Thursday, 27 June 2024
Lite

28 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 วันคล้ายวันก่อตั้ง ‘ม.ศรีปทุม’ เดิมชื่อ ‘วิทยาลัยไทยสุริยะ’ 1 ใน 5 สถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งแรกในประเทศไทย

‘วิทยาลัยไทยสุริยะ’ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 เป็น 1 ใน 5 สถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งแรก ๆ ที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย โดย ดร.สุข พุคยาภรณ์

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2515 วิทยาลัยไทยสุริยะ ได้รับพระราชทานนามใหม่จาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็น ‘วิทยาลัยศรีปทุม’ (กระทรวงศึกษาธิการได้อนุญาตให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็นชื่อวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2515) และพระราชทานความหมายว่า ‘เป็นบ่อเกิดแห่งวิชาที่เบิกบานเช่นดอกบัว’ พร้อมทั้งได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดป้ายนาม ‘ศรีปทุม’ และพระราชทานปริญญาบัตร อนุปริญญา และประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษารุ่นที่ 1,2 และ 3

ทั้งนี้ ทบวงมหาวิทยาลัยได้อนุมัติให้เปลี่ยนประเภทเป็น ‘มหาวิทยาลัยศรีปทุม’ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530

โดย มหาวิทยาลัยฯ ได้ขยายวิทยาเขตออกไปในปีการศึกษา 2530 โดยได้จัดตั้งวิทยาเขตที่สมบูรณ์แบบเป็นครั้งแรกที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในพิธีเปิดมหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2530

ในปี พ.ศ. 2537 มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขออนุมัติทบวงมหาวิทยาลัย (ในขณะนั้น) จัดตั้งมหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาคารพญาไท เปิดสอนในหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาเพื่อพัฒนานักบริหาร โดยเปิดสอนครั้งแรก ณ อาคารเอ็กซิม (อาคารบุญผ่องเดิม) ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท ต่อมาได้ย้ายสำนักงานมาเปิด ณ อาคารเอสเอ็มทาวเวอร์ ชั้น 17 และชั้น 20 ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท เพื่อเปิดสอนหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาสำหรับนักบริหาร (ปัจจุบันไม่มีการสอนที่วิทยาคารพญาไทแล้ว)

ในปี พ.ศ. 2556 มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้ขยายการเรียนการสอนไปยังจังหวัดขอนแก่น ภายใต้ชื่อ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

‘พี่เสก’ เปิดใจ!! ใช้ชีวิต แบบ ‘ร็อกสตาร์’ มีทั้งดีทั้งร้าย รับ!! เคยเป็นพ่อที่แย่ แต่ตอนนี้เลิกทุกอย่างแล้วเพื่อครอบครัว

ร็อกสตาร์ระดับตำนาน ‘เสก โลโซ’ มาเปิดใจพร้อมลูกชาย ‘เสือ เสฏกานต์ สุขพิมาย’ และวงโลโซแบบยกทีม เผยถึงการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ 28 ปี LOSO We Are The Rock And Roll Concert ที่เป็นการรวมตัวกันในรอบหลายปี และเรื่องราวดราม่าของครอบครัวระหว่างพ่อลูก ตอนนี้เลิกทุกอย่างแล้วเพื่อครอบครัว ยอมรับอดีตเคยเป็นพ่อที่แย่มาก ลั่น! ยังรัก GMM อยู่เสมอ ถ้าเป็นไปได้ก็ยังอยากกลับไปร่วมงานกับค่ายอีกครั้ง ในรายการ WOODY FM

>>อยากรู้ว่าตอนที่ยังเด็กแล้วรู้ว่ามีคุณพ่อเป็น ‘เสก โลโซ’ ใช้ชีวิตแบบไหน ต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้าง ?

เสือ เสฏกานต์ : ตอนเล็ก ๆ ผมไม่ค่อยได้เจอพ่อเจอแม่ ผมโตมากับคุณยายคุณตา คุณพ่อก็ไปทัวร์บ่อยไปต่างจังหวัด ไปต่างประเทศบ่อย ตอนนั้นก็ยังไม่รู้เรื่องอะไร ตั้งแต่เด็กก็เลยไม่ได้สนิทอะไรกันมาก ซึ่งมันเป็นอะไรที่เก็บมาตั้งแต่เด็กครับ เรื่องการที่เรามีความห่างกันนิดหนึ่ง พอโตมาประถมก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าพ่อทำงานอะไร พ่อเป็นใคร ไปเล่นคอนเสิร์ตให้คนดูเยอะมาก ช่วงนั้นก็ได้ไปดูคอนเสิร์ตพ่อบ้าง ได้ไปทัวร์ต่างประเทศด้วย ไปยุโรป ไปอเมริกา ก็ได้ไปกับพ่อเกือบทุกงาน 

คือตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่านี่ก็คือชีวิตเด็กธรรมดาแบบนี้หรือเปล่า แต่ว่าจริง ๆ แล้วมันก็ต่างจากชีวิตคนอื่นมากเลย พอเราโตมาเรื่อย ๆ ก็เห็นว่าอะไรเป็นอะไร งานเป็นยังไง ครอบครัวเป็นยังไง ที่โรงเรียนเพื่อน ๆ คุณครูก็ไม่มีใครมาคุยอะไรที่ทำให้ผมกระวนใจอะไร ผมว่าเขาก็คงรู้ว่าต้องมีการเว้นพื้นที่กันในการคุยเรื่องครอบครัวด้วยที่พ่อเป็น เสก โลโซ แต่พอโตมาเจอข่าวมันก็มีการเครียด กังวล เป็นห่วงครอบครัว เป็นห่วงพ่อแม่เป็นห่วงน้องด้วย ก็อดทนมาตลอดรู้ว่าครอบครัวก็อดทนมาตลอด สู้มาตลอด ผ่านปัญหาด้วยกันมาตลอด ก็รู้สึกดีมากที่มาถึงจุดนี้ได้

>>เคยมีวันหนึ่งไหมที่รู้สึกว่าเราอาจจะยอมแพ้ ?

เสือ เสฏกานต์ : มีอยู่แล้วครับ แต่ผมเป็นคนที่มีความคิดว่าทุกอย่างมันจะลงตัวเอง ผมเป็นคนที่รู้สึกว่าเราชอบที่จะปรับตัวกับทุกเหตุการณ์ ทุกสถานการณ์ครับ เป็นคนที่ปรับตัวได้ง่ายกับการเปลี่ยนแปลงของชีวิต มีช่วงที่ผมย้ายบ้านบ่อยเพราะเริ่มมีปัญหามันก็อาจจะเครียดนิดหน่อยครับแต่ว่ารู้สึกว่าผมปรับตัวได้ง่าย ก็ใช้ชีวิตต่อไป ทำหน้าที่ของเรา ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.ปลาย ก็โฟกัสกับการเรียน โฟกัสการเข้ามหาวิทยาลัย แต่เรื่องชีวิตมันก็เครียดคิดว่าอยากหนี ไม่อยากอยู่ในจุดนี้แล้ว ไม่อยากเป็นคนที่ทุกคนรู้จัก แต่ว่าด้วยมายเซ็ทของผม คิดว่าในที่สุดมันก็ต้องจบในทางที่ดี

>> ทำไมถึงตัดสินใจส่งลูกไปเรียนอินเตอร์?

เสก โลโซ : เขาอยากไปเรียน เขาเลือกโรงเรียนเองด้วยนะ แล้วเขาไปคนเดียวเลย พี่ไม่ได้ไปด้วยเลย วันที่จะไปเขามาขอตังค์พี่ ให้จ่ายค่าเทอมให้ เสือเขามาที่บ้านแล้วก็บอกว่าเขาจะไปเรียนที่อเมริกา วอชิงตัน ดี.ซี. พี่ก็น้ำตาซึมเลย จ่ายค่าเทอมเสร็จแล้วลูกก็บอกบ๊ายบาย แต่เสือไม่เห็นหรอก เขาไปอยู่ที่ต่างประเทศเก่งมากคนเดียว 3 ปีครึ่ง

>>อายุเท่าไหร่ครับ ?

เสือ เสฏกานต์ : ตอนนั้นก็ช่วงจบ ม.ปลาย อายุ 17-18 ครับ คิดไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่าอยากจะไปต่อมหาวิทยาลัยที่อเมริกา ไม่ก็อังกฤษ เพราะตอนสมัยเรียนพ่อก็พาไปเรียนที่อังกฤษ แล้วตอนนั้นพ่อก็ไปเรียนภาษาเหมือนกัน ก็เลยอยากจะใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ

>>พี่เสกเป็นคนที่เรียลมาก ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพี่ก็เผชิญกับหลายเรื่อง ?

เสก โลโซ : เป็น 10 ปีที่หนักหน่วงมาก 

>>ก่อนที่จะมาถึงวันนี้ก็มีหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหล้า ยา อะไรต่าง ๆ ที่วนอยู่ตรงนั้น เคยคิดไหมว่าฉันอยากจะออกจากตรงนี้?

เสก โลโซ : คือชีวิตร็อกสตาร์ ถ้าเป็นร็อกสตาร์จริง ๆ มันก็คล้าย ๆ กันนั้นแหล่ะ มีทั้งผู้หญิง มีทั้งยาเสพติด มีทั้งชื่อเสียงเข้ามาทั้งดี ทั้งร้ายนะครับ พี่ก็ผ่านมาหมดแล้ว ก็บอกตัวเองว่าเราเข้มแข็งพอที่จะเอาชนะมันได้ ซึ่งทุกวันนี้สะอาดมาก ดื่มเหล้าอย่างเดียว นอกนั้นไม่มีอะไรเลย บุหรี่ก็เลิกสูบ ไม่รู้เลิกสูบได้ไงก็ไม่รู้ เลิกสูบซิการ์หมดเลย เลิกมาน่าจะ 2 ปีได้แล้ว

>>เป็นอุทาหรณ์หรือเป็นตัวอย่างให้กับคนที่อยากเลิก พี่เลิกยังไง ?

