Thursday, 22 May 2025
เพื่อไทย

‘เพื่อไทย’ จวก กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งบิดเบี้ยว เย้ย!! ต่อไปคงต้องเรียก ส.ส.แขวง

‘เพื่อไทย’ กางตำรากฎหมายจวก กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งบิดเบี้ยว พื้นที่เดียวกันมีผู้สมัคร 3 คน เย้ยต่อไปต้องเรียก ส.ส.แขวง โวยปชช.โดนรัฐประหารผ่านการแบ่งเขต จี้ทบทวนด่วน

(13 ก.พ. 66) ที่พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. พรรคเพื่อไทย นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส. กทม. และน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค ร่วมแถลงกรณีการเสนอรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ในเขตพื้นที่ กทม. ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งในพื้นที่ กทม. นั้น เดิมมี 5 รูปแบบ ซึ่งมากกว่าจังหวัดอื่น ๆ อยู่แล้ว ล่าสุด กกต. แบ่งออกมาเพิ่มอีกรวมเป็น 8 รูปแบบ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนในการเลือกตั้ง ส.ส.เขต เรียกได้ว่าเป็นการแบ่งเขตที่บิดเบี้ยว ไม่เป็นไปตามธรรมชาติของแต่ละพื้นที่ การแบ่งเขตรูปแบบที่ 6 - 8 นี้ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พรรคเพื่อไทยและพรรคอื่น ๆ ไม่เห็นด้วย เพราะจะเป็นการสร้างปัญหาให้กับประชาชน เกิดความไม่สะดวกเพราะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับที่อยู่อาศัย รวมถึงสร้างความลำบากต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเอง ทำให้ไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ซึ่งเคยทำงานมา

“การแบ่งเขตดังกล่าวยังส่งผลให้ผู้สมัครพบปัญหาว่าในเขตเดียวมีผู้สมัครถึง 3 - 4 คน ต่างพรรคต่างเบอร์กัน จะเป็นเหตุให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปผิดพลาดบกพร่อง เกิดบัตรเสียจำนวนมาก และไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตย กกต. ควรยึดตามหลักกฎหมายและความเป็นจริง ขอเรียกร้องให้ กกต. ทบทวนใหม่” โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ

ด้านนายวิชาญ กล่าวว่า การแบ่งเขตรูปแบบ 6 - 8 ซึ่ง กทม.มีทั้งหมด 30 เขต จำนวนประชากรประมาณ 5 ล้านคน จากการรวบรวมความเห็นของประชาชน และพิจารณาตามหลักของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงระเบียบของ กกต. เป็นเกณฑ์ เห็นว่าการแบ่งเขตแบบ 1-3 มีความชัดเจน พื้นที่มีความคาบเกี่ยวกัน การจัดรูปแบบดังกล่าวมีความสอดคล้องกว่า ไม่สร้างความสับสน มี 25 เขต จาก 30 เขต ที่ไม่ต้องแบ่งเขตเพิ่มเติมใหม่

“การแบ่งเขตแบบที่ 6 - 8 มีโอกาสสร้างความสับสนให้ประชาชนมากกว่า หากมีการแบ่งพื้นที่ตามแขวง คงเรียก ส.ส.เขต ไม่ได้ ต้องเรียกว่า ส.ส.แขวง และจะสร้างผลเสียคือบัตรเสียจะมากขึ้น จากการฟังเสียงประชาชน พรรคเพื่อไทยจึงเสนอว่ารูปแบบการแบ่งเขตแบบที่ 1 - 2 มีความเหมาะสมมากที่สุด เพราะเขตหลักๆ ยังอยู่ ไม่ถูกแบ่งแยก จึงมีความสะดวกต่อประชาชนมากกว่า” นายวิชาญ กล่าว

