Tuesday, 1 July 2025
NewsFeed

‘ในหลวง – พระราชินี’ เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ทรงรับทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

เมื่อเวลา 17.35 น. วันที่ 19 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์นายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และองค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พร้อมฉลองพระองค์ครุย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระวิริยะเพื่อประโยชน์สุขของราษฎรมาโดยตลอด ตั้งแต่เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการแพทย์และการสาธารณสุข อันเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ พระวิสัยทัศน์ที่ทรงตั้งมั่นที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสริมสร้างและสนับสนุนความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องของระบบการแพทย์และการสาธารณสุขไทย

และทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์และองค์ประธานหน่วยงานและมูลนิธิต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของไทยให้สำเร็จตามพระราชปณิธาน ทั้งยังพระราชทานพระบรมราโชบาย และพระราชทานพระราชทรัพย์ในการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนในทุกมิติ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙  ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก (Pandemic) ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนไทยในทุกระดับ

จากพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุขอันมีคุณประโยชน์ต่อประเทศอย่างอเนกอนันต์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น  สภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงมีมติขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ต่อมาเวลา 17.46 น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคล นายสรจักร เกษมสุวรรณ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งทอและการออกแบบแฟชั่น แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
     
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระปรีชาสามารถที่เป็นเลิศและทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นที่ประจักษ์ชัดโดยทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยทรงตั้งมั่นในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างมั่นคง ยั่งยืน และบริบูรณ์ในทุกด้าน เพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์  ทรงมีพระปรีชาญาณยิ่งในศาสตร์ด้านวิศวกรรมศาสตร์ และด้านการเกษตรผ่านโครงการตามพระราชดำริต่างๆ  อีกทั้งในช่วงที่ประเทศต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวพระราชดำริในการพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางวิศวกรรมเวชศาสตร์

รวมถึงพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ แก่บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลทั่วประเทศ  เพื่อใช้ตรวจหาและรักษาพยาบาล ผู้ติดเชื้อ รวมทั้งเพื่อป้องกันบุคลากรทางการแพทย์จากโรคโควิด ๑๙ นอกจากนี้  ทรงสนพระราชหฤทัยและมุ่งมั่นศึกษาศาสตร์ด้านการควบคุมยานยนต์ การควบคุมการบินและอากาศยาน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของวิศวกรรมเครื่องกล โดยทรงเข้ารับการศึกษาหลักสูตรการฝึกบินอากาศยานประเภทต่าง ๆ ทั้งทางทหารและการพาณิชย์จนทรงเชี่ยวชาญเป็นที่ประจักษ์  และทรงนำความรู้และประสบการณ์ทางด้านการบินมาก่อให้เกิดประโยชน์แก่กองทัพอากาศ  และประเทศชาติ โดยทรงปฏิบัติหน้าที่นักบิน ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ

  ด้วยพระราชกรณียกิจนานัปการอันเปี่ยมล้นด้วยพระปรีชาญาณยังประโยชน์อย่างหาที่สุดมิได้แก่ปวงพสกนิกรชาวไทย และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จึงมีมติขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

‘โรม’ รำลึกเหตุการณ์นองเลือด 'พ.ค.35/53' ย้ำเตือน!! อย่าเอา 3 ป.อยู่ในอำนาจต่อ

โฆษกก้าวไกล ร่วมรำลึกถึง 2 เหตุการณ์นองเลือดเดือนพฤษภา ปี 35 และ 53 ย้ำเตือน เคารพเจตนารมณ์คนเดือนพฤษภา ต้องไม่เอาทั้ง 3 ป. และพวกมาปกครองประเทศอีก เพราะล้วนแต่เป็นผู้มีส่วนร่วมก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดในสังคมประชาธิปไตย

เนื่องในวันครบรอบ 12 ปี การล้อมปราบประชาชนในวันที่ 19 พ.ค.53 รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผนึกกำลังขีดเส้นใต้ความล้มเหลว ขีดเส้นตายรัฐบาล ท่ามกลางสถานการณ์ที่นายกรัฐมนตรีอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงจุดตกต่ำขนาดที่คนในพรรครัฐบาลเองยังไม่อยากจะร่วมหัวจมท้ายด้วย ในขณะเดียวกันปรากฏกระแสข่าวของความพยายามที่จะผลักดันคนอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นมาแทนที่

ในวันนั้น ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะตัวแทนของพรรค ได้กล่าวไว้ในตอนหนึ่งว่า...