เสก โลโซ : คือต้องเลิกให้กับครอบครัว แล้วก็ต้องกลับมาเป็นพ่อที่ดี เพราะว่าผมผ่านการเป็นพ่อที่แย่มาก่อน ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรให้เกี่ยวกับดนตรี เพราะรู้สึกว่าดนตรีอย่างเดียวที่จะนำเงินทองเข้ามา แล้วก็ส่งเสียลูกเรียนได้ พออยู่มาวันหนึ่งเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ผมแต่งงานกับคุณกานต์ 3 รอบแล้วนะ แต่งแล้วก็หย่า แต่งแล้วก็หย่า วู้ดดี้คิดดูสิ ไม่มีใครเป็นนะ อาจจะเป็นคู่แรกของโลกก็ได้ (หัวเราะ) แล้วก็มีความรู้สึกว่าตัวเองแย่มากพอมองกลับไป ในวันนี้รู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นที่เลิกทุกอย่างได้ แล้วก็มาเป็นพ่อที่เรียกว่าได้ดูลูกบ้าง เพราะปกติเขาต่อสู้มาด้วยตัวเอง ผมภูมิใจในความเป็นเสือมาก ที่เขามาเป็นนักร้องอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นแร็ปเปอร์

>>คุณพ่อเคยชมไหม ?

เสือ เสฏกานต์ : เคยครับ (หัวเราะ) ก็แนวนี้ครับ ก็พ่อลูกกันอ่ะครับ ไม่ได้มี Emotional ขนาดนั้น

>>ก็ต้องยอมรับว่ามีความคาดหวังเหมือนกัน เพราะเป็นลูกของ เสก โลโซ ?

เสือ เสฏกานต์ : มีคนถามบ่อยนะครับว่าเป็นเสือในตอนนี้รู้สึกกดดันไหม ผมกับพ่อคือเป็นพ่อลูกกัน แต่ก็ไม่ใช่คนเดียวกัน แนวเพลงก็ต่างกัน ความชอบก็ไม่เหมือนกัน ผมชอบหลายแนว ร็อก ป๊อบ แร็ป แต่ที่ชอบจริง ๆ ก็คือ อยากทำเพลงแร็ป การที่ผมมาทำต่างจากพ่อ มันก็คือพาร์ตของมายเซ็ทหนึ่งที่คิดว่าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีความกดดันอะไร เพราะว่าเราไม่ได้ทำเพลงแนวแบบพ่อ ไม่ได้มีคาแรคเตอร์ มีลุคที่เหมือนพ่อ เราเป็นคนของตัวเอง บางทีผมก็เห็นคนมาบอกว่า ไม่เก่งเท่าพ่อเลย ไม่เห็นได้อะไรจากพ่อ ซึ่งผมก็โอเคเข้าใจ แต่ว่าก็ไม่ได้เก็บไปคิดอะไร เพราะว่าผมไม่ได้มีความหวังที่จะเหมือนพ่อ ที่จะเก่งเท่าพ่อ พ่อเป็นตำนานของไทย ของเอเชียเลยก็ได้ King Of Rock And Roll ความคิดของผมคืออยากจะทำเพลงให้ดี อยากทำเพลงให้คนได้ฟัง ได้มีอินสไปเรชั่นจากเพลง แต่ว่าผมไม่ได้มีความคิดที่อยากจะเป็นตำนานแบบพ่อ อยากจะเก่งที่สุด แค่อยากทำเพลงที่ผมชอบในแนวของตัวเอง ไม่ต้องกังวลว่าใครจะคิดอะไร

>>จากที่พี่เคยสดใสแฮปปี้แล้วมันไปดาร์กเกิดอะไรขึ้นในชีวิต มาจากเรื่องอะไรที่ทำให้เราตกลงไปในหลุม?

เสก โลโซ : พี่สนุกเกินไป ใช้ชีวิตแบบ Rock & Roll Star เพราะว่ามีเพื่อนเป็นโปรดิวเซอร์ระดับโลกเข้ามา มีเพื่อนเป็นนักดนตรีระดับโลกมาเล่นด้วยกันนะ ก็เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้เดือดร้อนใครแล้วก็ไม่อันตรายมาก แต่พี่คิดผิดที่เข้าไปสู่สิ่งเหล่านั้น แล้วก็ทำลายความสุขในครอบครัวไปมากทีเดียวเหมือนกัน พอมาวันนี้ก็รู้สึกว่าเราเอาชนะมันได้ ก็รู้สึกดีใจที่ได้ออกมาจาก Sex, Drugs and Rock 'n' Roll

>>สมมุติว่ามีใครที่ติดในกับดักนั้นอีกพี่อยากจะแนะนำว่า ?

