Tuesday, 18 June 2024
Lite

10 มิถุนายน พ.ศ. 2440 วันกำเนิด ‘ภาพยนตร์’ ในประเทศไทย จัดฉายครั้งแรก ณ โรงละครหม่อมเจ้าอลังการ

วันนี้ในปี พ.ศ. 2440 ได้มีการจัดฉายภาพยนตร์ในรูปแบบมหรสพเป็นครั้งแรกของไทย โดยปรากฏหลักฐานจากโฆษณาในหนังสือพิมพ์รายวัน ‘บางกอกไตม์’ ฉบับประจำวันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2440 ว่า ‘นายเอส. จี. มาคอฟสกี’ ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้นำภาพยนตร์มาฉายในคืนวันที่ 10, 11 และ 12 มิถุนายน ซึ่งจัดฉายในรูปแบบมหรสพที่โรงละครหม่อมเจ้าอลังการ นับว่ามีชาวไทยกว่า 600 คน ทั้งชายและหญิงได้เป็นผู้ชมภาพยนตร์เป็นกลุ่มแรก

โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2440 หนังสือพิมพ์บางกอกไตม์ ได้เขียนบรรยายถึงปฏิกิริยาของคนดูไว้ว่า “การเล่นที่เรียกว่า ‘ปาริเซิน ซีเนมาโตรแครฟ’ อันได้เล่นที่โรงละครหม่อมเจ้าอลังการแปลกปลาดน่าดูจริง รูปประดาน้ำกับรูปศรีต่อยมวยทำเห็นจริงมีคนชอบมาก แล้วตัวละครที่ชำนาญในการเล่นได้ออกมาแสดงการเล่นต่างเป็นที่เห็นจริงน่าชมทุกอย่าง มีเจ้านายขุนนางแลประชาชนชายหญิงได้ไปชมประมาณ 600 กว่า…”

ซึ่ง ‘ปาริเซิน ซีเนมาโตรแครฟ’ คุณชลิต เอื้อบำรุงจิต ได้อธิบายว่า ‘ประดิษฐกรรมของพี่น้องลูมิแอร์ และหนังที่ฉายก็น่าจะเป็นชุดมีหลายเรื่อง แต่จากหลักฐานระบุชื่อของหนังได้เพียง 2 เรื่อง คือ ประดาน้ำ และ ศรีต่อยมวย ซึ่งตรงกับชื่อหนังในบัญชีของลูมิแอร์’

จึงถือได้ว่าเหตุการณ์ในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2440 คือ วันกำเนิดภาพยนตร์ในสยาม

'อาร์ต-พศุตม์' เผย!! แง่มุมดีๆ จากประสบการณ์ชีวิต วินัยสำคัญ!! ดันคนธรรมดาให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ธรรมดา

(1 มิ.ย.67) นายพศุตม์ บานแย้ม หรือ ‘อาร์ต’ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับแง่มุมดีๆ ในการใช้ชีวิต โดยได้ระบุว่า ...

ฝาก ถึงพวกกระจอก ตัวเองทำไม่ได้หรือป่าว ถึงโยนความผิดให้แต่คนอื่น Ep2 

ส่วนใครที่บอกกรูปากหมา กรูก็ปากหมาใส่คนที่ปากหมาคืนก็แค่นั้น อย่าทำเป็นรับไม่ได้เวลาโดน สวนคืน 555 ใครพูดดี ผมก็พูดดีด้วย
เช่น 

เป็นดารา ไงเลยขายได้ ‘ลองสิ’ ไม่เป็นดาราจะขายได้มั้ย 

…. ถามจริง เกิดมาผมเป็นดาราเลยปะ ก็ ไม่ใช่ เกิดมาในครอบครัวที่จนด้วยซ้ำ จนขนาดที่นอนจะนอนยังจะไม่มี แต่ผม ก็พยายามทำงานเองมาตั้งแต่ อายุ 17 แล้วก็ไม่เคยโทษใครเลย

…มาว่ากันด้วย ก่อนจะเป็นดารา ผมก็คนธรรมดา ผมลองไปประกวดดู ดันเข้ารอบ …แต่ก็ต้องพยายาม ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ต้องมีระเบียบวินัยในการทำงานในวงการมา 17 ปี ผมเคยไปทำงาน สาย 3 วัน ย้ำ 17 ปีนะ ซึ่งเวลาไปกองผมต้องตื่น ตี 5.30 ทุกวัน เป็นเวลา 17 ปี แล้วกรูจะย้อนกลับไปเป็นคนธรรมดาทำไมในเมื่อกรูพยายามเป็นดารา รักษาชื่อเสียง รักษาวินัย มาตั้ง 17 ปี คิดสิคิด

…มาว่ากันด้วย เรื่องเค้าหล่อไง ตอนนี้กรูอายุ 42 แล้ว แต่สภาพภายนอกยังได้แบบนี้ กรูต้องเพียรพยายามดูแลตัวเองขนาดไหน ต้องขยันดูแลตัวเองขนาดไหน แต่ไอ้คนที่พูดยังเอาเวลาว่าง นั่งกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยว ปาร์ตี้ อยู่เลย คิดสิคิด

