Wednesday, 26 June 2024
เพื่อไทย

‘ปลอดประสพ’ ปลุกรัฐเตรียมพร้อมรับมือ 'ไต้ฝุ่นโนรู' แจง 9 ข้อรัฐควรรู้ พร้อมแนะ 5 แนวทางที่ต้องเตรียมการ

‘ปลอดประสพ’ ปลุกรัฐบาลตื่นรับมือพายุโนรูเข้าไทย เหตุฝนจะตกหนักเพิ่มน้ำนับแสนลูกบาศก์เมตร เขื่อนใหญ่ไม่พอรับน้ำ กระทบคนไทยครึ่งประเทศ แนะตั้งวอร์รูมต้องทำจริงจัง ประกาศหยุดราชการ เตรียมทหาร ตำรวจ ประจำการช่วยประชาชน

ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติคนแรกของประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลต้องเตรียมการรับมือกับพายุโนรูที่จะสร้างความรุนแรงและความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยข้อมูลที่รัฐบาลควรรู้ ได้แก่

1.) พายุโนรูจะเป็นพายุโซนร้อนที่ใหญ่ที่สุดลูกหนึ่ง นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยเคยประสบมา 

2.) ขนาดของพายุลูกนี้ ครอบคลุมเนื้อที่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมพื้นที่ทั้งหมดครึ่งหนึ่งของประเทศ หรือมากกว่า 250,000 ตารางกิโลเมตร

3.) ด้วยขนาดของพายุที่ครอบคลุมเนื้อที่ขนาดใหญ่ จะกระทบกับพี่น้องประชาชน 30-35 ล้านคน 

4.) พายุโนรูจะอยู่ในประเทศไทย 3-5 วัน โดยจะทำให้ฝนตกหนัก 100-300 มิลลิเมตรหรือมากกว่าในบางพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณฝนที่สูงมาก

5.) ปริมาณฝนดังกล่าวจะเพิ่มน้ำท่า 100,000 ลูกบาศก์เมตร หรือเท่ากับปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล 10 เขื่อน 

6.) แม้เขื่อนขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ จะมีความสามารถรับน้ำได้อีก 10,000 ลูกบาศก์เมตร และระบบน้ำในภาคเหนือ รับน้ำได้อีก 10,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้พื้นที่ภาคกลางอิ่มตัวแล้ว ไม่มีความสามารถซึมน้ำได้อีก ดังนั้นปริมาณน้ำฝน 100,000 มิลลิเมตร จะมีน้ำเหลือไหลลงสู่ภาคกลาง 70,000-80,000 ลูกบาศก์เมตร และบางพื้นที่น้ำจะไหลบ่าลงมาในลักษณะหน้ากระดาน 

7.) พายุลูกนี้ เป็นพายุลูกที่ 16 แต่เป็นพายุที่ให้น้ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อผสมความชื้นในทะเลจีนตอนใต้ และมีร่องมรสุมในพาดผ่านตรงกลาง มีหน้าที่เป็นกับดักความชื้นที่ถูกป้อนจากมหาสมุทร รัฐบาลจึงต้องเร่งเตรียมการ 

8.) ปริมาณน้ำจากพายุโนรู จะไหลลงสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงเวลาเดียวกันกับน้ำทะเลขึ้นสูง ซึ่งยากต่อการระบายเป็นอย่างมาก

9.) เชื่อว่าจะมีพายุเข้ามาอีก 1-3 ลูก แต่ความรุนแรงน้อยกว่า

ทั้งนี้จากการคาดการณ์ดังกล่าว รัฐบาลต้องเตรียมการ 5 ข้อ ได้แก่

1.) ต้องเตรียมการเผชิญเหตุภายในอีก 24 ชั่วโมง โดยต้องทุ่มเทสรรพกำลังในการเผชิญเหตุใน 5 ข้อ
1.1. ตั้งหน่วยเผชิญเหตุประจำตำบล 
1.2. เรียกทหารประจำการกระจายไปในตำบล เพื่อช่วยเหลือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการเผชิญเหตุ
1.3. จัดเตรียมเครื่องมือในการเผชิญเหตุให้พร้อม เช่น เรือบด เชือก ฯลฯ
1.4. พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น พื้นที่ราบ ควรใช้ทหาร ส่วนพื้นที่บนเขา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานและกรมป่าไม้ ประจำการในพื้นที่ใกล้หมู่บ้าน ประชาชน
1.5. ตำรวจ ให้อยู่ในเมืองอย่างเดียว 