"เมื่อถึงเดือนพฤษภาคม เราย่อมรำลึกถึงเหตุการณ์ทางการเมืองอย่างน้อย 2 เหตุการณ์ คือพฤษภา 35 และพฤษภา 53 

"พฤษภา 35 พี่น้องประชาชนจำนวนมากเสียเลือดเนื้อชีวิตเพื่อยืนยันในหลักการว่า ‘นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง ต่อต้านนายกฯ คนนอก’ พฤษภา 53 พี่น้องประชาชนจำนวนมากเสียเลือดเสียเนื้อเพื่อยืนยัน ‘ขับไล่รัฐบาลที่มาจากค่ายทหาร’ ดังนั้น ไม่เป็นการเหมาะสมอย่างยิ่งที่เราจะเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่หลังเดือนสิงหาคมชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ"

'ผู้เชี่ยวชาญ' ชี้!! ฝีดาษลิงระบาดในยุโรป ความเสี่ยงระบาดต่ำ ไม่แพร่เหมือนโควิด

ยุโรปพบผู้ติดเชื้อหรือสงสัยว่า ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง หรือ ไข้ทรพิษลิง (Monkeypox) เพิ่มอีก 3 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส, อิตาลี และสวีเดน รวมเป็น 6 ประเทศ เพิ่มจากเดิม คือ สหราชอาณาจักร, สเปน และโปรตุเกส โดยทั้ง 3 ประเทศแรกนี้ยืนยันชัดว่าพบผู้ติดเชื้อแล้ว 

ด้านสหราชอาณาจักร ประเทศแรกที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ยืนยันยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกเป็น 9 คน จากเดิม 6 คน ส่วนโปรตุเกสสถานการณ์หนักที่สุด พบทั้งผู้ติดเชื้อและสงสัยว่าติดเชื้อมากที่สุด โดยยืนยันผู้ติดเชื้อแล้ว 14 คน และพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีก 20 คน 

ขณะที่ สหรัฐฯ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว 1 คนในรัฐแมสซาชูเส็ตส์ เพิ่งเดินทางกลับจากแคนาดา และล่าสุดพบเคสต้องสงสัย 1 คนในนครนิวยอร์ก ส่วนในแคนาดาพบผู้สงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง 13 คน แต่ยังไม่ยืนยัน

ประเทศยุโรปที่พบผู้ติดเชื้อหรือสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง ได้เริ่มสอบสวนหาที่มาที่ไปของโรคนี้แล้ว รวมถึงสหรัฐฯ และแคนาดาก็เริ่มสอบสวนด้วยเช่นกัน

‘ปศุสัตว์’ ยัน!! ไร้ไข่ปลอมระบาดในไทย ชี้!! คลิปแชร์ว่อน ของเก่าตั้งแต่ปี 63

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า หลังมีกระแสการแชร์ข่าวไข่ไก่ปลอมทางสื่อออนไลน์ ขอย้ำว่าเป็นคลิปเก่าตั้งแต่ปี 2563 ที่มีการวนนำกลับมาแชร์ในโลกโซเชียลหลายครั้งแล้ว ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้มีการลงพื้นที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงข้อมูลทุกครั้ง โดยขอย้ำผู้บริโภคอย่าตื่นตระหนก ไม่แชร์ต่อและตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัด ขอรับรองว่าประเทศไทยไม่มีไข่ไก่ปลอมอย่างแน่นอน ประเทศไทยสามารถผลิตไข่ไก่ได้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ ไม่จำเป็นต้องทำไข่ปลอมซึ่งต้นทุนผลิตแพงกว่าไข่จริง

“กรมปศุสัตว์รับรองไม่มีไข่ปลอมในประเทศไทยแน่นอน เนื่องจากการผลิตไข่ปลอมต้นทุนการผลิตแพงกว่าไข่จริง ไข่ไก่ในประเทศไทยมีราคาที่เหมาะสมตามกลไกตลาดอยู่แล้ว อีกทั้งประเทศไทยยังสามารถผลิตไข่ไก่ได้ในปริมาณมากเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ ไม่มีความจำเป็นต้องผลิตไข่ปลอมขึ้นมาหลอกขายแต่อย่างใด”

“เฉลิมชัย” ไฟเขียวแผนพัฒนาประมงแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืนฉบับแรกของประเทศ

“อลงกรณ์” เดินหน้า 8 โครงการเชิงรุกทันที พร้อมมอบกรมประมงร่วมมือทุกภาคีเครือข่ายจัดฟอรั่มเสนอประเด็นแม่น้ำโขงต่อที่ประชุมประมงเอเปค 2022 ตีเส้นห้ามการเมืองเรื่องมหาอำนาจเกี่ยวข้อง

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อภาคการเกษตรจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของแม่น้ำโขงเปิดเผยวันนี้ (20 พ.ค.) ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 2/ 2565 เป็นการประชุมแบบ Hybrid ณ ห้องประชุม 134 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านการประชุมออนไลน์ zoom cloud meeting พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิ 