….มาว่ากันด้วย เค้า ล่ำ ไง ผู้หญิงก็ชอบเลยมาซื้อของผม .. กรูเกิดมามีกล้ามเลยมั้ง กรูพยายามเล่นเวทออกกำลัง มาตั้งแต่ อายุ 17 ก่อนเป็นดาราด้วยซ้ำ จนป่านนี้ เป็นเวลา มา 24 ปี มันง่ายมั้ง กับการออกกำลังดูแลตัวเองมานานขนาดนี้ คิดสิคิด

ขอไปขายของก่อน เดี๋ยว มี ep. 3

อยู่เซ็นทรัลพิษณุโลกถึง 4 มิ.ย. นะค้าบบบ

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567

✨ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
✨ประจำวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567

🟢รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท : 530593

🔴รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท : 530592 530594
🔴รางวัลเลขหน้า 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 194 364

🔴รางวัลเลขท้าย 3 ตัว รางวัลละ 4,000 บาท : 421 734

🔴รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท : 42 

🟢รางวัลที่ 2 รางวัลละ 200,000 บาท : 356805 808128 792363 938867 029712

🟢รางวัลที่ 3 รางวัลละ 80,000 บาท : 243580 160283 777744 404804 272437 448892 544359 694974 046843 443044

🟢รางวัลที่ 4 รางวัลละ 40,000 บาท:  233880 168521 183126 834354 620385 678979 944778 145262 549805 598690 470737 581373 343071 531156 065645 051598 495952

794575 277318 638080 464405 153750 205045 526970 413224 842151 849214 933126

526838 083471 294416 840200 438962 378829 703944 646271 405634 656945 459138

238892 440176 020392 550315 753505 692674 957867 211846 240317 951837 485847

🟢รางวัลที่ 5  รางวัลละ 20,000 บาท: 755016 838184 935430 768221 294987 458656 621493 868909 102535 451796 454431 195482 990634 272964 642942 888192 077829

333705 818395 093804 270730 973347 985312 460387 903209 073019 277175 585912

279395 533685 231833 800717 170522 849807 140336 013446 418120 508290 671749

698368 362061 180989 655691 622177 034704 383029 526562 965039 439694 559838

144746 817662 458119 029216 594482 156179 240678 852984 346092 700010 953286

610246 339387 046921 834256 025445 718959 851546 340639 825213 491735 290538

371771 726199 894182 195900 759065 339091 142489 842139 146567 408504 408260

514953 267883 469973 925646 307929 371628 879199 378038 902974 687899 481869

001233 673775 180819 402981 000896 502580

‘ชูชัย’ ไม่เข็ด ขนเครื่องเพชรหลายร้อยล้าน ร่วมเดินพาเหรด สนับสนุน ‘ความเท่าเทียม’ ย้ำ!! ไม่ได้เรียกร้องอะไรที่เกินไปกว่า ‘ชายจริง-หญิงแท้’ ขอแค่ ‘ความเสมอภาค’ เท่านั้น

(2 มิ.ย.67) ไฮโซชูชัย ชัยฤทธิเลิศ เจ้าของธุรกิจเพชรชื่อดัง ได้รับเชิญให้มาร่วมเดินพาเหรดแสดงพลังในงาน 𝐂𝐄𝐍𝐓𝐑𝐀𝐋 𝐖𝐎𝐑𝐋𝐃 𝐑𝐇𝐘𝐓𝐇𝐌 𝐎𝐅 𝐏𝐑𝐈𝐃𝐄 𝟐𝟎𝟐𝟒 กับ LGBTQ+ ที่ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งงานนี้มีคนดังมาร่วมเดินพาเหรดเยอะมากมาย อาทิ ลูกเกด เมทินี, หยิ่นวอร์, ดร.โก้ ธีรศักดิ์, ดีเจ มะตูม เตชินท์, มิวกี้ ไปรยา, ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ, ทารีน่า โบเทส, เฟิร์ส หวัง ฯลฯ

งานนี้ ไฮโซชูชัย มาในชุดสุดสะพรึงสาดสีสัน ปักตาแตกวิบวับได้อีก กับผ้าคลุมที่ประดับด้วยเครื่องเพชรชุดใหญ่มูลค่ามากกว่าร้อยล้านบาท พร้อมทีมเชียร์ลีดเดอร์ดัง โชว์ดีด เด้ง ตีลังกา ม้วนตัวสูงเสียดฟ้า พร้อมยกไฮโซชูชัยประดุจลอยฟ้ามา เรียกเสียงฮือฮาได้สุดฤทธิ์สุดเดช!!

