Saturday, 15 February 2025
News

‘นพ.อนุชิต’ แชร์อุทาหรณ์ ‘พระพิฆเนศ’ ติดหลอดลมคนไข้ เตือน!! ‘อย่าไปอมพระแล้วพูดกับใคร’

เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.66) นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก หมอเอ หมอปอดโคราช ถึงกรณีอุทาหรณ์จากคนไข้รายหนึ่ง มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในหลอดลม เมื่อเอกซเรย์พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ด้านในหลอดลมข้างขวาของคนไข้ แพทย์จึงรีบทำการส่องกล้องและคีบออกมาได้สำเร็จ จึงพบว่าเป็น ‘พระพิฆเนศ’ ขนาดประมาณ 1x2 เซนติเมตร

ด้านนพ.อนุชิต ยังได้โพสต์เป็นอุทาหรณ์ในเฟซบุ๊กอีกว่า...

#อย่าไปอมพระแล้วพูดกับใครอีกนะ
พระพิฆเนศ สำลักลงในหลอดลมด้านขวา
คีบออกมาแล้วนะ
#chestMed korat
มาเรียนfellowที่เราสิครับ
ปล. ไม่ต้องถามเลขนะ เดี๋ยวเลขเคลื่อน

‘สมเสร็จ’ สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์โผล่ กองร้อย ตชด.446 สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า จ.นราธิวาส

เพจ ‘สวท.สุไหงโก-ลก’ โพสต์ภาพ ‘สมเสร็จ’ กำลังเข้ามาเดินเล่นชมวิวเยี่ยมพี่ๆตำรวจ ถึงบ้านพักในกองร้อย ตชด.446 อ.แว้ง จ.นราธิวาส ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่ามารับตัวกลับเข้าป่าไปแล้ว

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. เพจ ‘สวท.สุไหงโก-ลก’ โพสต์ภาพ ‘สมเสร็จ’ กำลังเข้ามาเดินเล่นชมวิวเยี่ยมพี่ๆตชด. ที่กองร้อย ตชด.446 ตำบลฆอเลาะ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส บริเวณบ้านพักข้าราชการตำรวจกองร้อย ตชด.446 ล่าสุด พี่ ๆ ตชด.ได้ประสานเจ้าหน้าที่ป่ามารับตัวกลับเข้าป่าไปแล้ว

ทั้งนี้ คาดว่าน้องสมเสร็จตัวนี้จะอยู่ในป่าที่อยู่ใกล้กองร้อย ตชด.446 เนื่องจากบริเวณนั้นมีพื้นที่ป่ามากถึง 156 ไร่

‘สมเสร็จ’ เป็นสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ โดยพื้นที่เขตภาคใต้ตอนล่างจะพบที่ป่าฮาลาบาลา ซึ่งการได้เห็นสมเสร็จในพื้นที่ส่วนหนึ่งอาจสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า รวมทั้งการที่ทุกคนทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมกันอนุรักษ์และปกป้องทั้งผืนป่าและสัตว์ป่า

ทั้งนี้ มีชาวเน็ตแห่คอมเมนต์แซวความน่ารัก ‘น้องสมเสร็จ’ อย่างล้นหลาม อาทิ อ่อ…เด็กนี่ ใส่แพมเพิส เดินเล่นบายใจเลยนะ , เมื่อไหร่น้องจะเลิกใส่เสื้อครอปคะ , เจ้าแพมเพิส มาอีกแล้ว , น้อล ใส่ผ้ากระโจมอกออกมาทำไม๊ก๊อน?

