Monday, 20 May 2024
News

ฝันสลายของ 'ฮันเลย์'…ลี้ภัยในไทย ไม่ง่ายอย่างที่คิด วัดใจนายจ้าง หาแนวทางเสี่ยงต่ออายุวีซ่าเข้ามาทำงาน

ผ่านมา 10 วันตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนจนถึงวันที่ 13 เมษายนที่มีหมายจับประกาศลงใน The Global New Light of Myanmar ซึ่งตอนนี้  แต่ไม่มีชื่อของ Han Lay นางงามมิสแกรนด์ของเมียนมาถูกประกาศจับแต่อย่างใด  และจากนี้เหตุผลที่จะขออยู่ในประเทศไทยต่อด้วยสาเหตุใด 
       
   
   
   
 
คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 327/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณา กรณีคนต่างด้าวขออนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว จะพิจารณาจากเหตุดังต่อไปนี้คือ
1.    กรณีมีเหตุจำเป็นทางธุรกิจ เช่น จะต้องอยู่ปฏิบัติงานในบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน เป็นต้น
2.    กรณีมีเหตุจำเป็น จะต้อง อยู่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง
3.    กรณีมีเหตุจำเป็น จะต้อง อยู่ปฏิบัติงาน ในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
4.    กรณีเพื่อการท่องเที่ยว
5.    กรณีเพื่อการลงทุน
6.    กรณีเป็นครู หรืออาจารย์ หรือผู้สอน หรือ ผู้เชี่ยวชาญ หรือบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ของรัฐหรือเอกชน
7.    กรณีเพื่อศึกษาใน สถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน
8.    กรณีเพื่อฝึกสอน หรือ ค้นคว้าวิจัยในสถาบันการศึกษาในราชอาณาจักรหรือสถาบันวิจัย
9.    กรณีเป็นครอบครัว (เฉพาะบิดา มารดา คู่สมรส (ชาย-หญิง) บุตร บุตรบุญธรรม หรือบุตรของคู่สมรส) ของ คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อศึกษาในสถานศึกษาตาม หลักเกณฑ์ข้อ 7
10.    กรณีปฏิบัติหน้าที่ สื่อมวลชน
11.    กรณีศึกษาพระพุทธ ศาสนา หรือปฏิบัติศาสนกิจหรือเผยแพร่ศาสนา
12.    กรณีเป็นช่างฝีมือ หรือ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ การพยาบาล หรือสาขาวิชาชีพ ต?างๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับคนไทย
13.    กรณีเพื่อติดตั้ง หรือ ซ่อมแซม เครื่องจักร อากาศยาน หรือเรือเดินทะเล
14.    กรณีเป็นนักแสดง นักร้อง นักดนตรี ประจำโรงแรม หรือ ประจำบริษัทที่ประกอบธุรกิจ บันเทิงในประเทศไทย ซึ่งมีทุน จดทะเบียนชำระเต็มมูลค่า ไม่น้อยกว่า ๒๐ ล้านบาท
15.    กรณีเป็นครอบครัวของ ผู้มีสัญชาติไทย (เฉพาะบิดา มารดา คู่สมรส (ชาย-หญิง) บุตร บุตรบุญ ธรรม หรือบุตรของคู่สมรส)
16.    กรณีเป็นครอบครัวของ ผู้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (เฉพาะบิดา มารดา คู่สมรส (ชาย-หญิง) บุตร บุตรบุญธรรม หรือบุตร ของคู่สมรส)
17.    กรณีเป็นครอบครัวของ คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ตามหลักเกณฑ์ข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ยกเว้นกรณีที่มาท่องเที่ยว
18.    กรณีมีเหตุจำเป็นจะต้อง อยู่ปฏิบัติงานในองค์การกุศล สาธารณะ องค์การเอกชน ต่างประเทศ มูลนิธิ สมาคม หอการค้าต่างประเทศ สภาหอ การค้าแห่งประเทศไทย หรือสภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
19.    กรณีใช้ชีวิตในบั้นปลาย
20.    กรณีกลับภูมิลำเนาเดิมของผู้เคยมี สัญชาติไทย หรือของผู้ที่มีบิดา หรือมารดาเป็นบุคคลสัญชาติ ไทยหรือเคยมีสัญชาติไทย
21.    กรณีเพื่อเยี่ยมคู่สมรส (ชาย-หญิง) หรือเยี่ยมบุตรซึ่งมีสัญชาติไทย
22.    กรณีเพื่อรับการรักษา พยาบาล หรือการพักฟื้น หรือ เพื่อดูแลผู้ป่วย
23.    กรณีเพื่อการดำเนินคดี หรือดำเนินกระบวนพิจารณา อันเกี่ยวกับคดี
24.    กรณีปฏิบัติหน้าที่หรือ ภารกิจให้แก่ส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือสถานทูต หรือสถานกงสุล หรือองค์การระหว่างประเทศ
25.    กรณีมีเหตุจำเป็น โดยมี สถานทูต หรือสถานกงสุล ให้ การรับรองและร้องขอ
26.    กรณีเพื่อพิสูจน์สัญชาติ
27.    กรณีเป็นนักแสดง นักร้อง นักดนตรี ผู้ควบคุมการแสดง ตลอดจนผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับ การแสดงเพื่อการบันเทิง หรือ มหรสพ โดยมาเปิดการแสดง เป็นครั้งคราว
28.    กรณีเป็นนักกีฬาอาชีพ หรือบุคคากรที่เกี่ยวข้องด้านกีฬาอาชีพ

