Tuesday, 13 May 2025
Lite

ตัดเชือก 4 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศสจะย้ำชัย หรือแชมป์หน้าใหม่จะบังเกิด

4 ทีมสุดท้ายในเวิลด์คัพ คุณคิดว่าใครจะเป็นแชมป์?

ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เราก็ได้เห็น 4 ทีมสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบรองชนะเลิศ 

ทีมแรกที่เข้ามาในรอบนี้เป็นทีมแรกคือ เหล่าขุนพลทัพฟ้าขาว อาร์เจนตินา นำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี่ ที่ลงสนามร่ายมนต์พาอาร์เจนเข้ารอบรองโดยหักด่านรอบ 16 ทีมด้วยการล้มออสเตรเลีย 3-1 และชนะการดวลจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-3 หลังใน 120 นาที เสมอกัน 2-2 

ในเกมรอบ 8 ทีม ที่พบกับอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ ดูเหมือนจะเป็นงานง่ายๆ เพราะออกนำ 2-0 โดยได้ประตูช่วงครึ่งแรกจาก มานูเอล โมลิน่า นาทีที่ 35 และจุดโทษของ เมสซี่ นาทีที่ 73 เกมทำท่าว่าจะจบด้วยชัยชนะของทัพฟ้าขาว แต่เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม เนเธอร์แลนด์ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จาก วูท เว็กซ์ฮอสร์ท ช่วงทดเวลา 10 นาที นาทีที่ 90+10 ใครจะคิดว่า เนเธอร์แลนด์จะตีเสมอ 2-2 นาทีสุดท้ายของสุดท้าย กล้องจับภาพไปที่กองเชียร์ทั้ง 2 ฝั่ง คนละอารมณ์เลย กองเชียร์ทัพฟ้าขาวถึงกับ ‘ช็อตฟีล’ 

ในจังหวะนี้ ถ้าเนเธอร์แลนด์ทำไม่ได้คือจบเกมไปเลย แต่นี้ต้องอยู่ด้วยกันต่อไปลุ้นที่การดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่า อาร์เจนตินายิงแม่นกว่าเนเธอร์แลนด์ เบียดเอาชนะไป 4-3 ในการดวลจุโทษ หลังเสมอ 2-2 ใน 120 นาที และส่งให้ขุนพลทัพฟ้าขาวลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 3 เส้นทางที่ เมสชี่ จะพาอาร์เจนตินาไปเป็นแชมป์โลกยังคงเปิดกว้างและในรอบรองต้องชนกับ ทัพตราหมากรุก โครเอเชีย ซึ่งไม่ง่ายเลยและเป็นถึงรองแชมป์เก่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

ทีมที่ 2 ที่เข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ด้วยการล้มเต็ง 1 อย่างบราซิลของรายการนี้ ในรอบ 16 ทีม คือโครเอเชีย แต่ก็เกือบเอาตัวไม่รอด เพราะต้องเล่นญี่ปุ่น จนถึงดวลจุดโทษ แอบเสียดายญี่ปุ่นอยู่นิดๆ มาทัวร์นาเมนต์นี้ดีจริง ๆ ล้มอดีตแชมป์โลกได้ 2 ทีม (เยอรมันและสเปน) เข้ามาเป็นที่ 1 ของสายชนโครแอต ในรอบ 16 ทีม ความเก๋าเกม บวกกับมีลูก้า โมดริช ที่คอยคุมจังหวะเทมโป้ของเกมทำให้ทัพโครเอเชียคว้าชัยเบียดญี่ปุ่นเข้ารอบ 8 ทีม ไปชนกับเต็ง 1 อย่างบราซิลของรายการนี้ ที่นำทัพมาโดยสุดยอดกองหน้าทั้งนั้น นำโดย เนย์มาร์ จูเนียร์ ราฟิณญ่า ริชาร์ลิซอน แอนโตนี่ มาติเนลลี่ และ เฆซุส แล้วก็เป็น ลูก้า โมดริช คนดีคนเดิมของคนโครแอตที่หักด่านบราซิลในการดวลจุดโทษ แต่คนที่พาโครเอเชียเข้ารอบมาจริงๆ เป็นพระเอกของงานนี้ทั้ง 2 รอบ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูทีมชาติโครเอเชีย ต้องบอกว่านี้โกล์หรือกาว เหนียวเกินพ่อเอ้ยยย เชฟจุดโทษทั้งรอบ 16 และ รอบ 8 ทีมแบบโคตรเทพ พาทัพตราหมากรุกเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน โดยจะชนกับ อาร์เจนตินา ในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ เป็นการรีแมตซ์เมื่อ 4 ปีก่อนที่โครเอเชียอัดทัพฟ้าขาว 3-1 ในฟุตบอลโลก 2018 ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก 