ไฮโซชูชัย เผยว่า เกินคาดมากๆ กับงานปาร์ตี้เพชรวันเกิดของพี่ที่ผ่านมา ไม่คิดว่าจะเป็นกระแสแรงนานได้ขนาดนี้ คนยังพูดถึงไม่หยุด ปีหน้าจัดอีกแน่นอน พี่จะจัดให้ใหญ่กว่าเดิม สปอนเซอร์หลายรายก็มีคุยๆ มีจองข้ามปีกันแล้ว อยากจะมาร่วมงานกับเราด้วย ศิวลึงค์ที่พี่ทำเช่าคนก็สั่งๆ เยอะขึ้นๆ และโรงแรมของพี่ ชูชัยบุรีศรีอัมพวา ที่ใกล้ตลาดน้ำอัมพวา ยอดจองก็เพิ่มขึ้นๆ ด้วย หลังจัดงานวันเกิดปาร์ตี้เพชรไป

ส่วนเครื่องเพชรที่ขนมาใส่วันนี้ ไม่เข็ดนะ เพราะเชื่อว่าจะไม่หล่นหายอีกแน่นอน พี่เชื่อในความดีที่พี่ทำมา ส่วนครั้งนั้นถือว่าฟาดเคราะห์ไปแล้ว ต่อจากนี้จะมีแต่เรื่องเฮงๆ เรื่องดีๆ เข้ามาตลอดไป

พวกเราชาว LGBTQ ที่มาเดินพาเหรด 𝐂𝐄𝐍𝐓𝐑𝐀𝐋 𝐖𝐎𝐑𝐋𝐃 𝐑𝐇𝐘𝐓𝐇𝐌 𝐎𝐅 𝐏𝐑𝐈𝐃𝐄 𝟐𝟎𝟐𝟒 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ว่า สิทธิความเท่าเทียมความเสมอภาคของชาวเราเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เราไม่ได้เรียกร้องขออะไรที่เกินกว่าชายจริงหญิงแท้ เป็นเรื่องสิทธิมนุษย์ที่หลายๆ ประเทศก็ยอมรับกันแล้ว ซึ่งประเทศไทยพี่ก็นับวันรออยู่ กับเรื่องสิทธิที่เท่าเทียม เรื่องสมรสเท่าเทียม ฯลฯ ของชาว LGBTQ ก็เป็นสิ่งที่พี่อยากจะช่วยผลักดันด้วย

พี่อยากบอกว่า ไม่ว่าเราจะเป็นเพศไหน สิทธิของทุกคนต้องเท่ากัน ไม่ถูกจำกัดกีดกันเพราะความแตกต่างใดๆ ทั้งเรื่องสิทธิสมรส สิทธิการเลือกคำนำหน้านาม ฯลฯ การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ยินดีเปิดรับความหลากหลาย ไม่บูลลี่กัน จะทำให้สังคมไทยน่าอยู่ขึ้น ส่งผลดีมากๆ ต่อการท่องเที่ยวระดับโลกและเศรษฐกิจด้วย มาร่วมผลักดันความเท่าเทียมทางเพศในสังคมไทยในหลายมิติไปด้วยกัน

13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 สิ้น 'พุ่มพวง ดวงจันทร์' นักร้องขวัญใจคนไทย เจ้าของฉายา ‘ราชินีลูกทุ่ง’ ในความทรงจำ

‘พุ่มพวง ดวงจันทร์’ มีชื่อจริงว่า ‘รำพึง จิตร์หาญ’ โดยมีชื่อเล่นว่า ‘ผึ้ง’ เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งชาวไทย ได้รับฉายาว่าเป็น ‘ราชินีลูกทุ่ง' โดยพุ่มพวงเกิดที่จังหวัดชัยนาท ต่อมาเติบโตที่ จังหวัดสุพรรณบุรี ครอบครัวเป็นชาวไร่ฐานะยากจน เมื่ออายุได้ 15 ปี บิดาฝากให้เป็นบุตรบุญธรรมของ ‘ไวพจน์ เพชรสุพรรณ’

ระหว่างที่อยู่วงดนตรีของไวพจน์ พุ่มพวงทดลองร้องเพลงหน้าเวที ครั้งแรกในงานประจำปี ที่ตลาดลำนารายณ์ อำเภอไชยบาดาลจังหวัดลพบุรี ต่อมาไวพจน์แต่งเพลง 'แก้วรอพี่' ให้พุ่มพวงร้องบันทึกเสียงเป็นครั้งแรกโดยใช้ชื่อว่า ‘น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ’ และที่นี้อีกเช่นกันที่พุ่มพวงได้พบรักกับ ‘ธีระพล แสนสุข’ สามีคนแรกซึ่งเป็นนักดนตรีอยู่ในวง

ต่อมา ‘รุ่ง โพธาราม’ นักร้องรุ่นพี่ชักชวนให้แยกมาตั้งวงดนตรีเอง ด้วยการสนับสนุนของมนต์ เมืองเหนือ และมีการเปลี่ยนชื่อจาก ‘น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ’ เป็น 'พุ่มพวง ดวงจันทร์' แต่กิจการวงดนตรีไม่ประสบความสำเร็จและต้องเลิกไปในที่สุด แต่พุ่มพวงไม่ถอดใจ เธอตั้งวงดนตรีอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็ขาดทุนจนเลิกกิจการไป พุ่มพวงจึงหันมาเป็นนักร้องประจำวงของ ศรเพชร ศรสุพรรณ และขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด

พุ่มพวง เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเมื่อไปทำงานกับบริษัท เสกสรรค์ จำกัด ของประจวบ จำปาทอง แต่ที่เรียกว่า 'โด่งดัง' คือ พ.ศ. 2525 เมื่อมาอยู่บริษัท อโซน่าโปรโมชั่น โดยมี ลพ บุรีรัตน์ (ชื่อจริง วิเชียร คำเจริญ) ครูเพลงชื่อดังแต่งเพลงให้, ประยงค์ ชื่นเย็น และอเนก รุ่งเรือง เรียบเรียงดนตรี ทำให้เพลง สาวนาสั่งแฟน, นัดพบหน้าอำเภอ, กระแซะเข้ามาซิ, อื้อหือ…หล่อจัง, ห่างหน่อยถอยนิด ฯลฯ ดังระเบิดไปทั่วประเทศ

กล่าวได้ว่า เพลงที่พุ่มพวงเป็นร้อง, ลพแต่ง, ประยงค์/อเนกเรียบ เพลงไหนเพลงนั้น 'ดัง' ติดหูคนฟังหมด ผลงานของทั้งสามคนจึงทยอยออกมาอีกมากมาย เช่น ตั๊กแตนผูกโบว์, เงินน่ะมีไหม, ขอให้รวย, หนูไม่รู้, คนดังลืมหลังควาย ฯลฯ

จังหวะนี้เองพุ่มพวง ตั้งวงดนตรีพุ่มพวง ดวงจันทร์ อีกครั้ง คราวนี้เธอประสบความสำเร็จทางธุรกิจเพลงและวงดนตรี ทุกอย่างไปด้วย ยกเว้นชีวิตครอบครัว ประมาณปี 2526 พุ่มพวงตัดสินใจแยกทางกับ ธีระพล แสนสุข ในปีเดียวกันนี้เองที่พุ่มพวงเริ่มอาชีพ ‘นักแสดง’ ผลงานเรื่องแรกของเธอคือ ‘สงครามเพลง’ ของฉลอง ภักดีวิจิตร มีเพลงประกอบชื่อ ‘ดาวเรืองราวโรย’ ที่ลพ บุรีรัตน์เป็นผู้แต่งให้พุ่มพวงร้องในเรื่อง

หลังจากนั้นก็มีอีกหลายเรื่อง เช่น ผ่าโลกบันเทิง (พ.ศ. 2526), สาวนาสั่งแฟน (พ.ศ. 2527), มนต์รักนักเพลง (พ.ศ. 2528), อาจารย์เด๋อเจอพุ่มพวง (พ.ศ. 2528) ฯลฯ การเข้าวงการแสดงทำให้พุ่มพวงได้พบกับ ‘ไกรสร แสงอนันต์’ สามีคนที่ 2 (ที่มีลูกชายด้วยกัน 1 คน คือ ชื่อ ‘น้องเพชร’) ซึ่งเข้ามาเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ให้พุ่มพวง เขาได้สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับพุ่มพวง ด้วยการนำวงดนตรีของพุ่มพวง เปิดคอนเสิร์ตการกุศลหน้าพระพักตร์พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุ (พระอิสริยยศขณะนั้น) ที่ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี เมื่อปี 2529 ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการลูกทุ่งไทย

พุ่มพวง ยังเป็นนักร้องลุกทุ่งหญิงคนเดียว ที่เดินทางไปเปิดการแสดงที่สหรัฐอเมริกาตามคำเชิญของแฟนเพลงแดนไกลบ่อยที่สุด สถิติจากร้านจำหน่ายเพลงของคนไทยในลอสแอนเจลิส ปี 2533-34 แจ้งว่ามียอดจำหน่ายสูงสุดถึง 1 ล้านตลับ

อย่างไรก็ตาม ขณะที่พุ่มพวงกำลังโด่งดังเรื่องการงาน สุขภาพเธอกลับย่ำแย่

ต่อมาเดือนมีนาคม พ.ศ. 2534 พุ่มพวงป่วยเป็นโรคไต อาการรุนแรงจนต้องส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ต่อมามีการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแพทย์ตรวจพบว่า พุ่มพวงป่วยเป็นโรค 'เอสแอลดี' หรือโรคลูปัส

โรคเอสแอลอี เป็นโรคในกลุ่มข้ออักเสบและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทําให้ร่างกายสร้างสารโปรตีนชนิดหนึ่งต่อต้านเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกายตนเองและเกิดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่เป็นพิษต่ออวัยวะขึ้น (แพ้ภูมิตนเอง) ทําให้มีอาการและอาการแสดงได้กับทุกระบบในร่างกาย

ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 พุ่มพวงที่มีอาการป่วยเรื้อรัง และญาติ ๆ เดินทางไปนมัสการพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีมหาธาตุ จ.พิษณุโลก พุ่มพวงเกิดหมดสติกะทันหันจนต้องนำส่งโรงพยาบาล แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น...สุดท้ายเธอก็เสียชีวิตลงในค่ำคืนนั้น

