Sunday, 22 June 2025
NewsFeed

'ลังกาวี' เงียบสงัด ใกล้ได้ชื่อเรียกว่า 'เมืองผี'   หลังนักท่องเที่ยวเลือกซบไทย-หาดใหญ่

(8 พ.ย. 66) จากเพจ 'World Forum ข่าวสารต่างประเทศ' ได้โพสต์ข้อความถึงภาพการท่องเที่ยวในมาเลเซียที่แลดูเงียบสงัด ไว้ว่า...

มาเลเซีย 🇲🇾 : ลังกาวี เงียบสงัด ใกล้ได้ชื่อเรียกว่า เมืองผี นักท่องเที่ยว เลือกไปเที่ยวหาดใหญ่ ประเทศไทย ร้านอาหาร รถเช่าในลังกาวีกำลังปิดตัว 

#สื่อมาเลเซียตีข่าว 7/11/2023

🧳จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปลังกาวีซึ่งลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาส่งผลให้ร้านอาหารและอุตสาหกรรมรถเช่าของเกาะประสบความสูญเสียปิดตัว เกิดจากพฤติกรรมของประชาชนที่ชื่นชอบหาดใหญ่ในประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในวันหยุด ในความเป็นจริงปัจจัยของราคาอาหารและที่พักที่ถูกกว่าในภาคใต้ของประเทศไทยยังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เลือกสถานที่นั้นเหนือกว่าเกาะลังกาวี หลายคนไม่ไปลังกาวีเพราะขาดเรือเฟอร์รี่ และบางคนก็กลัวโดนกดราคาอาหารแพง 

🧳การจองโรงแรมบนเกาะลังกาวี ในช่วงวันหยุดดีปาวาลีในสัปดาห์หน้ามีเพียงร้อยละ 10 ของโรงแรมระดับ 3 ดาวหรือต่ำกว่า ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในช่วงเดือนตุลาคม ผู้ประกอบการร้านอาหารมากถึง 31 รายจาก 163 รายที่จดทะเบียนกับ LTA ได้เลิกกิจการ  

*ลังกาวีอยู่ระหว่างเรียกร้องให้ภาครัฐ ออกมาตรการส่งเสริม กระตุ้นการท่องเที่ยว 

'พิมพ์ภัทรา' จี้!! ผู้ประกอบการหลัก เร่งผลิต 'โปแตช' ห้ามล่าช้า หากเกษตรกรต้องแบกราคาปุ๋ยแพงนาน สั่งเปลี่ยนเจ้าทันที

'รมว.อุตสาหกรรม' จี้ผู้ประกอบการเร่งผลิต 'โปแตช' วัตถุดิบสำคัญในการผลิตปุ๋ยเข้าสู่ระบบ ย้ำถ้าผลิตไม่ได้ต้องหาผู้ประกอบการรายใหม่เข้าดำเนินการ

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 66 น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โปแตช คือ วัตถุดิบสำคัญในการผลิตปุ๋ย ซึ่งตลาดโลกมีความต้องการสูงมาก และในประเทศไทยก็มีแร่ชนิดนี้มากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากแคนาดา แต่ปัจจุบันมีการขาดแคลนโปแตช ที่เป็นวัตถุดิบต้นทางอย่างกว้างขวาง ทำให้ปุ๋ยที่ไปถึงมือเกษตรกรมีราคาสูงขึ้นอย่างมาก ขณะเดียวกันความต้องการใช้ปุ๋ยในอุตสาหกรรมการเกษตรมีความจำเป็นอย่างมาก 

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวย้ำว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 พ.ย.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้ติดตามสอบถามถึงผู้รับสัมปทานทั้ง 3 ราย ให้เร่งดำเนินการผลิตเพื่อนำวัตถุดิบเข้าระบบ แนวนโยบายและการสั่งการสำคัญขณะนี้คือ หากผู้รับสัมปทานทั้ง 3 รายที่ได้สัมปทานไปยังไม่ดำเนินการหรือดำเนินการไม่ได้ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาผู้ดำเนินการรายใหม่เข้าดำเนินการแทน เพื่อให้มีวัตถุดิบเข้าไปในระบบการผลิตปุ๋ยเพื่ออุตสาหกรรมการเกษตร และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องให้ได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าติดตามแล้ว

