Friday, 23 May 2025
เพื่อไทย

‘เพื่อไทย’ รับหนังสือจากเครือข่ายภาคประชาชน เสนอ นศ.เรียนพร้อมฝึกงาน ลดรายจ่ายผู้ปกครอง

(24 ม.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย และผู้ประสงค์ลงสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส. กทม. ประกอบด้วย น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เขตยานนาวา-บางคอแหลม นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร เขตธนบุรี และนายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน เขตห้วยขวาง-วังทองหลาง รับมอบหนังสือจากเครือข่ายภาคประชาชน สำนักความคิด (ประเทศไทย) เครือข่ายลมใหม่ นำโดยนายพิษณุวัฒน์ สิงห์ชัย ประธานเครือข่าย เสนอนโยบายด้านอาชีพเพื่อสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ 

นายพิษณุวัฒน์ กล่าวว่า ภายหลังที่พรรคพท.ได้เปิดนโยบายเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และเงินตอบแทนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาทต่อเดือน ทางกลุ่มภาคประชาชนที่ประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษาสายอาชีพ เล็งเห็นว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะเป็นพรรคที่ทำตามนโยบายได้จริง จึงได้รวบรวมคิดเป็นนโยบายมานำเสนอ ตั้งแต่นโยบายสายอาชีพมีรายได้ คือการส่งเสริมให้บริษัทเอกชนรับนักศึกษาระดับ ปวช. และ ปวส.เข้าฝึกงานจริงตามสายอาชีพ ให้เรียนไปทำงานไปมีรายได้ตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป การสนับสนุนสวัสดิการคนวัยเริ่มงาน ด้วยการอุดหนุนค่าอินเทอร์เน็ต รถเมล์ฟรี นอกจากนี้กลุ่มนักเรียน นักศึกษาหรือแม้แต่ผู้สูงอายุ ควรได้โอกาสเข้าอบรมฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ ฟรีในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ อีกด้วย

‘ณัฐวุฒิ’ แซะ ‘บิ๊กป้อม’ อย่างเดียวที่ไม่ปาดหน้า ตอบข้อซักฟอกของฝ่ายค้าน เพื่อช่วย ‘บิ๊กตู่’

(24 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือนก.พ. ครอบครัวเพื่อไทยเตรียมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคและตน โดยแต่ละเวทีจะมีการสับเปลี่ยนผู้ปราศรัยตามความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ เริ่มเวทีแรกในวันที่ 27 ม.ค. ลงพื้นที่และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามกีฬากลาง จ.เลย ในเวลา 13.30-15.00 น. ตามด้วยเวทีที่ลานตลาดนัดเก้าค่ำ ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู วันที่ 28 ม.ค.เปิดเวทีปราศรัยที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคายในเวลา 09.00 น. จากนั้นจะไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย 

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า วันที่ 29 ม.ค. เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ลานองค์การบริหารส่วนจังหวัด อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เริ่มเวลา 17.30 น. โดยก่อนหน้านั้นจะลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยวของ จ.จันทบุรี ด้วย โดยทั้ง 3 วันนี้จะเป็นการคิกออฟเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรค พร้อมรณรงค์เป้าหมายแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น เราจะเดินหน้าในพื้นที่จังหวัดที่อยู่ห่างไกลกรุงเทพฯ ที่สามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน เดินทางถี่ได้ และเพื่อให้เหมาะสมกับน.ส.แพทองธารที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เป็นอุปสรรค และแสดงความพร้อมตลอดเวลาในการลงพื้นที่ การเสวนารวมทั้งการขึ้นเวทีปราศรัย 

ทั้งนี้ บุคลากรของพรรคเพื่อไทยทุกองคาพยพกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อเตรียมลงพื้นที่พบปะประชาชนและเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในเดือนก.พ.ซึ่งขึ้นอยู่กับการประกาศยุบสภา หากประกาศยุบสภาภายในเดือนก.พ. จะมีการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งพรรคเพื่อไทยอาจจะมีการประกาศนโยบายในโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง 

