Friday, 23 May 2025
เพื่อไทย

‘อนุสรณ์’ จวก ‘ประยุทธ์’ หักหลังประชาชน เป็นนายกฯ ของพปชร. แต่ดันสมัครเข้า รทสช.

(10 ม.ค. 66) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติจัดอีเวนต์เปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เข้าเป็นสมาชิกพรรคว่า

พล.อ.ประยุทธ์อาจจำไม่ได้ หรือเลือกไม่จำว่า 8 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น 8 ปีที่แปดเปื้อน พล.อ.ประยุทธ์ทำประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาสไปมากแค่ไหน ก่อนจะรวมไทยสร้างชาติในวันนี้ ทำไมวันนั้นต้องชัตดาวน์ประเทศ ไหนม็อบนกหวีด กปปส. บอกว่าไม่ปฏิรูป ไม่ยอมให้เลือกตั้ง 8 ปีที่ผ่านมาปฏิรูปอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง นอกจากทำการเมืองล้าหลังย้อนยุคไปสู่ Money Politics ธนกิจการเมือง ประชาธิปไตยแบบแจกกล้วย จับปลาจากบ่อเพื่อน พล.อ.ประยุทธ์จะตอบประชาชนที่เขาสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐอย่างไร เป็นนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ดันสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่น แต่ขอเป็นนายกฯต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถือเป็นการทรยศหักหลังประชาชนหรือไม่ 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ความรับผิดชอบทางการเมืองอยู่เหนือความรับผิดชอบทางกฎหมาย นโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีประกาศตอนอยู่พรรคพลังประชารัฐ แล้วทำไม่ได้จะรับผิดชอบอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งคนในพรรครวมไทยสร้างชาติมารับตำแหน่งในรัฐบาลแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ไม่คำนึงถึงหลักคุณธรรมจริยธรรม ไม่มีธรรมาภิบาล คนในพรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาล จะคิดอย่างไรไม่สนใจ พล.อ.ประยุทธ์หมดตัวเล่น แต่ก็ยังเดินหน้าตั้งคนหน้าเดิม ๆ ที่ใกล้ชิดตัวเองมารับเงินเดือนจากภาษีประชาชน เหมือนตอนเป็นหัวหน้าคสช. มีมาตรา 44 จะทำอะไรก็ได้ แบบนี้ถูกต้องหรือไม่

‘เพื่อไทย’ ไม่ให้ค่า ‘ประยุทธ์’ เปิดตัวกับ รทสช. เหน็บ!! ไม่สำนึกทำปชช. เอือมระอาตลอด 8 ปี

(10 ม.ค. 66) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เปิดตัวสมัครเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ไม่ปัง พรรคใหม่ของพล.อ.ประยุทธ์มีนักการเมืองหลายคนที่เคยเป็น กปปส.เป่านกหวีดเรียกร้องการรัฐประหาร วันนี้ผู้เคยเรียกร้องการรัฐประหารกับหัวหน้าคณะรัฐประหารมาทำงานร่วมกันอีก การเปิดตัวของพล.อ.ประยุทธ์ พรรคเพื่อไทยไม่หวั่นไหว ส่วนตัวไม่ให้ราคา ขอให้มาสู้กันในสนามเลือกตั้งให้พี่น้องประชาชนตัดสิน ทั้งนี้ ตนมีข้อสังเกตดังนี้ 

1. พล.อ.ประยุทธ์กระทำผิดมารยาททางการเมืองอย่างร้ายแรง เพราะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แต่ไปประกาศเปิดตัวอย่างเอิกเกริก สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดทางการเมือง ไม่มีใครทำเหมือนพล.อ.ประยุทธ์มาก่อน แต่จะคาดหวังจากคนที่เคยยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำที่เป็นกบฏ ก็คงเป็นความคาดหมายที่สูงเกินไป พล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ พปชร. มีความสำนึกต่อพี่น้องประชาชนที่เลือก พปชร.หรือไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร นโยบายที่ พปชร.หาเสียงไว้แต่ทำไม่สำเร็จ จะรับผิดชอบอย่างไร 

