Friday, 23 May 2025
เพื่อไทย

‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เพิ่ม 45 คน คาด!! เปิดตัวครบ 400 เขตภายในต้นเดือนก.พ.

(16 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ และน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค แถลงเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ภาคเหนือ กทม. อีสาน กลางและใต้อีก 45 คน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคำนึงถึงเรื่องนี้ที่จะบอกกับประชาชนว่าเราพร้อม วันนี้เรามีว่าที่ผู้สมัคร 45 คนที่เราจะประกาศเป็นว่าที่ผู้สมัคร โดยส่วนที่เหลือเราจะประกาศตัวให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้หรือไม่เกินต้นเดือนก.พ. โดยว่าที่ผู้สมัครที่เราจะประกาศเป็นบุคลากรที่มีความมั่นใจ ว่าเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในการคัดเลือกมาเป็นผู้สมัครเพราะเข้าใจในพื้นที่ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของพรรคเพื่อไทยและผู้สมัครก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้ประชาชนตัดสินใจเลือกเรา เลือกเพื่อไทยให้กลับมาเป็นรัฐบาลเพื่อจะนำเอาความฝัน ความหวังมาสู่พี่น้องประชาชนอีกครั้ง

นายประเสริฐ​ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญ พรรคเพื่อไทยถือฤกษ์ในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. หลังจากนี้เราจะได้ทยอยเปิดตัวไปเรื่อย ๆ จนครบ 400 เขต ในการเปิดตัววันนี้จะส่งผลให้การเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ไปแตะเกือบ 90% ฉะนั้นจะเหลืออีกแค่ประมาณ 10% หรืออีก 40-50 คน ที่เราจะเปิดตัวสัปดาห์แรกของเดือนก.พ. เพื่อสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ให้เกิดทั้งประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้ 

สำหรับรายชื่อผู้ประสงค์จะลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 45 คน แบ่งเป็น 

กทม. จำนวน 6 คน 
1.น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ อดีตส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 
2.นายภัทร ภมรมนตรี 
3.นายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน 
4.นายธกร เลาหพงศ์ชนะ 
5.นายเกรียงไกร จงเจริญ 
6.นายอารุม ตุ้มน้อย

ภาคอีสาน ได้แก่ 
จ.กาฬสินธุ์ 
1.นางยรรยงรัตน์ ไชยศิวามงคล 
2.นายพีระเพชร ศิริกุล 
3.นายประเสริฐ บุญเรือง 

จ.ขอนแก่น 
1.น.ส.รัมภามาศ ทีฆธนานนท์ 
2.นายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข 
3.น.ส.วิภาณี ภูคำวงศ์ 

จ.นครพนม 
1.นายไพจิต ศรีวรขาน 
2.นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ 

จ.บึงกาฬ 
1.น.ส.ภัทรพร ราชป้องขันธ์ 
2.นายไตรรงค์ ติธรรม 

จ.มุกดาหาร 
1.นายนนทภูมิ ตั้งปณิธานนท์ 

จ.สกลนคร 
1.น.ส.จิรัชยา สัพโส
2.น.ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล 

จ.หนองบัวลำภู 
1.นายณพล เชยคำแหง 

จ.อุดรธานี 
1.นายศราวุธ เพชรพนมพร 
2.นายอนันต์ ศรีพันธุ์ 
3.นายขจิตร ชัยนิคม 
4.นายกรวีร์ สาราคำ 
5.นางจุฑาพัตธน์ เมนะสวัสดิ์ 
6.นายธีระชัย แสนแก้ว 
7.นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม 
8.นางเทียบจุฑา ขาวขำ 
9.นายวัชรพล ขาวขำ 

จ.มหาสารคาม 
1.นายรัฐ คลังแสง

ภาคใต้ ได้แก่ 
จ.นครศรีธรรมราช 
1.น.ส.ปรมาภรณ์ บริบูรณ์ 

‘หมอชลน่าน’ แนะจับตารัฐบาลชิงยุบสภาฯ ชี้!! มีการถือกฤษ์ดูดวง หวังกลับมาสืบทอดอำนาจ

‘ชลน่าน’ แนะจับตา 3 ช่วงรบ.ถือฤกษ์ชิงยุบสภาฯ หวังกลับมาสืบทอดอำนาจ เชื่อ ปชช.จะพิพากษาในคูหาเลือกตั้ง อัดรัฐเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการชิงความได้เปรียบ ย้ำไม่ประกาศจับพรรคไหนก่อนเลือกตั้ง ชี้เสียมารยาท