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า แต่หากไม่มีการยุบสภา โปรแกรมการลงพื้นที่และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ทุกอย่างจะเดินหน้าตามแนวทางที่กำหนดไว้ และในเดือนมี.ค.จะเดินหน้านำเสนอนโยบายและแนวทางของพรรคต่อประชาชน มุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องประสบกับวิกฤตปัญหาปากท้องซึ่งเป็นวิกฤตอันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทยซึ่งมีจุดแข็งด้านนโยบายที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงกับสถานการณ์ และความต้องการของพี่น้องประชาชน สามารถปฏิบัติได้จริง และเป็นสิ่งที่ทำมาตลอดระยะเวลา 20 ปี

‘เพื่อไทย’ จวก ‘บิ๊กตู่’ ไม่มีความรับผิดชอบ อยู่จะครบเทอม ยังจัดการปัญหาทุจริตไม่ได้

(24 ม.ค. 66) น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงข่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนอ้างว่าใช้บริการวีไอพีจากตำรวจไทยพร้อมจ่ายเงินตอบแทนว่า เป็นอีกครั้งที่ตำรวจไทยบางส่วนทำงามหน้าประเทศ เป็นปลาตัวเดียวที่ทำให้วงการสีกากีเน่าไปทั้งข้อง ทำเกียรติภูมิของตำรวจไทยเสียหาย สะท้อนไปถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เหลวแหลก พฤติกรรมของตำรวจบางกลุ่มที่ถูกเปิดโปง ต้องยอมรับว่าหากหัวไม่สั่นหางคงไม่กระดิกใช่หรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่สั่นคลอนระบบราชการภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องรับผิดด้วย อย่ารับแต่ชอบ 

น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า กี่กรณีแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยปละละเลยให้ธุรกิจสีเทาและทุนจีนสีเทาเฟื่องฟู ยาเสพติดระบาดเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง ระบบการส่งส่วยที่รับเงินสดแบบไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เมื่อตรวจพบแต่ละครั้งก็ทำได้แค่ย้ายเข้ากรุ ตั้งคณะกรรมการสอบ โดยภายในเดือนม.ค.เพียงเดือนเดียว พบว่ามีการตั้งกรรมการสอบหน่วยงานของรัฐไปแล้ว 6 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง กรณีพบส่วยในห้องทำงานข้าราชการระดับสูงกรมอุทยาน กรณีตำรวจ 191 เรียกทรัพย์หลังค้นบ้านทุนจีนสีเทา กรณีดีเอสไอเรียกทรัพย์ค้นบ้านทุนจีนสีเทา กรณีเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ กรณีช่วยเหลือคดีตู้ห่าว ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเดือนเดียว เพิ่มเติมจากเรื่องเก่าที่ยังไม่มีความคืบหน้า อย่างเรื่องเงินบริจาคของนายตู้ห่าวที่บริจาคให้พรรคพลังประชารัฐ จึงไม่อยากประเมินสถานการณ์ไปถึงอนาคตว่าประเทศไทยจะมีการตั้งคณะกรรมการไปอีกกี่ชุด ทั้งที่การแก้ไขที่ต้นเหตุสามารถทำได้ด้วยการมีผู้นำที่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา และเอาจริงเอาจังในการปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบมากกว่านี้ แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับละเลย ฉายา 8 ปีที่ 8 เปื้อนที่สื่อตั้งให้คงสมฉายาแล้ว

‘เพื่อไทย’ จวก รัฐจัดการหลอกลวงออนไลน์ช้า จี้ ‘รมต.ชัยวุฒิ’ ควรปราบแก๊งต้มตุ๋นให้จริงจัง