‘นักวิจัยไทย’ เจ๋ง ค้นพบชุดทดสอบยีนผิดปกติก่อโรค หลังใช้เวลาวิจัยนาน 5 ปี ช่วยเตรียมพร้อมก่อนมีบุตร

‘นักวิจัยไทย’ เจ๋ง!! ค้นพบชุดทดสอบยีนผิดปกติก่อโรคได้ถึง 5 ชนิดเป็นครั้งแรก หลังใช้เวลาพัฒนาชุดทดสอบนานถึง 5 ปี ช่วยเตรียมพร้อมก่อนมีบุตร ลดเสี่ยง ‘ป่วยธาลัสซีเมีย’

ภาวะเลือดจางธาลัสซีเมีย เป็นโรคทางพันธุกรรม ที่สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูก โดยเกิดจากความผิดปกติของยีน ทำให้เม็ดเลือดแดงมีความผิดปกติ ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางตั้งแต่กำเนิดและต่อเนื่องตลอดชีวิต โรคธาลัสซีเมียแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักได้แก่ อัลฟ่าธาลัสซีเมีย (Alpha-thalassemia) และ เบต้าธาลัสซีเมีย (Beta-thalassemia) 

ปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียในประเทศไทย ประมาณ 500,000 คน และมีผู้ที่เป็นพาหะของโรคนี้มากกว่า 18 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20-30% ของประชากรทั้งหมด ดังนั้นการตรวจโรคจึงมีความสำคัญโดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์และคู่สามีทุกรายควรได้รับการตรวจ เพื่อประเมินความเสี่ยงว่าทารกในครรภ์อาจเป็นพาหะของธาลัสซีเมียหรือมีโอกาสเป็นโรคนี้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม น้ำยาที่ใช้ในการทดสอบอัลฟ่าธาลัสเมีย ที่มีจำหน่ายและใช้กันอยู่ในประเทศไทยนั้น มีเฉพาะน้ำยาสำหรับการตรวจ Realtime PCR ได้ 2 ชนิดคือ SEA และ THAI และด้วยหลักการ Conventional PCR ที่ใช้ในปัจจุบัน หากเจ้าหน้าที่ทางห้องปฏิบัติการมีความต้องการที่จะทดสอบ ก็จะต้องเตรียมน้ำยาเอง โดยซื้อส่วนผสมต่าง ๆ มาผสมกัน ซึ่งมีความยุ่งยากและทำให้เกิดความสิ้นเปลือง และที่สำคัญ เมื่อผสมน้ำยาแล้วไม่สามารถเก็บรักษาได้นาน เนื่องจากตัว ไพรเมอร์ที่ผสมกับน้ำยาองค์ประกอบอื่น ๆ แล้วจะมีอายุการใช้งานที่สั้น ทำให้ต้องเตรียมน้ำยา PCR ใหม่ทุกครั้งก่อนทดสอบ

จากปัญหาและอุปสรรคดังกล่าว นักเทคนิคการแพทย์หญิง (ทนพญ.) กอบกร พงศ์จันทรเสถียร นักเทคนิคการแพทย์ และเป็นนักวิจัยหลัก บริษัท วิโทร ไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนโครงการ “ยุววิสาหกิจเริ่มต้น” (TED Youth Startup Fund) โดยกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  จึงได้ทำการวิจัยและพัฒนาสูตรน้ำยาสำเร็จรูปสำหรับทดสอบยีนที่ก่อให้เกิดอัลฟ่าธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นชนิดความผิดปกติของยีนที่พบบ่อยในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยชุดน้ำยาทดสอบนี้มีชื่อว่า “Alpha Promix” โดยใช้เทคนิค Multiplex-Conventional PCR ในการทดสอบ

“การพัฒนาชุดทดสอบนี้ใช้เวลาถึง 5 ปี โดยมีความมุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์เพื่อทำให้การทดสอบ PCR Alpha-thalassemia เป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และสามารถจัดเก็บน้ำยาไว้ได้นานถึง 1 ปี ช่วยให้การทดสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ” ทนพญ.กอบกร กล่าว

ทนพญ.กอบกร กล่าวด้วยว่า สำหรับไพรเมอร์ ที่ใช้ในชุดน้ำยา Alpha Promix นั้น ได้ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยไพรเมอร์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในน้ำยาทดสอบ มีลักษณะเป็นนิวคลีโอไทด์สายเดี่ยวสั้น ๆ ที่ใช้สำหรับตรวจหายีนเป้าหมายในปฏิกิริยา PCR การออกแบบใหม่เพื่อให้การอ่านผลง่ายขึ้นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชุดน้ำยา และได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตชุดตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ISO13485 แล้ว นอกจากนี้ยังได้จดอนุสิทธิบัตร ไว้เป็นที่เรียบร้อย 

ขณะเดียวกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทเอ็มกรุ๊ปโฮลดิ้ง ก็ได้เข้าร่วมลงทุน เพื่อพัฒนาชุดน้ำยา Alpha Promix ให้ได้มาตรฐานสู่ระดับสากลต่อไป เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีความชุกของโรค ได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

‘อ.อุ๋ย ปชป.’ ผนึก อ.ย. – ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ - สภาผู้บริโภค เร่งเอาผิดอาหารเสริมลวงโลก แฉ! บางรายคล้าย ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’

อาจารย์ อุ๋ย ปชป. ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการกับผู้แทนจากราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและสภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อเอาผิดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่โฆษณาหลอกลวง 

เมื่อวานนี้ (28 ต.ค.67) นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการกับคณาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และผู้แทนจากสภาองค์กรของผู้บริโภค โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ คือการทบทวนกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งการป้องกัน ปราบปราม การโอ้อวด หลอกลวงทางการโฆษณาผลิตภัณฑ์ และกระบวนการรักษาใด ๆ ซึ่งแอบอ้างเพื่อใช้ในการป้องกันรักษาโรคตา ที่ไม่ได้มาตรฐาน อย่างยั่งยืน

ซึ่งที่ประชุมได้อภิปรายถึงอุปสรรคของการบังคับใช้กฎหมายเพื่อเอาผิดกับเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่โฆษณาหลอกลวง โดยเฉพาะเกี่ยวกับดวงตา เช่น การอวดอ้างว่ากินแล้วตาใส มองชัด ไม่มัว สายตาดีขึ้น ฯลฯ ซึ่งปรากฏทั่วไปตามแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อความเท็จ และทำให้ผู้บริโภคที่หลงเชื่อ สูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ และขาดโอกาสในการรักษา ทำให้โรคลุกลามจนรักษาได้ยาก หรือรักษาไม่หาย ซึ่งกฎหมายปัจจุบันกำหนดโทษปรับและจำคุกที่ค่อนข้างเบา ทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัว ซึ่งจะต้องมีการเสนอปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่อไป และนายประพฤติได้เสนอให้ใช้ พรบ. คอมพิวเตอร์ ในการเอาผิดการกระทำในลักษณะนี้ เพราะมีโทษที่หนักกว่ากฎหมายอาหาร และพิจารณาทำ MOU กับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และเผยแพร่ความรู้ความเข้าที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภคต่อไป

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเกี่ยวกับดวงตาที่โฆษณาหลอกลวงบางราย ใช้กลยุทธ์การตลาดคล้าย ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ กล่าวคือ มีการจัดสัมมนาอบรม โฆษณาเชิญชวนให้เข้าเป็นสมาชิก ชักชวนให้สร้างเครือข่าย และตอกย้ำถึงความร่ำรวยอย่างรวดเร็วจากการเข้าร่วมเครือข่าย ซึ่งจะต้องให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ทำการเฝ้าระวังและสืบสวนสอบสวนในเชิงลึกเพื่อดำเนินการป้องปรามต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนเป็นวงกว้างซ้ำรอยคดีดิไอคอนกรุ๊ป  

ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย เริ่มก่อตั้งเมื่อ ปี พ.ศ. 2499 เป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของแพทยสภา ทำหน้าที่ฝึกอบรมแพทย์ทั่วไปที่ต้องการประกอบวิชาชีพเป็นจักษุแพทย์ กำหนดและควบคุมมาตรฐานทางวิชาการในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมของจักษุแพทย์และเผยแพร่ความรู้ทางจักษุวิทยา อันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนและแก่วิชาชีพเวชกรรม

‘รองนายกฯ ภูมิธรรม’ ให้การต้อนรับ ‘ทูตรัสเซีย’ ร่วมหารือทั้งเศรษฐกิจ - การค้า – การลงทุน - ความมั่นคง

‘ภูมิธรรม’ ต้อนรับ นาย Evgeny Tomikhin (เยฟเกนี โตมีฮิน) เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย พร้อมร่วมหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งด้านเศรษฐกิจ - การค้า – การลงทุน - ความมั่นคง