(16 ม.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรค กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอบกลับว่ามีความพร้อมอภิปรายตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านและผู้เสนอญัตติได้ปรึกษาหารือเสนอไปว่า มันเป็นเวลาที่เนิ่นนานเกินกว่าเหตุที่จำเป็น ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็เห็นด้วยว่าอภิปรายควรไม่เกิน 1 เดือนเมื่อเสนอญัตติไปแล้ว ยืนยันว่าเราจะอภิปรายครอบคลุมทุกเนื้อหา และเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม อาทิ ยาเสพติด ทุนจีนสีเทา การแต่งตั้งโยกย้าย ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะดูแลดูเนื้อหาสาระการอภิปราย เราตั้งเป้าได้เวลาไม่ต่ำกว่า 22 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าครั้งที่ผ่านมา 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเพราะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย เพื่อให้ประชาชนลงมติในคูหาเลือกตั้ง เราจะถอดหน้ากากคนดีแล้วให้เห็นว่าคนดีที่แท้จริงคิดอะไร ส่วนบุคคลที่จะอภิปรายในนามพรรคต้องถูกคัดเลือก ไม่ได้ในนามสมัครใจ เสมือนเวทีปราศรัยใหญ่ แต่เป็นเวทีในสภาฯ และบุคคลที่คัดเลือกจะอภิปรายประเด็นที่เป็นประโยชน์ในการเสนอปัญหาให้ครม.

เมื่อถามกลัวรัฐบาลชิงยุบสภาฯ ก่อนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นประเด็นที่วิตกพอสมควร เพราะช่วงที่กำหนดวันอภิปรายทิ้งเวลาเนิ่นนานเกรงว่าจะหนีอภิปราย และมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะยุบสภาฯ ก่อน 15 ก.พ. จริงหรือไม่ต้องติดตาม โดยเฉพาะหลังวันที่ 6 ก.พ. หากส.ส.ยังคงทำหน้าที่ต่อ โอกาสยุบสภาฯมีสูง ซึ่งได้ข่าวมาว่ามีการดูฤกษ์งามยามดีในการยุบสภา เพื่อให้ได้กลับมามีโอกาสสืบทอดอำนาจ คือวันที่ 14 ก.พ. 24 ก.พ.และ 7 มี.ค. ทั้งนี้ หากตรงไปตามข่าวยุบสภาก่อนวันที่ 15 ก.พ. ก็คือวันที่ 14 ก.พ.ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก อาจจะกลายเป็นวันแห่งความเกลียดได้ และต่อให้ถือฤกษ์ยามเพียงใด แต่ฤกษ์งามยามดีของประชาชน ก็คือวันเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นวันพิพากษาพวกท่าน

‘กานต์กนิษฐ์’ เปิดใจหลังย้ายซบ ‘เพื่อไทย’ ชี้!! ขอเลือกทำงานกับพรรคที่สบายใจ

(16 ม.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ อดีตส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครส.ส.กทม.เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดใจที่ย้ายมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยว่า ตนเลือกอยู่กับพรรคที่ทำงานแล้วสบายใจ มองว่าที่พื้นที่กทม.เขต 1 เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีพ่อค้าแม่ค้าทำธุรกิจค้าขายเป็นจำนวนมาก นโยบายของพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะช่วยพี่น้องประชาชนได้ เศรษฐกิจในพื้นที่จะดีขึ้น 

ทั้งนี้ การย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทย อาจจะทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่รู้สึกสับสน แต่ก็พยายามทำความเข้าใจและชี้แจงแนวทางที่ตัดสินใจมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.ก็ทราบเรื่องที่ตนย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทยแล้ว ซึ่งพล.อ.ประวิตรก็ไม่ได้ว่าอะไร ยืนยันว่าจะรักษาเก้าอี้ในพื้นที่ไว้ได้ เนื่องจากตนเป็นนักการเมืองมานาน ที่ผ่านมาก็ทำพื้นที่มาตลอด ขอให้ประชาชนมั่นใจ จะทำให้ดีที่สุด

‘สมคิด’ อัด ‘บิ๊กตู่’ กู้เงินโปะงบประมาณทุกปี ชี้!! สร้างหนี้ให้ประเทศมากกว่า 4 ล้านล้านบาท

(17 ม.ค. 66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการ ประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณประจำปี 2567 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พบว่าเป็นการจัดทำงบประมาณขาดดุลเช่นเดิม ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาจัดทำงบประมาณขาดดุลมาโดยตลอด มีการกู้เงินโปะงบประมาณทุกปี จากการตรวจสอบพบว่าพล.อ.ประยุทธ์ใช้การกู้เงินโปะงบประมาณมากกว่า 4 ล้านล้านบาท สร้างหนี้สินไม่รู้จบ การกล่าวอ้างว่าไม่อยากให้เป็นภาระกับรัฐบาลหน้านั้น เป็นการพูดเอาดีเข้าตัว ข้อเท็จจริงคือหนี้สินที่พล.อ.ประยุทธ์สร้างไว้ ใครมาเป็นรัฐบาลต่อไปต้องไปตามใช้หนี้ที่พล.อ.ประยุทธ์ก่อขึ้น หนี้สินก้อนนี้ กระทบเงินลงทุนในการพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน ทั้งนี้ งบประมาณประจำปี 2567 ที่สูงถึง 3,350,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 เป็นจำนวน 165 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.18 งบประมาณที่เพิ่มขึ้น ไม่สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทย  

นายสมคิด กล่าวต่อว่า หากพล.อ.ประยุทธ์อยากเป็นนายกฯ ต่อ คงไม่สามารถคำนวณได้ว่าประเทศไทยจะเป็นหนี้อีกมากเท่าไหร่ 8 ปีที่ผ่านมาเชื่อว่าประชาชนเห็นอะไรชัดเจนแล้วว่าการบริหารประเทศของรัฐบาลผลออกมาเช่นไร ถึงเวลานี้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมรับว่าตัวเองไร้ความสามารถ ประชาชนมองว่าพล.อ.ประยุทธ์แก่เกินกว่าจะมานั่งบริหารประเทศต่อไป ควรให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามานำพาประเทศ จะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า

‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องชาว ‘นนทบุรี’ ลั่น!! ไม่สน พปชร. เพิ่มบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท

(18 ม.ค. 66) เวลา 08.17 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และชาวคณะ นำทีมเยี่ยมประชาชนตลาดประชานิเวศน์ 3 นนทบุรี

อุ๊งอิ๊งกล่าวว่า เสียงตอบรับจากการลงพื้นที่วันนี้ดีมากมาก ได้รับการต้อนรับอบอุ่นอย่างอบอุ่นจากพี่น้องประชาชนตลาดประชานิเวศน์ 3 ก็มีคนบอกว่าอยากจะเลือกตั้งแล้ว ซึ่งก็ถือว่าสําหรับพรรคเพื่อไทยก็เป็นกําลังใจอย่างมาก ที่ทําให้เราอยากจะเดินสายหาเสียงต่อ เราพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีกว่าเดิม 

“นโยบายเราได้รับการตอบรับดีมาก ระหว่างเดินพบปะก็มีคนโชว์บัตรลายเซ็นต์ของท่านนายกทักษิณ ตั้งแต่ที่อยู่พรรคไทยรักไทย เห็นก็ชื่นใจมากมากนะคะ ที่พี่น้องประชาชนยังไว้ใจเรามายาวนานยี่สิบปีขนาดนี้ค่ะ แล้วก็ แน่นอนค่ะ เราจะไม่ทําให้พี่น้องประชาชนผิดหวังค่ะ” อุ๊งอิ๊งกล่าว

‘ชญาภา’ ชี้ ภาพลักษณ์คอร์รัปชันไทย 64 รั้ง 110 เทียบยุค ‘โทนี่’ เป็นนายกฯ ยังอยู่ในอันดับที่ 59

‘ชญาภา’ สับต่อมผิดชอบชั่วดี ‘ประยุทธ์’ ไม่ทำงานหลังตั้งแก๊ง รทสช. นั่งทีมนายกฯ อื้อ อัด รบ.คนดีสร้างบาปทางการเมืองไว้เพียบ เชื่อ ปชช.จะพิพากษาวันเลือกตั้ง