"นายกฯ ได้มีการสอบถามการผลิตแร่โปแตชในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดมีผู้ประกอบการเข้ารับสัมปทานจำนวน 3 ราย ในจังหวัดชัยภูมิ, อุดรธานี และนครราชสีมา โดยได้ให้นโยบายว่า จะต้องมีการเร่งรัดให้มีการผลิตแร่เข้าสู่ระบบ แต่จนถึงขณะนี้พบว่า ผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย ยังไม่ได้ดำเนินการทำให้เกิดความล่าช้าในการแก้ไขปัญหา จึงได้มีการสั่งการให้เร่งรัดและหากปัญหาเกิดจากผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินการได้ จะต้องหาผู้ประกอบการรายใหม่" รมว.พิมพ์ภัทรา กล่าว

พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'วิษณุ-อาคม' เป็นกรรมการกฤษฎีกา

เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.66) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งกรรมการกฤษฎีกา โดยมีรายละเอียดว่า

ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งกรรมการกฤษฎีกา จำนวน 136 ราย ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2565 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 6 ก.ย. 2565 นั้น เนื่องจากนายนพนิธิ สุริยะ กรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 14 ถึงแก่อนิจกรรม และนายอุดม รัฐอมฤต กรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 6 ขอลาออกจากตำแหน่ง ประกอบกับตำแหน่งประธานกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 2 ได้ว่างลง

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงได้ดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่สมควรเป็นกรรมการกฤษฎีกาเสนอต่อคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยประธานกรรมการกฤษฎีกาแต่ละคณะ พิจารณาและมีมติเห็นชอบผู้ที่สมควรเป็นกรรมการกฤษฎีกาตามมาตรา 13/1 แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะกรรมการกฤษฎีกา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2551 จำนวน 2 ราย ดังนี้

1.นายวิษณุ เครืองาม
2.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ

โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการกฤษฎีกาซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งต่อไปแล้ว

บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งบุคคลทั้ง 2 ราย ดังกล่าว ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกฤษฎีกา ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.2566

ประกาศ ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

'เพจดัง' รับหลักฐานร้องเรียน อดีต ผอ.โรงเรียนในจันทบุรี พบถูกคนสนิท สส. 'คุกคาม-กลั่นแกล้ง' จนต้องออกจากงาน

(8 พ.ย. 66) เพจเฟซบุ๊ก วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร โพสต์ข้อความว่า

#ทุกคนคะ เมื่อคืนหนูส่งพี่ เค เสื้อแดง ลงพื้นที่นัดพบกับ อดีตผอ.รร. แห่งหนึ่งใน จันทบุรี เพื่อรับหลักฐานร้องเรียน ถูกคนสนิท สส. คุกคามและกลั่นแกล้งจนต้องออกจากงาน

เบื้องต้นรายละเอียดเยอะมากกกกก อาจต้องประสานหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วย ถ้ามีอะไรอัปเดตจะรีบแจ้งค่ะ

'บิ๊กทุนจีน' ทุ่ม!! 10,000 ล้านบาท ลงทุนในพื้นที่ EEC ลุย 'มอเตอร์ไซค์อีวี-แบตเตอรี่-ตู้เปลี่ยนแบตฯ-ลิซซิ่ง'

เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.66) ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี (EEC) พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สกพอ. ได้เข้าร่วมประชุมและหารือกับ บริษัท SMOGO Holding Co.,Ltd. ภายใต้ชื่อ ‘SMOGO’ ผู้ประกอบการธุรกิจผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และอุปกรณ์การผลิตอัจฉริยะในยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า ชั้นนำจากประเทศจีน

นำโดยนายหวัง หย่ง เจีย ประธานกรรมการ (Mr. Huang Yongjie) Chairman of SMOGO และคณะ เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายสำคัญในพื้นที่อีอีซี โดยเฉพาะในกลุ่มคลัสเตอร์ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี)

การผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซค์อีวี ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยม และเป็นที่ต้องการของตลาดยานยนต์เพิ่มขึ้นในทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย สร้างโอกาสให้พื้นที่อีอีซีเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์อีวีในภูมิภาค สอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาล เพื่อให้เกิดการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ โครงการลงทุนนี้เริ่มต้นโดย บริษัท Suzhou Harmontronics Automation Technology Co., Ltd. ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศจีนได้ตัดสินใจร่วมมือกับ บริษัท GI New Energy Co.,Ltd. ขยายการลงทุนมายังประเทศไทย ภายใต้ชื่อ ‘SMOGO’ 