ทั้งนี้ งานศพของพุ่มพวง จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติที่วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี มีแฟนเพลงนับแสนเดินทางจากทั่วประเทศมาอำลานักร้องในดวงใจของพวกเขา ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ คงเหลือแต่ผลงานเพลงของเธอที่ฝากไว้ให้แฟน ๆ ชาวไทยได้จดจำและหวนคิดถึงอยู่ร่ำไป

12 มิถุนายน ของทุกปี ‘ILO’ กำหนดเป็น ‘วันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก’ กระตุ้นสังคมตระหนักรู้และยุติบังคับใช้แรงงานเด็ก

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) ได้กำหนดให้วันที่ 12 มิถุนายนของทุกปี เป็น ‘วันต่อต้านการใช้แรงงานเด็กโลก’ (World Day Against Child Labour) เพื่อให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนขึ้นของแรงงานเด็ก และช่วยกันยุติการกระทำเหล่านี้ โดยความร่วมมือกันของหน่วยงานรัฐบาล ลูกจ้าง องค์กรผู้ใช้แรงงาน และกลุ่มองค์กรที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เป็นล้านคนจากทั่วทุกมุมโลกที่จะร่วมหารือถึงการช่วยเหลือเด็กเหล่านี้และทำให้แรงงานเด็กลดจำนวนลง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาแรงงานเด็กที่ทั่วโลกต้องรับรู้…หากย้อนกลับไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นเวลาเกือบสองทศวรรษที่โลกมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการลดการใช้แรงงานเด็ก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความขัดแย้ง วิกฤตการณ์ และการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้ครอบครัวจำนวนมากต้องตกอยู่ในความยากจน และบังคับให้เด็กอีกนับล้านกลายเป็นแรงงานเด็ก

การเติบโตทางเศรษฐกิจยังไม่เพียงพอหรือครอบคลุมเพียงพอเพื่อลดแรงกดดันที่ครอบครัวและชุมชนจำนวนมากรู้สึก และนั่นทำให้พวกเขาหันไปใช้แรงงานเด็ก ทุกวันนี้เด็กกว่า 160 ล้านคนยังคงใช้แรงงานเด็ก ซึ่งเท่ากับจำนวนเด็กเกือบ 1 ใน 10 ของเด็กทั่วโลก

ทวีปแอฟริกาอยู่ในอันดับสูงสุดในการใช้แรงงานเด็ก ทั้งในด้านเปอร์เซ็นต์ของเด็กที่ถูกใช้แรงงาน ซึ่งเป็น 1 ใน 5 และจำนวนเด็กทั้งหมดที่ใช้แรงงานเด็กเท่ากับ 72 ล้านคน เอเชียและแปซิฟิกอยู่ในอันดับ 2 สูงสุดในมาตรการทั้งสองนี้ โดยนับเป็น 7% ของเด็กทั้งหมด หรือ 62 ล้านคนที่อยู่ในการใช้แรงงานเด็กในภูมิภาคนี้

ภูมิภาคแอฟริกาและเอเชียและแปซิฟิกรวมกันมีเด็กเกือบ 9 ใน 10 คนที่ถูกใช้แรงงานทั่วโลก ประชากรแรงงานเด็กที่เหลืออยู่แบ่งเป็นทวีปอเมริกา (11 ล้านคน) ยุโรปและเอเชียกลาง (6 ล้านคน) และรัฐอาหรับ (1 ล้านคน) ในแง่ของอุบัติการณ์ เด็ก 5% ตกเป็นแรงงานเด็กในอเมริกา 4% ในยุโรปและเอเชียกลาง และ 3% ในประเทศอาหรับ

‘ไบร์ท’ ขอโทษกลางคอนเสิร์ต ปมร้องเพลงผิดพลาด ฮึดสู้!! จะร้องเพลงต่อไป พร้อมขอกำลังใจจากทุกคน

เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย. 67) แม้จบไปแล้วสำหรับ ‘The Kingdoms Concert’ เมื่อวันที่ 1-2 มิ.ย.ที่ผ่านมา คอนเสิร์ตที่รวมศิลปินชายแห่งยุค กับที่สุดของ 4 คิงส์ ในวงการเพลง อย่าง นนท์ - ธนนท์, ไบร์ท - วชิรวิชญ์, The Toys (ทอย - ธันวา) และ เจฟ ซาเตอร์

อย่างไรก็ตาม คอนเสิร์ตได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากแฟน ๆ ตั้งแต่วันที่เปิดขาย บัตรหมดเกลี้ยงทั้ง 2 รอบการแสดง ภายในระยะเวลาไม่กี่นาที

สุดท้ายเกิดดรามาขึ้นกับนักแสดง และนักร้องหนุ่มอย่าง ‘ไบร์ท - วชิรวิชญ์ ชีวอารี’ หลังมีคลิปวิดีโอการแสดงถูกปล่อยออกมา โดนวิพากษ์วิจารณ์ว่า ‘ร้องเพลงไม่ตรงคีย์’ อีกทั้ง ‘จำเนื้อเพลงไม่ได้’