(18 ม.ค. 66) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยกล่าวกรณีที่คณะรัฐมนตรีที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธาน มีมติแต่งตั้งนายสยาม บางกุลธรรม รองเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และนายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตยานนาวา พรรครทสช.ให้เป็นข้าราชการการเมืองในตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ ตามที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ เสนอว่า ยิ่งนานวันรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งทำสิ่งที่ไร้มารยาททางการเมือง ต่อมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทางการเมืองไม่ทำงาน นอกจากจะล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองแล้ว ยังสร้างความไม่ไว้วางใจให้กับพี่น้องประชาชนซ้ำ ๆ ทั้งที่เหลือเวลาในการทำงานไม่ถึง 2 เดือน แต่ยังเดินหน้าแต่งตั้งคนในพรรคที่ตนเองสังกัดมาทำงานรอบกาย

น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า โดยปกติการแต่งตั้งบุคคลมาช่วยทำงานจะแต่งตั้งหลังจากที่มีการเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ แต่พล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้งคนในพรรคที่สังกัดมาดำรงตำแหน่งในรัฐบาลเพื่อไปสู้ศึกเลือกตั้ง เรื่องนี้น่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมืองหรือไม่ จากที่ก่อนหน้านี้ได้แต่งตั้งนายนายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรค รทสช.เป็นเลขาธิการนายกฯ จึงอดคาดเดาไม่ได้ว่าหลังจากนี้คนที่เป็นเลขาธิการนายกฯ และเป็นหัวหน้าพรรคที่นายกฯ สังกัดอยู่ จะตั้งพล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรค รทสช.เป็นการผลัดกันเกาหลังทางการเมือง หากเป็นบุคคลที่มีความละอายทางการเมือง จะไม่ทำเช่นนี้ แต่พล.อ.ประยุทธ์กล้าทำในหลายเรื่อง เช่น…

1. พล.อ.ประยุทธ์รัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ในปี 2557 มีความผิดฐานกบฎ แต่นิรโทษกรรมตัวเองไม่ให้รับผิด

2. พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำเผด็จการรัฐบาลทหารกว่า 4 ปีไม่พอใจ ยังวางหมากทางการเมืองหวังจะสืบทอดอำนาจต่อ โดยสรรหา ส.ว.เพื่อโหวตให้ตัวเองเป็นนายกฯต่อ 

3. พล.อ.ประยุทธ์อยู่บ้านพักฟรี ค่าน้ำค่าไฟฟรีจากภาษีประชาชน

พท. เย้ย ‘ประยุทธ์’ หมดสภาพ จบไม่สวย หลัง รมต.พร้อมใจลาประชุม ครม.

(18 ม.ค. 66) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทยอยแต่งตั้งคนในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เข้ามารับตำแหน่งในรัฐบาลอย่างต่อเนื่องว่า …

พล.อ.ประยุทธ์ ต้องกลับไปศึกษาจุดจบของพรรคทหารเฉพาะกิจ ตั้งแต่สามัคคีธรรม เปรียบเทียบกับพลังประชารัฐ (พปชร.) และจะลามมาถึงพรรค รทสช. ที่สุดจะมีชะตากรรมเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์จะถูลู่ถูกังตะแบงต่อไปไม่ได้ ส.ส.แห่ลาออกแทบทุกวัน จนสภาล่มทุกสัปดาห์ ประชุม ครม.ที่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่กลับมีรัฐมนตรีพร้อมใจกันลาประชุมเกือบสิบคน พี่ใหญ่ 3 ป. ขอไปใช้ใจบันดาลแรงลงพื้นที่โดยไม่เกรงใจ พล.อ.ประยุทธ์อีกต่อไป เพราะในครม.พล.อ.ประวิตร ก็ไม่เห็นด้วยในหลายเรื่อง ภารกิจเดียวที่พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงดำรงเป้าหมายอยู่ คือความพยายามทยอยตั้งคนในพรรค รทสช.เข้ามารับตำแหน่งในรัฐบาลให้ได้มากที่สุด 

‘เพื่อไทย’ เตรียมจัดหนัก ‘บิ๊กตู่’ ในศึกอภิปราย แซะ!! ช่วยตอบให้ตรงคำถาม อย่าก้มอ่านแต่โพย

