Saturday, 15 February 2025
News

‘ซับเวย์’ แจงร้านมีปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพ ‘ไม่ใช่แฟรนไชส์’ ชี้!! ร้านลิขสิทธิ์ของจริงมีแค่ 51 สาขา แต่ร้านละเมิดทะลุหลักร้อย

(4 พ.ย.67) ร้านซับเวย์ประกาศ ถ้าลูกค้าจะอุดหนุนร้านซับเวย์ของแท้ให้สังเกตหน้าร้านมีเลขที่ร้านและเครื่องหมายสัญลักษณ์ Authorized Franchise หลังลูกค้าเจอเรื่องคุณภาพอาหาร วัตถุดิบขาด กระดาษห่อไม่มีพิมพ์ลาย ขนมปังไม่ใช่ของร้าน ซึ่งเป็นร้านที่ยกเลิกสิทธิ์แฟรนไชส์ไปกว่า 3 เดือนแล้ว ด้านลูกค้าถามใช่หน้าที่หรือ ควรเป็นหน้าที่ของบริษัทแม่ต้องปิดร้านเหล่านี้

จากกรณีที่ผู้ใช้งาน X (ทวิตเตอร์) ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การกินแซนด์วิชและสลัดบาร์จากร้านแฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Subway (ซับเวย์) ที่คุณภาพไม่เหมือนเดิม โดยพบว่า แซนด์วิชไม่ได้มาตรฐาน ,วัตถุดิบขาด ,กระดาษไม่มีลายซับเวย์ ,สีของบรรจุภัณฑ์เลอะติดขนมปัง ,คุณภาพอาหารด้อยลงอย่างมาก 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Subway Thailand ของร้านซับเวย์ (Subway) ร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ประเภทแซนด์วิชและสลัด โพสต์ข้อความระบุว่า "เนื่องจากตอนนี้เราได้รับข้อร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหาร วัตถุดิบขาด กระดาษห่อไม่มีพิมพ์ลาย Subway กระดาษห่อลาย Subway สีเลอะติดอาหาร ขนมปังไม่ใช่ของ Subway และอื่นๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าลูกค้าไปใช้บริการจากร้านซับเวย์ที่ถูกยกเลิกสิทธิแฟรนไชส์ไปตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. 2567 ไปแล้ว

ดังนั้น หากลูกค้าประสงค์ที่จะสั่งหรือซื้อซับเวย์ สามารถสังเกตหน้าร้านจะต้องมีเลขที่ร้านและเครื่องหมายสัญลักษณ์ Authorized Franchise จะเป็นแฟรนไชส์ที่ได้รับสิทธิโดยถูกต้องพร้อมบริการตามปกติ มีอาหาร และวัตถุดิบครบทุกเมนู รวมทั้งอะโวคาโด มะกอก และอื่นๆ ถูกต้องตามมาตรฐานของซับเวย์ พร้อมกันนี้ บริษัทได้แนบรายชื่อสาขาที่เป็นร้านแฟรนไชส์ที่ได้รับสิทธิโดยถูกต้อง และร้านที่ถูกยกเลิกสิทธิแฟรนไชส์มาพร้อมกันนี้"

สำหรับร้านซับเวย์ที่ได้รับสิทธิโดยถูกต้อง ประกอบด้วย 1. พัทยากลาง (ใกล้หาด) 2. สนามบินภูเก็ต - ห้องรับรองผู้โดยสารระหว่างประเทศ 3. สุขุมวิท 23 4. เอาต์เลตมอลล์ พัทยา 5. สยาม พารากอน 6. สนามบินภูเก็ต - ห้องรับรองผู้โดยสารภายในประเทศ (1) 7. สนามบินภูเก็ต - ห้องรับรองผู้โดยสารภายในประเทศ (2) 8. สนามบินดอนเมือง ระหว่างประเทศ 9. ฟอร์จูนทาวน์ 10. บางจากสุขุมวิท 62 11. โรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา 12. เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต 13. โรงพยาบาลเวชธานี 14. อมาติโอ ชิล ปาร์ค 15. ปั๊ม ปตท. เดอะ ดีล แจ้งวัฒนะ 16. หาดจอมเทียน 17. โรงพยาบาล เมคปาร์ค

18. มอเตอร์เวย์ (ขาเข้า) 19. สนามบินดอนเมือง อาคารเทอร์มินัล 2 ชั้น 1 20. เอ็มควอเทียร์ 21. สนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารภายในประเทศ 22. ฮาบิโตะ 23. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3 แอร์ไซด์ 24. สนามบินเชียงใหม่-ชาร์เตอร์ 25. สนามบินภูเก็ต-บริเวณเช็กอิน 26. มอเตอร์เวย์ (ขาออก) 27. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 28. ไมค์ ช้อปปิ้งมอลล์ 29. ชาลีเพลส (ซอยบัวขาว) 30. คาลเท็กซ์ บางใหญ่ 31. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารขาเข้า 32. สนามบินสุวรรณภูมิ ภายในประเทศ 33. อาคารซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ 34. ตลาดรวมทรัพย์ 35. เทอร์มินอล 21 (อโศก) 36. ไทม์สแควร์

37. พีที รัชดาภิเษก 38. สนามบินดอนเมือง อาคารเทอร์มินัล 2 ชั้น 4 39. สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 40. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3 41. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 42. ปั๊มบางจาก เกษตรนวมินทร์ 43. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 (Concourse E) 44. ถนนเลียบหาดป่าตอง 45. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3 อาคารใหม่ 1 46. เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า 47. อ่าวนาง 48. นิมมานเหมินท์ ซอย 10 49. เมกา บางนา 50. ฮักมอลล์ ขอนแก่น และ 51. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 (Concourse C)

