘วานาบานา’ (WanaBana) ในเมืองคอรัลเกเบิลส์ของรัฐฟลอริดา เรียกคืนน้ำแอปเปิลผสมอบเชยเข้มข้นทั้งหมด

เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ เผยว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนสารตะกั่วอาจส่งผลให้เกิด ‘ความเป็นพิษเฉียบพลัน’ (Acute toxicity) โดยเด็กและผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ดังกล่าวควรเข้ารับการทดสอบหาสารพิษจากสารตะกั่วที่อาจเกิดขึ้นได้

เชียงใหม่-รมว.ยุติธรรม แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ยึดของกลางยาบ้า 5 ล้านเม็ด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผนึกกำลังฝ่ายตำรวจ ทหาร ปกครอง และ ป.ป.ส. แถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหา 3 คนพร้อมของกลางยาบ้า 5 ล้านเม็ด ณ อาคารกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.00 น.พ.ต.อ.ทวี  สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.อ.วิชาญ  สุขสง ที่ปรึกษา รมว.ยธ.,นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ที่ปรึกษา รมว.ยธ., นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วย รมว.ยธ. ,นายนิรัตน์  พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์  หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.เลขาธิการ ป.ป.ส., นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ป.ป.ส., พล.ต.ต.กฤตธาพล  ยี่สาคร รรท.ผบช.ภ.5 ,พล.ท.นฤทธิ์  ถาวรวงษ์  มทน.3/ผอ.ศอ.ปส.ชน., พล.ท.เสนีย์  ศรีหิรัญ  ผทค.พิเศษ ทบ.,พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์  รรท.รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน รองผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.วีรชน  บุญทวี รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.นพดล  กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รรท.รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ดุลเดชา  อาชวะสมิตระกูล รรท.รอง ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.ธวัชชัย  พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่,พล.ต.ต.วรพงศ์  คำลือ ผบก.สส.ภ.5 , พ.อ.อัศพงษ์ นิลพันธ์ เสธ.ศอ.ปส.ชน.,พ.อ.กิดากร จันทรา รอง ผบ.กกล.ผาเมือง ,พ.อ.เกียรติอุดม นาดี รอง เสธ.กกล.ผาเมือง  และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 2 คนพร้อมของกลางยาบ้า 5 ล้านเม็ด ณ อาคารกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ 

พฤติการณ์ของคดีดังนี้ ก่อนเกิดเหตุ พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ได้บูรณาการประสานการปฏิบัติด้านข้อมูลข่าวสารยาเสพติดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จนทราบว่าจะมีกลุ่มขบวนการลับลอบค้ายาเสพติดทำการลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนไปส่งให้กับกลุ่มขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศ จึงสั่งการให้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนออกทำการสืบสวนติดตามจับกุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจกลุ่มขบวนดังกล่าว ใช้รถยนต์กระบะ ทะเบียน ยค 8*** เชียงใหม่ ในการขนลำเลียงยาเสพติด และใช้รถยนต์กระบะทะเบียน ผอ 4*** เชียงใหม่ ในการนำทางตรวจสอบความปลอดภัยในเส้นทางลำเลียงยาเสพติด จึงได้ประสานกับศูนย์ควบคุมและสั่งการการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 ตรวจสอบและวิเคราะห์เส้นทาง พร้อมทั้งดำเนินการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่เข้าร่วมดำเนินการตรวจสอบข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งวันที่ 31 ตุลาคม 2566 พบรถยนต์กระบะ ทะเบียน ยค 8*** เชียงใหม่ ขับผ่านในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง - อ.แม่จัน จว.เชียงราย - อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น 

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ  โดยตั้งเป้ากวาดล้างยาเสดติดให้ลดน้อยลงและหมดไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย รักษา ดูแล และส่งคืนเขากลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว รวมไปถึงการป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปเสพ จนถึงการตรวจยึดยาเสพติดและยึดทรัพย์  ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันจะเป็นจุดเริ่มต้นในการขจัดปัญหานี้ออกไปจากสังคมไทย  

พร้อมย้ำทุกหน่วยงานต้องร่วมมือบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง  ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่และท้าทายอย่างมาก  หากทำได้สำเร็จจะสามารถลดความเดือดร้อนของประชาชนได้  เช่นเดียวกับการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ ที่มีของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด  ซึ่งหากปล่อยให้หลุดรอดไปได้  จะส่งผลเสียหายกระทบตามมาเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน  จึงขอชื่นชมทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันสกัดจับเครือข่ายครั้งนี้ได้