13 ธันวาคม พ.ศ. 2541 คุณทองแดง ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายตัว เป็นสุนัขทรงเลี้ยงในรัชกาลที่ 9

13 ธันวาคม พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงรับคุณทองแดง เป็นสุนัขทรงเลี้ยง

คุณทองแดง เป็นลูกของ ‘แดง’ สุนัขจรจัดบริเวณซอยศูนย์แพทย์พัฒนา ถนนพระราม 9 เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 9 ทรงนำมาเลี้ยงหลังจากเสด็จพระราชดำเนินไปเปิดศูนย์การแพทย์พระราม 9 และนายแพทย์คนหนึ่งนำคุณทองแดงมาทูลเกล้าฯ ถวายให้ทอดพระเนตร คุณทองแดงเกิดหลังลูก ๆ ของคุณมะลิไม่กี่วัน และทรงยกให้คุณมะลิเลี้ยงดู ทองแดง มีพี่น้องรวม 7 ตัว ซึ่งชาวบ้านตั้งชื่อให้ว่าทองแดง เพศเมีย, คาลัว เพศเมีย, หนุน เพศเมีย, ทองเหลือง เพศผู้ ได้ไปอยู่บ้านของข้าราชบริพารคนหนึ่ง, ละมุน เพศเมีย, โกโร เพศเมีย, โกโส เพศเมีย

คุณทองแดงมีลักษณะพิเศษต่างจากลูกสุนัขตัวอื่น คือ มีสายสร้อยรอบคอครึ่งเส้น มีถุงเท้าขาวทั้ง 4 ขา มีหางม้วนขดเป็นวง ปลายหางดอกสีขาว และมีจมูกแด่น ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายตัวเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ขณะมีอายุได้ 5 สัปดาห์ ที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

14 ธันวาคม พ.ศ. 2431 วันคล้ายวันเกิด ‘พระยาอนุมานราชธน’ นักปราชญ์ไทย ที่ยูเนสโกยกย่อง

วันที่ 14 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันเกิดของ พระยาอนุมานราชธน ผู้ที่มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมระดับโลก โดยได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)

พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2431 โดยปีนี้ (พ.ศ. 2565) จะครบรอบวันคล้ายวันเกิด 134 ปี ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ต่างๆ เช่น ประวัติศาสตร์ ภาษาไทย โบราณคดี นิรุกติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ศาสนาและประเพณี โดยเฉพาะวิชาวัฒนธรรม

ท่านได้นิพนธ์เรื่องราวทางวัฒนธรรมเป็นภาษาต่างประเทศเป็นจำนวนมาก อาทิ Introducing Cultural Thailand in Outline เป็นต้น อีกทั้งเป็นอาจารย์พิเศษระดับอุดมศึกษาหลายแห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

15 ธันวาคม วันชาสากล วันรณรงค์ให้ตั้งราคาสินค้าใบชาอย่างเป็นธรรม กับเครื่องดื่มที่อยู่คู่มนุษยชาติกว่า 2,000 ปี

‘วันชาสากล’ วันที่เกษตรกรผู้ปลูกชา ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมในการค้าชา และเป็นวันแห่งเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทั่วโลก!!

วันที่ 15 ธันวาคมของทุกปีเป็น ถูกยกให้เป็น ‘วันชาสากล’ (International Tea Day) วันนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงปี พ.ศ. 2548 จุดเริ่มต้นมาจากเกษตรกรผู้ปลูกชากลุ่มเล็ก ๆ ในเบงกอลตะวันตก และหลายรัฐทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องถึงสิทธิและความชอบธรรมในการค้าชาของตน โดยในช่วงนั้น แม้ว่าชาจะเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ แต่อุตสาหกรรมค้าชาในประเทศอินเดียกลับมีความอ่อนแอและบริหารจัดการได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ 

กระทั่งองค์กรเพื่อการสื่อสารและการศึกษาของประเทศอินเดีย (CEC – Centre for Communication and Education) ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสิทธิของเกษตรกรและผู้ผลิตรายย่อยในประเทศ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยได้รับความร่วมมือกับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติด้วยอีกทาง ในที่สุดจึงสามารถเข้ามาพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ค้าชากลุ่มย่อย ๆ ให้ได้รับความเป็นธรรมในการค้าชาและทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น