โดยมี นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมงทำหน้าที่เลขานุการการประชุมว่า คณะกรรมการฯ ได้เสนอแผนพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2566 - 2570 และได้รับความเห็นชอบจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมแล้วให้ดำเนินการตามแผนเป็นฉบับแรกของประเทศเพื่อป้องกันและรองรับปัญหาการเปลี่ยนแปลงระนิเวศที่เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรและประชาชนริมแม่น้ำโขง 

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้อนุมัติให้กรมประมงเดินหน้าขับเคลื่อน 8 โครงการ ดังนี้ 
1.) โครงการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงเพื่อสร้างรายได้ 
2.) โครงการส่งเสริมอาชีพประมง กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเกษตรกร 
3.) โครงการธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม 
4.) โครงการปล่อยปลาเอิน (ปลายี่สกไทย) คืนสู่แม่น้ำโขง 
5.) โครงการ “ประมงอาสาพาปลากลับบ้าน ในพื้นที่ลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ” ด้วยชุดอุปกรณ์เพาะฟักแบบเคลื่อนที่ (Mobile hatchery) 
6.) กิจกรรมการติดตามผลจับสัตว์น้ำในแม่น้ำโขงและการศึกษาความชุกชุมและความหลากหลายสัตว์น้ำในแม่น้ำโขง ประเทศไทย (FADM) 
7.) กิจกรรมบริหารจัดการทรัพยากรประมงเชิงระบบนิเวศ (EAFM) ชุมชนประมงแม่น้ำโขง
8.) โครงการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพระบบนิเวศแหล่งปลาหน้าวัดบริเวณแม่น้ำโขง 

'อ.กิตติธัช' ชี้!! "ไม่เลือกเราเขามาแน่" วาทกรรมหลงยุค ที่ใช้ไม่ได้แล้ว

ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า...

บริบททางการเมืองวันนี้กับปี 2556 มันคนละบริบทเลย วันนั้นคนกรุงเทพฯ ยังมีความไม่ชอบใจเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย 

ทั้งจากกรณีเสื้อแดงเผาเมือง สงครามกลางเมือง กองกำลังติดอาวุธ ประกอบกับน้ำท่วมใหญ่ จำนำข้าว ฯ

หลายคนจำยอมเลือก สุขุมพันธุ์ แม้จะไม่ชอบพวกนักการเมืองสไตล์ ปชป. แต่ก็ไม่มีตัวเลือก เพราะไม่อยากเลือกฝั่งแดง

ศบค. ไฟเขียว!! เปิดผับ-บาร์-คาราโอเกะ เคาะพื้นที่สีเขียว-สีฟ้า ดีเดย์ 1 มิ.ย.นี้

ศบค.ยกเลิกกักตัวผู้เสี่ยงสูง เปลี่ยนมาสังเกตอาการแทน พร้อมไฟเขียวเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด พื้นที่สีเขียว-สีฟ้า ลงอ่างต้องสวมหน้ากาก เห็นชอบคนไทยเข้าประเทศไม่ต้องลงไทยแลนด์พาส เริ่ม 1 มิ.ย. ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 เดือน จนกว่าจะเป็นโรคประจำถิ่น 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,463 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 6,439 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 6,429 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 10 ราย มาจากเรือนจำ 23 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 7,091 ราย อยู่ระหว่างรักษา 58,910 ราย อาการหนัก 1,037 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 510 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 41 ราย เป็นชาย 23 ราย หญิง 18 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 36 ราย มีโรคเรื้อรัง 4 ราย ไม่มีโรคเรื้อรัง 1 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,401,378 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,312,790 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 29,678 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 525,864,514 ราย เสียชีวิตสะสม 6,297,053 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทิศทางการติดเชื้อ ป่วยหนัก และเสียชีวิตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ถือว่าการเข้าสู่การประกาศโรคประจำถิ่นในระยะที่สามเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่การประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นยังคงวันที่ 1 ก.ค.ไว้ก่อน เพราะต้องรอดูมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ทั้งการเปิดสถานบันเทิง และการเปิดภาคเรียนที่เป็นตัวแปรว่าเป็นอย่างไร

โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบปรับมาตรการการกักตัวในส่วนของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จากเดิมให้กักตัว 5 วัน และสังเกตอาการอีก 5 วัน เปลี่ยนเป็นไม่ต้องกักตัว แต่ให้สังเกตอาการเป็นเวลา 10 วัน และให้ตรวจเอทีเคเมื่อมีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ ขณะเดียวกัน ยังเห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ จากเดิมมีพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 65 จังหวัด ปรับลดลงเหลือ 46 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 14 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยนาท ตราด นครพนม น่าน บุรีรัมย์ พิจิตร อ่างทอง มหาสารคาม ยโสธร ลำปาง สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อุดรธานี และอำนาจเจริญ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) จาก 12 จังหวัด เป็น 17 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ กทม. กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ นครราชสีมา นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง สงขลา

‘ดร.สมเกียรติ’ เผยผลไม้ส่งออกไทยสดใส เชื่อ!! อนาคตขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งโลกแทนชิลี

ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถานการณ์ส่งออกผลไม้ไทย ผ่านตัวเลขส่งออกของทุเรียนไว้ว่า... 

