Saturday, 5 July 2025
ElectionTime

โชว์ฟิต!! ‘กรณ์’ นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เตรียมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบ ระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ พร้อมโปรโมตการท่องเที่ยว

(9 มี.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช กล่าวว่า  ในระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม 2566 ตนพร้อมทีมงานจะเดินทางไป จ.สงขลา เพื่อทำกิจกรรมร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ทั้ง 4 เขต 

โดยในช่วงบ่ายวันที่ 10 มีนาคม จะพบปะพี่น้องประชาชนในเขตเมืองเก่าสงขลา และเข้าร่วมกิจกรรมงานวันสงขลาครบรอบ 181 ปี ณ ถ.นางงาม นครใน นครนอก ร่วมกับนายกัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต 1 จากนั้นในช่วงเย็นร่วมทอล์คเศรษฐกิจ ณ ไมอามี่ สงขลา 

จากนั้นในวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม ลงพื้นที่เขตอำเภอหาดใหญ่ เริ่มด้วยการพบกลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ และรับหนังสือแก้ปัญหากลิ่นขยะเน่าเหม็นที่ตำบลควนลัง ร่วมกับทนายอาร์ม นายพงศธร สุวรรณรักษา เขต 9 และลงพื้นที่ในใจกลางเมืองหาดใหญ่ บริเวณตลาดคลองเรียนร่วมกับนายจูรี นุ่มแก้ว เขต 2 เนื่องจากการลงพื้นที่ล่าสุดได้รับเสียงตอบรับจากโซนพื้นที่ค้าขาย ธุรกิจเป็นอย่างมาก และในช่วงเย็นลงพื้นที่ต่อเนื่องที่ตลาดน้ำคลองแห เพื่อทำกิจกรรมเศรษฐกิจชุมชนกับ ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 อาจารย์อ๊อด นายประสิทธิ์ รัตนพันธ์

“โดยไฮไลท์ของการลงพื้นที่สงขลา รอบนี้ของผมคือ วันอาทิตย์ 12 มีนาคม ผมจะเข้าร่วมกิจกรรมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการว่ายครั้งที่ 2 เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยววิถีชุมชนเมืองเก่า-หัวเขา เริ่มจากจุดปล่อยตัวที่ โรงสีแดง ถนนนครนอก จนถึงเส้นชัย ที่ Songkhla Pier ฝั่งหัวเขา โดยความพิเศษของรอบนี้คือ ผู้จัดจะมีการร่วมระดมทุนช่วยเครื่องมือแพทย์ขาดแคลนที่ รพ.สต.หัวเขา อีกด้วย” นายกรณ์ กล่าว 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า จ.สงขลา โดยเฉพาะพื้นที่หาดใหญ่เป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่พรรคชาติพัฒนากล้าเอาจริง และมั่นใจว่าจะสามารถคว้าชัยชนะในอย่างแน่นอน ดูจากเสียงตอบรับจากประชาชนในการลงพื้นที่แต่ละครั้ง และผู้สมัครทุกคนก็เป็นคนมีศักยภาพซึ่งพรรคได้คัดเลือกมาแล้วเพื่อพี่น้องประชาชนชาวสงขลา 

''สุชาติ ชมกลิ่น'' รมต.กระทรวงแรงงาน ผู้แก้ปัญหาแรงงานไทยใน วิกฤติโควิด-19 พร้อมเปิดตลาดแรงงานสู่ ซาอุดิอาระเบีย ในรอบหลายสิบปี

"สุชาติ ชมกลิ่น" เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ปรากฏตัวหน้าสื่อค่อนข้างบ่อย  ทั้งในบทบาทหนึ่งในการเป็นคีย์แมนของพรรคพลังประชารัฐ และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน  โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ระบาดโควิด - 19 นอกจากกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องทำงานหนักเพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสแล้ว ในส่วนของปัญหาปากท้อง และผลกระทบที่เกิดกับแรงงานในและนอกระบบ ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว ก็เป็นโจทย์ใหญ่ให้กระทรวงแรงงานต้องเร่งแก้ไข เยียวยาผลกระทบไม่แพ้กัน

สุชาติ  ชมกลิ่น หรือ "เสี่ยเฮ้ง" เริ่มผันตัวจากนักธุรกิจ เข้าสู่วงการเมืองท้องถิ่นด้วยการเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตอำเภอเมืองชลบุรี ก่อนเข้าสู่การเมืองสนามใหญ่ ด้วยการเป็น ส.ส.สมัยแรกกับพรรคบ้านใหญ่ชลบุรีอย่าง "พลังชล" ในปี 2554  และได้รับเลือกเป็นส.ส.เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันในปี 2562 สังกัดพรรคพลังประชารัฐ กระทั่งคล้อยหลังเลือกตั้งหนึ่งปี  เดือนสิงหาคม 2563  "สุชาติ" จึงมีโอกาสเข้ามารับตำแหน่ง "จับกัง 1" เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

