Saturday, 18 May 2024
เพื่อไทย

'เพื่อไทย' ติดตามการบริหารจัดการ และการระบายน้ำ กทม. เตรียมชง กทม.จัดงบติดเซ็นเซอร์ที่ประตูระบายน้ำ-คลองทุกสาย เพื่อควบคุมระดับน้ำและระบายน้ำ

เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานครด้านการเมือง และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายวราวุธ ยันต์เจริญ ที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานคร นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทยทั้ง 20 คน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ร่วมวิเคราะห์และหารือสถานการณ์น้ำกับสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมตัว และหาทางรับมือจากสถานการณ์น้ำหากมีฝนตกต่อเนื่อง ร่วมกับนายวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และน.ส.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมีนายอาสา สุขขัง ผู้อำนวยการกองสารสนเทศระบายน้ำ เป็นผู้ให้ข้อมูล 

นายอาสา ได้เผยกราฟฟิคภาพปริมาณน้ำฝนและระบบตรวจวัดระดับน้ำในแต่ละพื้นที่เพื่อเฝ้าสังเกตปริมาณน้ำฝน และได้แจ้งถึงจุดที่ กทม. ได้ลิงค์สัญญาณจากกล้องวงจรปิดของสำนักการจราจร และขนส่งกรุงเทพมหานครในจุดที่เสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อมอนิเตอร์สถานการณ์น้ำท่วมตลอดเวลา นอกจากนี้ ทางสำนักฯยังระบุช่องทางการแจ้งขอความช่วยเหลือของประชาชนมายัง กทม. ไม่ว่าจะเป็นทางโอเพ่นแชทไลน์ "ฝนตก-น้ำท่วม บอกด้วย" ลิงค์ : 
https://line.me/ti/g2/kk0gLj9CMIhrNYYbCK11EZ_b2QyXZ2429q7BLg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default หรือการแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่นทราฟฟี่ฟองดูว์ โดยทางสำนักฯ มีเจ้าหน้าที่สแตนบายเพื่อรับข้อมูลที่ประชาชนแจ้งเข้ามาตลอด 24 ชั่วโมง

'เพื่อไทย' ติดตามการบริหารจัดการน้ำ กทม. ชงจัดงบติดเซ็นเซอร์ที่ประตูระบายน้ำ-คลองทุกสาย

วานนี้ 7 กันยายน ที่สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานครด้านการเมือง และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายวราวุธ ยันต์เจริญ ที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานคร นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทยทั้ง 20 คน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ร่วมวิเคราะห์และหารือสถานการณ์น้ำกับสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมตัว และหาทางรับมือจากสถานการณ์น้ำหากมีฝนตกต่อเนื่อง ร่วมกับนายวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และน.ส.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมีนายอาสา สุขขัง ผู้อำนวยการกองสารสนเทศระบายน้ำ เป็นผู้ให้ข้อมูล 

นายอาสา ได้เผยกราฟฟิกภาพปริมาณน้ำฝนและระบบตรวจวัดระดับน้ำในแต่ละพื้นที่เพื่อเฝ้าสังเกตปริมาณน้ำฝน และได้แจ้งถึงจุดที่ กทม. ได้ลิงก์สัญญาณจากกล้องวงจรปิดของสำนักการจราจร และขนส่งกรุงเทพมหานครในจุดที่เสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อมอนิเตอร์สถานการณ์น้ำท่วมตลอดเวลา 

นอกจากนี้ ทางสำนักฯ ยังระบุช่องทางการแจ้งขอความช่วยเหลือของประชาชนมายัง กทม. ไม่ว่าจะเป็นทางโอเพ่นแชทไลน์ 'ฝนตก-น้ำท่วม บอกด้วย' ลิงก์ : 
https://line.me/ti/g2/kk0gLj9CMIhrNYYbCK11EZ_b2QyXZ2429q7BLg และโทรสายด่วน 02-248-5115 หรือการแจ้งผ่านแอปพลิเคชันทราฟฟี่ฟองดูว์ โดยทางสำนักฯ มีเจ้าหน้าที่สแตนบายเพื่อรับข้อมูลที่ประชาชนแจ้งเข้ามาตลอด 24 ชั่วโมง

'เพื่อไทย' จี้ 'ประวิตร' เร่งช่วยเกษตรกรผู้ปลูกขิง ชี้!! ไม่มีผู้รับซื้อสินค้า วอนรัฐฯ อย่าทอดทิ้ง