2.) เมื่อผ่านระยะ 3 วันไปแล้วจะเป็นระยะค้นหา ช่วยเหลือ 
2.1. เตรียมการอุปกรณ์ช่วยเหลือให้พร้อม เช่น เรือ เฮลิคอร์ปเตอร์ อุปกรณ์ให้กับกลุ่มงานทั้ง 3 กลุ่มข้างต้น 

3.) ระยะการฟื้นฟู ต้องทำ 6 เรื่อง
3.1. นำบุคลากรในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาช่วย
3.2. นำบุคลากรด้านสาธารณสุขเข้ามาช่วยเหลือ รักษาโรคที่เกิดจากน้ำนิ่ง
3.3. ส่งของใช้อุปโภคบริโภคให้ประชาชน
3.4. ใช้โรงเรียนและวัดให้เป็นประโยชน์
3.5. นำทหารจากหน่วยช่าง เพื่อซ่อมแซมสาธารณประโยชน์
3.6. ให้กรมทางหลวงชนบทและกรมชลประทานซ่อมแซมสาธารณูปโภค

'ธนกร' ป้อง 'บิ๊กตู่' ปมจัดการงบ 2,000 ล้านบาท อัด!! ฝ่ายค้านไม่ฟังตอนชี้แจง แต่มาโวยวายทีหลัง

'ธนกร' ป้อง'บิ๊กตู่' ยันบริหารงบกลางโปร่งใส อัดฝ่ายค้าน ตอนเขาชี้แจงไม่เคยฟัง พอไม่รู้เรื่องก็โวยวายหาว่าปล่อยปละละเลย แนะเปิดใจรับฟังคนอื่นสักนิด แล้วมุมมองในโลกของความเป็นจริงจะได้กว้างขึ้น

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีอนุมัติงบกลางและเงินสำรองจ่ายฉุกเฉินผิดวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์ รวมทั้งปล่อยปละละเลยไม่ติดตามดำเนินการอายัดเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท กรณีการจัดซื้อถุงมือยางของ อคส.ว่า เป็นแค่การยื่นแก้เกี้ยวไม่ให้เสียหน้า เพื่อแสดงให้เห็นว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ฝ่ายค้านมีหลักฐานมากมาย ทั้งๆ ที่ผลลัพธ์ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า มีแต่ข้อมูลเก่า และเมื่อรัฐบาลชี้แจงก็ยังไม่ยอมรับฟัง จนท้ายที่สุดที่ประชุมสภาฯ จึงโหวตไว้วางใจท่านนายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทุกคน ดังนั้น เชื่อว่าเมื่อ ป.ป.ช.ได้รับฟังคำชี้แจงและได้เห็นเอกสารที่ถูกต้องทั้งหมดแล้ว จะให้ความยุติธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาทุกคนอย่างแน่นอน ยืนยันว่าทุกนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ การอนุมัติงบกลางทุกอย่างโปร่งใส

“การกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยติดตามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องถุงมือยาง 2,000 ล้านบาท ที่สามารถติดตามเส้นทางการเงินได้ แต่กลับไม่ได้สั่งการใด ๆ เพื่อระงับยับยั้งจนเกิดความเสียหายนั้น ฝ่ายค้านควรตื่นจากความฝันได้แล้ว เรื่องนี้ท่านนายกฯ และรมว.พาณิชย์ได้ชี้แจงไปหมดแล้วอย่างชัดเจนต่อที่ประชุมสภาฯ ว่ามีการดำเนินการติดตามเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไรบ้าง แต่เพราะฝ่ายค้านไม่เคยฟังในสิ่งที่คนอื่นพูดนอกจากพวกตัวเอง จึงออกมาพูดด้วยชุดข้อมูลที่ผิด ๆ ว่ารัฐบาลปล่อยปละละเลย ไม่อยากให้ฝ่ายค้านทำตัวเหมือนเด็กนักเรียนที่เข้าห้องเรียนไปวัน ๆ แต่ไม่เคยฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน แล้วก็ไปพูดต่อจนข้อมูลผิดเพี้ยน หัดเปิดใจรับฟังคนอื่นสักนิด แล้วมุมมองในโลกของความเป็นจริงจะได้กว้างขึ้น” นายธนกร กล่าว