(25 ม.ค. 66) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ม.ค. อนุมัติร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ว่า เหตุใดรัฐบาลที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อยู่มา 8 ปีเพิ่งจะคิดทำเอาตอนนี้ ทั้งที่การออก พ.ร.ก.เป็นอำนาจเต็มของรัฐบาลที่ทำได้ทันที และทุกภาคส่วนก็เรียกร้องให้ดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจังมานานมากแล้ว ที่ผ่านมาเกิดปัญหาภัยไซเบอร์มากมาย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอสที่มีอำนาจอยู่เต็มมือ ต้องอธิบายกับสังคมให้ได้ว่าจงใจปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการให้เด็ดขาดหรือไม่ หรือดำเนินการล่าช้าเพราะอยู่ภายใต้รัฐบาลที่ทำงานไม่เป็น จนเกิดเป็นหลักฐานความล้มเหลวคาตาประชาชนมากมาย ทั้งแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์หลอกลวงและพนันออนไลน์ แอปพลิเคชันฝังมัลแวร์ล้วงข้อมูลประชาชน ตลอดจนคดีออนไลน์กว่า 114,000 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 22,000 ล้านบาท

นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า ตนเห็นด้วยกับเนื้อหาหลายส่วนใน พ.ร.ก.แต่ยังมีข้อกังวล 2 ประการเกี่ยวกับ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีว่า 

1. มีหน้าที่และอำนาจอย่างไรบ้าง เพราะควรมีความพอดีในอำนาจสิทธิ์ขาด อย่าให้เกิดการให้อำนาจล้นจนละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน

‘สมคิด’ ซัด!! ‘บิ๊กตู่’ อ้างลงพื้นที่ทำงาน แต่แฝงหาเสียง ย้อน!! เคยด่านักการเมืองเลวที่สุด แต่ตอนนี้ทำยิ่งกว่า

(26 ม.ค. 66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 159 และยกเลิกมาตรา 272 ที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้า พรรคเพื่อไทยกับคณะเป็นผู้เสนอ จนนำมาสู่การพิจารณาของสภา แม้สุดท้ายจะไม่สามารถแก้ไขได้เพราะสภาไม่ครบองค์ประชุม สภาล่มในที่สุด ทั้งนี้ เป้าประสงค์ของพรรคเพื่อไทยต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ฝ่ายไม่เห็นด้วยก็อ้างว่าเพราะการยกเลิกอำนาจส.ว.อเหลือวาระอีก 1 ปีจะไปแก้ทำไม เรื่องระยะเวลาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นคือต้องยกเลิกให้ส.ว.มีสิทธิในการเลือกนายกฯ เพราะนายกฯ ควรมาจากส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกฯ มาจากแคนดิเดตที่พรรคคัดสรรมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างน้อยประชาชนก็ได้รับรู้รับทราบโดยสาธารณะ 

‘ลุงหนู’ เผย ‘ศักดิ์สยาม’ ไม่กังวล ปมยื่นฟ้องถอดตำแหน่ง ยัน ไม่ติดใจ ‘เพื่อไทย’ ไล่งับ เข้าใจเรื่องการเมือง

(26 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทย ยื่นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สิ้นสุดลง เป็นการดิสเครดิตก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ ว่า นายศักดิ์สยาม ชี้แจงไปแล้วในประเด็นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือน ก.ย.65 และนายศักดิ์สยาม ชี้แจงข้อกล่าวหาในสภาไปแล้ว และสิ่งที่พิสูจน์ได้คือ นายศักดิ์สยาม ได้รับคะแนนไว้วางใจในประเด็นที่ถูกกล่าวหา คะแนนห่างกับคะแนนไม่ไว้วางใจเป็นร้อยคะแนน จึงน่าจะโอเค ส่วนเรื่องที่จะไปยื่นอะไรเป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย หากอยู่ภายใต้กฎหมายสามารถยื่นได้ 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเป็นการดิสเครดิตกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนที่ติดตามอย่างใกล้ชิดจะพิจารณาได้ว่าวัตถุประสงค์เป็นอย่างไร 