'เพื่อไทย' ขู่!! เตรียมเปิดเวทีนอกสภาฯ แก้เกมรัฐบาลไม่ร่วมองค์ประชุมล้มซักฟอก

‘เพื่อไทย’ แก้เกมรัฐบาล ทำองค์ประชุมล่ม หนีซักฟอก ขู่!! เปิดอภิปรายนอกสภาฯ เตรียม35 ขุนพลรอถล่ม พร้อมแฉ ‘ทุจริต-ธุรกิจสีเทา’ ย้อน!! ส.ว.สายแข็ง เคารพเสียงประชาชน ควรโหวตนายกฯ หากเพื่อไทยได้เสียงเกินครึ่ง

(13 ก.พ. 66) ที่พรรคเพื่อไทย คณะแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่มีบทบาทต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 ตามที่มีการบรรจุญัตติกำหนดการอภิปรายวันที่ 15-16 ก.พ. ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการเตรียมความพร้อม

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยไม่มีการลงมติ วันที่ 15-16 ก.พ. ใช้เวลารวม 32 ชั่วโมง การอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายในสมัยอายุของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ในญัตติโดยรวมจะสอบถามข้อเท็จจริง เสนอแนะแก้ปัญหาจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน 12 ประการ ซึ่งมีข้อเท็จจริงปรากฏว่า ไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน รัฐบาลต้องตอบคำถามให้กับพี่น้องประชาชนในหลายเรื่องที่ไม่มีความชัดเจน เช่น กรณีธุรกิจสีเทา ภัยด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี การทุจริตคอร์รัปชัน จะถูกหยิบยกขึ้นมา ขอตั้งชื่อการอภิปรายครั้งนี้ว่า ยุทธการกระชากหน้ากากคนดี มาจากที่สื่อมวลชนตั้งชื่อรัฐบาลหน้ากากคนดี เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้ว่า หน้ากากคนดีที่แท้จริงเป็นอย่างไร

นพ.ชลน่านกล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ได้รับรู้มาคือจะมีการปิดกั้นไม่ให้อภิปรายจากการที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะไม่เป็นองค์ประชุม ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น เชื่อว่าฝ่ายนิติบัญญัติที่มีหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนจะไม่กระทำการใดที่เป็นการทำลาย แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง พร้อมจะกำหนดวันอภิปรายนอกสภา ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อรัฐบาลที่ไม่มีโอกาสตอบข้อเท็จจริง หากเกิดกรณีดังกล่าวจริงอาจถือเป็นการปิดกั้นไม่ให้มีการตรวจสอบ เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะเตรียมพร้อมไว้ และจะเป็นประเด็นที่นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนได้อย่างดียิ่ง โดยเฉพาะคนที่เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่ทำตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

‘ส.ว.’ แนะ 'อุ๊งอิ๊ง' เร่งเสริมกระดูกการเมือง แล้วค่อยกลับมาอีกทีในสถานการณ์โลกแบบนี้

(13 ก.พ. 66) นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ระบุ ส.ว.พร้อมแลนด์สไลด์ไม่โหวตเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ไปรวบรวมเสียงให้เกิน 376 เองว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัว แต่เชื่อว่า ส.ว.ส่วนใหญ่จะเคารพเสียงของประชาชน และทำเพื่อบ้านเมือง ส.ว.จะดูว่าผู้ที่จะมาทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง ต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ไม่มีเบื้องหลังทุจริต นำพาบ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการความเห็นของนายวันชัย ในเรื่องดังกล่าวจะกระทบภาพลักษณ์ ส.ว.หรือไม่ เพราะขณะนี้ ส.ว.ถูกกระแสตีกลับว่าไม่เคารพเสียงประชาชน นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วง สมาชิกท่านอื่น ให้ไปถามที่เจ้าตัว ส่วนที่มองว่า ส.ว. ไม่เคารพเสียงประชาชนนั้น ยอมรับว่ากังวล ประชาชนและสื่อมวลชนจะเข้าใจผิดว่า ส.ว. คิดแบบเดียวกันทั้งหมด

นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า กรณีพรรคเพื่อไทยจะชู น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี หากมีเสียงเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นลำดับที่ 1 ส.ว.จะพร้อมโหวตให้หรือไม่นั้น ต้องขอดูก่อน เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์และได้ ส.ส.เกินครึ่งก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ การรวบรวมเสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรี 376 เสียงนั้นต้องขอดูก่อน ว่า หากใกล้ ๆ น.ส.แพทองธาร สามารถปรับลุคและมีผลงาน มีนโยบายที่ดีอาจจะพิจารณาอาจจะพิจารณาหน้างานอีกครั้ง

'เพื่อไทย' โชว์ไอเดียแก้ PM 2.5 ผู้ก่อมลพิษต้องเป็นผู้จ่ายและรับผิดชอบ

“ในวงการนักสิ่งแวดล้อม คุยและเสนอความคิดกันว่า วันนี้คนที่สร้างมลพิษ จะต้องมาช่วยจ่ายและรับผิดชอบ ซึ่งต่อไปจะเป็นหลักการสำคัญในการแก้ปัญหา”

ส่วนหนึ่งจากการเสวนา ‘วิกฤตฝุ่น PM 2.5 เพื่อไทยมีทางแก้ไข’ นำโดย จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ นายแพทย์ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร, ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ชี้ให้เห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ต้องเข้มงวดและผู้ก่อมลพิษควรได้มีส่วนรับผิดชอบอย่างจริงจัง

จักรพล ตั้งสุทธิธรรม กล่าวว่า กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เกิดมาอย่างยาวนาน ตนได้ยื่นกระทู้สดถามต่อรัฐบาล แต่กลับไม่มีผู้มาตอบถึง 3 ครั้ง โดยตั้งแต่ปี 2564 ได้ยื่นกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อจัดการปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืน แล้วเสร็จถึง 3 คณะ กระทั่งวันที่ 27 มกราคม 2565 ได้ยื่นพระราชบัญญัติอากาศสะอาด ผ่านไป 400 วันแล้ว ยังไปไม่ถึงไหน หลายฉบับก่อนหน้านี้มีการตีตก เหลือฉบับของพรรคเพื่อไทยที่ค้างในรัฐสภาในส่วนนิติบัญญัติ 

จักรพล กล่าวต่อว่าในวงการนักสิ่งแวดล้อมได้คุยและเสนอความคิดกันว่า วันนี้คนที่สร้างมลพิษจะต้องมาช่วยจ่ายและรับผิดชอบ ซึ่งต่อไปจะเป็นหลักการสำคัญในการแก้ปัญหา เพราะคนที่ก่อมลพิษควรต้องร่วมรับผิดชอบเพื่อให้รัฐบาลและสังคมได้นำเงินรายได้ตรงนี้ไปใช้รักษา ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษ แต่อย่างไรก็ตามตรงนี้ก็คงไม่สามารถเทียบกับชีวิตและสุขภาพและชีวิตของคนไทยที่ต้องสูญเสียไป ดังนั้น พ.ร.บ.อากาศสะอาดจึงถือเป็นด่านแรกที่สำคัญในขั้นพื้นฐานที่พรรคเพื่อไทยจะต้องผลักดันต่อไปให้สำเร็จ เพื่อเป็นหลักประกันพื้นฐานด้านสุขภาพให้พี่น้องประชาชน

นายแพทย์ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า PM 2.5 สามารถแทรกซึมได้ผ่านทางลมหายใจ คนที่เป็นภูมิแพ้จะมีน้ำมูกไหล ไปจนถึงเลือดกำเดาไหล ผ่านเข้าปอด เข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต หัวใจ สมอง สามารถทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตีบ หรืออักเสบ และสามารถเสียชีวิตได้ทันที ปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 30,000 คนต่อปี ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจนับแสนล้านบาท