2. พล.อ.ประยุทธ์มีพฤติกรรมย้อนแย้งจนหยดสุดท้าย เคยบอกว่าตนเองไม่ใช่นักการเมือง แต่คนไทยรู้แล้วว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัว เมื่อวานประกาศว่าไม่ต้องการอำนาจ แต่กลับมีพฤติกรรมเสพติดอำนาจ อยู่มา 8 ปีและยังกระเสือกกระสนจะอยู่ต่ออีก 2 ปี อ้างว่าเคารพกระบวนการประชาธิปไตย แต่จุดเริ่มต้นเข้าสู่อำนาจ คือในฐานะหัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน บอกความสงบจบที่ลุงตู่ ตอนนี้เป็นอย่างไร

‘เพื่อไทย’ จวก ‘ประยุทธ์’ ไร้มารยาทร้ายแรง หลังแต่งตั้งคนจาก รทสช. นั่งที่ปรึกษานายกฯ

(12 ม.ค. 66) น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงนามแต่งตั้งนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี, นายชัชวาลล์ คงอุดม, นายชุมพล กาญจนะ และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้แต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ ทั้งหมดเป็นนักการเมืองในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติที่พล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมงานการเมืองด้วยว่า การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์แสดงเจตนาอย่างชัดเจน ว่าต้องการให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นนั่งร้านค้ำยันอำนาจให้กับตัวเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า ตั้งคนเหล่านี้ให้มีอำนาจทางการเมือง เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง เป็นการกระทำที่ไร้มารยาททางการเมืองอย่างรุนแรง พล.อ.ประยุทธ์หวังสร้างอำนาจในหมู่ข้าราชการ และคนที่แต่งตั้งเข้ามาสามารถแทรกแซงอำนาจทางการเมืองได้ ประชาชนทั้งประเทศกังขาว่าพล.อ.ประยุทธ์กลัวแพ้เลือกตั้งถึงต้องตั้งคนของตัวเองคุมกลไกภาครัฐอย่างที่เห็นอยู่ 

เปิดม่านเมืองกาญจน์ สังเวียนวัดพลัง ‘พท-ภท.’ ชิงชัย 5 เขต 'อุ๊งอิ๊ง' เตรียมพาเหรดเรียกเรตติ้ง

แม้สัญญาณลั่นระฆังเลือกตั้งจะยังคงแผ่วเบา แต่คาดว่าอีกไม่นานก็คงดังกังวาล หลังวาระ 4 ปีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเวียนบรรจบมาในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งเราจะได้เห็นท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาก่อนครบวาระ 4 ปีหรือไม่ ก็คงต้องตามดูกัน

ทว่าในกรณีที่มีการประกาศยุบสภาก่อนวาระจริง ก็คงจะต้องมีการจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นภายใน 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน หลังจากวันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภามีผลบังคับใช้นั้น และนั่นก็ทำให้บรรดาพรรคการเมืองเปิดยุทธศาสตร์ชิงพื้นที่กันอย่างไวว่อง

อย่างไรก็ตาม แม้สัญญาณจะยังไม่ชัด แต่หลายพรรคการเมืองก็เริ่มออกมาอัดนโยบายและเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในหลาย ๆ พื้นที่จังหวัดกันบ้างแล้ว 

หนึ่งในสนามที่ตอนนี้เริ่มมีความชัดเจนในการปูตัวผู้สมัคร ส.ส.ที่น่าจับตาไม่น้อยนั้น ก็คือ จังหวัด กาญจนบุรี โดยการเมืองในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 5 เขตนั้น เริ่มมีการเคลื่อนพลสมาชิกและว่าที่ผู้สมัครฯ ออกมาแล้วหลายพรรค แต่ก็มีอีกหลายพรรคการเมืองยังคงเงียบเหงา เพราะยังไม่มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเลยแม้แต่เขตเดียว เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พรรคก้าวไกล (กก.) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)หรือแม้กระทั่งพรรค ประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นต้น