‘อุ๊งอิ๊ง’ ขนทัพ ‘เพื่อไทย’ ปราศรัยใหญ่ จ.เลย ลั่น!! มุ่งทำเพื่อ ปชช. ไม่มุ่ง ‘พาพ่อกลับบ้าน’

(27 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ท่าอากาศยานเลย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมปราศรัยใหญ่ ในงาน #แลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น โดยทันทีที่เดินทางมาถึงมี แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.จังหวัดเลย อาทิ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ และประชาชนร่วมรอรับและมอบดอกกุหลาบ เพื่อให้กำลังใจ พร้อมส่งเสียงตะโกน “เพื่อไทย สู้ๆ” “อุ๊งอิ๊ง สู้ๆ” พร้อมชูป้ายความยินดีต้อนรับ จนเสียงดังสนั่น ณ สนามบินเลย โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการลงพื้นที่หาเสียงในนามพรรคเพื่อไทยครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะลงพื้นที่ในนามครอบครัวเพื่อไทย โดยจุดแรกที่ลงพื้นที่ปราศรัยคือที่สนามกีฬากลางจังหวัด อ.เมือง จ.เลย

จากนั้นคณะพรรคเพื่อไทยได้หารือกับตัวแทนภาคเอกชนจังหวัดเลยที่ร้านอาหารล้านช้าง ก่อนเดินทางไปยังเวทีปราศรัยจุดแรก โดย น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ว่า การลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้ถือเป็นการเดินสายหาเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคเพื่อไทย หลังจากนี้พรรคจะเดินหน้าหาเสียงทั่วประเทศ เพื่อพบประชาชนให้ได้มากที่สุด ในส่วนของตนที่ยังสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้ ก็จะพยายามลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เมื่อใกล้คลอดจะปรับเป็นนั่งรถไปแทน โดยพยายามไปให้ได้มากที่สุดโดยปรึกษาคุณหมอตลอด จะไม่ทำอะไรให้มากเกินไป

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้นแต่มีการพูดถึงการจับมือทางการเมืองหลังเลือกตั้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อนำ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยกันเลย เราจะเดินสายอุ้มท้องหาเสียงต่อไปเพื่อเป้าหมายเลนส์สไลด์นี่คือสิ่งที่นี่คือเป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำ

เมื่อถามย้ำว่า นายทักษิณ ระบุว่าจะกลับบ้านเมื่อใดให้ น.ส.แพรทองธาร จะเป็นผู้ประกาศ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า “ยังไม่ได้บอกจะกลับเมื่อไหร่อย่างไร ที่บอกให้อิ๊งค์เป็นคนบอกก็ตามนั้น ส่วนจะกลับมาแบบไหนนั้น คุณพ่อออกไปหลายปีแล้ว คงมีวิธีและวิธีการว่าจะมาอย่างไรอิ๊งค์ก็เคารพการตัดสินใจและท่านก็พูดเองว่าจะไม่เอาพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การที่มาอยู่ตรงนี้ พรรคเพื่อไทยอยู่ตรงนี้ เราจะมุ่งหน้าหาเสียงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องพานายทักษิณกลับบ้าน ขอให้แยกเรื่องกัน”

เมื่อถามอีกว่า การจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตัดไปได้เลยใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่เคยคุย และข่าวที่ออกมาจะกระทบกับกระแสพรรคหรือไม่นั้น ตนคิดว่าประชาชนติดตามข่าวน่าจะมีวิจารณญาณว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ตนไม่ได้คุยจริงๆ ยังไม่มีดีล ไม่ได้คุย ก็ไม่รู้จะตอบประชาชนอย่างไร

เมื่อผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาโจมตีนายทักษิณหนักมาก พรรคจะดำเนินการอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวทางตอบโต้กับนายจตุพร หรือใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบาย เราเชื่อว่าการทุ่มเททำงานหนักเพื่อนำประชาธิปไตยกลับคืนมา เปลี่ยนแปลงรัฐบาลเอานโยบายเพื่อไทยแก้ปัญหาประชาชนคือเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ต้องทำให้สำเร็จให้ได้