ด้วยบุคลิกที่เป็น "คนตรง - ขาลุย" เป็นนักปฏิบัติ โดยเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ เปรียบตัวเองเป็น "ปลาเป็น" จึงต้องว่ายทวนน้ำ ไม่ปล่อยตัวไหลไปตามน้ำเหมือนปลาที่ตายแล้ว  ประกอบกับตัวเองมีความผูกพันกับผู้ใช้แรงงานในฐานะที่เคยเป็นผู้ใช้แรงงานมาก่อน จึงทำให้เข้าใจหัวอกคนใช้แรงงาน ซึ่งหัวใจสำคัญในการดำเนินนโยบายของ "สุชาติ"  คือการทำให้แรงงานมีหลักประกัน มีกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย ที่สามารถปกป้อง คุ้มครองให้ได้รับความเป็นธรรม

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีแรงงานคนนี้ ยังเข้ามาบูรณาการข้อมูล และระบบการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ภายใต้การกำกับของกระทรวง ตั้งเป็นศูนย์อำนวยการแรงงานแห่งชาติ ขับเคลื่อนทุกเรื่อง ในทุกมิติของกระทรวงแรงงาน ทั้งการพัฒนาฝีมือแรงงาน การจัดหางาน การจัดสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน และแก้ปัญหาต่างๆ ได้ถูกจุดและรวดเร็ว

ยกตัวอย่างช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังมีการร้องเรียนจากผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารคนไทย ให้ตรวจสอบคนต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจไม่ถูกกฎหมาย ใช้นอมินีคนไทยจดทะเบียนตั้งบริษัทแย่งอาชีพคนไทย และจ้างลูกจ้างชาวต่างชาติเป็นพนักงาน

พูดแล้วทำ!! ‘ศุภชัย’ ยัน!! ‘ภท.’ พร้อมผลักดันมาตรการดูแล ‘ผู้สูงอายุ’ ลั่น!! ถ้าได้เป็นแกนนำ รบ. จะทำให้ระบบดูแลสุขภาพดีกว่าเดิม

“ศุภชัย” ยัน “ภูมิใจไทย” มอง “ผู้สูงอายุ” เป็นพลังสังคม ไม่เป็นภาระ อาสาขอดูแลให้อายุยืนอย่างมีคุณภาพ เผย “อนุทิน” ผลักดันมาตรการสนับสนุนผ่าน สธ.ไปแล้วหลายเรื่อง ลั่นได้กลับมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล จะทำให้ระบบการดูแลสุขภาพพี่น้องชาวไทย​ทุกวัยดีขึ้นกว่าเดิม

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการ “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูป และ TikTok พรรคภูมิใจไทย ถึงแนวนโยบายดูแลผู้สูงอายุของพรรคภูมิใจไทยว่า ปี 2566 เป็นปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จนถึงวันนี้จำนวนผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปในประเทศไทย​มีมากกว่า 12 ล้านคน ในมุมมองของ พรรคภูมิใจไทย ไม่มองว่า ผู้สูงวัย ผู้สูงอายุ เป็นภาระ แต่เป็นพลังสังคม ซึ่ง​พลังผู้สูงอายุต้องอยู่บนพื้นฐานของพลังกาย และพลังใจที่แข็งแรง ก่อนหน้านี้ ​กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของ พรรคภูมิใจไทย ได้มอบของขวัญแก่ผู้สูงวัยไปแล้ว 5 เรื่อง อาทิ การคัดกรองสุขภาพกายและใจเชิงรุกในชุมชน, การมอบผ้าอ้อมผู้ใหญ่, แว่นสายตา, และเปิดบริการคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาลทั่วประเทศ เป็นต้น

“ในเรื่องของระบบการคัดกรองผู้สูงอายุเชิงรุกในชุมชนผ่านแอปพลิเคชัน “Smart อสม.” ​เราใช้พลังงานอันแข็งแรงของ อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ซึ่งมีกว่า 1 ล้านคน ​ที่เราเรียกท่านเหล่านี้ว่า เป็นหมอคนที่หนึ่ง ​ซึ่งเป็นอยู่ภายใต้นโยบาย 3 หมอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ออกไปค้นหาคัดกรองสุขภาพ 9 ด้าน ให้กับผู้สูงอายุทั่วประเทศอย่างน้อย 10 ล้านคน” นายศุภชัย ระบุ