โดยเบื้องต้นจะเลือกฐานการผลิตและลงทุนที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของอีอีซี โดยจะขยายการลงทุนครอบคลุมธุรกิจการผลิตและประกอบ มอเตอร์ไซค์อีวี การผลิตแบตเตอรี่ การผลิตและติดตั้งตู้เปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์อีวี (Swap Battery) และการให้บริการทางการเงิน (Leasing) ควบคู่ไปด้วย

โดยจะเริ่มทำการตลาดในพื้นที่ 3 จังหวัดอีอีซี (ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา) เป็นโครงการนำร่อง (Pilot Project) ในช่วงแรก และจะขยายการจัดจำหน่ายไปยังประเทศอื่นๆ โดยคาดว่าทาง SMOGO จะมีกำลังผลิตมอเตอร์ไซค์อีวี ได้ประมาณ 150,000 คันต่อปี และคาดว่าจะเกิดการลงทุนโครงการ ฯ เกี่ยวเนื่องทั้งหมด ในกรอบวงเงินรวมสูงถึง 10,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี (ช่วงปี 2566 – 2571)

พร้อมกันนี้ ทางอีอีซี และ SMOGO ได้ร่วมกันหารือถึงแนวทางเพื่อสนับสนุนการลงทุน อาทิ ด้านการขอรับสิทธิประโยชน์ในพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ด้านการอำนวยความสะดวกขอรับบริการลงทุน การขอใบอนุมัติ อนุญาตต่างๆ และการประสานความร่วมมือการพัฒนาทักษะบุคลากร

โดยเฉพาะในด้านการฝึกอบรม และการศึกษาถึงนวัตกรรมด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ที่ผู้ประกอบการจากจีนมีความเชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการเตรียมสร้างบุคลากรให้ตรงกับความต้องการต่อยอดการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

'รัสเซีย' ซัด!! 'อิสราเอล' หลุดปากสารภาพครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ถาม!! องค์กรนิวเคลียร์ระหว่างประเทศทั้งหลายมัวทำอะไรอยู่ 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุมีคำถามมากมายผุดขึ้นมา หลังรัฐมนตรีรายหนึ่งของอิสราเอลเสนอทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ฉนวนกาซา ดูเหมือนเป็นการรับสารภาพว่าอิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แล้วองค์กรนิวเคลียร์ระหว่างประเทศทั้งหลายมัวทำอะไรอยู่

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ย.) สั่งพักงาน อามิไช เอลิยาฮู รัฐมนตรีกระทรวงมรดกอิสราเอล ไม่ให้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม หลังแสดงความคิดเห็นผ่านสถานีวิทยุท้องถิ่น แนะนำให้ทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ฉนวนกาซา

เอลิยาฮู ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่น บอกว่าเขาไม่พอใจกับภาพรวมของขอบเขตการแก้แค้นของอิสราเอล และครั้งที่ถูกผู้สัมภาษณ์สอบถามว่าเขาสนับสนุนให้ทิ้งบอมบ์ "ระเบิดปรมาณูบางอย่าง" ใส่ฉนวนกาซา เพื่อเข่นฆ่าทุก ๆ คนหรือไม่ ทาง เอลิยาฮู ตอบว่า "มันเป็นทางเลือกหนึ่ง"

ในเรื่องนี้สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซีย อ้างคำกล่าวของ มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (7 พ.ย.) ระบุว่า "มันก่อคำถามต่าง ๆ มากมาย" พร้อมชี้ว่าประเด็นหลักก็คือ มันดูเหมือนว่าอิสราเอลยอมรับสารภาพว่าพวกเขามีนิวเคลียร์ในครอบครอง

อิสราเอลไม่เคยยอมรับต่อสาธารณะว่าพวกเขามีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ทางสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน คาดการณ์ว่าอิสราเอลมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่ราว 90 หัวรบ

"คำถามหมายเลข 1 สิ่งที่ปรากฏออกมาก็คือ ดูเหมือนเรากำลังได้ยินถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการมีอยู่ของอาวุธนิวเคลียร์" ชาคาโรวา ระบุ "ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศและคณะตรวจสอบนิวเคลียร์นานาชาติอยู่ที่ไหน มัวทำอะไรอยู่?"

