Tuesday, 29 April 2025
CoolLife

เปิดประโยคย้อนแย้งกันเอง ของ ส.ส. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เรื่องการฉีดวัคซีนโควิด–19

ฉีดล่ะจ้า! วันนี้เหล่าบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่สถาบันบำราศนารดูร กันหลายราย โดยส่วนหนึ่งเป็นสมาชิก ส.ส. ของพรรคก้าวไกล แต่ที่เป็นประเด็นมากที่สุด คงหนีไม่พ้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค

เนื่องจากที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ออกมาทวิตข้อความตำหนิติเตียนเรื่องการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลอยู่เป็นประจำ ล่าสุดก็ทวิตทำ นองว่า ถ้าวัคซีนมีจำกัด จะไปแย่งประชาชนได้อย่างไร

บร๊ะเจ้า! แต่วันนี้ ส.ส. วิโรจน์ ฉีดวัคซีนล่ะจ้า! พร้อมออกมาทวิตข้อความอีกครั้งทำนองว่า มีหมายให้ไปฉีด ก็ต้องฉีด เป็นความรับผิดชอบต่อสังคม และเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ บลาๆๆๆ

เข้าใจตามนี้นะ! วัคซีนยังมีปริมาณไม่เพียงพอ แต่ในเมื่อเป็น ‘ความรับผิดชอบต่อสังคม’ ก็จำเป็นต้องฉีด โปรดเข้าใจ ว่าแล้ว ไปหยิบข้อความที่ ส.ส.วิโรจน์ ทวิตมาเปรียบเทียบให้เห็นกันจะจะ

อะไร ๆ ก็เปลี่ยนแปลงกันได้ แต่ขอย้ำอีกครั้ง ประชาชนโปรดเข้าใจ (นะจ๊ะ)

บุคคลที่มีความสามารถหลายรอบด้าน ทั้งการเป็นนักเขียน นักปราชญ์ และนักการเมือง จนกระทั่งเคยได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติมาแล้ว และในวันนี้ถือเป็นวันคล้ายวันเกิดของบุคคลท่านนี้ เขาคือ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เมื่อช่วงปี พ.ศ. 2518 ในฐานะหัวหน้าพรรคกิจสังคม แต่หากย้อนเวลากลับไปในวัยเยาว์ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2454 เป็นโอรสคนสุดท้องของ พลโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับ หม่อมแดง (บุนนาค)

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ถือเป็นบุคคลที่มีความสามารถหลายรอบด้าน จึงทำให้มีบทบาทหน้าที่อันหลากหลาย อาทิ เคยเป็นผู้ก่อตั้งพรรคก้าวหน้า เมื่อปี พ.ศ. 2488 เคยเป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ เมื่อปี พ.ศ. 2493 นอกจากนี้ยังเคยรับบทบาทการแสดง ทั้งภาพยนตร์ไทย และต่างประเทศ มาแล้วเช่นกัน

ส่วนอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่นักอ่านคุ้นเคย คือการเป็นนักประพันธ์นวนิยายเลื่องชื่อ อาทิ สี่แผ่นดิน, หลายชีวิต, ไผ่แดง, กาเหว่าที่บางเพลง และอีกมากมาย ด้วยพรสวรรค์และความสามารถอันเปี่ยมล้นนี้ จึงได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2528

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2538 ด้วยวัย 84 ปี ต่อมา กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอชื่อต่อองค์การยูเนสโก ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในสาขาการศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน โดยนับเป็นคนไทยลำดับที่ 20 ที่ถูกนำเสนอชื่อและได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ

วันนี้ถือเป็นวันครบรอบ 110 ปี ของอดีตนายกฯ คนที่ 13 ของเมืองไทย ผลงานและความสามารถของท่านก็ยังคงถูกกล่าวขวัญถึงอยู่เสมอ

.