'เหลิม' ซัด!! ส.ว.ปัญญาทึบ ไม่โหวต 'อิ๊ง' เป็นนายกฯ ด่ากราด พปชร. แค่พวกอวดรู้ที่มาก่อตัวเป็นพรรค

(14 ก.พ. 66) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขู่จะไม่โหวตให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า การเป็น ส.ว.เขาเรียกว่าสภาสูง โดยหลักต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถถึงจะได้รับแต่งตั้ง

"กรณีที่ส.ว.มีการพูดว่าหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยยังมีอายุน้อยและไม่มีความเหมาะสมเป็นนายกฯนั้น ฟังดูคำให้สัมภาษณ์บอกว่าหัวหน้าครอบครัวยังอายุน้อย แสดงถึงปัญญาทึบไม่ได้มองโลก โดยนายกฯ ประเทศนิวซีแลนด์ก็อายุ 30 ปี นิดๆ ขณะที่นายกฯ ฝรั่งเศสก็ 30 ปีหน่อยๆ ส่วนผู้นำครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งไม่ทราบว่าในอนาคตจะเป็นนายกฯหรือไม่นั้น ก็อายุ 37 ปี เรียนจบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เรียน ป.โท จบเมืองนอก เหมาะสมไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง การที่ส.ว.มาพูดว่ายังละอ่อน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว 

‘สุทิน’ ห่วงองค์ประชุม ม.152 ไม่ครบจ่อแก้เกม อภิปรายนอกห้องประชุม

(15 ก.พ. 66) ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในวันนี้ซึ่งเป็นวันแรก ว่า จะเริ่มโดยผู้นำฝ่ายค้านแถลงญัตติ และขยายความภาพรวม จากนั้น จะเป็นกลุ่มหัวหน้าพรรค ก่อนเริ่มการอภิปรายตามลำดับ สำหรับวันแรกฝ่ายค้านจะอภิปรายถึงประเด็นเศรษฐกิจ พลังงาน และต่างประเทศ ส่วนพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) จะอภิปรายประเด็นปัญหายาเสพติด ปัญหาสังคม และการทุจริต 

เมื่อถามว่า คาดว่าจะเปิดประชุมได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมากันครบ ขอให้มั่นใจว่าฝ่ายค้านไม่มีปัญหา หากจะมีปัญหาก็มีที่รัฐบาล ดังนั้น วันนี้องค์ประชุมจะครบหรือไม่ก็คง 50 - 50 ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล อย่างน้อยพรรคประชาธิปัตย์ก็ยืนยันมาร่วมประชุม แต่องค์ประชุมคงหวุดหวิดพอสมควร คงต้องลุ้นกัน

“เรากำชับวิปรัฐบาลให้ช่วยกันรักษาระบบสภา เพราะการอภิปรายใหญ่ ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ คงอยู่ที่ความสำนึก แต่เรายังหวังว่าไม่น่าจะถึงขั้นทำให้ระบบนี้หายไป อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านเตรียมแผนไว้แล้วว่าหากองค์ประชุมล่มวันนี้ และพรุ่งนี้ประชุมต่อแล้วล่มอีก เราจะอภิปรายนอกห้องประชุมสภาที่โพเดียมห้องโถงแห่งนี้” นายสุทิน กล่าว

‘อุ๊งอิ๊ง’ เตรียมลุย 5 จังหวัดในอีสาน ปราศรัยรวม 9 เวที 17-19 ก.พ.นี้

(15 ก.พ.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่ปราศรัยใน 5 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่นระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ.นี้ รวมทั้งหมด 9 เวทีปราศรัย เพื่อนำเสนอนโยบายและรับฟังความคิดเห็นประชาชนร่วมกับ ส.ส.และผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคพท.ภายใต้แนวคิด ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ ทั้งนายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรค น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ดและกรรมการบริหารพรรค