The Last Dance การเต้นรำครั้งสุดท้ายของ ลิโอเนล (เมสซี่) จากผู้ปลุกผีฟ้าขาวที่ชื่อ ลิโอเนล (สกาโลนี่)

และแล้วเราก็ได้คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ 

โค้งสุดท้ายแล้ว เกือบ 1 เดือนเต็มที่หลายคนอดตาหลับขับตานอนเพื่อดูฟุตบอลโลก ชมและเชียร์ทีมรักให้ถึงเป้าหมาย และอย่างที่ทราบครับ อาร์เจนติน่า เป็นทีมแรกที่เข้าไปชิงชนะเลิศในปีนี้ โดยคู่แข่งคนสำคัญในนัดชิงคือ แชมป์โลกครั้งที่แล้ว ฝรั่งเศส สมน้ำสมเนื้อครับ

สิ่งที่น่าสนใจที่อยากมาเล่า คือ บทสัมภาษณ์ของ เมสซี่ ที่ครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยบอกว่าฟุตบอลโลกหนนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเค้าแล้ว เพราะตอนนี้ก็อยู่ในวัย 35 ปีแล้ว อะไรที่เค้ามีและสามารถช่วยทีมได้ ก็จะพยายามทุ่มเทให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่า

แน่นอนว่า ชื่อชั้นของ เมสซี่ เกิดขึ้นอย่างว่องไว ด้วยวัย 22 ที่คว้าบัลลังดอร์มาครองครั้งแรกได้ แต่ต่อให้ทำได้ดีแค่ไหนก็มักจะมีเสียงวิจารณ์ถูกเป็นแพะรับบาปในวันที่อาร์เจนติน่าไม่ชนะบอลโลกกับเขาเสียที 

แม้ผลงานที่โดดเด่นในระดับสโมสรจะส่งให้ เมสซี่ เหมือนอยู่ในตำแหน่งที่ยิ่งสูงยิ่งหนาว ซึ่งเป็นจุดที่ใครๆ ก็โยนความคาดหวังให้กับชายคนนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายครั้งที่มีการพูดถึง เมสซี่ ว่าเป็นคนคาตาลันรึป่าว เค้าจึงไม่พร้อมหรือไม่เต็มทีกับทีมชาติอาร์เจนติน่า เมสซี่ ใหญ่เกินไป ใหญ่เกินทีมทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นยาก หรือบ้างก็อาจจะพูดถึงในเชิงอิทธิผลของ เมสซี่ ที่เหนือกว่าโค้ช

วิบากกรรมของ เมสซี เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะผลงานในฟุตบอลโลก ยังไม่ถึงฝั่งฝันในการคว้าโทรฟี่นี้มาครอง ซึ่งหากย้อนกลับไปช่วงทีมชาติตั้งแต่ครั้งแรกในปี 2005 จนถึงปัจจุบัน 2021 อาร์เจนติน่ายังคงวนเวียนอยู่กับความรู้สึกเดิม ๆ เรื่องเดิม ๆ ของความผิดหวังใกล้เคียงที่สุดในการเป็นรองแชมป์โลกในปี 2014 แพ้เยอรมนี รวมถึงการเป็นรองแชมป์โคปาอเมริกา แต่มันก็ยังไม่ถึงแชมป์ตามตั้งใจสักทีนั้นคือเหตุผลที่ทำให้ เมสซี่ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง

ครั้งนึงถึงขั้น ดิเอโก้ มาราดอนน่า ตำนานของทัพฟ้าขาวยังเคยออกมาสนับสนุนให้ เมสซี่ เลิกเล่นทีมชาติจริงๆเพราะว่าโดนเยอะมากและเห็นใจ เมสซี่มากๆ และมองว่าเหตุการณ์ไหนที่พาอาร์เจนฯ พ่ายแพ้ แพะที่ชื่อเมสซี่จะปรากฎโดยทันควัน จนแนะให้เลิกเล่นทีมชาติเพื่อเซฟตัวเองน่าจะดีกว่า