ด้าน พลตำรวจตรี กฤตธาพล ยี่สาคร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 เปิดเผยถึงการจับกุมในคดีนี้ ว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 พบว่ารถยนต์คันดังกล่าว ขับผ่านพื้นที่ อ.ไชยปราการ, อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ โดยมีรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผอ 4*** เชียงใหม่ ขับขี่ในลักษณะนำหน้ามาโดยตลอด โดยรถยนต์ทั้ง 2 คัน มุ่งหน้าเข้าสู่  อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกทำการตรวจสอบตามเส้นทางที่คาดว่ารถยนต์ทั้ง 2 คันจะขับผ่าน จนกระทั่งเวลา 04.30 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ยค 8*** เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณถนนเลียบลำน้ำปิง ใต้สะพานเฉลิมพระเกียรติ ถนนป่าตัน ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ โดยในกระบะหลังมีลักษณะเป็นโครงเหล็กเสริมและใช้ผ้าใบคลุม ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ได้รับแจ้งว่ามีการลำเลียงยาเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เรียกให้หยุดรถและได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ 

และได้ทำการตรวจสอบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว พบนายณัฐพล สงวนนามสกุล ภูมิลำเนา อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สอบถาม  นายณัฐพลฯ โดย นายณัฐพลฯ ได้ให้การยอมรับว่า ตนได้ลำเลียงยาเสพติดจริง จากนั้นจึงได้ขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมจำนวนประมาณ 5,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณหลัง รถยนต์กระบะ และในเวลาต่อมาไม่นาน ได้พบรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผอ 4*** เชียงใหม่ ขับเข้ามายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นรถนำสำรวจเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติด 

จึงได้เรียกให้หยุดรถ และได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจค้น พบในรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมี นายธนภัทร สงวนนามสกุล ภูมิลำเนา อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับขี่ และนายประสิทธิ์ สงวนนามสกุล ภูมิลำเนา อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ เป็นผู้โดยสารมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นตัว  ผลปรากฏไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด โดยทั้งสองได้ให้การยอมรับสารภาพว่า ทั้งสองเป็นผู้ขับขี่รถยนต์นำทางให้กับนายณัฐพลฯเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยในเส้นทาง จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพงส.สภ.ช้างเผือก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้กำหนด Kick Off การแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล 2 เรื่อง ประกอบด้วย การพิจารณาใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 5 (10) ในการกำหนดพื้นที่พิเศษ และโครงสร้างเฉพาะ เพื่อดำเนินการในพื้นที่ที่มีปัญหาการนำเข้ายาเสพติดรุนแรง ใน 15 อำเภอ ของ 3 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย และนครพนม

โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งคิดเป็น 57 เปอร์เซ็นต์ ของการนำเข้าทั้งหมดในห้วงปี 2565 ที่ผ่านมา  ซึ่งหากเราสามารถสร้างแนวทางสกัดกั้นที่เข้มแข็งตรงจุดเหล่านี้ได้ จะช่วยลดปริมาณยาเสพติดที่นำเข้าสู่ประเทศไทยได้จำนวนมาก  ขณะเดียวกันจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับโครงการ Quick Win ในการนำผู้ป่วยจิตเวชที่ได้รับการสำรวจกว่า 32,000 คน เข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ชุมชน และขอฝากประชาชนทุกคนร่วมกันเป็นหูเป็นตา ดูแลครอบครัว คนใกล้ชิด ชุมชน หากพบเห็นเบาะแสยาเสพติดสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. 1386

'ฮีท' มือเบส X Japan เสียชีวิตแล้ว หลังมะเร็งลุกลามอย่างรวดเร็ว

เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.66) สื่อญี่ปุ่นรายงานข่าวเศร้า เกี่ยวกับวงร็อกระดับตำนาน X Japan ว่า ‘ฮิโรชิ โมริเอะ’ หรือ ‘ฮีท’ มือเบสของวงได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 55 ปี ซึ่งเกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยที่หลายคนไม่ได้ทำใจเอาไว้ก่อนเลย

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน โยชิกิ ลีดเดอร์ของ X Japan ตัดสินใจยกเลิกงานทั้งหมด และเดินทางจากอเมริกากลับบ้านเกิดที่ญี่ปุ่นอย่างฉุกเฉิน หลังทราบข่าวเศร้าว่า ฮีท ได้เสียชีวิตลงแล้ว