เพื่อไทยคึก!! ‘ชลน่าน’ ตั้งเป้าคว้าเก้าอี้ ส.ส. ‘310 เสียง’  ลั่น!! พร้อมจัดตั้ง รบ.เพื่อไทย กำจัดระบบประยุทธ์ให้สิ้น

พท.ประชุมใหญ่คึกคัก “ชลน่าน” ประกาศเป้าหมาย 310 เสียง กำจัดระบอบ “ประยุทธ์” ให้สิ้นซาก ลั่นขอเข้าทำเนียบในนามรัฐบาลเพื่อไทย 

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรค พท.จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566  โดยมีแกนนำ กรรมการบริหารพรรค อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยสมาชิกพรรค เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง

นพ.ชลน่าน กล่าวปาฐกถาพิเศษ ว่า วันนี้เป็นการประชุมใหญ่ของพรรคพท. และเราจะมีโอกาสดีที่พวกเราชาวพรรคพท.มาร่วมผนึกกำลังกัน ณ เวทีแห่งนี้  เพื่อทำกิจกรรมสำคัญของพรรคพท. ตนเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ แต่ขอกล่าวด้วยความเสียใจว่าอาจเป็นผู้นำฝ่ายค้านครั้งสุดท้ายก็ได้ ทั้งนี้ สิ่งที่ตนอยากประกาศก็คือเราจะชูธง ปักชัย แลนด์สไลด์สู่เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน ซึ่งประเทศไทยในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นจุดต่ำสุด และตนในฐานะหัวหน้าพรรคมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าพรรคพท.เราเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ได้ เราเคยประกาศยุทธศาสตร์และเป้าหมายของการชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายคือแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ต้องได้ ส.ส.มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป แต่ในเวลานี้สิ่งที่เรามุ่งหวังตรงนั้น และสิ่งที่เราวางแนวทางเอาไว้ว่าจะต้องชนะ ส.ว. 250 ที่นั่งที่มีอยู่ในวุฒิสภา

ขอแข่งกันทำความดี ‘ลุงหนู’ ไม่สนดรามา ‘ภท.-พท.’ ก๊อบปี้นโยบาย พร้อมอวยพร ‘อุ๊งค์’ คลอดลูกปลอดภัย-แข็งแรง

จากกรณีการตอบโต้กันระหว่างพรรคการเมืองในช่วงที่ผ่านมา โดยสมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้ออกตัวว่ามีพรรคการเมืองใหญ่ ลักไก่ก๊อบปี้นโยบายพักหนี้ ซึ่งต่อมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ตอบกลับพรรคภูมิใจไทย ที่กล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทยลอกนโยบายหาเสียง ว่า ไม่สามารถก๊อบปี้นโยบายที่ริเริ่มได้ และให้ผู้กล่าวหาไปหาข้อมูลเพิ่มเติม

ล่าสุด (9 มี.ค.66) ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ยังไม่ได้ข่าว และขอหาข้อมูลก่อน แต่เรื่องนี้ใครจะก๊อบปี้ใคร ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ก็ไม่เป็นไร ขอแข่งทำความดีดีกว่า และหากประชาชนได้ประโยชน์ก็ควรสนับสนุนกัน แทนที่จะมาแย่งกันว่าเป็นผลงานของใคร

เมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง ใกล้จะคลอดในช่วงวันเลือกตั้ง นายอนุทินกล่าวว่า ตนขออวยพรให้สุขภาพแข็งแรง คลอดง่าย ๆ เดินทางปลอดภัย ส่วนการเลือกตั้งต่างก็เป็นไปตามบริบทของแต่ละพรรค

ถามถึงแผนการหาเสียง นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้มีการปราศรัยย่อยทั่วประเทศทุกวันอยู่แล้ว ตนเองก็หมดเวลาราชการ ก็ลงพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นส่วนใหญ่ ก็จะมีการจัดปราศรัยย่อยในพื้นที่ต่าง ๆ ในชุมชนในเขตเลือกตั้ง

คิดการใหญ่!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตั้งเป้าจัดตั้ง รบ.พรรคเดียว มุ่งแก้ปัญหาปากท้อง ปชช. บอก ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศจับมือทางการเมืองกับพรรคอื่น

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ของเป้าหมายแลนด์สไลด์ 310 เสียงของพรรค พท.ว่า เป็นการตั้งเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่เราต้องมุ่งมั่น เพราะ 310 เสียงจะเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง แข็งแรง สามารถที่จะกำจัดระบอบประยุทธ์ให้ออกไปได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่วางไว้และต้องไปถึงเป้าหมายให้ได้