ด้านชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นว่า สาขาที่ถูกยกเลิกไปแล้วทำไมใช้ชื่อร้านซับเวย์ได้ต่อครับ ทำไมไม่ยกเลิกทั้งหมดไปเลย บ้างก็เห็นว่าเจ้าของลิขสิทธิ์ควรดำเนินการกับร้านที่ถูกยกเลิกลิขสิทธิ์ ไม่ใช่ให้ลูกค้าได้รับสินค้าและการบริการที่ไม่ได้ตามมาตรฐาน ทำให้เกิดความสับสนแบบนี้ อีกทั้งลูกค้าแยกแยะไม่ไหวว่าสาขาไหนยังถือลิขสิทธิ์สาขาไหนยกเลิกแล้ว เพราะยังมีฟูดดีลิเวอรีที่แยกแยะไม่ได้ด้วย ควรจะเป็นหน้าที่ของบริษัทแม่ต้องปิดร้านเหล่านี้ และฟ้องในเรื่องสิทธิการใช้แฟรนไชส์

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท โกลัค จำกัด ประกาศว่า บริษัทฯ เป็นผู้ได้รับสิทธิในการให้และเปิดแฟรนไชส์ร้านอาหารซับเวย์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Master Franchisee) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป และบริษัท ฟู้ด เจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งเคยเป็นผู้รับแฟรนไชส์และดำเนินกิจการร้านซับเวย์นั้นได้สิ้นสุดการเป็นผู้รับแฟรนไชส์ร้านอาหารซับเวย์โดยสิ้นเชิงแล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป โดยปัจจุบันมีสาขาที่เป็นผู้รับแฟรนไชส์และอยู่ภายใต้การดูแลในปัจจุบัน 51 สาขา และสาขาที่สิ้นสุดการเป็นผู้รับแฟรนไชส์ 105 สาขา

อนึ่ง ซับเวย์ได้ทำสัญญามาสเตอร์ แฟรนไชส์ ฉบับใหม่กับบริษัท โกลัค จำกัด ซึ่งมี บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เป็นผู้ถือหุ้นข้างมากในระดับผู้ถือหุ้นแท้จริง (Ultimate Shareholder) เพื่อขยายธุรกิจแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดย PTG ลงทุนผ่านบริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด (GFA) ที่เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นผ่านทางบริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด 70% ส่วน น.ส.เพชรัตน์ อุทัยสาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์เดิมถือหุ้น 5% และ บริษัท ไลฟ์สไตล์ ฟู้ด จำกัด ที่ น.ส.เพชรัตน์เป็นกรรมการบริษัท ถือหุ้น 25%

ปักหมุดเปิดตัวหนังสือ ‘๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’ 8 พ.ย. 67 น้อมรำลึกวันพระราชสมภพ ในหลวง ร.7

(4 พ.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘2475 Dawn of Revolution’ เปิดเผยว่า ได้เคาะวันเวลาและสถานที่จัดงานเปิดตัวหนังสือเรียบร้อยแล้ว โดยจะจัด ในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ที่ KliqueX Samyan คลิคเอ็กซ์ สามย่าน ศูนย์การค้า I'm Park จุฬา ตั้งแต่เวลา 14:00-18:00 น. 

โดยในวันที่ 8 พฤศจิกายน นี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของพวกทีมงานในการเริ่มต้นทำแอนิเมชันและหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้

ทั้งนี้ ภายในจะมีหนังสือและของที่ระลึกไปจำหน่าย พร้อมกับผู้เขียนจะไปเช็นหนังสือให้ด้วย 

ย้อนประวัติ Subway แซนด์วิชแบรนด์ดัง ชื่อนี้ได้มาเพราะหน้าตาคล้ายเรือดำน้ำครั้งหนึ่งเคยมีสาขาโตแซงหน้า McDonald's

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในกลุ่มธุรกิจอาหารบริการด้านหรือ QSR เมื่อแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง ซับเวย์ (Subway) ได้ออกมาเตือนลูกค้าในประเทศไทยที่เข้าไปใช้บริการร้านอาหารแล้วเจอกับมาตรฐานสินค้าและบริการที่ผิดเพี้ยนไป 

โดยทาง GOLUCK บริษัทย่อยในเครือ PTG ซึ่งเป็นผู้ถือสิทธิ์แฟรนไชส์ออกมาระบุว่า เนื่องจากตอนนี้เราได้รับข้อร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหาร , วัตถุดิบขาด, กระดาษห่อ ไม่มีพิมพ์ลาย Subway , กระดาษห่อลาย Subway สีเลอะติดอาหาร ขนมปังไม่ใช่ของ Subway และ อื่น ๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าลูกค้าไปใช้บริการจากร้าน Subway ที่ถูกยกเลิกสิทธิ์ Franchise ไปตั้งแต่วันที่ 26 กค. 2567 ไปแล้ว เช่น Food generation สาขา CP ทาวเวอร์ สีลม , ปตท บางแสน ,ปตท สุขสวัสดิ์, เชลล์ ลาดพร้าว, ทองหล่อ, เชลล์ ท่าพระ, คาลเท็กซ์ ประชานุกูล, ดิ อัพ พระราม 3, บางจาก ราชพฤกษ์ และ อื่นๆ ร้าน SUBWAY สาขาต่างๆ ระบุแฟรนไชส์ที่ได้รับอนุญาตชัดเจน 'GOLUCK' ทั้งนี้ สำหรับร้านซับเวย์ที่สิ้นสุดการเป็นแฟรนไชส์มีทั้งสิ้น 105 สาขา

สำหรับประวัติของร้าน Subway เริ่มต้นในปี 1965 เมื่อ Fred DeLuca นักศึกษาอายุ 17 ปี และ Dr. Peter Buck เพื่อนของครอบครัวซึ่งเป็นนักฟิสิกส์นิวเคลียร์ ได้เปิดร้าน Pete's Drive-In: Super Submarines สาขาแรกในเมืองบริดจ์พอร์ต รัฐคอนเนตทิคัต DeLuca โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยจ่ายค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยของทางครอบครัว

เหตุที่ใช้ชื่อว่า Super Submarines เนื่องจากลักษณะของแซนด์วิชที่รูปทรงคล้ายกับเรือดำน้ำจึงนำมาเป็นชื่อดังกล่าว มาจากรูปร่างของขนมปังที่มีความกลม ยาว และเมื่อนำไปประกอบกับไส้ต่าง ๆ ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ดูเหมือนเข้าไปใหญ่ ความโดดเด่นในเรื่องของแซนด์วิชและสลัดของแบรนด์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาง่าย ๆ แต่เป็นเพราะว่าพวกเขาเริ่มต้นด้วยการขายทั้งแซนด์วิชและสลัดผัก ทำให้กลายเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีความเชี่ยวชาญในการทำแซนด์วิชและสลัดเป็นที่สุด ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ พวกเขาเป็นผู้นำในด้านการทำแซนด์วิชและสลัดก็คือความมุ่งมั่นตั้งใจทำตามสโลแกนที่ตั้งไว้ นั่นคือ 'Eat Fresh' ด้วยการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดี สดใหม่และมีคุณภาพมาใช้ในการประกอบอาหารทุกวัน

ปี 1968 ทั้งสองตัดสินใจเปลี่ยนชื่อมาเป็น Subway จากนั้นในปี 1974 DeLuca และ Buck ได้ขยายกิจการด้วยการเปิดอีก 16 สาขาแฟรนไชส์ในรัฐคอนเนตทิคัต แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้คือเปิดร้าน 32 สาขาได้ทันเวลา

ในปี 1978 Subway เปิดสาขาแรกบนชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐด้วยการเปิดทำการสาขาแรกในเมืองเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาบริษัทก็ได้รับเสียงต้อนรับในแง่บวกและขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จนในปี 1981 subwayได้ขยายธุรกิจเข้าสู่การทำแฟรนไชส์และในปี 1984 Subwayได้เริ่มต้นเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

ช่วงทศวรรษ 1990 ถือได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของSubway โดยจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากประมาณ 5,000 สาขาเป็น 13,200 แห่งในปี 1998 ต่อมาในปี 2002 Subwayได้กลายเป็นเครือข่ายร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ปี 2004 Subway เริ่มเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า Walmart ในปี 2015 เว็บไซต์ entrepreneur ได้จัดอันดับให้แบรนด์ Subway เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่เติบโตเร็วที่สุดของปี กลายเป็นเครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีร้านอาหาร 33,749 ร้านทั่วโลก ซึ่งมากกว่า McDonald's ถึง 1,012 ร้าน

กระทั่งปี 2017 Subway ปิดสาขาไปมากกว่า 800 สาขาในสหรัฐอเมริกา ในเดือนเมษายน 2018 บริษัทได้ประกาศว่าจะปิดสาขาเพิ่มอีกประมาณ 500 สาขาในปีนั้น ตามรายงานของ Abha Bhattarai จากThe Washington Post สืบเนื่องจากต้นทุนของสินค้าที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้องมีการปรับราคา ทำให้ผลกำไรและผลประกอบการลดลงต่อเนื่องสามปี และจำนวนผู้มาใช้บริการร้าน Subway ลดลงร้อยละ 25 ตั้งแต่ปี 2012 นอกจากนี้ผู้รับสิทธิ์บริหารแฟรนไชส์ยังระบุว่าโปรโมชั่นพิเศษของบริษัทแม่มีส่วนทำให้กำไรการขายหน้าร้านลดลงอีก

ในปี 2019 John Chidsey เข้าร่วม Subway ในตำแหน่ง CEO ถือเป็นผู้บริหารคนแรกของบริษัทซึ่งไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวผู้ก่อตั้ง เขาเน้นที่การปรับปรุงสถานที่ร้านค้าในสหรัฐอเมริกา ตลอดจนบุกตลาดแถบเอเชียมากขึ้น สังเกตได้จากบรรดาซีรีส์เกาหลีที่จะมีการโฆษณาแฝงร้าน Subway อยู่หลายเรื่อง 

ปี2023 ครอบครัวBuck และ Deluca ประกาศว่าจะขายหุ้นของบริษัทให้กับบริษัทนักลงทุน ซึ่งมีนักลงทุนหลายรายให้ความสนใจ กระทั่ง 24 สิงหาคม Subway ประกาศว่าบริษัทลงทุนเอกชน Roark Capital ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของ Subway ในราคา 9.6 พันล้านดอลลาร์

มีนาคม 2024 Subway ได้ลงนามข้อตกลง 10 ปีกับ PepsiCo ซึ่งเริ่มในวันที่ 1 มกราคม 2025 ส่งผลให้บริษัทเปลี่ยนมาใช้เครื่องดื่มของกลุ่ม PepsiCo แทนที่ The Coca-Cola Company โดยก่อนหน้านั้น Subway เคยร่วมมือให้บริการเครื่องดื่มจาก Coca-Cola มาตั้งแต่ปี 2003 ก่อนจะเปลี่ยนสู่ PepsiCo

กต. ยัน ‘เกาะกูด’ ของคนไทย ป้อง MOU44 ไม่จำเป็ฯต้องยกเลิก พร้อมเเจงยิบ 5 ประเด็นร้อน

(4 พ.ย. 67) กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดการบรรยายสรุปสถานการณ์เรื่อง เรื่องพื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (Overlapping ClaimsArea: OCA) ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ นางสุพรรณวษา โชติกญาณ ถัง อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยของสาธารณะ

อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ อธิบายประเภทของเขตทางทะเลและกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ปี ค.ศ. 1982 และชี้แจงที่มาของพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (OCA) ระหว่างไทย-กัมพูชา ขนาดประมาณ 26,000 ตร.กม. เกิดจากการประกาศเขตไหล่ทวีปในอ่าวไทยของทั้งสองประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายได้ทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2544 เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน

อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ชี้แจงว่า MOU 2544 นี้เป็นข้อตกลงที่กำหนดกรอบและกลไกการเจรจาร่วมกัน ไม่ได้หมายถึงการยอมรับการอ้างสิทธิของอีกฝ่าย โดยทั้งสองประเทศต้องดำเนินการเจรจาต่อไป MOU 2544 กำหนดให้เจรจาทั้งเรื่องการแบ่งเขตทางทะเลและการพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน โดยใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศและประโยชน์ร่วมกัน กลไกหลักคือ คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ด้านความมั่นคง กฎหมาย และพลังงาน ซึ่งได้มีการประชุมไปแล้วในปี 2544 และ 2545 นอกจากนี้ยังมีคณะอนุกรรมการร่วมด้านเทคนิค (Sub-JTC) และคณะทำงานร่วมเกี่ยวกับการกำหนดเขตทางทะเลและการพัฒนาร่วม