นายวิกรม  เตชะธีราวัฒน์  ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย เขตพื้นที่ อ.แม่สรวย-อ.เวียงป่าเป้า ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรว่า เกษตรกรผู้ปลูกขิงเดือดร้อนหนักมากไร้พ่อค้ารับซื้อผลผลิตทางการเกษตร โดนเฉพาะขิงในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จากปีก่อนหน้านี้ราคาที่เคยขายได้ 20-30บาท ต่อกิโลกรัม ล่าสุดขิง 1 บาท ก็ไม่มีคนรับซื้อ ตกต่ำมากจนเกษตรกรนำขิง มาเททิ้งกลางถนนประชด เพราะรัฐบาลไม่เหลียวแล

นายวิกรม กล่าวด้วยว่า น่าประหลาดใจก่อนหน้านี้ ขิงถือว่าเป็นสินค้าส่งออกที่มีความต้องการสูงและมีราคาดี พ่อค้าจากต่างประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง ต่างมีความต้องการขิงของไทยมาก แต่จากการบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ไร้การวางแผนและต่อยอด ส่งผลให้ตลาดส่งออกขิงหายไป

'ชลน่าน' ประกาศแล้ว ศัตรูทางการเมืองของพรรค พรรคอ้างพี่น้อง 'เพื่อไทย' และพวกฝักใฝ่เผด็จการ

เมื่อ 10 ก.ย. 65 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปราศรัยในงาน 'สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ' ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ ช่วงหนึ่งว่าพรรคเพื่อไทย ครอบครัวเพื่อไทย ยกทัพมาเชียงใหม่ เพราะเชียงใหม่คือเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย เลือกเชียงใหม่ลั่นกลองสะบัดชัย เพื่อประกาศว่าพร้อมรบแล้ว แลนด์สไลด์ ทั้งแผ่นดิน ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้ถ้าเชียงใหม่ไม่ได้ทั้ง 11 เขต ขอทั้ง 11 เขต

เราต้องการสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้สมัครของพรรคทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ ที่ต้องให้ได้แลนด์สไลด์ 250 เสียงขึ้นไปเพื่อเอาหัวใจที่รักที่หวงแหนที่สุดกลับคืนมา แล้วเอาระบบประยุทธ์ ออกไป เอา ส.ว. 250 ที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ออกไป แล้วเอา 250 เสียงมาเลือกนายกฯ ของเราเอง เอาหนี้ออกไป เอาความเป็นอยู่กินดีกลับคืนมา ถ้าไม่แลนด์สไลด์สิ่งที่กล่าวมาจะไม่เกิดขึ้น เราต้องเอาชนะให้ได้ และถ้าได้ 250 เสียง

นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า สิ่งที่เราจะทำเรื่องแรกคือ ต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่พวกเราช่วยกันสร้าง ประชาธิปไตยที่สมดุลต้องมาจากรัฐธรรมนูญที่เราร่วมสร้าง เอาสิ่งที่พวกเรารักที่สุดกลับคืนมา ซึ่งหลายท่านอาจบอกอยู่ในใจ ซึ่งตนรู้ว่าคำพูดของพวกเราคืออะไร แต่สิ่งที่พูดบนเวทีนี้ สิ่งที่รักที่สุดคือประชาธิปไตย ใครคิดลึกขอให้คิดกันเอาเอง ดังนั้นเวลาเข้าคูหาขอให้กาทั้งคนทั้งพรรคเลือกชนะให้เด็ดขาด

เพื่อไทย สนับสนุนนวัตกรรมปลูกเชื้อเห็ดคืนป่า ร่วม ม.แม่โจ้และชาติพันธุ์แม่แจ่ม สร้างคนอยู่ร่วมป่า สร้างระบบนิเวศน์สมบูรณ์

นายธีระชัย เปรมชื่นพนาวัน ตัวแทนชาวบ้านตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มอบก้อนเชื้อเห็ดป่าให้พรรคเพื่อไทย ขอบคุณให้ความสำคัญใส่ใจ และเปิดนโยบายเกษตรในกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยมาเหนือสุด โดยเชื่อว่าความมุ่งมั่นตั้งใจใช้การเกษตรขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยแนวคิด ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ ประชาชนคนไทยทั่วทุกภาค-ทุกคน ก็จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน

นายธีระชัย กล่าวอีกว่า อำเภอแม่แจ่ม เป็นหมู่บ้านอยู่บนพื้นที่สูง อาศัยและทำกินอยู่กับป่ามานาน แต่อุปสรรคหลายอย่าง ยังทำให้เราประสบปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ทำกิน และข้อกล่าวหาทำลายป่าทำลายระบบนิเวศน์

วันนี้ เรานำเห็ดจำนวน 3,000 ก้อน ที่ได้ร่วมกับทีมงานเกษตรพรรคเพื่อไทย นำโดย คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง และศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเห็ดป่าและฐานเรียนรู้เห็ด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ใช้เทคโนโลยีองค์ความรู้ที่มีอยู่แล้ว รื้อฟื้นการผลิตก้อนเชื้อเห็ดโคน ซึ่งใช้เวลาเติบโตกว่าครึ่งปี วันนี้พร้อมใช้งาน เติมเป็นเชื้อเห็ดกลับคืนสู่ป่า สร้างอาหาร สร้างรายได้ให้คนทำกิน

'แรมโบ้' สวน 'ชลน่าน' อย่าเป็นหมอเดาเรื่องยุบสภาฯ รู้ทัน!! อยากเป็นรัฐบาลเพื่อจะได้ช่วย 'นายใหญ่-นายหญิง'

เมื่อวันที่ (12 ก.ย. 65) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฟันธงว่าหากรัฐบาลอยู่ต่อไม่ได้ประโยชน์ เชื่อยุบสภาหลังเอเปกเพราะสามารถจัดการ ส.ส.ในการย้ายพรรคได้นั้น ว่า หมอชลน่านไม่ควรออกมาเป็นหมอเดาว่าจะมีการยุบสภาในช่วงใด ซึ่งช่วงนี้หรือไปจนถึงครบเทอมถือเป็นช่วงที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ รวมไปถึง ส.ส.ที่เป็นผู้แทนของประชาชน 

ดังนั้นหมอชลน่าน ไม่ควรที่จะออกมาบอกว่าการที่นายกจะประกาศยุบสภานั้นเพราะมีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือเพราะว่าหากรัฐบาลอยู่ต่อก็ไม่ได้ประโยชน์ทางการเมืองอะไร แต่ขอให้มองว่าการที่รัฐบาลยิ่งอยู่ต่อครบเทอมกลับจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากขึ้น นายกฯ และรัฐบาล ไม่เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาปนกับเรื่องทางการเมืองเช่นเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย ที่ตลอดเวลาเรียกร้องแต่ให้นายกฯ ลาออก หรือเรียกร้องให้มีการยุบสภาอยากเลือกตั้งโดยเร็ว อยากเข้ามาเป็นรัฐบาลให้ได้ช่วยนายใหญ่-นายหญิง กลับบ้านให้เร็วที่สุด ซึ่งล่าสุดถึงขั้นเอาคนในตระกูลชินวัตรทุกคนมาช่วยหาเสียงแล้ว

‘เพื่อไทย’ โว!! ผลตอบรับ ‘เชียงใหม่’ ดีเกินคาด แซะ!! ‘ปชป.’ ทำความเข้าใจ ‘Soft Power’ ให้ดีก่อน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ จ.เชียงใหม่ ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ จังหวัดใกล้เคียงและทั่วประเทศเป็นอย่างมาก ทั้งการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบน ครบทั้ง 40 เขต และยังมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมครอบครัวเพื่อไทยอีกจำนวนมาก  

รวมทั้งการลงพื้นที่รับฟังปัญหา หารือ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกสาขาอาชีพ ตั้งแต่วันที่ 9-10 กันยายน 2565 นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย โดย ส.ส. สมาชิกพรรค คณะทำงานด้านนโยบาย จะนำข้อร้องเรียน ตลอดจนข้อเสนอแนะของพี่น้องประชาชน พัฒนามาเป็นนโยบายของพรรค เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนต่อไป

จากการเปิดตัวนโยบายแรก 2 นโยบาย ได้แก่ นโยบายด้านการเกษตร ภายใต้แนวคิด ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ แนวคิดเกษตรก้าวหน้าที่จะนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการทำการเกษตร เพื่อผลักดันให้ราคาสินค้าเกษตรของไทยขายได้ราคามากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ถูกทอดทิ้งเหมือนในปัจจุบัน 