ตามข้อมูลของสื่อญี่ปุ่น ฮีท เริ่มรู้สึกไม่สบายตั้งแต่ต้นปี จนตัดสินใจไปพบแพทย์ และตรวจพบว่าเขาป่วยเป็นมะเร็ง จากนั้นมะเร็งก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายเสียชีวิตลงในปลายเดือน ต.ค. ทีผ่านมา

"เขาเสียชีวิต หลังการวินิจฉัยได้เพียงไม่นาน มันกระทันหันจนเขาไม่มีโอกาสที่จะบอกสมาชิกในวงว่าตัวเองเป็นมะเร็งหรือกำลังต่อสู้กับโรคนี้ด้วยซ้ำ" คนสนิทของ ฮีท กล่าว

X Japan ไม่ได้ทำกิจกรรมในฐานะวงมาตั้งแต่ปี 2018 เนื่องจากปัญหาต่างๆ ข่าวบอกว่า ฮีท เป็นสมาชิกเพียงคนเดียว ที่ตั้งความหวัง และรอคอยที่จะให้วงกลับมาร่วมกันมากที่สุด

โดย ฮีท เข้าร่วมวงเอ็กซ์ X Japan ในปี 1992 แทนที่ ไทจิ ซาวาดะ มือเบสคนแรกของวง เขามีผลงานสตูดิโออัลบั้มร่วมกับ X Japan 2 ชุด คืออัลบั้ม Art of Life และ Dahlia

เชียงรายเปิดปฏิบัติการ 'เชียงรายฟ้าใส' เพื่อจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ พร้อมออกตรวจ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามนโยบายของรัฐบาล จับคาราโอเกะค้ากาม พบเด็กอายุ 13 ปี

จังหวัดเชียงรายได้รับเรื่องร้องเรียนจาก องค์กรเอกชนด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ว่าสถานประกอบการร้านลาภ คาราโอเกะ ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย มีพฤติกรรมการกระทำผิดกฎหมายในเรื่องการตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด และยินยอมให้แสวงหาประโยชน์ทางเพศกับพนักงานของตนซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี อันเข้าข่ายเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เวลา 22.30 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จึงได้สั่งการให้นายกองรบ กระทุ่มนัด ป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดเชียงราย ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1  และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1ร่วมกับ นายศัพทนา อินต๊ะ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองเชียงราย รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองเชียงราย ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองเชียงราย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองเชียงรายที่ 3 กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย และ ตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เข้าตรวจสอบ โดยได้มีการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลแล้วน่าเชื่อว่ามีการกระทำความผิดจริง จึงได้ทำการวางแผนและเข้าจับกุมโดยวิธีล่อซื้อบริการทางเพศกับเหยื่อเป้าหมาย 

ต่อมาเวลาประมาณ 22.20 น. สายลับได้ทำการล่อซื้อ จำนวน 2 ราย และพาเหยื่อเป้าหมายมาที่โรงแรมฯ เมื่อรวบรวมหลักฐานจนเชื่อว่าครบองค์ประกอบความผิดแล้ว ทางชุดจับกุมได้เข้าทำการช่วยเหลือเหยื่อที่คาดว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้สำเร็จจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเหยื่อ 1 รายมีอายุเพียง 16 ปี และต่อเนื่องในเวลาเดียวกัน ชุดจับกุมได้เข้าตรวจสอบภายในร้านดังกล่าว พบหญิงให้บริการเพิ่มเติมอีก 5 ราย ดื่มกินกับลูกค้าด้วยความสนุกสนาน และ ได้ขอตรวจสอบ พบหญิงให้บริการอายุต่ำกว่า 18 ปี อีก 2 คน ซึ่งมีอายุ 16 ปี 1 คน และพบเด็กอายุ 13 ปี 1 คน ให้บริการกับแขกภายในร้าน และได้ควบคุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันตั้งร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร

หรือน่าจะทำให้เด็กมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำความผิด, ร่วมกันบังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็ก แสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะ ลามกอนาจาร ไม่ว่าว่าจะเป็นไปเพื่อได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด, ร่วมกันเป็นนายจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18ปี เป็นลูกจ้าง โดยไม่แจ้งการจ้างซึ่งเป็นเด็กนั้นต่อพนักงานตรวจแรงงานใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็กเข้าทำงาน, ร่วมกันเป็นนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในระหว่างเวลา 22.00-06.00 น. โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมเป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งคนใดเพื่อให้บุคคลนั้นทำการค้าประเวณี ทั้งนี้สำหรับข้อหาค้ามนุษย์ อยู่ระหว่างการสอบสวนพนักงานบริการจำนวน 7 คน โดยทีมสหวิชาชีพต่อไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top