เสก โลโซ : ก็จะเตือน อยากแนะนำเลยว่าอย่าไปยุ่งนะ เพราะอันนี้อันตรายถึงชีวิตทีเดียว คือรอดได้ไม่กี่คน พวกฝรั่งที่เขารอดได้เพราะว่าไป Rehab แล้วก็ทำกิจกรรมอะไรเยอะแยะ เราก็ต้องออกมาแล้วก็ต่อสู้ด้วยตัวเอง ซึ่งพี่เองคือเอาชนะใจตัวเองได้ เพราะว่าเรามีครอบครัว ถ้าคนที่ไม่มีครอบครัวพี่คิดว่าลำบากนะ เพราะว่าไม่มีเป้าหมายว่าเราจะเลิกสิ่งนั้นเพื่ออะไร เพราะว่ามันเข้าไปแล้วมันสนุกจริง ๆ สนุกสนานโดยที่ลืมไปว่าตัวเองมันอันตรายนะ เวลาที่คิดทีไรพี่ก็ยังมีอารมณ์ที่ดาวน์อยู่เหมือนกันนะ แต่ก็ต้องเอาชนะมันให้ได้ ต้องบอกว่ามันเป็นประสบการณ์และเป็นสิ่งที่เรานำมาสร้างงานจริง ๆ ก็ไม่อยากให้น้อง ๆ เข้ามาข้องเกี่ยว

>>เสือเองมองเรื่องนั้นยังไง ?

เสือ เสฏกานต์ : ครอบครัวเรารู้สึกดาวน์มาก ไม่ได้อยากที่จะพูดให้พ่อรู้สึกไม่ดี มันก็เป็นอะไรที่ผ่านมา พี่วู้ดดี้ก็คงจินตนาการได้ว่ามันเป็นเป็นช่วงที่เครียดที่เศร้ามาก ทุกอย่างมันเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าทางครอบครัวเรา ทั้งพ่อและแม่เข้ามาร่วมมือกันทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ผมก็รู้ว่าเขาอยากทำเพื่อครอบครัว เพื่อลูก พอเราคิดไปแบบนั้นก็ทำให้เราคิดในแง่บวกเพิ่มมากขึ้น ก็รู้สึกโอเคขึ้นเรื่อย ๆ เครียดน้อยลง พอเวลาผ่านไป เวลามันช่วยทุกอย่างได้ครับ พอได้เจอพ่ออีกทีทุกอย่างที่เรารอคอยมามันก็ได้ผล

>>วันนั้นจนถึงวันนี้ไม่มีใครที่จะสามารถมาท็อปความรู้สึกในการฟังเพลงของ LOSO คือทุกเพลงมันฟีลกูู๊ดแล้วก็แฮปปี้ แล้วผมก็หวังว่าสักวันหนึ่งอาจจะมีโอกาสทำอะไรใหม่ ๆ อีก เช่น อัลบั้มใหม่ ?

เสก โลโซ : ใช่ครับ พี่หวังไว้ พี่คิดอยู่ กำลังคิดอยู่ว่าจะไปออกในช่องทางไหนที่จะเป็นไป เพราะว่าหลังจากที่ออกมาจาก GMM พี่ก็ไม่ได้อยู่กับบริษัทอะไร ทำบริษัทเอง ซึ่งมันเรียกว่าก็ค่อนข้างยากเหมือนกัน พี่อยากกลับไปอยู่บริษัทใหญ่ ๆ จริง ๆ แล้วบริษัทใหญ่เขาจัดการได้ดีกว่าเราล้าน % ทุกวันนี้พี่ยังได้รับเงินจากแกรมมี่อยู่ทุกเดือน ยังรู้สึกขอบคุณเขามาก ที่ดูแลกันอยู่ เพลงเก่า ๆ ของพี่เขาเอาไปทำเป็นไวนิลเป็นอะไรต่าง ๆ ค้าขายดีมาก ซึ่งแม้ว่าพี่ไม่ได้ออกอัลบั้มมาร่วม 10 ปีแล้ว ยังมีความรู้สึกว่าเรายังมีบริษัทใหญ่ที่ดูแลเราอยู่เรื่องการค้าขาย เพราะเพลงที่พี่แต่งเป็นเจ้าของกับแกรมมี่คนละครึ่ง พี่ทำเงินให้บริษัทแกรมมี่ 2,000 ล้าน ประมาณนะ บวกลบคูณหารแล้วพี่ก็รู้สึกว่าทั้งคอนเสิร์ต ทั้งการขาย CD เทปคาสเซ็ทอะไรต่าง ๆ นา ๆ ขายได้เยอะทีเดียว เพราะฉะนั้นเราก็มีความผูกพันกันอยู่ ถามว่าพี่ยังรักแกรมมี่อยู่ไหม พี่ยังรักอยู่เสมอ เพราะว่าเขาดูแลพี่มาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เกิดมาจากตรงไหนก็รู้สึกเขามีบุญคุณกับเรา ทุกวันนี้ก็รับเงินจากแกรมมี่ทุกเดือน เพราะฉะนั้นถามว่าพี่ยังอยากกลับไปทำงานกับแกรมมี่ไหม อยากทำงานกับแกรมมี่ อยากทำงานบริษัทใหญ่ ๆ แล้วพี่ก็ยังมองว่าวงของเสือสามารถไปอยู่ในค่ายใหญ่ ๆ ได้ แล้วก็ทำออกมาให้มันเพอร์เฟ็กต์

สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=S2_Hx-MkxSo

29 พฤษภาคม ของทุกปี กำหนดเป็น ‘วันสากลแห่งเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของสหประชาชาติ’ เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ ‘ผู้อุทิศตน-กล้าหาญ’ ในการปฏิบัติภารกิจ

‘วันสากลแห่งเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของสหประชาชาติ’ (International Day of United Nations Peacekeepers) ตรงกับวันที่ 29 พฤษภาคมของทุกปี โดยเป็นวันที่แสดงความขอบคุณต่อชายและหญิง ผู้ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่และยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปในภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ด้วยความเป็นมืออาชีพ การอุทิศตน และความกล้าหาญในระดับสูง เพื่อสันติภาพและแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง บรรเทาความทุกข์ยากของผู้อื่นในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก

ทั้งนี้ วันดังกล่าวกำหนดขึ้นโดยข้อมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 57/129 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2545 และเริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2546 วันที่ 29 พฤษภาคม เป็นวันครบรอบการจัดตั้งองค์การตรวจตราการพักรบของสหประชาชาติ (UNTSO) ในปี พ.ศ. 2491 เพื่อดูแลการหยุดยิงหลังจากสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปีนั้น

30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 วันคล้ายวันสวรรคต ‘พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว’ กษัตริย์ผู้ทรงได้รับการยกย่องเป็น 'นักประชาธิปไตย'

หลังจากเหตุการณ์การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จฯ ประพาสยุโรป เพื่อทอดพระเนตรการพัฒนาด้านต่าง ๆ และทรงรับการผ่าตัดรักษาพระเนตรที่ประเทศอังกฤษ แต่เนื่องด้วยพระราชดำริที่ไม่ตรงกัน กับรัฐบาลคณะราษฎรหลายประการ และทรงพิจารณาแล้วว่า ไม่ทรงสามารถประสานกับรัฐบาล

เพื่อให้บรรลุประโยชน์แก่ปวงชนส่วนรวมได้ จึงตัดสินพระราชหฤทัยสละราชสมบัติ ขณะประทับพักฟื้นพระวรกายที่พระตำหนักโนล กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 เมื่อพระองค์ทรงสละราชสมบัติแล้ว ยังคงประทับอยู่ ณ ประเทศอังกฤษ แต่พระองค์ทรงพระประชวรอยู่เนือง ๆ อันเนื่องมาจากพระพลานามัยของพระองค์ ทรงไม่แข็งแรงมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์

กระทั่งเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตด้วยอาการพระหทัยวาย ขณะมีพระชนมายุ 48 พรรษา 6 เดือน 23 วัน สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงจัดการถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างเรียบง่าย ณ ฌาปนสถานโกลเดอร์สกรีน (Golders Green) ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2492 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี จึงทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกฯ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกจากท่าเรือเมืองเซาแธมตันโดยรัฐบาลอังกฤษ ตั้งกองเกียรติยศส่งเสด็จ เรือ Willem Ruys นำเสด็จฯ สู่สิงคโปร์ และเรือภาณุรังษีของบริษัทอีสต์เอเชียติก ได้นำเสด็จฯ เข้าสู่ประเทศไทยถึงเกาะสีชัง รัฐบาลไทย ซึ่งมีจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ส่งเรือหลวงแม่กลองไปรับเสด็จที่เกาะสีชัง มาถึงท่าราชวรดิฐ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เฝ้าฯ รับเสด็จฯ และอัญเชิญพระบรมอัฐิ โดยกระบวนพยุหยาตราใหญ่ เข้าสู่พระบรมมหาราชวังประดิษฐาน ร่วมกับสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