ขณะที่ ฮอร์เก้ ซามเปาลี อดีตกุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็เคยออกมาเปิดเผยภายหลังว่าปัญหาของทีมชุดนี้มันอาจเป็นเพราะ เมสซี่ แบกทีมมากเกินไป ไม่มีใครพยายามช่วยเค้าเลย โดนรุมกินโต๊ะอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถสร้างการเล่นได้มหัศจรรย์เหมือนแบบที่ บาร์เซโลน่า อาร์เจนติน่าจะไปได้ไกลแค่ไหนส่วนสำคัญมันขึ้นอยู่กับความเฉลียวฉลาดของ เมสซี่ แต่ทีมของเราไม่มีนักเตะไปเชื่อมโยงการเล่นกับค้าได้เลยมันจึงน่าผิดหวังมากๆ และน่าโมโห แรงผลักดันของทีมๆ นี้ก็คือ เมสซี่ แต่เรากลับหาเค้าไม่เจอ เราไม่มีความเป็นทีมเลย เราขาดการทำงานรวมกัน นั้นคือภาพรวมก้อนใหญ่ๆ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ติทีมชาติตั้งแต่ปี 2005 บทบาทของ เมสซี่ กับ อาร์เจนติน่ามันคือ THE แบก มันคือ One For All ถึงแม้จะยังไม่เกียรติยศในรูปธรรมแต่ส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่าเป็นระยะเวลาเกิน 15 ปี กับเมสซี่ที่ต้องรับบทบาทนี้และเค้าก็ทำมันอย่างเต็มที่

โลกของฟุตบอล One For All มันอาจไม่ตอบโจทย์เพราะนี้คือเกมของการเล่นเป็นทีม มันต้องเปลี่ยนให้เป็น All For One ให้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องช่วยเหลือกันเพื่อความเป็นทีม เป็น 1 เดียวให้ได้และนั้นคือสิ่งที่ อาร์เจนติน่าเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนจะมาบอลโลกในครั้งนี้ แต่แน่นอนครับแฟนบอลรอคอยในการที่จะดูฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของ เมสซี่ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน

จุดพลิกผัน!!

ภายหลังทีมชาติอาร์เจนติน่าเริ่มต้นหลังจากตกรอบ 16 สุดท้าย ปี 2018 แพ้ฝรั่งเศส 4-3 ฮอร์เก้ ซามเปาลี กุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่าอำลาทีมไป คนที่เข้ามาคือ ลิโอเนล สกาโลนี่ จากตอนแรกขึ้นมาในหน้าที่โค้ชรักษาการ เพราะ สกาโลนี่ เคยทำงานอยาในทีมของ ซามเปาลี อยู่แล้วเพียงแต่ว่าโค้ชหนุ่มคนนี้ค่อยๆ ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างกลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้วค่อยๆ แก้ไขจุดอ่อน สกาโลนี่ บอกว่าขอสรุปในการล้มเหลวจากบอลโลกปี 2018 ผมพบว่าการที่เราแพ้ให้ ฝรั่งเศส และ โครเอเชีย เป็นเพราะว่าเสียบอลในตำแหน่งที่ไม่ควรเสียมากเกินไป เราตั้งขบวนเกมรับไม่เป็น ขนาดที่พวกเค้าซ้อมกันมาเป็นอย่างดีและใช้เวลาแค่ 3-4 วินาที เข้าโจมตีและเปลี่ยนโอกาสนั้นให้เป็นประตู ซึ่งนี้คือต้นแบบโมเดิร์นฟุตบอล แล้วสกาโลนี่ก็ค่อยๆ นำศาสตร์ตรงนี้เข้ามาปรับเปลี่ยนทีมชาติอาร์เจนติน่า เล่นบอลให้จังหวะน้อยลง ตรงไปตรงมา เล่นไดเร็คฟุตบอลมากขึ้น บอลจากรับสู่รุกใช้เวลาน้อยลง ส่วนเรื่องนอกสนาม สกาโลนี่ ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ความเป็นรุ่นพี่ค่อยๆ ประคับประคองให้เกิดความปรองดอง 

โรดริโก้ เดอ ปอล 1 ในนักเตะอาร์เจนชุดนี้ บอกว่าช่วงแรกที่ สกาโลนี่เข้ามาเป็นโค้ชคนใหม่หลายคนมีความวิตกกังวล หวาดระแวง ไม่ยอมเปิดใจต่างคนต่างเล่น ต่างคนต่างมาเหมือนพักเบรคจากการทำงานแล้วก็มารวมตัวกันแล้วก็แยกย้ายมันออกไปแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ ซ้อมเสร็จประชุมเสร็จแยกย้ายเข้าห้อง แต่มันก็เริ่มค่อยๆ ดีขึ้น

3ปีผ่านไป เห็นสิ่งที่มันแตกต่าง!!

เดอ ปอล บอกว่า สกาโลนี่ปลูกฝั่งทัศนคติของผู้ชนะให้กับนักเตะทุกคน เค้ารวมทีมได้เป็น 1 จากการทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างที่ดีเช่น มีวินัยในการกิน ออกกำลังกาย ทักทายทุกคน ทำให้ทุกๆ คนอย่ในทีมจริงๆ และช่วยเหลืออย่างที่ควรจะเป็นสร้างปฏิสัมพันธ์ด้วยตลอดเวลา ซึ่งสุดท้ายทุกอย่างมันลงตัวขึ้น

ลิโอเนล เมสซี่ ก็ยังยอมรับว่า นาทีนี้มันเป็นบรรยากาศของทีมชาติในช่วงที่น่าจะดีที่สุดตั้งแต่เค้าเล่นให้อาร์เจนติน่ามา ซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นอย่างรูปธรรมคือการคว้าแชมป์โคปาอเมริกาเมื่อปี 2021 เอาชนะบราซิล 1-0 สกาโลนี่ ทำให้ทีมก้าวกระโดดขึ้นไป 

เมสซี่ พูดถึง สกาโลนี่ว่าโค้ชคนนี้สะท้อนให้เห็นว่าเค้าเป็นพวกเดียวกับเรา รวมพวกเราให้เป็นหนึ่งเดียวได้ เป็นคนใจกล้า ใจกว้าง โดยเฉพาะการเข้ามารับงานในช่วงที่ดูสุ่มเสี่ยง เพราะหลังจาตกรอบฟุตบอลโลก 2018 มันดูเหมือนเป็นยุคมืดของทีมชาติอาร์เจนติน่าด้วยซ้ำไป แต่ สกาโลนี่ กล้าหาญมากที่ขึ้นมารับงาน เค้าเชื่อใจนักเตะทุกคน ผู้เล่นหน้าใหม่ๆ อายุน้อย หรือตัวเก๋าประสบการณ์ สกาโลนี่ เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างให้เติบโตและเดินไปพร้อมๆ กัน นั่นคือสาเหตุสำคัญที่เค้าแสดงออก และเด็ก ๆ มีความมั่นใจและเชื่อใจ

16 ธันวาคม วันกีฬาแห่งชาติ เพื่อรำลึกถึงพระปรีชาสามารถ ของพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

วันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปี กำหนดเป็น วันกีฬาแห่งชาติ ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นตัวแทนของนักกีฬาทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพฯ และทรงชนะเลิศได้รับเหรียญทองในการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ซึ่งถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ทางการกีฬาของประเทศไทย 

นอกเหนือจากกีฬาเรือใบแล้ว แบดมินตันก็เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โปรดมากเช่นกัน ในหอประชุมวังจิตรลดารโหฐาน ได้ปรับแต่งเป็นสนามแบดมินตันมาตรฐาน ส่วนมากพระองค์จะทรงแบดมินตันในตอนเย็นและวันศุกร์ และเช้าวันอาทิตย์ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทางการกีฬานี้ เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลกว่าพระองค์ทรงเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริง และทรงสนับสนุนกีฬาจนเป็นที่ปรากฏชัด

17 ธันวาคม พ.ศ.2498 วันสวรรคตของ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

17 ธันวาคม พ.ศ.2498 สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระนามเดิม พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา เสด็จสวรรคต

สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระนามเดิม พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชสมภพแต่สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) เป็นพระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชชนนีในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์แรกของไทย รวมทั้งสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ต้นราชสกุลมหิดล ซึ่งเป็นราชสกุลที่สืบราชสันตติวงศ์ของประเทศไทยในปัจจุบัน

นอกจากนี้พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งองค์สภาชนนีสภาอุณาโลมแดง อันเป็นชื่อของสภากาชาดไทยเมื่อครั้งแรกตั้งในต้นรัชกาลที่ 5 เป็นพระองค์แรกและพระองค์เดียว และองค์สภานายิกา สภากาชาดไทย พระองค์ที่ 2 และทรงสร้างสถานพยาบาลขึ้น ปัจจุบัน คือ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสภากาชาดไทย

เมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล พระราชนัดดา เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงเฉลิมพระนามสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี ขึ้นเป็น สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ตามพระราชสัมพันธ์ของพระองค์กับรัชกาลที่ 8 คือพระอัยยิกา (ย่า) และดำรงพระอิสริยยศนี้จนตลอดพระชนมายุ

สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มีพระชนม์ชีพยาวนาน 6 รัชกาล ก็ทรงพระประชวรหลังตกจากพระที่นั่งสูง 6 ฟุตกระแทกกับพื้นห้องทำให้พระอัฐิที่คอต้นพระเพลาหัก และต้องรักษานานถึง 3 เดือน ต่อมาอีก 5 ปี ก็ประชวรด้วยมีอาการอักเสบที่พระปับผาสะ

วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินมายังวังสระปทุมเมื่อเวลาประมาณ 2 ยาม เนื่องจากคณะแพทย์ที่ถวายการรักษาสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้ากราบบังคมทูลว่าพระอาการหนักสุดที่จะแก้ไขแล้ว พระชนมชีพคงจะถึงที่สุดในไม่ช้า ภายในห้องพระบรรทมของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้านั้น พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงยืนอยู่ปลายพระบาท พร้อมด้วยคณะแพทย์และพยาบาลที่เฝ้าพระอาการ ส่วนหน้าห้องพระบรรทมนั้นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประทับอยู่

'ขันทีจีน' ตัวแทนอารยธรรมพิเศษ ข้ามพ้นกำแพงแห่งเพศ สู่ วัฒนธรรมใหม่ที่กระจายไกลไปทั่วโลก

เวลาเราดูซีรี่ย์จีนย้อนยุค โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องในรั้ว ในวัง หนึ่งตัวละครที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ ‘ขันที’ มนุษย์เพศชายที่ถูกจับมาตอน ‘ตัด’ เอาอวัยวะเพศออก เพื่อให้สามารถรับใช้ ทำงาน และดำเนินชีวิตอยู่ในฝ่ายในที่มีเพียงสตรีและบุรุษเดียวคือ ‘ฮ่องเต้’ เท่านั้น ที่เข้าออกได้

คำว่า ‘ขันที’ น่าจะเป็นคำที่ผูกโยงกับอัตลักษณ์แบบจีนจนเราคุ้นชิน โดยในภาษาจีนเรียก ‘ขันที’ ว่า ‘ไท้เจี๋ยน’ แต่ในเอาจริงๆ ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในภูมิภาคอื่นก็พบเห็นการมีอยู่ของ ‘ขันที’ เช่นเดียวกัน กระจายออกไปเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมโลกเลยทีเดียว ทีนี้ในแต่ละภูมิภาคเขาเรียก ‘ขันที’ กันอย่างไรบ้าง ? มาลองติดตามอ่านกันก่อน

สำหรับสยาม ในสมัยอยุธยาเราเรียก ‘ขันที’ ว่า ‘นักเทษขันที’ ซึ่งมีมาอย่างยาวนานก่อนจะมายกเลิกในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ส่วนข้าง มอญ - พม่า เรียก ‘ขันที’ ว่า ‘ก็อมนอย’ ส่วนในเกาหลีก็มี ‘ขันที’ เช่นเดียวกัน โดยเรียกว่า ‘แนซี’ การตอนของเกาหลีนี่โหดมาก เพราะเขา ‘ตอน’ โดยให้สุนัขกัดอวัยวะเพศจนขาด (คุณพระ !!!) 

สำหรับเรื่องราวของ ‘ขันที’ ที่น่าจะเก่าแก่ที่สุด ว่ากันว่าเกิดขึ้นที่เมืองลากาสช์ แคว้นสุเมเรียน ในเมโสโปเตเมีย ราว 2,000 ปีก่อนคริสตกาล และถือเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญในราชสำนักของเมโสโปเตเมียและอียิปต์โบราณ ภาษาละตินและอาหรับเรียกขันทีว่า ‘ยูนุก’ ซึ่งนี่คือต้นธารแห่ง ‘ขันที’ 

โดยวัฒนธรรมการใช้ ‘ยูนุก’ แตกแขนงออกเป็น 2 สายคือ สายแรก แพร่หลายไปตามเส้นทางสู่จีนในสมัยราชวงศ์สุย ซึ่งวันนี้เราจะมารู้จัก ‘ขันที’ ในวัฒนธรรมที่จีนกัน ส่วนสายที่ 2 แพร่หลายในเอเชียตะวันตกและเอเชียใต้ สู่เปอร์เซียโบราณและจักรวรรดิโรมันตะวันออกหรือไบแซนไทน์