'อนุสรณ์' ชี้ กฎเหล็กกกต. ห้ามสร้างความเหลื่อมล้ำ ต้องบังคับใช้อย่าง 'เท่าเทียม - เที่ยงธรรม'

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ประชาชนจับตามองกฎเหล็กของ กกต. จะบังคับใช้อย่างเสมอภาค และเป็นธรรมกับพรรคการเมืองและนักการเมืองทุกพรรคหรือไม่ ว่า หลังกฎเหล็กกกต.มีผลบังคับใช้ ก็ถูกทดสอบทันที โดยเฉพาะการลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประเด็นตั้งแต่การทำป้ายต้อนรับพล.อ.ประวิตร โดยป้ายดังกล่าวยังเกินขนาด และมีภาพว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 6 เขตของพรรคพลังประชารัฐ ประชาชนตั้งคำถามว่าเจตนาให้เป็นการหาเสียงแฝงหรือไม่ การแจกสิ่งของ การโปรยทาน หรือการสัญญาว่าจะให้ ล้วนแต่เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง เข้าข่ายทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ถ้าสิ่งเหล่านี้ฝ่ายรัฐบาลทำได้ทั้งหมด แล้วฝ่ายค้านไม่สามารถทำได้เลย จะเกิดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมได้อย่างไร

“อย่าลืมว่า แม้วันนี้ฝ่ายรัฐบาลจะสวมหมวกรัฐมนตรีลงพื้นที่ แต่หมวกอีกใบที่ใส่ซ้อนทับลงไปคือการเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส. กฎเหล็ก กกต.ต้องไม่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำเพิ่ม หรือไม่สร้างปัญหา จนทำให้การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ไม่สามารถเกิดขึ้นได้” นายอนุสรณ์ กล่าว

'สมคิด' ชี้!! ผลเลือกตั้งท้องถิ่นสะท้อนความรู้สึกปชช. มั่นใจ!! 'เพื่อไทยแลนด์สไลด์' เหตุปชช. เบื่อรัฐบาล

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงาน พรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน เปิดเผยถึงผลการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดที่ผ่านมา พบว่าประชาชนตอบรับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยเกินกว่าที่คาดหมายไว้ สะท้อนว่าประชาชนส่งสัญญาณถึงรัฐบาล ว่าต้องการการเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมาทั้ง 3 แห่ง คือ กรุงเทพมหานครหรือ ส.ก. ที่พรรคเพื่อไทยคว้าชัยชนะได้มากกว่า 20 เขตในกรุงเทพ ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และล่าสุดเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ทั้ง 3 แห่ง ประชาชนออกมาลงคะแนนเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ตอกย้ำว่าประชาชนเบื่อรัฐบาลนี้เต็มทีแล้ว

'สุทิน' แนะ 'ประยุทธ์' ควรเสียสละได้แล้ว หากได้อยู่ต่อ เกิด 'วิกฤตการเมือง' แน่นอน

เมื่อวันที่ (30 ก.ย. 65) เวลา 10.20 น. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการนัดหมายของฝ่ายค้านเพื่อรอลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปมนายกรัฐมนตรี 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า เราไม่ได้มีการนัดหมายอะไรกันเป็นพิเศษ แต่ใครมาสะดวกก็มาพบกันในเวลา 14.00 น. วันนี้ ที่ห้องผู้นำฝ่ายค้าน และหลังคำวินิจฉัยออกมาแล้วก็จะมีการหารือกันเพื่อกำหนดท่าทีกันว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป โดยฝ่ายค้านจะฟังคำอธิบายของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ไม่ว่าจะออกมาแนวทางใด ก็เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะอธิบายเพื่อให้สิ้นกระแสความ หากอธิบายได้ดีมีเหตุผล เราก็คงไม่มีอะไร แต่ถ้ายังมีข้อที่ยังคาใจสังคม เราก็จะพิจารณาดูว่าในเชิงวิชาการเราจะแสดงอะไรให้เป็นบรรทัดฐานในอนาคตเพื่อให้มีการพูดถึงและแสดงความคิดเห็นบ้าง ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นจะอยู่ในกรอบที่เรายอมรับและไม่ละเมิดต่อศาล