แนวทางในการแก้ปัญหา OCA ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเห็นพ้องต้องกัน มีดังนี้ (1) ข้อตกลงต้องได้รับการยอมรับจากประชาชนทั้งสองประเทศ (2) ต้องนำเรื่องให้รัฐสภาของทั้งสองประเทศพิจารณาอนุมัติ และ (3) ข้อตกลงต้องสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบัน กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการ JTC ฝ่ายไทย และเมื่อทั้งสองฝ่ายแต่งตั้งคณะกรรมการ JTC แล้ว ไทยจะเสนอกรอบการเจรจาให้รัฐบาลเห็นชอบ จากนั้นจะทาบทามการเจรจากับฝ่ายกัมพูชาต่อไป รวมถึงการแต่งตั้งกลไกย่อยต่าง ๆ

กระทรวงการต่างประเทศยืนยันการเจรจาเรื่อง OCA บนพื้นฐานของกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อผลประโยชน์ของชาติ เช่นเดียวกับที่เคยปฏิบัติกับประเทศอื่น

ในช่วงการตอบคำถามสื่อ อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ได้ตอบคำถาม 5 ข้อดังนี้:

1. เกี่ยวกับคำถามที่ว่า MOU 2544 จะทำให้ไทยเสียเกาะกูดหรือไม่ อธิบดีชี้แจงว่า เกาะกูดเป็นของไทยตามสนธิสัญญากรุงสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 ซึ่งยืนยันสิทธิอธิปไตยเหนือเกาะกูดอย่างชัดเจน

2. MOU 2544 ขัดกับพระบรมราชโองการการประกาศเขตไหล่ทวีปหรือไม่ อธิบดีระบุว่า การดำเนินการตาม MOU 2544 สอดคล้องกับพระบรมราชโองการ โดยอิงตามอนุสัญญาเจนิวา ค.ศ. 1958 อย่างไรก็ตาม สิทธิเหนือทรัพยากรใต้ท้องทะเลขึ้นกับการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน

3. MOU 2544 เป็นการยอมรับเส้นของกัมพูชาหรือไม่ อธิบดียืนยันว่าแต่ละฝ่ายมีสิทธิ์เคลมพื้นที่ของตนเองภายในประเทศ ไม่มีผลผูกพันระหว่างประเทศ MOU ไม่ได้บังคับให้ยอมรับเส้นของกัมพูชา

4. การยกเลิก MOU 2544 ในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ มาจากการเจรจาชายแดนที่ไม่คืบหน้าในช่วงความตึงเครียดปี 2552 แต่ในปี 2557 กระทรวงเห็นว่า MOU 2544 มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย และทุกรัฐบาลที่เข้ามารับช่วงต่อยอมรับว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการสร้างความโปร่งใสในการเจรจา

5. เกี่ยวกับการสร้างเขื่อนของกัมพูชาในพื้นที่ OCA อธิบดีระบุว่าการสร้างเขื่อนนี้ถูกประท้วงถึงสามครั้ง ตั้งแต่ปี 2541 2544 และปี 2564 เนื่องจากการก่อสร้างบางส่วนรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ที่ไทยอ้างสิทธิ ซึ่งผลของการประท้วงทำให้หยุดการก่อสร้างของเอกชน "เราก็ต้องแสดงสิทธิเหนืออธิปไตย และเรื่องดังกล่าวอยู่ในการติดตามของกองทัพเรือ และสมช. อย่างใกล้ชิด" อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ กล่าว

‘โค้ชทีมเยาวชน’ ตัดพ้อฟุตบอล 7 คนรายการดัง หลังให้ดาวรุ่งทีมชาติฟอกขาวลงเเข่งเพื่อเป็นเเชมป์

กลายเป็นประเด็นดรามาหลังจบการเเข่งขันฟุตบอล 7 คนรายการใหญ่ 'กีฬา 7 HD' ซึ่งเเชมป์ปีนี้ตกเป็นของ ภัทรบพิตร อคาเดมีบุรีรัมย์ ด้วยการถล่มชนะ ราชวินิตบางแก้ว 7-1

ด้าน อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ กุนซือมากประสบการณ์ ที่ประสบความสำเร็จในฟุตบอลระดับนักเรียนมากมาย กับการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน แชมป์กีฬา 7HD แชมเปียนคัพ ซึ่งปัจจุบันทำทีมหมอนทองวิทยา ออกมาโพสต์ตัดพ้อเเกมบ่นว่าภัทรบพิตรใช้นักกีฬาระดับทีมชาติยกทีม การจะเป็นเเชมป์ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งรายการนี้ควรจะเป็นการปั้นดาวรุ่งไปติดทีมชาติมากกว่าให้ทีมชาติมาเล่นเพื่อเอาเเชมป์

"จบไปแล้วครับสำหรับฟุตบอลรายการที่ดีรายการหนึ่งสำหรับนักเรียนนั้นคือกีฬานักเรียนฟุตบอล7คน แชมป์กีฬา7สี ก็ต้องแสดงความยินดีกับแชมป์ปีนี้คือ รร. ภัทรบพิตร จากบุรีรัมย์และก็ขอให้กำลังใจกับรองแชมป์ปีนี้ รร. ราชวินิตบางแก้ว สมุทรปราการ ถึงแม้ผลมันจะออกมาแบบชนะกันอย่างมากมายก็ต้องยอมรับหัวใจของนักกีฬาราชวินิตบางแก้วสู้แล้วครับ แต่สู้ไม่ได้เพราะอะไรหลายท่าน ๆ ก็พอจะเข้าใจกันได้เราแข่งขันกันมาหลายปีแล้ว สำหรับเวทีแชมป์กีฬา7สี เราน่าจะมาสังขยานากฎกติกากันใหม่ไหมกติกาเก่าไม่พัฒนาหลาย ๆ อย่างปกติแล้ว7สี มุ่งหาดาวรุ่งเพื่อช่วยชาติแต่ปัจจุบันมันไม่ใช่เพราะตอนนี้เราเอาดาวรุ่งทีมชาติฟอกขาวใหม่ เพื่อเป็นแชมป์7สี มองดูแล้วมันยังไงไม่รู้แต่ถ้าแข่ง7สี เสร็จแล้วสามารถสร้างดาวรุ่งเข้าสู่ทีมชาติได้ เราถือว่าการจัดการแข่งเราประสบความสำเร็จ เพราะช่วยชาติได้ส่วนตัวแล้วไม่อยากเห็นฟุตบอลรายการนี้เป็นฟุตบอลเดินสายแสวงหาผลประโยชน์กัน เพราะเป็นกีฬานักเรียนสมัครเล่น อย่าเอาฟุตบอลอาชีพเข้ามาเดี๋ยวมันจะเสื่อมมนต์ขลังฟุตบอล7สี ฟุตบอลดาวรุ่งมุ่งทีมชาติครับ" โพสต์ของอาจารย์ สกล

อย่างไรก็ตามกระเเสมีเเบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย 1 ก็เห็นด้วยเเต่ก็มีอีกกระเเสที่มองว่าทีมอื่น ๆ อย่าง โรงเรียนท่าข้ามก็มีนักเตะจากชลบุรี หรืออัสสัมชัญธนบุรีก็มีตัวดัง ๆ เยอะ แต่ที่ภัทรบพิตรคว้าเเชมป์เพราะนักกีฬามีระเบียบวินัย

โสมร่างกม. ห้ามนักเรียนใช้สมาร์ทโฟน หวั่นทำเด็กเป็นซึมเศร้า-สมาธิสั้น

(5 พ.ย. 67) สำนักข่าว Koreanherald ของเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีใต้กำลังพิจารณาห้ามใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียน สืบเนื่องจากพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกำลังพิจารณาร่างกฎหมาย ซึ่งจะห้ามนักเรียนใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวในระหว่างชั้นเรียน

รายงานระบุว่า ร่างกฎหมายนี้มาจาก สส โช จุงฮุน และเพื่อนสมาชิกรัฐสภาอีก 10 คนจากพรรคเดียวกันกำลังผลักดันร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ ในโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อปกป้องสุขภาพจิตของนักเรียน

สส โช ระบุว่า กฎหมายลักษณะนี้มีบังคับใช้ในหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐฯ และฝรั่งเศส ในขณะที่การเสพติดโซเชียลมีเดียกลายเป็นปัญหาร้ายแรง เรื่องนี้เกิดขึ้นในเกาหลีใต้เช่นกัน โดยพบว่าเด็กอายุระหว่าง 3-9 ปี ร้อยละ 25 และเด็กอายุระหว่าง 10-19 ปีร้อยละ 40.1 เสพติดสมาร์ทโฟนมากเกินไป ดังนั้นเพื่อปกป้องสุขภาพจิตของพวกเขา เราจึงเสนอให้จำกัดการใช้สมาร์ทดีไวซ์ในโรงเรียน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาที่เจาะจง หรือในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

ความคืบหน้าดังกล่าวสอดคลองกับงานวิจัยจากหลายสถาบันทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ที่ออกมาระบุคล้ายกันว่า พฤติกรรมการใช้งานมือถือสมาร์ทโฟนมากเกินไป อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพจิต และสุขภาวะทางการรู้คิดของเยาวชนได้ การเสพติดและสิ่งรบกวนสมาธิไม่ใช่ปัญหาเดียวเท่านั้นที่ทำให้เกิดความกังวล ในหลายกรณี พบว่านักเรียนยังใช้ฟังก์ชันของโทรศัพท์เพื่อบูลลี่หรือแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเพื่อนร่วมชั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังระบุเช่นกันว่า เกมและวิดีโอสั้นๆ ที่ช่วยกระตุ้นความคิดได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น แต่ทำให้การติดสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าและโรควิตกกังวล

ข้อมูลล่าสุดของ Health Insurance and Review Assessment Service สนับสนุนข้อเรียกร้องดังกล่าว เนื่องจากจำนวนการเข้าพบจิตเวชสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีพุ่งสูงขึ้นถึง 65 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา นักศึกษาประมาณ 250,000 คนเข้าโรงพยาบาลในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เพียงปีเดียว คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของการเข้าพบทั้งหมดในปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ผลสำรวจโดย Macromill Embrain ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าผู้ปกครองของนักเรียนร้อยละ 69 สนับสนุนแนวคิดการจำกัดการใช้โทรศัพท์ของนักเรียน มีเพียงร้อยละ 12.6 ที่คัดค้าน

Taiwan Excellence ยกทัพนวัตกรรมลํ้า โชว์งาน Taiwan Expo 2024 - เปิดตัว FU BEAR

เมื่อวันที่ (1 พ.ย. 67) ร่วมสัมผัสนวัตกรรมอันล้ำสมัยของไต้หวันได้ที่ “พาวิลเลียน Taiwan Excellence” ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของงาน Taiwan Expo 2024 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21 ถึง 23 พฤศจิกายน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (ฮอลล์ 5, บูธหมายเลข 401) โดยภายในงานจะจัดแสดงสินค้าที่ได้รับรางวัลตราสัญลักษณ์ Taiwan Excellence มากถึง 58 รายการ รวมทั้งเปิดโอกาสสุดพิเศษให้เข้าเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ และสัมผัสกับอนาคต ของอุตสาหกรรมสุขภาพ ความยั่งยืน และเทคโนโลยีไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ พาวิลเลียน Taiwan Excellence เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานบริหารการค้าระหว่างประเทศ ของไต้หวัน (Taiwan’s International Trade Administration) และสภาส่งเสริมการค้า และการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) ซึ่งในงานเป็นเวทีสำหรับจัดแสดงผลิตภัณฑ์ชั้นนำของไต้หวัน ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น ทั้งในแง่คุณภาพ การออกแบบ และนวัตกรรม การได้รับเกียรติคัดเลือกจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของไต้หวัน ในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งตอกย้ำบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก    

นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญสุดพิเศษในพาวิลเลียนนี้ คือ “FU BEAR” มาสคอตหมีดำจากไต้หวัน ซึ่งจะเปิดตัว อย่างเป็นทางการในประเทศไทยภายในงานนี้ โดย Fu Bear จะเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและไต้หวัน สร้าง ความประทับใจให้กับผู้เข้าชมด้วยความน่ารักสดใส พร้อมสื่อถึงนวัตกรรมและความคิด สร้างสรรค์ ที่อยู่เบื้องหลัง ผลิตภัณฑ์ ของไต้หวัน

นวัตกรรมทั้งหมดที่จัดแสดงในพาวิลเลียนจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ร่วมงานทุกท่าน ผ่านการเปิดตัวนวัตกรรม ล้ำสมัยจำนวนมาก ซึ่งครอบคลุมหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นโซลูชั่นเพื่อความยั่งยืน รวมทั้งเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ซึ่งจะถูกจัดแสดงทั้งในรูปแบบสามมิติ  อุปกรณ์สมาร์ตลีฟวิ่ง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ภายในที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับชีวิตประจำวันของทุกคน

ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและน่าสนใจภายในพาวิลเลียนนี้ได้แก่ ฟิล์ม “Optiqb Qbarmour” สร้างประสบการณ์ การรับชมแบบสามมิติ ด้วยตาเปล่าจากอุปกรณ์ขนาดพกพา, “YZTEK e+Autoff Compact” อุปกรณ์ควบคุมการทำงาน เตาทำอาหารอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย และ “ible” เครื่องฟอกอากาศแบบสวมใส่ที่ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ทุกที่ทุกเวลา มากไปกว่านั้นภายในงานยังมีนวัตกรรมที่โดดเด่นอีก

มากมายไม่ว่าจะเป็น “mbranfiltra” ตัวกรองน้ำแบบพกพาที่สามารถ ผลิตน้ำดื่มสะอาดได้ทุกที่, “Tokuyo” เก้าอี้นวดสุดหรู, “SAUBER Air FLAT™ Wall-mount Air Purifier” เครื่องฟอกอากาศ ติดผนัง พร้อมดีไซน์กรอบรูป และ “INNOLUX” หน้าต่างกรองแสงอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดพลังงาน 

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดง อุปกรณ์สำหรับนักปั่นจักรยานอย่าง “WiseChip” ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การปั่นจักรยานด้วยการติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์, “Transcend DrivePro Body 70” กล้องสวมตัวสำหรับการบันทึกภาพ คุณภาพสูง และ “BenQ W4000i” โปรเจคเตอร์เพื่อสร้างบรรยากาศคล้ายโรงภาพยนตร์ในบ้าน ที่ให้ภาพคมชัดระดับ 4K ทั้งหมด ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสินค้าจากไต้หวันที่จัดแสดงในพาวิลเลียนนี้เท่านั้น เพราะภายในงานยังมีนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับ คุณภาพชีวิตประจำวันอีกมากมาย

ท้ายที่สุด พาวิลเลียน Taiwan Excellence ยินดีต้อนรับทุกท่าน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริโภคที่ต้องการเดินชมนวัตกรรม สุดล้ำจากไต้หวัน หรือเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพราะภายในงานนี้มีสินค้าที่น่าสนใจสำหรับทุกท่าน แล้วมาพบปะ กับผู้ประกอบการจากไต้หวัน สัมผัสโปรดักต์ล้ำสมัย และเพลิดเพลินไปกับความน่ารักของมาสคอต FU BEAR โดยงานจัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 23 พ.ย. 2567 เวลา 10.00 น. ถึง 18.00 น. งานนี้เข้าชมฟรีและเปิดให้ประชาชนทั่วไป

สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาวิลเลียน Taiwan Excellence และผลิตภัณฑ์ 'Best Made in Taiwan' สามารถเยี่ยมชมได้ที่ https://www.taiwanexcellence.org/en

ผู้ปกครองเดือด!! หลังเด็ก 2 คน ถูกปฏิเสธขึ้นเครื่องไปอินเดีย อ้างพ่อ-แม่ไม่เซ็นรับรอง ทั้งที่ตอนจองให้ซื้อตั๋ว ‘ผู้ใหญ่’

(5 พ.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก Happy Study Abroad โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 3 พ.ย.67 โดยระบุว่า รีวิวประสบการณ์เด็กถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง Airasia

น้องเล็กเดินทางกับเพื่อนผู้หญิงอีกคน จากดอนเมืองไปชัยปุระ (Dmk-Jai) ด้วยสายการบิน Airasia ไฟล์ท FD 130เด็กทั้งสองได้เช็กอินเวลาประมาณ 17.30 น. โดยพ่อแม่ยืนรอจัดการให้จนเรียบร้อย (ตามตั๋วเครื่องออก 19.30 น.) เด็ก ๆ ได้รับ boarding pass แจ้งเวลาเรียกขึ้นเครื่อง 18.50 น.

จากนั้น พ่อแม่ส่งเด็ก 2 คนเข้าไปด้านในเวลา 18.14 น. ขณะที่เด็กๆ ถึงหน้า gate เวลา 18.35 น. น้องเล็กโทร.มาหาแม่เวลา 19.39 น. เพื่อขอบัตรประชาชนแม่ให้เจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้บอกเด็กว่าขอไปทำไม

เวลา 20.20 น. น้องเล็กโทร.มาบอกแม่ว่าไม่ได้ไปแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้นเครื่อง ให้แม่มารับกลับ ซึ่งแม่ได้ขอคุยกับเจ้าหน้าที่ เขาถามว่าแม่มาแสดงตัว และได้เซ็นเอกสารตอนเช็กอินไหม แม่บอกว่ามาแสดงตัว แต่เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ไม่ได้ให้เซ็นเอกสารใดๆ 

เจ้าหน้าที่คนนั้นแจ้งว่าเด็กทั้ง 2 คนถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่อง เพราะไม่มีเอกสารอนุญาตจากผู้ปกครอง เขาแจ้งว่าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่เช็กอิน สายการบินจะรับผิดชอบโดยการหาตั๋วใหม่ให้แทน ให้ผู้ปกครองมารับเด็กกลับไป

โดยทางแม่แจ้งเจ้าหน้าที่คนเดิมขอตั๋วเร็วที่สุด เพราะโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าจะติดต่อกลับมา

จากนั้น เวลา 20.35 น. เจ้าหน้าที่พาเด็ก ๆ ออกมาส่งให้กับพ่อแม่ที่อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 ต่อมาเวลา 21.21 น. แม่โทร.กลับไปหาเจ้าหน้าที่ที่เดินออกมาส่งเด็ก เพื่อขอทราบสาเหตุโดยละเอียด และขอให้รับผิดชอบความเสียหายอื่นๆที่ตามมา 

เจ้าหน้าที่ตอบกลับว่าสายการบินทำได้เพียงรับผิดชอบตั๋วของเด็ก ๆ เท่านั้น และจะได้เดินทางในวันที่ 5 พ.ย. นี้แทน

ทั้งนี้ ทางเจ้าของโพสต์ได้ข้อสังเกตว่า

1. เจ้าหน้าที่เช็กอินไม่ได้ให้ผู้ปกครองเซ็นเอกสารใดๆเลย (ตอนมาจากอินเดีย เจ้าหน้าที่เช็คอินก็ไม่ได้ให้ผู้ปกครองเซ็นเช่นกัน) พวกเราเลยไม่ได้เอะใจ คิดว่าสายการบินเปลี่ยนวิธีการแล้ว ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาตลอดหลายปีที่เคยไปส่งลูกๆที่สนามบิน เจ้าหน้าที่ก็ส่งเอกสารให้กรอกเสมอ โดยไม่ต้องร้องขอ

2. เด็กๆ ผ่านเจ้าหน้าที่ ตม.ไปได้อย่างเรียบร้อย

3. เด็กๆไปรอหน้าเกทล่วงหน้าประมาณ 1 ชม. ก่อนเวลาเครื่องออก ขณะต่อแถวตรวจ boarding pass เจ้าหน้าที่ตรวจบัตรโดยสารถามอายุ น้องเล็กตอบ 13 และ 12 ปี เจ้าหน้าที่บอกให้รอก่อน ไม่ให้ขึ้นเครื่อง แต่ก็ไม่ได้แจ้งเด็กๆว่าเกิดปัญหาอะไร เด็ก ๆ ทั้งคู่มีโทรศัพท์ หากเจ้าหน้าที่ขอให้โทรหาพ่อแม่เพื่อมาเซ็นเอกสาร ณ เวลานั้น เรื่องจะไม่บานปลายเพราะพ่อแม่ยังรออยู่ที่สนามบิน 

4. เจ้าหน้าที่ขอพาสปอร์ต หรือบัตรประชาชนของแม่เพียงคนเดียว ส่วนผู้ปกครองเพื่อนของน้องเล็กไม่ได้รับแจ้งขอเอกสารใดๆ

5. เจ้าหน้าที่ได้รับบัตรประชาชนของแม่ไป แต่ไม่ได้แจ้งสาเหตุใดๆ เวลาผ่านไป 20 นาที แม่จึงได้รับแจ้งจากน้องเล็กว่าไม่ได้ขึ้นเครื่อง ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เหตุการณ์นี่สร้างปัญหาตามมาให้พวกเราอย่างมาก

6. เราซื้อตั๋วไป-กลับจาก Jai - Dmk และน้ำหนักคนละ 30 กิโลกรัมกับสายการบินโดยตรง กรอกวันเดือนปีเกิดของเด็กๆถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่คนเดิมอ้างว่าเรากรอกวันเดือนปีเกิดเด็กไม่ตรงตามจริงทำให้ไม่รู้ว่าเป็น Young Passengers ประเด็นนี้แม่ปฏิเสธกลับไปว่าไม่จริง เพราะเราจองตั๋วเองทุกครั้ง กรอกรายละเอียดตามพาสปอร์ต เด็กทั้งสองอายุมากกว่า 12 ปี ระบบให้จองได้ในช่องจำนวนผู้เดินทางผู้ใหญ่

ผลจากเหตุการณ์นี้
1. เด็กอายุ 12 และ 13 ปี ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องพร้อมสัมภาระคนละ 30 กิโลกรัม หากผู้ปกครองกลับต่างจังหวัดแล้ว มารับเด็กๆกลับบ้านไม่ได้ จะทำอย่างไร

2. เด็กๆไม่ชอบใจที่กลับไปไม่ทันวันเปิดเรียน เพราะเป็นภาระให้ต้องตามงาน

3. เสียเวลาเดินทางไปกลับจากบ้านไปสนามบินดอนเมืองหลายรอบ

4. กระทบการงานของผู้ปกครองอย่างมาก

5. เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ปกครอง ที่ต้องทิ้งตั๋วเก่า มาซื้อตั๋วใหม่เพื่อกลับต่างจังหวัด มีค่าใช้จ่ายในการอยู่ กทม.ต่ออีก 2 วัน เพื่อรอส่งลูกเดินทางกลับไปอินเดีย

6. เสียเวลาของคนรอรับที่อินเดีย พวกเราต้องแจ้งโรงเรียนว่าไม่ได้เดินทางตามกำหนด และขอให้โรงเรียนมารับใหม่อีกครั้ง

*** ผลกระทบเหล่านี้ควรได้รับการชดเชยจากสายการบิน

ข้อมูลสำคัญ
1. เด็กอายุ12-16 ปี สายการบินถือเป็น Young Passengers ต้องมีผู้ปกครองมาเซ็นเอกสารที่เคาน์เตอร์เช็กอินทุกครั้ง และควรทำหนังสืออนุญาตให้เด็กเดินทางคนเดียวเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ตม. 

2. แม่สอบถามช่องทางร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ Airasia ทั้งที่ Terminal 1 และ 2 ทุกคนตอบเหมือนกันว่ามีช่องทางเดียวคือ website Airasia เรื่องจะถึงหลังบ้านโดยตรง แม่ดำเนินการไปแล้ว ได้รับหมายเลขร้องเรียนมา และต้องรอติดตามสถานะคำร้องเรียนต่อไป

โดยเจ้าของโพสต์ ยังระบุด้วยว่า ใครมีช่องทางร้องเรียน Airasia นอกเหนือจาก website รบกวนช่วยเม้นท์บอกต่อด้วย เนื่องจากรู้สึกเหมือนเด็ก ๆ ถูกรับกรรมจากระบบการทำงานแย่ ๆ ของสายการบิน

ขายออกจากพอร์ต 11 ล้านล้านบาท สะท้อนแบรนด์มือถือวิกฤต-ไร้เทคโนโลยีใหม่

(5 พ.ย. 67) สัญญาณเตือนวิกฤตแบรนด์ Apple หรือแค่ปรับกลยุทธ์การลงทุน เมื่อบริษัท  Berkshire Hathaway ของเจ้าพ่อการลงทุนวอร์เรน บัฟเฟตต์ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 พบว่าหนึ่งในความเคลื่อนไหวสำคัญคือการเทขายหุ้นล็อตใหญ่รวมแล้วเป็นจำนวนกว่า 60% ของพอร์ตตลอดปี 2024 

โดยวอร์เรน บัฟเฟตต์ ทยอยขายหุ้น Apple อย่างต่อเนื่อง โดยลดหุ้นแอปเปิ้ลในพอร์ตลงอีก 25% ในไตรมาส 3 หลังจากที่เคยหั่นลดลง 50% ในไตรมาส 2 ซึ่งวอร์เรนเคยกล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นว่า การขายหุ้นแอปเปิ้ลไตรมาสแรกเพราะเหตุผลด้านภาษี และเบิร์กเชียร์จะยังคงลงทุนหุ้นแอปเปิลในสัดส่วนใหญ่อยู่ต่อไป โดยหุ้นแอปเปิลมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 10.6% ระหว่างไตรมาส 3

ในไตรมาสที่สาม Berkshire Hathaway ยังคงดำเนินกลยุทธ์ลดการถือครองหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยมีการขายหุ้นแอปเปิ้ลจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัท Berkshire Hathaway มีกระแสเงินสดจากการขายหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 325,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบราว 11 ล้านล้านบาท

การถือครองหุ้นแอปเปิ้ลของบัฟเฟตต์ สิ้นไตรมาส 3 มีมูลค่า  มีมูลค่า 69,900 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.3 ล้านล้านบาท) ลดลงราว 60% เทียบกับมูลค่า 174,300 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.8 ล้านล้านบาท) เมื่อสิ้นปี 2023 ซึ่งนับตั้งแต่เดือนพฤศภาคมที่ผ่านมา บัฟเฟตต์ไม่ได้ระบุเหตุผลเพิ่มเติมของการเทขายหุ้นแอปเปิ้ลในไตรมาสสองและไตรมาสสาม แม้ว่า Berkshire จะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของแอปเปิ้ลก็ตาม 

จำนวนหุ้นแอปเปิลที่ Berkshire ถืออยู่ล่าสุดมีประมาณ 300 ล้านหุ้น ลดลงจากตัวเลขไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 400 ล้านหุ้น และลดลงจากเมื่อต้นปีที่ 915 ล้านหุ้น โดยมูลค่าหุ้นแอปเปิลที่บริษัทมีตอนนี้ประมาณ 7 หมื่นล้านดอลลาร์

การตัดสินใจของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ขายหุ้น Apple และสะสมเงินสดมหาศาล สร้างความประหลาดใจ และเป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั่วโลก แม้ผลประกอบการโดยรวมของ Berkshire Hathaway จะยังแข็งแกร่ง แต่การลดลงของกำไรจากการดำเนินงาน บวกกับการเทขายหุ้น Apple ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการลงทุน เน้นคุณค่า ในระยะยาว ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์ของบัฟเฟตต์ในครั้งนี้

การวิเคราะห์สถานการณ์ อาจตีความได้ว่า บัฟเฟตต์กำลังมองเห็น ความเสี่ยง บางอย่าง ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดทุนในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อ หรือความผันผวนจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ การกลับมาถือครองเงินสดอาจะเป็นการรับมือวิกฤตอะไรบางอย่างที่เขาเตรียมฉวยจังหวะลงทุนในเวลาที่เหมาะสม

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า การเทขายหุ้นแอปเปิ้ลอาจสะท้อนว่าผลกระกอบการของแบรนด์มือถือที่ไม่สดใสเท่าที่ควร แม้จะมีการเปิดตัวมือถือไอโฟนรุ่นใหม่ เนื่องจากไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรที่จูงใจผู้ใช้งานมากเท่าที่ควร ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายก็มองว่า Berkshire Hathaway อาจเตรียมการสำหรับเปลี่ยนผ่านผู้บริหารไปสู่ผู้นำคนใหม่ อย่างเกร็ก เอเบล ก็เป็นไปได้

ขีปนาวุธหลายลูกตกทะเลโสมใต้ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเลือกตั้งสหรัฐฯ เริ่มเปิดหีบ

(5 พ.ย. 67) คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (5 พ.ย.) เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้แบบทิ้งตัวจำนวนหลายลูกลงสู่ทะเลตะวันออก เหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้น

JCS ระบุว่า การยิงขีปนาวุธครั้งนี้ถูกตรวจพบในเวลาประมาณ 07.30 น. โดยยิงจากเมืองซารีวอน ทางตะวันตกของจังหวัดฮวังแฮเหนือ อย่างไรก็ตาม JCS ไม่ได้ให้รายละเอียดจำนวนขีปนาวุธที่ถูกยิง และระบุว่ากำลังอยู่ในระหว่างการวิเคราะห์สถานการณ์

ในแถลงการณ์ JCS กล่าวว่า “ขณะที่กองทัพของเราเสริมการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังการยิงขีปนาวุธเพิ่มเติม เรายังคงรักษาความพร้อมอย่างเต็มที่ และแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือกับทางการสหรัฐฯ และญี่ปุ่น”

สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเช้าวันนี้ เกิดขึ้นในช่วงใกล้เคียงกับการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ชาวอเมริกันจะต้องเลือกระหว่างคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

นอกจากนี้ การยิงขีปนาวุธครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 5 วันหลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธฮวาซอง-19 (Hwasong-19) ซึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ ลงสู่ทะเลตะวันออกเมื่อวันที่ 31 ต.ค. โดยทฤษฎีแล้ว ขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถพุ่งถึงดินแดนสหรัฐฯ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top