ทั้งนี้ ประเด็นนี้ช่วงท้ายของคอนเสิร์ตที่ให้นักร้องทั้ง 4 คนออกมาเผยความรู้สึก ไบร์ท วชิรวิชญ์ เปิดใจว่า

“อยากขอบคุณหลายคน เริ่มจากขอบคุณพี่ ๆ ทีมงานที่ให้โอกาสมายืนร่วมเวทีกับพี่ ๆ ทั้ง 3 คนตรงนี้ ผมมีความสุขในทุกโมเมนต์ที่ได้ทำงานด้วยกัน ซาบซึ้งกับสิ่งนี้มาก ๆ ขอบคุณพี่ ๆ ทั้ง 3 คนที่ทำให้อะไรที่ควรจะยากให้ยากน้อยลง ขอบคุณมาก ๆ”

“อย่างที่พี่นนท์ บอกคอนเสิร์ตจะไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่มีคนดูที่มาเติมเต็มทุกโชว์ ขอบคุณทุกเสียงร้อง ทุกการโบกมือ ทุกอย่างที่ทำให้เรามีกำลังใจ และมีความสุขในการโชว์ ขอบคุณจริง ๆ ร้องผิดร้องพลาดบ้างขอโทษจริง ๆ ผมเต็มที่มากจริง ๆ ขอโทษที่ทำให้เสียความรู้สึก แต่ผมจะร้องเพลงต่อไป เป็นกำลังใจให้ผมด้วย”

14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 ‘สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช’ สั่ง ‘ทุบหม้อข้าว’ บุกตีเมืองจันทบุรี ยุทธวิธีอันลือลั่นในปัจจุบัน ที่ปลุกขวัญกำลังใจทหารกล้าจนสำเร็จ

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ คือ ‘สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช’ ได้ยกทัพบุกตีเมืองจันทบูร หรือเมืองจันทบุรี และได้ปลุกขวัญกำลังใจเหล่าทหารด้วยการ ‘ทุบหม้อข้าว’ หมายจะได้กินข้าวเช้าในเมืองจันทบุรี หากตีเอาเมืองไม่ได้ ก็ให้ตายด้วยกันเสียให้หมด ถือว่าเป็นกลศึกที่ปลุกขวัญกำลังใจแก่ทหารกล้าเป็นอย่างมาก และเป็นยุทธวิธีอันลือลั่นมาจนถึงทุกวันนี้

จากเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว 2 เดือน สมเด็จพระเจ้าตากฯ เดินทัพจากระยองผ่านแกลงเข้าบางกระจะ มุ่งยึดจันทบุรี เจ้าเมืองจันทบุรีไม่ยอมสวามิภักดิ์ สมเด็จพระเจ้าตากฯ ต้องการยึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นที่มั่นเพื่อรวบรวมกำลังมาตีพม่า จึงสั่งทหารทุกคนว่า

"เราจะตีเมืองจันทบุรีในค่ำวันนี้ เมื่อกองทัพหุงข้าวเสร็จแล้ว ทั้งนายไพร่ให้เททิ้งอาหารที่เหลือและต่อยหม้อเสียให้หมด หมายไปกินข้าวเช้าด้วยกันที่ในเมืองเอาพรุ่งนี้ ถ้าตีเอาเมืองไม่ได้ในค่ำวันนี้ ก็จะให้ได้ตายเสียด้วยกันให้หมดทีเดียว"

ทั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2310 ครั้นถึงเวลา 19.00 น. สมเด็จพระเจ้าตากฯ จึงได้สั่งให้ทหารไทยและจีนลอบเข้าไปอยู่ตามสถานที่ที่ได้วางแผนไว้แล้ว ให้คอยฟังสัญญาณเข้าตีเมืองพร้อมกัน จึงให้โห่ขึ้นให้พวกอื่นรู้ เมื่อเวลา 03.00 น. สมเด็จพระเจ้าตากฯ ก็ขึ้นคอช้างพังคีรีบัญชร ให้ยิงปืนสัญญาณพร้อมกับบอกพวกทหารเข้าตีเมืองพร้อมกัน ส่วนสมเด็จพระเจ้าตากฯ ก็ไสช้างเข้าพังประตูเมืองจนทำให้บานประตูเมืองพังลง ทหารสมเด็จพระเจ้าตากฯ จึงกรูกันเข้าเมืองได้ พวกชาวเมืองต่างพากันละทิ้งหน้าที่หนีไป ส่วนพระยาจันทบุรีก็พาครอบครัวลงเรือหนีไปยังเมืองบันทายมาศ สมเด็จพระเจ้าตากฯ ตีเมืองจันทบุรีได้ เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 7 แรม 3 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เพลา 3 ยามเศษ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2310 เวลาประมาณ 03.00 น. หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว 2 เดือน

