‘เต้น’ เผย ‘อุ๊งอิ๊ง’ เตรียมนำทัพบุกอุดรฯ พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยครั้งใหญ่ 15 ม.ค.นี้

(12 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.45 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมจัดกิจกรรม ‘ครอบครัวเพื่อไทย : อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น’ ที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 15 ม.ค.นี้ โดยในช่วงเช้าทีมครอบครัวเพื่อไทย จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ที่ อ.บ้านดุงและ อ.เพ็ญ เพื่อนำเสนอนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศเอาไว้ รวมทั้งรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน 

และในเวลา 16.30 น. เป็นต้นไป จะมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมือง นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ, น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และจะเป็นครั้งแรกที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทยขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้งในบรรยากาศของการเตรียมการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทย ที่จะนำเสนอนโยบายและเป้าหมายไปสู่การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าในปี 2566 นี้จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง เป็นปีแห่งการทวงคืนอนาคตจากรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการที่ไร้ความสามารถ และอยู่ในอำนาจมา 8 ปี แม้หลายฝ่ายจะมองว่า จ.อุดรธานี เป็นเมืองหลวงทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสาน เพราะชนะเลือกตั้งยกจังหวัดหลายสมัย แต่พรรคเพื่อไทยไม่รู้สึกว่าพื้นที่ใดหรือจังหวัดใดสำคัญมากหรือน้อยกว่า ทุกจังหวัดมีความสำคัญสำหรับการทำงานทางการเมืองของพรรคเท่าเทียมกัน หลังการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยที่ จ.อุดรธานีแล้ว จะมีการจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ ภาคกลาง อีสานใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จนกว่าจะมีการยุบสภา 

เมื่อมีการยุบสภาแล้ว พรรคเพื่อไทยจะจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อประกาศคิกออฟนโยบายชุดใหญ่ เป็นนโยบายในโค้งสุดท้ายเพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยคือการมุ่งเป้าที่การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเอาชนะกติกาที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ วางเอาไว้ให้ได้ ส่วนตัวคาดว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้ เป็นการคาดคะเนจากตัวตนของพล.อ.ประยุทธ์ที่ยึดติดกับอำนาจ จะกอดอำนาจไว้ให้นานที่สุดจนวินาทีสุดท้าย แม้พล.อ.ประยุทธ์จะประกาศยุบสภาในช่วงเวลาดังกล่าว คงไม่ใช่การปล่อยวาง แต่เป็นการเปิดทางให้ ส.ส.ที่ย้ายพรรค เข้าร่วมอำนาจได้ ซึ่งตนและพรรคเพื่อไทยได้มองข้ามวาระการยุบสภาหรือครบวาระอายุสภาไปแล้ว แต่จะมุ่งเป้าไปที่การทำงานหนักในสนามเลือกตั้ง นำเสนอนโยบายไปสู่พี่น้องประชาชน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด