ตัดเชือก 4 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศสจะย้ำชัย หรือแชมป์หน้าใหม่จะบังเกิด

4 ทีมสุดท้ายในเวิลด์คัพ คุณคิดว่าใครจะเป็นแชมป์?

ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เราก็ได้เห็น 4 ทีมสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบรองชนะเลิศ 

ทีมแรกที่เข้ามาในรอบนี้เป็นทีมแรกคือ เหล่าขุนพลทัพฟ้าขาว อาร์เจนตินา นำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี่ ที่ลงสนามร่ายมนต์พาอาร์เจนเข้ารอบรองโดยหักด่านรอบ 16 ทีมด้วยการล้มออสเตรเลีย 3-1 และชนะการดวลจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-3 หลังใน 120 นาที เสมอกัน 2-2 

ในเกมรอบ 8 ทีม ที่พบกับอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ ดูเหมือนจะเป็นงานง่ายๆ เพราะออกนำ 2-0 โดยได้ประตูช่วงครึ่งแรกจาก มานูเอล โมลิน่า นาทีที่ 35 และจุดโทษของ เมสซี่ นาทีที่ 73 เกมทำท่าว่าจะจบด้วยชัยชนะของทัพฟ้าขาว แต่เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม เนเธอร์แลนด์ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จาก วูท เว็กซ์ฮอสร์ท ช่วงทดเวลา 10 นาที นาทีที่ 90+10 ใครจะคิดว่า เนเธอร์แลนด์จะตีเสมอ 2-2 นาทีสุดท้ายของสุดท้าย กล้องจับภาพไปที่กองเชียร์ทั้ง 2 ฝั่ง คนละอารมณ์เลย กองเชียร์ทัพฟ้าขาวถึงกับ ‘ช็อตฟีล’ 

ในจังหวะนี้ ถ้าเนเธอร์แลนด์ทำไม่ได้คือจบเกมไปเลย แต่นี้ต้องอยู่ด้วยกันต่อไปลุ้นที่การดวลจุดโทษ ผลปรากฏว่า อาร์เจนตินายิงแม่นกว่าเนเธอร์แลนด์ เบียดเอาชนะไป 4-3 ในการดวลจุโทษ หลังเสมอ 2-2 ใน 120 นาที และส่งให้ขุนพลทัพฟ้าขาวลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 3 เส้นทางที่ เมสชี่ จะพาอาร์เจนตินาไปเป็นแชมป์โลกยังคงเปิดกว้างและในรอบรองต้องชนกับ ทัพตราหมากรุก โครเอเชีย ซึ่งไม่ง่ายเลยและเป็นถึงรองแชมป์เก่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

ทีมที่ 2 ที่เข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ด้วยการล้มเต็ง 1 อย่างบราซิลของรายการนี้ ในรอบ 16 ทีม คือโครเอเชีย แต่ก็เกือบเอาตัวไม่รอด เพราะต้องเล่นญี่ปุ่น จนถึงดวลจุดโทษ แอบเสียดายญี่ปุ่นอยู่นิดๆ มาทัวร์นาเมนต์นี้ดีจริง ๆ ล้มอดีตแชมป์โลกได้ 2 ทีม (เยอรมันและสเปน) เข้ามาเป็นที่ 1 ของสายชนโครแอต ในรอบ 16 ทีม ความเก๋าเกม บวกกับมีลูก้า โมดริช ที่คอยคุมจังหวะเทมโป้ของเกมทำให้ทัพโครเอเชียคว้าชัยเบียดญี่ปุ่นเข้ารอบ 8 ทีม ไปชนกับเต็ง 1 อย่างบราซิลของรายการนี้ ที่นำทัพมาโดยสุดยอดกองหน้าทั้งนั้น นำโดย เนย์มาร์ จูเนียร์ ราฟิณญ่า ริชาร์ลิซอน แอนโตนี่ มาติเนลลี่ และ เฆซุส แล้วก็เป็น ลูก้า โมดริช คนดีคนเดิมของคนโครแอตที่หักด่านบราซิลในการดวลจุดโทษ แต่คนที่พาโครเอเชียเข้ารอบมาจริงๆ เป็นพระเอกของงานนี้ทั้ง 2 รอบ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูทีมชาติโครเอเชีย ต้องบอกว่านี้โกล์หรือกาว เหนียวเกินพ่อเอ้ยยย เชฟจุดโทษทั้งรอบ 16 และ รอบ 8 ทีมแบบโคตรเทพ พาทัพตราหมากรุกเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน โดยจะชนกับ อาร์เจนตินา ในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ เป็นการรีแมตซ์เมื่อ 4 ปีก่อนที่โครเอเชียอัดทัพฟ้าขาว 3-1 ในฟุตบอลโลก 2018 ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก 

ทีมที่ 3 ทุกทัวร์นาเมนต์จะมีทีมที่สร้างเซอร์ไพรช์ในรายการเมเจอร์ใหญ่ ๆ ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกของตัวแทนจากทวีปแอฟริกาที่ทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ‘โมร็อคโค’ ที่ต้องบอกว่าเกมรับนั้น ณ ชั่วโมงนี้ เสียลูกเดียวทั้งทัวร์นาเมนต์ ผลงานของโมร็อคโคในครั้งนี้อยู่ในระดับมาสเตอร์พีช ตบเบลเยี่ยมเข้ามาเป็นที่ 1 ของสาย รอบ 16 ทีมน็อกสเปนในการดวลจุดโทษ น็อกโปรตุเกส 1-0 ที่มีสตาร์ดังอย่าง CR7 และพังความหวังของโรนัลโด้ที่จะคว้าถ้วยฟุตบอลโลก 