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 17 ก.พ.เริ่มต้นเวทีปราศรัยวัดม่วงเดียด หลวงพ่อลี อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในเวลา 11.00 น. หลังจากนั้นจะไปเปิดเวทีปราศรัยที่ 2 ที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ในเวลา 14.30 น. ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ศาลากลางหลังเก่า อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 

ทั้งนี้ จ.อุบลราชธานีถือว่ามีความทรงจำร่วมกันระหว่างประชาชนกับการทำงานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยเมื่อครั้งเป็นพรรคไทยรักไทย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เริ่มต้นแคมเปญหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน โดยชวนแกนนำพรรค รัฐมนตรีขึ้นรถไฟออกจาก อ.วารินชำราบ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยก็จะนำนโยบายไปเสนอ โดยเฉพาะนโยบายด้านการคมนาคม รถไฟความเร็วสูง 

ในวันที่ 18 ก.พ.จะเปิดเวทีปราศรัยแรกที่รร.อำนาจเจริญ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ในเวลา 10.00 น. ไปต่อที่รร.เสลภูมิพิทยาคม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 14.00 น. ก่อนเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่บึงพลาญชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ในเวลา 17.00 น. 

ซึ่งที่ จ.ร้อยเอ็ด นายทักษิณเคยจัดโมเดลแก้จนที่ อ.อาจสามารถ เรียกว่า ‘อาจสามารถโมเดล’ วางแผนยกระดับคุณภาพชีวิต ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส น่าเสียดายที่หลังลงพื้นที่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองนำไปสู่การรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นในการทำงาน แก้ปัญหาความยากจน ยังเป็นเป้าหมายหลักของพรรคะท.จนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะนำเสนอบนเวทีนี้ด้วย

‘ชลน่าน’ เย้ย ‘ประยุทธ์’ ทำงาน 8 ปีไม่มีผลงาน ซัด!! อ้างทำหมดทุกอย่าง แต่ผลลัพธ์เท่ากับล้มเหลว

(16 ก.พ. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายในวันที่ 15 ก.พ.ว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้อย่างดียิ่งในการนำเสนอข้อเท็จจริงสอบถามไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนที่นายกฯ จะตอบว่า สิ่งที่ฝ่ายพูดไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ต้องบอกกับสภาเอง และหลายเรื่องที่เราอภิปรายสามารถนำไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แต่ครั้งนี้เป็นการอิปรายทั่วไปรัฐมนตรีก็ต้องไปดูว่าเป็นจริงตามที่เราพูดหรือไม่

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าบางประเด็นสามารถอภิปรายไม่ไว้ใจได้นั้น จะมีการนำไปยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ประเด็นที่นำมาพูดและมีหลักฐานชัด สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ เป็นแนวทางที่เราหารือไว้แล้ว ซึ่งมีหลายเรื่อง เช่นเรื่อง น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยอภิปรายถึง การฮั้วการประกอบธุรกิจโดยมิชอบมีการเอื้อประโยชน์ แม้รัฐมนตรีไม่เกี่ยวเนื่องโดยตรงแต่มีเรื่องจริยธรรมอยู่

‘เพื่อไทย’ เดินหน้าอัดบิ๊กตู่ ปม ‘ตู้ห่าว-หลานชาย’ แถมประเด็นอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ‘เก็บส่วย’

(16 ก.พ. 66) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้แจ้งกรอบเวลาในการอภิปรายวันแรกว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้ไป 12 ชั่วโมง 58 วินาที พรรคร่วมรัฐบาลใช้เวลาไป 19 นาที 40 วินาที คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมง 3 นาที 33 วินาที รวมเวลาที่ใช้ไปทั้งหมด 14 ชั่วโมง 24 นาที 11 วินาที โดยในวันนี้เหลือเวลาอีก 15 ชั่วโมง พรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้เวลาอภิปราย 12 ชั่วโมง ครม.และพรรคร่วมรัฐบาลจะใช้เวลาชี้แจงและอภิปราย 3 ชั่วโมง

จากนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ประกอบด้วย น.ส.มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย และนายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น ได้ฉายภาพรวมการแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศไทย ส่งผลต่อสังคมเกิดเหตุในครอบครัวรายวันมีทั้งลูกฆ่าพ่อ ลูกฆ่าแม่ นำไปสู่การสูญเสีย ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ไม่ได้ปราบปรามและดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ต่อมานายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรค พท. ได้เปิดคลิปหนึ่งที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย โดยมีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือหาวเจ๋อ ตู้ กำลังสนทนากับคนกลุ่มหนึ่งโดยระบุว่า เมืองไทยถ้ามีเงินทำได้ทุกอย่าง มีเงินเท่านั้น อัยการก็สั่งไม่ฟ้อง

จากนั้นนายวิสาร กล่าวว่า ที่นายตู้ห่าวพูดจายิ่งใหญ่ได้ถึงเพียงนี้ เพราะทำค้าขายและประกอบธุรกิจกับบริษัทหลานชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ที่ธุรกิจของนายตู้ห่าวเติบโตก่อร่างสร้างตัวได้นั้นด้วยเพราะอาศัยอำนาจ และความใกล้ชิดจากหลานของ พล.อ.ประยุทธ์ใช่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิสารยังได้กล่าวถึงบริษัทหลาน พล.อ.ประยุทธ์ว่าได้จดทะเบียนวัตถุประสงค์ของบริษัทว่าเป็นเพียงรับเหมาก่อสร้าง แต่ปรากฏภายหลังว่าได้ทำธุรกิจเช่ารถทัวร์ 50 คัน ที่เกี่ยวโยงกับนายตู้ห่าวด้วย ซึ่งพบความผิดปกติ เช่น ทุนจดทะเบียนตั้งบริษัทเพียง 3 ล้านบาท แต่ไปเช่ารถทัวร์มีวงเงินถึง 175 ล้านบาท อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยังมาบอกภายหลังว่าหารถซึ่งเป็นหลักฐานไม่เจอ ยอมรับตามตรงว่ารู้สึกเป็นห่วงและกังวลว่าคดีนี้จะจบลงอย่างไร และอยากถามว่าแบบนี้ใครฟอกเงินกันแน่ จีนเทามาให้เราฟอกหรือหลานท่านไปฟอกให้

‘อิ๊งค์’ ตอก ส.ว. ตั้งธงไม่เลือกนายกฯ จาก พท. ย้อน!! เหตุผลสุดเชย นี่แหละถึงต้องปิดสวิตช์

‘อิ๊งค์’ แขวะ ส.ว.เชยบอกถึงวุฒิภาวะ ไล่ดูอายุผู้นำทั่วโลก แต่ต้องขอบคุณช่วย เพื่อไทยหาเสียงปิดสวิตช์ ส.ว. ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ ถ้า ปชช.เลือก ฟาก ‘เต้น’ สับ ‘ประยุทธ์’ มะนาวไม่มีน้ำ สาวหาวไม่มีเว้น เลิกบิดเบือน ปม ‘ตู้ห่าว’ แซะหลักฐานคาบัญชี คาที่ดิน

(17 ก.พ. 66) ที่วัดม่วงเดียด หลวงพ่อลี อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการปักธงภาคอีสานว่า พรรคเราเคยรับใช้ประชาชนมาแล้ว และแสดงให้ประชาชนเห็นนานแล้วว่าเราทำได้จริง เราเคยมีรัฐบาลที่เคยรับใช้ประชาชนจริง ๆ เรามีพลังของคนรุ่นใหม่จริง ๆ ที่จะสามารถผลักดันนโยบายเหล่านั้นให้เป็นจริงได้ ฉะนั้น ตนมั่นใจว่าประชาชนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของเขาเช่นกัน 