(23 ม.ค. 66) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การอภิปรายตามมาตรา 152 ที่จะเกิดขึ้น ในส่วนประเด็นของพรรคเพื่อไทยที่จะอภิปราย สรุปแล้วว่าพรรคจะเน้นในเรื่องใดบ้าง รวมทั้งขุนพลที่จะมาอภิปราย อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตอบให้ตรงคำถาม อย่าอ่านแต่โพยที่ข้าราชการชงมาให้ ทั้งนี้การอภิปรายจะสะท้อนความล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ว่าตลอด 8 ปีไม่สามารถทำตาม นโยบายที่แถลงไว้กับสภา และจงใจที่จะไม่ดำเนินการตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ รัฐบาลผลาญงบประมาณมหาศาล แต่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน เงินงบประมาณไปตกอยู่กับคนกลุ่มไหนแล้วใครได้ประโยชน์บ้าง 

นอกจากนี้จะชี้ให้เห็นถึงการทุจริตที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายชี้ให้เห็นถึงการทุจริตในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ให้ประชาชนทราบแล้ว แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับไม่ดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาคนผิด ในทางกลับกันพล.อ.ประยุทธ์ปล่อยให้ขบวนการทุจริตขยายใหญ่โตกระทบกับโครงการที่จะไปดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน  


 

‘รัมภามาศ’ แจง ไม่เคยร่วมชุมนุม กปปส. ชี้ ชื่นชอบ ‘ทักษิณ’ ยก ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นไอดอล

(23 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยน.ส.รัมภามาศ ทีฆธนานนท์ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 เพื่อไทย ร่วมแถลงจุดยืนทางการเมือง 

น.ส.รัมภามาศ กล่าวว่า ขอยืนยันในจุดยืนทางการเมืองของตนเองว่าเชื่อมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ชื่นชอบในนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนและยืนข้างประชาชนอย่างแท้จริง ชื่นชอบการทำงานของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่สามารถผลักดันราคาสินค้าเกษตรให้ดีขึ้น ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้มีความกินดีอยู่ดีมากยิ่งขึ้น ยิ่งในขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ อย่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งถือว่าเป็นไอดอลของตนด้วย ทำให้หลงรักพรรคเพื่อไทยด้วยความจริงใจ และฝากชีวิตทางการเมืองไว้ที่พรรคเพื่อไทย

‘ชวลิต’ ลาเพื่อไทย เตรียมย้ายซบ ‘ไทยสร้างไทย’ ยก ‘หญิงหน่อย’ เป็นผู้นำพาไทยหลุดพ้นความขัดแย้ง

(23 ม.ค. 66) เวลา 8.30 น. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม เขต 4 (อ.นาแก อ.ปลาปาก และ อ.วังยาง) แถลงข่าวลาออกจากพรรคเพื่อไทย ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีทีมงาน และประชาชนในพื้นที่มาร่วมรับฟังจำนวนมาก หลายคนพกข้าวปลาอาหาร และดอกไม้ มาให้กำลังใจ 

นายชวลิต กล่าวว่า ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้วเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 โดยไม่มีปัญหาส่วนตัวใด ๆ ในพรรคเพื่อไทย และยังคงให้ความเคารพนับถือผู้ใหญ่ของพรรคและผู้บริหารพรรค รวมถึง 2 อดีตนายกรัฐมนตรีเสมอมาไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมา ตนเองได้ตกผลึกความคิดทางการเมืองว่า นับจากปี 2549 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 20 ปี การเมืองประเทศไทยยังอยู่ในวังวนแห่งความขัดแย้ง แบ่งเป็นฝัก เป็นฝ่าย ทำลายล้างกัน จนประเทศตกหล่ม ถอยหลังเข้าคลอง วิ่งตามเพื่อนบ้านไม่ทัน และประชาชนยากจนลงแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น

พรรคการเมืองที่เคยสังกัดถูกยุบ 2 ครั้ง ถูกปฏิวัติ 2 ครั้ง รัฐมนตรีของพรรคต้องโทษจำคุกแล้วกว่า 10 คน และยังมีอีกหลายคนที่ต่อคิวเพราะคดีความยังไม่สิ้นสุด ตนเห็นว่าการยุบพรรคการเมืองและการรัฐประหารเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย ยิ่งกระทำกับพรรคการเมืองที่ตนเคยสังกัด ยิ่งทำให้ความขัดแย้งฝังรากลึก ต่อเนื่อง ยาวนาน ดังนั้น ตนเองจึงตกผลึกทางความคิดว่า ต้องหาพรรคการเมืองที่มีจุดยืนอุดมการณ์ประชาธิปไตย และต้องมีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งระหว่างการเมืองสองขั้ว เพื่อเป็นทางออกให้กับบ้านเมือง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top