รวมทั้งนโยบายที่ 2 คือ ‘1 ครอบครัว 1 Soft Power’ นโยบายที่จะสร้างเงินจากฝีมือของ 1 คนในครอบครัว เพราะพรรคเพื่อไทยมองเห็นโอกาสว่าค่าแรงของ Soft Power มีค่าแรงสูงกว่าค่าแรงอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงแนวคิดในการจัดตั้ง The Thai Creative Content Agency : THACCA หน่วยงานพัฒนาศักยภาพ Soft Power ที่ใช้งบประมาณของรัฐบาลในการดูแลและนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบหน่วยงานนี้ 

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัว 2 นโยบายดังกล่าว ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดีและรอคอยการประกาศนโยบายใหม่ๆ ที่ทีมนโยบายของพรรคดำเนินการพัฒนาอย่างรอบคอบ เพื่อเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากที่สุด หากชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ สิ่งที่เราคิดไว้ พร้อมทำทันที  

ส่วนกรณีที่คนในพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้นางสาวแพทองธาร ว่าลอกนโยบาย ทั้งในเรื่องของคำว่าเซลล์แมนขายสินค้าเกษตรในต่างประเทศ หรือ Soft Power โดยระบุว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทำมาตลอดนั้น บุคคลผู้นั้นอาจจะไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของคำว่า Soft Power เพราะคือ การนำวัฒนธรรม เอกลักษณ์ หรือจุดเด่นมาเป็นจุดขาย ร่วมกับการใช้ความสมัยใหม่และเป็นสากล สร้างรายได้ ขยายไปในตลาดโลกนำรายได้เข้าสู่ประเทศ 

ซึ่ง Soft Power ของเพื่อไทย คือ ต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ดำรงอยู่ในวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสังคมไทย มีความสร้างสรรค์ ความละเมียดที่ดำรงอยู่ที่แสดงออกผ่านการปรุงอาหาร การประดิษฐ์สร้างสรรค์ หัตถกรรม ไปจนถึงงานศิลปะทุกแขนง สามารถด้านกีฬา การเขียน software และความสามารถทาง e-sport ฯลฯ แต่หากมาดูผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันเกี่ยวกับ Soft Power ของกระทรวงพาณิชย์ที่นำโดยนายจุรินทร์นั้น ยังถูกตั้งคำถามเพราะที่ผ่านมาคนไทยที่มีฝีมือหรือองค์กรภาคเอกชน ก็ล้วนดิ้นรนหาทางเติบโตเองทั้งสิ้น  

นอกจากนี้ หากจะกล่าวถึงคำว่า ‘เซลล์แมน’ หรือ ‘ทูตการค้า’ นั้น บุคคลที่ริเริ่มใช้คำนี้ คือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่กระตุ้นให้ผู้แทนทางการทูตในต่างประเทศในขณะนั้น ร่วมมือกันขายภาพพจน์และภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ไปเจาะตลาด สร้างรายได้ในต่างประเทศ

‘ปลอดประสพ’ สะท้อน 6 ปัญหาทำน้ำท่วมทั่วไทย พร้อมเปิด 6 ทางออกแก้น้ำท่วมในกรุงเทพฯ

นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เป็นเพราะผู้ใหญ่ในบ้านเมืองละเลยในเรื่องหลักการสำคัญ 6 ข้อ 

1.) เรื่องน้ำเป็นงานในระดับยุทธศาสตร์ หากผู้บริหารบ้านเมืองควบคุมน้ำได้ จะเป็นผู้นำที่มีความสามารถ สามารถดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้ แต่ผู้บริหารยุคนี้ไม่คิดว่าเรื่องน้ำ เป็นงานในระดับยุทธศาสตร์ 

2.) ดำเนินยุทธวิธีที่ผิดพลาด ไม่มีความสามารถบริหารจัดการน้ำให้มี ‘ที่อยู่ที่ไป’ น้ำจึงท่วมหมด เช่น การควบคุมการเปิดปิดประตูระบายน้ำ บางแห่งไม่ควรปิด บางแห่งไม่ควรปิด

3.) การบริการจัดการน้ำตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ต้องทำทุกลุ่มน้ำ และต้องทำทุกจุด ทุกลุ่มน้ำ 