(30 ต.ค.67) ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นาย Evgeny Tomikhin (เยฟเกนี โตมีฮิน) เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าแนะนำตัวและแสดงความยินดีในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม 

โดยรมว.กลาโหม ได้กล่าวต้อนรับและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับ เอกอัครราชทูต สหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อแสวงหาแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน

ทั้งนี้ ไทยและรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งสอง ประเทศได้ก้าวเข้าสู่ปีที่127 ในปีนี้(เริ่มตั้งแต่ 3 ก.ค.2440) ซึ่งทั้งสองฝ่ายยึดถือการเสด็จประพาสรัสเซีย ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ โดยทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกมิติทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง สังคม และวัฒนธรรม รวมถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิด ในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ทั้งยินดีที่ปี 2567 เป็นปีแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ไทย - รัสเซีย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมพลวัตความร่วมมือที่สร้างสรรค์ อันเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจ และความใกล้ชิดในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ 

นอกจากนี้ รมว.กลาโหม ยังได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ทางทหารระหว่าง ไทย - รัสเซีย ที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายหลังจากที่มีการลงนามความตกลงระหว่าง รัฐบาลไทยกับรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือด้านการทหาร เมื่อปี 2559 ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการขยายขอบเขตกิจกรรมความร่วมมือระหว่างกันให้มีพลวัตมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในห้วงที่ผ่านมา กองทัพไทยและกองทัพ รัสเซียได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนและกิจกรรมความร่วมมือที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งด้านการฝึก ศึกษาทางทหาร ด้านการส่งกำลังบำรุงและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การประชุมระดับฝ่ายเสนาธิการของกองบัญชาการ กองทัพไทยและเหล่าทัพ การแลกเปลี่ยนระหว่างผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ การเยี่ยมเยือนเมืองท่า ตลอดจน กิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนถึงการมีพลวัตมากขึ้นของความสัมพันธ์ระหว่างกัน

‘ซูนึง’ สอบเข้ามหาวิทยาลัยเกาหลีใต้ วันชี้อนาคตเด็กเกาหลีที่ทั้งประเทศแทบหยุดนิ่ง

(31 ต.ค. 67) ในโอกาสครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์โศกนาฏกรรมฝูงชนเบียดกันเสียชีวิตมากถึง 158 คน ที่ย่านอิแทวอน กรุงโซล เกาหลีใต้ 

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมฮาโลวีนอีแทวอนในครั้งนั้น คือภาพสะท้อนสังคมเกาหลีใต้ได้ชัดเจน

โดยเพจเฟซบุ๊กของ Pornpichit Samaktham ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2565 หรือวันนี้ เมื่อ 2 ปีก่อนไว้อย่างน่าสนใจว่า วันนี้ขอพูดเรื่องต้นตอการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้

คนเกาหลีไม่กลัวคนเยอะ เพราะสังคมสอนให้ผู้แกร่งถึงจะรอด ไม่กลัวคิว 3 ชม. ไม่กลัว ยัดแย่งกันบนรถไฟฟ้า ไม่กลัวเรียนหนัก ทำงานหนัก หรือ แม้กระทั่งบนรถไฟฟ้า ไม่มีผู้ชายหนุ่มๆ เสียสละให้คนแก่ นักเรียน ผู้หญิง นั่งก่อน ต้องแย่งกันนั่ง

ทำให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่อิแทวอน เบียดเสียดแย่ง เป็นเรื่องธรรมดา คนยิ่งเยอะยิ่งชอบ

เท่าที่คุยกับคนเกาหลีมา ผมขอสรุปภาษาชาวบ้านง่ายๆ ว่าคนเกาหลีสะสมความเครียดจากการศึกษา ทำงาน สังคม ต้องปลดปล่อยในเรื่องบันเทิงแบบสุดๆ เพราะเก็บสะสมความเครียดมาจากเรื่องข้างต้น

คนเกาหลีดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก มากกว่าคนรัสเซียเสียอีก ดื่มกันตั้งแต่เด็ก นักศึกษาจนวัยทำงาน ทั้งเพศชายและหญิง