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรค พท.และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศเป็นรัฐบาลพรรคเดียวของพรรค พท.ว่า จริง ๆ อยากเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง เป็นรัฐบาลที่ไม่ถูกล้มด้วย ส.ว. ไม่สามารถถูกแต่งตั้งนายกฯ ได้ด้วย ส.ว. เราอยากเป็นรัฐบาลที่จัดตั้งนายกฯ ได้โดยประชาชน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างที่เคยพูดไว้ทุกเวที

“จริง ๆ เราต้องช่วยกัน ที่หัวหน้าพรรค พท.ประกาศเรื่อง 310 เสียงเป็นเรื่องใหญ่มาก ต้องมีทุกคน ทั้งหัวหน้า เลขาพรรค นายเศรษฐาและทุกคนที่ต้องช่วยกันทุกจุด เราไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว เพราะนี่คือการใหญ่มาก ๆ เราต้องเดินหน้าเต็มที่” น.ส.แพทองธาร กล่าว

‘พปชร.’ ชู ‘บ้านประชารัฐ 360 องศา’ แก้ปัญหาที่อยู่อาศัย ยัน ทำได้จริง ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการจัดงานเสวนา ‘พลังกรุงเทพฯ พลังกทม.’ เพื่อหารือและรับฟังข้อเสนอ จากการลงพื้นที่ของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพื่อขยายผลนำไปสู่การผลักดันนโยบาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน หัวข้อ ‘นำไปสู่สิ่งที่พบเห็น เมื่อลงพื้นที่’ โดยสะท้อนปัญหาเกี่ยวกับปัจจัย 4 ที่เป็นพื้นฐานของคน กทม. โดยเฉพาะการพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ทำหน้าที่ประธาน การเสวนา และบรรดาว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เข้าร่วม อาทิ  น.ส.ชญาภา ปรีภาพากย์, นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์, นายระพีพัฒน์ สุมธโชติเมธา, นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ, ตัวแทนชุมชน, เครือข่ายประชาชน, นักวิชาการ เข้าร่วมในการเสวนา

จากนั้น นางนฤมล แถลงหลังเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นฯ ว่า พรรคจะมีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในลักษณะนี้ ทุกวันพฤหัสบดี เพื่อรับฟังความเห็นจากว่าที่ผู้สมัคร ส่วนการหารือถึงหัวข้อ ‘บ้านประชารัฐ 360 องศา’ เพราะบ้านเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่จะสร้างความมั่นคงให้ชาว กทม.ที่ยังมีปัญหาในเรื่องที่อยู่อาศัย สอดรับกับนโยบาย ‘มีเรา มีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน’ และจะมีเรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชน ทั้งการศึกษา สุขภาพ เราเข้าใจปัญหาในแต่ละพื้นที่แต่ละเขต เข้าถึงข้อมูลที่เราศึกษามาแล้ว และทำได้จริง เราให้ความสำคัญในแง่การเงิน และกฎหมาย ที่ศึกษามาพร้อมแล้ว และเป็นความเห็นที่ทั้ง 33 เขต เห็นว่าควรทำในเรื่อง บ้านประชารัฐ 360 องศา

นางนฤมล กล่าวว่า เราอยากจะทำเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยจะมีโมเดลบ้านประชารัฐ ที่เราจะทำเพิ่มเติมต่อยอดออกมา และพอโมเดลออกมาเราจะเชิญไปชม เราทำแบบเข้าใจ เข้าถึงและทำได้จริง ซึ่งไม่ได้เป็นไปได้ทางการเงินและทางกฎหมายเท่านั้น แต่ผู้สมัครและผู้บริหารมาด้วยหัวใจจริง ๆ ให้เกิดจริง ๆ ทำอย่างไรให้คนกรุงมีบ้าน มีหลักค้ำประกันในชีวิต สำหรับครอบครัว และทำให้สังคม ชีวิตความเป็นอยู่ใน กทม.ดีขึ้น ตอนนี้เราเริ่มจากบ้าน เวทีครั้งต่อไปในวันที่ 16 มี.ค.นี้ จะเป็นเรื่องสังคมตามสโลแกน ‘ก้าวข้ามความขัดแย้ง’ ซึ่งมีคำถามกลับมาเยอะเรื่องความขัดแย้งว่าจะก้าวข้ามเรื่องไหนบ้าง โดยจะเป็นเวทีที่ผู้สมัคร ส.ส.และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันทำให้ประเทศไทย และกทม. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหลายด้านมาตกผลึกกันว่า จะนำพา กทม.และประเทศไทยไปข้างหน้าได้อย่างไร ยืนยันว่า ผู้สมัคร ส.ส.ของเราไม่ได้มีแค่สวยหล่อ แต่ศักยภาพเต็มเปี่ยม