“ความจริงเรื่องนี้ไม่ใช่ธุระที่ส.ส.จะต้องมาเขียนคำร้องแล้วยื่นศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ใช่ธุระที่ประชาชนจะต้องมาตึงเครียดจนถึงระดับว่าต้องมาพูดเรื่องรัฐประหาร หรืออาจจะไม่มีเลือกตั้ง ความจริงเรื่องนี้ผมเตือนมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์คนเดียวเท่านั้นที่จะเสียสละ ถ้าตัดสินใจตั้งแต่ก่อนวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา บ้านเมืองก็จะไม่ต้องเดินมาถึงจุดนี้ และยิ่งเกิดอะไรขึ้นจากวิกฤตครั้งนี้คนที่จะต้องรับผิดชอบคือพล.อ.ประยุทธ์ที่นำประเทศมาถึงจุดนี้โดยไม่จำเป็น ไม่ควรทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก เสียสละคนเดียวจบ นับเลข 1 ถึง 8 คนเดียวจบ นี่คือกรรมของคนไทยที่ผู้นำประเทศเหนียวเก้าอี้มากเกินไป จึงทำให้ประเทศชาติไปสู่ปัญหา ถ้าลดการติดยึดบ้าง ผมว่าบ้านเมืองไม่วิกฤต และไม่ควรมีวันนี้” นายสุทิน กล่าว

'ส.ส.เพื่อไทย' ผนึกกำลังรุดพื้นที่อุบลราชธานี เร่ง 'ช่วยเหลือ-ดูแล' ประชาชนในพื้นที่

ภายหลังจากอิทธิพลของ 'พายุโนรู' ถล่มจังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้หลายชุมชนถูกน้ำท่วมสูงนั้น ล่าสุด 'สมคิด เชื้อคง’ ส.ส.อุบลราชธานี ได้ลงพื้นที่ อำเภอเดชอุดม อำเภอน้ำยืน และอำเภอสำโรง สำรวจความเสียหายจากพายุโนรู พบนาข้าวจมน้ำนับพันไร่ บ้านเรือนพี่น้องประชาชนหลายสิบหลังคาเรือนจมน้ำ ทางนายอำเภอสุทิน นายกฯ อบต. ท่านณัฐพล และกำนัน ร่วมกันหารือพร้อมช่วยเหลือพี่น้องเต็มกำลัง พร้อมให้กำลังใจให้พี่น้องทุกคนปลอดภัย

ขณะที่ด้าน 'กิตติ์ธัญญา วาจาดี’ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ก็ได้เข้าสังเกตการณ์เฝ้าระวังระดับน้ำที่อำเภอวารินชำราบ ร่วมกับฝ่ายปกครอง และมูลนิธิกู้ภัยสว่างบูชาธรรมอย่างใกล้ชิด พร้อมแสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมใจดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0yDAT6hGFCGXoSaRjmrV2YfTJCwDMWbsxQcuSLqeSH6UhBcYj8dQmkrGoSzbmqYuJl&id=100044569743646

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02McKxNsEJv8c9i24osfCXGa17Vjk9utJiS7kVnQVLYUZM3Mea4TgimHLSDgPZQHC1l&id=100044569743646

'ตรีชฎา' แนะ 'โฆษกภท.' วางกัญชาในหัวใจลงก่อน หยุดโหนคำเตือนจาก 'โทนี่' และฟังเสียงรอบข้างบ้าง