สำหรับพรรคการเมืองที่มีการเปิดตัวสมาชิกและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ที่ชัดเจน แต่ยังไม่ครบทั้ง 5 เขต ที่ฮือฮาที่สุดคือ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เนื่องจากว่าที่ผู้สมัครส่วนใหญ่ล้วน เป็น ส.ส.ที่ย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่สำคัญเป็นนักการเมืองรุ่นเก๋าที่มีประสบการทางด้านการเมืองที่สุดที่ชาวกาญจนบุรีต่างก็รู้จัก เช่น พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ อดีต ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ครั้งนี้ลงในนามพรรคภูมิใจไทย แต่พื้นที่เขต 1 (อ.เมือง อ.ศรีสวัสดิ์) ยังมีว่าที่ผู้สมัครที่พรรคภูมิใจไทยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ คือ ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ ดร.จุ๊บ ลูกสาวสุดที่รักของ นาวาโท นพ.เดชา สุขารมณ์ หรือหมอเดชา อดีต ส.ส.กาญจนบุรี หลายสมัยที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเขตนี้ขึ้นอยู่กับผลโพลว่าใครจะได้รับความนิยมมากกว่า พรรคภูมิใจไทย ก็จะส่งคนนั้นลงสมัคร

ด้านเขต 2 (อ.ท่าม่วง อ.ด่านมะขามเตี้ย) ขณะนี้ยังไม่ปรากฏชื่อผู้สมัคร แต่คาดว่าพรรคภูมิใจไทยน่าจะอยู่ระหว่างการพิจารณาตัวว่าที่ผู้สมัครที่เหมาะสม 

ส่วนเขต 3 (อ.ท่ามะกา อ.พนมทวน) นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน หรือ ส.ส.กุ๊ก แชมป์เก่า ที่เป็นดาวเด่นในสภา ได้ลงสมัครพื้นที่เดิม 100% 

เขต 4 (อ.ห้วยกระเจา อ.เลาขวัญ อ.หนองปรือ และ อ.บ่อพลอย) นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ หรือผู้ใหญ่แหลม อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไม่พลาดที่จะได้เป็นว่าที่ผู้สมัครในนามพรรคภูมิใจไทยอย่างแน่นอน 

ขณะที่ เขต 5 (อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี) นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ หรือพี่เมศ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จะได้ลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย 100% เช่นกัน

ถัดจากพรรคภูมิใจไทย ก็มีอีก 1 พรรคสำคัญที่จะต้องเอ่ยถึง คือ พรรคเพื่อไทย (พท.) โดยครั้งนี้พรรคเพื่อไทย ประกาศส่งชื่อว่าที่ผู้สมัครครบแล้วทั้ง 5 เขต ซึ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 5 เขต ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถทั้งสิ้น ไล่มาตั้งแต่เขต 1 (อ.เมือง อ.ศรีสวัสดิ์) นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ หรือ กอล์ฟ นักธุรกิจอาหารเสริมที่ประสบความสำเร็จ และอยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิด โดยได้รับการชักชวนให้เข้าสู่วงการการเมืองจาก มดดำ คชาภา ตันเจริญ พิธีกรชื่อดังของเมืองไทย

เขต 2 (อ.ท่าม่วง อ.ด่านมะขามเตี้ย) นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ อดีต สมาชิกสภา อบจ.กาญจนบุรี คนนี้ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงเช่นกัน

แต่ว่าที่ผู้สมัครที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวแล้วสร้างความฮือฮาให้กับคอการเมืองในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมากที่สุดคือ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 3 (อ.ท่ามะกา อ.พนมทวน) น.ส.พลอย ธนิกุล หรือน้องพลอย ทายาท แคล้ว ธนิกุล อดีตเจ้าพ่อนครบาล และ เขมพร ต่างใจเย็น หรือเจ๊เขม เจ้าแม่ธุรกิจก่อสร้าง โดยที่ผ่านมา น.ส.พลอย หรือ น้องพลอย ลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่ในนามพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาโดยตลอด แต่ในที่สุดกลับกลายเป็นพรรคเพื่อไทยที่คว้าตัวไปครอง หลังจากเปิดตัว น.ส.พลอย ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากชาว อ.พนมทวน อ.ท่ามะกา กันอย่างล้นหลาม มีผู้เข้าไปแสดงความยินดีและต้อนรับกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