4.) การบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องในทางวิชาการหลายแขนงที่ต้องทำงานเชื่อมโยงกัน เช่น ความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยา อุทกวิทยา บริหารน้ำขึ้นน้ำลง ความรู้ด้านวิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม ความรู้ทุกแขนงต้องเชื่อมโยงกัน 

5.) หน่วยงานที่ทำงานเรื่องน้ำ ทั้งการบริหารจัดการน้ำ และป้องกัน ควบคุม และช่วยเหลือประชาชน มีถึง 26 หน่วยงาน  แต่การทำงานเป็นไปแบบต่างคนต่างทำ จึงไม่เคยเห็นนโยบายที่สอดคล้องกันในการแก้ไขปัญหาน้ำ 

6.) ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงลานีญา ที่ลมจากตะวันออก พัดมาทางภูมิภาคอินโดจีน ประกอบกับสภาวะโลกร้อน ทำให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูง ฝนตกปริมาณมาก แต่รัฐบาลนี้บริหารประเทศเสมือนอยู่ในภาวะปกติ แทนที่จะบริหารแบบ New Normal 

นอกจากนี้นายปลอดประสพ ยังระบุต่ออีกว่า การละเลยปัญหา 6 ข้อข้างต้น ทำให้เกิดความผิดพลาด 5 ข้อ ได้แก่ 

1.) แผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ได้จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำเป็นอย่างดีเยี่ยมโดยไม่ได้ใช้งบประมาณ และไม่ได้กระทำการที่สุ่มเสี่ยงต่อการขัดกับกฎหมาย นักวิชาการเข้ามาสนับสนุนแผนดังกล่าว แต่รัฐบาลไม่ทำต่อ กลับเอาเงินงบประมาณ 1 แสนล้านบาทนำไปใช้แบบไม่เกิดประโยชน์ 

2.) งบประมาณ 1 แสนล้านบาทดังกล่าว รัฐบาลหลังการรัฐประหารนำเงินส่วนนี้ไปใช้แบบไม่เกิดประโยชน์ โดยการให้หน่วยงานด้านทหารขุดลอกคลอง แต่สุดท้าย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติให้ยุติโครงการ เพราะเป็นการเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ เพราะขุดลอกคลองขึ้นมาในช่วงฝนตก ขุดคลองขึ้นมาแล้วไหลลงคลองเช่นเดิม เป็นการใช้เงินงบประมาณแบบละลายแม่น้ำ

3.) รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญเรื่องน้ำในระดับยุทธศาสตร์ ปล่อยปละละเลยให้มีการสร้างเขื่อนล้ำเข้ามาในลำน้ำ ซึ่งเป็นคลองหลัก เช่น คลองเปรมประชากร  คลองลาดพร้าว น้ำจึงไม่มีที่ไป 

4.) แต่ละหน่วยงานไม่มีการบูรณาการ ทั้งกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน เช่น มีโครงการยกถนนโดยไม่ได้วางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ เครื่องสูบน้ำ 10 เครื่อง ถูกรื้อถอนออกจากประตูระบายน้ำคลองรังสิต ไม่มีการบริหารจัดการน้ำออกไปลงคลองประเวศ เป็นต้น

5.) การบริหารงานไม่โปร่งใส และล่าช้า ในช่วงที่ตนเป็นรัฐบาลมีโครงการขุดแม่น้ำแห่งใหม่ เพื่อระบายน้ำจากบางไทร ไปบางบาล ระยะทาง 20 กม. รัฐบาลนี้นำไปดำเนินการ ซึ่งต้องขอขอบคุณ เพราะเป็นความคิดที่ถูกต้อง แต่เป็นการก่อสร้างที่มีมูลค่าสูงกว่า 3 เท่า ระยะเวลาก่อสร้างจากที่ตนเคยวางแผนไว้ 3 ปี รัฐบาลนี้วางไว้ถึง 7 ปี ซ้ำยังสร้างถนนประกบสองข้างทางแม่น้ำ ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างผิดหลัก กีดขวางทางน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำจากอยุธยา บางบาล ปากเกร็ด ไม่มีที่ไปและจะทำให้น้ำท่วมมากกว่าเดิม  

นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่อาจจะมีการเลือกตั้ง และหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ตนจะเสนอให้รื้อถนนที่สร้างรอบแม่น้ำดังกล่าวออก เพื่อเปิดทางน้ำ ความละเลยผิดพลาดสะท้อนถึงความไม่รู้เรื่องของการบริหารประเทศของรัฐบาลนี้ ในยามนี้ประชาชนเดือดร้อน พรรคเพื่อไทยพร้อมจะช่วยเหลือ อย่างน้อยคือข้อคิด ประสบการณ์ และบุคลากรเท่าที่เรามี พร้อมเสนอแนะ 6 วิธีการจัดการน้ำท่วมตามหลักวิชาการ ไปยังรัฐบาลและผู้ว่า กทม. เพื่อให้การแก้ไขน้ำท่วมทำได้ดีกว่าเดิม ดังนี้
 

'โทนี่' ลั่น!! 'อุ๊งอิ๊ง' จะเป็นนายกฯ ไม่ใช่ฟ้าลิขิต แต่ปชช.ต้องเป็นคนเลือก และต้องชนะใจแม่ให้ได้ก่อน

'ทักษิณ' ลั่นถ้า 'อิ๊งค์' จะเป็นนายกฯ ไม่ใช่ฟ้าลิขิต ประชาชนต้องเป็นคนเลือก แต่ 'อิ๊งค์' ต้องชนะใจแม่ให้ได้ก่อน แม่เขารักลูกมาก และอิ๊งค์ยังมีลูกเล็ก เขาคงไม่อยากให้เป็นเพราะการเมืองมันแรงมากคนเป็นแม่ก็คงคิดหนัก

(14 ก.ย. 65) - เพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกคดีโกง ในหัวข้อ นโยบายเกษตร-Soft Power ของเพื่อไทย ทำอย่างไรให้ปังเหมือนไทยรักไทย เมื่อวันอังคาร ที่ 13 กันยายน 2565 เวลา 20.00 น. โดยตอนหนึ่ง นายทักษิณ กล่าวถึงบุตรสาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่า

“...ถ้าอิ๊งค์จะเป็นนายกฯ ประชาชนต้องเป็นคนเลือก แต่ก่อนที่จะให้ประชาชนเลือก อิ๊งค์ต้องชนะใจแม่ก่อน...”

Q : การที่คุณอิ๊งค์จะเป็นนายกฯ ได้ ต้องรอฟ้าลิขิตจริงไหม ?

โทนี่ : ไม่ใช่หรอกครับ คนจะเป็นนายกฯ ไม่ใช่ว่าใครจะจับมาเป็นก็ได้ มันต้องแข่งขันทางการเมือง แล้วให้ประชาชนเลือก นี่คือระบบประชาธิปไตย ถ้าไม่ได้มาจากการเมือง ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่มาจากการทำรัฐประหาร อันนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย

'ทิพานัน' กางข้อกม. ถามหาจุดยืน 'เพื่อไทย' หลัง 'ทักษิณ' พูดจาชี้นำ - หาเสียงให้พรรค

'ทิพานัน' ถามหาจุดยืน 'เพื่อไทย' เอาให้ชัด ใช้นักโทษหนีคดีหาเสียงแลนด์สไลด์ เตือนเสี่ยงถึงยุบพรรค โทษหนัก ทำ 'ทักษิณ' อาจเสี่ยงคุกอีก 5 ปี พร้อมปลุกคนไทยไม่เอาตระกูลคอร์รัปชันบริหารประเทศ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวใน Clubhouse ชี้นำให้เลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ 2 สมัย และพูดถึงนโยบายค่าแรงต่าง ๆ ว่า นายทักษิณ ได้พยายามพูดจาสั่งการพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอดต่างกรรมต่างวาระ ล่าสุดทำเหมือนเป็นหัวคะแนน ช่วยหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทย จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าพรรคเพื่อไทย มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับการหาเสียงในครั้งนี้หรือไม่ 

เพราะถึงแม้ในหลายครั้งพรรคเพื่อไทยมักจะอ้างว่าเป็นสิทธิของนายทักษิณ และไม่สามารถห้ามให้นายทักษิณแสดงความเห็นชี้นำได้ แต่เท่าที่ติดตามสถานการณ์ที่ผ่านมา ไม่มีครั้งใดเลยที่กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะแสดงถึงการไม่สนองตอบ หรือแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าไม่ยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งของนายทักษิณ และในช่วงโค้งแรกการหาเสียงครั้งนี้ก็เช่นกัน 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ต้องเคารพกฎหมาย และต้องทำความเข้าใจว่า เป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงครอบงำ ชี้นำการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองขัดพ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 28 ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ 

ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม และมาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่า โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top