ความเห็นของ เอลิยาฮู เรียกเสียงประณามอย่างกว้างขวางทั่วโลกอาหรับ ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่ามันเป็นถ้อยคำโวหารแห่งความเกลียดชัง ซึ่งรังแต่จะโหมกระพือความตึงเครียดเพิ่มเติม ส่วนอิหร่านเรียกร้องให้นานาชาติตอบสนองเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน

"คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและทบวงพลังงานปรมาณูสากล ต้องดำเนินการในทันทีและอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลดอาวุธรัฐบาลที่ป่าเถื่อนและแบ่งแยกเชื้อชาติแห่งนี้ พรุ่งนี้อาจสายเกินไป" ฮอสเซน อามีร์อับดอลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์เมื่อวันจันทร์ (6 พ.ย.)

'พิมพ์ภัทรา' เดินหน้า!! เร่งก่อตั้ง 'กรมอุตสาหกรรมฮาลาล' หลังนายกฯ ไฟเขียว เพื่อยกระดับฮาลาลไทยสู่สากล

(8 พ.ย.66) น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้เชิญตนเข้าร่วมหารือ โดยมีประเด็นข้อหารือสำคัญคือ การเร่งยกระดับอุตสาหกรรม 'ฮาลาล' ที่จะเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้แนวคิดเพื่อความรวดเร็วและเห็นผลการปฏิบัติว่า จะต้องมีหน่วยงานหลักระดับ 'กรม' ซึ่งจะต้องเป็นอีกกรมหนึ่งของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทำงานรองรับอุตสาหกรรมนี้โดยเฉพาะจากความละเอียดอ่อนในแง่มุมต่างๆ และการควบคุมมาตรฐานให้เป็นไปตามหลักการฮาลาลสากล

น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล มองเห็นโอกาสการขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลในระดับโลก เพราะมีผู้บริโภคที่กว้างขวางมากในประเทศกลุ่มมุสลิมหลายภูมิภาคของโลก ทั้งตะวันออกกลาง, แอฟริกา หรือแม้แต่ในภูมิภาคเอเชียเอง

"มีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับความสำคัญของกลุ่มงานอุตสาหกรรมฮาลาลให้เป็นรูปธรรม และมีกระบวนการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีความรับผิดชอบอย่างชัดเจนในรูปของกรม ตามแนวบัญชาการของนายกรัฐมนตรี ขณะนี้มีการสั่งการไปแล้ว และมีการพูดคุยกับทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) ให้เร่งดูขั้นตอนของกฎหมายเพื่อยกระดับหน่วยงานนี้ขึ้นมาให้เป็นหน่วยงานระดับกรมที่สังกัดอยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรม" รมว.อุตสาหกรรมกล่าว

พี่โจ๊ก ควง ผู้ว่าชัชชาติ ตรวจสภาพการจราจรพื้นที่สามเสน นางเลิ้ง ดูสภาพความเป็นจริง และให้กำลังใจตำรวจจราจรในพื้นที่