ถามว่าสำหรับนางงามคนนี้แล้ว  ตอนเข้ามาประกวดในประเทศไทยน่าจะใช้วีซ่าตามหลักเกณฑ์ของข้อ 27  ซึ่งจะต้องมีการยื่นสำเนาใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และหนังสือรับรองและขอให้อยู่ต่อจากภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง  โดยวีซ่าที่ได้นั้นมีอายุเพียง 90 วันเท่านั้น  ดังนั้นเมื่อการประกวดจบลงหนังสือรับรองเพื่ออยู่ต่อจากบริษัทที่ใช้สำหรับการประกวดจึงใช้ไม่ได้อีกต่อไป  

ดังนั้นหากทางคุณ ณ. ต้องการให้เธออยู่ในไทยนานกว่านั้นด้วยเหตุผลแห่งการลี้ภัยอะไรก็ตามจะต้องยื่นขอวีซ่า  กรณีเป็นนักแสดง นักร้อง นักดนตรี ประจำโรงแรม หรือ ประจำบริษัทที่ประกอบธุรกิจบันเทิงในประเทศไทย ซึ่งมีทุน จดทะเบียนชำระเต็มมูลค่า ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท  โดยหากได้รับอนุมัติจะสามารถอยู่ในไทยได้ถึง 120 วัน ซึ่งเอกสารในการประกอบการขอวีซ่าประกอบไปด้วย สำเนาใบอนุญาตทำงาน, สำเนาหนังสือสัญญาว่าจ้างผู้ยื่นคำขอ ทำงานเป็นนักแสดง นักร้อง หรือนักดนตรี, สำเนาหลักฐานการจดทะเบียนขององค์กร นั้นๆ เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียน บริษัท หรือการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน ฉบับนายทะเบียนรับรองไม่เกิน 6 เดือน, สำเนาแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่มีชื่อคนต่างด้าวผู้ยื่นคำขอ เดือนล่าสุด พร้อมใบเสร็จรับเงิน รวมถึงสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคล ธรรมดา ของคนต่างด้าวผู้ยื่นคำขอ ปีล่าสุด พร้อมใบเสร็จรับเงิน  และค่าวีซ่าที่น่าจะราคาค่อนข้างสูงเอาเรื่องพอสมควร  ดังนั้นทางฝั่งไทยควรพิจารณาถึงความคุ้มได้คุ้มเสียของบริษัทที่ยื่นทำวีซ่าให้ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เธอคนนั้นต้องการคือลี้ภัยจากบ้านเกิดตัวเอง  

โดย : AYA IRRAWADEE

"คนพิการ" ป่วยติดเตียง จาก "ผู้รับ"เป็น "ผู้ให้" แบ่งปันรถวีลแชร์ให้ผู้อื่นนำไปใช้งาน

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ณ บ้านเลขที่ 10/4 ม.17 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และ ตำแหน่ง คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน  ได้รับการประสานจาก "นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร" ผู้อำนวยการข่าวจังหวัดสมุทรปราการ (หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์) แจ้งว่า นายชิดชัย สมสนิท (คนพิการ) ขาทั้ง 2 ข้างลีบ สายตาทั้ง 2 ข้าง มองเห็นแบบเลือนลาง เนื่องจาก "ติดเชื้อราในสมอง" จึงทำให้ต้องเป็นคนพิการติดเตียง และอาศัยอยู่กับ "แม่" ก็เป็นคนพิการ นิ้วมือหัวแม่โป้งขาด อาศัยอยู่ภายในบ้านไม้ที่มีสภาพทรุดโทรม ผุพัง และอยู่กันแบบตามมีตามเกิด