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์_ปราโมช


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

วันนี้เป็นวันสำคัญของ ‘กรุงเทพมหานคร’ เนื่องจากเป็นวันครบรอบ 239 ปี ของการสถาปนาเมืองหลวงของประเทศไทยแห่งนี้

โดยหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ก็โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายราชธานีจากฝั่งธนบุรี มาที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อสถาปนาเป็นเมืองหลวงใหม่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ตามประเพณีโบราณของการสร้างเมืองสำคัญ จำเป็นต้องมีการยกหลักเมืองขึ้นเป็นมิ่งขวัญ ทำให้ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธียกเสาหลักเมืองขึ้น โดยใช้ไม้ชัยพฤกษ์ทำเป็นเสาหลักเมือง ประกอบด้านนอกด้วยไม้แก่นจันทน์ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 75 ซ.ม. สูง 27 ซ.ม. และกำหนดให้ความสูงของเสาหลักเมืองอยู่พ้นดิน 10 นิ้ว ฝังลงในดินลึก 79 นิ้ว มีเม็ดยอดรูปบัวตูมสวมลงบนเสาหลัก ลงรักปิดทอง ล้วงภายในไว้เป็นช่องสำหรับบรรจุดวงชะตาเมือง

นอกจากพระราชพิธียกเสาหลักเมืองแล้ว ยังพระราชทานนามพระนครแห่งนี้ใหม่ว่า ‘กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์’ ซึ่งเป็นชื่อเมืองที่ยาวที่สุดในโลก

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงเปลี่ยนจาก ‘…บวรรัตนโกสินทร์…’ เป็น ‘…อมรรัตนโกสินทร์…’ ทั้งนี้ เสาหลักเมืองยังถูกสร้างขึ้นอีกหนึ่งต้น ในสมัยรัชกาลที่ 4 เช่นกัน เนื่องจากเสาเดิมมีการชำรุด กระทั่งเข้าสู่รัชสมัยของรัชกาลที่ 9 ในวาระกรุงเทพมหานครครบรอบ 200 ปี จึงได้มีการปรับปรุงศาลหลักเมืองทั้งสองต้น ให้มีความงดงามบริบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญของเมือง และเป็นที่สักการะของประชาชนสืบมาจนทุกวันนี้

.

ที่มา:

https://th.wikipedia.org/wiki/กรุงเทพมหานคร,

https://news1live.com/detail/9630000041600


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เพราะ ‘สิ่งแวดล้อม’ เป็นเรื่องของทุกคนบนโลกนี้ ยิ่งปัจจุบัน โลกมีสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนหนึ่งเกิดจากการดำเนินชีวิตของพวกเราทุกคน ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของวันสำคัญในวันนี้ นั่นคือ 'วันคุ้มครองโลก' หรือ 'Earth Day'

วันคุ้มครองโลก ถูกจัดขึ้นในวันที่ 22 เมษายน ของทุกปี โดยที่มาของวันสำคัญนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2505 มันเริ่มต้นขึ้นจาก นายเกย์ลอร์ด เนลสัน สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่ขอให้ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ยกเรื่องสิ่งแวดล้อมขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ 
ต่อมารัฐบาลสหรัฐฯ จึงได้มีการรณรงค์อย่างจริงจัง กระทั่งในปี พ.ศ.2512 สมาชิกวุฒิสภาเนลสัน ได้ผลักดันให้มีการจัดการชุมนุมประชาชนระดับรากหญ้าทั่วประเทศขึ้น เพื่อให้แสดงความคิดเห็นในปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดกระแสความห่วงใยในวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ของสังคมอเมริกันในขณะนั้น จนนำสู่การก่อตั้งวันคุ้มครองโลกขึ้น เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2513

สำหรับประเทศไทย วันคุ้มครองโลก เริ่มถูกพูดถึงเป็นครั้งแรก เมื่อราวปี พ.ศ.2533 ในช่วงหลังเหตุการณ์การเสียชีวิตของ สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จนทำให้เหล่าคณาจารย์และนักศึกษากว่า 16 สถาบัน รวมตัวกันจัดงาน ‘วันคุ้มครองโลก’ ขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อให้ตระหนักถึงวิกฤติการทำลายสัตว์ป่าและป่าไม้ของชาติ รวมทั้งยังเป็นการหาทุนเข้า ‘มูลนิธิสืบนาคะเสถียร’ เพื่อใช้ในการปกป้องรักษาผืนป่า ที่เป็นมรดกของโลกอีกด้วย

สาระสำคัญของวันคุ้มครองโลก คือลดอัตราการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ การอนุรักษ์ผืนป่า ตลอดจนการรักษาสภาพสมดุลของทรัพยากรทางธรรมชาติ ซึ่งไม่ว่าใครก็ล้วนมีส่วนร่วมในวันคุ้มครองโลกนี้ได้ แค่เพียงร่วมมือร่วมใจกัน โลกจะสวยขึ้นหรือไม่...อยู่ที่ความมุ่งมั่นตั้งใจของเรานี่เอง