‘มาดามเดียร์’ ลงใต้ คลุมฮิญาบ ร่วมงานวันสตรีมุสลิม ตอกย้ำความเท่าเทียมทางเพศ-ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

(9 มี.ค. 66) ที่ ดี อามาน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จ.สงขลา น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาราเร่ ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. ร่วมงานวันสตรีมุสลิมต้อนรับเดือนรอมฎอน จังหวัดสงขลา ซึ่งจัดโดยสมาคมสมาพันธ์สตรีมุสลิมประเทศไทย สมาคมสตรีมุสลิม 14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมกับสมาคมสตรีจิตอาสา จังหวัดสงขลา

โดย น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ใส่ผ้าคลุมฮิญาบ จะบอกว่าเมื่อใส่แล้วรู้สึกตื่นเต้น และเวลามองเข้าไป ตนเห็นว่า ผ้าคลุมฮิญาบ หรือวัฒนธรรมการแต่งตัวของสตรีชาวมุสลิม เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงพลังศรัทธาอันแรงกล้าของสตรีชาวมุสลิมที่มีต่อพระอัลเลาะห์ และศาสนาอิสลาม และผ้าคลุมนี้ยังแสดงออกถึงความยำเกรงที่ทำให้สตรีไม่ต้องไปเผชิญกับสายตาหรือความไม่ปลอดภัยที่จะเข้ามาได้ แต่ยังสะท้อนให้เห็นอีกมุมว่าการที่เป็นสตรีเราไม่ได้นำเรือนร่างของความเป็นเพศสตรีออกไปสู่สายตาสาธารณะ แต่เราต้องการให้เขามองข้ามรูปลักษณ์ภายนอกแต่ให้เขามองเห็นศักยภาพของเราจริง ๆ

น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า เมื่อวาน (8 มี.ค.) เป็นวันสตรีสากลโลก ซึ่งในปีนี้จะเห็นว่ากระแสความตื่นตัวของวันสตรีสากลมีมากกว่าปีก่อน ๆ และวันนี้บทบาทของสตรียุคใหม่มีมากยิ่งขึ้น ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม กระทั่งบทบาทต่อการเมือง ที่คนมักจะมองแต่ผู้ชาย และอย่างตนที่เคยผู้ตัดการทีมฟุตบอลทีมชาติชาย ซึ่งถือว่า เป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงคุมฟุตบอลทีมชาติ

‘เพื่อไทย’ เผย ‘เศรษฐา’ เตรียมขึ้นปราศรัยแรก ‘พิจิตร-พิษณุโลก’ โว!! แม้เป็นหน้าใหม่ แต่ประชาชนให้ความสนใจล้นหลาม

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่และจัดเวทีปราศรัยที่ จ.พิจิตร และพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคมนี้ นอกจากการนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนแล้ว ไฮไลต์สำคัญในครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรก

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรค พท.เข้าร่วม นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายสุธรรม แสงประทุม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายพรรค และตน ร่วมปราศรัยบนเวที โดยในวันที่ 11 มีนาคม คณะของพรรค พท.จะเดินทางไปที่ จ.พิจิตร เพื่อสักการะหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง อ.เมือง ก่อนเดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป

‘พปชร.’ เตรียมลุยปราศรัยเมืองกรุงฯ 18 มี.ค. นี้ ชู ‘แก้ ศก.-ปากท้อง’ ตั้งเป้ากวาด ส.ส. 12 คนขึ้นไป

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดปราศรัยใหญ่ในกทม. ของพรรค พปชร.ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ที่ลานคนเมืองกทม. ว่า ในวันดังกล่าวนอกจากจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต พรรคจะนำเสนอนโยบายสำหรับคนกทม. ที่เน้นเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง โดยจะมีทีมเศรษฐกิจของพรรค นำโดย นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีแนะนำนโยบาย และนอกจากเวทีใหญ่ในกทม.ในวันดังกล่าวแล้ว พรรคจะจัดเวทีย่อยในกทม. ทั้งในกทม.ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก เพื่อที่จะนำเสนอนโยบายของพื้นที่ในเขตนั้นๆ สำหรับความคืบหน้าการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคนั้นขณะนี้ได้ตัวครบเกือบหมดแล้ว มีเพียงบางพื้นที่ที่ทาง กกต.แบ่งเขตใหม่ คือลด 4 จังหวัด และเพิ่ม 4 จังหวัด รวมถึงในกทม.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top