โดย "นายชิดชัย สมสนิท" (คนพิการ) ติดต่อ ประสานไปยัง "นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร" ว่า "ผมมีรถวีลแชร์อยู่ 2 คัน" คันหนึ่งเป็นคันเก่า ส่วนอีกคันหนึ่งเป็นคันที่มีสภาพใหม่ ซึ่งได้รับบริจาคมาจาก "ผู้ใจบุญ" ตนเองคิดว่า รถวีลแชร์คันเก่าก็ยังสามารถใช้งานที่เหมาะสมกับสภาพความพิการของตนเองอยู่ จึงอยากจะนำรถวิลแชร์คันใหม่ที่ได้รับบริจาคมานั้น นำไปบริจาคต่อให้กับคนพิการหรือผู้สูงอายุ ที่มีความจำเป็นใช้รถวิลแชร์ ตนเองมองว่าน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า และเข้าใจถึงความลำบากในหัวอกคนพิการด้วยกัน ที่บางคนไม่มีรถวีลแชร์ และบางคนต้องนอนป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ และที่สำคัญอยากพบหน้า "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมฯ เพราะทราบว่า นายกฯเป็นคนชอบช่วยเหลือคนพิการ คนยากไร้ จึงอยากจะพบเพื่อส่งต่อมอบรถวีลแชร์ให้ด้วยตนเอง

ในการนี้ "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมฯ ได้ให้คำปรึกษา เกี่ยวกับ "สิทธิของคนพิการ" เช่น เบี้ยความพิการ / การกู้ยืมเงินจากกองทุนฯ / การศึกษา / การจ้างงานคนพิการ / การปรับสภาพที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นเสมือนสิทธิและสวัสดิการ ที่ทางภาครัฐมีไว้ช่วยเหลือคนพิการตามกฎหมาย และท้ายสุด นายกสมาคมฯ กล่าวให้กำลังใจ "คนพิการทั้ง 2 คนนี้ ขอให้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง อย่าย่อท้อต่อชะตาชีวิต ถึงเราจะเป็น "คนพิการ" แต่เราก็สามารถช่วยเหลือสังคม และประเทศชาติ ได้เช่นเดียวกับคนปกติ นั่นคือ "การทำความดี ด้วยใจบริสุทธิ์" และขอขอบพระคุณในน้ำใจไมตรี ที่มีจิตใจคิดเพื่อเผื่อแผ่ "รถวีลแชร์ มอบให้กับผู้อื่นโดยรู้จักความพอเพียงและเพียงพอ สิ่งที่ท่านทั้ง 2 คน กระทำในวันนี้จะนำพาให้ท่านทั้งสองมีความสุข มีความเจริญ มีสุขภาพจิตใจที่ดี และขอให้คงคุณงามความดีอย่างนี้ไปตลอด และหากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ทางข้าพเจ้าจะช่วยเหลือได้ก็มีความยินดีที่จะรับใช้ และะติดต่อมาได้ตลอดเวลา

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลเจ้าไต้ฮงกงแห่งที่ 2 “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” เนื่องในโอกาสครบรอบ การก่อตั้ง 110 ปี ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของมูลนิธิฯ ด้านกิจกรรมทางศาสนา และกิจกรรมเพื่อสังคม

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 64 เวลา 11.10 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ และนายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ เป็นประธานร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์และลงเสาเอกสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิ

ป่อเต็กตึ๊ง แห่งที่ 2 ภายใต้ชื่อ “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” ประดิษฐานองค์ไต้ฮงกงหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในการจัดกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมเพื่อสังคม อีกทั้งสามารถรองรับสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการกราบไหว้บูชาองค์ไต้ฮงกงซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยมี คณะกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ ร่วมในพิธี ณ สถานที่ก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) ถนนเจริญราษฎร์ เขตสาทร กรุงเทพฯ

นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ไม่แสวงหากำไร ดำเนินงานบรรเทาสาธารณภัยและงานสาธารณสงเคราะห์ตามแนวจริยวัตรขององค์ไต้ฮงกง พระนักพัฒนาและนักสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขแก่เพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ยากไร้ ทุกชนชั้น ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ไม่เลือกเพศและวัย เนื่องในโอกาสครบรอบ 110 ปีของการก่อตั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้มีมติ ให้สร้างศาลเจ้าไต้ฮงกงขึ้นใหม่อีกแห่งหนึ่งในพื้นที่ 4 ไร่ 17 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินของมูลนิธิฯ ติดกับด้านหลังของสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อเป็นถาวรวัตถุอนุสรณ์และเป็นพุทธสถานไต้ฮงกงอีกแห่งหนึ่ง ที่มีพื้นที่กว้างขวางในการทำกิจกรรมทางศาสนาและงานสังคมสงเคราะห์ เนื่องจากสถานที่เดิมเป็นสถานที่เช่า มีพื้นที่ไม่ถึง 300 ตารางวา และไม่สามารถขยายพื้นที่เพื่อรองรับสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาและผู้ที่มาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีเป็นจำนวนมากได้

ทั้งนี้ สำหรับการจัดพิธีวางศิลาฤกษ์และลงเสาเอกสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) ในวันนี้ มูลนิธิฯ ได้ประสานกับหน่วยงานภาครัฐ พร้อมจัดพิธีภายใต้มาตรการการควบคุมโรคที่ราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด

สำหรับศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร) แห่งนี้ จะเป็นที่ประดิษฐานขององค์ไต้ฮงกงหยกขาวแกะสลักน้ำหนัก 50 ตัน ความสูง 3 เมตร ฐานหน้า ตักกว้าง 2.60 เมตร ตั้งบนฐานหยกขาวซึ่งสลักจากหินหยกขาวก้อนเดียวกันจากประเทศจีน ฐานหยกขาวสูงจากพื้น 1.20 เมตร รวมองค์ไต้ฮงกงและฐานตั้ง มีความสูงรวม 4.20 เมตร นับเป็นองค์ไต้ฮงกงหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  โดยคุณอุทิศ ชัยลือกิจ (ฉั่วเตาะเม้ง) เป็นผู้จัดสร้างและบริจาคให้แก่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนท่านสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญก่อสร้าง “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” ตามแต่กําลังศรัทธา เพื่อร่วมกันจรรโลงศาลเจ้าไต้ฮงกงแห่งใหม่นี้ ให้เป็นพุทธสถานของชาวพุทธเราอีกแห่งหนึ่ง ท่านสามารถร่วมทำบุญ โดยติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-225-0020 ต่อ 366 ข้อมูลศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

พลังศรัทธาองค์หลวงปู่ไต้ฮงในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นจากเมื่อปี พ.ศ.2439 นายเบ๊ยุ่น ได้อัญเชิญรูปจำลองหลวงปู่ไต้ฮงจากอำเภอเตี้ยเอี้ย มายังประเทศไทย ประดิษฐานอยู่ที่ร้านกระจกย่านวัดเลียบ ผู้คนเมื่อทราบต่างก็พากันมาสักการบูชาที่จำนวนมาก จนต้องย้ายไปประดิษฐานที่ซอยดอนกุศล ถนนเจริญกรุง  ช่วงนั้นเกิดโรคระบาดประชาชนต่างมากราบไหว้หลวงปู่ เพื่อช่วยให้คุ้มครองปลอดภัยและหายจากโรค ทำให้เกิดความศรัทธา บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากและจัดการเก็บศพอนาถาไปฝัง ต่อมาในปี 2452-2453 พระอนุวัตร์ราชนิยม (ฮง เตชะวณิช) ได้ร่วมกับพ่อค้าคหบดี รวม 12 ท่าน ได้เห็นความสำคัญและประโยชน์แห่งกุศลเจตนาของผู้เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ไต้ฮง จึงจัดตั้งคณะเก็บศพไต้ฮงกงขึ้น พร้อมสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกงขึ้นที่บริเวณถนนพลับพลาไชย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เพื่อประดิษฐานองค์หลวงปู่ไต้ฮง  เมื่อศาลเจ้าไต้ฮงกงสร้างเสร็จสมบูรณ์ ได้อัญเชิญรูปจำลองของหลวงปู่ที่นายเบ๊ยุ่น คหบดีนำมาจากประเทศจีนมาประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าไต้ฮงกงเป็นการถาวร  โดยศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตั้งอยู่ที่ 326 ถนนเจ้าคำรพ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ 10100

ติดต่อสอบถามหรือติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง www.facebook.com/atpohtecktung

#ถึ ง จ ะ ต้ อ ง อ ยู่ ห่ า ง ...แต่เราพร้อมเคียงข้างคุณเสมอ

#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง110ปีความดีที่ยั่งยืน

#ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418

#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

 