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/วันคุ้มครองโลก


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ประเทศไทยมีการจัดระเบียบการปกครองกันมากว่าร้อยปี หนึ่งในองค์กรการปกครองที่มีความสำคัญ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศมาตลอด นั่นคือ ระบบเทศบาล โดยวันนี้ถูกยกให้เป็น ‘วันเทศบาล’ เพื่อเชิดชูและตระหนักถึงความสำคัญของหน่วยการปกครองที่มีอายุมายาวนาน

เทศบาล ถูกประกาศใช้เป็นพระราชบัญญัติเมื่อราวปี พ.ศ.2496 แต่หากสืบย้อนกลับไป รูปแบบการปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดขึ้นอย่างเป็นระเบียบแบบแผนมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ได้ทรงปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินของไทยขึ้นใหม่ เพื่อให้มีความทันสมัย โดยจัดให้มีการปกครองส่วนท้องถิ่นขึ้นเป็นครั้งแรกในรูปแบบสุขาภิบาล ที่สุขาภิบาลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2441 ก่อนจะขยายการตั้งสุขาภิบาลออกไปในท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ต่อมาจึงได้มีการเปลี่ยนเป็น เทศบาล โดยเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ให้บริการ แก้ไขปัญหา และตอบสนองความต้องการแก่ประชาชน แบ่งออกเป็น เทศบาลตำบล เทศบาลเมือง และเทศบาลนคร ทั้งนี้ในเทศบาลแต่ละแห่งจะมี ‘นายกเทศมนตรี’ ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารงานในท้องที่เทศบาลทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีเทศบาลอยู่ราว 2,500 แห่ง และมีจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมแล้วกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ

ด้วยบทบาทหน้าที่ที่คอยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้พี่น้องประชาชน ต่อมา กระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 กำหนดให้ วันที่ 24 เมษายนของทุกปี เป็นวันเทศบาล เพื่อเชิดชูการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เทศบาล ในการพัฒนาตนเอง พัฒนางาน และก้าวต่อไปอย่างมุ่งมั่น เพื่อให้บรรลุปรัชญาแห่งรากฐานประชาธิปไตยของเทศบาล นั่นคือ เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน

ที่มา: https://gorporonline.com/articles/history-of-the-municipality/

https://th.wikipedia.org/wiki/เทศบาล


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

รวมประโยคคนดังโลกฟุตบอล ที่มีต่อกระแสการจัด European Super League

สัปดาห์นี้ จะมีข่าวไหนร้อนแรงได้เท่า ข่าวคราวการประกาศจัดตั้งลีกฟุตบอลใหม่ ที่มีชื่อว่า European Super League ซึ่งเป็นการนำเอาทีมฟุตบอลในยุโรประดับบิ๊กเนมทั้งหลาย มาจัดตั้งลีกใหม่เพื่อแข่งขันกัน

และอย่างที่ทราบกัน ภายหลังที่มีข่าวว่า 12 ทีมชั้นนำในยุโรป อาทิ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, ยูเวนตุส, เอซีมิลาน ฯลฯ ตอบรับการจัดตั้งลีกใหม่ครั้งนี้ ก็เกิดกระแสต่อต้านขึ้นไปทั่วโลก เหตุผลใหญ่ ๆ คือ ไม่ต้องการให้ลีกดังกล่าว ทำลายประเพณีการแข่งขันฟุตบอลลีกยุโรป ที่มีมานับร้อยปีต้องพังทลายลง

งานนี้นอกจากแฟนบอลจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักแล้ว บรรดานักฟุตบอล ทั้งจากอดีต และปัจจุบัน และรวมไปถึงผู้จัดการทีม หลายคนก็ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ ไปดูกันว่า พวกเขามีปฏิกิริยากันอย่างไรบ้าง ที่ทำให้ล่าสุด ทีมใหญ่ ๆ ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ต้องออกอาการล่าถอย ประกาศ No Super League กันไปเรียบร้อยแล้ว

‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’ คือหนึ่งในกษัตริย์ไทยที่ถูกกล่าวขานถึง โดยเฉพาะเรื่องพระปรีชาสามารถในการรบ จนกอบกู้อิสรภาพจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรกได้สำเร็จ วันนี้ถือเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์นี้

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ ขณะที่ทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงใช้ชีวิตอยู่ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก จนกระทั่งพระเจ้าบุเรงนองยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก ได้ทรงขอพระนเรศวรไปเป็นองค์ประกันที่หงสาวดี ทำให้พระองค์ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนตั้งแต่มีพระชนมายุเพียง 9 พรรษา ไปประทับอยู่กรุงหงสาวดี 8 ปี และเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยาเมื่อพระชนมายุ 17 พรรษา ในปี พ.ศ.2115