ไทยส่งออกทุเรียนไปตลาดจีนปี 2560 มูลค่า 7,300 ล้านบาท 

ปีนี้เป้าหมายส่งออกมูลค่าเกินแสนล้าน

คำถามขยายตัว ปีละกี่ %?

ยังมีคนจีนที่ยังไม่ได้กินทุเรียนอีกเยอะมาก

ไทยจะเป็นประเทศผู้ส่งออกผลไม้รายใหญ่ อันดับหนึ่งของโลกแทนชิลี

เมืองไทยมีความมหัศจรรย์เสมอมา 

ต่อไปชาวโลกจะคิดถึงไทยในฐานะเมืองแห่งผลไม้ของโลก เมืองอันดับหนึ่ง

นอกจากเรื่องส่งออกผลไม้แล้ว ผู้หญิงไทยสวยกว่าผู้หญิงทั้งละตินอเมริกาด้วย


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=5316453168410653&id=100001380665898 

ซอยชื่อแปลกหู ที่ตั้งสถานทูตออสเตรเลีย กับเบื้องหลังที่ทำให้ ‘ในหลวง’ ทรงแย้มพระสรวล

‘นายอัลลัน แมคคินนอน’ ท่านทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยสุดปลื้ม ‘ในหลวง’ พระราชทานชื่อซอยที่ตั้งสถานทูตฯ ‘อรุณมักกินนอน’ ตามที่สื่อไทยชอบสะกด

เรื่องราวน่ารักที่ทำเอาหลายคนยิ้มตาม เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา โซเชียลมีเดียทางการของ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย โพสต์คลิปวิดีโอ นายอัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย กับป้ายชื่อซอยที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า ‘ซอยอรุณมักกินนอน’ ซึ่งเป็นซอยที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย

ในโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า “เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายอัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลลาในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ ในการนี้ท่านทูตได้ถวายรายงานถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับออสเตรเลีย และนำนามสกุลของท่านที่ถูกเขียนเป็นภาษาไทยโดยสำนักข่าวต่าง ๆ ว่า “มักกินนอน” รวมถึงชื่อเล่นที่ท่านตั้งเองว่า “อรุณ” ขึ้นกราบบังคมทูล หวังเพียงทั้งสองพระองค์ทรงแย้มพระสรวล พร้อมทั้งขอพระราชทานชื่อซอยอันเป็นที่ตั้งของสถานทูตฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อซอยว่า “ซอยอรุณมักกินนอน” ขอพระองค์ทรงพระเจริญ”

‘สุรนันทน์’ กร้าว!! ปท.ต้องการชุดความคิดใหม่ ๆ ยก ‘สมคิด’ นั่งนายกฯ เหมาะสมสุดในตอนนี้

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ กรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า... 

เมื่อวานผมเกือบลาออกจากพรรคสร้างอนาคตไทย 

เรื่องที่ทำให้ผมต้องคิดตัดสินใจเช่นนั้น เป็นผลพวงจากการประชุมคณะกรรมการบริหารที่มีการถกเถียงในจุดยืนเกี่ยวกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 

ผมให้ความเห็นว่า หากพรรคได้รับคะแนนเสียงเพียงพอ ได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 25 ที่นั่งตามกำหนดที่สามารถเสนอชื่อ ผู้ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เสนอชื่อ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ตามที่พรรคเสนอต่อประชาชนในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ใช่พรรคขนาดใหญ่ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และขอคำยืนยันว่าจะไม่ยกมือให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าในกรณีใด

มีการเสนอความเห็นพอสมควร แต่มีกรรมการท่านหนึ่ง ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม บอกข้อเสนอของผมเป็น “ปาหี่” ซึ่งผมรับไม่ได้ สำหรับถ้าอะไรจะเป็นปาหี่ ก็คือการหักหลังประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อให้ ดร.สมคิด เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นอย่างน้อยในรอบแรกของการซาวเสียงในสภาฯ พรรคควรแสดงจุดยืนที่มุ่งมั่นตามที่ประชาชนที่เลือกพรรคต้องการ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top