ผบ.ตร.เข้ม!! สั่งจัดตั้งสถานีส่วนย่อยโค้งดงตาล หาดจอมเทียน หลังนักท่องเที่ยวหนาแน่น และมีชุมชนขนาดใหญ่มาก แต่ห่างไกลจากโรงพักหลัก

ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม “สถานีตำรวจสาขาย่อยโค้งดงตาล หาดจอมเทียน” ตามโครงการจัดตั้งสถานีส่วนแยก เพื่อบริการประชาชนอย่างทั่วถึง และลดความแออัด​ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ไม่นานมานี้​ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้แก่ คณะทำงานนโยบายการพัฒนางานป้องกันและปราบปราม โดยมี พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ให้ดำเนินการโครงการจัดตั้งสถานีย่อยส่วนแยก เพื่อกระจายการบริการสู่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดความแออัดของสถานีตำรวจหลัก ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชนอย่างทั่วถึง และเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นจะเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว

ด้าน​ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 มิถุนายน 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและตรวจสอบความพร้อมการเปิดให้บริการ 'สถานีตำรวจภูธรย่อยโค้งดงตาล'​ ถนนเลียบชายหาดจอมเทียน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นโครงการนำร่องแห่งที่ 2 โดยมี พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2, พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ร่วมรับฟังบรรยายสรุปวัตถุประสงค์ของโครงการ

สำหรับ สถานีตำรวจภูธรย่อยโค้งดงตาล เป็นสถานีตำรวจส่วนแยกของสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา พิจารณาการเลือกพื้นที่ที่มีประชากรและนักท่องเที่ยวหนาแน่น เป็นชุมชนขนาดใหญ่ และห่างไกลจากโรงพักหลักพอสมควร หากมีเหตุฉุกเฉินตำรวจจะใช้เวลานานกว่าจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งสถานีตำรวจภูธรย่อยดงตาล เป็นการเพิ่มกำลังการให้บริการประชาชนครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด มีตำรวจให้บริการ แบบครบวงจร ทั้งฝ่ายสอบสวน ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายสืบสวน ห้องควบคุมผู้ต้องหา

โดย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังให้คำแนะนำในการติดตั้งอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีระดับสูง เพื่อควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการป้องกันอาชญากรรม สำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ยังอยู่ระหว่างหารือกับเมืองพัทยาและทดลองระบบ ในการวางแนวทางจัดทำ Smart City และ Safety Zone เพื่อให้การป้องกันปราบปราม การดูแลนักท่องเที่ยวเกิดประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจในการเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของประเทศมากขึ้นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างตรวจเยี่ยม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังให้คำแนะนำในการสรรหาอาสาสมัครตำรวจที่มีมาตรฐาน เพื่อมาช่วยงานตำรวจ โดยกำหนดมาตรฐานทั้งในเรื่องการทำงานร่วมกับตำรวจ การกำหนดเครื่องแบบ เครื่องอุปกรณ์ ให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงาน และเพิ่มปริมาณบุคลากรที่ช่วยเหลืองานตำรวจที่ได้ทั้งปริมาณ และคุณภาพที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน

อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการจัดตั้งสถานีส่วนแยก จะได้ขยายการดำเนินการไปในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อการให้การบริการ และการควบคุมสถานการณ์ด้านอาชญากรรมที่ครอบคลุม เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในด้านการป้องกันและการปราบปรามอาชญากรรม

 

พิธีเปิดโครงการฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มสมรรถนะด้านการอำนวยความสะดวก และให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

วันนี้ (16 มิ.ย. 2564) เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในฐานะโฆษกของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้เปิดเผยว่า กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้จัดให้มีการฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว (แบบออนไลน์) ณ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดยโครงการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้อาสาสมัครเหล่านี้มาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยวดูแลนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ และในโอกาสนี้ กองบัญชาการตำรวจตำรวจท่องเที่ยวได้รับเกียรติจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา มาเป็นประธานเปิดพิธีด้วย

​โดยก่อนการเปิดฝึกอบรมอย่างเป็นทางการนั้น พล.ต.ท.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้กล่าวรายงานว่า เพื่อให้การอำนวยความสะดวก การคุ้มครอง การรักษาชีวิตและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องต่อนโยบายขององค์การการท่องเที่ยวโลก อันเป็นการเตรียมการในช่วงเวลาแห่งการซ่อมและสร้าง เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวกลับมาในอนาคต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกำลังพลภาคประชาชนที่มีทัศนคติที่ดีต่อการท่องเที่ยว และมีจิตใจอาสามาช่วยตำรวจท่องเที่ยวดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้คัดเลือกผู้ที่มีความประพฤติดีและมีจิตอาสาที่จะช่วยเหลือประเทศทั้งชาวไทยและต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 2,000 คน ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทยมาเข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้