ส่วนต้นกำเนิดของขันทีในจีนก็ยังมีความคลุมเครือ ไม่สามารถหาหลักฐานที่บ่งชี้ต้นทางได้อย่างชัดเจน แต่หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดที่พบนั้นเกี่ยวข้องกับ ‘โจวกง’ พระอนุชาของ ‘พระเจ้าโจวอู่หวัง’ ผู้ปราบพระเจ้าโจ้วและสถาปนาราชวงศ์โจว ประมาณ 1,046 ปีก่อนคริสตกาล 

โจวกง มีชื่อจริงว่า ‘ต้าน แซ่จี’ เป็นโอรสองค์ที่ 4 ของพระเจ้าโจวเหวินหวัง เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยพระเจ้าโจวอู่หวัง ปราบพระเจ้าโจ้ว ในยุคนั้น ‘โจวกง’ เป็นผู้วางระบบกฎหมายทั้งในบทข้อห้ามและบทลงโทษ หนึ่งในบทลงโทษที่กระทำต่ออาชญากรและเชลยศึกนั่นก็คือ ‘การตอน’ เพื่อให้เป็น ‘ขันที’ โดยขันทีจะแยกออกเป็น 2 ประเภทตามรูปแบบการตอนคือ...

ประเภทแรกเป็น ‘ขันทีที่ถูกตัดแค่ส่วนขององคชาติ’ แต่เหลือส่วนของอัณฑะเอาไว้ ซึ่งการตัดในลักษณะนี้จะส่งผลให้ ขันทีประเภทนี้ยังคงมีลักษณะภายนอกเหมือนกับผู้ชายทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นของหนวดเครา ขนแขนหรือขนขา รวมถึงเสียงของขันทีเหล่านี้ก็ยังคงมีความทุ้มและห้าวอยู่ เพราะว่า ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายที่สำคัญ ยังผลิตจากอัณฑะอยู่ (แค่ไม่มี ‘ลำ’) ทำให้ยังเป็นผู้ชายอยู่ พวกนี้โดยมากจะเป็นเชลยศึกที่ถูกจับมา ต้องโดนตอนเพื่อไม่ให้สืบพันธุ์ได้ มักจะได้รับหน้าที่ให้ทำงานได้แค่ในเขตพระราชฐานชั้นนอกเท่านั้น 

ประเภทที่สอง ‘ขันทีที่ถูกตัดทั้งองคชาติและถุงอัณฑะ’ ขันทีประเภทนี้จะสูญเสียความเป็นชายไปทันทีหลังจากที่ได้ทำการเฉือนเอาถุงอัณฑะออกไปแล้ว อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ‘อัณฑะ’ คืออวัยวะที่ผลิตฮอร์โมนโทสเตอโรน (Testosterone) ของผู้ชาย เมื่อตัดออกไปทั้งพวง ผลที่ได้คือ เสียงที่เล็กแหลมเหมือนผู้หญิง ลักษณะทางกายภาพภายนอกจะดูต่างไปจากเพศชายในช่วงวัยเดียวกัน ไม่มีลูกกระเดือกใหญ่โต ขนแขนขนขาและหนวดเคราไม่มี แสดงออกเหมือนกับสตรีเพศ เนื่องจากว่าเขาสูญเสียฮอร์โมนสำคัญในเพศชายไปแล้ว พวกนี้คือ ‘ขันที’ ที่เราคุ้นชิน สามารถทำงานเขตพระราชฐานชั้นใน ได้

ขันทีทั้ง 2 ประเภทหลังจากแผลการ ‘ตอน’ สมานดีแล้ว จะใช้ท่อที่ทำจากโลหะ ไม้ไผ่ หรือฟาง สอดเข้าไปเพื่อช่วยในการปัสสาวะ และใช้ระบาย ‘อสุจิ’ ออกมาเมื่อมันเต็มจนล้นตามการผลิตที่ทำได้ (เสียบลึกขนาดไหนกันนั่น ?) 