สำหรับนายจตุพร แม้เหตุการณ์ตอนนี้ก็ไม่เคยรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ แต่ถ้าสื่อสารถึงกันได้บ้าง อยากบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าจะเพียงพอหรือได้ข้อยุติสำหรับการแสดงท่าทีแล้วหรือไม่ ขอให้พวกเราพี่ ๆ น้อง ๆ ได้ทำงานในสนามเลือกตั้ง เราไม่ทะเลาะกับนายจตุพร หากไม่สบายใจก็ไม่เป็นไร หากนายจตุพรจะหันมาที่ตน ตนยังพร้อมทำงานในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยต่อไป โดยไม่แสดงความเป็นปฏิปักษ์

“อยากให้มองมาที่พรรคเพื่อไทย เป็นพี่ เพื่อน น้อง ที่เคยยืนเคียงข้างกัน วันนี้เราทำงานหนักเพื่อนำบ้านเมืองให้รอดจากวิกฤต ดังนั้น ขอให้เราได้มีสมาธิทำหน้าที่ เราต่างเคยยืนเคียงข้างนายทักษิณ ในสนามเลือกตั้ง เคียงข้างผู้นำของพรรคการเมืองนี้ตลอด วันนี้ผมยืนข้าง น.ส.แพทองธาร พี่ก็ทราบว่าน้องอิ๊งค์มีหัวใจเป็นคนเสื้อแดง เติบโตมากับการเห็นภาพการถูกกระทำของคนเสื้อแดง หลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสีย กับความเจ็บปวดของคนเสื้อแดง อยากให้พี่นึกถึงภาพวันแบบนั้น ให้น้องอิ๊งค์ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะทำ อย่างที่ประชาชนตั้งความหวังอย่างที่ประเทศไทยกำลังรอโอกาส และเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงหากจะไปสนับสนุนพรรคอื่นในฝ่ายประชาธิปไตย คงเป็นด้วยเหตุผลอื่น ไม่น่าจะเป็นเพราะประเด็นที่นายจตุพรเปิดออกมา และยังเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงส่วนใหญ่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่

ส่วนคนเสื้อแดงที่ไม่สมหวังกับการจัดตัวผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ผมสอบถามกับคณะกรรมการสรรหาอยากให้มีการอธิบายแบบตรงไปตรงมา แต่ที่เปิดตัวไปมีคนเสื้อแดงจำนวนมากที่ได้โอกาส ยืนยันเราไม่เคยคิดทอดทิ้งทำลายน้ำใจกัน หวังเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งพี่น้องเสื้อแดงจะทบทวนวิธีคิดและจับมือร่วมกันเหมือนเดิม และเหมือนที่ น.ส.แพทองธาร บอก เป้าหมายแลนด์สไลด์ไม่ใช่เพื่อพานายกฯ ทักษิณ เป็นคนละประเด็นกัน ท่านก็พูดจะกลับหรือไม่อยู่ที่หัวใจท่าน ไม่ได้อยู่ที่พรรคการเมือง ดังนั้น แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย เพื่อเอาประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม) ประวิตรกลับบ้าน (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ) เอารัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการกลับบ้าน” นายณัฐวุฒิ กล่าว

‘สุทิน’ ลั่น!! เลือก ‘เพื่อไทย’ ได้วิธีแก้ปัญหาแบบใหม่ ชู สูตรเพื่อไทย ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส’