​และหลังจากที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับคำกล่าวรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวแล้ว ได้กล่าวเปิดพิธีการฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ และกล่าวขอบคุณกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและอาสาสมัครทุกคนที่จะเป็นกลไกที่สำคัญยิ่งต่อการเตรียมการและการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วเดินทางเข้ามาเที่ยวจังหวัดภูเก็ตที่จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 กันยายน 2564 นี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ตำรวจท่องเที่ยวและอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวทุกคนจะร่วมเป็นกำลังใจ และเป็นกำลังสำคัญส่งเสริมสนับสนุนให้การเปิดประเทศที่เริ่มต้นที่จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จ นำร่องการเปิดประเทศของจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่อไป

รัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬาฯ ยังกล่าวอีกด้วยว่า การท่องเที่ยวเป็นแหล่งผลิตรายได้ที่สำคัญอย่างยิ่งของประเทศ โดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่สามารถนำการท่องเที่ยวไปสู่ความสำเร็จสูงสุดได้ หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างพร้อมเพรียงกันและไปในทิศทางเดียวกันจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนทุกฝ่ายแบบบูรณาการ และด้วยการทำงานแบบมืออาชีพของตำรวจท่องเที่ยว และอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวทุกคนที่ผ่านการฝึกอบรมในครั้งนี้ เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาเป็น Top of Mind ของโลกในที่สุด

​โครงการฝึกอบรมอาสาสมัครครั้งนี้อัดแน่นไปด้วยความรู้ทั่วไปของการท่องเที่ยว กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว การบริการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ บทบาทและหน้าที่ของอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว รวมไปถึงการช่วยเหลือรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้กับนักท่องเที่ยว โดยวิทยากรที่มีประสบการณ์และความรู้ที่มาบรรยายให้กับอาสาสมัครทุกคน

ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ประชุมติดตามผลการปฏิบัติการบริหารจัดการ และการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

การแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการตำรวจ และลูกจ้างประจำของ ตร.,การปราบปรามบุคคลหลบหนีเข้าเมือง, การปราบปรามการลักลอบเล่นการพนัน, การบริหารจัดการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์รถจักรยานยนต์, งานตำรวจชุมชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ของตำรวจภูธรภาค 5

18 มิ.ย. 64 เวลา 10.00 น. ด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจเยี่ยมและตรวจราชการ ของหน่วยตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่ ภ.5 

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ติดตามผลการปฏิบัติ การบริหารจัดการและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19), การแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการตำรวจ และลูกจ้างประจำของ ตร.,การปราบปรามบุคคลหลบหนีเข้าเมือง, การปราบปรามการลักลอบเล่นการพนัน, การบริหารจัดการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์รถจักรยานยนต์, งานตำรวจชุมชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ของตำรวจภูธรภาค 5

โดยมี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.สุเทพ ฐาปนวรกุล ผบก.กค.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร ผบก.อก.ภ.5, พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พล.ต.ต.หญิง พิมพรรณ ทรัพย์ขำ ผบก.รพ.ดารารัศมี, พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม.5, รอง ผบก.ทท., หน่วยขึ้นตรงในพื้นที่ จว.เชียงใหม่, เจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.5 และเชียงใหม่ และข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมให้การต้อนรับและประชุมรับมอบนโยบาย  ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดย ผบก.ภ.จว.ในสังกัด ร่วมการประชุมผ่านระบบทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) และ สภ.ในสังกัดรวม 159 แห่ง ร่วมเฝ้าฟัง ณ ที่ตั้งของหน่วย

“โอกาสครบรอบ 120 ปี รร.นรต.” จัดทำภาพวาดสีน้ำ ของ พ.ต.ท.พีระศิลป์ ประสานทอง ศิลปินคนดัง เพื่อจำหน่ายเป็นที่ระลึก

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) “พล.ต.อ.”ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร.(บร.)เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาส ครบรอบ 120 ปี รร.นรต. จึงได้จัดทำของที่ระลึก ภาพพิมพ์สีน้ำ วาดโดย พ.ต.ท.พีระศิลป์ ประสานทอง และบุคลากรของ รร.นรต. เป็นภาพวาดสถานที่และกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของ รร.นรต. พิมพ์ลงบนผ้าใบแคนวาส คุณภาพสูงเหมาะสำหรับประดับบ้านพักหรือห้องทำงาน หรือเป็นของที่ระลึกอันทรงคุณค่า