หลังจากนั้น สมเด็จพระเจ้าตากฯ ได้เคลื่อนทัพไปยังเมืองตราด พวกกรมการและราษฎรเกิดความเกรงกลัวต่างพากันมาอ่อนน้อมโดยดี ที่ปากน้ำเมืองตราดมีเรือสำเภาจีนมาทอดทุ่นอยู่หลายลำ สมเด็จพระเจ้าตากฯ จึงได้เรียกนายเรือมาพบ แต่พวกจีนนายเรือขัดขืนต่อสู้ สมเด็จพระเจ้าตากฯ จึงนำกองเรือไปล้อมสำเภาจีนเหล่านั้น ได้ทำการต่อสู้กันอยู่ประมาณครึ่งวันก็ยึดสำเภาจีนไว้ได้หมด ได้ทรัพย์สินสิ่งของมาเป็นจำนวนมาก

แผนการกอบกู้กรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าตากฯ ได้เดินทางกลับจากตราดมาตั้งมั่นรวบรวมผู้คนอยู่ที่เมืองจันทบุรี เพื่อวางแผนปฏิบัติการรบเพื่อตีกรุงศรีอยุธยาคืนจากข้าศึก พร้อมกับสั่งให้ต่อเรือรบและรวบรวมเครื่องศาสตราวุธและยุทธภัณฑ์ภายในเวลา 3 เดือน พร้อมกับฝึกไพร่พลให้พร้อมที่จะปฏิบัติการ

เมื่อสิ้นฤดูมรสุมในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2310 สมเด็จพระเจ้าตากฯ ได้ยกกองทัพเรือจากจันทบุรีเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเข้าโจมตีข้าศึกที่เมืองธนบุรี เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากฯ ยึดเมืองธนบุรีและปราบนายทองอินได้แล้ว จึงเคลื่อนทัพต่อไปที่กรุงศรีอยุธยาเข้า ยึดค่ายโพธิ์สามต้นปราบพม่าจนราบคาบ สามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมา เมื่อวันศุกร์ เดือน 12 ขึ้น 15 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เวลาบ่ายโมงเศษ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 เวลาประมาณ 13.00 น. ใช้เวลา 7 เดือนหลังจากคราวเสียกรุงศรีอยุธยา

15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 'ศาลโลก' ตัดสิน 'ปราสาทเขาพระวิหาร' เป็นของกัมพูชา ส่งผลให้ไทยสูญเสียดินแดนบริเวณปราสาท 150 ไร่

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลโลก หรือ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ พิพากษาชี้ขาดคดี ‘ปราสาทเขาพระวิหาร’ ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของประเทศกัมพูชา

ทั้งนี้ ปราสาทหินแห่งนี้เป็นศิลปะขอม สร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 ราวปี 1545-1593 ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ของขอม ภาษาเขมรเรียกว่า ‘เปรี๊ยะ วิเฮียร์’ (Phrea vihear) ตัวปราสาทสูง 657 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บนทิวเขาพนมดงรัก ซึ่งกั้นระหว่างประเทศกัมพูชากับไทย ตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศเหนือ ด้านหน้าและทางขึ้นอยู่ในเขตประเทศไทย แต่ตัวปราสาทส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกัมพูชา

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ค้นพบปราสาทแห่งนี้เมื่อปี 2442 แล้วทรงจารึกพระนามของพระองค์และปีที่ค้นพบไว้ที่บริเวณชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า ‘118 สรรพสิทธิ์’ เนื่องจากเขาพระวิหารตั้งอยู่ตรงรอยต่อของไทยกับกัมพูชา ซึ่งผลัดกันยึดครองดินแดนแถบนี้

จนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ไทยได้ส่งทหารเข้ายึดครองพื้นที่บริเวณเขาพระวิหาร เจ้านโรดม สีหนุ จึงยื่นฟ้องต่อศาลโลกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2502 การไต่สวนพิจารณาคดีเป็นไปอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 3 ปี มีการนัดพิจารณาสืบพยานทั้งหมด 73 ครั้ง จนในที่สุด ศาลโลกก็ตัดสินให้กัมพูชาเป็นฝ่ายชนะคดีด้วยคะแนน 9 ต่อ 3 เสียง ส่งผลให้ประเทศไทยต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 2 ข้อของกัมพูชา นับเป็นการเสียดินแดนครั้งล่าสุดของประเทศไทยในยุครัตนโกสินทร์ เสียพื้นที่ไปทั้งหมดประมาณ 150 ไร่

หลังจากแพ้คดี จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ยินยอมให้นักศึกษาเดินขบวนประท้วงคำตัดสิน และปิดทางขึ้นปราสาทซึ่งอยู่ในเขตประเทศไทย เป็นการตอบโต้กัมพูชา เหลือเพียงทางขึ้นเป็นช่องเขาแคบ ๆ สูงชันและอันตราย ในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของกัมพูชา เขาพระวิหารก็ถูกสั่งปิด-เปิดให้เข้าชมอยู่หลายครั้งตามสถานการณ์ภายในประเทศ ก่อนจะเกิดความร่วมมือกันอีกครั้งระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบันนี้ เขาพระวิหารนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของ จ. ศรีสะเกษ

11 มิถุนายน พ.ศ. 2564 'โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ' ทุ่มร้อยล้าน คว้าสิทธิ์ 'ยูโร 2020' มอบความสุขให้คนไทย ได้ชมฟรีทุกนัดตลอด 1 เดือน

เชียร์ยูโร Aerosoft เชียร์ยูโร ! เชียร์ยูโร Aerosoft เชียร์ยูโร ! เชียร์ยูโร Aerosoft เชียร์ยูโร ! 