วันนี้ (วันพุธที่ 8 พ.ย.66) เวลาประมาณ 06.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(มค) รับผิดชอบงานจราจร พร้อมด้วย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกันลงตรวจสภาพการจราจรในพื้นที่เขตสามเสน นางเลิ้ง ของกรุงเทพมหานคร ใน ถ.สามเสน , ถ.ราชดำเนิน , ถ.จรัญสนิทวงศ์ , สะพานพระราม 8 , สะพานกรุงธนบุรี เป็นหลัก ร่วมกับ พล.ต.ท.นิธิธร จิตกานนท์ ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. (อดีต ผบก.จร.) , พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รรท.รอง ผบช.น. ที่รับผิดชอบงานจราจร, พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ รรท.ผบก.จร., พ.ต.อ.จิรกฤต จารุณภัทร์ รอง ผบก.จร., พ.ต.อ.กมล นุ่นหอม รอง ผบก.น.1 , พ.ต.อ.จามร ทองพัน ผกก.กก.1 บก.จร. , พ.ต.อ.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ ผกก.สน.สามเสน และ พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.นางเลิ้ง เพื่อให้เห็นสภาพความเป็นจริง โดยลงพื้นที่หน้าโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ซึ่งเป็นโรงเรียนหลักบนถนนสามเสน ที่มีผู้ปกครองเดินทางมาส่งบุตรหลานเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลต่อสภาพการจราจรบนถนนสามเสน ต่อเนื่องแยกซังฮี้ ที่ข้ามมาจากฝั่งธนบุรีได้ แต่ก็พบว่าทาง สน.สามเสน ได้ร่วมกับสำนักงานเขตดุสิต และ สมาคมผู้ปกครองของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ช่วยกันอำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลบุตรหลานและประชาชนบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดีเยี่ยม ไม่มีปัญหารถสะสมบริเวณหน้าโรงเรียนแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้ไปตรวจสภาพการจราจรบริเวณสะพานกรุงธนบุรี , แยกบางพลัด , ถ.จรัญสนิทวงศ์ , ถ.ราชดำเนิน และ แยก จปร. ตรวจเยี่ยมให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ มอบกาแฟกระป๋อง ไว้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ รอง ผบ.ตร.(มค) เปิดเผยว่า ท่าน ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้รับผิดชอบดูงานจราจรภาพรวมทั้งประเทศ ก่อนหน้านี้ก็ได้รับรายงานถึงปัญหาการจราจรต่าง ๆ มาแล้ว วันนี้จึงตัดสินใจลงมาให้เห็นด้วยสายตาตัวเอง และต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน พ่อแม่ ครู ผู้ปกครอง ผู้อำนวยการโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันปัญหาการจราจรเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของประเทศ ที่ตำรวจต้องร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยกันแก้ไขปัญหา จะทำเพียงหน่วยงานเดียวไม่ได้ โดยคิกออฟด้วยการสั่งให้สำรวจสภาพปัญหาทางกายภาพ ปัญหาภูมิประเทศ ที่ส่งผลต่อการจราจร ทำให้การจราจรติดขัด ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น พื้นผิวการจราจรที่ขรุขระ เป็นหลุม เป็นบ่อ แล้วประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ ร่วมกันช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ เอง จะลงมาช่วยเสริมเติมเต็มในการช่วยประสานงานกับหน่วยงานข้างเคียง โดยเฉพาะในส่วนของ กทม. ซึ่งได้หารือร่วมกับ นายชัชชาติฯ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจร และการลดอุบัติเหตุ

ส่วนในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย มีกฎหมายใหม่ออกมาหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.เปรียบเทียบปรับเป็นพินัย ที่ออกมาเพื่อให้สอดคล้องและคุ้มครองสิทธิของพี่น้องประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งเมื่อวันที่ 3 พ.ย.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ก็จะไปเข้าพบปรึกษาหารือกับ ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรโณ ประธานกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัย ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้แนวทางในการปฏิบัติงานและจะมีการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทั่วประเทศ ในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ลูกน้องมีความเข้าใจ มีความมั่นใจ เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันว่าการบังคับใช้กฎหมายจะบังคับใช้อย่างไร การบังคับใช้กฎหมายเราต้องทำเพื่อการจัดการจราจร จัดระเบียบสังคม ต้องไม่ทำเพื่อหวังเงินค่าปรับหรือเงินรางวัล และการตั้งด่านจราจรก็ทำเพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน โดยมุ้งเน้นเป้าหมายที่การลดอุบัติเหตุ และให้การกระทำความผิดลดลงและหมดไป ทั้งนี้เรายังต้องตั้งด่านตามปกติ แต่ต้องไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ที่ด่านจราจร เพราะด่านคือตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่น เห็นด่านต้องวิ่งเข้าด่าน เพราะเขามั่นใจในความปลอดภัย

ในเรื่องสถิติการเกิดอุบัติเหตุจราจรต่าง ๆ ต้องลดลง และต้องลดลงอย่างมีนัยนะสำคัญ ไม่ใช่ลดลงด้วยการทำตัวเลข ต้องเอาเรื่องจริงมาพูดคุยกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ก็จะมาช่วยเสริมเติมเต็ม ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่ก็ช่วยกันทำงานดีอยู่แล้ว และในวันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยท่าน ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ก็ได้เตรียมการ เตรียมแผนในเทศกาลลอยกระทง เทศกาลปีใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว จุดประสงค์เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย มีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจ และกลับมาทำงานด้วยความปลอดภัย สิ่งสำคัญคือการสร้างองค์ความรู้ด้านกฎหมาย สร้างวินัยจราจร สิ่งใดที่เป็นควิกวินที่ต้องรีบทำ ต้องเร่งดำเนินการ เช่น การรณรงค์ให้สวมหมวกกันน็อค การรณรงค์เมาไม่ขับ เรื่องฟุตบาท ทางเท้าต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นการสนองตอบต่อนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชน ประชาชนมีความเชื่อมั่น