มาดูเรื่องการศึกษา

จีนสอบเกาเข่า ไทยสอบ GAT - PAT ส่วนเกาหลีใต้ก็มีสอบซูนึง ในการเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย

"การสอบซูนึง"

นี่คือการวัดอนาคต นักเรียนมัธยมปลาย ใช้เวลา แค่ 8 ชั่วโมง บ่งบอกทั้งชีวิตของคนเกาหลีใต้

การสอบซูนึง ของเด็ก ม.6 หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว วัดทุกอย่างที่เรียนมาทั้งชีวิต ไม่มีโอกาสให้แก้ตัว เป้าหมายการเข้ามหาวิทยาลัยดัง มีเวลาแค่ 8 ชั่วโมงเท่านั้น

เพราะฉะนั้น วันสอบซูนึง คือวันสำคัญของประเทศเกาหลีใต้ แนะนำนักท่องเที่ยวควรเลี่ยงวันนี้ เพราะจะมีเหตุการณ์ไม่ปกติของประเทศนี้เกิดขึ้น เด็กกว่า 600,000 คน แยกย้ายกันไปกว่า 1,200 สนามสอบทั่วประเทศ 

วันนี้เครื่องบินไฟล์ต่างประเทศ ในประเทศ ตลาดหุ้น ช็อปปิ้งมอลล์ ต้องเลื่อนเวลาทำการ เพื่อไม่ให้กระทบสมาธิของเด็ก

รถไฟฟ้า รถเมล์ ขนส่งสาธารณะ ขยายเวลาทำการ เพื่อบริการเด็กมาถึงสนามสอบให้ทัน 

ส่วนตำรวจห้ามลาเด็ดขาด ทุกคนต้องมาประจำบนถนน เพื่อรับส่งเด็กเข้าห้องสอบให้ทันทุกกรณี

ส่วนผู้ปกครองปู่ย่าตายาย มีหน้าที่สวดมนต์ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่ออนาคตของลูกหลาน จะได้ประสบความสำเร็จ ต่างคนต่างต้องช่วยกัน

และแน่นอนว่า ถ้าใครไม่ทันสนามสอบในวันนี้

หมายถึงอนาคตดับวูบไม่ได้แก้ตัว ไม่มีมหาวิทยาลัยรองรับ  ต้องสอบใหม่ปีหน้า หรือไปเรียนต่างประเทศ หรือ ไม่เรียนต่อเลย 

ส่วนวันเวลาสอบ คือ สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี

มาดูกันเขาสอบซูนึงหรือ CSAT ( College Scholastic Ability Test) มีวิชาอะไรกันบ้าง

ภาษาเกาหลี คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ นี่เป็น 3 วิชาหลัก และมีวิชาเลือกอื่น ๆ ตามสาขา เช่น วิทยาศาสตร์ สังคม ประวัติศาสตร์เกาหลี และภาษาที่ 3 อื่นๆ

ที่นั่นแบ่งเป็นสายวิทยาศาสตร์ และสายศิลป์เหมือนบ้านเรานี่แหละ

นักเรียนเกาหลีใต้ออกจากบ้านไปติว 7-8 โมงเช้ากลับมาบ้านก็ 4 ทุ่มเข้านอนกันเลย เรียกว่าเด็กไทยชิดซ้าย

ขนาดซีรีส์เกาหลียังทำหนังเกี่ยวกับเส้นทางเข้า 3 มหาวิทยาลัยดังชั้นนำของประเทศเลย อย่างเรื่อง Reach for the Sky  
https://youtu.be/JCVI4b96m5I
นี่คือวาระแห่งชาติเกาหลีใต้จริงๆ

อัญเชิญ ‘พระเขี้ยวแก้ว’ วัดหลิงกวง ให้คนไทยได้สักการะ ตอกย้ำสัมพันธ์แน่นแฟ้น “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”

(31 ต.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน : พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง ณ กรุงปักกิ่งจะไปประดิษฐานที่ประเทศไทย

มีผู้สื่อข่าวตั้งคำถามว่า มีการรายงานว่า รัฐบาลไทยจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง ณ กรุงปักกิ่งไปประดิษฐานที่ประเทศไทย ฝ่ายจีนสามารถยืนยันในประเด็นนี้ได้หรือไม่ และมีความคิดเห็นอย่างไร?

นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุว่า ตามคำเชิญของรัฐบาลไทย เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ (72 พรรษา) และเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทยในปีพ.ศ. 2568 ฝ่ายจีนมีความยินดีที่จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง ณ กรุงปักกิ่งไปประดิษฐานที่กรุงเทพฯ เป็นระยะเวลา 73 วัน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568

หลังจากสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สถาปนาขึ้น พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวงได้เคยถูกอัญเชิญไปประดิษฐานในต่างประเทศถึง 6 ครั้ง และได้รับความศรัทธาอย่างกว้างขวางจากพุทธศาสนิกชนในประเทศที่อัญเชิญ เชื่อว่าการประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ในประเทศไทยครั้งนี้จะเสริมสร้างความสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนระหว่างพุทธศาสนิกชนของจีนและไทย เสริมสร้างความหมายของประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-ไทย ส่งเสริมแนวคิด “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ให้หยั่งรากลึกในหัวใจของประชาชนมากยิ่งขึ้น

สำหรับ พระเขี้ยวแก้ว ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเพียง 2 องค์บนโลกมนุษย์นี้ ซึ่ง 1 ในนั้นอยู่ที่วัดหลิงกวง วัดเก่าแก่อายุนับ 1,000 ปี ตั้งอยู่ในเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน โดยจะอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ไทย เป็นเวลา 73 วัน ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากได้เคยอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ พุทธมณฑล ที่ประเทศไทยครั้งแรกในปี 2545  ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นสิริมงคลยิ่งต่อพุทธศาสนิกชน ทั้งชาวไทยและชาวจีนในประเทศไทยที่มีโอกาส เข้าสักการะโดยไม่ต้องเดินทางไป ถึงกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน 

'ลูเวิน' ทีมลีกเบลเยียม ยุติสัญญายืมตัว 'ศุภณัฏฐ์' คืนต้นสังกัด 'บุรีรัมย์' คาดจะถูกส่งลงเล่นถ้วยเอเชียทันที

(1 พ.ย. 67) โอเอช ลูเวน ทีมในลีกสูงสุดของเบลเยียม ประกาศยุติสัญญายืมตัว “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าทีมชาติไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย

ดาวยิง วัย 22 ปี ได้กล่าวอำลาเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอล หลังจากลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับ โอเอช ลูเวิน ในเกมเปิดบ้านชนะ อาร์เอฟซี เซแร็ง ในศึกฟุตบอลถ้วย โครกี้ คัพ ที่ คิง เพาเวอร์ แอท เดน ดรีฟ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ศุภณัฏฐ์ ย้ายมาอยู่กับ โอเอช ลูเวน ทีมจูปิแลร์ลีก เบลเยียม เมื่อเดือนกันยายน 2023 ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล ก่อน โอเอช ลูเวิน ยื่นข้อเสนอต่อสัญญายืมตัวอีก 1 ฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2024/25 ศุภณัฏฐ์ ได้รับโอกาสลงสนามในลีกเพียง 61 นาที ก่อนตัดสินใจร่วมกันยกเลิกสัญญาด้วยดีทั้งสองฝ่าย

ศุภณัฏฐ์ ลงสนามให้ ลูเวน ไป 17 เกม ยิงไป 1 ประตู ตลอด 2 ฤดูกาลกับทีม โดยล่าสุดเจ้าตัวถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริง ในฟุตบอลโครกี้ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ที่ชนะ เซแร็ง 2-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สำหรับ “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าทีมชาติไทย จะกลับมาเล่นให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง และจะสามารถลงเล่นในเกม ACL Elite ได้ทันที

‘ลุงจรูญ’ ยังไว้ใจ ‘ทนายตั้ม’ ทำคดีต่อ ชี้ เป็นปัญหาส่วนตัวไม่ขอก้าวก่าย

‘ลุงจรูญ’ หวย 30 ล้าน เปิดใจยังไว้ใจ ‘ทนายตั้ม’ ทำคดีฟ้องกลับ ยืนยันไม่เคยถูกเรียกเงินเพิ่มเหมือนอย่างที่หลายคนโจมตี พร้อมไม่ขอก้าวก่ายปัญหาส่วนตัว