เชื่อว่าหลายคนคงยังไม่ลืมเพลง 'เชียร์ยูโร Aerosoft 2020' อีกเพลงฮิตติดหูฉบับเร่งด่วน ที่ 'ณัฐภูมิ รัฐชยากร' เนรมิตขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถูกนำมาใช้ประกอบกับลิขสิทธิ์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 กันไม่มากก็น้อย

โดยวันนี้เมื่อปีที่แล้ว คอบอลชาวไทยได้เฮ!! หลังแบรนด์ 'รองเท้าแอร์โร่ซอฟ' ทุ่ม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 ยิงสด NBT2HD SPORT ครบ 51 นัด โดยเริ่มคิกออฟคู่แรก อิตาลี VS ตุรกี ช่วงคืนวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ย้อนกลับไปก่อนวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564 มีคำถามกันหนาหูในหมู่คนไทยว่า จะมี 'ยูโร 2020' มาให้รับทางฟรีทีวีหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีการประกาศอย่างชัดเจนจากหน่วยงานใด ๆ ว่าจะมีการนำลิขสิทธิ์สัญญาณการถ่ายทอดสด 'ฟุตบอลยูโร 2020' มาเผยแพร่ในช่วงนั้น

เหตุผลที่ทำให้เรื่องนี้ดูนิ่ง ๆ ไป เพราะต้องยอมรับว่า สถานการณ์ในตอนนั้น ทางภาครัฐบาลไม่สามารถนำงบภาษีที่เก็บจากประชาชนมาคืนความสุข ด้วยการไปร่วมประมูลซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทีวีพูล) หรือผ่านช่องทางอื่นได้ ต้องเป็นช่องทีวีเอกชนเท่านั้น ถึงจะสามารถประมูลฟุตบอลยูโร มาถ่ายทอดสดให้คนไทยได้ดูกัน เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมาก็ยังไม่มีเอกชนรายใดขอซื้อลิขสิทธิ์เข้ามาถ่ายทอด จนคนไทยส่วนใหญ่น่าจะไปหวังพึ่งลิงก์เถื่อนที่ดูไปสะดุดไป อย่างไร้อรรถรส

อย่างไรก็ตาม ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2020 ตลอด 51 นัด ก็เกิดขึ้นได้ จากผู้สนับสนุนหลักอย่าง บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้ายี่ห้อ 'แอโร่ซอฟ' ภายใต้ ‘นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานกรรมการ ผู้ที่ตั้งใจจะมอบความสุขให้แก่คนไทยในยามโรคระบาดยังไม่จางหาย ได้รับชมกันเต็มอิ่มทุกนัดแบบไม่สะดุด

โดยในส่วนของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในครั้งนั้น ทางแอโร่ซอฟ เป็นภาคเอกชนรายเดียวในการทุ่มงบ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ 'ยูฟ่า' เพื่อให้คนไทยได้รับชมการถ่ายทอดสดฟรีทุกนัดตลอด 1 เดือน (11 มิ.ย. - 11 ก.ค.64) ทางช่อง NBT2HD SPORT

ยิ่งไปกว่านั้น 'เวลาแอร์ไทม์' หรือช่วงเวลาที่สามารถนำไปสร้างรายได้จากโฆษณาตลอดช่วงถ่ายทอดสดทั้งหมดนั้น ทาง 'แอโร่ซอฟ' ของ คุณโกมล ก็ไม่ได้นำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ใด ๆ หากแต่นำเวลาเหล่านั้นมาช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยการเปิดโอกาสให้โปรโมตสินค้าและธุรกิจแบบฟรี ๆ ตลอดซีซั่นบอลยูโร 2020 อีกด้วย

สำหรับ ‘นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้ายี่ห้อ 'แอโร่ซอฟ' ถือเป็นอีกผู้ใหญ่ใจดีของสังคมไทย และเป็นบุคคลที่มักเข้ามาช่วยเหลือเรื่องใหญ่ ๆ ในสังคมไทยแบบไม่ออกหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ได้บริจาคเงิน จำนวน 100 ล้านบาท พร้อมด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ประกอบด้วย อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและตา (Face Shield) จำนวน 3,000 ชิ้น และเครื่องช่วยหายใจไฮโฟลว์ (Airvo 2) จำนวน 10 ชิ้น ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช เพื่อสนับสนุนการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้ในการรักษา

“Aerosoft รองเท้าแตะนุ่มสบายขอเป็นกำลังใจ…ให้คนไทยทั้งชาติ”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top