เมื่อเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา ทรงได้รับพระราชทานนามว่า ‘พระนเรศวร’ และโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระอุปราช ไปปกครองเมืองพิษณุโลก ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการรบ ทำให้ชื่อเสียงเริ่มแผ่กระจายไปในวงกว้าง

กระทั่งในปี พ.ศ.2135 พระเจ้านันทบุเรง โปรดให้พระมหาอุปราชา นำกองทัพทหารสองแสนสี่หมื่นคน หมายจะตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงทรงเตรียมไพร่พล มีกำลังหนึ่งแสนคน เพื่อทำศึกครั้งสำคัญ หรือที่รู้จักกันในชื่อ สงครามยุทธหัตถี กระทั่งสามารถเอาชนะในการศึกครั้งสำคัญนี้ได้ เป็นเหตุให้ไม่มีกองทัพใดกล้ายกมารุกรานกรุงศรีอยุธยาอีกเป็นเวลานาน

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 กระทั่งในปี พ.ศ.2148 ขณะที่ยกทัพขึ้นไปทางเหนือ เพื่อทำศึกเมืองนายและกรุงอังวะ ทรงมีพระอาการประชวรเป็นหัวระลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์ แล้วมีพระอาการหนักลง ก่อนจะสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 รวมเวลาการครองราชสมบัติ 15 ปี

วันนี้ถือเป็นวันครบรอบการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ผู้ทรงมีพระปรีชาสามารถพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ประชาชนชาวไทยจึงขอน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงกอบกู้อิสรภาพ และสร้างบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่นมาจนถึงทุกวันนี้

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนเรศวรมหาราช


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

.

States TOON EP.10

เหตุเกิดจากการฉีดวัคซีน...

การสาธารณสุขไทยมีพัฒนาการมากว่าร้อยปี และวันนี้ก็เป็นวันสำคัญ โดยเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานกำเนิด ‘โรงพยาบาลศิริราช’ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลวงแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีอายุยาวนานที่สุด

ย้อนเวลากลับไป ในปี พ.ศ.2424 เกิดอหิวาตกโรคระบาดหนัก ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงพยาบาลชั่วคราวในที่ชุมชนขึ้นรวม 48 ตำบล ภายหลังเมื่อโรคร้ายทุเลา จึงได้ทำการปิดโรงพยาบาลลง แต่ในพระราชหฤทัยทรงตระหนักว่า การมีโรงพยาบาลนั้น จะสร้างประโยชน์สุข ให้แก่พสกนิกรได้ในระยะยาว

ต่อมา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2429 พระองค์จึงทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะกรรมการจัดสร้างโรงพยาบาลขึ้น เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลถาวรแห่งแรก ณ บริเวณวังของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ( วังหลัง) ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา

โรงพยาบาลใช้เวลาก่อสร้างอยู่ราว 2 ปี กระทั่งในวันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีเปิดโรงพยาบาลแห่งแรกนี้ และพระราชทานนามว่า ‘โรงศิริราชพยาบาล’ หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า ‘โรงพยาบาลวังหลัง’ หรือที่เรียกกันในปัจจุบันว่า ‘โรงพยาบาลศิริราช’

โรงพยาบาลศิริราช ถือเป็นโรงพยาบาลหลวงแห่งแรกของประเทศไทย และดูแลรักษาคนไทยมาเนิ่นนาน โดยช่วงหนึ่ง เมื่อสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) ทรงสำเร็จการศึกษาด้านการแพทย์ และเสด็จกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลศิริราช ก็ทรงมีการพัฒนาการรักษาพยาบาลให้เจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น รวมถึงยังเปิดเป็นโรงเรียนแพทย์ ผลิตบุคลากรทางสาธารณสุข ออกมาเพื่อดูแลรักษาประชาชนมากขึ้นเช่นกัน

นับถึงวันนี้ โรงพยาบาลศิริราช มีอายุกว่า 133 ปี และยังคงทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยตลอดมา แม้กระทั่งในช่วงเวลานี้ ที่ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในสภาวะที่มีโรคระบาดรุนแรง ศิริราชพยาบาลก็ถือเป็นหนึ่งโรงพยาบาลที่ให้การช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด นับเป็นโรงพยาบาลที่เกิดจากจากพระราชปณิธาน และสร้างประโยชน์กับประเทศชาติอย่างแท้จริง

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/โรงพยาบาลศิริราช, http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=250360


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

สรยุทธคืนจอเดือนพฤษภาคมนี้ มีเรื่องอะไรบ้างที่ผู้ชมจะได้เจออีกครั้ง?