‘เต้น’ เผย ‘อุ๊งอิ๊ง’ เตรียมนำทัพบุกอุดรฯ พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยครั้งใหญ่ 15 ม.ค.นี้

(12 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.45 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมจัดกิจกรรม ‘ครอบครัวเพื่อไทย : อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น’ ที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 15 ม.ค.นี้ โดยในช่วงเช้าทีมครอบครัวเพื่อไทย จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ที่ อ.บ้านดุงและ อ.เพ็ญ เพื่อนำเสนอนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศเอาไว้ รวมทั้งรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน 

และในเวลา 16.30 น. เป็นต้นไป จะมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมือง นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ, น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และจะเป็นครั้งแรกที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้งในบรรยากาศของการเตรียมการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทย ที่จะนำเสนอนโยบายและเป้าหมายไปสู่การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

‘เต้น’ เย้ย ‘บิ๊กตู่’ ย้ายอยู่พรรคใหม่แต่ดูไม่มีอนาคต แซะ!! แค่โกยคนที่แตกจากพรรคอื่นมาไว้รวมกัน

(12 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.45 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์เปิดตัวเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ตนนึกว่าพล.อ.ประยุทธ์จะแสดงแสนยานุภาพทางการเมืองอย่างน่าตื่นตาตื่นใจหลังจากยึดครองอำนาจต่อเนื่องมา 8 ปี แต่พบว่าไม่ใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่เป็นเหล้าเก่าในขวดแตก รวมเอาคนที่แตกออกจากพรรคต่าง ๆ ทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเล็กมาอยู่ด้วยกัน และไม่พบว่ามีบุคคลที่เป็นที่รู้จักหรือเป็นที่ยอมรับกันในสังคม เป็นคนใหม่ทางการเมืองปรากฏตัวร่วมงานกับพล.อ.ประยุทธ์แต่อย่างใด จึงมองไม่เห็นอนาคต เห็นแต่อดีต เพราะเต็มไปด้วยอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี ตนจึงเชื่อว่าจะส่งผลให้พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นอดีตนายกฯ ในไม่ช้า

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ดังนั้นการตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเต็มตัวของพล.อ.ประยุทธ์ แท้จริงไม่ใช่เป้าหมายแค่การเป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่มี ส.ว.กลุ่มหนึ่งได้เคลื่อนไหวสับไพ่รอหรือไม่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้ศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 ระบุว่ามีปัญหาที่น่าสนใจในบทบัญญัติในมาตรา 158 ว่าด้วยวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี โดย ส.ว. กลุ่มนี้ชี้ว่าเป็นเรื่องที่ควรจะพิจารณาแก้ไข ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่าการกำหนดบทบัญญัตินี้ในรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ผ่านมา ส.ว.ไม่เคยมีปฏิกิริยา ไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ ไม่เคยมีท่าทีที่แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยแต่อย่างใด ส.ว. 250 คนยกมือตามสั่งมาตลอด แต่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ครบ 8 ปีจริง กลับมีมติเห็นตรงกันว่ามาตรานี้มีปัญหา หมายความว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะอาศัยเสียง ส.ว. 250 คนเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ ได้ ต้องใช้เสียงในสภาและเสียง ส.ว.แก้ไขมาตรานี้แน่นอน

‘สมาชิกเพื่อไทย’ โอด ป้ายหาเสียงถูก ‘เผา-กรีด’ โร่แจ้งความหาตัวคนผิด ชี้!! ไม่อยากให้เกิดซ้ำอีก

