16 พม่าเถื่อน มุดลวดหนามช่องทางธรรมชาติ หลบหนีเข้าประจวบฯ
วันที่ 16 มิถุนายน นายภิรมย์ เรืองโรจน์ ผู้ใหญ่บ้านหนองเป็ดหงส์ หมู่ 11 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งจากชาวบ้านที่ไปหาปลา บริเวณอ่างเก็บน้ำพบต่างด้าวชาวพม่าชาย-หญิง 16 คนพร้อมกระเป๋าสัมภาระ หลบซ่อนตัวห่างจากแนวเทือกเขาตะนาวศรี ชายแดนไทยพม่าประมาณ 10 กิโลเมตร หลังรับแจ้งจึงสนธิกำลังผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ ชรบ.พื้นที่หมู่บ้านชายแดน ร่วมกันตรวจสอบ พร้อมรายงานให้ฝ่ายปกครองอำเภอรับทราบ จากนั้นร่วมกันจับกุมแรงงานเถื่อน ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.อ่าวน้อย โดยประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 มีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ติดตามข้อมูลการจับกุมที่โรงพัก ก่อนส่งชาวพม่าทั้งหมดไปกักตัว 14 วันที่กองร้อย ตชด.146 ด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองฯ
ตรวจสอบชาวพม่าหลบหนีเข้าเมือง มีชาย 9 ราย หญิง 7 ราย อายุระหว่าง 20-40 ปี ส่วนผู้นำพาเป็นชาวพม่า 2 ราย วิ่งหลบหนีไปได้พร้อมกับแรงงานเถื่อนอีกกว่า 20 คน สำหรับผู้ถูกจับกุมทั้งหมดสารภาพว่าเดินทางมาจากประเทศพม่า ทั้งเมืองย่างกุ้ง เมืองตะแว เมาะลำไย เมียวดี และ มะริด อาศัยจังหวะหลบหนีเข้าไทยในวันหวยออก เนื่องจากเชื่อว่าการป้องกันพื้นที่ชายแดนหละหลวม ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตชด. เดินลาดตระเวน โดยก่อนหน้านี้ไปพักรวมพลที่บริเวณโรงน้ำแข็ง บ้านมูด่อง ก่อนเดินเท้าฝ่ารั้วลวดหนาม 3 ชั้น ข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติมาฝั่งไทย เพื่อไปทำงานที่แพกุ้ง โรงงานปลากระป๋อง จ้างทำงานก่อสร้างที่ จ.สมุทรสาคร เสียค่าเดินทางให้กับนายหน้าค้าแรงงานเถื่อนตามระยะทางถึงชายแดน ตั้งแต่ 15,000 - 20,000 บาท บางรายจ่ายค่าเดินทางให้นายหน้าพม่าที่ด่านสิงขร หรือจ่ายส่วยเมื่อไปถึงโรงงานปลายทาง ขณะที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการจับกุมแรงงานด่างด้าวเถื่อนในรอบ 3 เดือน ไม่มีการขยายผลเพื่อจับกุมนายหน้าคนไทยและชาวพม่าแม้แต่รายเดียว
ภาพ/ข่าว นิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์