หลังเปิดตัวว่าจะกลับมาเป็นหนึ่งในพิธีกรข่าวช่อง 3 อีกครั้ง กระแส ‘สรยุทธคัมแบ็ก’ ก็แรงขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ เปิดหน้าฟีดในโซเชี่ยลมีเดีย ก็จะได้เห็นข่าวการคืนจอของกรรมข่าวคนนี้ หรือใครขึ้นรถไฟฟ้า BTS ก็จะได้เห็นแคมเปญโฆษณา การกลับมาของเขาผู้นี้

งานนี้ ‘จัดใหญ่’ สมการรอคอยของบรรดาแฟนคลับสรยุทธ The States Times เลยลองรวบรวมเหล่าเรื่องราวความคุ้นเคย ที่เชื่อแน่ว่า แฟน ๆ ยังจดจำบรรยากาศเดิม ๆ ได้อยู่ ซึ่งหากพิธีกรข่าวคนนี้ กลับมานั่งยังบัลลังก์ของเขาอีกครั้ง เรา ๆ ท่าน ๆ คงจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้อีกครั้งแน่นอน
 

ประโยคคลาสสิก: ใครๆ ก็จำคำพูดอันคุ้นเคยของเฮียยุทธได้แม่น เมื่อไรที่เขาเล่าข่าวจบ หรือไล่เรียงเปิดภาพข่าวให้ดูจนจบ เฮียยุทธจะปิดท้ายเป็นประจำว่า “นั่นละฮะคุณผู้ชม” 

ขยับแว่นตา เวลาสงสัย: เป็นอีกท่วงท่าหนึ่งที่พิธีกรข่าวคนนี้ทำเป็นประจำ เวลาที่ขยับตัวเพื่อจะยิงคำถามอันดุเดือด หรือเวลาที่เตรียมจะเคลียร์ประเด็นการพูดคุยร้อน ๆ เฮียยุทธจะชอบขยับขาแว่นตาให้เห็นเป็นประจำ


 

คำถามเข้ม ๆ: เป็นหนึ่งในจุดขายของพิธีกรข่าวคนนี้ ช่วง 5 ปีที่ไม่ออกหน้าจอทีวี เหมือนคนดูขาดหายรสชาติคำถามแบบเข้ม ๆ โดน ๆ จากเจ้าตัวไปเยอะพอสมควร กลับมาคราวนี้ มีโจทย์ใหญ่คือการกระชากเรตติ้งข่าวคืนสู่ช่อง 3 ดังนั้น ผู้ชมจะได้เห็นการยิงคำถามเด็ด ๆ ของเขาอย่างแน่นอน

รายงานผลลิเวอร์พูล: เรื่องนี้แฟนคลับต่างรู้ดี เฮียยุทธมีทีมฟุตบอลทีมรักคือ ลิเวอร์พูล ถ้าเมื่อไรทีมรักลงสนาม เช้าวันต่อมา เฮียจะจัดการรายงานผล พร้อมแสดงทัศนะเป็นสีสันอยู่เป็นประจำ ตามประสาทีมนี้พี่รัก

คู่ซี้ ‘โก๊ะตี๋’: นอกจากทีมฟุตบอลที่รัก ยังมีน้องรักอีกคน นั่นคือ ‘โก๊ะตี๋’ ที่ห่างหายหน้าไปจากหน้าจอเล่าข่าว เมื่อศิษย์พี่กลับมา ศิษย์น้องรักก็ต้องกลับมาด้วยแน่นอน งานนี้จะคืนฟอร์มเรียกเสียงหัวเราะได้แค่ไหน ต้องติดตาม

แน่นอนว่า พฤษภาคมนี้ได้เจอกัน อย่างที่เจ้าตัวประกาศเอาไว้ แฟนคลับเฮียยุทธคงหายคิดถึงกันไป แต่สมรภูมิการข่าวเวลานี้นั้นร้อนระอุดุเดือด ต้องติดตามกันว่า เฮียยุทธจะกลับมาเรียกความฟิต คืนฟอร์มเก่งของตัวเองได้หรือไม่ ไม่นานรู้กัน!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top