มือมืดโผล่! เผาป้ายหาเสียงพรรคเพื่อไทย แม่ฮ่องสอน สมาชิกพรรคโร่แจ้งความเอาผิด วอนตำรวจเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ชี้ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้ในเมืองสามหมอก ด้าน กกต.ระบุเป็นคดีอาญา เร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยด่วน

(13 ม.ค. 66) นายสมภพ คงความซื่อ หรือ สจ.โจ้ อายุ 49 ปี ที่อยู่ 47 ม.4 ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน สมาชิกพรรคเพื่อไทย เขต 1 เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งประกอบด้วย อ.ขุนยวม, อ.เมือง, อ.ปางมะผ้า และ อ.ปาย ว่าป้ายแสดงนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกติดไว้ในหลายพื้นที่ กว่า 10 จุด ได้ถูกลอบเผาทำลาย และบางป้ายมีการใช้ของมีคมกรีดจนเสียหาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ก็พบว่ามีการทำลายป้ายดังกล่าวจริง และมีป้ายที่ถูกทำลายเสียหายกว่า 10 จุด จึงได้เดินทางไปแจ้งความ ที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเอาผิดกับคนที่ลักลอบทำลายป้ายแสดงนโนบายพรรคเพื่อไทยต่อไป ทั้งนี้ ไม่อยากให้ภาพแบบนี้เกิดใน จ.แม่ฮ่องสอน อีกต่อไป เพราะทำให้ จ.แม่ฮ่องสอน เสียหาย

ขณะที่ นายณัฐเศรษฐ์ ราชไชยา ผอ.กกต.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า การลักลอบเผาป้ายหาเสียง ทาง กกต.แม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งเหตุจากทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในห้วงนี้ ถือเป็นห้วง 180 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งทาง กกต.ได้เปิดโอกาศให้พรรคการเมืองสามารถติดป้ายแสดงนโยบายพรรคหรือหาเสียงได้

สำหรับในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน พบว่า ทางพรรคการเมืองแต่ละพรรค ยังไม่ได้ส่งรายชื่อผู้แทนพรรคในพื้นที่ ให้แก่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่อย่างใด ทำให้การหาเสียงในนามพรรคยังไม่ชัดเจน อีกทั้งพบว่า แต่ละพรรคการเมืองมีการเปลี่ยนตัวผู้ที่คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งบ่อยครั้ง ส่งผลให้ประชาชนเฝ้ามองว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะส่งผู้สมัครที่แท้จริงลงสมัครเมื่อใด แต่ก็พบว่ามีหลายคนได้มีการหาเสียงล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว

สำหรับบัญชีรายชื่อผู้ที่คาดว่าจะลงรับสมัครเลือกตั้ง เป็น ส.ส.แม่ฮ่องสอน เบื้องต้นได้แก่ 
เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายดานุภัทร์ เชียงชุม เขต 2 นายสมบัติ ยะสินธุ์

‘เพื่อไทย’ โต้ ‘ณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี’ พรรคไม่เคยทอดทิ้ง ชี้ การสรรหาผู้สมัครยังไม่จบ แต่ดันชิงลาออกไปก่อน

พท.ปัดให้ผู้สมัครเลิกกับคนรักต่างค่าย ลั่นไม่ยุงเรื่องส่วนตัว แจงญาติ 'ณัฐวุฒิ' ร่วมงานพรรคอื่น เตือนแล้วไม่แก้ไข ย้ำกระบวนการสรรหาผู้สมัครยังไม่จบ เจ้าตัวชิงลาออกไปก่อน

(13 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคพท.กล่าวกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่าง ๆ ว่านายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.หนองบัวลำภู ลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคไม่ส่งลง ส.ส.เขต และมีการเสนอข่าวว่า 4 พรรคให้ยุติความสัมพันธ์กับนักการเมืองพรรคอื่นว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ขอชี้แจงว่า 

1.) ในกระบวนการคัดสรรผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยต้องดำเนินการโดยคณะกรรมการสรรหา หลังจากนั้นจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติแล้ว จึงจะเป็นผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในนามของพรรคพท.ซึ่งกระบวนการดังกล่าวใช้ในการสรรหาผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ 

2.) เกณฑ์ในการตัดสินใจส่งบุคคลใดลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น พรรคพท.มีเกณฑ์การสรรหาที่โปร่งใส ชัดเจน แน่นอน โดยเฉพาะในประเด็นความซื่อสัตย์ มั่นคงกับพรรค ความชัดเจนของท่าทีทางการเมืองต่อพรรค รวมถึงการทำหน้าที่ ส.ส.ทั้งในสภาและนอกสภา 

3.) ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ ความรักของผู้สมัครนั้น เป็นเรื่องส่วนตัว พรรคจะไม่ไปก้าวล่วง เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล และพรรคไม่เคยขอให้ผู้สมัครรายใดยุติความสัมพันธ์กับคนรักที่สังกัดพรรคอื่นทั้งสิ้น

‘เพื่อไทย’ ชูนโยบาย ‘ส่งเสริม-พัฒนาทรัพยากรมนุษย์’ ชี้ ‘เสรีภาพ-โอกาส’ คือกุญแจสู่ความคิดสร้างสรรค์

(13 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรค และประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พรรคเพื่อไทยกล่าวเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ 2566 ว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญและมีนโยบายเพื่อส่งเสริมศักยภาพและสร้างคน ด้วยความเชื่อว่าเสรีภาพและโอกาส ซึ่งเป็นแก่นหัวใจที่แท้จริงของประชาธิปไตย จะเป็นที่มาของการปลดปล่อยศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ที่จะนำสู่การสร้างรายได้อย่างไม่สิ้นสุด และการสร้างคนจะต้องเริ่มต้นที่ครอบครัว 

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยพร้อมทุ่มเท เพื่อส่งเสริมและสร้างคนให้ประเทศไทยแข่งขันได้อย่างมีศักดิ์ศรีในเวทีโลก เรามีเป้าเพื่อสร้างคนทำงานทักษะสูง สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง รายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี มีค่าแรงไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรีมีค่าตอบแทน 25,000 บาทต่อเดือนภายในปี 2570 เรามีแผนฟื้นเศรษฐกิจทั้งระบบ ด้วยการเฟ้นหา สร้างโอกาสศักยภาพที่ซ่อนเร้นในทุกครัวเรือน ออกมาฝึกฝนเจียระไน สร้างแนวทางชัดเจนเพื่อหารายได้ผ่านโครงการ 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์

‘เพื่อไทย’ ให้การต้อนรับคณะทำงาน พรรคคอมมิวนิสต์จีน เผย พร้อมร่วมมือผลักดันทุกนโยบาย เพื่อปชช. ทั้ง 2 ประเทศ

(13 ม.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้แทนพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนางนลินี ทวีสิน ประธานคณะกรรมการต่างประเทศ และวิเทศสัมพันธ์ ให้การต้อนรับการมาเยือนของคณะจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน นำโดยนายเฉิน โจว รัฐมนตรีช่วยกระทรวงวิเทศสัมพันธ์แห่งคณะกรรมการกลาง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนและคณะ 

นายเฉิน โจว กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการเข้าเยี่ยมคารวะในครั้งนี้ เพื่อนำคณะมาเพื่อกระชับความสัมพันธ์จีน-ไทย พร้อมชี้แจงแนวทางการนำพาจีนของประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ที่ประกาศไว้ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งชาติครั้งที่ 20 ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อ 16 ต.ค.65 ซึ่งถือว่าเป็นวาระสำคัญที่ท่านสี จิ้น ผิง ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้นำสูงสุดของจีนต่อเนื่องเป็นวาระที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนอยู่ในตำแหน่งเกิน 2 วาระ ระยะเวลา 10 ปี ซึ่งต้องการเน้นย้ำการสร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างเศรษฐกิจในประเทศและระหว่างประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top