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้ ส.ส.อุบลราชธานียกจังหวัด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มั่นใจมาก ๆ ผู้สมัครของเราพร้อมแล้ว และวันนี้เราคิดว่าคนจะมาประมาณ 1 หมื่นคน แต่สรุปนับกันไปนับกันมาจะ 3 หมื่นคน ซึ่งตนเห็นรูปก่อนที่เข้ามาถึง ต้องขอบคุณพี่น้องชาวอุบลมาก ๆ ที่ให้การต้อนรับดี ถือเป็นกำลังใจให้พรรค พท.ที่จะไปอีกหลายจังหวัดใน 3 วันนี้ นี่เป็นแค่เวทีแรก เรายังเหลืออีก 8 เวที 

น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.ตั้งธงว่าแม้ พท.จะชนะแลนด์สไลด์ก็จะไม่เลือกนายกฯ จากพรรค พท.ว่า ต้องขอบคุณที่ช่วยพรรค พท.หาเสียง เพื่อทำให้ประชาชนประจักษ์ว่าที่เขาสงสัยกันอยู่ ว่าทำไมเราถึงพูดว่าปิดสวิตช์ ส.ว.มันจำเป็นแค่ไหน ขอฝากขอบคุณไปเลย เราหาเสียงเหนื่อยแบบนี้ มี ส.ว.ช่วยหาเสียง ขอขอบคุณมาก ๆ ส่วนกรณีที่มองว่าตนเองอ่อนประสบการณ์นั้น ตอนที่ตนอยู่ในด้านธุรกิจได้ไปหลายที่ ซึ่งคนอายุน้อยกว่าตนเองเป็นเจ้าของธุรกิจและเก่งมากๆ แม้ตนไม่ได้เก่งที่สุดแต่มีทีมที่เก่งที่สุด ดังนั้นการคอมเมนต์เรื่องอายุ เป็นคอมเมนต์ที่เชยแล้ว ถ้าเรายังพูดแบบนี้เป็นความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ หันไปดูทั่วโลกว่าเกิดอะไรบ้าง ผู้นำแต่ละที่อายุเท่าไรกันบ้าง ไม่ใช่แค่ผู้นำทางการเมืองแต่ผู้นำบริษัททั้งในและต่างประเทศก็มีเด็กเก่ง ๆ อยู่มาก 

“อย่าคอมเมนต์แบบนี้อีกเลย มันเป็นคอมเมนต์ที่ไม่สร้างสรรค์และแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ” น.ส.แพทองธาร กล่าว

เมื่อถามว่าถ้าประชาชนสนับสนุนพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ถ้าประชาชนเลือก ก็แน่นอน ต้องสู้เต็มที่อยู่แล้ว เพราะอิ๊งค์มีทีมและนโยบายพรรค พท.ที่ทำกันอย่างเข้มข้น อันนี้มันต้องเคารพเสียงของประชาชนอยู่แล้ว”

เมื่อถามย้ำอีกว่าหมายความว่าคือพร้อมเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนรู้สึกเขิน พอพูดแบบนี้ก็รู้สึกว่า เรายังไม่มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ 

เมื่อถามว่าความคิดเห็นของ ส.ว.ออกมาแบบนี้ ยิ่งต้องตอกย้ำให้ ส.ว.เห็นว่าเราพร้อมเป็นนายกฯ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนี้คือสิ่งที่ทำให้ตนมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แต่ตนไม่ขอท้าทายกับดราม่าทางการเมืองแบบนี้ ตนขอท้าท้ายด้วยเสียงและสิทธิของประชาชน ไม่จำเป็นต้องเลือกอิ๊งค์เป็นนายกฯ อิ๊งค์จะเป็นแคนดิเดตหรือเปล่า ตอนนี้ชื่อยังไม่ออกเต็มที่ แต่เคารพเสียงของประชาชนด้วย ที่คุณบอกว่าคุณเคารพเสียงประชาชน คุณเคารพเสียงของเขาหรือเปล่า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top