‘พปชร.’ ชู ‘บ้านประชารัฐ 360 องศา’ แก้ปัญหาที่อยู่อาศัย ยัน ทำได้จริง ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการจัดงานเสวนา ‘พลังกรุงเทพฯ พลังกทม.’ เพื่อหารือและรับฟังข้อเสนอ จากการลงพื้นที่ของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพื่อขยายผลนำไปสู่การผลักดันนโยบาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน หัวข้อ ‘นำไปสู่สิ่งที่พบเห็น เมื่อลงพื้นที่’ โดยสะท้อนปัญหาเกี่ยวกับปัจจัย 4 ที่เป็นพื้นฐานของคน กทม. โดยเฉพาะการพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ทำหน้าที่ประธาน การเสวนา และบรรดาว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. เข้าร่วม อาทิ  น.ส.ชญาภา ปรีภาพากย์, นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์, นายระพีพัฒน์ สุมธโชติเมธา, นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ, ตัวแทนชุมชน, เครือข่ายประชาชน, นักวิชาการ เข้าร่วมในการเสวนา

จากนั้น นางนฤมล แถลงหลังเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นฯ ว่า พรรคจะมีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในลักษณะนี้ ทุกวันพฤหัสบดี เพื่อรับฟังความเห็นจากว่าที่ผู้สมัคร ส่วนการหารือถึงหัวข้อ ‘บ้านประชารัฐ 360 องศา’ เพราะบ้านเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่จะสร้างความมั่นคงให้ชาว กทม.ที่ยังมีปัญหาในเรื่องที่อยู่อาศัย สอดรับกับนโยบาย ‘มีเรา มีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน’ และจะมีเรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชน ทั้งการศึกษา สุขภาพ เราเข้าใจปัญหาในแต่ละพื้นที่แต่ละเขต เข้าถึงข้อมูลที่เราศึกษามาแล้ว และทำได้จริง เราให้ความสำคัญในแง่การเงิน และกฎหมาย ที่ศึกษามาพร้อมแล้ว และเป็นความเห็นที่ทั้ง 33 เขต เห็นว่าควรทำในเรื่อง บ้านประชารัฐ 360 องศา

นางนฤมล กล่าวว่า เราอยากจะทำเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยจะมีโมเดลบ้านประชารัฐ ที่เราจะทำเพิ่มเติมต่อยอดออกมา และพอโมเดลออกมาเราจะเชิญไปชม เราทำแบบเข้าใจ เข้าถึงและทำได้จริง ซึ่งไม่ได้เป็นไปได้ทางการเงินและทางกฎหมายเท่านั้น แต่ผู้สมัครและผู้บริหารมาด้วยหัวใจจริง ๆ ให้เกิดจริง ๆ ทำอย่างไรให้คนกรุงมีบ้าน มีหลักค้ำประกันในชีวิต สำหรับครอบครัว และทำให้สังคม ชีวิตความเป็นอยู่ใน กทม.ดีขึ้น ตอนนี้เราเริ่มจากบ้าน เวทีครั้งต่อไปในวันที่ 16 มี.ค.นี้ จะเป็นเรื่องสังคมตามสโลแกน ‘ก้าวข้ามความขัดแย้ง’ ซึ่งมีคำถามกลับมาเยอะเรื่องความขัดแย้งว่าจะก้าวข้ามเรื่องไหนบ้าง โดยจะเป็นเวทีที่ผู้สมัคร ส.ส.และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันทำให้ประเทศไทย และกทม. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหลายด้านมาตกผลึกกันว่า จะนำพา กทม.และประเทศไทยไปข้างหน้าได้อย่างไร ยืนยันว่า ผู้สมัคร ส.ส.ของเราไม่ได้มีแค่สวยหล่อ แต่ศักยภาพเต็มเปี่ยม

นางนฤมล กล่าวต่อว่า ในช่วงเย็นวันที่ 18 มี.ค.นี้ พรรคจะมีเวทีปราศรัยใหญ่ของ พปชร.ที่ กทม. โดยจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขต มีการปราศรัย เปิดนโยบายด้านต่าง ๆ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ และจะพูดถึงการพัฒนาในแต่ละพื้นที่ เพราะมีปัญหาไม่เหมือนกัน จะต้องมีการพัฒนาที่แตกต่างกัน สอดรับกับความต้องการ ส่วนในวันดังกล่าว จะมีเซอร์ไพร์สอะไรหรือไม่นั้น ขอให้รอดู แต่น่าจะพอมี ส่วนสถานที่จัดปราศรัยนั้น เบื้องต้นขณะนี้กำลังติดต่อใช้ลานคนเมือง กทม.แล้ว ต้องรอผลก่อน และในวันนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร.จะเดินทางไปด้วย

ด้าน น.ส.ชญาภา ปรีฎาพากย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. (บางคอแหลม-ยานนาวา) กล่าวว่า เราประชุมกันได้ข้อสรุปว่า ทุกคนต้องมีกรรมสิทธิ์บ้านเป็นของตัวเอง เพื่อส่งต่อให้กับลูกหลานของตัวเอง ถ้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้จะลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้

ขณะที่นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. (วัฒนา-คลองเตย) กล่าวว่า จะผลักดันบ้านประชารัฐ 360 จะมีการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมตามบริบทของแต่ละชุมชนไป ทำให้ทุกคนในสังคมใช้ชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน และจะมีการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ชุมชนให้ดีขึ้น เพิ่มแลนด์มาร์คให้แต่ละชุมชน คอนเซปต์หลักเราคือ อัพเกรดคุณชีวิตของประชาชนในสังคมเมือง

นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. (พระโขนง-บางนา) กล่าวว่า เราจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่มีที่อยู่อาศัยแล้วแต่เป็นแหล่งเสื่อมโทรม พปชร.มีนโยบายว่าเราจะผลักดัน พัฒนาสวนสาธารณะและสวนหย่อมใกล้บ้าน ลานกีฬา บ้านหนังสือ ห้องสมุด การแก้ไขปัญหาเรื่องสาธารณูปโภคที่ชำรุดไม่มีใครดูแล ส่วนกลุ่มที่ไม่มีที่อยู่อาศัย พปชร. ผลักดันเพิ่มงบประมาณเงินอุดหนุนให้ กทม. เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยตรงให้กับทุกสาขาอาชีพ