หลังจากที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ‘ทนายตั้ม’ กำลังถูกคู่กรณีหลายฝ่ายออกมาให้ข้อมูลเชิงลบ ทั้งเรื่องของการโอนเงิน 71 ล้านบาท จากเจ๊อ้อย รวมถึงถูกอดีตคู่กรณีหลายคน ออกมาแฉพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้มีโอกาสพูดคุย กับร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล หรือ ‘ลุงจรูญ’ ที่ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ในคดีหวย 30 ล้านกับทนายตั้มมายาวนานกว่า 7 ปี จนชนะคดีไปแล้ว และยังเหลือคดีฟ้องกลับที่ยังมีการฟ้องร้องกันอยู่นั้น

โดยลุงจรูญ กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวที่ทนายตั้มโดนโจมตี อยู่ในขณะนี้ ตนเองก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับทนายตั้ม ที่เดินทางมาว่าความให้ตนเองเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งทางทนายตั้มก็ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกเครียดหรือหนักใจอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองก็ได้แต่สอบถามว่ายังไหวหรือไม่ ซึ่งทนายตั้มก็ยืนยันกับตนเองว่าไม่มีปัญหาอะไร ไม่น่าหนักใจอะไร ส่วนเรื่องรายละเอียดนั้นตนเองก็ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายมาก

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการทำคดีหวย 30 ล้าน ซึ่งทนายตั้มเป็นทนายให้กับลุงจรูญมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้กว่า 7 ปีแล้วนั้น ลุงจรูญยืนยันว่า การให้ทนายตั้มมาเป็นทนายให้ มีการพูดคุยตกลงราคากันไว้ตั้งแต่เริ่มแรก โดยไม่ได้มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอะไร แต่ทนายตั้มก็ไม่ได้มีการเรียกเงินเพิ่ม หรือคิดเงินส่วนต่างใดๆเพิ่มเติมจากที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก ซึ่งสำหรับตนเองแล้ว ถือว่าทนายตั้มเป็นคนรักษาสัญญาลูกผู้ชาย และตนเองยังยืนยันว่า ในส่วนของคดีที่จะฟ้องกลับคู่กรณี ในคดีหวย 30 ล้าน ทำคดีให้กับตนเองต่อไป ไม่มีความคิดจะเปลี่ยนแปลงทนายความ อย่างแน่นอน

สะพัด!! จนท.กะเหรี่ยง เมายิงกันเองบาดเจ็บดอดรักษาในไทย พบใช้ช่องทางธรรมชาติ แต่ทางฝั่งไทยยังไม่เข้าคุมตัวฐานข้ามแดนผิด กม.

(4 พ.ย. 67) มีรายงานเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เวลา 20.30 น. ว่าเจ้าหน้าที่เก็บภาษีใน อ.กอกาเร็ก จ.ดูปลายา สังกัดกลุ่ม KNU เกิดการทะเลาะวิวาทยิงกับ กำลังพลของกองพลน้อยที่ 3 กองกำลังโกลทูบอ สังกัด DKBA ในบริเวณพื้นที่ ด่านตรวจร่วมท่าทราย-บ้านวาเล่ย์ใหม่ หมู่บ้านวาเล่ย์ใหม่ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย คือ นายน่อวา เจ้าหน้าที่เก็บภาษีประจำ อำเภอกอกาเร็ก จังหวัดดูปลายา ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณลำตัว 1 นัด และ แขน 1 นัด และร้อยโท เลโท ผู้บังคับหมวดกองพลน้อยที่ 3 สังกัดกองกำลังโกลทูบอของ DKBA ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณศีรษะ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ต่อมาเวลา 21.00 น. นายน่อวา ได้ถูกส่งตัวผ่านช่องทางธรรมชาติท่าทราย มารักษาพยาบาลที่ โรงพยาบาลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก จนพ้นขีดอันตราย

ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานการถูกควบคุมตัวจากทางการไทยในการข้ามแดนผิดกฎหมายแต่อย่างใด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top