สุดท้ายในการตรวจเยี่ยม การลงพื้นที่ ดูการปฏิบัติหน้าที่ของเพื่อนข้าราชการตำรวจ ก็จะได้นำความห่วงใยจากท่าน ผบ.ตร. ลงไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ สร้างขวัญและกำลังใจ ช่วยเสริม เติมเต็มเป็นสำคัญ ต่อไป 

‘ไนกี้’ ยื่นฟ้อง 2 คู่แข่ง ‘นิวบาลานซ์-สเก็ตเชอร์ส’ เหตุละเมิดสิทธิบัตรผลิตรองเท้าแบบ Flyknit

เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.66) สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ไนกี้ (Nike) บริษัทสินค้าเสื้อผ้าและรองเท้ากีฬาชื่อดังยื่นฟ้องสองแบรนด์รองเท้าดัง นิวบาลานซ์ (New Balance) และ สเก็ตเชอร์ส (Skechers) โดยกล่าวหาว่า นิวบาลานซ์ และสเก็ตเชอร์ ละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีการผลิตรองเท้าของตน ในส่วนการผลิตส่วนบน (upper) ของรองเท้าสนีกเกอร์ 

การฟ้องร้องนี้ของไนกี้ระบุว่า รองเท้านิวบาลานซ์และรองเท้าสเก็ตเชอร์สหลายรุ่นได้ใช้เทคโนโลยี ‘ฟลายนิต’ (Flyknit) ของไนกี้ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรสำหรับการผลิตทั้งรองเท้าวิ่ง รองเท้าฟุตบอล และรองเท้าบาสเก็ตบอล

กรณีการฟ้องร้องนิวบาลานซ์ ไนกี้ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐแมสซาชูเซตส์โดยกล่าวหาว่า รองเท้าจาก เฟรช โฟม (Fresh Foam), ฟูเอลเซล (FuelCell) และไลน์การผลิตอื่น ๆ ของนิวบาลานซ์ละเมิดสิทธิ์ในสิทธิบัตรของไนกี้

ส่วนกรณีสเก็ตเชอร์ส ไนกี้ได้ฟ้องร้องต่อศาลในลอสแอนเจลิสโดยกล่าวหาว่ารองเท้าสเก็ตเชอร์ส รุ่น อัลตรา เฟล็กซ์ (Ultra Flex) และ ไกลด์ สเต็ป (Glide Step) ละเมิดสิทธิบัตรของตน

ไนกี้ได้ร้องขอให้ศาลเรียกค่าเสียหายโดยไม่ระบุจำนวนเงิน และขอให้ศาลออกคำสั่งห้ามนิวบาลานซ์และสเก็ตเชอร์สละเมิดสิทธิบัตรอย่างถาวร

ฝั่งนิวบาลานซ์กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เคารพในสิทธิ์แห่งทรัพย์สินทางปัญญาของคู่แข่งอย่างเต็มที่ แต่ไนกี้ไม่ได้เป็นเจ้าของสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการออกแบบและผลิตรองเท้าโดยวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมที่ใช้ในอุตสาหกรรมนี้มานานหลายทศวรรษ”

ส่วน ไนกี้และสเก็ตเชอร์สยังไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นของรอยเตอร์ที่สอบถามไปในวันที่ 6 พฤศจิกายน

ก่อนหน้านี้ ไนกี้ได้ฟ้องร้องอาดิดาส (Adidas) พูม่า (Puma) และลูลูเลมอน (Lululemon) ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีในตระกูลฟลายนิตเช่นกัน ซึ่งกรณีอาดิดาสและพูม่าได้ยุติคดีความแล้ว ส่วนคดีของลูลูเลมอนยังคงดำเนินอยู่ตามขั้นตอนของกฎหมาย 