(27 ม.ค. 66) ที่เวทีปราศรัยใหญ่พรรคเพื่อไทย สนามกีฬากลาง จ.เลย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเคยอาศัยอยู่ใน จ.เลย ช่วงหนึ่ง ตอนนี้พัฒนาไปมาก น้ำไหล ไฟสว่าง หนทางดี แต่พบว่าประชาชนเป็นหนี้สินมากกว่าเดิม จากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำแต่ราคาปุ๋ยเคมียังเท่าเดิม จากเดิมในยุครัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ราคารับซื้อยางพาราอยู่ที่กิโลกรัมละ 120 บาท ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท แต่ตอนนี้เหลืออยู่ที่ 30 บาท ส่วนยางก้นถ้วย ราคารับซื้อ ณ วันนี้เหลือกิโลกรัมละ 17 บาท ส่วนราคารับซื้อข้าวในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ตันละ 15,000 - 20,000 บาท ตอนนี้เหลือตันละ 7,000 บาท

ขณะที่การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในอดีต พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ขายเสร็จเอาเงินมาไว้ที่บ้าน แต่ขณะนี้รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บีบผู้ขายรายย่อยให้ขายในราคา 80 บาท แต่ยี่ปั๊วหรือนายทุนรายใหญ่ได้กำไรเท่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีปัญหาโรคระบาดในสัตว์ ทั้งลัมปีสกิน อหิวาห์สุกร ที่รุมเร้าพี่น้องเกษตรกรที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที

‘นพดล’ ลั่น ไม่มีจับมือพรรคใดพา ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน เย้ย!! ไอโอกุเรื่องบิดเบือน ไม่กระทบแลนด์สไลด์

เพื่อไทยเชื่อมั่น ประชาชนต้องการรัฐบาลใหม่มาแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ปฎิบัติการไอโอจับคู่เพื่อไทยกับพรรคอื่นหรือบิดเบือนแลนด์สไลด์เพื่อนำอดีตนายกฯ กลับบ้านไม่กระทบแลนด์สไลด์

(29 ม.ค.66) นายนพดล ปัทมะ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทุกพรรคเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ปี่กลองการเมืองดังขึ้น การปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารเริ่มทำงาน ยิ่งกระแสพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์แรงขึ้น ก็เป็นปกติที่ต้องเผชิญแรงเสียดทานทางการเมืองมากขึ้น เพราะที่นั่ง ส.ส.มี 500 ที่นั่ง เมื่อมีคนได้ที่นั่ง ก็จะมีคนเสียที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม ก็มีผู้วิเคราะห์กันไม่หยุดว่าเพื่อไทยจะจับมือกับพรรครัฐบาลปัจุบันตั้งรัฐบาล และพรรคเดินหน้าแลนด์สไลด์เพื่อเอาอดีตนายกฯ ทักษิณกลับบ้าน ซึ่งในประเด็นนี้ พรรคเพื่อไทยก็มีแถลงการณ์ยืนยันชัดเจนว่าไม่จับมือกับพรรคการเมืองใดโดยมุ่งเดินหน้าแลนด์สไลด์ เพื่อขอโอกาสตั้งรัฐบาลที่เข้มแข็งแก้ปัญหาให้ประชาชน และการเดินหน้าแลนด์สไลด์ก็เพื่อมีเสียง ส.ส.มากพอที่จะเอาชนะเสียง ส.ว.ตอนโหวตตัวนายกฯ ในรัฐสภาและผลักดันนโยบายพรรคได้เต็มที่โดยไม่ต้องพะวงการเจรจาต่อรองนโยบายรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ไม่ใช่แลนด์สไลด์เพื่อเอาอดีตนายกฯ กลับบ้านตามที่มีคนพยายามด้อยค่าความตั้งใจดีของพรรคอย่างต่อเนื่อง

‘รศ.หริรักษ์’ ชำแหละ เจ้าของพรรคแลนด์ไลด์ ตั้งลูกสาวนั่ง ‘หัวหน้าครอบครัว’ หวังกรุยทางกลับบ้าน