อย่างไรก็ตาม พระองค์ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่สำคัญหลายด้าน เช่น ด้านการปกครอง โปรดให้ตั้งสภากรรมการองคมนตรี ทรงตรากฎหมายเพื่อควบคุมการค้าขายที่เป็นสาธารณูปโภคและการเงิน ระบบเทศบาล ด้านการศาสนา การศึกษา ประเพณีและวัฒนธรรมนั้น พระองค์โปรดให้สร้างหอพระสมุด ทรงปฏิรูปการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังมีการปรับปรุงการศึกษาจนยกระดับมาตรฐานถึงปริญญาตรี ทรงตั้งราชบัณฑิตยสภา โปรดให้จัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับพิมพ์อักษรไทยสมบูรณ์ ชื่อว่า ‘พระไตรปิฎกสยามรัฐ’ เป็นต้น

นอกจากนี้ พระองค์ได้รับการยกย่องจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 เนื่องในวโรกาสฉลองวันพระราชสมภพครบ 100 ปี พระองค์ทรงได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์บางส่วนว่าเป็น ‘กษัตริย์นักประชาธิปไตย’ เนื่องจากทรงยินยอมสละพระราชอำนาจของพระองค์ให้เป็นของประชาชน และลดพระราชฐานะของพระองค์ให้เป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญพระองค์แรก

เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่อนุชนรุ่นหลังอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สถาบันพระปกเกล้า จึงได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้มีวันสำคัญเกี่ยวกับพระองค์ว่า สมควรกำหนดให้วันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ คือ วันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกปีเป็น ‘วันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว’ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 โดยให้กำหนดวันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกปีเป็น ‘วันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว’ อันเป็นวันรัฐพิธีโดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ

‘ลิซ่า’ ทำว้าวุ่น!! หลังโพสต์อวดชุดน้องเป็ดลาบูบู้ ราคาพุ่งไกลจากหลักร้อยถึงหลักพัน ไม่ถึง 24 ชม.

(21 พ.ค.67) เรียกว่างานเข้าคนรักอาร์ตทอย โดยเฉพาะติ่งลาบูบู้ หลังจากที่ ‘ลิซ่า Blackpink’ หรือ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ เจ้าแม่ sold out ขอเป็นสาวกรันวงการลาบูบู้อีกคน ได้ทำการโพสต์ภาพคู่น้องลาบูบู้ ก็ทำเอาลาบูบู้ราคาสูงขึ้นไปหลายเท่า แถมหายากจนบางรุ่นกลายเป็นแรร์ไอเทม กลายเป็นของหายากที่หลายคนพยายามตามหา ราคารีเซลล์จากหลักร้อยพุ่งไปถึงหลักสองพันบาทเป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุด ลิซ่า ได้โพสต์ภาพไอจีสตอรี่ กระเป๋าพร้อมลาบูบู้ อวดชุดเป็ดลาบูบู้ ก็ทำเอาวงการร้อนฉ่า จาก accessory ชุดเป็ดลาบูบู้จากราคาตามท้องตลาด ไม่ถึง 500 บาท ไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ลิซ่าโพสต์ ราคาดีดไปถึง 2,600 บาท แถมตอนนี้ยังต้องพรีออเดอร์ในบางร้านเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า 

ราคาชุดเป็ดลาบูบู้ไปไกลทำเอาชาวเน็ตหลายคนถึงกับอุทานว่า ราคาไปไกลมาก! บางคนก็บอกว่า แพงจนแทบขยี้ตาไม่ทัน บางคนก็ครีเอตไม่สนราคา เปิดรับถักชุดเป็ดให้น้องลาบูบู้ สร้างรายได้อีกด้วย

‘สายป่าน อภิญญา’ ทุ่มเงินครึ่งล้าน ซื้อนักมวยหนุ่มเข้าค่าย ชี้!! ชอบศิลปะมวยไทย อยากปั้นเด็กรุ่นใหม่ ให้ประสบความสำเร็จ

(22 พ.ค.67) สายป่าน อภิญญา เผยจุดเริ่มต้นจับธุรกิจมวยไทย ทุ่มครึ่งล้าน ซื้อนักมวยหนุ่มวัย 19 อนาคตไกล ชี้ประสบการณ์ใหม่ ต้องใจรักมาก

เริ่มเข้าวงการมวย เพราะชื่นชอบเป็นพิเศษ ถึงกับไปเรียนจริงจัง สำหรับนางเอกสาว ‘สายป่าน อภิญญา’ ล่าสุดควักเงินครึ่งล้าน ซื้อตัวนักมวยหนุ่มวัย 19 อนาคตไกล มาปลุกปั้นให้โอกาสขึ้นสังเวียน

โดย สายป่าน ได้เปิดใจถึง ประสบการณ์ใหม่ในวงการมวย ว่า ...

ช่วงนี้ซื้อนักมวยเก่ง? 
“ไม่เก่ง คนเดียวเองค่ะ(หัวเราะ) เพชรโฟกัส ตอนนี้ใช้ชื่อ เพชร โพกัส พีเค ว.อภิญญา ถามว่ามาเข้าวงการมวยได้ยังไง เราชอบ ไปดูแล้วรู้สึกว่าชอบศิลปะป้องกันตัวมวยไทยเป็นพิเศษ แล้วก็เรียน หลังจากนั้นมาพอเราดูทุกๆ วีค มีความชื่นชอบ อยากจะซื้อมวยไว้สักคนหนึ่ง ป่านชอบจริงๆ แล้วน้องเขาดูมีอนาคต เราอยากให้น้องเขาได้โอกาสดีๆ”

“ไม่ถึงกับเป็นโปรโมเตอร์ขนาดนั้นค่ะ ก็คือว่าเราสนับสนุนน้องเขา ดูแลน้องเขา ส่งน้องเขาซ้อม และมีรายการก็ส่งน้องเขาไปแข่งขัน ไปขึ้นชก เราก็คอยเป็นกำลังใจเชียร์ ดูแลเขาอยู่ในสายตาตลอด”

ทุ่มงบไปเท่าไหร่? 
“ไม่บอก(หัวเราะ) ประมาณ 6 หลักกลางๆ ยังไม่คิดจะซื้ออีก ขอลองก่อนเพราะจริงๆ มันไม่ได้ง่ายนะ ทำมวยต้องใจรักมากๆ จริงๆ ค่ะ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ถือว่าเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับป่านกับวุฒิเลย”

“สำหรับเป้าหมายในการปั้นน้อง ก็ไปให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่น้องจะไปได้ คือตอนนี้โฟกัสยังอายุ 19 เข้า 20 น้องเขายังไปต่อได้อีกไกล อยากให้น้องเขาประสบความสำเร็จในอาชีพ น้องเขาเป็นมวยที่เก่งอยู่แล้ว อยู่ที่ประสบการณ์ของน้องด้วย”

“ซึ่งป่านยินดีที่จะสนับสนุนน้องเขา ตอนนี้เป็นรายบุคคลไปก่อน สามีเขาก็สนับสนุน เขาอยากทำ พอมาคุยกันเราก็ชอบเหมือนกันนอกเหนือจากดำน้ำแล้ว ก็มีเรื่องมวยนี่แหละที่เราชอบทั้งคู่ มันถึงเวลาแล้ว พอเห็นน้องเขา แล้วรู้สึกว่าน้องเขามีโอกาสมีอนาคตอีกไกลเลย ก็น่าสนใจ”

มันไม่สำคัญว่าเราจะอยู่ตรงกลางหรือเปล่า เราสามารถไชน์ได้จากทุกที่

‘แพร ภริตา’ 1 ในสาวไทยจากวง ‘BABYMONSTER’ เปิดใจถึงรุ่นพี่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ผ่านบทสัมภาษณ์ใน Teen Vogue #BABYMONSTER โดยระบุว่า…

หนูรู้สึกว่าพี่ลิซ่าเปิดประตูสู่ความสำเร็จหลาย ๆ อย่างให้พวกเรามาถึงจุดนี้ค่ะ เพราะงั้นหนูเลยรู้สึกขอบคุณมาก ๆ

คำสอนจากพี่ลิซ่าที่ติดอยู่ในใจหนูมากที่สุดคือ… "มันไม่สำคัญว่าเราจะอยู่ตรงกลางหรือเปล่า เราสามารถไชน์ได้จากทุกที่"

31 พฤษภาคม ของทุกปี ‘องค์กรอนามัยโลก’ กำหนดเป็น ‘วันงดสูบบุหรี่โลก’ สร้างสังคมตระหนักรู้ถึง 'พิษภัย-อันตราย' ที่เกิดจากการสูบบุหรี่

ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2531 ‘องค์กรอนามัยโลก’ ได้กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวัน ‘งดสูบบุหรี่โลก’ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทุกประเทศ ตระหนักถึงอันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่ โดยได้ประกาศให้มีการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยใช้ชื่อว่า ‘World Spidemic’ หรือการสูบบุหรี่เป็นโรคระบาดยู่ทั่วโลก

ดังนั้นรัฐบาลไทย ได้ตระหนักถึงความสูญเสียในชีวิตของประชากร ที่เกิดจากการสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี ให้รับทราบถึงอันตราย โทษของการสูบบุหรี่ซึ่งก็เป็นที่รู้กัน แต่จะให้เลิกสูบเลย เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผู้ที่ติดบุหรี่แล้ว

จึงได้มีการรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ และกำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลนำมาใช้ โดยการดูแลของกระทรวงสาธารณสุขผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้สูบบุหรี่ พยายามเลิกสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเลิกได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม ดังเช่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุขประกาศบังคับใช้ มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 ให้มีการพิมพ์คำเตือนโทษของการสูบบุหรี่ที่ข้างซอง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา

1 มิถุนายน พ.ศ. 2451 ‘ในหลวง ร.5’ ทรงประกาศใช้กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 นับเป็นประมวลกฎหมายฉบับแรกและทันสมัยที่สุดของสยาม

รู้หรือไม่? ประมวลกฎหมายฉบับแรกของไทยประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2451 ในสมัยรัชกาลที่ 5 

ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตั้งคณะกรรมการตรวจชำระและร่างกฎหมายใหม่นี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2450 โดยมีนักกฎหมายชั้นนำของไทยและของต่างประเทศ ได้เลือกร่างกฎหมายลักษณะอาญาก่อนกฎหมายฉบับอื่น โดยร่างเป็นภาษาอังกฤษก่อนแล้วจึงค่อยแปลเป็นภาษาไทยเสร็จเรียบร้อยเมื่อ พ.ศ. 2450

จากนั้นก็ได้พิมพ์เป็น 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศส เมื่อเสร็จแล้วคณะกรรมการก็นำขึ้นทูลเกล้าถวาย และได้ทรงประกาศใช้เป็นประมวลกฎหมายฉบับแรก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2451 ทรงเรียกประมวลกฎหมายฉบับแรกนี้ว่า ‘กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127’

ซึ่งว่ากันว่าประมวลกฎหมายฉบับแรกนี้ เป็นกฎหมายที่ทันสมัยในสมัยนั้น เพราะได้นำเอาหลักกฎหมายอาญาอันเป็นที่นิยมกันในประเทศต่าง ๆ มาพิจารณาดัดแปลง ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของสังคมไทยขณะนั้น และเพื่อเป็นการยกระดับประเทศขึ้นสู่ระดับอารยประเทศ

กฎหมายฉบับนี้ถือว่าเป็นประมวลกฎหมายที่แท้จริงฉบับแรกของไทย มีทั้งสิ้นรวม 340 มาตรา และได้ใช้บังคับมาจนถึง พ.ศ. 2486 จึงได้มีการปรับปรุงใหม่ ฉบับใหม่เรียกว่า ‘กฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2486’ และได้ใช้ต่อมาจนถึง พ.ศ. 2499 จึงได้มีการปรับปรุงใหม่อีกครั้ง คือประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา

‘เจอร์รี่ F4’ รักแรกสาวไทย ปรากฏตัวร่วมอีเวนต์สยามพารากอน แม้ผ่านมากว่า 20 ปี หลังบท ‘เต้าหมิงซื่อ’ แต่ความหล่อยังเป๊ะ!!

(24 พ.ค. 67) แฟนคลับกรี๊ดต้อนรับกันสนั่น ทำเอาสยามพารากอนแทบแตก เมื่อพระเอกชื่อดังจากไต้หวัน ‘เจอร์รี่ หยาน’ (Jerry Yan) หรือ ‘เจอร์รี่ F4’ ปรากฏตัวในงาน Tiffany & Co. เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ใหม่ล่าสุด ณ สยามพารากอน

ซึ่ง เจอร์รี่ ถือว่าเป็นสามีคนแรก ๆ ของสาวเอเชีย โดยแฟนคลับชาวไทยรู้จักกันดีจาก ซีรีส์ยอดฮิต F4 เวอร์ชันไต้หวัน (Metro Garden) ‘รักใสใสหัวใจสี่ดวง’ เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ในบทบาท ‘เต้าหมิงซื่อ’ รักแรกของสาวไทย

โดยเจอร์รี่มาในลุกส์สุดเท่ แต่คงความขี้เล่นตามสไตล์ โดยได้มีการโพสท่าให้สื่อมวลชนได้ถ่ายรูป และมีโมเมนต์น่ารัก น่ารัก ให้ได้เก็บภาพมาชม

และนอกจากนี้ เจอร์รี่ ยังได้ประกบคู่กับ Tiffany & Co. House Ambassador ของประเทศไทยอย่าง วิน เมธวิน ด้วย ทั้งนี้ภายในงานยังมีนักแสดงดัง อาทิ ฟอส จิรัชพงศ์ , มีน นิชคุณ , เชอรี่ เข็มอัปสร , ปอนด์ ณราวิชญ์ และ แบม สราลี ซึ่งแต่ละคนก็มาในลุกส์ที่เรียบโก้ สวยหล่อดูดีกันทุกคน

สำหรับความพิเศษของแฟล็กชิพสโตร์ Tiffany & Co. แห่งใหม่ล่าสุดใจกลางกรุง ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน คือ การตกแต่งภายใต้แนวคิดการออกแบบล่าสุดของแบรนด์ เป็นการเฉลิมฉลองมรดกแห่งงานฝีมือเหนือกาลเวลาและงานออกแบบโดดเด่นที่อยู่คู่แบรนด์ Tiffany & Co. มานานนับศตวรรษ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top