ทั้งนี้ สำหรับเทคโนโลยีฟลายนิต ซึ่งไนกี้เรียกว่า ‘Nike Flyknit’ มีคำอธิบายในเว็บไซต์ของไนกี้ ประเทศไทยว่า Nike Flyknit คือ วัสดุที่ประกอบด้วยเกลียวเส้นด้ายที่แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบาที่ทอออกมาเป็นส่วนบนแบบชิ้นเดียว ซึ่งช่วยให้เท้าของนักกีฬากระชับเข้ากับพื้นรองเท้า 

“รูปแบบการถักที่ต่างกันของแต่ละประเภทนั้นนำมาใช้ร่วมกันในส่วนบน Flyknit ชิ้นเดียว บริเวณหนึ่งจะมีการถักทอที่แน่นกว่าเพื่อให้มีการรองรับเท้ามากขึ้น ในส่วนอื่น ๆ ก็จะดีไซน์ให้ยืดหยุ่นมากขึ้นหรือระบายอากาศได้ดีขึ้น โดยอาศัยข้อมูลจากการศึกษาเท้ามากกว่า 40 ปีจาก Nike เป็นตัวระบุว่าควรจัดวางแต่ละรูปแบบไว้ตำแหน่งใด” 

ไนกี้บอกอีกว่า ได้แรงบันดาลใจในการพัฒนาเทคโนโลยี Nike Flyknit จากความคิดเห็นของบรรดานักวิ่ง โดยออกแบบผ้ามาเป็นพิเศษให้พอดีราวกับถุงเท้า พร้อมการรองรับและความทนทานสำหรับการเล่นกีฬา

‘นักเขียนซีไรต์’ ปลอบใจ!! ‘ลิเกคณะก้าวไกล’ “จะทำดี ทำชั่ว กองเชียร์ยังอุ่นหนาฝาคั่งอย่างเดิม”

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 66 นายวิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ ‘รักฝังใจ!!’ พร้อมระบุว่า…

“พระเอกป้อไปป้อมาหน้าเวที​ เรียกเสียงกรี๊ด​ แต่ข้างหลังเวทีล่อกันเละ​ หลายเรื่องพันกันอีรุงตุงนัง​

พระเอกที่เคยจ้อได้ทุกเรื่องจนลิ่วล้อปลื้มว่​า​ “เก่งกว่านายกฯ ทุกคนที่เคยมีมา!!” แต่เรื่องล่อกันเละในคณะลิเกกลับเงียบ!!

พูดแก้ต่างให้คณะก็โดนฝ่ายตรงข้ามโห่​ พูดหล่อๆ ยึดหลักการก็เจ็บทั้งคณะ!! อาจโดนคนในคณะปาหัวเอาได้​ เงียบอย่างหล่อๆ นั้นดีแล้ว

หลายคนพูดกันว่าการล่อกันเละครั้งนี้ ทำให้คณะลิเกตกต่ำ​ จะส่งผลถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า​ จะไม่ส้มทั้งแผ่นดิน!!

แต่ผมขอให้กำลังใจและความหวังว่า​ ถึงช่วงรณรงค์เลือกตั้งก็จะมีคนเลือกอีก​ คนส่วนมากไม่ได้เลือกนักการเมืองเพื่อทำงานแก่ประเทศชาติ​ แต่เลือกเหมือนเลือกดารากับเลือกเพราะ ‘เงิน’​ ซึ่งก็เป็นเหยื่อล่อทั้งคู่

ตัวอย่างมีให้เห็นมาทุกการเลือกตั้ง​ ก็ ‘พรรคเพื่อไทย’ ไง​ เพราะฉะนั้น อย่าไปสนใจว่า “ถ้าเลือกตั้งครั้งนี้ได้นักการเมืองไม่ดี​ เลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนก็จะไม่เลือกเอง”... ประชาชนรู้ดี​ รู้ทันนักการเมือง​ และตาสว่างแล้ว​นั้น ไม่จริง

‘ลิเกคณะก้าวไกล’ สบายใจได้​ จะทำดี ทำชั่ว ก็ทำไปเถอะ​ กองเชียร์ยังอุ่นหนาฝาคั่งอย่างเดิม​ พร่องบ้างก็นิดหน่อย​ ไม่นานก็กลับมา​ ก็รักมันฝังใจเสียแล้ว ที่ออกมาส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ คือ ฝ่ายตรงข้ามทั้งนั้น!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top