(30 ม.ค. 66) รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ปีนี้ เราน่าจะได้เห็นการยุบสภาก่อนครบวาระในเดือนมีนาคม การเลือกตั้งครั้งต่อไปมีการคาดคะเนกันว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่จะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดที่สุดระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ และจะมีการใช้เงินกันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ด้วยระบบการเมืองและนักการเเมืองที่มีอยู่เป็นอยู่ในขณะนี้ พรรคการเมืองที่ได้เปรียบย่อมเป็นพรรคที่มีเงินทุนมาก ดังนั้น พรรคที่ประกาศว่าจะชนะเลือกตั้งแบบ landslide คงต้องทุ่มทุกอย่างจนสุดตัว ใช้ทุกวิธี เพื่อที่จะให้ชนะเลือกตั้งแบบ landslide ให้ได้

พรรคการเมืองพรรคนี้ ใครที่เป็นหัวหน้าพรรคเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด เพราะแทบจะไม่มีอำนาจตัดสินใจในระดับนโยบายเลย ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งยังมีการสร้างตำแหน่งขึ้นใหม่ในพรรค เป็นตำแหน่งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย นั่นคือตำแหน่ง 'หัวหน้าครอบครัว' เพื่อให้ลูกสาวเจ้าของพรรคเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ และจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อไป หัวหน้าพรรคต้องคอยเดินตามหลัง ค้อมคำนับให้หัวหน้าครอบครัวที่มีอายุคราวลูก ยืนอยู่ข้างหลังเวลาหัวหน้าครอบครัวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และจะต้องทำหน้ายิ้มแย้มด้วยความชื่นชม ยากเหลือเกินสำหรับการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคของพรรคการเมืองพรรคนี้

หัวหน้าครอบครัวประกาศว่า จะต้องได้ชัยชนะแบบ landslide และจะนำพ่อกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน พูดเช่นนี้คอการเมืองก็เข้าใจทันทีว่า ที่ต้องการชนะแบบ landslide เพราะต้องการเป็นรัฐบาลที่สามารถคุมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมให้พ่อได้กลับบ้านโดยไม่ต้องเดินเข้าคุกนั่นเอง เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่จะให้พ่อกลับบ้านแบบเท่ ๆ ได้

ทั้งเจ้าของพรรคและหัวหน้าครอบครัวดูจะมีความมั่นใจมากว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเชียร์ตัวเองแบบไม่ลืมหูลืมตา จีงกล้าประกาศเช่นนั้น แต่มาวันนี้น่าจะเห็นแล้วว่า คนไทยไม่ได้เชียร์พ่อตัวเองอย่างไม่ลืมหัวลืมตาแล้ว แน่นอนคนแบบนั้นยังมีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่คนอื่นๆ ที่เคยเลือกพรรคนี้เป็นจำนวนมากเริ่มไม่สบายใจที่จะเลือกพรรคนี้เพื่อให้ไปออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อคนเพียงคนเดียว หากเลือกพรรคนี้ก็จะมีความวุ่นวายในบ้านเมืองตามมาแน่ ๆ และอาจจะมีความรุนแรงกว่าเมื่อครั้งออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยเสียอีก

ล่าสุดเจ้าของพรรคซึ่งประกาศว่าตัวเองจะกลับบ้านมาทุกปีเป็นเวลาหลายปีแล้ว ยังคงกลับไม่ได้ จึงออกมาพูดนำทางแก้เกี้ยวว่ายังกลับบ้านไม่ได้เพราะครอบครัวกลัวจะไม่ปลอดภัย (ว่าเข้าไปนั่น) แต่เมื่อจะกลับ จะไม่ต้องออกฎหมาย ไม่ต้องเกี้ยเซี๊ยกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ต้องใช้พรรคเพื่อไทย หลังจากนั้นหัวหน้าครอบครัวผู้เป็นลูกสาวก็ให้สัมภาษน์นักข่าวว่า จะมุ่งทำงานให้ประชาชน เรื่องนำพ่อกลับบ้านยังไม่คิด กลับลำซะงั้น เสมือนไม่เคยพูดว่าต้องการชนะแบบ landslide เพื่อพาพ่อกลับบ้านมาก่อนเลย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top