เมื่อวานนี้ (29 ก.ย. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงประเด็นที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แสดงความกังวลในคลับเฮาส์หลังปรากฏภาพนักเรียนสูบกัญชาในโรงเรียน แต่กลับถูกนายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทยออกมาตอบโต้ต่อว่ารัฐบาลมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขแล้วว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมานั้นมีไว้ตามโครงสร้างเท่านั้น ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริงในทางปฏิบัติในภาพรวม ทั้งในแง่ของการควบคุมการใช้และบทลงโทษ หากระเบียบที่มีอยู่บังคับใช้ได้ผลจริง เหตุใดจึงยังมีข่าวเด็กและเยาวชนเสพกัญชาในสถานศึกษา มีเหตุการเสพยาเสพติดอื่น ๆ จนทำร้ายร่างกาย เกิดเหตุอาชญากรรมเสียชีวิตมากมายเต็มเมืองแบบนี้ อยากให้นายภราดรวางกัญชาในหัวใจลงก่อน แล้วตั้งใจฟังสิ่งที่นายทักษิณสะท้อนมาจะเป็นประโยชน์อย่างมาก อย่าลืมว่ายุคที่นายทักษิณเป็นนายกฯ เป็นยุคที่มีนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด ไม่มียาเสพติดราคาถูก ไม่มีลูกหลานเข้าถึงและติดยาเสพติดมากเหมือนทุกวันนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรรับฟังโดยควรมีกฎหมายออกมาเพื่อควบคุมและมีบทลงโทษ ไม่ใช่ปล่อยเสรีแล้วมาตามควบคุมภายหลัง เพราะจะควบคุมไม่อยู่ ดังสุภาษิตคำพังเพยไทยว่ากว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ และจะไหม้เหมือนไฟไหม้ฟาง   

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า การที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชาเสนอเข้าสภาวาระ 2 ถูกทักท้วง พรรคร่วมรัฐบาลเดียวกันยังไม่เอาด้วยจนถูกดึงออกไปก่อน นายภราดรควรไปจัดการไล่เบี้ยเคลียร์กันให้รู้เรื่องในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ควรแสดงตัวโหนกระแสหาซีนจากคำเตือนของนายทักษิณแบบนี้ อยากให้นายภราดรกลับไปฟังคลิปที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พูดเองว่าพี้ในบ้านได้ แม้จะออกมาบอกภายหลังว่าไม่สนับสนุนการนันทนาการคงไม่ทันการแล้ว และการที่มีคลิปนักเรียนหญิงชายเสพกัญชาในโรงเรียน โดยโยนความผิดชอบไปที่ผอ.โรงเรียนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพียงเท่านี้ก็กระจ่างถึงวุฒิภาวะการเป็นผู้นำแล้ว ว่าการเป็นผู้บริหารที่ดีควรรู้จักการยอมรับผิดเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เมื่อผิดต้องหาทางแก้ไขและรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน

'ส.ส.เพื่อไทย' จี้ รบ.-ส่วนกลาง ช่วยปชช. ด่วน!! โอดกฎเหล็ก กกต. ทำให้ช่วยชาวบ้านได้ยากขึ้น

เมื่อวันที่ (30 กันยายน 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ได้ทำคลิปรวบรวมปัญหาของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนรู และสถานการณ์น้ำท่วมในแต่ละพื้นที่เพื่อจี้ให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาในจังหวัดอุบลราชธานีโดยด่วน เนื่องจาก ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ถูกกฎเหล็กของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ห้ามไม่ให้ลงไปดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในสถานการณ์ดังกล่าว 

โดยนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุลราชาธานี เขต 7 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ที่ตำบลท่าเมือง น้ำเข้าท่วมพื้นที่หมดแล้ว และน้ำกำลังเพิ่มระดับมาท่วมถึงพื้นที่ถนนแล้ว โดยนายอำเภอท่าเมืองระบุว่า พี่น้องเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจำนวนกว่า 1,000 ครัวเรือน ต้องขนย้ายวัว และสัตว์ไปไว้ที่สูง พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมไป 3,500 กว่าไร่แล้ว ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเกี่ยวกับอาหารสัตว์ที่ขาดแคลนเนื่องจากพื้นที่นาน้ำท่วม ไม่สามารถหาอาหารสัตว์ได้ จึงขอให้กรมปศุสัตว์เร่งเข้ามาดำเนินการให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้ 

ขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมก็ขอให้รัฐบาลเร่งเข้ามาดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเรื่องถุงยังชีพก่อน อยากถามรัฐบาลว่า สถานการณ์น้ำท่วมในวันนี้ ได้มีการเตือนกันก่อนล่วงหน้าว่าน้ำจะท่วม ทุกหน่วยงานต้องออกมาดูแล ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน วันนี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลทำอะไรอยู่ ขณะเดียวกัน ท่านยังให้ กกต. ประกาศว่าห้ามผู้แทนราษฎรลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลสามารถดำเนินการแจกของช่วยชาวบ้านได้ แต่ฝ่ายค้านทำอะไรไม่ได้เลย เหมือนกับมัดมือชก ดังนั้น อยากให้รัฐบาลพิจารณากติกาที่ กกต. กำหนด โดยยึดโยงกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพราะอุทกภัยไม่ได้เกิดทุกปี หรือไม่รัฐบาลต้องเร่งออกมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพราะพวกท่านห้ามผู้แทนทำอะไรเลย 

ด้าน นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้อัดคลิปพาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในศูนย์อพยพซึ่งมีกว่า 142 ครัวเรือน มาจากชุมชนวัดบูรพา ชุมชนสาธารณะ 11 ไร่ ชุมชนบ่อบำบัดน้ำเสีย ชุมนุมวัดโรมัน ชุมชุนพนม 1 พนม 2 และบุ่งกระกาแซว โดยนายวรสิทธิ์ ระบุว่า ตั้งแต่พายุโนรูเข้ามา น้ำขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ขึ้นมาถึง 90 เซ็นติเมตรแล้ว ประชาชนจังหวัดอุบลราชธานีเดือดร้อนมาก แต่รัฐบาลไม่มีความจริงใจในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ปล่อยภาระทุกอย่างให้เป็นของท้องถิ่น วันนี้ท้องถิ่นต้องเป็นผู้ดูแลพี่น้องประชาชนเอง ในขณะที่น้ำท่วมเป็นวงกว้าง อย่างเขตเทศบาลนครอุบลฯ แม้พื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ใกล้ริมน้ำก็ท่วม วันนี้เทศบาลนครอุบลฯ ยังมีงบประมาณในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอยู่ แต่ท้องถิ่นใกล้เคียงไม่มีงบประมาณที่จะดูแลให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เลย อยากขอให้รัฐบาลจริงใจในการแก้ปัญหา ไม่ใช่เอารัฐมนตรี หรือตัวแทนของรัฐบาลเข้ามาดูชั่วคราว แต่ไม่มีมาตรการอะไรช่วยเหลือประชาชนเลย 

วันนี้ท้องถิ่นต้องรับปัญหาทุกอย่าง รัฐบาลต้องเร่งเยียวยาประชาชนทุกครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงคนที่ไม่สามารถออกไปทำงานได้ด้วย วันนี้ผู้แทนฯ ติดข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตนในฐานะผู้แทนฯ ที่ไม่เคยปล่อยให้พี่น้องประชาชนทุกข์ยาก เราช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกครั้งที่มีเหตุลักษณะนี้ แต่วันนี้กลับมีกฎหมายไม่ให้ตนช่วยประชาชนเลย ตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน โดยการตั้งศูนย์ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ช่วยคือต้องช่วยจริง ๆ ไม่ใช่แค่ส่งตัวแทนของรัฐบาลลงมาดูเฉย ๆ และหลังจากน้ำท่วมแล้วอยากให้รัฐบาลจัดงบประมาณลงมาเยียวยาประชาชนเป็นการด่วน วันนี้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย เครื่องใช้ไฟฟ้า รถ เสียหาย ขณะที่ประชาชนหาเช้ากินค่ำก็ไม่สามารถออกไปทำงานได้อีก นอกจากนี้ ขอให้รัฐบาลจัดทำแผนฟื้นฟูสาธารณูปโภค และการคมนาคมหลังน้ำลดเป็นการด่วนด้วย

ด้าน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี เขต 10 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ไปลงพื้นที่พบชาวบ้านที่มีความเดือดร้อน เราอยากจะช่วยเขาบ้างตามกำลัง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ในขณะที่ชาวบ้านก็ไม่เข้าใจ หาว่าเราไม่ดูแล การไปพบชาวบ้านทุกครั้งเราจึงต้องอธิบายให้ฟัง แต่ชาวบ้านก็รู้สึกว่า เป็น ส.ส.ยังไง ไม่ช่วยเหลือประชาชน นี่คือความลำบากของคนเป็นผู้แทน ยุคกฎเหล็ก 180 วัน ของกฎหมายเลือกตั้ง ที่เมื่อมีเหตุอุทกภัย ภัยพิบัติ ส.ส.พื้นที่ได้แต่มองตากันปริบ ๆ เพราะกฎหมายกำหนดเหมือนมัดมือ ส.ส.ไว้ แต่ฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลทำได้ นี่คือความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ เปิดสภาฯ ตนจะปรึกษาทางพรรคเพื่อไทย และทุกพรรคการเมือง ขอเสนอแก้กฎหมายมาตรานี้ทันที 