จัดจำหน่าย ในรูปแบบ Made to order ผลิตตามการสั่งซื้อเท่านั้นรายได้จากการจำหน่ายหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำเข้าเป็นกองทุนสำหรับสนับสนุนการเรียนการสอน สวัสดิการข้าราชการตำรวจและครอบครัว และกิจกรรมต่าง ๆ ของ รร.นรต. ซึ่งสามารถสั่งซื้อผ่านทาง http://rpca-store.lnwshop.com/

 

"หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ " ประทานถวายเครื่องมุทิตาสักการะ "พระราชมงคลวัชราจารย์ (หลวงพ่อพัฒน์) เจ้าอาวาสวัดธารทหาร (ห้วยด้วน)

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ณ.วัดธารทหาร (ห้วยด้วน)  อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ "นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ได้เชิญเครื่องมุทิตาสักการะ ของหม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ พระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่4) น้อมถวายเป็นสังฆบูชา ในศีลาจารวัตรพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระราชมงคลวัชราจารย์ (หลวงพ่อพัฒน์ ปุญฺญกาโม) เจ้าอาวาสวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) โดย ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร ผู้ช่วยเลขานุการในองค์ หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ได้อ่านหนังสือถวายรายงานว่า "ด้วยทรงมีศรัทธาศีลาจารวัตรใน "พระราชมงคลวัชราจารย์ (หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม) ที่ตั้งมั่นบำเพ็ญปฏิบัติ ดุจกลิ่นปทุมหอมฟุ้งกว้างลอยทวนลม เป็นที่เคารพนับถือแด่พระพุทธศาสนิกชน ที่แสวงหาพระภิกษุผู้ประพฤติพรรมจรรย์ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในการศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"

จากนั้น นายนพรัตน์ ฉัตรเพชรตระการ หัวหน้าสำนักงานเลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการในองค์ หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ในนามประธานผู้จัดงานมอบรางวัลนาคธรรมจักร (คนดีศรีเมืองพุทธ) ได้ถวายโล่รางวัล พร้อมใบประกาศ แด่พระราชมงคลวัชราจารย์ สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ทั้งนี้ พระมหาพรภิรมย์ จนฺทโสภโณ ดร. ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสมศรี จ.ขอนแก่น , นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย , นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร ผู้อำนวยการข่าว(หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์) จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมคณะ ได้รับเมตตาจากพระราชมงคลวัชราจารย์ เข้าร่วมพิธี ร่วมถวายมุทิตา และรับวัตถุมงคล รุ่น สุคโต 100 ปีโดยก่อนกลับ พระราชมงคลวัชราจารย์ ได้เมตตาสอนธรรมให้ระลึกจิตในคุณพระรัตนไตร อันเป็นสิ่งมงคลยิ่งแล้วในโลก พึ่งประพฤติตนให้ตั้งอยู่ความไม่ประมาทในศีล จักได้ชื่อว่าเป็นคนที่ดี และประเสริฐสุด เพื่อสร้างความดีต่อสาธารณะประโยชน์ ประเทศชาติ ให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

"Shell" เป็นมากกว่า "สถานีบริการปั๊มน้ำมัน" เพราะเป็นจุดพักรถ พักคน และมอบความรู้แก่ "ผู้ใช้บริการ" ครบวงจร เพรียบพร้อมด้วย "อารยะสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล"

วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ณ สถานีบริการปั๊มน้ำมัน "Shell" ตา-ยาย ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง นายกรทัศน์ นายกรวัชญ์ น.ส.กรรวี ครอบครัว "คุณาวุฒิ" (ผู้บริหาร) ให้การต้อนรับ นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย / นายภูชิชย์ พิมักษ์กรณ์ ที่ปรึกษานายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก และตำแหน่ง "ฑูตอารยะสถาปัตย์จังหวัดชลบุรี" / นางสาวภัสวรินทร์ กิตติโชคกุลพัทธ์ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาคนพิการไทย / นายณรงค์ พูลประดิษฐ์ ประธานคนพิการจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบ "สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนพิการ ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้อาจมีอาการเจ็บป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้รถวีลแชร์ " เช่น ที่จอดรถ ห้องน้ำ ทางลาดชัน จุดเชื่อมต่อในการใช้พื่นที่ในรอบ ๆ บริเวณสถานีบริการปั๊มน้ำมัน "Shell" ที่บรรจง ออกแบบ ดีไซน์ เพื่อเตรียมการรองรับกลุ่มผู้ใช้บริการที่มีความต้องการจำเป็นใช้พื่นที่พิเศษ โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้พบว่าเป็นสถานีบริการน้ำมันที่เอื้ออำนวยความสะดวกกับกลุ่มฯ นี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นมากกว่าสถานีบริการปั๊มน้ำมัน นั้นคือ เป็น "ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง น้อมนำพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9"

โดยการนำการเรียนรู้จาก "แหลมผักเบี้ย" จ.เพชรบุรี มาปฎิบัติใช้กับพื้นที่หลังบริเวณปั๊มน้ำมัน โดยน้ำที่ผู้ใช้บริการแล้ว เช่น ห้องสุขา ที่ล้างมือ ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ มาผ่านกระบวนการกลั่นกรอง ดักไขมัน เศษอาหาร จนเป็นน้ำที่กึ่งดี ผสมผสานกับการใช้น้ำหมักชีวภาพ และหลักการ "คลองไส้ไก่" เพื่อใช้เวลา แสงแดด บำบัดเป็นน้ำสะอาด และสามารถนำกลับมาใช้ในการการเกษตรต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น สถานีบริการปั๊มน้ำมันแห่งนี้ยังใช้ "แหล่งพลังงานโซล่าเซลล์" (พลังงานแสงอาทิตย์) นำมาใช้กับอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้าในร้านกาแฟ และยังมีการออกแบบที่รองรับกับสภาพอากาศโดยรอบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศมาเป็นการสร้างความร่มเย็นให้กับผู้ใช้บริการ อีกด้วย และความใส่ใจที่มีต่อผู้ใช้บริการอีกมาก เช่น จัดทำห้อง "ละหมาด" เพื่อสำหรับพี่น้องชาว "มุสลิม" ที่มีความจำเป็นจะต้องปฏิบัติภารกิจทางศาสนา และมีการออกแบบโดยถูกต้องตามหลักศาสนาโดยได้การรับรองจาก "วัฒนธรรมจังหวัดระยอง"

และที่จะขาดมิได้เลยที่ต้องกล่าวชื่นชมสถานีบริการปั๊มน้ำมัน "Shell" แห่งนี้นั่นก็คือ การจัดเตรียมพื้นที่สำหรับคนรักสัตว์ มีพื้นที่ไว้สำหรับ สัตว์เลี้ยงขับถ่าย โดยการออกแบบที่มีความสะอาดถูกสุขอนามัย โดยไม่มีการคิดค่าใช้บริการกันแต่อย่างใด

สุดท้ายนี้ "คณะผู้นำคนพิการ" ยังได้กล่าวชื่นชมและขอขอบพระคุณทางผู้บริหารที่มีเจตคติที่ดี และมีแนวความคิดที่เอื้อเฟื้อต่อสังคม ในการสรรค์สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนทั้งมวล มา ณ โอกาส นี้ด้วย

พก.จับมือ KEAD ร่วมลงนาม MOU เพื่อต่อยอดโอกาสการจ้างงานคนพิการ

วันนี้ (29 มิ.ย. 64) เวลา 13.00 น. ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร 60 ปี บ้านราชวิถี กรุงเทพฯ นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MEMORANDUM OF UNDERSTANDING) ระหว่างสำนักงานเพื่อการจ้างงานคนพิการ สาธารณรัฐเกาหลี (Korea Employment Agency for Persons with Disabilities: KEAD) ภายใต้สังกัดกระทรวงแรงงานและการจ้างงาน สาธารณรัฐเกาหลี และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประเทศไทย

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเตรียมขอบข่ายงานด้านความร่วมมือระหว่าง KEAD และ พก. ในการแลกเปลี่ยนทักษะและความรู้ด้านนโยบายการจ้างงานคนพิการเพื่อต่อยอดถึงโอกาสการจ้างงานคนพิการที่ดีมากยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือในการส่งเสริมคนพิการ การแลกเปลี่ยนนโยบายการจ้างงานคนพิการ และความร่วมมือด้านการสร้างระบบการจ้างงานคนพิการ โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พก. และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบออนไลน์ Zoom cloud Meeting

#ข่าวสารพก #กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

ติดตามข่าวสาร พก.ได้ที่

เว็บไซต์ : http://www.dep.go.th/

Facebook : https://www.facebook.com/dep.go.th

Twitter : shorturl.at/kEQX6

Youtube : shorturl.at/tvIM6

Instagram : https://instagram.com/depmsdhs?r=nametag


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top