ส่วนใหญ่แล้ว การตอนเป็น ‘ขันที’ แบบสมัครใจ มักทำตั้งแต่เด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์ เพราะการ ‘ตอน’ หลังจากวัยเจริญพันธุ์แล้วถือเป็นเรื่องเสี่ยงถึงแก่ชีวิตมากกว่า โดยอัตราการเสียชีวิตในหมู่ผู้ตอนหลังวัยเจริญพันธุ์แล้วอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 3 ซึ่งผู้ที่รับใช้องค์ ‘ฮ่องเต้’ มีผู้ที่ผ่านการตอนทั้ง 2 ช่วงอายุ แต่ตอนแล้วใช่ว่าความต้องการทางเพศจะถูก ‘ตอน’ ไปด้วย 

แน่นอนว่า ‘ขันที’ หลังวัยเจริญพันธุ์ ย่อมต้องเคยรับรู้เรื่องความต้องการทางเพศและด้วยการที่ ‘ขันที’ มีทรัพยากรและเวลาอย่างเหลือเฟือให้ทดลองกิจกรรมทางเพศที่เชื่อว่าอาจช่วยให้อวัยวะที่สูญเสียไปนั้นกลับคืนมา (ตัดเพราะอย่างมีอำนาจ พอมีอำนาจก็เลยอยากต่อคืน ประมาณนั้น) โดยเฉพาะเรื่องของ ‘พลังหยิน’ ที่เชื่อว่าต้องใช้ผู้หญิงมากระตุ้นส่วนที่ถูกตัดไปอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าความซาบซ่าน (จากกิจกรรมกระตุ้น) จะทำให้เกิดพลังหยาง สรุปมีผลลัพธ์ที่บันทึกในศตวรรษที่ 13 บรรยายว่า “ส่วนที่เป็นแผลที่สมานกันแล้วกลายเป็นเสียหายด้วยเพลิงราคะอย่างบ้าคลั่ง มีความรู้สึกว่าเส้นเลือดกำลังจะระเบิดออกมา แต่ไม่มีใครรู้ว่าเลยมันไม่สามารถฟื้นฟูได้” (ก็นะ มันจะไปงอกคืนได้ยังไง ???)  

18 ธันวาคม พ.ศ.2536 ดาวเทียมไทยคม (THAICOM) ดาวเทียมดวงแรกของไทย ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจร

วันนี้ เมื่อ 29 ปีก่อน ดาวเทียมไทยคม ดาวเทียมดวงแรงของไทย ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจร

18 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ดาวเทียมไทยคม (THAICOM) ดาวเทียมดวงแรกของไทย ถูกส่งขึ้นวงโคจร จากฐานส่งของบริษัท แอเรียนสเปซ (Arianespace) แห่งฝรั่งเศส ที่เมืองคูรู (Kourou) ประเทศเฟรนช์ เกียนา (French Guiana) ทวีปอเมริกาใต้ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รับพระราชทานชื่อ ‘ไทยคม’ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2534 โดยมาจากคำว่า ไทยคม (นาคม) สร้างโดยบริษัท ฮิวจ์ แอร์คราฟท์ (Hughes Aircraff) สหรัฐอเมริกา สามารถถ่ายทอดได้ทั้งสัญญาณโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง โทรศัพท์ และการสื่อสารข้อมูล ต่อมาได้ชื่อใหม่เป็น ‘ดาวเทียมไทยคม 1A’

ดาวเทียมไทยคม 1A ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2536 ในพิกัดตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก และย้ายไปที่ 120 องศาตะวันออกเมื่อ พฤษภาคม 2540 จากนั้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2537 ดาวเทียมไทยคม 2 ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจร อยู่ที่ตำแหน่งวงโคจร 78.5 องศาตะวันออก แทนพิกัดเดิมของ ดาวเทียมไทยคม 1A ดาวเทียมทั้ง 2 ดวงเป็นดาวเทียมรุ่น HS-376 แบบ Dual Spin ผลิตโดย บริษัท ฮิวจ์ แอร์คราฟท์ ประเทศสหรัฐอเมริกาหรือบริษัทโบอิ้งในปัจจุบัน

พื้นที่การให้บริการย่านความถี่ C-Band ของดาวเทียมไทยคม 1A และดาวเทียมไทยคม 2 ครอบคลุมประเทศไทยลาว กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลี ญี่ปุ่น และชายฝั่งตะวันออกของประเทศจีน ส่วนพื้นที่การให้บริการในย่านความถี่ Ku-Band ของดาวเทียมไทยคม 1A และดาวเทียมไทยคม 2 ครอบคลุมประเทศไทย และประเทศในแถบอินโดจีน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top