นายเอกชัย ทรงอํานาจเจริญ ส.ส.อุบลราชธานี เขต 4 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปกติเมื่อเกิดน้ำท่วมในพื้นที่จะช่วยเหลือกัน แต่ปีนี้การช่วยเหลือลำบากมาก เพราะเป็นปีที่จะมีการเลือกตั้ง ทำให้ติดปัญหาเรืองการประสานงานให้ความช่วยเหลือ สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการคือ นำการช่วยเหลือจากส่วนกลางลงมาโดยเร็ว เพราะพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบจะส่งผลถึงปัญหารายได้ของประชาชนด้วย และหากน้ำท่วมอยู่นานประชาชนจะประสบปัญหาเรื่องอาหารการกินในศูนย์ผู้ประสบภัย รัฐบาลต้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือประชาชนในส่วนนี้ เพราะผู้แทนราษฎรติดปัญหาจากข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนในข้อนี้ได้

'ชลน่าน' เชื่อ เพื่อไทยแลนด์สไลด์แน่ หลังศาลวินิจฉัยให้ 'ประยุทธ์' อยู่ต่อ

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญปี 2560 จะเป็นผลดีกับการรณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่า ดีมาก เป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยมากๆ เพราะสิ่งที่เราได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเรื่องการแลนด์สไลด์ที่เพิ่มขึ้นตลอด ผลหลักเรื่องหนึ่งคือวิกฤตที่พล.อ.ประยุทธ์สร้างขึ้น เป็นผลจากการบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ และองคาพยพของพล.อ.ประยุทธ์ที่ทำให้ประชาชนเจอวิกฤตในหลายด้าน ฉะนั้นการอยู่ต่อของพล.อ.ประยุทธ์ทำให้เงื่อนไขนี้ดำรงคงอยู่ ซึ่งก็เป็นประโยชน์กับพรรคเพื่อไทยในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง

'อนุสรณ์' ชี้ ปชช.วินิจฉัย 'ประยุทธ์' ไม่ควรได้กลับมา เชื่อ!! วันนี้ศาลให้รอด แต่จะจอดในคูหาเลือกตั้งปี 66 

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 วินิจฉัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อ ความเป็นนายกฯ ไม่สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ว่า การวินิจฉัยที่เกิดขึ้นเป็นการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน 6 คนบอกว่าได้ไปต่อ 3 คนบอกว่าต้องพอแค่นี้ แต่การทำหน้าที่ของประชาชนไทย 66 ล้านคนยังไม่จบ ความจริงประชาชนได้วินิจฉัยมาตั้งแต่ต้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรได้กลับมา แต่เมื่อได้กลับมาก็กังขาสงสัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาทำไม หรือพล.อ.ประยุทธ์ อยู่มา 8 ปียังเสียหายไม่พอ บอกว่าจะคืนความสุข แต่ประชาชนได้รับแต่ความทุกข์เพิ่มหรือไม่ ทำประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม อะไรที่สัญญากับประชาชนไว้ไม่สามารถทำได้ 

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า 8 ปีใช้งบประมาณแผ่นดินไป 28.5 ล้านล้านบาท ทำหนี้สาธารณะทะลุ 10 ล้านล้านบาท ทำหนี้ครัวเรือนพุ่ง 14.6 ล้านล้านบาท ทำคนจนจาก 6 ล้านคนเป็น 18 ล้านคน ทำเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ 16 ปี ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส พาเหรดกันขึ้นราคา 8 ปีฝีมือได้แค่นี้ยากที่จะมีปาฏิหาริย์ชั่วข้ามคืน หากตั้งใจจะมาจัดการประชุมเอเปก จะเป็นการประชุมที่ล้มเหลวที่สุดครั้งหนึ่งเพราะตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top