โมร็อคโค มาครั้งนี้ต้องบอกว่ามีผู้เล่นระดับคุณภาพอย่าง โซฟียาน อมราบัต ที่อึดคอยเป็นมดงานปัดเป่าเกมรุกฝั่งตรงข้ามแบบไม่มีหมด ไม่ว่าจะ 90 นาที หรือ 120 นาทีพี่ อมราบัต คนนี้ฟิตไม่มีหมดจริง ๆ แนวรุก ฮาคิม ซีเย็ค ที่คอยสร้างจังหวะการเข้าทำให้กับเพื่อนต้องบอกว่า บังคิม ยิ่งเล่นยิ่งแสบ เกมกับโปรตุเกสมีจังหวะสวย ๆ หลอกล่อผู้เล่นโปรตุเกสจนผู้บรรยายภาษาอังกฤษถึงกับร้องว้าวออกมา และส่วนสำคัญคือแบ็กทั้ง 2 อาชราฟ ฮาคิมี่ และ มาชราอุย เป็นฟันเฟื่องสำคัญเกมริมเส้นขึ้นสุดลงสุดช่วยให้โมร็อคโคทะลุรอบรอง และที่ขาดไม่ได้เลย ยาซีน โบโน่ ผู้รักษาประตูของทีมที่โชว์เซฟโหด ๆ ไม่แพ้ของฝั่ง ลิวาโควิช ของโครเอชียเลย สมมติว่า โมร็อคโค กับโครเอเชีย ถ้าทะลุไปชิงได้แล้วดวลถึงจุดโทษอาจมีการเซฟกันจนเช้าก็ได้ครับ เหนียวเกินกาวทั้งคู่

และทีมสุดท้ายที่เข้าไปชนกับทางโมร็อคโคในวันที่ 14 ธ.ค. นี้คือทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์เก่าที่กลับมาป้องกันแชมป์อีกครั้ง ในทัวร์นาเมนต์นี้ ฝรั่งเศส ผลงานมาดีมาก ๆ จบที่ 1 ของสาย รอบ 16 ทีมสอนบอลโปแลนด์เบา ๆ 3-1 รอบ 8 ทีม เฉือนอังกฤษ ในเวลา 90 นาที ในเกมกับอังกฤษมีความสูสีเพราะศักยภาพผู้เล่นค่อนข้างเอาเรื่องทั้งคู่ อังกฤษนำมาโดย แฮรรี่ เคน, โฟเด้น, เบลลิ่งแฮม, ซาก้า ส่วนทัพตราไก่นำโดยท่านประธาน คีเลี่ยน เอ็มปั้บเป้, ชิรูด์, กรีชมันส์ และชูเอาเมนี่ ฝรั่งเศสออกนำไปก่อนนาทีที่ 17 จากออเลเรียง ชูเอาเมนี่ ที่ไกลเสียบมุมผ่านมือ พิคฟอร์ด เข้าไปอย่างสุดคม 

แต่หลังจากโดนออกนำอังกฤษจัดขบวนทัพบุกหวังทวงประตูคืนแต่จบครึ่งไปด้วยการออกนำของฝรั่งเศส 1-0 เริ่มครึ่งหลังมารูปเกมยังเป็นแบบเดิมอังกฤษหวังทวงประตูคืน ความพยายามมาสำเร็จในนาทีที่ 54 อังกฤษได้จุดโทษ จากจังหวะที่ชูเอาเมนี่เข้าสกัด บูคาโย่ ซาก้า ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินให้จุดโทษแก่อังกฤษ แฮรรี่ เคน เข้ามาซัดไม่เหลือซาก อังกฤษตีเสมอฝรั่งเศสแบบสุดสะใจ 

หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแรกหวังจะเอาประตูชัย แล้วก็เป็นพี่หล่อเหลาโกคาร์ทเหลี่ยมทอง โอริวิเยร์ ชิรูด์ ทะยานขึ้นโหม่งจากการเปิดของกรีชมันส์ บอลซุกตาข่ายฝรั่งเศสขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 78 อังกฤษหวังบุกหวังเอาประตูตีเสมอ แล้วได้ลูกจุดโทษครั้งที่ 2 อีกครั้ง เมื่อเตโอ แอกร์นองเดส ใช้ไหล่กระแทกผู้เล่นอังกฤษล้มในเขตโทษอีกครั้งผู้ตัดสินดู VAR แล้วให้ลูกจุดโทษลูกที่ 2 กับอังกฤษในนาทีที่ 84 แล้วก็เป็น แฮรรี่ เคน คนเดิมที่จะรับหน้าที่สังหารแต่ว่า แฮรรี่ เคน ยิงออก ชวดโอกาสตีเสมอ 2-2 เวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้น ฝรั่งเศสเอาชนะอังกฤษ 2-1 เข้าไปป้องกันแชมป์โลก โดยในประวัติศาสตร์มีแค่ 2 ชาติเท่านั้นที่ป้องกันแชมป์ได้ คือ เยอรมัน กับ อิตาลี

ฝรั่งเศสจะป้องกันแชมป์ได้หรือไม่ หรือจะมีแชมป์หน้าใหม่ในครั้งนี้ แล้วเจอกันอีกทีในรอบชิงชนะเลิศครับ


เรื่อง : เอก วงษ์อารีย์ Content Manager Special